CatNovel
  • หน้าหลัก
  • แทงหวย24
  • มังงะ
  • นิยายทั้งหมด
Advanced
  • หน้าหลัก
  • แทงหวย24
  • มังงะ
  • นิยายทั้งหมด
  • โดจิน
  • นิยายทั้งหมด
  • จบแล้ว
  • นิยายวาย Yaoi
ตอนก่อน
ตอนต่อไป
สล็อตเว็บตรง

Half Line ข้ามเส้นนี้ไป ระวังตกหลุมรัก - ตอนที่ 91

  1. Home
  2. Half Line ข้ามเส้นนี้ไป ระวังตกหลุมรัก
  3. ตอนที่ 91
ตอนก่อน
ตอนต่อไป

“อย่ามัวมองแบบนั้นแล้วไปทักทายกันเถอะ ต้องปรับความเข้าใจกับพี่เขาตั้งแต่เริ่ม จากนี้ไปถึงจะราบรื่นใช่ไหมล่ะ”

“ไม่เอา”

“โอ๊ย ไม่เอาอะไรล่ะ อย่าทำตัวเป็นเด็กอนุบาลไปหน่อยเลย”

จองคยูตบหลังเขาดังแปะ แล้วสุดท้ายก็ลากมูคยอมซึ่งเกร็งขาไว้ให้เดินตามไป ในขณะที่มูคยอมเดินเข้ามาใกล้กลุ่มสตาฟแล้วทำใบหน้าแข็งทื่อ จองคยูก็เอ่ยปากทักทายขึ้นก่อน

“พี่! สวัสดีครับ”

แชฮุนกับฮาจุนกำลังง่วนอยู่กับการคุยกันอย่างออกรสออกชาติ ทั้งสองหันมามองอย่างพร้อมเพรียงกัน

“อ้อ จองคยู มาแล้วเหรอ”

“ครับ ทีมผมมีผมกับมูคยอมถูกเรียกตัวมาน่ะครับ”

จองคยูยกแขนพาดไหล่มูคยอมราวกับเร่งให้เขารีบทักทาย แชฮุนมองมูคยอมด้วยสายตาเย็นชา ส่วนมูคยอมก็แววตาแข็งกระด้างอย่างกับหิน

ด้านในเทรนนิ่งเซ็นเตอร์ซึ่งผู้คนกำลังกล่าวทักทายกันอย่างยินดี ความตึงเครียดที่มองไม่เห็นแฝงอยู่ระหว่างพวกเขาสองคนเท่านั้น จนทำให้บรรยากาศเย็นยะเยือกราวกับมีแผ่นน้ำแข็งบางๆ เกาะ มูคยอมเบนสายตาไปหาฮาจุนซึ่งยืนอยู่ด้านข้างโดยอัตโนมัติ

วินาทีที่ดวงตาสบมองกัน ไหล่ก็พลันคลายความเกร็งลง มูคยอมถอนหายใจราวกับยอมแพ้ในใจ จากนั้นก็ผงกหัวให้หนึ่งทีสั้นๆ

“ช่วงอยู่ทีมชาติก็ฝากตัวด้วยครับ”

กระทั่งจองคยูก็ยังตกใจ ความเงียบจึงปกคลุมอยู่ชั่วขณะ

คนที่สับสนกับการทักทายอันอ่อนน้อมของมูคยอมมากที่สุดดูเหมือนจะเป็นแชฮุน ผู้ซึ่งเป็นคนที่มูคยอมกล่าวทักทายมา แชฮุนได้แต่ทำตาโต โดยไม่สามารถตอบกลับเขาทันทีได้ จากนั้นจึงกระแอมไอแล้วส่งยิ้มให้

“ได้สิ ฉันก็ฝากตัวด้วย คราวนี้มาพยายามไปด้วยกันนะ”

“ครับ”

ไม่ว่าสาเหตุและที่มาจะเป็นอะไร แต่ความสัมพันธ์ที่บาดหมางกันไปแล้วครั้งหนึ่ง อีกทั้งการที่มูคยอมผู้ซึ่งเป็นฝ่ายทำตัวอวดดี กลับยอมอ่อนข้อให้ก่อน ก็เป็นเรื่องที่เสียศักดิ์ศรีอยู่เหมือนกัน

