Half Line ข้ามเส้นนี้ไป ระวังตกหลุมรัก - ตอนที่ 142
เมื่ออ้าปากก็มีเพียงเสียงกรีดร้องกับครวญครางพรั่งพรูออกมาเท่านั้น ฮาจุนไม่สามารถพูดออกมาได้อย่างชัดเจนและฉะฉาน น้ำกามที่ถูกขับออกมาจนเต็มด้านใน ไหลย้อนออกมาด้านนอกพร้อมเสียงเฉอะแฉะทุกครั้งที่แกนกายขยับเข้าออก
ฮาจุนเหยียดแขนสั่นๆ เพื่อดันหน้าท้องของมูคยอมออกอย่างยากลำบาก แต่ทำได้เพียงถูกยึดข้อมือไว้เท่านั้น
“อ๊า… อ๊ะ ฉัน เหนื่อย อา พอแล้ว พอ ฮื้อ ได้แล้ว…!”
“ฮู่ว เป็นฝ่ายขึ้น ให้ก่อน ก็อย่าพูด อะไรอ่อนหัดสิ”
“อา ไม่ได้ มาก มากไป… อึก ช้าๆ หน่อย…”
แกนกายที่เคยตอกเข้ามาตามอำเภอใจ จู่ๆ ก็ถอนออกไปพรวดเดียว ในขณะที่ฮาจุนไม่สามารถควบคุมความรู้สึกที่เกิดจากสิ่งที่เคยเต็มแน่นภายในท้องถูกดึงออกไปอย่างรวดเร็วได้ ร่างกายของเขาก็ถูกจับพลิกคว่ำหน้าลง
ในระหว่างมูคยอมก็ถอดเสื้อผ้าท่อนบนของตัวเองออกไปแล้วเช่นกัน มือของมูคยอมจับลงตรงกระดูกเชิงกรานของเขา หน้าอกกับแก้มของฮาจุนแนบลงกับโต๊ะ และก่อนที่เขาจะได้จัดท่าทางให้มันดี ลำกายของอีกคนก็ไสเข้ามาในรูรักที่ยังไม่หุบลงอย่างฉับไว
“อื๊อออ!”
เมื่อเปลี่ยนท่า อีกฝ่ายก็ออกแรงกับการสอดใส่มากขึ้นกว่าเดิม เป็นเซ็กส์ที่กระหน่ำใส่ไม่ยั้งราวกับมีไม้กระบองกระทุ้งเข้ามาภายในร่างกาย
ความสุขสมกลืนกินความเจ็บปวดไปนานมากแล้ว แต่ความสุขสมที่ถึงกับกลืนกินความเจ็บปวดไปได้นั้นก็ทำให้ทรมานด้วยตัวมันเองอยู่ดี
น้ำตาเอ่อคลอขึ้นมาใหม่แล้วล้นไหลลงไปตามสันจมูก ถึงแม้ว่าจะตัวโยนไปตามการโยกของมูคยอม แต่ฮาจุนก็แย้งขึ้นมาเพราะความรู้สึกไม่ยุติธรรมด้วยเสียงขาดๆ หายๆ ปนเสียงร้องหวิว
“ฉัน ถึงบอก ฮึก ว่า อย่าดู…”
“อะไรนะ”
“บอกแล้ว ว่าอย่า ดู… อ๊ะ ทำไมต้องตามมา รังแก ฮึก คนอื่น…!”
เสียงพูดที่เจือไปด้วยความไม่พอใจปะปนกับเสียงครางและเสียงสูดน้ำมูก ทำให้เอวของมูคยอมชะงักไปเล็กน้อย
ฮาจุนอาศัยจังหวะที่อีกคนขยับตัวช้าลงแล้วหันหน้าไปหายใจหอบมองอีกฝ่าย มูคยอมรีบโน้มตัวลง กดแผ่นอกตัวเองกับหลังของฮาจุนพร้อมกอดรอบไหล่ไว้ จากนั้นก็พรมจูบลงบนแก้มเปียกชื้นอย่างเร่าร้อน
“แล้วฉันบอกให้ดูผู้ชายคนอื่นยิงประตูแล้วมีอารมณ์หรือไง”
“ใคร! ก็แค่ทำคะแนนได้ เลยดีใจเท่านั้นเอง!”
