Half Line ข้ามเส้นนี้ไป ระวังตกหลุมรัก - ตอนที่ 126
ทันทีที่พูดจบมูคยอมก็ดึงแว็กซ์ที่ทาเอาไว้ออกพรวดเดียวโดยไม่บอกไม่กล่าว เกิดเสียงแคว่กดังลั่น ทันใดนั้นความเจ็บปวดที่ร้อนวูบวาบก็แล่นปราดเข้ามา ไม่เหมือนกับที่อีกฝ่ายให้คำมั่นว่า คงไม่เจ็บเท่าไหร่เลยสักนิด ฮาจุนเผลอกรีดร้องโดยไม่รู้ตัว หลังจากนั้นไม่นานน้ำเสียงที่ไม่พอใจก็ถูกเปล่งออกมา
“ช่วยบอกกันก่อนสิ”
“ทำตอนที่ไม่รู้ตัวน่าจะเจ็บน้อยกว่าไหม”
“อา ให้ตายสิ นายทำอะไรเนี่ย…”
ทั้งส่วนล่างที่ร้อนวูบวาบ สภาพเขาที่ไม่ได้กำลังมีเซ็กซ์ แต่กลับเปิดเผยร่างกายท่อนล่างที่ล่อนจ้อน ยอมให้มูคยอมทำทุกอย่าง และเหนือสิ่งอื่นใดเขารู้สึกอับอายกับสิ่งที่ทำอยู่ตอนนี้เหลือเกิน ฮาจุนวางเบาะที่กอดเอาไว้บนหน้าอก กดแนบลงมาบนใบหน้า
ริมฝีปากของมูคยอมกระตุกยิ้มเมื่อเห็นแบบนั้น มูคยอมไม่เคยรู้มาก่อนเลยว่าเวลาที่เขินอาย อีกฝ่ายจะชอบใช้หมอนหรือเบาะปิดใบหน้าเหมือนกันกับเขา ท่ามกลางความมืดมิดของฮาจุน น้ำเสียงที่เคล้าเสียงหัวเราะของมูคยอมแทรกผ่านเข้ามา
“เมื่อก่อนฉันคิดว่านายกับฉันแทบไม่เหมือนกันเลย”
มูคยอมพูดขึ้นพลางทาแว็กซ์ลงบนส่วนที่เหลืออีกครั้ง
“แต่ยิ่งนับวัน ฉันยิ่งรู้สึกว่าเราเหมือนกันมากขึ้นเรื่อยๆ”
“อ๊า!”
ฮาจุนไม่ทันได้ตอบอะไร ความเจ็บปวดที่ร้อนวูบวาบก็แล่นเข้ามาที่ส่วนล่างอีกครั้ง ฮาจุนนอนตะแคงกลิ้งไปกลิ้งมาแล้วบ่นอู้อี้
“ต้องทำอีกกี่ครั้งเนี่ย”
“ถ้าทำทีเดียวเยอะๆ มันจะยิ่งเจ็บ ฉันถึงทำทีละน้อย”
“นายบอกว่าคงไม่เจ็บไหร่ นี่มันโกหกกันชัดๆ”
“ครั้งแรกก็แบบนี้ พอทำไปเรื่อยๆ ก็ไม่เป็นไรแล้ว”
“ต้องทำแบบนี้จริงๆ เหรอ แค่ใช้เครื่องโกนหนวดโกนออกไม่ได้เหรอ”
“แล้วตอนที่มันยาวขึ้นมาอีกรอบ มันจะเจ็บจี๊ดจนนายร้องไห้เลย”
มือของมูคยอมจับฮาจุนนอนลงดีๆ อีกครั้ง พลางแยกขาออก
“แบบนี้มันเกินไป”
มูคยอมหัวเราะและทาแว็กซ์ลงบนผิวหนังของฮาจุนอีกครั้ง หลังจากนั้นความเจ็บปวดที่แสบร้อนก็แล่นเข้ามาเล่นงานส่วนล่างของเขาอีกหลายต่อหลายครั้ง ถึงแม้มันจะไม่ได้เจ็บปวดมากมายขนาดนั้น แต่พอคิดดูแล้ว นี่มันต่างอะไรจากการขยุ้มกระชากเส้นผมออกทั้งหมดในคราวเดียวงั้นเหรอ ฮาจุนน้ำตาเอ่อในตอนสุดท้าย