มูคยอมกำมือที่เอาไพล่หลังเอาไว้แน่น ไม่มีวิธีอื่นอีกแล้ว ตามที่จองคยูพูด บรรยากาศสงบสุขของทีมชาติไม่ได้เกิดจากการควบคุมคำวิพากษ์วิจารณ์เกี่ยวกับเขา สีหน้าของฮาจุนซึ่งสบตากันเมื่อครู่นี้ ทำให้มูคยอมยอมก้มหัวให้

‘ใช่เรื่องที่จะมองเขาด้วยใบหน้ากระวนกระวายถึงขนาดนั้นหรือไง

ทั้งที่เมื่อกี้ยังยิ้มหวานให้ไอ้คนนามสกุลยุนอยู่เลยแท้ๆ’

มูคยอมไม่ได้สงสัยในคำบอกเล่าที่ว่าไม่ได้เป็นอะไรกันอีกต่อไป ทว่ารอยยิ้มที่ฮาจุนมักจะแสดงออกมาให้เห็นอยู่เสมอเพียงแค่ยืนอยู่ต่อหน้ายุนเชฮุน ทำให้เขาไม่ชอบใจเอาเสียเลย โดยที่ไม่ได้เกี่ยวข้องอะไรกับคำบอกเล่านั้น ถ้าไม่ใช่เพราะสีหน้าแบบนั้น เขาอาจจะไม่สงสัยในความสัมพันธ์ของทั้งสองคนตั้งแต่แรกแล้วก็ได้ รอยยิ้มที่ดูผ่อนคลายและบ่งบอกว่ากำลังพึ่งพิงและเชื่อมั่นฝ่ายนั้นอยู่จริงๆ

ในทางกลับกัน นั่นเป็นสีหน้าที่ไม่เคยแสดงให้เห็นต่อหน้าเขาซึ่งบอกว่าชอบเลยสักครั้ง ช่วงแรกๆ แค่ยืนอยู่หน้าเขาก็มักจะทำหน้าแข็งทื่อเป็นประจำ พอมาช่วงหลังๆ ถึงแม้จะยิ้มให้เขาอยู่บ่อยครั้ง แต่มูคยอมก็ไม่เคยรู้สึกได้ถึงความสบายใจแบบนั้น จากรอยยิ้มที่ฮาจุนมอบให้เขาเลยแม้แต่ครั้งเดียว มูคยอมรู้สึกสมจริงขึ้นมาว่าหนทางยังอีกยาวไกล

ถึงแม้ว่าจะยังทำให้อีกฝ่ายยิ้มไม่ได้ แต่ก็ไม่อยากทำตัวตามนิสัยให้ฮาจุนกังวลใจไปมากกว่านี้ ถ้าฮาจุนก็ได้เป็นสมาชิกคนหนึ่งในทีมชาติครั้งนี้ เขาก็อยากจะนำพาทีมไปจนถึงปีหน้าให้ได้อย่างไร้ปัญหาใดๆ และอยากทำให้มีผลลัพธ์ที่ต่างกันออกมาจากเวิลด์คัพครั้งที่แล้วด้วย แชฮุนกวักมือพร้อมกับพูดขึ้น

“ดูเหมือนตอนนี้พวกนักกีฬาจะรวมตัวกันแล้วนะ รีบไปเถอะ”

“ครับ”

มูคยอมสบตากับฮาจุนอีกครั้ง จากนั้นก็หมุนตัวก้าวเดินไปอย่างเฉื่อยชาพร้อมกับทอดสายตามองที่ไหนสักที่กลางอากาศ มูคยอมเข้าแถวรวมกับนักกีฬาคนอื่นๆ ข้างหน้าผู้จัดการทีม เขาตระหนักได้ถึงความเป็นไปได้เรื่องใหม่ซึ่งทำพลาดมาจนถึงตอนนี้ จากนั้นก็จดจ่ออยู่กับความคิดของตัวเอง