“…ยังไงก็เถอะ”
“ฉันจะ… ฮู่ว ไม่ดู กับนายอีกแล้ว…”
ฮาจุนกำชับด้วยเสียงลอดไรฟัน แต่แล้วตอนนั้นก็ได้ยินเสียงผู้ชมตะโกนโหวกเหวกอีกครั้งและผู้บรรยายก็พูดเสียงดังขึ้น แม้ในจังหวะที่กำลังยุ่งวุ่นวายกันอยู่ ทั้งสองก็ยังเงยหน้าขวับ ส่งสายตาไปจับจ้องหน้าจอโทรศัพท์
‘โถ่ น่าเสียดายจังนะครับ! พลาดเป้าไปซะงั้น’
‘เกือบจะได้เป็นโกลที่สองของเซบาสเตียนแล้วนะครับเนี่ย’
‘ตอนทะลวงฝ่าไปก็ยังยอดเยี่ยมมากจริงๆ แต่ตอนสุดท้ายน่าเสียดายนิดหน่อยนะครับ’
‘หน้าที่ของตัวรุกก็คือยิงให้เข้าในตอนที่ต้องยิงประตู น่าเสียดายจริงๆ ครับ’
บนหน้าจอ นักกีฬาที่ปล่อยโอกาสทำคะแนนหลุดมือไป กำลังยืนบีบหน้าผากตัวเองด้วยสีหน้าเสียดาย มูคยอมจ้องหน้าจอโทรศัพท์เขม็งแล้วจู่ๆ ก็หัวเราะคิกคัก
“ใช่แล้ว เป็นตัวรุกก็ต้องยิงให้เข้าตอนที่ต้องยิงสิ”
“หืม อ๊ะ!”
ส่วนที่ถูกดึงออกไปยาวๆ สวนกลับเข้ามาพรวดเดียว
“ถ้าทะลวงเข้าไปแล้ว ไม่ว่ายังไงก็ต้องยิงประตูอย่างสุดความสามารถ”
“พูดอะไร อื๊อ ฮ้า อ๊าาา!”
มูคยอมบดเอวอย่างต่อเนื่อง แต่ไม่ได้เป็นการกระแทกใส่แรงๆ เหมือนตอกเข้ามาอย่างไม่คิดหน้าคิดหลังแบบเมื่อครู่นี้
ส่วนที่เคยกดสอดเข้าลึกแล้วถอนออกไป กลับเข้ามาหยุดลงตรงใกล้ๆ ต่อมลูกหมาก ส่วนหัวกระทุ้งถี่ๆ พร้อมบดบี้ลงตรงจุดที่ฮาจุนรู้สึกไว เมื่อผนังด้านในถูกครูด สัมผัสเสียดเสียวที่แผ่ซ่านจากตรงนั้นก็ทำให้ฮาจุนเชิดคอขึ้นส่งเสียงคราง ในระหว่างนั้น มูคยอมก็ถอนลำกายออกมาจนถึงปากช่องทางแล้วเสือกไสเข้าไปอย่างแรง
มูคยอมหยัดกายเข้าออกอย่างหนักหน่วงอยู่ไม่กี่ครั้งแล้วเปลี่ยนจังหวะมาเชื่องช้าและนุ่มนวล จากนั้นก็กระหน่ำใส่เข้ามาอีกรอบแล้วสลับมาซอยสั้นๆ พร้อมบดขยี้บริเวณใกล้กับต่อมลูกหมากอย่างอ่อนโยน การสอดใส่แบบนั้นเกิดขึ้นสลับกันครั้งแล้วครั้งเล่า ขาของฮาจุนสั่นระรัว ปลายเท้าค่อยๆ เขย่งขึ้นสูง เขาทำอะไรไม่ได้เลยนอกจากกำหมัดแน่นพลางหายใจหอบ
“อ๊า อ๊า อึก ฮื้อ…!”
