Half Line ข้ามเส้นนี้ไป ระวังตกหลุมรัก - ตอนที่ 134
“สวยจัง”
ตัวของฮาจุนสั่นเทาและอ่อนปวกเปียกเพราะเรี่ยวแรงทั่วทั้งร่างเหือดหาย มูคยอมลูบไล้ร่างกายของอีกฝ่ายทั่วทุกจุด จากนั้นจึงพึมพำขึ้นมาอย่างพอใจ พร้อมทั้งหยุดบดเบียดริมฝีปากลงมาตรงบริเวณด้านหลัง
“สวยมาก… จนกระวนกระวาย กลัวว่าใครหน้าไหนจะได้รู้จักนายในมุมนี้”
มูคยอมพูดเสร็จก็ดันตัวขึ้นแล้วใช้มือตัวเองจับตรงโคนแกนกายที่ตื่นตัวแข็งขึงทันที จากนั้นก็เล็งตรงกลางบั้นท้ายที่ตนฝังใบหน้าลงซุกไซ้จนถึงเมื่อสักครู่
ช่องทางรักขมิบถี่ราวกับจะดูดกลืนส่วนปลายแกนกายก่อนที่จะสัมผัสลงไปแนบชิดเสียอีก ส่วนที่พองตัวจนขยายใหญ่ แทรกตัวเข้าไปในช่องทางนั้นอย่างรุนแรงในรวดเดียว
“ฮื้อ…”
การสอดใส่ที่ลึกและเร็วทำให้ตัวของฮาจุนสั่นเทิ้มอย่างแรง เสียงครางดังเล็ดลอดออกมาเพียงเบาๆ ราวเสียงถอนหายใจเท่านั้น ไม่มีเสียงอื่นใดถูกเปล่งออกมาจากปาก มีเพียงกุญแจมือตรงข้อมือที่กระทบกันดังรัวเร็วอย่างต่อเนื่อง ราวกับเป็นเครื่องดนตรีที่กำลังบรรเลงด้วยแรงสั่นสะท้านจากทั่วร่าง
“ฮ้าาา…”
มูคยอมพ่นลมหายใจออกมา ผนังด้านในที่รองรับตัวตนของมูคยอมเข้ามาลึกจนเกือบสุดโคน สั่นระริกเหมือนร่างกายเจ้าของ พร้อมทั้งต้อนรับสิ่งแปลกปลอมที่บุกรุกเข้ามาด้วยความยินดี
ปกติแล้วมูคยอมกลับลิ้มรสสัมผัสของเยื่อเมือกด้านในที่โอบชิดตัวตนของตัวเองเอาไว้อย่างเชื่องช้า และนั่นทำให้ฮาจุนได้มีจังหวะหายใจหายคอเช่นกัน แต่ในวันนี้มูคยอมกลับเต็มไปด้วยความปรารถนาที่ไม่บริสุทธิ์ ไม่หลงเหลือความสบายใจไว้เลย
มูคยอมหยัดเอวอย่างรุนแรงทันทีพร้อมทั้งกระทุ้งส่วนลึกด้านใน
“ฮึก อือ อื๊อ! ฮ้า… อ๊า!”
เสียงครางขาดๆ หายๆ พรั่งพรูออกมาจากร่างกายที่สั่นคลอน ฮาจุนถูกมูคยอมกระแทกกายเข้ามาจนตัวโยน ในที่สุดร่างกายก็ทนไม่ไหวแล้วขาที่เคยตั้งยันไว้ก็ทรุดฮวบ
มูคยอมจับขาของฮาจุนมาชิดกันแล้วขยับเข้ามาด้านหน้ามากขึ้น เขาไต่ขึ้นมาราวกับคุกเข่านั่งทับบนสะโพกและโคนขาของร่างที่นอนคว่ำ
“อ๊าาา! อ๊ะ… อ๊า อ๊า อ๊า อ๊า!”