เขาไม่สงสัยในความสัมพันธ์ของทั้งสองคนอีกต่อไปแล้ว แต่แชฮุ ผู้ซึ่งครั้งหนึ่ง เขาเคยมองว่าเป็นผู้ชายนอกรีตน่ารังเกียจและมาคบชู้กับฮาจุน การมีอยู่ของคนคนนั้นทำให้ความสงสัยในใจของมูคยอมแยกย่อยออกไปอีก

ก่อนที่ความสัมพันธ์จะบิดเบี้ยวแบบในตอนนี้ ถ้าหากเป็นเรื่องเซ็กส์ ฮาจุนก็ไม่เคยบอกว่าไม่ชอบอะไรขนาดนั้น ฮาจุนไม่เคยปฏิเสธ อีกทั้งยังความรู้สึกไวและมีปฏิกิริยาตอบสนองอย่างรวดเร็วจนเขารู้สึกประทับใจไปเสียทุกครั้งด้วยซ้ำ ไม่ใช่ว่าเขากำลังฝืนใจ บอกกับคนที่ชอบถูกกอดถึงขนาดนั้นว่าจะไม่มีเซ็กส์ เพราะความเชื่อมั่นในตัวเองของเขาคนเดียวหรือเปล่านะ

แน่นอนว่าฮาจุนไม่เคยปฏิเสธความสัมพันธ์ทางกาย ส่วนมูคยอมกลับอดกลั้นไปเพียงคนเดียวทั้งที่ไม่มีใครสั่ง

‘หรือว่าฉันกำลังขอให้อีฮาจุนข่มใจตามอำเภอใจตัวเองงั้นเหรอ

ถ้าทำแบบนั้นแล้วอีฮาจุนรู้สึกไม่พอใจเพราะความต้องการ ฉันจะทำยังไงดีล่ะ’

พวกเขาไม่ได้คบหากัน อีกทั้งยังไม่ได้มีความสัมพันธ์แบบคู่นอนที่สัญญาว่าจะมีแค่กันและกันเหมือนเมื่อก่อนอีกแล้ว ถึงแม้ว่าฮาจุนจะไปคบคนอื่นหรือนอนกับคนอื่นตามความพอใจ เขาก็ว่าอะไรไม่ได้ ยิ่งในเวลาแบบในช่วงนี้ก็ยิ่งว่าไม่ได้เข้าไปอีก

ถึงแม้ว่าจะไม่ใช่ผู้ชายมีครอบครัวแล้วแบบยุนแชฮุน แต่ผู้ชายบนโลกนี้ก็มีมากมาย และไม่ว่าจะเป็นผู้ชายคนไหน เพียงแค่ฮาจุนตัดสินใจ การที่ทุกอย่างจะพังทลายลงก็ไม่ใช่เรื่องยากเลยแม้แต่น้อย ฮาจุนบอกว่ายังคงมีใจให้เขาก็จริง แต่เพราะสถานการณ์กลายเป็นแบบนี้ เขาจึงไม่รู้สึกว่าคำพูดนั้นหมายความว่าฮาจุนจะปิดกั้นความเป็นไปได้กับผู้ชายคนอื่นที่ไม่ใช่มูคยอมเลย

มีแค่เรื่องนั้นที่เขาไม่ชอบใจ!

มูคยอมนึกจุดอ่อนที่ไม่เคยคิดมาก่อนขึ้นมาได้ทีหลัง เขาขมวดคิ้วแล้วมองฮาจุน ฝ่ายนั้นกำลังยืนอยู่ข้างใครสักคนซึ่งมูคยอมไม่คุ้นหน้าแล้วพูดคุยอะไรบางอย่างกันอยู่ ไม่ว่าจะไปที่ไหน ก็หลบหลีกการจู่โจมของแบคทีเรียไม่ได้ ทว่า ในระหว่างที่เขาชายตามองไปยังจุดอื่นได้ไม่นาน การฝึกพื้นฐานก็เริ่มต้นขึ้น