‘ฝ่ายตั้งรับอัดกันแน่นมากเลยนะครับ เวลาแบบนี้ควรต้องเปิดออกให้เคลื่อนที่ได้อย่างคล่องแคล่วบ้าง’
“เขาบอกให้เปิดออกแน่ะ”
มูคยอมพูดแบบนั้นแล้วจู่ๆ ก็ยกขาข้างหนึ่งของฮาจุนขึ้นพาดบนโต๊ะ หว่างขาของเขาถูกจับแยกกว้าง ส่วนใบหน้าก็ขึ้นสีแดงเถือก
‘โอ้ เมื่อกี้บุกเข้าไปได้ดีเชียวครับ’
‘การไม่ปล่อยให้โอกาสแบบนั้นหลุดมือไปก็เป็นเรื่องสำคัญนะครับ ถ้ามีนักกีฬาคนไหนครองพื้นที่นั้นอยู่ก็ต้องฝ่าทะลวงเข้าไปให้ลึกๆ เลยครับ’
“อื๊อ… ฮึก!”
ทันทีที่ผู้บรรยายพูดจบ มูคยอมก็กระแทกเอวอย่างแรงพร้อมกับตอกกายเข้ามาด้านในดังปั้กราวกับดำเนินการตามคำสั่ง เพราะขาทั้งสองข้างถูกจับอ้ากว้าง แกนกายของอีกฝ่ายจึงถลำลึกเข้ามายิ่งกว่าเดิม ฮาจุนถูกยึดครองพื้นที่ภายในร่างกาย แต่ก่อนที่จะได้ระเบิดเสียงครางออกมา เขาก็ได้ยินเสียงบรรยายการถ่ายทอดอีกครั้ง
‘ฝ่าไปทางซ้ายอีกหน่อยน่าจะดีกว่านะครับ’
‘ใช่แล้วครับ เวลาแบบนี้ยิ่งต้องใจเย็นและคำนวณเส้นทางให้แม่นยำครับ’
เป็นไปตามที่คาดไว้ แกนกายถูกดึงออกไปยาวๆ มูคยอมบิดตัวเปลี่ยนมุมให้เอียงเล็กน้อยแล้วกดสอดให้ท่อนเนื้อบดเคล้าเนื้อเยื่อทางซ้ายอย่างหนักหน่วง ช่วงเอวของฮาจุนเสียวแปลบจนรู้สึกราวกับเส้นผมชี้ขึ้น
“อ๊าาา อ๊ะ!”
ความเสียวกระสันและความทำอะไรไม่ถูกผสมปนเปกัน ฮาจุนรู้สึกไม่คุ้นเคยกับความรู้สึกแบบนี้อย่างมาก จึงไม่สามารถตอบสนองอะไรออกไปได้ในทันที ฮาจุนตัวสั่นสะท้านพร้อมขูดเล็บลงบนโต๊ะ
“อย่า นาย อย่าเล่น ฮึก..!”
