Half Line ข้ามเส้นนี้ไป ระวังตกหลุมรัก - ตอนที่ 123
มูคยอมจับเอวของเขาเอาไว้ ก่อนจะดันเบาๆ แล้วดึงกลับมาใหม่ ฮาจุนเผลอครางออกมา เมื่อถูกความอึดอัดอันแสนหนักหน่วงดันขึ้นมาจากด้านล่าง เขาจับต้นขาของมูคยอมเอาไว้ และพยายามจะหยัดกายขึ้นโดยไม่รู้ตัว แต่มูคยอมก็ไม่ยอมปล่อยเอวของคนที่พยายามจะลุกขึ้นให้เป็นอิสระ
“ฉันถึงกังวลไง นายไม่ควรทำแบบนั้นกับคนอื่นนะ นายจะไม่ทำอย่างนั้นใช่ไหม”
“อะ อึ๊ก ไม่ทำ กับคน อื่นหรอก อะ อ๊ะ!”
ฮาจุนส่ายศีรษะพลางตอบอย่างรวดเร็ว แต่เพราะน้ำหนักที่ทิ้งลงมา ตัวตนของอีกฝ่ายจึงสอดใส่เข้ามาได้เร็วกว่าปกติ เมื่อมูคยอมเด้งเอวขึ้นเบาๆ แก่นกายก็แทรกเข้าไปจนสุดโคนในทันที ต้นขาที่แข็งแรงแนบชิดกับก้นที่นุ่มหยุ่นอย่างไร้ช่องว่าง
ระหว่างที่ฮาจุนกำลังเอนหลังพลางสูดลมหายใจ มูคยอมก็สอดแขนเข้าใต้เข่าของคนที่กางขาอยู่บนร่างตน แล้วยกขึ้น ท่อนขาของเขาถูกชูขึ้นสูงอยู่กลางอากาศ ฮาจุนมีเพียงร่างกายของมูคยอมเท่านั้นที่รองรับตัวเขาอยู่ และก่อนที่เขาจะจัดการกับความสับสนได้ ร่างกายของเขาที่ถูกจับเอาไว้ก็ขยับขึ้นลงเสียแล้ว
“ฮึก อะ อ๊ะ! อ๊า…!”
ความรู้สึกยามของแข็งครูดผนังด้านในและทะลุทะลวงไปจนสุดทาง ทำให้ฮาจุนน้ำตาซึม ร่างกายเขากระตุกราวกับหน้าต่างที่ต้องลม
“อ่า ได้ทำในรอบสิบวัน รู้สึกดี เป็นบ้า”
“ฮึกกก อะอึก อ๊ะ!”
แก่นกายรุกล้ำเข้ามาข้างในด้วยความเร็วที่ค่อยๆ เพิ่มขึ้น ทุกครั้งที่อีกฝ่ายดันตัวตนเข้ามาในกาย มันทะลวงลึกจนน่ากลัว ขนลุกชูชันทั่วร่างที่เปียกแฉะเพราะน้ำอุ่น และหลอมละลายเพราะความสุขสมอันนุ่มนวล
ทุกครั้งที่ร่างเขาขยับลงมา ฮาจุนมักจะดันต้นขาของมูคยอมออกโดยไม่รู้ตัว และทุกครั้งที่เขาทำแบบนั้น มูคยอมก็จะกดร่างที่กำลังกอดเอาไว้ให้ลึกยิ่งขึ้น จากนั้นมูคยอมคงคิดว่าท่านี้มันยากเกินไป อีกฝ่ายจึงหยัดกายขึ้น แล้ววางฮาจุนลงในที่ที่ตนเองเคยนั่งอยู่
“นายคงเหนื่อยกับการเดินทางแล้ว นอนให้สบายเถอะ”
“อะ อ๊ะ อ๊ะ อ๊า!”