* * *

การฝึกซ้อมสำหรับผู้ถูกเรียกตัวครั้งแรก ไม่ได้ใช้เวลานานสักเท่าไรนัก ถึงอย่างนั้น คงเพราะพวกนักกีฬาจากทีมอื่นๆ แต่ละทีม ร่วมใจกันวิ่งอย่างพร้อมเพรียงอยู่ในจุดเดียวกัน ในตอนที่การฝึกซ้อมจบลง นักกีฬาทั้งหลายจึงพากันหมดเรี่ยวแรงราวกับขยับตัวมากกว่าปกติหลายเท่า สมาชิกทีมซิตี้โซลก็ออกมาจากเทรนนิ่งเซ็นเตอร์โดยปะปนไปกลับพวกคนที่เลิกงานกลับบ้านเป็นกลุ่มๆ มูคยอมเดินข้างจองคยู ส่วนฮาจุนก็เดินข้างแชฮุน แชฮุนพูดขึ้น

“ถ้าจะนั่งบัสไปจากตรงนี้ก็น่าจะอีกพักใหญ่เลยนะ ฮาจุน เดี๋ยวพี่ไปส่ง”

“ขอบคุณครับ พี่”

“สนามฝึกอยู่ตั้งพาจูฮาจุนคงจะไปๆมาๆลำบากน่าดูเลยล่ะสิ ช่วงที่มาที่นี่ก็มาด้วยกันกับพี่เอาไหม”

“จริงเหรอครับ”

เป็นเรื่องน่ายินดี แต่ถึงอย่างนั้นจะเป็นการรบกวนมากไปหรือเปล่านะ ขณะที่ครุ่นคิดกับคำตอบโทรศัพท์มือถือในกระเป๋าก็ดังขึ้น ฮาจุนมองเห็นข้อความที่เด้งขึ้นบนหน้าจอทันทีที่เอาโทรศัพท์มือถือออกมา

‘นั่งรถฉันไปเถอะ ฉันจะรออยู่ที่ลานจอดรถ’

เป็นข้อความสั้นๆ ข้อความหนึ่งที่มูคยอมส่งมา ฮาจุนก้มลงมองมันอยู่ครู่หนึ่งแล้วเก็บโทรศัพท์มือถือลงกระเป๋าโดยไม่ได้ตอบอะไรกลับไป

“พี่ครับ คิดดูแล้ว ดูเหมือนว่าผมจะต้องกลับไปที่สนามฝึกโซลอีกครั้ง เดี๋ยวผมนั่งรถคนในทีมไปครับ”

“งั้นเหรอ เข้าใจแล้ว พรุ่งนี้ไว้เจอกัน พักผ่อนให้เต็มที่ด้วยนะ”

“ครับ กลับดีๆ นะครับ”

ฮาจุนส่งแชฮุนไปก่อนแล้วจับตามองดูรถของผู้คนขับออกไปทีละคันสองคนเพลินๆ หลังจากนั้นพักหนึ่ง ในตอนที่ด้านนอกเซ็นเตอร์ รวมถึงล็อบบี้ด้านในบรรยากาศเงียบสงบลงแล้ว ฮาจุนซึ่งยืนอยู่ราวกับรอใครสักคนที่จะเอาร่มมาให้ตรงด้านหน้าทางเข้าตึกในวันฝนตก จึงก้าวขามุ่งหน้าไปยังลานจอดรถ

รถที่ผู้คนขับมาหายไปจนเกือบหมด จึงทำให้ลานจอดรถว่างเปล่าอย่างที่คิด แต่เหลือไว้เพียงรถหรูคันหนึ่งซึ่งมองปราดเดียวก็ดูแพงที่ยังไม่จากไปไหน

‘…ก่อเรื่องแบบนั้นไป ทนแค่วันนี้วันเดียวได้ก็ถือว่านานแล้วสินะ’

ฮาจุนคิดแบบนั้นอย่างเยือกเย็นเล็กน้อยพร้อมกับเดินเข้าไปหา จากนั้นก็เปิดประตูรถฝั่งข้างคนขับ ชายหนุ่มผู้ซึ่งกำลังนั่งเล่นโทรศัพท์มือถือตรงเบาะคนขับ หันมามองฮาจุนแล้วแย้มยิ้ม

