CatNovel
  • หน้าหลัก
  • แทงหวย24
  • มังงะ
  • นิยายทั้งหมด
Advanced
  • หน้าหลัก
  • แทงหวย24
  • มังงะ
  • นิยายทั้งหมด
  • โดจิน
  • นิยายทั้งหมด
  • จบแล้ว
  • นิยายวาย Yaoi
ตอนก่อน
ตอนต่อไป
สล็อตเว็บตรง

Half Line ข้ามเส้นนี้ไป ระวังตกหลุมรัก - ตอนที่ 105

  1. Home
  2. Half Line ข้ามเส้นนี้ไป ระวังตกหลุมรัก
  3. ตอนที่ 105
ตอนก่อน
ตอนต่อไป

มูคยอมที่ได้รับคะแนนหัวเราะราวกับเด็กหนุ่ม และบุกเข้าใส่อีกครั้ง เพราะเมื่อครู่พวกเขาทำไปเพียงแค่รอบเดียว ทันใดนั้นฮาจุนที่นอนรับน้ำหนักตัวของอีกฝ่ายก็นึกขึ้นได้ จึงเอ่ยขึ้นว่า

“ทำในห้องนายไม่ได้เหรอ”

“ห้องฉันเหรอ”

“ไม่ทำตรงนี้นะ ไปทำที่ห้องนอนนายกัน ฉันยังไม่เคยลองเข้าไปเลยสักครั้ง”

“มันไม่ค่อยมีอะไรนะ อยู่ชั้นสอง ไม่จำเป็นต้องขึ้นไปหรอก”

อย่างไรก็ตาม มูคยอมก็พยักหน้าและไม่ห้ามปรามอีกต่อไป จากนั้นก็พยุงตัวขึ้นมาก่อน และอุ้มฮาจุนที่ยังนอนอยู่บนเตียงทันที ฮาจุนรู้สึกตกใจจึงเอาแขนโอบรอบคออีกฝ่ายไว้

“ปล่อยเลยนะ! เมื่อกี้ก็ด้วย ข้อเท้านาย!”

“มันดีขึ้นแล้ว”

จนถึงเมื่อวานนี้อีกฝ่ายยังลุกไม่ได้และขอให้เขาจับมือ แต่ตอนนี้กลับเปลี่ยนท่าทีรวดเร็วราวสายฟ้าฟาด มูคยอมอุ้มฮาจุนราวกับว่าไม่มีอะไรเกิดขึ้น และเดินขึ้นบันไดของบ้านที่มีเพดานสูงและเปิดประตูหนึ่งบานในโถงทางเดิน

ห้องสไตล์โมเดิร์นและเรียบง่ายที่มีขนาดใหญ่กว่าห้องของฮาจุนประกอบไปด้วยชั้นวางของ โซฟาขนาดเล็ก แล็ปท็อปบนโต๊ะทำงาน แล้วก็มีโทรทัศน์ขนาดใหญ่พอที่จะเอาไว้ในห้องนั่งเล่นได้ ในทำนองเดียวกัน ห้องที่ทันสมัยและเรียบง่ายที่ไม่มีการตกแต่งขนาดใหญ่นี้ก็ดึงดูดสายตาของฮาจุนเอาไว้

มูคยอมยิ้มแล้ววางเขาลงบนเตียง

“ไม่ค่อยมีอะไรเลยใช่ไหมล่ะ บ้านหลังนี้ฉันเอาไว้อยู่แค่ชั่วคราวเลยไม่ได้ตกแต่งดีๆ”

หลังจากนั่งเงียบๆ ฮาจุนก็แย้มรอยยิ้มอย่างสดใสขณะที่ฝากฝังใบหน้าของตนเองไว้ที่หมอนบนเตียง เมื่อเห็นเช่นนั้น รอยยิ้มกว้างก็ปรากฏขึ้นบนใบหน้าของมูคยอม