มูคยอมจับข้อเท้าเขายกขึ้นข้างหนึ่ง ปล่อยอีกข้างให้จมลงในน้ำ และเสือกไสลึกเข้ามาในร่างกายเขาอีกครั้ง เสียงน้ำที่สาดกระเซ็นกระทบเพดานสูงดังขึ้นทุกครั้งที่อีกฝ่ายขยับเข้าออกผ่านหว่างขาที่อ้าออกกว้างอย่างสุดแรง
ขอบอ่างอาบน้ำที่เตี้ยและกว้างพอที่จะวางร่างกายท่อนบนนอนลงได้นั้น ทำจากหินอ่อนแปรรูป และไม่สามารถยึดร่างกายที่เปียกชุ่มไม่ให้เคลื่อนไหวได้ ร่างกายของฮาจุนที่ถูกกระแทกเลื่อนไถลไปด้านบนตามแรงของมูคยอม มูคยอมสอดประสานมือที่ห้อยลงบนพื้นและดึงเข้ามา เมื่อกระชับนิ้วมือขาวที่จับเอาไว้ ทันใดนั้นรอยยิ้มบางๆ ทว่าแฝงความอบอุ่นก็ปรากฏขึ้นบนริมฝีปากของมูคยอม
“อ๊ะ อ๊า! อ๊า!”
ฮาจุนครางออกมาทุกครั้งที่อีกฝ่ายกระแทกเอว ใครก็ตามอาจจะหัวเราะเยาะว่าไม่เหมาะไม่ควรแต่มันคือการสานสัมพันธ์สิบวันที่ยาวนานเกินไปสำหรับพวกเขาทั้งคู่เท่านั้นเอง เส้นเลือดแดงที่ลำคอและกล้ามเนื้อของมูคยอมขยับไปมา กล้ามเนื้อทั้งหลายที่จารึกอยู่บนแผ่นอกหนา เชิงไหล่กว้าง และแผ่นหลังราวกับรูปสลักนั้น เกร็งแน่นแล้วค่อยๆ คลายตัวซ้ำไปซ้ำมา หากมีใครมองเขาจากทางด้านหลังแล้วล่ะก็ คนๆ นั้นคงเห็นได้ชัดเจนว่าอีกฝ่ายตื่นเต้นขนาดไหน
มูคยอมกระแทกกระทั้นรัวเร็ว ขณะที่มูคยอมกำลังตอกกายเข้ามาจนสุดโคน กระทบก้นงอนจนเกิดเสียงดังเผียะๆ คนที่กำลังโยกเอวพลางบีบมือที่จับเอาไว้อย่างฮาจุนก็น้ำตาซึมออกมาราวกับทนไม่ไหว
“คิม มูคยอม ฮึกก! ชะ ช้า หน่อย…”
“โทษที ตอนนี้ฉัน ควบคุม แฮ่ก ตัวเองไม่ได้”
“อือฮึก ฮื่อ อ๊ะ! เร็ว เร็วไป แล้ว อึ๊ก!”
“อา ฟู่วว…”
อดทนไว้ ใจเย็นๆ
มูคยอมบอกตัวเองซ้ำๆ พลางโน้มตัวลงมากอดฮาจุนเอาไว้ พยายามไม่ให้ตัวเองตื่นเต้นจนเกินไป
ในที่สุดแฟนหนุ่มผู้น่ารักของเขาก็ตามมาถึงลอนดอน ที่ๆ มีแค่พวกเขาสองคนตามลำพังจนได้ ใจจริงแล้ว มูคยอมอยากครอบครองฮาจุนตลอดทั้งคืนเสียด้วยซ้ำ หากเสียสติไปเพียงนิดเดียว เขาอาจกระแทกอีกคนจนสลบไปเลยก็ได้
ร่างกายของฮาจุนยังไม่หายเหนื่อยจากการเดินทางด้วยเครื่องบินกว่าสิบชั่วโมง หากถูกเขาเอาเปรียบ จนจับไข้แล้วสลบไสลเป็นวันๆ ล่ะก็ต้องแย่แน่ ฮาจุนเพิ่งมาถึง อีกฝ่ายคงมีหลายที่ที่อยากไป มีหลายสิ่งที่อยากทำ เขาจะทำให้ฮาจุนคิดว่าตัวเองมาเสียเที่ยวทันทีที่มาถึงไม่ได้