มูคยอมน่าจะรออยู่พักใหญ่ แต่กลับไม่บ่นออกมาเลยสักคำเดียว ว่าทำไมไม่ตอบข้อความ หรือทำไมถึงช้าแบบนี้ ไม่รู้ว่าคิดจะเอาใจใส่เขาหรือเปล่า แต่ท่าทีที่โน้มเอียงไปทางใจดีอย่างไม่มีปี่ขลุ่ยนี้ ก็ทำให้ฮาจุนได้แต่รู้สึกประหม่าเท่านั้น

เส้นผมปรกลงมาบนหน้าผากของมูคยอมที่อาบน้ำเสร็จแล้ว เมื่อค่อยๆ จับจ้องสายตาไปตรงหน้าผากอีกฝ่ายโดยไม่รู้ตัว มูคยอมจึงส่องดูใบหน้าของตัวเองในกระจกตามสายตาของฮาจุนแล้วยิ้มออกมาอีกครั้ง

“อ๋อ วันนี้รู้แล้วเหรอว่าเปลี่ยนไปตรงไหน”

ฮาจุนหันไปมองด้านหน้าอย่างกับถูกไฟลนโดยไม่ได้ตอบอะไร มูคยอมไม่ได้คะยั้นคะยอให้ตอบแล้วถามเรื่องอื่นขึ้นพร้อมกับออกรถ

“ไปไหนกันดี ต่อจากนี้มีอะไรต้องทำอีกไหม”

“ไม่มี”

“วันนี้ตารางงานเสร็จหมดแล้วเหรอ”

“อื้อ”

ฮาจุนมองวิวถนนแล้วครุ่นคิดเรื่องออกไปทำงานวันพรุ่งนี้อย่างเหม่อลอย ระยะทางจากเทรนนิ่งเซ็นเตอร์ที่อยู่รอบนอกจังหวัดคยองกี จนถึงในตัวเมืองโซล ใช้เวลาค่อนข้างนาน ฮาจุนดีใจที่ได้มาเป็นโค้ชทีมชาติ แต่มันก็ทำให้เขาเดินทางไปทำงานลำบากนิดหน่อยในช่วงไม่กี่วันนั้น

“กินข้าวเย็นด้วยกันสักหน่อยไหม”

“…ไม่ล่ะ มื้อเย็นฉันว่าจะกินกับครอบครัว”

“ถ้างั้นนายเปิดช่องเก็บของฝั่งนั้นดูหน่อยได้ไหม เอาของสักอย่างออกมาให้ฉันหน่อย”

แสงอาทิตย์ก็หม่นลงไปมากแต่ยังกะจะสวมแว่นกันแดดอยู่อีกหรือไงกัน ฮาจุนนึกสงสัยแต่ก็เปิดช่องเก็บของฝั่งข้างคนขับอย่างว่าง่าย ด้านในมีกล่องอะไรบางอย่างเล็กๆ ถูกใส่ไว้ โดยไม่มีของจิปาถะอื่นๆ เลย

ฮาจุนเอามันออกมาแล้วยื่นให้มูคยอม

“นี่เหรอ”

“เปิดกล่องออกด้วย”

คราวนี้ฮาจุนเปิดฝาออกตามคำสั่ง มันเป็นกล่องที่ดูหรูหราเป็นอย่างมาก ซึ่งทำออกมาให้สามารถเปิดปิดได้โดยที่ชิ้นส่วนด้านบนกับด้านล่างยังติดกัน ไม่ได้เป็นแบบที่แยกออก ฮาจุนเปิดฝาแล้วชะงักการเคลื่อนไหวอยู่อย่างนั้น เขาเพียงแค่ก้มลงมองของด้านในแล้วถามขึ้นกับมูคยอม

“นายจำเป็นต้องใช้เจ้านี่ตอนนี้เหรอ”

สิ่งที่อยู่ในกล่องคือนาฬิกาข้อมือที่มองแวบเดียวก็รู้ว่าราคาแพง หัวเข็มขัดนาฬิกากับกรอบหน้าปัดเคลือบทองประกายสีชมพูอ่อนบนสายหนังสีน้ำตาลเข้ม เข็มสั้น เข็มยาว รวมถึงเข็มวินาที ทำด้วยโลหะสีเดียวกันกับกรอบหน้าปัด และหน้าปัดก็ถูกตกแต่งด้วยวัสดุชนิดเดียวกัน