ร่างกายอันหนักอึ้ง ทิ้งน้ำหนักตัว จ้วงกายเข้าออกต่อเนื่องจากบนลงล่างอย่างไร้ความปรานี เสียงกรีดร้องระเบิดออกมาจากปากของฮาจุน ผนังเนื้อด้านในที่เปียกชุ่มถูกบดเคล้าและเสียดถูไม่ยั้ง ราวกับดินเฉอะแฉะที่ถูกไม้ตะบองโขลกทุบอย่างแรง
ร่างกายท่อนล่างถูกกดให้แผ่ลงกับเตียงหมดทุกส่วน แล้วแรงกดที่ปล่อยออกไปก็ทำให้ทั้งร่างกายสั่นสะเทือนขึ้นลง เสียงโลหะดังแกร๊งๆ อย่างต่อเนื่องจากบนศีรษะ
ท่อนเนื้อแห่งความหฤหรรษ์ตอกอัดเข้าไปตรงจุดลึกในร่างกายซ้ำแล้วซ้ำเล่าอย่างดุดันและหนักหน่วง จนรู้สึกว่าถ้าทำต่อเนื่องไปก็อาจเกิดเรื่องผิดพลาดอะไรสักอย่าง ท้องน้อยสะเทือนดังปั้กๆ ไม่รู้สึกว่าขับน้ำออกมาเลยแท้ๆ แต่ช่วงล่างกลับเปียกชุ่มฉ่ำไปหมด
ฮาจุนมุดใบหน้าลงกับหมอน หัวส่ายไปมาอย่างหนักหน่วง “พอแล้ว พอ พอแล้ว!” เสียงกระท่อนกระแท่นดังเฉียดผ่านใบหูของมูคยอมแต่ไม่ลอดเข้าไป
ฮาจุนกวัดแกว่งน่องขาที่เป็นอิสระเพื่อจะหนีไปบ่อยครั้ง แต่ฝ่ามือของมูคยอมก็ออกแรงกดลงบนเอวของฮาจุนแน่น เมื่อเอวถูกล็อกไว้ ส่วนที่ตื่นผงาดราวกับอาวุธสังหารก็ถอดถอนออกไปจากกลางบั้นท้ายขาวแล้วฝังกลับเข้าไปอีกครั้งอย่างว่องไว มูคยอมเห็นภาพนั้นได้อย่างแจ่มชัด
มูคยอมมองดูภาพนั้นด้วยตาตัวเองพร้อมกับกัดฟันด้วยความใคร่ที่พลุ่งพล่านอย่างรุนแรงมากขึ้นทีละนิด คำชมเชยเปล่งออกมาโดยอัตโนมัติ
“อา ดี ฮาจุน ดีมาก ดีสุดๆ”
ดวงตาเมามายปรือลงครึ่งหนึ่ง เสียงครางทุ้มต่ำด้วยความลุ่มหลงไปกับความสุขในกาม ฟังดูแทบจะเหมือนกับเสียงร้องในลำคอของสัตว์ ทุกครั้งที่เสือกไสเอวลงมา เสียงหอบหนักๆ ก็จะดังขึ้น เงาที่เหมือนกับรอยสักทาบทับลงบนแผ่นหลังขาวผ่องที่สั่นสะเทือนภายใต้ความมืดสลัว
มัดกล้ามที่ไม่นูนชัดขนาดนั้นในที่สว่าง กลับเผยให้เห็นรายละเอียดสวยงามของมันท่ามกลางความมืด ทุกครั้งที่แกนกายจ้วงเข้าด้านใน เงาบนแผ่นหลังก็จะขยับโยกตามไปด้วย มูคยอมจับจ้องภาพตรงหน้าอย่างหลงใหลด้วยความบริสุทธิ์ใจ ราวกับคนที่กำลังทอดสายตามองก้อนเมฆเปลี่ยนรูปร่าง
แม้สังเกตเพียงการเคลื่อนไหวของกล้ามเนื้อก็สามารถคาดเดาจุดประสงค์ของการทำท่าทางนั้นได้ ฮาจุนคงลืมว่าตัวเองถูกล็อกข้อมืออยู่บ่อยๆ จึงขยับมือมาด้านหลังอยู่เรื่อยเพื่อที่จะดันตัวมูคยอมออกไป ทุกครั้งที่ทำแบบนั้น ข้อมือของอีกฝ่ายก็จะถูกวงล้อที่ทำจากเหล็กรั้งไว้ ฮาจุนถูกความคิดไปเองของตัวเองทรยศเสียทุกครั้ง และในที่สุดจึงเริ่มเว้าวอนพร้อมร้องไห้
“อ๊าาา! อ๊ะ พะ พอ พอแล้ว! ฮึก! คิมมูคยอม ไว้ ไว้ชีวิต…! อ๊ะ อ๊า!”