“ฉันไม่ได้มาชมห้องสักหน่อย มันดีเพราะเป็นที่ที่นายใช้นอนทุกวันต่างหาก อยากถ่ายรูปแล้วเอามาตัดแปะไว้จัง”

“อยากถ่ายก็ถ่ายสิ นายเป็นคนแรกที่เดินเข้าห้องนอนพร้อมกันกับฉันเหมือนกัน”

“งั้นเหรอ”

ดวงตาของฮาจุนเปล่งประกาย มูคยอมมองไปที่ฮาจุนราวกับว่าเขาน่ารัก

“ทำไม ชอบใจเหรอที่ได้เป็นคนแรก”

“แน่นอนอยู่แล้ว ไม่ว่ายังไงการได้เป็นคนแรกมันก็พิเศษกว่านี่นา”

มูคยอมนั่งลงบนเตียงแล้วเอนตัวลง พวกเขาสบตากันอีกครั้ง มูคยอมจึงกระแอมขึ้นมาเอ่ยด้วยน้ำเสียงที่ดูจริงใจเล็กน้อย

“อีฮาจุน ฉันจะไม่มีทางเป็นแบบนั้นเป็นอันขาด ฉันจะไม่เป็นแบบไอ้คนนั้น ฉันสัญญา”

“อืม… ก่อนอื่นเลย ฉันเป็นคนประเภทที่ค่อนข้างใช้กำลังและค่อนข้างแรงเยอะ… ไม่ว่านายจะทำอะไร มันจะไม่เป็นอย่างที่นายคิดหรอก”

ทันใดนั้นเองมูคยอมก็หัวเราะออกมา เขาใช้มือลูบไล้แก้มของฮาจุน

“ทำไมจะไม่ใช่ล่ะ ตั้งแต่แรกแล้วที่ฉันคิดว่านายเรียบร้อยเกินไปในฐานะกองหลัง”

“เรียบร้อย… สายตานายนี่ไม่ได้เรื่องเลยสินะ”

“อย่างไรก็เถอะ แค่นี้นายก็แข็งแกร่งพอแล้ว เพราะงั้น 10 ปีแล้วที่มองแค่คนๆ เดียว แม้จะพูดจาไร้สาระแต่ก็ยังอดทน… แม้แต่ที่กรีนฟอร์ดเองก็ด้วย คนที่แข็งแกร่งและดื้อรั้นทุกคนล้วนเป็นกองหลัง แต่ถ้าฉันทำตัวเหมือนคนโง่เง่าอีก ก็เตะทิ้งได้เลยนะ”

พอพูดจบมูคยอมก็ขมวดคิ้วแล้วพูดเสริมอย่างเร่งรีบ

“หมายถึงให้ใช้เท้าเตะจริงๆ ไม่ได้หมายถึงให้พวกเราเลิกกัน”

“เคยโดนฉันเตะแล้วหรืออย่างไร แล้วนายจะเสียใจทีหลังที่บอกให้ฉันเตะได้เลยโดยไม่คิดหน้าคิดหลัง”

เมื่อริมฝีปากประกบกัน เสียงหัวเราะคิกคักและเสียงเล็กๆ ราวกับฟองสบู่แตกก็ดังไปทั่วทั้งห้อง และเสียงนั้นก็จางหายไปและตกอยู่ในความมืดมิด

เด็กหนุ่มทั้งสองที่เติบโตมาโดยไม่สามารถแยกความเหงากับความเข้มแข็งออกได้ ดังนั้นคนทั้งคู่ที่พยายามอยู่อย่างเปล่าเปลี่ยวและอดทนอยู่กับช่วงเวลาของตนเอง สุดท้ายค่ำคืนนี้ก็เป็นคืนที่ไม่มีใครเปล่าเปลี่ยวอีกต่อไป

——————————————————

ก่อนที่จะเข้าไปในห้องล็อกเกอร์ มูคยอมทำหน้าบูดบึ้งและหยุดเดินอยู่ที่หน้าประตูครู่หนึ่ง แต่ทว่าหลังจากลังเลอยู่เพียงแค่สองสามวินาที เขาก็เปิดประตูและเข้าไปทันที