“ฉันก็เพิ่งรู้วันนี้นะ ว่าการถ่ายทอดฟุตบอลมันเร้าอารมณ์ขนาดนี้”
น้ำเสียงเจือความขบขันทำให้ความรู้สึกเสียใจทีหลังถาโถมเข้าใส่ฮาจุน ‘ควรฟังถ่ายทอดเป็นภาษาสเปนจริงๆ ด้วย ไม่สิ จริงๆ ไม่ควรเปิดดูการแข่งอีกรอบด้วยซ้ำไป’
ฝ่ามือของมูคยอมกดแนบลงบนหลังมือที่ครูดโต๊ะ ในขณะที่ฮาจุนกำลังนึกเสียใจทีหลังอย่างสุดซึ้ง การเคลื่อนไหวของมูคยอมก็ดุเดือดขึ้นอีกครั้ง
ทุกครั้งที่ท่อนเนื้ออวบผลุบเข้าผลุบออกตรงกลางบั้นท้าย ผนังเนื้อด้านในที่อ่อนยวบก็โอบแนบชิดท่อนเนื้อนั้นราวกับติดหนึบอยู่ด้วยกัน ความเสียวซ่านจนขนลุกเกรียวโฉบไปทั้งร่างกาย
“อ๊า… อ๊าาา ฮ้า! อ๊าาา…!”
‘แหม ทะลวงเข้าไปอย่างโหดเลยนะครับ’
‘ในสถานการณ์แบบนี้จะมัวมาคิดอะไรยุ่งยากไม่ได้หรอกครับ อย่างแรกก็ต้องยิงเข้าไปก่อน’
หัวของฮาจุนหมุนติ้ว เหมือนไม่ได้เป็นการบรรยายฟุตบอลแต่กำลังจับตาดูการกระทำของพวกเขาทั้งคู่อยู่แล้วพูดล้อเลียน หุบปากเงียบไปซะ อยากจะตะโกนบอกให้พวกผู้บรรยายที่ทำให้รู้สึกแปลกยังไงชอบกลพวกนั้น แต่สิ่งที่ออกมาจากปากมีเพียงเสียงครวญครางและเสียงกรีดร้องเท่านั้น เมื่อทั้งสองคนทิ้งน้ำหนักตัวลงไปกันทั้งคู่ โต๊ะที่ทั้งใหญ่ทั้งหนักอึ้งก็ส่งเสียงลั่นเอี๊ยดอ๊าด
“อ๊า อ๊า ฮา อ๊าาา!”
“ฮู่ว ฮ้าาา”
เสียงของคนอื่นหลุดออกไปจากขอบเขตการได้ยินอีกครั้งตั้งแต่เมื่อไรก็ไม่รู้ มีเพียงเสียงชื้นแฉะดังออกมาจากส่วนที่สอดประสานกันแล้วดังก้องในหูของทั้งสองคนเป็นพิเศษ มูคยอมเคลื่อนใบหน้าเข้าไปใกล้ขึ้นอีกเพื่อปิดริมฝีปากที่ส่งเสียงร้องครวญครางไม่หยุดราวกับจะกลืนกิน
ลิ้นอีกฝ่ายสอดเข้ามาถูไถกับลิ้นและเนื้อเยื่อนุ่มของเขา ริมฝีปากทั้งบนและล่างถูดดูดดึงสลับกัน ฮาจุนเองก็ส่งลิ้นของตัวเองเข้าไปในปากของมูคยอมเช่นกัน เรียวลิ้นของคนทั้งคู่เกี่ยวกระหวัดกันยุ่งเหยิง
การหันหลังไปจูบอย่างดูดดื่มทั้งที่อยู่ในท่าคว่ำย่อมมีขีดจำกัด ท่าทางถูกสับเปลี่ยนอีกครั้ง ฮาจุนกลายมานั่งตัวเอียงอยู่บนโต๊ะ มือที่เคยจิกเล็บลงบนหน้าโต๊ะไม้ ปัดป่ายขึ้นไปตามกล้ามเนื้อหนาแกร่งแล้วโอบแขนรอบลำคอของมูคยอม
ลิ้นถูกดูดดึงและสอดลึกจนรู้สึกเหมือนจะแตะกับลำคอด้านใน หลังจูบกันอย่างลึกซึ้ง ฟันของมูคยอมก็ขบริมฝีปากล่างของฮาจุนแล้วกัดลงตรงคางที่สั่นเทาอย่างแผ่วเบา ปากของมูคยอมปัดผ่านแก้มไปขบเม้มใบหู และเมื่องับแน่นจนรู้สึกเจ็บแปลบขึ้นมาแวบหนึ่ง ฮาจุนก็หลุดครางอย่างร้อนรุ่มออกมาพร้อมกับบีบรัดภายในร่างกายมากขึ้น
ขาทั้งสองข้างที่เคยแกว่งไกวกลางอากาศ ย้ายมาตวัดเกี่ยวรอบเอวของมูคยอม มือของมูคยอมลูบไล้แผ่นอกกับเอวเนียนลื่นซึ่งมีเหงื่อซึมออกมาเล็กน้อยแบบผ่านๆ
การเคลื่อนไหวของแกนกายที่เสียดแทงด้านล่าง รัวเร็วยิ่งขึ้น ส่วนหัวอวบกับลำท่อนขรุขระครูดขึ้นไปบดบี้ลงตรงต่อมลูกหมากที่บวมขึ้นเพราะถูกกระตุ้นอย่างเต็มที่ซ้ำๆ
“ฮ้าาา! อ๊า! อ๊า! อ๊า!”
