Half Line ข้ามเส้นนี้ไป ระวังตกหลุมรัก - ตอนที่ 119
“ฮ้า… ตอนนี้คงเข้าไปอยู่ประมาณตรงนี้สินะ”
“อ๊ากก! ฮ้า อ๊า…!”
เมื่อมือของมูคยอมกดลงไปบริเวณสะดือ ฮาจุนที่ถูกกระตุ้นผนังด้านในทั้งข้างในและข้างนอกก็รู้สึกเสียวซ่านไปทั่วทั้งตัว มูคยอมยิ้มบางๆ ออกมา ราวกับรู้สึกทึ่งทุกครั้งที่ได้สัมผัส
หน้าท้องสวยๆ ที่มีกล้ามหน้าท้องแข็งแกร่งไร้ซึ่งไขมันส่วนเกิน และการมีอยู่ของแก่นกายที่เติมเต็มอยู่ภายในราวกับเจาะทะลุหน้าท้องบางๆ เข้าไปที่รู้สึกได้อย่างชัดเจน มูคยอมลูบไล้ลงไปบนนั้นอย่างแผ่วเบาและพูดออกมา
“ฉันจะเซ็นให้นะ ฮาจุน”
“อ๊า อึ๊ก!”
ส่วนปลายของปากกาเมจิกที่แม้จะทู่แต่ก็แหลมคม สัมผัสกับผิวอันเปลือยเปล่าโดยไม่ทันตั้งตัว ฮาจุนขนลุกไปทั่วทั้งตัวเพราะสัมผัสที่ไม่คุ้นเคย ส่วนมูคยอมก็ไม่รีรอ เริ่มขยับมือในทันที
ปากกาด้ามที่ว่านั่นขยับเคลื่อนไหวไปมา และเริ่มจรดลงบนหน้าท้อง ฮาจุนบิดตัวพลางร้องครางออกมาเพราะความรู้สึกแปลกๆ ที่ไม่รู้ว่าจั๊กจี้หรือถูกกระตุ้นอารมณ์ทางเพศ หยาดน้ำตาร่วงหล่นลงมาบนใบหน้า
“อ๊า มันแปลกๆ อะ อ๊า!”
“อยู่นิ่งๆ สิ เบี้ยวกันพอดี”
“ฮ้าาา อ๊า… อื้อ!”
มูคยอมค่อยๆ ขยับเอวราวกับตั้งใจจะปลอบใจฮาจุน นอกจากความรู้สึกที่ถูกขีดเขียนลงบนผิวเปลือยเปล่าแล้ว ผนังด้านในยังถูกถูไถปลุกเร้าอารมณ์อีก แก่นกายที่แข็งตัวจึงสั่นไหวไปกับความเสียวซ่าน
รู้สึกเหมือนกระแสไฟฟ้าไหลผ่านมาถึงหัวทุกครั้งที่ปากกาขยับ แม้ว่ามูคยอมจะแทบไม่ได้ขยับตัวเลย แต่ฮาจุนก็เกร็งปลายเท้าโดยอัตโนมัติ ทุกครั้งที่ปลายเท้าของฮาจุนกระตุก หว่างคิ้วของมูคยอมก็จะขมวดเข้าหากัน
ปากกาที่หยิบออกมาเพื่อที่จะเขียนชื่อลงบนกล่องที่ใส่ข้าวของเรียบร้อยแล้ว ถูกนำมาใช้ผิดวัตถุประสงค์เสียได้ ระหว่างที่ฮาจุนหายใจหอบรัว มูคยอมคงจะแจกลายเซ็นเสร็จแล้ว จึงได้วางปากกาลงบนชั้นวางอีกครั้ง และลูบไล้ไปบนหน้าท้องอีกครั้งพร้อมกับพูดพึมพำออกมา
“อ่า… อีฮาจุนเป็นของฉันจริงๆ ด้วย ก็ฉันเซ็นชื่อกำกับไว้ว่าเป็นของฉัน”