นักเตะที่อยู่ข้างในหันมามองมูคยอมอย่างพร้อมเพรียงกัน บรรดานักเตะที่กำลังเปลี่ยนชุดหรือพูดคุยกันอยู่ก็เอ่ยทักทายเขา

“พี่มูคยอม! มาแล้วเหรอครับ”

“สวัสดีครับ”

มูคยอมเดินเข้าไปข้างในและได้รับการทักทายเหล่านั้น

“เมื่อวานผมได้ดูรายการโทรทัศน์ เรื่องของพี่ไม่ว่าจะฟังตอนไหนผมก็ประทับใจนะครับ”

ถึงแม้ว่าจะคิดเช่นนั้นก็ตาม แต่ก็มีคนที่พูดเรื่องดีๆ เพื่อให้ฟังดูดี แต่ไม่มีใครพูดถึงเรื่องเฉพาะเจาะจงที่ออกอากาศในรายการ

มันไม่ใช่อากัปกริยาที่สนใจมูคยอมอย่างแน่นอน เช่นเดียวกับปัญหาส่วนตัวหลายๆ เรื่อง ถึงแม้ว่าจะได้รับความสนใจเพียงชั่วครู่ แต่สำหรับคนส่วนใหญ่แล้วมันก็ไม่ใช่เรื่องราวที่น่าสนใจมากจนถึงวันถัดไป คงจะดังกว่านี้ถ้าเป็นเรื่องอื้อฉาวทางเพศ แต่เรื่องนี้มันเป็นเพียงแค่เรื่องที่สามารถปล่อยผ่านมันไปได้หลังจากที่รู้สึกตกใจเล็กน้อยเมื่อเผชิญหน้ากับมัน

ความจริงที่ว่าบิดาผู้ให้กำเนิดของเขาเป็นคนวิกลจริตนั้น ไม่ได้หมายความว่าเขากังวลเกี่ยวกับการวิพากษ์วิจารณ์จากคนอื่นเหมือนไม่เคยประสบมันมาก่อน และปิดบังมันเอาไว้ เพราะนอกจากเป็นคนที่ติดยาหรือติดเหล้าแล้ว ยังเป็นการวางตัวนักเตะที่มาจากลูกของอาชญากรที่มีการใช้ความรุนแรงในครอบครัวอีกด้วย มีหลายกรณีจนนับถ้วนที่ในยุโรปนั้น อาชีพฟุตบอลยังคงเป็นบันไดเลื่อนฐานะยอดนิยมของคนชนชั้นล่าง

เพื่อนร่วมงานที่กรีนฟอร์ดของเขาบางคนมีพ่อแม่ที่ติดคุกเพราะค้ายาเสพติดและทำร้ายร่างกายทั้งในบ้านและนอก

บ้าน แล้วเพื่อนคนนั้นก็ไม่ได้ปิดบังความจริงข้อนั้น อาจเป็นเพราะมั่นใจว่าตนเองนั้นเป็นคนที่แตกต่างจากพ่อแม่ ก็คงเป็นแบบนั้น เพราะเพื่อนเขาคนนั้นไม่ใช้กำลังต่อยตีใครโดยไม่มีเหตุผล อีกทั้งยังไม่ค้ายาเสพติดอีกด้วย

ซึ่งต่างจากมูคยอม มันเป็นเรื่องยากสำหรับเขาที่จะมั่นใจได้ว่าทุกอย่างนั้นมันขึ้นอยู่กับปัญหาของจิตใจ อย่างไรก็ตาม ฮาจุนก็ยังยอมรับในตัวเขา แม้ว่าจะได้ฟังเรื่องราวทั้งหมดแล้วก็ตาม

ถ้าอย่างนั้น เขาก็จะไม่สนใจว่าคนอื่นจะคิดอย่างไร สิ่งที่น่าสนใจในอนาคตของเขานั้น มีเพียงการพิสูจน์ให้ฮาจุนและตัวเขาเองเห็นว่าในชีวิตที่เหลืออยู่นี้ เขาเป็นคนที่แตกต่างจากปีศาจตนนั้น