มูคยอมไม่ได้เข้าไปในร่างกายของฮาจุนมาเนิ่นนาน เขาลุ่มหลงกับร่างกายนี้มากกว่าความทรงจำที่คิดถึงทุกคืนเสียอีก มันทั้งร้อนรุ่ม ราบรื่น นุ่มนิ่ม และถึงแม้ช่องทางจะหดตัวคับแคบลง แต่มันก็ขยายออกเท่าขนาดแก่นกายของเขา และดูดกลืนตอดรัดแก่นกายอย่างหนักหน่วง ราวกับอยากให้เข้ามาลึกๆ เหมือนกับตอนที่ใช้ปากปรนเปรอให้กันก่อนหน้านี้
มูคยอมละมือจากร่างกายที่ขย่มอยู่บนตัวเขา ถึงแม้การอดทนจะไม่ใช่สิ่งที่ทำได้ง่ายๆ แต่เมื่อต้องทำเขาก็ไม่มีทางเลือก มูคยอมคว้าอวัยวะที่เคยจับเอาไว้ในมือเข้ามาจรดที่ริมฝีปาก
“อ๊ะ มะ ไม่… อย่าทำ… มันสกปรก…”
มูคยอมจูบลงบนข้อเท้าที่ตัวเองเคยจับเอาไว้ จากนั้นก็อมนิ้วเท้าที่สะท้อนแสงระยับราวกับลูกปัดเข้าไปในปาก ก่อนจะดูดเลียมัน และเมื่อเขางับเข้าที่ปลายนิ้วก้อย ฮาจุนก็สั่นสะท้านและเกร็งไปทั้งท่อนขาในทันที อีกฝ่ายคงไม่รู้ว่าการทำแบบนั้น มันเกร็งมาถึงบั้นท้าย และตอดรัดข้างในจนแน่นไปด้วย
เมื่อมูคยอมแลบลิ้นออกมา แล้วลากผ่านส่วนที่เชื่อมนิ้วเท้ากับฝ่าเท้า ฮาจุนก็หงายศีรษะไปด้านหลังและส่งเสียงร้องออกมาทันที
“อย่า ฮ่ะ อึกก อย่าทำ…”
“ล้างแล้วนี่ สกปรกตรงไหน”
“ตะ แต่ อื้มม นั่นมันเท้านี่ อ๊ะ…”
มูคยอมไม่ตอบ เขาทำเพียงอมนิ้วเท้าของอีกคนไว้ในปาก แล้วดูดมันจนเกิดเสียงเฉอะแฉะ ราวกับว่าเขาจงใจทำแบบนั้น ความรู้สึกประหลาดหลั่งไหลออกมาอย่างต่อเนื่อง มันเป็นความรู้สึกที่แตกต่างจากความรู้สึกจั๊กจี้ในจุดที่ไม่เคยคาดคิดมาก่อนว่าจะถูกกระตุ้นความรู้สึกทางเพศ นั่นทำให้ใบหน้าของฮาจุนร้อนผ่าวขึ้นมาอีกครั้ง
เขาเขินอายกับความรู้สึกนั้น จึงกัดริมฝีปากไว้แน่น และพยายามจะดิ้นรนให้หลุดพ้นจากเงื้อมมือของอีกคน ทว่ามือแกร่งของมูคยอมนั้นไม่ต่างอะไรจากโซ่ตรวน
มูคยอมปล่อยนิ้วเท้า แล้วไล้ผ่านส่วนเว้าของฝ่าเท้า ก่อนจดจ่ออยู่กับการเลียหลังตาตุ่ม ขณะเดียวกันก็ค่อยๆ ขยับเอวช้าลง เมื่อผนังด้านในที่ร้อนระอุถูกเสียดสีเบาๆ ด้วยลูกสูบอันทรงพลัง ฮาจุนก็หายใจหอบราวกับขยับตามการเคลื่อนไหวของมูคยอมไม่ไหว มีความอ่อนหวานปนอยู่ในน้ำเสียงของเขา
“อะ… อา แฮ่กก อ๊ะ….”
“ชอบให้ทำช้าๆ แฮ่ก มากกว่าเหรอ”
“อะ ชะ ฮึกก อื้อ ชอบ ชอบ…”
“แปลกแฮะ โค้ชอีของฉันน่ะ ถึงจะทำแรงๆ แต่เขาก็ชอบนี่… ผ่านไปไม่กี่วัน ก็เปลี่ยน ฟู่ รสนิยมซะแล้วเหรอ?”