เป็นน้ำเสียงที่เหมือนกับกำลังเมา ดวงตาของฮาจุนไม่ละออกจากใบหน้าของมูคยอมที่มองจ้องลงมาบนร่างกายของตนราวกับรู้สึกพึงพอใจเป็นอย่างมาก ระหว่างที่มองใบหน้าของมูคยอมอยู่อย่างนั้น คราวนี้มูคยอมก็ใช้หลังมือลูบแก้มฮาจุนพลางถามออกมา
“ได้ลายเซ็นครั้งแรก จะไม่พูดอะไรหน่อยเหรอ”
แม้แต่การแตะเนื้อต้องตัวเบาๆ อย่างการใช้มือลูบไล้แก้ม ตอนนี้ก็รู้สึกเหมือนเป็นการลูบไล้ด้วยความรักที่กระตุ้นอารมณ์ทางเพศให้พลุ่งพล่าน ฮาจุนเกร็งต้นคอพลางตอบออกมาอย่างเหม่อลอย
“อะอื้อ อึก ขอบใจ…”
คำตอบนั่นทำให้ดวงตามูคยอมเบิกกว้างขึ้นมาเล็กน้อย มูคยอมที่เอาแต่จ้องมองจนแทบจะทะลุ ดึงร่างที่นอนอยู่ให้ลุกขึ้นมา
เมื่อทิ้งน้ำหนักตัวลงไปด้านล่าง สิ่งที่สอดใส่อยู่จึงสอดเข้าไปลึกกว่าเดิม ฮาจุนที่ตื่นตกใจ คว้าไหล่ของมูคยอมเอาไว้และตั้งใจจะชันเข่า แต่แขนของมูคยอมก็รองรับสะโพกของฮาจุนไว้และลุกขึ้นจากเตียง
“อะ อ๊ะ อ๊า!”
ฮาจุนเอามือคล้องไว้ที่คอของมูคยอมอย่างลุกลี้ลุกลน ส่วนมูคยอมก็เริ่มก้าวเดิน ฮาจุนฝังหน้าไว้ที่ไหล่ของอีกฝ่ายและถามออกมา
“จะไปไหน ไปไหน…”
ความรู้สึกไม่สบายใจที่มีเซ็กซ์อยู่ในบ้านยังคงซ่อนตัวอยู่ในมุมหนึ่งของหัวใจมาตลอด แต่พอมูคยอมตั้งใจจะย้ายไปจุดอื่นแล้ว ผนังด้านในก็ยิ่งบีบรัดแน่นกว่าเดิมเพราะความกังวล
แต่ก็โชคดีที่มูคยอมเดินไปแค่ไม่กี่ก้าวก็วางฮาจุนลง ระหว่างที่นอนอยู่แล้วถูกอีกฝ่ายอุ้มขึ้นไปกอด และแม้กระทั่งตอนที่วางลง แก่นกายที่ทั้งยาวและหนาก็ยังคงฝังลึกอยู่ในตัวของฮาจุนอยู่อย่างนั้น พอถูกวางลงบนพื้นแล้ว ขาทั้งสองข้างก็สั่นเทา
จู่ๆ มูคยอมที่วางฮาจุนลงก็ถอนแก่นกายของตัวเองออกไป เมื่อสิ่งที่ฝังลึกอยู่ในร่างจนรู้สึกอึดอัดถูกถอนออกไป ลมหายใจที่ติดขัดก็กลับมาหายใจได้เต็มปอด ฮาจุนจึงได้ผ่อนลมหายใจให้เป็นปกติ
แต่ก็เป็นเพียงการพักยกชั่วคราวเท่านั้น มูคยอมพลิกตัวฮาจุนและดันแก่นกายของตัวเองเข้าไปในช่องทางรักที่ยังไม่ปิดตัวลงอีกครั้ง ฮาจุนรีบคว้าแขนล่ำอันแข็งแกร่งที่คว้าเอวของตนเอาไว้แน่นทันที
“อื้ออออ อื้อ อ๊ะ…!”