“คิมมูคยอม มาแล้วเหรอ”

“อืม”

อย่างไรก็ตาม ใบหน้าของอิมจองคยู หนึ่งในไม่กี่คนที่รู้ถึงช่วงวัยเด็กในสถานเลี้ยงเด็กกำพร้าและในฐานะเพื่อนสมัยมัธยมต้นของมูคยอมกลับดูอึดอัดเล็กน้อย แน่นอนว่าแทนที่จะรู้สึกอึดอัดกับมูคยอม แต่มันกลับเป็นความอึดอัดของคนที่รู้ความลับอย่างหลีกเลี่ยงไม่ได้

อย่างไรก็ตาม ความลับของอีฮาจุน ของมูคยอม หรือของอิมจองคยูนั้นก็ถูกให้ฉีดเข้าไปเรื่อยๆ เขาตัดสินใจที่จะคิดว่ากรรมตามสนองคนจุ้นจ้านที่ก้าวก่ายเรื่องของคนอื่น ก็เหมือนกับโดนบูมเมอแรงตีกลับนั่นเอง

“แล้วจะเอาไง รายการนั่นไม่ได้ขอความยินยอมจากนายใช่ไหม”

“จะให้ทำไงล่ะ ก็ต้องฟ้องร้องสิ”

“เรตติ้งมันทำเงินได้ขนาดนั้นเลยเหรอ น่ากลัวจนขนลุกขนพอง”

“ไหนๆ มันก็เป็นโลกที่เต็มไปด้วยคนที่กุเรื่องที่ไม่มีความจริงขึ้นมา ก็อยู่ให้เป็นเสียดีกว่า”

เมื่อมูคยอมหัวเราะคิกคักออกมา สีหน้าของจองคยูก็ผ่อนคลายขึ้นเล็กน้อย ถึงแม้จะแสร้งทำเป็นว่าไม่เป็นอะไร แต่ก็ดูเหมือนว่าจะค่อนข้างกังวล เพราะช่วงนี้ไม่ค่อยมีอะไรเป็นพิเศษ ก่อนที่จะโดนงอน ต้องรีบไปซื้อของขวัญให้กับคุณลูกสาวเสียแล้ว

อาการปวดข้อเท้าได้หายไปหมดแล้วและเอ็นที่บาดเจ็บก็กลับมาเป็นปกติแล้ว ตั้งแต่วันนี้เขาจึงได้ตัดสินใจที่จะเข้าร่วมการฝึกอบรมนอกสถานที่อีกครั้ง หลังจากมูคยอมเปลี่ยนเสื้อผ้าและออกไปที่สนามหญ้า เขาก็เห็นว่าฮาจุนอยู่ข้างนอกเรียบร้อยแล้ว ท้องฟ้าสีครามในฤดูใบไม้ร่วง สนามหญ้าที่ถูกดูแลให้เขียวขจีตลอดทั้งปี และอีฮาจุนที่หล่อเหลาตลอดทั้งปี

ผู้ชายที่หล่อเหลาคนนั้นคือคนรักของคิมมูคยอม

มุมปากของมูคยอมยกขึ้นและเกิดรอยยิ้มขึ้นโดยที่เขาเองก็ไม่รู้ตัว มูคยอมไม่ได้เดินขึ้นไปบนสนามหญ้าในทันที เขายืนอยู่ ณ จุดๆ หนึ่ง มองจากระยะไกล เขาเห็นฮาจุนกำลังสนทนาอย่างจริงจังกับโค้ชคนอื่นๆ ราวกับกำลังปรึกษาหารืออะไรบางอย่างกันอยู่ และอิมจองคยูที่ดูเหมือนเพิ่งจะออกมาก็เข้ามาตีที่ไหล่ของเขา

“ทำอะไร ไม่เข้าไปหรือไง”

“อืม ไปสิ”