“ชอบ อือ ฮึก! ชอบ แต่วันนี้ วันนี้มัน…”
ร่างกายของฮาจุนกระตุกสั่น เมื่อมูคยอมกดเอวเข้าไปจนสุดและกระตุ้นจุดกระสันอย่างช้าๆ
มูคยอมมองเห็นต้นขาที่แนบชิดกับร่างกายเขากำลังเกร็ง และเมื่อมูคยอมลามเลียไปถึงเข่าด้านใน ไม่นานฮาจุนก็เอนกายพิงไปข้างหลังและสั่นสะท้านไปทั้งร่าง กระดูกเชิงกรานที่กระตุกสั่นราวกับถูกไฟฟ้าช็อต ซิกแพคที่แบนเรียบ ก่อนจะกระเพื่อมขึ้นอย่างรวดเร็วซ้ำแล้วซ้ำเล่า
มูคยอมทอดสายตามองฮาจุนที่ไม่สามารถอดทนต่อความสุขสม ที่รู้สึกได้ในส่วนลึกของร่างกาย และแสดงออกมาอย่างพึงพอใจ
“ฮื่อ อือ แฮ่ก อึ๊ก…! อั่ก อาอ๊ะ อ๊า!”
ฮาจุนปล่อยเสียงครวญครางอันหวานหูออกมาราวกับน้ำพุ ดูเหมือนว่าการกระตุ้นที่เชื่องช้าและบางเบาจะทำให้ร่างกายที่อ่อนแรงพบกับความสุขสมอันล้ำลึก
ภายในร่างเขาก็สั่นไหวไม่ต่างจากร่างกายที่มองเห็นภายนอก มูคยอมหอบหายใจ ทั่วทั้งร่างกายเขารู้สึกได้ถึงผนังด้านในของฮาจุน ที่ถึงแม้จะไม่ขยับก็ตอดรัดตัวตนของเขาจนแน่นขนัด และในวินาทีที่ห้วงอารมณ์กำลังไต่ระดับถึงจุดสูงสุด เขาก็จับต้นขาของอีกคนเอาไว้แน่น แล้วดันสะโพกจนสุดความยาว
ร่างกายของคนที่ถูกกระแทกลึกเข้าไปข้างในยามถึงจุดสุดยอดสั่นสะท้านแรงกว่าเก่า ฮาจุนร้องเสียงหลง ก่อนที่น้ำรักสีขาวขุ่นจะพวยพุ่งทะลักออกมาจากแท่งร้อนที่สั่นไหวเบาๆ ก่อนหน้านี้ และเปรอะเปื้อนหน้าท้องของทั้งสองคน มูคยอมใช้มือปาดของเหลวเหล่านั้นขึ้นมาเลีย เขาไม่ได้ชิมรสชาตินี้มานานแล้วเหมือนกัน
ฮาจุนอ่อนระโหยโรยแรงหลังจากปลดปล่อย ร่างกายสั่นสะเทือนอย่างหมดแรงทุกครั้งที่บั้นท้ายถูกกระทบเบาๆ มูคยอมมองลงที่เบื้องล่าง
เมื่อแว็กซ์ขนออกไปแล้ว เขาก็มองเห็นอวัยวะที่รุกล้ำเข้าไปในช่องทางของฮาจุนโดยไร้สิ่งใดบดบัง พอเห็นแบบนั้นแล้ว ความเป็นชายของเขาก็ตั้งชันและแข็งตัวขึ้นมาอีกครั้ง
“เห็นตอนที่มันเข้าไปในตัวนายชัดเจนเลย”
“อืม ฮึ่กก อะไร…”
“ดูสิ”
มูคยอมวาดแขนโอบรอบแผ่นหลัง แล้วยกร่างกายท่อนบนของฮาจุนขึ้นเล็กน้อย ฮาจุนทอดสายตาลงตามอีกคนด้วยสายตาเหม่อลอย และเมื่อเห็นภาพแก่นกายอันเขื่องที่ชุ่มฉ่ำมันวาวค่อยๆ สอดใส่เข้ามาในตัวเขา เขาก็รีบเบือนหน้าหนีทันที มุมปากทั้งสองข้างของมูคยอมกระตุกยิ้ม