“อึก…!”
ก้นของฮาจุนที่แผดเสียงออกมาเป็นระยะขณะสอดใส่เข้าจังหวะหดตัวเกร็ง ผนังภายในขมิบรัดราวกับจะบีบสิ่งที่อยู่ด้านในนั้นให้หลุดออก มูคยอมเองก็ส่งเสียงครางแหบพร่าในลำคอและปลดปล่อยออกมาเป็นครั้งที่สอง แกนกายที่ฝังคาไว้ลึก กระตุกอย่างรุนแรงพร้อมกับฉีดพ่นน้ำรักร้อนระอุเข้าไปในร่างกายของฮาจุนหลายระลอก
ทุกครั้งที่ท่อนเนื้ออีกฝ่ายพองตัวขึ้นเบียดในร่างกาย และทุกครั้งที่น้ำกามทะลักพรวดๆ ออกมา ฮาจุนก็จะกระตุกตามไปด้วย เส้นเลือดสีน้ำเงินเขียวปรากฏเด่นชัดบนลำคอขาว ฮาจุนยืดคอเอนไปด้านหลัง ลมหายใจขาดห้วงไปหลายครั้งและน้ำตาก็ไหลริน จากนั้นก็กลับมาหายใจหอบอีกครั้งพร้อมบิดเอวไปมา
“อา… ฮื้อ…”
เสียงครางเชื่องช้าและเบาบาง ไม่ได้เป็นเพราะอารมณ์สงบลง แต่เหมือนจะเป็นเสียงที่เล็ดลอดออกมาในตอนสุดท้าย ขณะพยายามฝืนระงับอารมณ์ที่พุ่งทะยานสูงมากกว่า
มูคยอมรู้สึกได้ถึงแกนกายที่กระดุกกระดิกราวกับใกล้จะปลดปล่อย เพราะขาและหว่างขาที่เชื่อมติดกับกระดูกเชิงกรานและต้นขาด้านในที่สั่นระรัว เกี่ยวรอบเอวของเขาเอาไว้ มูคยอมกระชับกอดร่างในอ้อมอกของตัวเองให้แน่นขึ้น ฮาจุนที่เคยร้องคร่ำครวญราวกับพยายามจะอดกลั้น กลับสะอื้นออกมาเพราะไม่รู้ว่าต้องจัดการอย่างไร
“ฮึก อึก ฉัน ทำยังไง ทำยังไงดี อ๊ะ อา”
“อื้อ ไม่เป็นไรนะ เวลาแบบนี้แค่ซึมซับความรู้สึกเฉยๆ ก็พอแล้ว”
“ฮื้อออ อือ ฮา อ๊า…!”