มูคยอมก็ไม่รู้ตัวเลยว่าขณะที่ตอบนั้นตนเองไม่ได้ละสายตาไปจากฮาจุนเลย จองคยูที่ไล่สายตาตามการมองของมูคยอมดวงตาสั่นไหวแล้วมองไปที่มูคยอมอีกครั้ง จากนั้นก็ก้มหน้าไปหามูคยอมอย่างไม่มีความลังเล และกระซิบกระซาบด้วยน้ำเสียงที่เต็มไปด้วยอยากรู้อยากเห็น

“นี่ พวกนายคบกันแล้วเหรอ”

“เห้อ น่าขยะแขยงจริงๆ ใครเขาอนุญาตให้นายมากระซิบกัน”

มูคยอมแสดงท่าทางรังเกียจและเดินเข้าไปในสนามหญ้าโดยไม่ตอบ เมื่อเดินตึงตังเข้าไปใกล้ ในระหว่างนั้นการสนทนากับโค้ชคนอื่นก็จบลง ฮาจุนที่ยืนอยู่คนเดียวก็เงยหน้าขึ้นและจับจ้องไปที่เขา

“คิมมูคยอม ออกมาแล้วเหรอ”

รอยยิ้มที่สดใสดุจแสงอาทิตย์ประดับบนใบหน้าสีขาวนวล รอยยิ้มแผ่กว้างโดยไม่ลังเลด้วยความเขินอายเล็กน้อย มูคยอมที่ทนไม่ไหวอีกต่อไปแล้วนั้นดึงอีกฝ่ายเข้ามากอดไว้อย่างแนบแน่น

เขาอยากโชว์ใบหน้านี้ให้นายยุนเห็นจังเลย!

ที่ผ่านมาเขารู้สึกร้อนใจเพราะคิดว่าสีหน้าของฮาจุนที่แสดงให้ไอ้คุณยุนเห็นมันงดงามเป็นพิเศษ แต่ตอนนี้มันไม่ใช่อย่างนั้นแล้ว มันแตกต่างกันโดยสิ้นเชิงไม่ใช่เหรอ ระหว่างรอยยิ้มที่ฮาจุนแสดงให้พี่ชายที่ตัวเองติดตามเห็น กับรอยยิ้มที่มอบให้คนที่เชื่อใจ เขามั่นใจเลยว่าคนที่สามารถมองเห็นสีหน้าที่งดงามที่สุดในโลกของอีฮาจุนได้ในตอนนี้ก็เป็นเขาเอง! คิมมูคยอมยังไงล่ะ!

ฮาจุนตีเข้าที่เอวของมูคยอมด้วยความสับสนแล้วลดเสียงลง

“อะไรของนายเนี่ย นี่มันสนามฝึกซ้อมนะ”

“แล้วมันจะทำไมล่ะ คนอื่นทำแบบนี้กับนายได้ แล้วทำไมฉันถึงทำไม่ได้ล่ะ ฉันต้องจับจองไว้แบบนี้เพื่อไม่ให้แบคทีเรียตัวอื่นมาเกาะแกะนายนะ”

“นี่นายเรียกเพื่อนร่วมงานว่าแบคทีเรียเหรอ นายจะไม่เปลี่ยนนิสัยการพูดใช่ไหม”

ฮาจุนกลอกตาขณะที่ตำหนิเขา อย่างที่มูคยอมบอก ไม่มีใครสนใจทั้งสองคนเป็นพิเศษเลย ไม่ว่าพวกเขาจะกอดกันหรือไม่ก็ตาม…

มีอยู่หนึ่งคน ฮาจุนที่สบตากับจองคยูนั้นหน้าแดงเล็กน้อยแล้วจิ้มที่เอวของมูคยอม

“จองคยูมองพวกเราอยู่”

“มองแล้วยังไง กรรมของไอ้คนจุ้นจ้าน นายรู้ไหมว่าเขาบ่นฉันมากแค่ไหนให้ตั้งหลักปักฐานกับใครสักคน ตอนนี้ฉันจะทำในสิ่งที่เขาต้องการ แล้วเขาจะไม่พอใจอะไรอีกล่ะ”