ชื่อยี่ห้อที่สลักไว้เล็กๆ ตรงกลางด้านบนหน้าปัด กระทั่งฮาจุนผู้ไม่ค่อยรู้อะไรเกี่ยวกับสินค้าแบรนด์เนมก็ยังพอรู้จักอยู่บ้าง เขาไม่รู้ราคาที่แน่ชัด แต่ก็รู้ผ่านคำบอกเล่าของคนอื่นว่านาฬิกาแบบนี้ราคาเท่าๆ กันกับรถคันหนึ่งเลยทีเดียว

มูคยอมสวมนาฬิกาไว้บนข้อมือข้างหนึ่งอยู่แล้ว ถ้าไม่ได้จะสวมนาฬิกาบนข้อมือทั้งสองข้างเป็นพรวนเพื่ออวดรวย ของชิ้นนี้ก็น่าจะไม่จำเป็น

“ดูเหมือนว่าจะไม่ค่อยมีโอกาสจะได้คุยกันแค่สองคนไปอีกสักระยะ ฉันก็ต้องทำคะแนนให้ได้มากที่สุดสิ ลองใส่ดู ว่าชอบไหมหรือยังไง นายน่าจะชอบสายหนังมากกว่าโลหะทั้งเส้น ฉันเลยเลือกเป็นแบบนั้น”

ฮาจุนเพิ่งจะรับรู้ได้ในตอนนี้ว่าเข้าของนาฬิกาเรือนนั้นคือใคร เขาขมวดคิ้วเล็กน้อยพลางปิดกล่องกลับเช่นเดิม

“ไม่จำเป็นหรอก”

“ทำไม นายก็ใช้นาฬิกานี่”

“ของฉันใช้สำหรับจับเวลาตอนฝึก นาฬิกาแพงๆ แบบนี้ไม่จำเป็นหรอก ได้แต่รุงรังเท่านั้นแหละ”

ฮาจุนเปิดช่องเก็บของแล้วเอากล่องใส่กลับเข้าไปในนั้นอีกครั้ง มูคยอมยักไหล่ทั้งที่ยังจับพวงมาลัย

“ถ้างั้นไปชอปปิงกันดีไหม จะของที่จำเป็นหรือของที่อยากได้ จะอะไรก็ซื้อเลย”

“ไม่ล่ะ ของที่จำเป็นก็ไม่มี ของที่อยากได้ก็ไม่มี”

“…ถ้างั้น ของขวัญครอบครัวนายล่ะเป็นไง ถ้าให้ของขวัญคุณแม่กับน้องๆ ก็น่าจะดีใจกันนะ”

“ไม่มีใครรับของขวัญโดยไม่มีเหตุผลหรอกนะ”

“ทำไมจะไม่มีเหตุผล คราวที่แล้วฉันติดหนี้ที่ไปค้างหนึ่งคืนไง จะให้ของขวัญตอบแทนเรื่องนั้น”

ฮาจุนถอนหายใจราวกับเหนื่อย เมื่อบรรยากาศเยือกเย็นขึ้น มูคยอมจึงปิดปากเงียบแล้วเหลือบตามมองท่าทีของฮาจุน เสียงของฮาจุนผู้ซึ่งทอดสายตามองไปยังด้านหน้าโดยไม่ได้พูดอะไรครู่หนึ่ง กดต่ำลงเล็กน้อย

“ก่อนหน้านี้นายเคยซื้อเสื้อให้ แล้วบอกว่าเราเป็นคู่นอนกัน เพราะฉะนั้นจะรับไว้ก็ได้ใช่ไหม”

“…”

“ตอนนี้เราไม่ได้เป็นอะไรกันสักหน่อย ฉันก็ไม่มีเหตุผลให้รับของแบบนี้นี่”

“อีฮาจุน เรื่องนั้นเป็นเพราะนายดึงดันถามหาเหตุผลต่างหาก”