‘ฉันต้องไว้ชีวิตนายแน่นอนอยู่แล้วสิ’ มูคยอมไม่เข้าใจเลยว่าทำไมอีกคนถึงพูดแบบนั้น ต่อให้ฮาจุนตั้งใจจะตายจากไป เขาก็จะทำให้อีกฝ่ายมีชีวิตอยู่ต่อ แต่ดันมาร้องขอชีวิตจากเขาเนี่ยนะ
มูคยอมโน้มตัวลงประทับริมฝีปากบนลำคอด้านหลังกับหัวไหล่ที่สั่นกระตุก เมื่อเคลื่อนใบหน้าเข้าไปใกล้ เขาจึงได้ยินเสียงสูดน้ำมูกร้องไห้อย่างชัดเจน
เวลามีเซ็กส์ กลิ่นกายของอีกฝ่ายจะลุ่มลึกขึ้น มูคยอมหลับตาลงซึมซับกลิ่นนั้นพร้อมกับขยับศีรษะของตัวเองไปด้านข้างใบหน้าของฮาจุนซึ่งคว่ำลงอยู่ เขายกคางขึ้น ไล่กดริมฝีปากลงบนใบหู แก้มเปียกชื้น ขมับ และริมฝีปากหลายครั้ง หลังจูบซับก็พึมพำออกมา
“อย่าไปไหนเลยนะ ฮาจุน”
ฮาจุนพยักหน้าอย่างหนักหน่วง
“อื้อ ไม่ไป จะไม่ไป ฉันจะไม่ไปไหน…”
“จริงเหรอ”
มูคยอมโยกเอวสวนกายเข้าไปชนดังปั้กอีกครั้งด้วยความอารมณ์ดีกับคำตอบของอีกฝ่ายที่บอกว่าจะไม่ไปไหน
“อื๊อ! แฮ่ก… ฮึก…”
ตัวของฮาจุนกระเด้งขึ้นพรวด มือที่ถูกยึดไว้ประสานนิ้วบีบเข้าหากันแน่นและสั่นเบาๆ
มูคยอมดันตัวขึ้นมา ปล่อยมือออกจากขาที่เคยกดทับแล้วจับตัวของฮาจุนให้พลิกนอนตะแคงข้าง ใบหน้าที่มุดลงถูไถกับหมอนอยู่พักใหญ่ๆ ขึ้นสีแดงจัด แก้มที่เปียกแฉะหยาดน้ำตาอยู่ทั่วสะท้อนกับแสงไฟ
ขาข้างหนึ่งถูกยกขึ้น ส่วนอีกข้างวางลงกับที่นอน มูคยอมเปลี่ยนท่าทางแล้วบีบเจลลงตรงส่วนที่ร่างกายสอดประสานจนชุ่มฉ่ำอีกครั้ง จากนั้นเมื่อเขาขยับโยกเอวหน้าหลังหนักๆ ช่องว่างระหว่างร่างกายของคนทั้งคู่ก็แนบสนิท แกนกายลื่นไถลเข้าไปถึงจุดที่ลึกเสียจนไม่สามารถเข้าไปได้ไกลกว่านี้อีกแล้ว
“ฮ้า อ๊า…!”