“รัดแน่นกว่าเดิมอีก แสดงว่านายตื่นเต้นล่ะสิ”
“อ๊ะ ฮึก! มะ ไม่…”
มูคยอมดึงร่างที่กำลังโอบเอาไว้เข้ามากอด แล้วนั่งลงในน้ำ เมื่อทั้งคู่นั่งหันหน้าเข้าหากัน ฮาจุนก็ยกแขนขึ้นคล้องคอมูคยอม มือใหญ่เสยผมหน้าม้าเปียกๆ ของฮาจุนไปด้านหลัง ก่อนประทับริมฝีปากลงบนหน้าผากขาว
ฮาจุนหลับตาลง ทันทีที่มาถึงเขาก็ยุ่งอยู่กับการทำออรัลเซ็กซ์ และร่างกายที่รองรับตัวตนของมูคยอมทางด้านหลังก็หนักอึ้งเหมือนสำลีที่ชุ่มน้ำ หลังจากแตะจุดสุดยอดไปครั้งหนึ่ง สติเขาก็อ่อนล้าในทันที
แต่ร่างกายที่สอดประสานกันยังคงดำเนินต่อไป และแก่นกายที่เข้ามาเติมเต็มอยู่ในท้องก็ยังคงขยับไปมา
“อือ แฮ่ก อา…”
มือใหญ่ลูบบั้นท้ายกลมใต้น้ำ และค่อยๆ แหวกก้นทั้งสองข้างออกจากกัน ฮาจุนขนลุกซู่ เมื่อรู้สึกว่ารูจีบที่เคยปิดสนิทนั้นขยายออกเพิ่มขึ้นเล็กน้อย เพราะเอาแต่กลืนกินแก่นกายอันเขื่อง เขาเผลอขมิบแน่นโดยไม่รู้ตัว เพียงเพราะรู้สึกว่ามีน้ำทะลักเข้ามาข้างใน
จากนั้นมูคยอมก็ถอนหายใจ พลางคว้าบั้นท้ายของฮาจุนเอาไว้ แล้วยกขึ้นช้าๆ ครั้งนี้มูคยอมกดลงบนกระดูกเชิงกราน และลากเข้ามาหาตน
“อา อึก ฮื่อออ…”
จ๋อมๆ เสียงน้ำกระเพื่อมเบาๆ และช้าๆ ทิ้งช่วงห่างเป็นระยะๆ ขณะที่มูคยอมกำลังสอดใส่ทางด้านหลังอย่างช้าๆ ฮาจุนก็พิงใบหน้าลงบนไหล่ของมูคยอม และครางเบาๆ ไม่ต่างจากเสียงน้ำที่กระเพื่อมนั้นเลย หลังจากได้ลิ้มรสชาติของจุดสุดยอดไปครั้งหนึ่ง ภาพตรงหน้าเขาก็สั่นไหว แม้จะถูกกระตุ้นเบาๆ ก็ตาม
มูคยอมจับร่างของฮาจุนไว้บนตัก และขยับขึ้นลงแบบนั้น ก่อนจะเข้ามากระซิบด้วยน้ำเสียงที่เร่าร้อนอีกครั้ง
“ฉันอยากปล่อยใน อดทนต่ออีกนิดได้มั้ย”
“ฮ่ะะ อื้อ อื้มม”
“ถ้าทำในน้ำ ฟู่ว จะเหนื่อยน้อยกว่า”
หลังจากพูดจบ มูคยอมก็ดึงฮาจุนที่พยักหน้าเข้ามากอด และโยกกายอย่างสุดแรง เสียงน้ำที่กระเพื่อมเบาๆ ราวกับระลอกคลื่นริมทะเลสาบอันเงียบสงบ กลับรุนแรงขึ้นและขูดข่วนแก้วหูของฮาจุนราวกับคราด
“อึ๊ก ฮื่ออ อะ อึก”
ดูเหมือนว่าร่างกายจะเบาลงเมื่ออยู่ใต้น้ำจริงๆ อย่างที่มูคยอมพูด เขาจึงอดทนต่อแรงจากด้านล่างที่กระแทกเข้ามาที่บั้นท้ายได้ง่ายขึ้น แต่มันก็ไม่ได้ทำให้เขารู้สึกว่าแรงที่กระแทกลึกเข้ามาข้างในนั้นเบาบางลงไปด้วย
“อะ อ๊ะ อ๊า…!”