“กัดนี่เอาไว้หน่อย”
ชุดเครื่องแบบที่ถูกดันขึ้นไปตอนที่นอนอยู่บนเตียง กำลังคลุมหน้าท้องอยู่ในตอนนี้ มูคยอมจับชายเสื้อเอาไว้แล้วเอาไปจ่อไว้ที่ปากของฮาจุน
ฮาจุนที่ตอนแรกไม่เข้าใจว่าหมายความว่าอะไร และได้แต่ผ่อนลมหายใจออกมา เข้าใจสิ่งที่มูคยอมพูดช้าไปหนึ่งจังหวะและใช้ฟันงับชายเสื้อที่จ่ออยู่ที่ริมฝีปากเอาไว้
“ดูสิ นายเองก็ต้องได้เห็น ว่าบนร่างกายของนายมีคำว่าคิมมูคยอมอยู่”
ในตอนนั้นเองฮาจุนจึงได้สติและมองสิ่งที่อยู่ตรงหน้า จุดที่มูคยอมพาเขามาคือ ตรงหน้ากระจกเต็มตัวที่แขวนเอาไว้บนผนัง
ภายใต้ชายเสื้อที่คาบเอาไว้ที่ปาก มีทั้งยอดอกที่ถูกกัดและดูดคลึงจนกลายเป็นสีแดง ร่องรอยการจูบและรอยฟันบนผิวหนังที่ยังไม่หายไป รอยแดงทั่วทั้งตัว และหน้าท้องขาวๆ ที่มีลายเซ็นสีดำตัวหนา ของคิมมูคยอม ทั้งหมดล้วนทะท้อนอยู่ในกระจกอย่างชัดเจน
“อื้อ…”
ความรู้สึกแปลกประหลาดที่แยกไม่ออกว่าอายหรือรู้สึกดีกันแน่ ทำให้เวียนหัวและรู้ร้อนผ่าวเหมือนมีไข้ และแล้วมูคยอมก็ดึงสิ่งที่ฝังอยู่ในตัวออกไป
ความรู้สึกที่แก่นกายที่มีเส้นเลือดปูดออกมาเคลื่อนที่กวาดผนังภายในที่แนบติดอยู่ออกไปอย่างช้าๆ มันชัดเจนเหลือเกิน ฮาจุนกัดฟันที่งับชายเสื้อเอาไว้แน่นกว่าเดิม แต่แล้วสิ่งที่เคลื่อนที่ออกไปก็ดันเข้ามาใหม่อีกครั้งอย่างเต็มแรง
“อ๊า!”
ฮาจุนเปิดปากร้องทันที ชายเสื้อที่งับเอาไว้ก็ร่วงหล่นลง ชุดยูนิฟอร์มที่หลสมโคร่งก็ไปปกคลุมร่างกายอีกครั้ง ‘อ่า’ สมหายใจร้อนๆ ของมูคยอมรดใบหูชวนให้รู้สึกจักจี้
ขณะที่เอนหัวลงบนไหล่ของมูคยอมพลางอดทนกับร่างกายที่สั่นสะท้าน มือของมูคยอมก็เคลื่อนมาบริเวณริมฝีปากอีกครั้ง
“อย่าปล่อยสิ งับเอาไว้ ฉันอยากเสียบเข้าไปแล้วก็ดูไปด้วย”
“อือ อ๊าา อื้อ”
ถึงจะดูเป็นการบังคับ แต่ท่าทางการพูดเหมือนเป็นการรบเร้ามากกว่า ฮาจุนไม่สามารถตอบรับหรือปฏิเสธได้ และงับชายเสื้อเอาไว้ให้แน่นกว่าเมื่อสักครู่
พอจับแขนของมูคยอมที่โอบหน้าอกและท้องน้อยของตนเอาไว้แน่น มูคยอมก็เริ่มขยับเอวกระแทกด้านในอย่างรวดเร็ว เสียงหอบครางของทั้งคู่ดังขึ้นเข้ากับจังหวะ
“ฮ้า อา ฮึก”
“ฮึก อื้อ! อ๊ะ อ๊ะ ฮืก อื้อ!”