“ฮ้า…”
คงเพราะบิดตัวแล้วฝังแกนกายเข้าไปเป็นแนวเอียงเล็กน้อย ความรู้สึกที่แก่นกายเข้าไปสัมผัสนั้นแตกต่างจากปกติ รู้สึกได้ว่าโพรงเนื้อด้านในบีบกระชับเข้ามาอีกหน่อยตรงจุดที่คับแคบลง มูคยอมครางออกมาเบาๆ กับสัมผัสนั้น
มูคยอมคิดว่าเคยเข้าไปทักทายด้านในตัวฮาจุนมาครบทุกจุดแล้วแท้ๆ แต่ยังมีส่วนที่สามารถสัมผัสได้มากกว่านี้อยู่อีกสินะ
มูคยอมหยัดเอวเน้นหนักทั้งที่ยังสอดคาไว้และแนบตัวชิดกับร่างกายท่อนล่างของอีกฝ่ายให้มากที่สุดเท่าที่ทำได้ ทุกครั้งที่ส่วนหัวหนาบดขยี้เนื้อเยื่ออ่อนนุ่มซึ่งไม่เคยสัมผัสมาก่อน ผิวเนื้อด้านในที่ไวต่อความรู้สึกก็จะขมิบตอด กระตุ้นส่วนปลายแกนกายราวกับมีปากเล็กๆ
ฮาจุนหายใจหอบเพราะแรงกระตุ้นอันเสียดเสียวนั้น ทั้งตัวสั่นหงึกราวกับถูกไฟดูด ปากส่งเสียงกรีดร้อง ในขณะเดียวกันเอวก็บิดกระเสือกกระสน
“อ๊า! ฮ้าาา! อึก พอแล้ว เยอะ ข้างใน เยอะไป… อ๊า…!”
ปลายเท้าฮาจุนขดงอ ขาทั้งขาเกร็งกระตุก แกนกายชูชันกระดิกกวัดไกว หยาดน้ำตาซึมออกมาและไหลลงเบื้องล่างดวงตาที่ถูกปิด
มูคยอมรู้สึกได้ถึงแรงเกร็งกล้ามเนื้อด้านในต้นขาซึ่งวางอยู่บนเตียงกับเอวที่ถูกยึดไว้ ราวกับอีกฝ่ายตั้งใจจะดึงตัวเองออกไปด้านหน้าเพียงแค่นิดเดียวก็ยังดี ทว่ามีเพียงด้านในที่หดตัวรัดแน่นเท่านั้น ร่างกายที่นอนใต้ร่างแกร่งดั่งหินผาของมูคยอมไม่เขยื้อนเลยแม้แต่น้อย ร่างที่เคยออกแรงเกร็ง กลับมาอ่อนปวกเปียกอีกครั้ง มีเพียงเสียงครางที่ดังลอดริมฝีปากออกมาอย่างหนักหนามากขึ้น
“จนถึงตอนนี้ ฉันยังไม่เคยไม่พอใจขนาดท่อนฉันเลยนะ แต่วันนี้รู้สึกเสียดายนิดหน่อยแฮะ…”
มูคยอมเลียริมฝีปากของตัวเองแล้วกลับมาโยกเอวยาวๆ อีกรอบ
“ฮ้าาา! อ๊ะ อ๊า! ตรงนั้น ไม่เอา ไม่…!”
“ในตัวนาย ยังมี ส่วนที่ฉันสัมผัสไม่ถึง อยู่อีกงั้นเหรอเนี่ย…”
“อ๊า ขอร้อง ขอร้อง! เอา ออก…! ฮึก นิดเดียว แค่นิดเดียว…! อ๊าาา! อ๊า! อ๊า!”