เมื่อร่างกายที่อ่อนล้าได้รับการผ่อนคลายในน้ำอุ่น ความสุขสมอันมหาศาลก็เหมือนกับสาดซัดมาจนถึงหลอดลม มันยิ่งทวีความรุนแรงและชัดเจนมากยิ่งขึ้น เส้นผมเปียกแฉะ เขารู้สึกเหมือนทุกสิ่งทุกอย่างในร่างกายหลอมละลายราวกับของเหลว และน้ำนั่นก็ไหลออกมาจากดวงตา
มูคยอมสอดใส่เข้าไปในตัวฮาจุนอยู่แบบนั้นพักใหญ่ ในที่สุดเขาก็ปลดปล่อยออกมา ตอนนั้นคนที่ขยับอยู่บนตัวเขา และถูกแทงเข้าที่จุดกระสันลึกลงไปซ้ำแล้วซ้ำเล่าอย่างฮาจุน ก็ตัวสั่นเทาและหอบหายใจ พร้อมกับสติที่สูญหายไปแล้วเกือบครึ่ง
มูคยอมแช่แก่นกายที่กระตุกวูบ และฝากฝังน้ำกามเอาไว้ในร่างกายของฮาจุนอย่างมากมาย ราวกับทิ้งร่องรอยไว้ให้คนรักที่ไม่ได้พบมานาน เขาถอนหายใจยาวๆ และจูบแก้มที่ร้อนผ่าว เสียงจูบดังก้องเป็นพิเศษเมื่ออยู่ในห้องน้ำ
“ขอโทษนะ นายเหนื่อย แต่ฉันก็ทนไม่ไหว แล้วเอาเปรียบนาย”
“มะ ไม่ ฉันก็อยากทำเหมือนกัน…”
คนที่เหนื่อยล้าจนลืมตาแทบไม่ขึ้นอย่างฮาจุนปฏิเสธด้วยน้ำเสียงที่อ่อนแรงพลางส่ายศีรษะเบาๆ
มูคยอมรู้สึกเจ็บปวดในอกราวกับถูกเฉือนเบาๆ ก่อนได้พบกับฮาจุน เขาไม่เคยรู้สึกเจ็บปวดมาก่อน แต่ตอนนี้เขากลับรู้สึกถึงความเจ็บปวดนั้น มากน้อยเป็นบางครั้งบางคราว
เขาเช็ดเหงื่อและเช็ดผมให้อีกคน หลังจากที่เช็ดตัวของฮาจุนจนแห้งแล้ว มูคยอมก็อุ้มฮาจุนไปที่เตียง พวกเขาตรงดิ่งไปที่เตียงนอน ไม่แม้แต่จะสวมเสื้อผ้า
“วันนี้นอนก่อน พรุ่งนี้ค่อยไปสำรวจบ้านกันเนอะ”
เมื่อมูคยอมกระซิบบอก ฮาจุนก็ซุกใบหน้าลงในอ้อมแขนโดยไม่ตอบอะไร และผล็อยหลับไปในทันที มูคยอมจ้องมองอีกคนนิ่งๆ อยู่ไม่กี่นาที ก่อนจรดริมฝีปากลงที่หน้าผาก พร้อมกับหลับตาลงเช่นกัน
* * *
แสงแดดอ่อนๆ ที่ส่องเข้ามา ทำให้เปลือกตาที่ปิดสนิทอาบไปด้วยสีขาว แต่แทนที่จะตื่นเลย ฮาจุนกลับส่งเสียงครวญเบาๆ พลางพลิกตัวไปด้านข้าง
จากนั้นเขาก็รู้สึกได้ว่า เจ้าของร่างกายอบอุ่นและแข็งแกร่งที่เคยนอนอยู่ข้างกันนั้นอยู่ใกล้ๆ ฮาจุนจึงควานหาไออุ่นนั่น พร้อมกับค่อยๆ ลืมตาขึ้น
“ตื่นแล้วเหรอ”
อ่า ถึงลอนดอนแล้วสินะ
โลกแห่งความจริงที่เคยถูกลืมเลือน และฝังอยู่ในห้วงนิทราลึกราวกับความตายนั้น ค่อยๆ เรียกสติของเขาให้ตื่นขึ้นอย่างช้าๆ ฮาจุนยังคงงัวเงีย เขาเหม่อมองใบหน้าของชายหนุ่มที่อยู่ตรงหน้าตน ในขณะที่นิ้วยาวก็ไล้ผ่านเส้นผมที่พันกันยุ่งเหยิงขณะนอนหลับของเขาราวกับหวี