ร่างกายของทั้งสองยืนแนบซ้อนกัน สะโพกของฮาจุนกระทบกับกระดูกหัวหน่าวและขาอ่อนของมูคยอมอย่างต่อเนื่อง ของของมูคยอมที่ดูจะตื่นตัวเป็นพิเศษในวันนี้ ทั้งแข็งตัวและมีเส้นเลือดปูดขึ้นมาอย่างชัดเจน สมกับความเร่าร้อนที่แผ่นซ่านไปทั่วร่างของเจ้าของ
แท่งเนื้อร้อนๆ ที่ว่านั้น ทิ่มแทงภายในร่างกายที่หลอมละลายอย่างไร้ความปราณี ร่างกายของฮาจุนสั่นสะท้านด้วยความกลัวเมื่อถูกทิ่มแทงไปถึงจุดที่ไม่ควรไปสัมผัส
ส่วนปลายแก่นกายที่เกรี้ยวกราดกระแทกโดนส่วนที่อ่อนไหวที่สุดอย่างไม่ระมัดระวัง และทุกครั้งที่เป็นแบบนั้น เท้าของฮาจุนก็จะอ่อนแรง รู้สึกหนักหัวเหมือนมีกระแสไฟไหลผ่าน และน้ำตาไหลอาบแก้มโดยไม่รู้ตัว
ถึงจะพยายามกลั้นเอาไว้ แต่ก็ยากที่จะกลั้นเสียงที่หลุดออกมาเอาไว้ ฮาจุนส่งเสียงร้องอยู่ในลำคอโดยที่ยังงับชายเสื้อเอาไว้แน่น ทุกครั้งที่เป็นแบบนั้น มูคยอมก็จะกระแทกเอวให้แรงขึ้น และมือข้างหนึ่งของฮาจุนที่จับแขนของมูคยอมเอาไว้ในตอนแรกก็ถูกพาดไปที่หลังคอของมูคยอม แม้ว่ามูคยอมจะใช้มือกดหน้าอกและหน้าท้องเอาไว้ แต่เอวของฮาจุนก็งอลงเล็กน้อยและกลับมาที่เดิมทุกครั้งตามจังหวะการกระแทกของมูคยอม
“จะปล่อยแล้วนะ”
เสียงกระซิบทุ้มต่ำของมูคยอมทำให้อารมณ์ของฮาจุนพลุ่งพล่านขึ้นมา แม้ว่าขาจะสั่นสะท้าน แต่ปลายเท้าก็ยังคงยืนหยัดเกาะติดกับพื้น
ฮาจุนรู้สึกได้ว่าของเหลวร้อนๆ สาดกระเซ็นอยู่ภายในร่างกาย ราวกับว่าถูกฝึกฝนมาให้ถึงจุดสุดยอดเมื่อมูคยอมขับน้ำรักออกมา ฮาจุนเองก็ใกล้จะไปถึงจุดสุดยอดครั้งที่สองเต็มทีแล้ว น้ำรักสีขาวขุ่นไหลออกมาจากแก่นกายที่กระตุก และหยดลงบนพื้นราวกับอาเจียนออกมาหลายต่อหลายครั้ง
ร่างกายไร้เรี่ยวแรง และเกร็งจนกระตุกไปทั่วทั้งตัว ยืนแทบจะไม่ไหว จึงได้แต่ออกแรงไปที่เท้าเพื่อทนเอาไว้
“ไม่ได้เสร็จพร้อมกันนานมากแล้วนะ”
ตรงกันข้าม มูคยอมกลับพูดพึมพำออกมาอย่างสบายอารมณ์ และดันแก่นกายที่เปียกชื้นขึ้นมา แม้จะขับน้ำรักออกมาแล้ว แก่นกายที่ยังไม่สงบก็ยังคงแทรกในส่วนที่ลึกที่สุด แล้วลูบไล้ไปที่หน้าท้องของฮาจุน
“ดูตรงนี้สิ ส่วนที่ฉันเขียนชื่อเอาไว้มันขยับด้วย… เห็นไหม”
“อื้อ อือออ อึก…”
แม้ว่าน้ำรักจะเปรอะเปื้อนไปบนร่าง แต่ลายเซ็นก็ยังไม่เลือนหายไป เมื่อสบตากับดวงตาที่คลอไปด้วยน้ำตาผ่านกระจก มูคยอมก็ทิ่มแทงแท่นร้อนเข้าไปด้านในให้ลึกกว่าเดิมราวกับจะแสดงให้ดู
สุดท้ายก็เห็นว่าหน้าท้องที่มีลายเซ็นขยับหดเข้าและพองออกมาเล็กน้อยตามที่มูคยอมพูด ฮาจุนจึงหลับตาและก้มหัวลงโดยไม่รู้ตัว ถึงมูคยอมจะกดท้องของฮาจุนเอาไว้แล้วพูดว่ารู้สึกได้ผ่านมือ พลางหัวเราะออกมาทั้งๆ ที่ยังสอดใส่อยู่อย่างนั้นบ่อยๆ แต่ก็ไม่เคยลองพิสูจน์ด้วยตาของตัวเองเลยสักครั้ง
มือที่ไต่ตามร่างกายขึ้นมา ค่อยๆ ดึงชายเสื้อที่คาบเอาไว้ออก เมื่อเปิดปากออกอย่างไร้เรี่ยวแรง ชายเสื้อที่เปียกน้ำลายก็ตกลงไปคลุมหน้าท้องอีกครั้ง เมื่อปากที่ถูกอุดเอาไว้เป็นอิสระ ฮาจุนก็ผ่อนลมหายใจหอบรัวออกมา
“แฮ่ก ฮ๊า แฮ่ก!”