เสียงโลหะดังขึ้นและถี่ขึ้นทีละนิด คลอเคล้ากันไปกับเสียงกรีดร้อง ท่อนเนื้อที่แทรกลึกในโพรงเนื้อที่บีบรัดแน่น ถูกถอนออกมาครึ่งลำแล้วทิ้งน้ำหนักเสียบกลับเข้าไปอีกครั้ง
ทุกครั้งที่มันสอดทะลวงเข้ามาในร่างกายและครูดกับผนังเนื้อ ตัวของฮาจุนก็จะดีดกระเด้งขึ้นมาเล็กน้อยแล้วสั่นเทาอย่างต่อเนื่อง ทั้งที่ยังถูกกดทับด้วยน้ำหนักตัวอันหนักอึ้งของคนบนร่าง มูคยอมยื่นมือไปหาร่างขาวผ่องที่ดูซีดเซียวไปหมดทั้งที่อยู่ในระหว่างการร่วมเพศอันดุเดือด
“อ๊ะ อ๊าาา ฮ้า…!”
บริเวณกระดูกซี่โครงพองขยายแล้วหดกลับไม่เป็นจังหวะเพราะวุ่นอยู่กับการหายใจหอบถี่ ทันทีที่ปลายนิ้วของมูคยอมแตะลงบนนั้น ฮาจุนก็ขดตัวเข้าหากันพร้อมระเบิดเสียงครางออกมาไม่หยุดยั้ง เสียงโซ่เหล็กแกว่งกระทบกันดังกว่าเดิม
ทุกครั้งที่มูคยอมลากมือผ่านเอว หน้าท้อง และยอดอกของร่างที่ถูกพลิกตะแคง อีกฝ่ายก็จะตัวสั่นระรัวราวผิวน้ำที่แผ่กระจายออกรอบข้าง
“อา ยะ อย่า อย่าลูบ…ไม่…”
เพียงสัมผัสที่ถูกฝ่ามือกวาดลากอย่างแผ่วเบาก็ทำให้ฮาจุนดิ้นทุรนทุรายราวกับว่ามันเกินขีดจำกัดของเขาแล้ว ฮาจุนเอ่ยปากห้ามมูคยอมด้วยเสียงยานคางไร้เรี่ยวแรง มูคยอมไม่ฟังแล้วเลื่อนมือลงมาด้านล่างทีละนิด เขาลดมือลงไปถึงหว่างขาที่อ้ากว้าง ตรงส่วนบนรูรักของอีกฝ่ายซึ่งเป็นจุดที่ร่างของทั้งคู่สอดประสานกันแล้วไล้มือเป็นวงกว้าง
“…ฮื้อ อึก อ๊ะ อ๊าาา…!”
ต่อมลูกหมากกับจุดลึกที่ไวต่อความรู้สึก ได้รับการกระตุ้นอย่างหนักหน่วงและรุนแรงหลายต่อหลายครั้ง ความสุขสมก่อตัวจากด้านใน และตอนนี้ก็รู้สึกราวกับมันจะแผ่ซึมออกมาบนผิวกายทั่วทั้งตัว ปลายนิ้วของมูคยอมไม่ได้ถ่ายน้ำหนักลงไปด้วยซ้ำ มันเพียงแค่ปัดผ่านผิวกายของอีกฝ่ายอย่างนุ่มนวล แต่ฮาจุนกลับไม่สามารถขยับร่างกายได้ดั่งใจและร้องครวญครางออกมาเพราะประสาทสัมผัสที่แทบจะใกล้เคียงกับการสั่นกลัว ราวกับการมองเห็นที่เคยมืดมิด สว่างวาบขึ้นมาในชั่วเวลาสั้นๆ