ในตอนที่มูคยอมแลบลิ้นเลียหยาดน้ำตาที่ไหลลงมาบนแก้มขาวแล้วกดริมฝีปากซับ ฮาจุนก็ส่งเสียงครางหวิวออกมาไม่หยุดพร้อมกับตัวสั่นสะท้านราวกับรับมือไม่ได้ ฮาจุนทิ้งตัวลงนอนบนโต๊ะทั้งตัว
มูคยอมไม่ได้ถอนส่วนอ่อนไหวของตัวเองที่ยังคงแข็งขึงออกจากด้านในร่างกายของฮาจุน ริมฝีปากของเขาปัดป่ายไปบนแก้มขาว ใบหู และลำคอ เมื่อขยับไปมาด้านในอย่างเชื่องช้าทั้งที่ยังสอดคาไว้ ฮาจุนก็แอ่นเอวลอยขึ้นหลายครั้ง ขมิบตอดรัดท่อนเนื้อที่เติมเต็มในร่างกายอย่างแนบแน่นจนตัวเองยังรู้สึกได้ ถ้าไม่มีน้ำหนักตัวของมูคยอมกดเอาไว้ ร่างของฮาจุนคงลอยหวิวขึ้นมากลางอากาศ
เมื่ออาการสั่นสะท้านที่ยาวต่อเนื่องกันพักใหญ่สงบลงในระดับหนึ่ง มูคยอมจึงยกร่างกายท่อนบนขึ้นครึ่งตัว มีเพียงของเหลวสีใสเหนียวหนืดคล้ายน้ำหล่อลื่นไหลออกมาจากแกนกายของฮาจุนนิดหน่อยเท่านั้น อีกฝ่ายยังไม่ได้ปลดปล่อย
มูคยอมโน้มตัวลงลูบหัวฮาจุนซึ่งตัวอ่อนปวกเปียกและเหงื่อแตกพลั่กราวกับคนไข้ขึ้น
“สงบลงหน่อยหรือยัง”
“ฮื้อ…”
ร่างกายของทั้งคู่ยังคงสอดประสานกันอยู่ ฮาจุนกะพริบดวงตาชุ่มน้ำช้าๆ พร้อมกับทอดสายตามองมูคยอมซึ่งก้มลงมองตนเองนิ่งๆ
จากนั้นก็เหมือนกับตัดสินใจอะไรบางอย่างเป็นที่เรียบร้อย ฮาจุนทำคิ้วตกพร้อมกับพูดขึ้นเสียงแผ่วราวกับกำลังขอร้อง
“ทีนี้ ก็พอได้แล้ว…”
ฮาจุนรั้งคอของมูคยอมลงมาประทับริมฝีปากพร้อมเสียงดังจุ๊บ มูคยอมกลั้นยิ้มเอาไว้ไม่ไหวแล้วยกตัวที่เคยโค้งลงขึ้น ควรจะรู้ไม่ใช่เหรอว่าถ้าบอกว่าให้พอแต่ทำตัวแบบนี้ก็ยิ่งเสียเปรียบกว่าเดิม
มูคยอมดันเอวเข้าไปยาวๆ ช้าๆ ทั้งที่ยังไม่ลบเลือนรอยยิ้ม ฮาจุนส่ายหน้าพร้อมกับพยายามจะผลักมูคยอม
“ฮ้าาา ไม่ ฮึก พอ พอ…!”
“เขาบอกว่าถ้าเสร็จแบบไม่หลั่งครั้งหนึ่งแล้ว ถึงจะกระตุ้นแค่นิดเดียวก็จะเสร็จได้เรื่อยๆ เลยนะ”
มูคยอมกดมือที่ผลักตัวเองออกลงบนโต๊ะพร้อมสอดประสานนิ้ว
เมื่อขยับเข้าออกรัวเร็วขึ้น ขาของฮาจุนที่เคยห้อยลงด้านล่าง ก็ไต่ขึ้นมาตามต้นขาด้านหลังของเขาแล้วตวัดรอบเอว อีกฝ่ายออกแรงราวกับตั้งใจจะหยุดยั้งการเคลื่อนไหวของมูคยอมแต่ก็ไร้ประโยชน์
“ฮึก อ๊า! อา อ๊า…!”