มูคยอมเชิดคางของฮาจุนเพื่อให้มองมาที่ตนเอง จรดริมฝีปากลงไปบนแก้มที่เปื้อนน้ำตา มูคยอมที่ใช้ลิ้นเลียหางตา และถามออกมาช้าเกินไป
“ก้มหน้าทำไม ไม่อยากเห็นเหรอ”
“ฮึก แฮ่ก ไม่ใช่ อย่างนั้น… อ๊ะ มัน…”
“มันวาบหวิวเกินไป”
มูคยอมพูดแทนฮาจุนที่พูดไม่จบ และโอบเอวของฮาจุนเอาไว้ ฮาจุนได้แต่หายใจหอบและไม่ตอบอะไรกลับไป คำว่า ‘วาบหวิว’ ดูจะเป็นการใช้คำที่ดูน่ารักเกินไปในการสื่อถึงการกระทำเมื่อสักครู่ของตัวเอง
“อีฮาจุน นายเป็นของใคร”
คำถามที่ไม่ทันตั้งตัวที่กระซิบถามแนบหู ทำให้ร่างกายที่เพิ่งขับน้ำรักออกไปไม่นานสั่นสะท้าน และผนังด้านในบีบรัดแนบแน่นอีกครั้ง เมื่อรู้สึกได้ถึงการตอบสนองทางร่างกายของตนเอง ฮาจุนขยับริมฝีปากตอบออกไปด้วยใบหน้าที่แดงขึ้นไปอีกขั้น
“ของนาย… คิมมูคยอม แฮ่ก ฉันเป็นของนาย…”
“รู้สึกยังไงที่ได้เป็นของคิมมูคยอม”
“อ๊า ดี อื้อ อือ รู้สึกดี ดี… อ๊า อื้อ…”
“ไม่เอาคำนี้สิ ลองพูดคำอื่นดู โค้ชอีของเราแสดงความรู้สึกออกมาเรียบง่ายเกินไป”
มูคยอมควงเอวสะกิดผนังด้านในอย่างอ่อนโยนด้วยแก่นกายที่ยังแข็งตัว ผนังด้านในที่อ่อนไหวต่อการกระตุ้นหลังจากขับน้ำรัก สั่นสะท้านอย่างรุนแรงพลางซึมซับความรู้สึกดีที่มูคยอมมอบให้
สมองของฮาจุนขาวโพลนไปหมด คิดไม่ออกว่าจะแสดงออกมาเป็นคำพูดไหน
“ฮ้าา! อะ อ๊า…! อะอือ…”
ถึงจะทนไว้แต่ความอดทนก็มีขีดจำกัด แม้จะพิงมูคยอมเอาไว้ แต่ขาก็สั่นแรงจนยืนไม่ไหวอีกต่อไป น้ำตาไหลรินลงมาบนแก้มที่มูคยอมเพิ่งจะลบรอยน้ำตาด้วยริมฝีปากไปอีกครั้ง และไร้เรี่ยวแรงไปทั่วทั้งตัวตั้งแต่หัวลงมา
อาจจะถูกล้อว่าเป็นลูกวัวอีกก็ได้ แต่มันก็ช่วยไม่ได้ ไม่มีทางที่ฮาจุนจะมีกำลังขาอ่อนแอกว่าคนอื่นๆ เลย แต่พอทำกับมูคยอมแล้วก็มักจะเป็นแบบนี้เสมอ ในที่สุดเสียงอันไร้เรี่ยวแรงก็ออกมาจากปากฮาจุน
“คิมมูคยอม…”
“หืม”
“กอดฉันหน่อย… เหนื่อย…”
คำพูดนั้นทำให้มูคยอมยิ้มออกมาอย่างสดใสจนเห็นฟัน