มูคยอมลดความเร็วในการบดเอวลงและเพลิดเพลินอยู่กับการลูบไล้ร่างกายของฮาจุน สัมผัสของเขาอ่อนโยนและน่าจะไม่ต่างอะไรกับการลูบไล้ด้วยความรักใคร่หลังเสร็จกิจในเวลาปกติ แต่ฮาจุนกลับตัวสั่นหนักขึ้นเรื่อยๆ แล้วในที่สุดก็กระตุกเกร็ง ทั้งหน้าท้องส่วนล่าง เชิงกราน และต้นขาด้านในต่างก็สั่นสะท้านอย่างถี่รัว
ของเหลวฉีดพุ่งออกมาจากรอยแยกตรงส่วนหัวมน แล้วไม่นานก็ไหลทะลัก น้ำสีใสหยดติ๋งๆ ลงมาจากส่วนปลายลำกาย
“ฮ้าาา ฮ้า…! อา อ๊ะ…”
ในขณะที่ขับออกมาอย่างยาวนานพอสมควร ฮาจุนก็ดิ้นตะเกียกตะกายราวกับหายใจไม่ออก ขาที่วางอยู่บนไหล่ของมูคยอม เหยียดตรงสลับห้อยลงซ้ำๆ พร้อมทั้งกวัดแกว่งไปมาอย่างคุมไม่อยู่ ปลายเท้าขดงอและสั่นระริก
มูคยอมฟังเสียงของอีกฝ่าย กับเสียงเหล็กที่ดังขึ้นทุกครั้งที่ตัวของอีกฝ่ายสั่น และมองดูฮาจุนไปถึงจุดสุดยอดเมื่อครู่นี้อย่างเหม่อลอย เขารู้สึกราวกับอยู่ในห้วงความฝัน
มูคยอมรวบรวมความคิดที่แตกกระเจิงให้กลับมาอย่างยากลำบาก แล้วมองสำรวจร่างกายของฮาจุนซึ่งนอนอยู่ใต้ร่างของตน ตอนนี้อีกฝ่ายตัวสั่นสะท้านอย่างหนักไปทั้งตัวราวกับคนถูกมีดเสียบแทงไม่ใช่แกนกาย ซ้ำยังร้องไห้ทั้งที่ศีรษะยังมุดอยู่ระหว่างแขนที่ถูกยึดไว้
“อึก…ฮือออ อึก ฮึก…!”
มูคยอมคลำมือไปตรงด้านในโคนขาที่ตัวเองกดทับไว้ ขาของอีกฝ่ายเปียกลื่นไปด้วยน้ำกาม มูคยอมก้มลงมองภาพฮาจุนหายใจหอบสะอึกสะอื้น แล้วถอนหายใจยาวออกมา
ลำคอขาวผ่องเหยียดยาวและสั่นเทาทุกครั้งที่น้ำตาจะไหล มันเผยให้เห็นเค้าโครงอย่างแจ่มชัด แก้มขาวเปรอะน้ำตาดูเรียบลื่นราวไข่มุกแม้มองในที่มืด แผ่นอกกับหน้าท้องมีกล้ามเนื้อชวนมอง เงาของมัดกล้ามบางๆ ทั่วร่างไหววูบหรือไม่ก็ปรากฏให้เห็นแล้วหายวับไป ราวกับลวดลายที่เคลื่อนไหวทุกครั้งยามตัวสั่นไหว โครงร่างของโคนขาและเอวที่มีกล้ามเนื้อแน่นแต่เรียบเนียน เผยออกให้เห็นอย่างแจ่มแจ้งยิ่งกว่าเดิมเมื่อนอนตะแคงข้าง สัดส่วนเหล่านั้นทำให้มูคยอมรู้สึกร้อนรุ่มขึ้นเพราะความจริงที่ว่าตนเองกำลังครอบครองอีกฝ่ายอยู่