“ทำไมนายทำตัวอ้อมไปอ้อมมาอย่างไม่สมกับเป็นนายแบบนี้ ถ้าอยากก็บอกว่าอยากสิ ฉันบอกแล้วไม่ใช่เหรอว่าถ้านายต้องการก็จะทำ อย่าคิดจะรับผิดชอบอะไรแปลกๆ ไปคนเดียวแล้วทำตามที่นายต้องการเถอะ”

“ฉันไม่ได้ทำแบบนี้เพราะอยากสักหน่อย”

ฮาจุนไม่ตอบ มูคยอมเองก็พูดอะไรต่อไม่ได้แล้วเพียงแค่ถอนหายใจออกมาเท่านั้น รถยนต์เคลื่อนตัวไปโดยไม่มีเสียงพูดอะไรชั่วขณะหนึ่ง จากนั้นมูคยอมก็พูดต่อจากบทสนทนาที่คิดว่าจะจบลงแบบนี้เลยเหรอ

“ฉันบอกไปแล้ว ว่าตอนนี้ฉันอยากเป็นแฟนกับนาย แต่นายบอกว่าไม่เอาก็เลยอยากให้ของขวัญแล้วทำตัวดีๆ ให้เห็น ไม่ได้มีจุดประสงค์อื่น”

“…”

“ตอนนั้นก็ให้เพราะอยากให้ ไม่ได้ให้เพราะเป็นคู่นอนกันหรือให้เป็นค่าร่างกายนายเลย”

ฮาจุนนิ่งเงียบไม่ตอบกลับแล้วมองช่องเก็บของด้านหน้าที่นั่งข้างคนขับซึ่งถูกปิดไว้อย่างมิดชิด ในขณะเดียวกัน มูคยอมก็พึมพำเบาๆ ในใจ ‘ยังไงก็แพงกว่าร้อยล้านวอนอีกนะ แต่ไม่แม้แต่จะลองใส่สักครั้งแล้วเก็บกลับไปเฉย ดึงดูดด้วยรูปลักษณ์ภายนอกก็ล้มเหลว ถัดมาเป็นดึงดูดด้วยความรวยก็ล้มเหลวอีก’

คิดดูแล้ว เหมือนว่าตอนนั้นเขาจะบ่นกระปอดกระแปดว่าเสื้อราคาแพงสุดๆ แล้วพูดลอยๆ ว่าเป็นคู่นอนกัน ของแค่นี้รับไปไม่ได้หรือไง ตัวเขายังจำคำพูดตัวเองแบบละเอียดไม่ได้ แต่ฮาจุนดูเหมือนจดจำเอาไว้ทุกอย่าง หัวใจของมูคยอมรู้สึกหนักอึ้งราวกับพวกลักเล็กขโมยน้อยที่จะถูกเปิดโปงว่าขโมยอะไรไปบ้าง

อีฮาจุนตัดข่าวเล็กๆ น้อยๆ ของเขามาเก็บรวมรวมไว้ทีละชิ้น และจดบันทึกเรื่องการฝึกเล็กๆ น้อยๆ ของเขาครบทุกอย่าง คำที่พล่ามออกไปโดยไม่คิดก็คงถูกรวบรวมและบันทึกไว้พอสมควรเหมือนกัน ไม่มีเรื่องอื่นให้พูดแล้วหรือไงนะ พอคิดแบบนั้น มูคยอมก็หนักใจกระทั่งกับการจะพูดคำสักคำออกมา

ในขณะที่ทั้งคู่ไม่ได้พูดอะไร มูคยอมก็เปิดเพลงขึ้นกลางคันเพราะอึดอัดกับบรรยากาศกดดันนี้ ปกติเวลานั่งรถกับฮาจุนเพียงสองคน เขาไม่ฟังวิทยุหรือเพลงเลยสักอย่าง เพราะเขาไม่เคยรู้สึกอึดอัดกับความเงียบในขณะที่อยู่กับอีฮาจุน และชอบที่จะฟังเสียงของฮาจุนซึ่งชวนเขาคุยหรือไม่ก็ตอบคำถามเขาเป็นระยะมากกว่า