แก่นกายที่ยังคงเสียบคาเอาไว้ค่อยๆ ถอนออกมาอย่างช้าๆ เมื่อจุดที่ถูกอุดเอาไว้เปิดออก น้ำรักที่เติมเต็มอยู่ภายในก็หลั่งไหลออกมาตามร่องและระหว่างต้นขา
ร่างกายของฮาจุนกลับสั่นไหวแรงกว่าเดิมเพราะความรู้สึกจั๊กจี้เบาๆ ส่วนมูคยอมก็ใช้แขนโอบร่างกายส่วนล่างที่เปียกชื้นเอาไว้ และมุ่งหน้าไปที่เตียง มูคยอมนั่งกอดฮาจุนอยู่บนกองผ้าห่มที่ยับยู่ยี่เพราะกิจกรรมก่อนหน้า และใช้มือใหญ่ลูบหลังอันสั่นเทา
“ขอโทษนะ เหนื่อยมากไหม”
“ไม่หรอก ก็แค่… เหนื่อยแค่ตอนนี้เท่านั้นเอง”
“ฉันมีอารมณ์จนทนไม่ไหว เพราะเหมือนว่านายเป็นของฉันจริงๆ”
“…ไม่ใช่เหมือน แต่เป็นของนายนั่นแหละถูกแล้ว”
มูคยอมขบฟันด้วยใบหน้ายิ้มแย้มเมื่อได้ยินฮาจุนพูดเน้นย้ำแบบนั้น
“อ่า… ที่จริงต้องต่อรอบสองนะเนี่ย แต่ถ้าทำอีกมันคงจะนานเกินไปใช่ไหม”
“อื้อ ทำต่อไม่ได้แล้ว”
ฮาจุนพยักหน้าอย่างจริงจัง ถ้ามูคยอมทำต่อให้สาสมเท่ากับที่อยาก ก็คงจะใช้เวลาหลายชั่วโมง มันคงไม่จบจนกว่าแม่จะกลับมาบ้าน
มูคยอมถอนหายใจออกมาราวกับยอมแพ้ และเอาแต่งับใบหูของฮาจุนโดยไร้คำพูดใดๆ ไปสักพัก จึงถามออกมา
“เราไปสักกันไหม”
“อะไรนะ”
“ถึงจะเห็นคนอื่นๆ มีรอยสักกัน แต่ฉันก็ไม่เคยคิดที่จะสักเลย แต่พอเห็นนายในวันนี้แล้วก็อยากจะสักขึ้นมา ฉันจะสักชื่อนาย ส่วนนายก็สักชื่อฉันไง แล้วพอคนอื่นเห็นรอยสักของนาย ก็จะรู้ว่านายเป็นของใครใช่ไหมล่ะ”
ฮาจุนไม่สามารถตอบออกไปได้ทันที และพูดออกมาด้วยความสงสัย
“ถ้าสักชื่อจริงๆ คนอื่นมาเห็นเข้าก็คงจะคิดว่าแปลกนะ”
“อะไรกัน ถึงจะไม่ค่อยมีคนสักชื่อเพื่อนสนิทก็เถอะ แต่มันก็มีนะ ถ้ากังวลก็สักอักษรตัวแรกของชื่อเอาก็ได้”
แน่นอนว่ามีผู้เล่นที่มูคยอมรู้จักบางคนสักชื่อของเพื่อนเอาไว้บนร่างกายด้วย นอกจากสักชื่อแล้ว ยังมีการสักลวดลายมากมายหลายอย่างเหมือนกับเสพติดการสัก ส่วนใหญ่จึงสักชื่อของเพื่อนลงไปด้วยเพราะไม่รู้ว่าจะสักอะไรต่อดีแล้ว แต่ไม่มีคนที่สักแค่ชื่อของเพื่อนเลยสักคนเดียว