เขาปล่อยให้มูคยอมจัดการกับส่วนล่างอย่างไม่มีทางเลือกอยู่พักใหญ่ ก่อนที่ผ้าเปียกผืนนุ่มจะลูบลงบนผิวเปลือยเปล่า ราวกับกำลังเช็ดส่วนที่เหลืออยู่ออก หลังจากนั้นอะไรบางอย่างที่คล้ายกับสำลีแอลกอฮอลล์หรือเจลเย็นๆ ก็ลากผ่านผิวหนัง ก่อนที่เขาจะได้ยินเสียงของมูคยอมบอกว่าเสร็จแล้ว
ดวงตาคลอน้ำตาที่หลบอยู่ใต้เบาะค่อยๆ เปิดขึ้น หลังจากเห็นเขา มูคยอมก็หัวเราะคิกคัก
“โค้ชอีร้องไห้? เจ็บขนาดนั้นเลยเหรอ”
“บอกแล้วไงว่าเจ็บ…”
“ลุกขึ้นมาดูเอาเอง”
แต่ฮาจุนกลับไม่กล้ามองส่วนล่างของตัวเอง ตั้งแต่เกิดมา เขาไม่เคยคิดเลยว่าวันหนึ่งเขาจะต้องกำจัดขนตรงนั้นออก
“อ๊ะ!”
ระหว่างที่กำลังนอนลังเลอยู่แบบนั้น ฮาจุนก็รู้สึกได้ถึงสัมผัสอ่อนนุ่มที่แตะลงมาบนส่วนนั้นที่เย็นวาบ
“สวยมาก ฮาจุน ไม่มีขนแล้วดูดีนะ”
“อย่าพูดแบบนั้น… อา…”
ริมฝีปากของมูคยอมลากผ่านไปทั่วบริเวณที่ตอนนี้กลายเป็นผิวหนังเรียบเนียนไปแล้ว มันเป็นจูบเบาๆ ที่ไม่มีแม้แต่เสียง แต่เพราะเขาอ่อนไหว จึงรู้สึกได้อย่างรุนแรงจนเผลอสะดุ้ง
“ปกติแล้วเขาบอกให้อดทน ไม่ให้ทำหลังจากนั้นทันที…”
“อื้อ ฮืออ”
มูคยอมลุกขึ้นแล้วทอดสายตามองร่างกายที่นอนอยู่เบื้องล่าง เมื่อลบความคล้ำเบาๆ ที่เคยอยู่บนเรือนร่างขาวเนียนและเรียบลื่นออกไป ทั่วทั้งร่างก็มันวาวราวกับเครื่องเคลือบสีขาว นอกจากรอยแผลที่เอวแล้ว บนร่างกายของเขาก็ไม่ปรากฏร่องรอยใดๆ เลย
ในบรรดาคลาสเรียนที่มูคยอมเคยฟังเข้าหูเขาตอนเด็กๆ ส่วนที่ยังหลงเหลืออยู่ในความทรงจำของเขา มีเรื่องราวเกี่ยวกับเครื่องเคลือบอยู่ในนั้นด้วย สรุปก็คือเครื่องเคลือบโครยอนั้นงดงาม ขณะที่เครื่องเคลือบสีขาวโชซอนนั้นบริสุทธิ์หมดจด เขาจำได้ว่าอาจารย์สอนประวัติศาสตร์วัยชราเคยอธิบายเรื่องตลกที่ลามกอนาจารให้ฟัง
ตอนนั้นมูคยอมไม่เข้าใจคำอธิบายของอาจารย์ ในสายตาของคนวัยหนุ่ม เครื่องเคลือบสีขาวที่ไร้ลวดลายนั้นดูลามกมากกว่าเครื่องเคลือบสีน้ำเงินที่มีลวดลายหรูหราจนไร้ช่องว่างเสียอีก
และฮาจุนในตอนนี้ก็เป็นแบบนั้น มูคยอมอยากลูบไล้โลมเลียให้ซีดไปทั้งตัว
มือใหญ่ควานย้อนเข้าไปลึกถึงต้นขาอ่อน ก่อนแยกขาออกกว้าง ฮาจุนเผลอเด้งเอว เพราะตกใจกับสัมผัสที่จู่ๆ ก็เข้ามาแตะที่แก่นกายของเขาอย่างนุ่มนวล
“อ๊ะ ฮ้าาา!”