คนเราก็เหมือนๆ กันหมด ในสายตาของเขา ฮาจุนสวยขนาดนี้ แล้วในสายตาคนอื่นจะมองต่างกันหรือไง คนที่ปรารถนาในตัวอีฮาจุนจะมีเพียงแค่เขาคนเดียวได้อย่างไรกัน
ต่อให้ฮาจุนไม่มีใจให้คนอื่นเลยสักนิดก็เถอะ แต่คงไม่มีทางไหนที่เขาจะปัดป้องสายตาโลมเลียร่างกายของอีกฝ่าย หรือกลอุบายลับๆ ที่หวังจะได้รับความชอบพอกลับไป และคำพูดพล่ามกระซิบบอกรักที่เล็ดลอดสายตาของเขาไปได้ เหลือเพียงทางเดียวคือซุกซ่อนอีกฝ่ายไว้ให้อยู่ในที่ที่ไม่สะดุดตาใคร
มันต่างกับเมื่อก่อนที่เขายังไม่คบหากับอีกฝ่ายเป็นคนรัก ‘ตอนนี้ฮาจุนเป็นของฉัน ฉันสละให้ใครไม่ได้อย่างเด็ดขาด ฮาจุนเป็นของฉัน…’
เมื่อมูคยอมก้มตัวลงไป ฮาจุนก็หดไหล่กับคอเข้าหากันพลางส่ายหน้า เสียงของอีกฝ่ายแหบเครือเล็กน้อย
“คิมมูคยอม พอแล้วจริงๆ จริงๆ นะ… ตอนนี้ฉัน เหนื่อยมาก ทำไม่ไหวแล้ว…”
เพราะร้องไห้จึงทำให้ทั้งเสียงพูดและเสียงหายใจขาดห้วงไม่เป็นจังหวะ มือของมูคยอมแตะลงบนแก้มเปียกชื้น มือของเขาลูบไล้ราวกับเช็ดน้ำตาออกให้จนแก้มของฮาจุนบู้บี้ไปหมด
แม้ว่าดวงตาจะถูกผ้าบดบังแต่แก้มก็ยังคงเปียกชุ่ม ฮาจุนร้องไห้หนักมาก มูคยอมขมวดคิ้วแวบหนึ่งแล้ววางขาของฮาจุนที่เคยยกพาดไหล่จนถึงตอนนี้ลง เมื่อจับร่างที่ยังคงสั่นเทิ้มของอีกฝ่ายให้นอนลงดีๆ แล้วดึงเข้ามากอด ฮาจุนจึงสะอื้นพร้อมกับพูดต่อ
“ปลดข้อมือฉัน ออกหน่อย… ตาด้วย ฮึก เอาที่บังตา ออกให้หน่อย”
“…ถ้าปลดออก นายจะตีฉันแล้วหนีไปหรือเปล่า”
“ไม่ไป จริงๆ นะ ไม่ไปจริงๆ…”
หัวใจของมูคยอมเจ็บปวดอีกครั้งเพราะเสียงร้องไห้ราวกับฝังใจ
นอกเหนือจากร้องไห้เพราะรู้สึกดีแล้ว เขาก็ไม่ชอบให้อีกฝ่ายร้องไห้เลย มูคยอมส่ายหน้าแรงๆ สองสามครั้งเพื่อสลัดความเมามายทิ้งไป ภายในหัวงงงวยและมึนเบลอ เขาแบ่งแยกไม่ได้ว่าอีกฝ่ายร้องไห้เพราะรู้สึกดีหรือไม่
“ร้องไห้เพราะมันดีหรือเปล่า”
ฮาจุนตอบคำถามนั้นในทันทีไม่ได้ อีกฝ่ายเผยอปากขึ้นแล้วจึงตอบ
“…อื้อ…”
จากนั้นจู่ๆ ฮาจุนก็เริ่มร้องไห้ฮักๆ หนักขึ้น มูคยอมเองก็รู้สึกได้อย่างแน่ชัดแล้วเพราะอีกฝ่ายตัวแนบชิดในอ้อมแขน ว่ามันคือการร้องไห้จริงๆ หน้าอกสะท้านขึ้นลงอย่างแรง อาการของฮาจุนแบ่งแยกจากการตัวสั่นหรือสะอื้นเพราะความสุขสมทางเพศได้อย่างชัดเจน