ข้อดีที่พอจะภาคภูมิใจได้มากที่สุดก็มีเพียงสองอย่างคือรูปลักษณ์ภายนอกกับความร่ำรวย ถ้าหากยังไม่ยอมรับทั้งสองอย่างนั้น แล้วเขาต้องยั่วยวนยังไงกันแน่ ถึงจะกลับเข้าไปครอบครองหัวใจของฮาจุนอีกครั้งได้ มีเพียงความเลือนรางราวกับสายตาถูกบดบังด้วยยากำจัดแมลงที่ฉีดออกมาจากรถพ่นในฤดูร้อนเท่านั้น

บรรยากาศน่าอึดอัด ถึงอย่างนั้นก็ยังต้องการให้ถนนยืดยาวออกไปเรื่อยๆ แต่ในระหว่างที่รถแล่นไปโดยไร้ซึ่งเสียงพูดใดๆ สุดท้ายก็มาถึงตรงหน้าย่านอะพาร์ตเมนต์ของการเคหะ

ถ้าหากทำประตูไม่ได้ในตอนนี้ก็ต้องป้องกันไม่ให้เสียแต้มในเรื่องนี้ อย่างน้อยถ้าไปทำงานและเลิกงานพร้อมกันด้วยรถของเขา ก็น่าจะป้องกันไม่ให้พวกผู้ชายคนอื่นทำตาลุกวาวใส่อีฮาจุนได้ เทรนนิ่งเซ็นเตอร์ของทีมชาติไกลจากตัวเมืองโซลไม่น้อย เพราะฉะนั้นย่อมต้องมีพวกคนที่จะขับรถรับส่งฮาจุน แน่นอนว่าเขาไม่อยากให้ฮาจุนนั่งรถไอ้คนนามสกุลยุน รวมถึงรถของใครหน้าไหนก็ตาม

“พรุ่งนี้เช้าฉันก็จะมาที่นี่นะ ช่วงที่ต้องทำงานที่เซ็นเตอร์ก็ไปรถกันเดียวกันเถอะ ฉันจะไม่ทำอะไรให้นายอารมณ์ไม่ดีเหมือนเมื่อกี้อีก”

ฮาจุนไม่ได้ตอบในทันที แล้วทำสีหน้าสงสัยมองมูคยอมพลางพูดขึ้น

“คิมมูคยอม ฉันน่ะ ไม่คิดจะคบนายเป็นแฟนหรอกนะ”

“นายไม่ต้องยืนกรานหลายครั้ง ฉันก็เข้าใจแล้ว”

“ถึงอย่างนั้น เหตุผลที่ฉันบอกว่าจะมีเซ็กส์กับนาย ก็เพราะนายทำตัววุ่นวายสุดๆ บอกว่าถ้าไม่ได้มีเซ็กส์กับฉัน สภาพร่างกายก็จะย่ำแย่ลงด้วย”

“ใช่ เรื่องนั้นฉันก็รู้”

ฮาจุนจ้องมูคยอมเขม็ง จากนั้นก็หันไปมองด้านหน้าแล้วเสยผมขึ้น

ตอนก่อน
ตอนต่อไป

ความคิดเห็นทั้งหมดของ "ตอนที่ 91"

ใส่ความเห็น ยกเลิกการตอบ

อีเมลของคุณจะไม่แสดงให้คนอื่นเห็น ช่องข้อมูลจำเป็นถูกทำเครื่องหมาย *

*

*

  • อ่านนิยาย
  • แทงหวย24

© 2020 cat-novel.com
เว็บอ่านนิยาย นิยาย pdf เว็บ “cat-novel.com” เว็บอ่านนิยายสนุกๆ เพลิดเพลินไปกับนิยายต่างๆ ไม่ว่าจะเป็น นิยายวาย, นิยายจีน, นิยายรัก, แฟนตาซี, กำลังภายใน, ผจญภัย สุดยอดวิชากำลังภายใน อัพเดททุกวัน พร้อมรองรับการอ่านบนมือถือ คอมพิวเตอร์ ไอแพด หรือแท็บเล็ต อ่านได้ตลอดเวลา ไม่มีโฆษณา อ่านนิยายฟรีต้อง เว็บ ”cat-novel.com”
นิยาย อ่านนิยาย นิยาย pdf นิยายวาย อ่านนิยายฟรี นิยายออนไลน์