“ให้มองข้ามไปเฉยๆ มันยากนะ ทำเบาๆ คงไม่เป็นไรใช่ไหม”
ตอนนั้นฮาจุนรีบใช้ศอกพยุงร่างกายท่อนบนของตัวเองขึ้น จนร่างกายท่อนล่างของตัวเองปรากฏสู่สายตา
เมื่อได้เห็นหว่างขาที่เรียบเนียนและยังคงแดงเรื่อหลังจากเพิ่งแว็กซ์เสร็จ ใบหน้าของฮาจุนก็ค่อยๆ เปลี่ยนเป็นสีแดง ฮาจุนพูดไม่ออก เขาพยายามจะยอมรับตัวเองในแบบใหม่ และในตอนนั้นเอง ลิ้นร้อนก็ลากเลียไปตามความยาวของแก่นกายอีกครั้ง
แต่ก่อนที่ฮาจุนจะหลุดพ้นจากวังวนของความสับสน แผ่นหลังและบั้นเอวของเขาก็เสียววาบ ทันใดนั้นสติของเขาก็แตกกระเจิง ฮาจุนดึงสะโพกกลับและพยายามจะลุกออกจากเตียง
“เดี๋ยวก่อนสิ ตอนนี้ฉันไม่…”
แต่เพราะท่อนแขนของมูคยอมที่โอบรอบต้นขาของเขาไว้ ร่างกายท่อนล่างของเขาจึงไม่ขยับเลยแม้แต่น้อย และถึงจะไม่เป็นเช่นนั้น ส่วนนั้นก็ยังคงอยู่ในมือของมูคยอม ความรู้สึกที่ตื่นขึ้นเพราะความประหม่าและความระบมแปรเปลี่ยนเป็นอารมณ์ทางเพศในทันที ร่างกายของเขาร้อนระอุเร็วกว่าปกติ
มูคยอมกลืนกินตัวตนของฮาจุนลึกเข้าไปในปาก ขณะที่ฮาจุนขบริมฝีปากกลั้นเสียงคราง แต่ไม่นานเขาก็ถึงขีดจำกัด
“อื้ออ, อึก… อือ ฮึกกก อะ… อ๊ะ!
เสียงครางที่กลั้นไม่ไหวค่อยๆ ดังขึ้น ในปากของมูคยอมทั้งกว้าง ลึก และร้อนผ่าว เมื่ออีกฝ่ายดูดกลืนแก่นกายของเขา ฮาจุนไม่ได้รู้สึกแค่นั้น แต่รู้สึกเหมือนกับว่าตัวเขากำลังถูกดูดกลืนเข้าไปในปากของอีกฝ่ายด้วย
ทุกครั้งที่แท่งร้อนถูกบดขยี้ด้วยลิ้น แรงกระตุ้นที่คล้ายกับกระแสไฟฟ้าก็ไหลผ่านไปยังส่วนปลายสุดในร่างกาย ทำให้ปลายนิ้วมือและปลายเท้าเขามีเรี่ยวแรงขึ้นมาอย่างรวดเร็ว
มูคยอมคายแก่นกายออกมาอย่างลื่นไหล แล้วใช้ลิ้นเลียแท่งร้อน ลากลงมาจนกระทั่งริมฝีปากบรรจบกับลูกอัณฑะกลม สลับไปมาทั้งสองข้าง ลูกอัณฑะเกลือกกลิ้งไปอยู่ในปากเหมือนลูกอม และมูคยอมก็ใช้ปากปรนเปรอต่อไป ก่อนใช้มือดันต้นขาด้านหลังของฮาจุน จนบั้นท้ายกลมปรากฏอยู่ตรงหน้า
“อ๊ะ…!”