“นายไม่อยากรู้เหรอ”
“ไม่อยากรู้ ฮ้า อ๊ะ ไม่อยากรู้”
คราวนี้มูคยอมประทับริมฝีปากลงบนปากของฮาจุนที่กำลังส่ายหน้าจนเสียงดังจุ๊บ จากนั้นก็จับมือของฮาจุนที่เคยกดไว้ ยกขึ้นมาให้ฝ่ามือของอีกฝ่ายถูไถแก้มของตัวเอง
“นักกีฬาที่สำคัญที่สุดสำหรับโค้ชอีคือใครนะ”
“ต้องเป็นนายอยู่แล้วสิ คิมมูคยอม อื๊อ สำหรับฉัน นายดีที่สุด เสมอ…”
“วันนี้คุณโค้ชรู้สึกไวไปหมด แล้วก็น่ารักจนอยากทำมากกว่านี้อีกนะ… แต่ทำไม่ได้เหรอ”
ฮาจุนสบตามูคยอมที่จ้องมองมาทางตนอย่างมุ่งมั่นพร้อมทำสีหน้าออดอ้อนเล็กน้อย ฮาจุนอ้ำๆ อึ้งๆ แล้วใบหน้าแดงเถือก ไม่มีความมั่นใจเจืออยู่ในคำที่ตอบออกมาอย่างรีรอเลย
“ถ้างั้น… อีกแค่นิดเดียว…”
มูคยอมเหยียดยิ้มจนริมฝีปากเป็นเส้นโค้งขึ้นพร้อมโอบหลังฮาจุนให้ลุกขึ้นมา เขาช้อนก้นกับเอวของอีกฝ่ายแล้วยกขึ้นอย่างสบายๆ จากนั้นก็ก้าวเดินไป
ทุกครั้งที่ก้าวไปหนึ่งก้าว ก็จะได้ยินเสียงเฉอะแฉะจากส่วนที่ประสานเป็นหนึ่งเดียว ฮาจุนโอบแขนรอบลำคอของมูคยอมแล้วมุดใบหน้าลงกับไหล่ของเขา เสียงครางเลือนรางและแผ่วเบาดังออกมาจากปากของอีกฝ่ายราวกับเสียงร้องไห้
ประตูห้องหนังสือถูกเปิดออก โดยที่โทรศัพท์ยังอยู่ระหว่างการถ่ายทอดและถูกวางทิ้งไว้บนโต๊ะ
“เล่นกับคุณแฟนนี่สนุกกว่าดูประเทศอื่นเล่นบอลอย่างที่คิดจริงๆ”
เสียงของมูคยอมดังขึ้นอย่างแผ่วเบาตรงทางเดินที่เชื่อมไปยังห้องนอน
* * *
พวกนักกีฬาที่วิ่งเสร็จเรียบร้อยกำลังพักชั่วคราวไปพร้อมๆ กับดื่มน้ำหรือไม่ก็ใช้ผ้าเช็ดตัวสำหรับเล่นกีฬาซับเหงื่อ ฮาจุนกำลังถือสมุดโน้ตยืนเหม่อราวด้วยท่าทีเหนื่อยอ่อนชอบกล แล้วแฮร์รี่ก็ตีไหล่ของเขาเบาๆ
“ดูเหนื่อยๆ นะ เมื่อวานจุนก็ดูเอลกลาสิโกหรือเปล่า”
ฮาจุนยิ้มขมขื่นพร้อมกับพยักหน้า
“ครับ ถึงจะดูไม่จบก็เถอะ”
“งั้นเหรอ ช่วงท้ายครึ่งหลังสนุกจริง แข่งจบด้วยคะแนนสองต่อสอง แต่ก็ทะเลาะแล้วกระชากคอเสื้อกันจนได้ใบแดง วุ่นวายกันไปหมด เมื่อวานร้านเหล้าที่คนมีเรื่องกันก็น่าจะเยอะแยะเลย”