ฮาจุนมองจองคยูด้วยความรู้สึกผิดเล็กน้อย แต่ในที่สุด ก็ตัดสินใจปล่อยให้มูคยอมทำในสิ่งที่เขาต้องการ ถ้าฮาจุนไม่สารภาพว่าชอบมูคยอม จองคยูก็คงจะไม่สงสัยอะไรเป็นพิเศษเกี่ยวกับภาพที่เห็นนี้เหมือนกับนักเตะคนอื่นๆ…

แต่ในไม่ช้า ฮาจุนก็กระซิบกับมูคยอมด้วยน้ำเสียงที่คาดไม่ถึง

“จองคยูหัวเราะด้วยแหละ ดูท่าทางคงจะอารมณ์ดีนะ”

“หัวเราะเหรอ ชอบใจอะไรขนาดนั้นถึงได้หัวเราะออกมา อย่างไรก็ตาม หมอนั่นเป็นคนแปลกๆ น่ะ”

“ถ้าดูจากที่เป็นเพื่อนนายมาเกิน 10 ปีแล้ว จองคยูนี่ก็ไม่ธรรมดาใช่ไหม”

“อีฮาจุน… แล้วนายล่ะ”

การฝึกอย่างเป็นทางการเริ่มต้นขึ้นในขณะที่มูคยอมซึ่งกอดฮาจุนจากด้านหน้าย้ายไปยังตำแหน่งของเขาและกอดฮาจุนจากด้านหลัง จากนั้นจึงปล่อยฮาจุนอย่างช้าๆ พร้อมกับถอนหายใจ

ขณะที่วิ่งอยู่ สตาฟคนหนึ่งก็เรียกมูคยอม มูคยอมจึงออกจากแถวแล้วไปหาอีกฝ่าย

“มีอะไรเหรอครับ”

“มีแขกจากภายนอกมา เขาบอกว่าเป็นคนจากสถานีโทรทัศน์ที่มาถ่ายทำรายการตอนนั้น”

มูคยอมขมวดคิ้ว

ต้นสังกัดตัดสินใจที่จะยื่นฟ้องทันที ถึงแม้ว่าจะไม่ได้แต่งเรื่องขึ้นมาหรือตั้งใจแต่งเรื่องขึ้นมา แต่มันเป็นเรื่องเกี่ยวกับครอบครัวซึ่งดูเหมือนยากที่จะลงทัณฑ์โทษใหญ่ เมื่อเทียบกับผลประโยชน์ที่จะใช้สิ่งนั้นในการดึงดูดความสนใจ แต่เขาก็ไม่สามารถปล่อยผ่านมันไปได้

ไม่ใช่ครั้งแรกหรือสองครั้งที่เขาได้พบกับคนที่ปฏิบัติต่อชีวิตส่วนตัวของคนอื่นเฉกเช่นการเคี้ยวหมากฝรั่งแล้วคายทิ้งไปเพื่อดึงดูดความสนใจเพียงชั่วครู่ ครั้งนี้มูคยอมเองก็เคยทำให้อีกฝ่ายรู้สึกว่าโดนดูถูกก่อนด้วย ถึงแม้ฝ่ายตรงข้ามจะรู้สึกแย่ก็ตามแต่ก็เป็นเรื่องที่ช่วยไม่ได้ แน่นอนว่าถึงแม้จะเป็นกรณีนี้ แต่วิธีแก้ปัญหาก็เหมือนเด็กเกินไปหน่อย

อย่างไรก็ตาม เขาเพิ่งเคยหางตกเร็วขนาดนี้เป็นครั้งแรก ถ้าเป็นแบบนี้แล้วจะมาทำไม มูคยอมดื่มน้ำอึกหนึ่งและมุ่งหน้าไปยังคลับเฮาส์ที่บอกว่ามีแขกมาหาด้วยชุดฝึกซ้อม