เมื่อถูกเปิดเผยโดยไม่ทันตั้งตัว ฮาจุนก็ลนลาน ตัวแข็งทื่อ และรู้สึกได้ชัดเจนว่าช่องทางกำลังขมิบแคบลง
พอคิดว่ามูคยอมมองเห็นมันอยู่ตรงหน้า ใบหน้าเขาก็เหมือนจะระเบิด
“อย่ามอง”
“ไม่ชอบเหรอ”
“อย่าทำ…”
“อะไรกัน ทั้งที่นายแข็งโด่ขนาดนี้แล้ว”
นิ้วยาวเคาะลงบนแก่นกายที่ตั้งชันราวกับกระดอนขึ้นมา ความอับอายทำให้ฮาจุนหาคำตอบที่เข้าท่าไม่เจอ ขณะที่ฮาจุนเบนสายตาไปมองเพดาน ก้อนเนื้อนุ่มที่ดันเข้ามาทางด้านหลังกำลังบอกให้รู้ว่าอีกฝ่ายกำลังจะเริ่มต้น โดยไม่ต้องพูดอะไรสักคำ
ฮาจุนหายใจไม่ออก แม้แต่เปล่งเสียงก็ทำไม่ได้ ลิ้นที่สอดเข้ามาในช่องทางและบดขยี้กับผนังด้านในขยับวนเป็นวงกลมราวกับจะขยายรูจีบให้อ้าออก และเมื่ออีกฝ่ายขยับลิ้นเข้าออกไปมาราวกับแก่นกาย พลางถูไถเยื่อบุรอบช่องทาง ฮาจุนก็เสียวซ่านไปจนถึงท้ายทอย พร้อมกับภาพตรงหน้าที่พร่ามัว
ฮาจุนกดเบาะรองนั่งลงบนใบหน้าของตัวเองอีกครั้งอย่างเลี่ยงไม่ได้
“…ฮึกกก อือ อึก!”
“ฮ่าาา นาย”
ระหว่างนั้นมูคยอมก็ครางออกมาพลางลูบไล้บั้นท้ายด้วยความใคร่ จากนั้นก็เงยหน้าขึ้น
“คงจะสับสนระหว่างอายกับไม่ชอบ”
สองนิ้วสอดพรวดเข้าไปในช่องทางที่ขมิบตอดและแดงเรื่อพอๆ กับใบหน้าในคราวเดียวจนสุด
ขณะเดียวกันลำคอของฮาจุนก็ตึงแน่นจนมองเห็นเส้นเลือด สะโพกลอยอยู่เหนือเตียงไม่นาน ก่อนจะตกลงมา
“ฮ่ะ อะอ่า อ๊ะ อื้อ!”
มือที่สอดเข้าไปไม่รอช้า บดเบียดและกดลงที่บริเวณต่อมลูกหมาก และสอดเข้าไปข้างใน ไม่นานของเหลวสีขาวขุ่นก็หลั่งไหลลงมาจากปลายแก่นกายที่ตั้งชันมาตั้งแต่ก่อนหน้า
ความเจ็บปวดก็เป็นตัวกระตุ้นทางร่างกายงั้นเหรอ ถึงเขาจะไม่ได้เล้าโลมอะไรมากมายเมื่อเทียบกับปกติ แต่ในร่างกายของฮาจุนที่ถูกรังแกส่วนล่างมาสักพักก็ร้อนระอุ เหมือนกับถูกลูบไล้และสัมผัสอย่างหนัก
น้ำกามไหลอาบแท่งร้อนและย้อยลงมาเยิ้มอยู่บนผิวหนังที่เคยมีเส้นขนดกดำ มูคยอมถอนหายใจยาวโดยไม่ส่งเสียง ช่องทางแดงเรื่อที่เผยอออกราวกับกำลังอ้อนวอนให้สอดใส่ และผิวเปลือยเปล่าเรียบเนียนไร้ขนก็ปรากฏต่อสายตาในคราวเดียว
มูคยอมขยับนิ้วให้กว้างขึ้นด้วยความรู้สึกประทับใจจนเกิดเสียงสวบสาบ
“ฉันว่าคนที่ไม่มีขนแล้วดูดีขนาดนี้มีไม่เยอะหรอกนะ”
“อื้อออ อือ ฮื่อ!”