สัมผัสที่แตะลงบนเส้นผม นอกจากจะไม่ทำให้สติกลับคืนมาแล้ว ฮาจุนกลับอ่อนล้า เขาปิดเปลือกตาที่เปิดขึ้นมาแล้วครึ่งหนึ่ง และหลับตาลงดังเดิม
“จะนอนต่อมั้ย”
“ไม่ละ…”
แค่สัมผัสคงไม่พอ มูคยอมจึงเคลื่อนเข้ามาประทับริมฝีปากลงบนหน้าผากและพวงแก้มของเขา ฮาจุนกอดและจูบอีกฝ่าย แต่แล้วจู่ๆ เขาก็ทนไม่ไหว และหัวเราะคิกคักออกมา
ต่อจากนี้ไปมูคยอมจะปลุกเขาแบบนี้ทุกเช้างั้นเหรอ พอคิดแบบนั้นแล้ว เขาก็รู้สึกจั๊กจี้ในอก เหมือนหัวใจจะหลุดออกมา แม้ฮาจุนจะระเบิดเสียงหัวเราะขึ้นมาอย่างกะทันหัน แต่มูคยอมก็ไม่ได้งงงวยเลยสักนิด อีกฝ่ายกลับยิ้มน้อยๆ และถามเขา
“ยิ้มอะไร มีความสุขที่ลืมตาขึ้นมา แล้วเห็นหน้าแฟนสุดหล่องั้นเหรอ”
“รู้ได้ยังไง”
พอฮาจุนว่าอย่างนั้น มูคยอมก็ยิ้มไม่หุบ ใบหน้าของอีกฝ่ายตอนที่ยิ้มแบบนั้น จะมองกี่ครั้งก็ไม่รู้สึกเบื่อเลย
ฮาจุนที่กำลังนอนเขินยิ้มตอบ ก่อนกวาดสายตามองซ้ายมองขวา เตียงกว้าง ในความรู้สึกของเขา ฮาจุนคิดว่ามันกว้างกว่าเตียงนอนของมูคยอมที่โซลเสียอีก
“เตียงกว้างจัง”
“อืม ตอนเด็กๆ หมายถึงตอนที่อยู่สถานรับเลี้ยงเด็กกำพร้าน่ะ”
คำตอบที่ผิดไปจากที่คาด ทำให้ฮาจุนปิดปากเงียบ แล้วสบตากับมูคยอม
“เด็กยี่สิบกว่าคนต้องนอนรวมในห้องเดียวกัน ถึงทุกคนจะตัวเล็ก เพราะยังเป็นเด็ก… แต่ฉันก็หวังว่าถ้าหาเงินได้เมื่อไหร่ ฉันจะมีเตียงนอนส่วนตัวที่กว้างเท่าสนามกีฬาดูบ้าง ต้องบอกว่าบ้านหลังนี้ เตียงนี่ มันมีความขี้อวดที่สะสมมาตั้งแต่ตอนนั้นผสมอยู่ด้วยนิดหน่อยน่ะ”
“นั่นมันขี้อวดตรงไหน”
“ตอนอยู่คนเดียวฉันก็ไม่รู้เหมือนกัน แต่พอนายมา ฉันถึงรู้สึกว่าทั้งบ้านและเตียงนี่มันใหญ่เกินไปจริงๆ ขนาดกำลังดีพอให้ใกล้ชิดกันน่าจะดีกว่า”
มูคยอมว่าอย่างนั้น และดึงเขาเข้ามากอดใกล้กว่าเดิม ก่อนที่ฮาจุนจะวาดแขนโอบกอดแผ่นหลังของอีกคนเช่นกัน ฮาจุนใช้เวลาอยู่กับมูคยอมทั้งคืนหลังจากไม่ได้พบกันนาน จนไม่กลัวว่าตัวเองจะต้องนอนซม หลังจากนั้นก็หลับลึกราวกับสลบ ก่อนจะตื่นขึ้นมาพร้อมกับสภาพร่างกายที่ดีขึ้น
หลังจากอืดอาดอยู่บนเตียงได้ไม่นาน มือของมูคยอมก็เริ่มไล้ไปตามสะโพกเปลือยเปล่า ทันใดนั้นฮาจุนก็ตื่นขึ้นมาเหมือนคนที่มีสติครบถ้วนทันที