ผู้หญิงคนหนึ่งที่นั่งอยู่ในห้องว่างที่ไม่มีนักเตะคนใดอยู่เลยเพราะกำลังฝึกซ้อมอยู่ เมื่อเขาเปิดประตูเข้าไปเธอก็ลุกขึ้นยืน มูคยอมเดินเข้าไปหาอีกฝ่ายโดยที่ยังไม่คลายใบหน้าที่แข็งทื่อของตนเอง

มินแจยอง ผู้ประกาศข่าวของทางรายการ

“มีเรื่องอะไรเหรอครับ ถึงได้มาหาผมในตอนนี้”

มินแจยองโค้งศีรษะลง ผมของเธอถูกมัดไปด้านหลัง เธอสวมสูทที่ต่างจากตอนที่ถ่ายทำรายการอย่างสิ้นเชิง

“ขอโทษจริงๆ นะคะ”

มูคยอมเอียงคอแล้วนั่งลง มินแจยองเองก็นั่งลงบนเก้าอี้อีกครั้ง

“แล้วคุณขอโทษเรื่องอะไรเหรอครับ ผมว่าน่าจะมีคนที่คอยรับผิดชอบไว้ต่างหากนะ มีแค่คนที่ออกหน้าออกตาอย่างเราๆ นี่แหละที่จะเสียหายใช่ไหมล่ะครับ”

“…แน่นอนว่าดิฉันไม่ใช่คนที่คอยรับผิดชอบ แต่มันเป็นรายการที่ดิฉันเป็นผู้ดำเนินรายการอยู่น่ะค่ะ ฟังดูเหมือนเป็นข้ออ้าง แต่ดิฉันคิดว่าพวกเราถ่ายทำรายการภายใต้ความยินยอมจากทุกคนค่ะ”

“ไม่ต้องบอกก็รู้อยู่แล้วครับ ผมเองก็ได้เจอกับนักข่าว ผู้ประกาศข่าว และนักวิจารณ์ทุกประเภท และผมก็รู้คร่าวๆ ว่าการออกอากาศเป็นอย่างไร”

“ขอบคุณสำหรับความเข้าใจของคุณค่ะ ดิฉันจึงอยากจะขอโทษ อย่างไรก็ตามเทปนั้นก็จะยังคงอยู่ต่อไป และมันเป็นเรื่องจริงที่ดิฉันอยู่ที่นั่นค่ะ”

มูคยอมเดาะลิ้นแล้วจับจ้องไปที่อีกฝ่าย

“ผมเข้าใจความรู้สึกคุณ แต่ว่าคุณจะทำแบบนี้ไม่ได้นะครับ การขอโทษนั้นไม่ควรทำโดยที่ไม่รู้สึกแบบนั้นจริงๆ แม้ว่าคนที่ควรรับผิดชอบจะเป็นคนขอโทษเองก็ตามนะครับ หรือว่าโปรดิวเซอร์รบกวนขอให้คุณมาขอโทษเหรอครับ คิมมูคยอมชอบผู้หญิง เขาจึงใช้คุณให้มาหาผมแล้วใช้เสน่ห์หญิงล่อเหยื่อเหรอครับ”

เธอถลึงตาโตแล้วลุกขึ้นยืนในทันที

“ไม่ใช่ค่ะ ไม่มีใครสั่งดิฉันค่ะ”

“คงไม่รู้อะไรสินะ ไม่ได้สั่งให้ทำ แต่ให้คุณลุกขึ้นยืนรับลูกกระสุนแทนสินะครับ กลับไปเถอะครับ เอาเป็นว่าผมเข้าใจ แต่ไม่รับคำขอโทษแล้วกัน เพราะว่าคุณไม่ใช่คนที่จำเป็นต้องมาขอโทษ”