“ศึกคู่ปรับในประเทศเดียวกันก็เป็นแบบนั้นบ่อยนี่ครับ”
“เพื่อนฉันคนหนึ่งก็เป็นแฟนคลับมาดริด ส่วนแฟนมันเป็นแฟนคลับบาร์เซโลนาน่ะ ถึงช่วงนี้ทีไรก็ดูแข่งด้วยกันแล้วทะเลาะกันตลอดเลย ถ้าจะเป็นแบบนั้น แค่แยกกันดูก็พอแล้วแท้ๆ ไม่รู้มันทำบ้าอะไร สงสัยจะสนุกอยู่ลึกๆ”
ฮาจุนส่ายหน้า
“ไม่มีทางหรอกครับ”
“เป็นแบบนั้นทุกปีเลยนะ”
“…ไม่เข้าใจเลยนะครับ ถ้าเป็นผม ผมจะไม่ดูด้วยกันเป็นครั้งที่สองอย่างเด็ดขาด”
“ใช่ไหมล่ะ”
ในระหว่างที่กำลังพูดคุยกันแบบนั้น ใครบางคนก็เข้ามาแทรกจากด้านหลังอย่างฉับพลัน
“คุยอะไรกันอยู่”
มูคยอมปิดฝาขวดน้ำพร้อมกับเดินเข้ามาใกล้ สีหน้าสดใส ต่างกับฮาจุนที่ดูไม่มีแรงอย่างไรชอบกล
“เรื่องเอลกลาสิโก คิม นายก็ดูด้วยไหม”
“ดูไม่จบหรอก มีธุระอื่นขึ้นมากลางคันน่ะ”
“กำลังคุยเรื่องเพื่อนของฉันอยู่ มันเชียร์คนละทีมกับแฟนแต่ดูด้วยกันทุกปีแล้วทะเลาะกันตลอดเลย จุนเขาบอกว่าไม่เข้าใจ บอกว่าถ้าเป็นเขาก็จะไม่ดูด้วยกันอีก”
มูคยอมทำตาโตอย่างเกินจริง
“โถ่ ฉันชอบดูด้วยกันนะ”
“ทั้งที่ทะเลาะกันทุกปีน่ะนะ”
“ถึงอย่างนั้นก็เถอะ ดูด้วยกันสนุกออกนี่”
จากนั้นมูคยอมก็เดินเข้ามาหาฮาจุนแล้วพาดไหล่
“ใช่ไหม”
ฮาจุนเหล่ตามองมูคยอมแทนคำตอบ แล้วในระหว่างที่แฮร์รี่ชวนนักกีฬาคนอื่นคุย เขาก็ดีดหน้าผากมูคยอมเข้าให้
“มาใช่ไหมอะไรล่ะ ฉันจะไม่ดูกับนายอีกแล้ว”
“ไหงงั้นล่ะ เมื่อวานก็ออกจะดี”
“นายดีอยู่คนเดียวน่ะสิ”
“ใจร้ายจัง เพิ่งจะร้องไห้บอกรักนะ เหมือนจะตายเลย ดีมากเลย แล้วเกาะตัวฉันแน่นไปเองแท้ๆ… ฉันน่าจะอัดเสียงไว้ให้หมด”
“จะไม่เงียบใช่ไหม”
ฮาจุนหน้าแดงก่ำแล้วคราวนี้ก็ใช้สมุดโน้ตฟาดลงบนหลังของอีกคน แต่มูคยอมไม่เปลี่ยนสีหน้าเลยแม้แต่น้อย กลับยิ้มร่าพร้อมกับกอดฮาจุนจากด้านหลัง ฮาจุนถอนหายใจเฮือกใหญ่แล้วยืนพิงตัวของมูคยอมราวกับยอมแพ้