เสียงกรีดร้องของฮาจุนไม่ได้ดังก้องอยู่ภายในห้อง แต่ถูกกลืนหายไปครึ่งหนึ่ง เพราะเบาะที่เขายื่นให้ก่อนหน้านี้ยังคงปิดอยู่บนใบหน้าของอีกฝ่าย
ถึงกระนั้นตั้งแต่ส่วนล่างไปจนถึงลำคอขาวของฮาจุนก็กลายเป็นสีแดงอย่างชัดเจน มูคยอมแย่งเบาะนั้นไปจากอีกคน
“อย่าเอาของแบบนั้นมาปิดหน้าเวลามีอะไรกับแฟนสิ”
“ก็นายทำให้ฉันอยากปิด…”
“ลุกขึ้น”
มูคยอมคว้าแขนของฮาจุนพยุงให้อีกฝ่ายลุกขึ้น ฮาจุนลุกออกจากเตียงด้วยสีหน้างุนงง ขณะเดียวกันเขาก็โล่งใจและนึกสงสัยว่าอีกฝ่ายจะหยุดตรงนี้งั้นเหรอ
แต่แน่นอนว่ามูคยอมไม่ได้คิดจะหยุด เขาก็แค่อยากจะชิมรสชาติกระต่ายที่ถูกถอนขนให้เต็มที่อีกหน่อยก็เท่านั้น มูคยอมนั่งลงบนเตียง พลางจูงแขนของฮาจุนเข้ามาอีกครั้ง
“นอนคว่ำลงบนตัวฉันสิ โชว์ก้นนายให้ดูหน่อย”
“อะ ไม่เอาแบบนั้น”
“เร็วสิ”
แม้ว่าจะถูกปฎิเสธทันทีแต่มูคยอมไม่ได้รีบเร่ง แม้แต่เสื้อคลุมที่เคยปกปิดร่างกายของเขา ก็ถูกถอดออกด้วยน้ำมือของมูคยอม มูคยอมไม่เร่งรีบและถอดเสื้อผ้าของตัวเองออกช้าๆ ใบหน้าของฮาจุนที่หาสีของตัวเองเจอได้แค่ครู่เดียวก็ต้องเปลี่ยนไปเป็นสีแดงดังเดิม ทั้งคู่ต่างเปลือยเปล่า
“ฉันหมายถึงมันน่าอายเกินไป….”