มูคยอมพูดอย่างนั้นและเงียบไปครู่หนึ่ง จากนั้นก็ยักไหล่แล้วเอ่ยต่อ

“แต่ถึงอย่างนั้นโปรดิวเซอร์ก็ดูเหมือนเป็นคนที่รู้กระแสธุรกิจบันเทิงดีนะครับ ผมประหลาดใจมากที่แอร์ไทม์ของโค้ชอีฮาจุนมีมากกว่าที่ผมคาดไว้น่ะครับ”

“นั่น…เป็นความเห็นแก่ตัวของฉันที่ใส่เข้าไปค่ะ อย่างที่ฉันพูดไปเมื่อครั้งที่แล้ว ฉันชอบเขาเมื่อตอนที่เขายังเป็นนักเตะอยู่น่ะค่ะ ฉันเกลี้ยกล่อมเขาว่าจะมีรีแอคชันอย่างแน่นอนถ้าเขาไปออกรายการ เขาจึงตอบตกลงค่ะ”

มูคยอมเลิกคิ้วขึ้นข้างหนึ่งเล็กน้อย จากนั้นหลังจากมองไปที่มินแจยองสักครู่ เขาจึงพูดต่อ

“คุณมินแจยอง ในปีหน้าจะมีการแข่งขันฟุตบอลโลก ดังนั้นจะมีรายการโทรทัศน์อีกมากมายที่มองหาผม”

“ใช่ค่ะ”

“ในตอนนั้น ผมจะให้ข้อมูลกับภายในว่ารายการที่คุณมินแจยองกำลังดำเนินการอยู่จะถูกเลือกเป็นลำดับแรก ถ้าหากว่าคุณต้องการว่าครั้งต่อไปอยากใส่เสื้อผ้าแบบเดียวกับตอนนี้ ก็มาบอกทางผมได้เลยนะครับ ผมคิดว่าชุดนี้น่าจะเหมาะกับรายการในครั้งนี้มากกว่านะครับ”

เมื่อพูดเช่นนั้น มินแจยองก็เบิกตากว้างขึ้นเล็กน้อยและยิ้มอย่างขมขื่นในทันที

“ขอขอบคุณในเรื่องนั้นด้วยนะคะ เพราะพวกเขารู้ดีกระแสธุรกิจบันเทิงดีว่าเป็นอย่างไร พวกเขาคงไม่ยอมฟังความเห็นของดิฉันหรอกค่ะ”

มูคยอมลุกจากที่นั่ง

“กลับดีๆ นะครับ ผมออกมาระหว่างที่ซ้อมอยู่ ดังนั้นผมขอตัวก่อนนะครับ”

มินแจยองยืนขึ้นและโค้งศีรษะลงอีกครั้ง มูคยอมเดินไปที่ประตูโดยไม่หันกลับมามองเธออีก จากนั้นเขาจึงหยุดเดินและหันไปมองทางด้านข้าง

ตอนก่อน
ตอนต่อไป

ความคิดเห็นทั้งหมดของ "ตอนที่ 105"

ใส่ความเห็น ยกเลิกการตอบ

อีเมลของคุณจะไม่แสดงให้คนอื่นเห็น ช่องข้อมูลจำเป็นถูกทำเครื่องหมาย *

*

*

  • อ่านนิยาย
  • แทงหวย24

© 2020 cat-novel.com
เว็บอ่านนิยาย นิยาย pdf เว็บ “cat-novel.com” เว็บอ่านนิยายสนุกๆ เพลิดเพลินไปกับนิยายต่างๆ ไม่ว่าจะเป็น นิยายวาย, นิยายจีน, นิยายรัก, แฟนตาซี, กำลังภายใน, ผจญภัย สุดยอดวิชากำลังภายใน อัพเดททุกวัน พร้อมรองรับการอ่านบนมือถือ คอมพิวเตอร์ ไอแพด หรือแท็บเล็ต อ่านได้ตลอดเวลา ไม่มีโฆษณา อ่านนิยายฟรีต้อง เว็บ ”cat-novel.com”
นิยาย อ่านนิยาย นิยาย pdf นิยายวาย อ่านนิยายฟรี นิยายออนไลน์