แต่ฮาจุนกลับกลอกตาราวกับถูกโน้มน้าวสำเร็จ และหัวเราะออกมาเบาๆ พลางพยักหน้า
“จะลองคิดดูแล้วกัน”
มูคยอมเองที่ได้ฟังคำตอบไปในทางที่ดีก็ยิ้มไม่หุบและพรมจูบหลายต่อหลายครั้งลงบนแก้มที่แดงเพราะความรู้สึกหลังการไปถึงจุดสุดยอดยังคงอยู่ ฮาจุนโอบคอของมูคยอม ส่วนมูคยอมโอบหลังของฮาจุนเอาไว้ ทั้งสองต่างโอบกอดกันเช่นนั้น และต่างพรมจูบไปทั่วไปหน้า ไม่ว่าจะเป็นหางตา แก้ม สันจมูก และเมื่อกำลังจะจูบกันอย่างจริงจัง ก็ดันมีเสียงแปลกๆ มาทำลายบรรยากาศเสียได้
โครก
เป็นเสียงที่ไม่รู้ว่าออกมาจากท้องของใคร ฮาจุนหลุดหัวเราะออกมาก่อน มูคยอมเองก็ดึงฮาจุนมากอดและหัวเราะไปด้วยเช่นกัน
ทั้งสองที่อาบน้ำเสร็จเรียบร้อย เปลี่ยนเสื้อผ้าเป็นชุดธรรมดาๆ ลายเซ็นที่เขียนด้วยปากกาเมจิกนั้น ถึงจะล้างแล้วก็ลอกออกไปไม่หมดในคราวเดียว ฮาจุนถือเสื้อบอลที่ยับยู่ยี่ขึ้นมา ครุ่นคิดอยู่สักพักแล้วจึงใส่เข้าไปในตะกร้าผ้า เขาคิดว่าอีกเดี๋ยวจะซักด้วยมือ
ระหว่างที่มูคยอมตักซี่โครงอบที่อยู่ในหม้อใส่ชาม ฮาจุนก็เตรียมข้าวเอาไว้สองถ้วย และทั้งสองก็นั่งหันหน้าเข้าหากันบนโต๊ะอาหาร ทั้งคู่ต่างก็กินกันไม่น้อย ซี่โครงตุ๋นที่มีอยู่เต็มหม้อในตอนแรก เหลือน้อยจนเห็นก้นหม้อ
หลังจากที่มีเซ็กซ์ กินอาหารจนอิ่มท้อง ล้างจาน แปรงฟัน และเก็บกวาดโต๊ะอาหารจนเสร็จแล้ว ก็รู้สึกเหนื่อยล้าขึ้นมา หลังจากตกลงกันว่าเอาไว้ค่อยมาเก็บของกันทีหลังแล้ว ทั้งสองก็นอนแนบชิดกันบนเตียงเล็กๆ มูคยอมที่สนุกกับความรู้สึกที่ได้ดึงผมของฮาจุนขึ้นมาและปล่อยให้ร่วงหล่นผ่านร่องนิ้วไป พูดขึ้นว่า
“แต่คุณแม่ก็ดูอารมณ์ดีนะ”
ฮาจุนที่นอนมองเพดาน พยักหน้ารับเล็กน้อย
“โล่งอกไปที ฉันนึกว่าแม่จะห้ามหรือเสียใจซะอีก ฉันเองก็ตกใจที่แม่ชอบถึงขนาดนั้น”
“เมื่อก่อนตอนที่เกือบจะได้ไปฝรั่งเศสน่ะ เป็นยังไง”
“ตอนนั้นแม่ก็ชอบ แต่สถานการณ์มันต่างกันนิดหน่อย…”
ฮาจุนพูดไม่จบและหันตัวมาหามูคยอม