“คิมมูคยอม ขอร้อง… ฮึก ฉันอยากเห็นนาย… เอาที่ปิดตาออกให้หน่อย”
มูคยอมได้สติขึ้นมาทันที ใจร่วงตกไปอยู่ตรงตาตุ่มจากเสียงสะอึกสะอื้นอย่างน่าเห็นใจ
“เข้าใจแล้ว เข้าใจแล้ว ฮาจุน อย่าร้องไห้นะ”
มูคยอมรีบคลายปมเชือกที่ผูกไว้ด้านหลังศีรษะของอีกฝ่าย ปมเชือกที่มัดด้วยฤทธิ์เหล้าแน่นไม่น้อยจึงทำให้ต้องใช้เวลาในการปลดออก
ผ้าสีเข้มร่วงผล็อยลงมาบนใบหน้า ดวงตาที่เคยถูกบดบังอยู่ใต้ผืนผ้า ปรากฏออกมาให้เห็น มูคยอมรู้สึกราวกับหยุดหายใจไปชั่วขณะ ขอบตาที่เดิมทีเคยขาวกระจ่าง ตอนนี้กลับแดงช้ำเพราะถูกผ้าปิดตาเสียดสีเปลือกตาอย่างต่อเนื่อง และเพราะน้ำตาไหลลงมาหยดแล้วหยดเล่า
ฮาจุนยังติดอยู่ในความเสียวซ่านและแรงกระตุ้นเกินขีดจำกัด ถึงแม้ว่าจะกลับมามองเห็นแล้วแต่ก็ยังตั้งสติไม่ได้ อีกฝ่ายมองมาด้วยดวงตาที่สั่นเทาอย่างน่าเป็นห่วง และดวงตาคู่นั้นเข้ามาเขย่ากระทั่งหัวใจของเขาด้วย มูคยอมอยากจะชื่นชมมันให้เต็มที่เท่าที่ทำได้ ราวกับมีอัญมณีที่เพิ่งเคยค้นพบเป็นครั้งแรกในวันนี้อยู่ตรงหน้า
‘ทำบ้าอะไรลงไป’
ทิ้งภาพดวงตาเปียกรื้นไปด้วยน้ำตาไปสติที่เคยเลือนรางกลับมาชัดเจน มูคยอมจึงมองเห็นภาพอันน่าเจ็บช้ำใจที่ตัวเองก่อขึ้นอย่างแจ่มชัด เรื่องที่ฮาจุนสวยก็เป็นเรื่องหนึ่ง ส่วนการกระทำที่ตัวเขาทำลงไปนั้นก็เป็นคนละเรื่องกัน
ในขณะที่มูคยอมมองตาฮาจุนแล้วล็อกสายตาไว้ตรงนั้น ดวงตาที่เคยไร้จุดโฟกัสพักหนึ่งก็จับจ้องมาทางเขา ราวกับอีกฝ่ายกำลังรวบรวมสติและประสาทสัมผัสที่พร่าเลือนกลับมา หางคิ้วของอีกฝ่ายลู่ลงด้านล่าง ความรู้สึกที่ฉายชัดให้เห็นเป็นอย่างแรกบนใบหน้าที่แปรเปลี่ยนไปทำท่าจะร้องไห้ คือความรู้สึกปลอดภัย ไม่ใช่ความโกรธแค้นหรือขุ่นเคือง
เมื่อแสงสว่างกลับเข้ามาสู่ดวงตา ริมฝีปากที่เคยสั่นระริกก็ขยับได้ดั่งใจกว่าเมื่อครู่ เสียงพูดที่เคยอู้อี้เพราะร้องไห้ก็ชัดถ้อยชัดคำขึ้นและเสียงก็ดังขึ้นเช่นกัน