“เมื่อก่อนก็เคยทำไม่ใช่เหรอ แล้วทำไมวันนี้จะทำไม่ได้”
ฮาจุนไม่สามารถต้านแรงที่กำลังลากตัวเขาได้ เขาทาบทับลงบนขาของมูคยอม ราวกับคร่อมอยู่บนนั้น แขนแกร่งโอบเอวของเขา ขณะที่ริมฝีปากของอีกฝ่ายคลึงที่ยอดอก ก่อนจะขยับลิ้นเลียที่ปลายยอด มือใหญ่ตบลงบนก้นกลมเบาๆ ราวกับกำลังปลอบโยนเด็กน้อย
“ฮื้อ อึก…”
“ใช่แล้ว ทีนี้หันหลัง แล้วนอนคว่ำลง โอเค”
สุดท้ายคนที่ชวนฮาจุนมานอนคว่ำหน้าลงบนตัวเขาอย่างมูคยอม ก็เอนกายนอนลงบนเตียงอย่างช้าๆ สะโพกขาว ช่องทางแดงเรื่อที่ถูกดูดเลียและสอดใส่ไปแล้วครั้งหนึ่ง หว่างขาที่ไร้ขน รวมไปถึงแก่นกายก็ปรากฏสู่สายตา
“นายสวยมาก ฮาจุน”
มูคยอมอุทานออกมาโดยอัตโนมัติ เขาจูบลงบนก้นสวย ก่อนจะสอดแขนใต้กระดูกเชิงกราน และรั้งต้นขาขาวที่เต่งตึงเอาไว้แน่น ทำให้สะโพกกดลงมาใกล้ใบหน้าของเขายิ่งขึ้น
มูคยอมแลบลิ้นออกมาเตะส่วนที่เชื่อมระหว่างรูจีบกับโคนลึงค์ ซึ่งบวมแดงเล็กน้อยเป็นสิ่งแรก เขารู้สึกได้ว่าต้นขาที่ถูกจับเอาไว้ในอ้อมแขนกำลังเกร็ง พร้อมกับสะโพกที่สะดุ้งแรง มูคยอมมองเห็นช่องทางด้านหลังที่หุบแน่น และบั้นท้ายที่กำลังเกร็งอยู่ตรงหน้า
“อะ อือออ… ฮึกกก”
มูคยอมได้ยินเสียงครางที่เล็ดรอดออกมา ก่อนที่แก่นกายจะสัมผัสได้ถึงบางสิ่งที่ร้อนระอุและฉ่ำแฉะ ฮาจุนเริ่มใช้ปากปรนเปรอให้เขาทั้งๆ ที่เขาไม่ได้สั่ง
ในวันแบบนี้แค่ได้รับอะไรแบบนี้ก็เพียงพอแล้ว มูคยอมหัวเราะพลางเลียช่องทางด้านหลังเป็นเวลานาน
“อ๊ะ อ๊า!”
“ทำไม เห็นจู๋อยู่ตรงหน้าแล้วอยากอมเหรอ”
“ก็นายนั่นแหละทำให้ฉัน อ๊ะ ฉันก็…”
อีกฝ่ายนอนคว่ำหน้าลงอย่างจำยอม เพราะไม่อาจเอาชนะความดื้อรั้นของเขาได้ แต่ยังใจดีบอกว่า ‘จะทำให้เขา’ อีก
มูคยอมชื่นชมคนรักของตัวเองในใจ พลางเคลื่อนริมฝีปากเข้าไประหว่างเนินก้น มูคยอมนึกถึงตอนแรกๆ ที่เขาเริ่มมีความสัมพันธ์กับฮาจุน ตอนที่พวกเขาโอบกอดกันและกันในท่านี้เป็นครั้งแรก
69 คือท่าที่ทำรักกันด้วยปาก ตอนนั้นเขาไม่รู้อะไรเลย ได้แต่ช่วยตัวเองและคิดแย่ๆไปว่าจะไปเลียของๆ ผู้ชายลงได้ยังไง มูคยอมจึงตัดสินใจอมและเลียตัวตนของฮาจุนให้เต็มที่ด้วยความสำนึกผิด
“อือออ อึ๊ก!”
ลิ้นที่แลบยาวออกมาแล้วกดลงบนฝีเย็บ ค่อยๆ เพิ่มแรงและเลื่อนขึ้นไปด้านบน ลากกวาดบนช่องทางด้านหลังที่หดแคบลงเพราะความประหม่า แล้วลากยาวไปจนถึงใต้กระดูกก้นกบ และประทับริมฝีปากลงบนฝีเย็บอีกครั้ง
ครั้งที่สอง ครั้งที่สาม ครั้งที่สี่… ก้นกลมที่ถูกลูบไล้ด้วยความรักใคร่อย่างเชื่องช้าทว่ายาวนานซ้ำแล้วซ้ำเล่า สั่นสะท้านอย่างเอาแต่ใจ ฮาจุนขยับตัวแทบไม่ได้ ทำได้เพียงครอบครองแก่นกายของมูคยอมเท่านั้น
“ไหนๆ ก็ทำแล้ว ลองเลียดูสิ”
“อือ ฮึก…”
เมื่อมูคยอมเด้งเอวเล็กน้อยและสอดเข้าไปในปาก ริมฝีปากของฮาจุนที่ครอบครองแก่นกายอยู่ก็ขยับขึ้นลงอย่างเชื่องช้า
ถึงแม้มันจะเป็นการทำเฟอเลชิโอที่เอาแต่ใส่เข้าปากและผงกหัว เพราะริมฝีปากของอีกฝ่ายหมดเรี่ยวแรงจนดูดหรือเลียไม่ไหว แต่ตัวตนของมูคยอมก็ดิ้นไปมาและขยายขนาดใหญ่โตอยู่ในปากของฮาจุน ตอนนี้แค่ถูไถกับเยื่อบุที่นุ่มลื่น มูคยอมก็รู้สึกเสียวซ่านไปหมด
เขาจูบลงบนช่องทางที่ปิดสนิทอย่างดื้อรั้น เมื่อมูคยอมเกร็งปลายลิ้นและสอดเข้าไปขยายรอยจีบให้อ้าออก ร่างกายของฮาจุนก็เริ่มสั่นระริกอย่างควบคุมไม่อยู่ ถึงแม้อีกฝ่ายจะหยัดกายขึ้นเหมือนคนที่พยายามจะหนี แต่ฮาจุนก็ไม่อาจหลุดพ้นจากแขนของมูคยอมที่พันธนาการต้นขาและกระดูกเชิงกรานเอาไว้ได้
มูคยอมดุนดันลิ้นเข้าไปข้างใน และเด้งเอวขึ้นเต็มแรง จนแก่นกายอันเขื่องแทงลึกเข้าไปในปากของฮาจุน ที่กำลังครอบครองตัวตนของมูคยอมอย่างเงอะงะ
“-ฮืออออ ฮื่อ อึ๊ก!”
ฮาจุนที่ถูกกระตุ้นทั้งด้านบนและด้านล่างในเวลาเดียวกัน กลืนก้อนสะอื้นลงคอพลางขยับร่างกายที่ถูกพันธนาการขึ้น มูคยอมแลบลิ้นให้ยาวขึ้นอีก
ตอนแรกมันคือการกระทำที่คาดไม่ถึง แต่มูคยอมชอบที่จะจูบช่องทางด้านหลังของฮาจุน จริงๆ แล้วช่องทางที่สอดใส่แก่นกาย ก็ถือเป็นปากล่างได้เหมือนกันไม่ใช่เหรอ
เพราะในช่องทางนั้นทั้งร้อนฉ่าและฉ่ำแฉะเสมือนปากอีกปากหนึ่งจริงๆ พอเลียแล้ว ความรู้สึกก็ไม่ต่างจากตอนจูบเลยสักนิด ถึงแม้จะไม่มีอีกลิ้นหนึ่งเข้ามาเกี่ยวพันกับลิ้นของเขา แต่ความรู้สึกยามช่องทางขมิบตอดลิ้นนั้นมันก็ไม่แย่
“อะอา อ๊า! อ๊ะ อ๊ะ ฮ่าาา…!”
ทว่าสิ่งที่ดีกว่าเมื่อเทียบกับจูบนั้น คือฮาจุนรู้สึกรุนแรงกว่าตอนจูบ
มูคยอมสอดลิ้นและกวัดแกว่งเข้าไปข้างในอยู่พักใหญ่ ก่อนจะถอนหายใจยาว และเลิกเกร็งคอ ทันที่ที่ทิ้งศีรษะนอนราบลงกับเตียงมองเห็นช่องทางที่เผยอออกเล็กน้อยและกำลังขมิบอย่างชัดเจน มูคยอมเมียงมองด้วยสายตาพึงพอใจ แล้วขยับบั้นท้ายของฮาจุนไปด้านหลังอีก