Half Line ข้ามเส้นนี้ไป ระวังตกหลุมรัก - ตอนที่ 164
เสียวซ่าน
มูคยอมโน้มตัวลงไปกอดร่างกายที่สั่นเทา ขาที่ยังวางอยู่บนไหล่ของมูคยอมนั้นมันจึงเอียงตามไปด้วย ฮาจุนจึงต้องอ้ารับมูคยอมจนร่างกายแทบจะถูกพับครึ่ง เมื่อพวกเขาแนบเข้าหาให้ชิดกันจนมันกดลงไปยังบริเวณลึกๆ ไม่รู้ว่ากี่ครั้งต่อกี่ครั้ง พอถึงช่วงเวลาใดเวลาหนึ่ง เสียงครางของฮาจุนก็ปะปนไปกับเสียงอื่น
ในตอนแรกเขาสงสัยว่าตนเองได้ยินผิดหรือเปล่า มูคยอมจึงโยกเอวต่อไปอย่างช้าๆ เมื่อรู้ว่าเขาไม่ได้คิดไปเองจึงลุกขึ้นมา
“…ทำไม มีอะไรสนุกขนาดนั้นเหรอ”
ฮาจุนกำลังยิ้ม
มูคยอมดันสะโพกเข้าไปแตะผนังด้านในอย่างแรง เมื่อเขาออกแรงกด ร่างกายของฮาจุนก็สั่นและส่งเสียงร้องครางออกมา แต่เมื่อเขาถอยสะโพกกลับออกไปฮาจุนก็หัวเราะคิกคักทันที
แก้มแดงระเรื่อและดวงตาที่เปียกชื้นจากความตื่นเต้นของอีกฝ่ายแสดงให้เห็นชัดเจนว่าร่างกายกำลังสุกงอมจากความกำหนัด ฮาจุนเอามือปิดปากตนเองไว้และหัวเราะคิกคักเหมือนกับว่าทนไม่ไหว มูคยอมขมวดคิ้วเบาๆ พลางจงใจกระแทกเอวเข้าไปอย่างรุนแรง
“หัวเราะทำไม”
“อ๊า! ฮึก…!”
ขณะที่แกนกายถูกสอดเข้าไปในท้องจนลึก ฮาจุนก็ร้องครางและขยับร่างกายไปมา แต่ก็เพียงครู่เดียวเท่านั้น ทันทีที่มูคยอมถอนสะโพกไปด้านหลัง
อีกฝ่ายก็เริ่มหัวเราะออกมาอีกครั้ง
“เป็นอะไร เจออะไรที่มันน่าทึ่งอีกแล้วเหรอ”
“ฮื่อ ไม่ ก็มันดี…”
“ดีเหรอ อะไร”
“รู้สึกดี… ตอนที่นายขยับอยู่ข้างในนั้นมันเหมือนจะจั๊กจี้น่ะ…ดีจังเลย…”
เหอะ เมื่อพูดเช่นนั้น คราวนี้มูคยอมควงกระดูกเชิงกรานเบาๆ แล้วแสร้งทำเป็นหัวเราะ
“เพราะว่ารู้สึกดีเลยหัวเราะออกมางั้นเหรอ”
“อื้อ ฮื่อ ฮ่าๆ จะ จั๊กจี้”
“วันนี้น่ารักมากเลยแฮะ ลูกวัวของฉัน พอฉันกระแทกนายก็เอาแต่หัวเราะแล้วก็บอกว่าจั๊กจี้”
มือของมูคยอมตบเบาๆ ที่แก้มของฮาจุน ฮาจุนจับที่มือนั้นแล้วใช้มันถูไถแก้มของตนเอง
“อะ อื้อ คิมมูคยอม… ชอบจัง ชอบมากเลย”
“ชอบที่ฉันควงเอวเหรอ”
“ไม่ ฉันบอกว่าฉันชอบนาย มูคยอม”
จากคำพูดนั้นทำให้รอยยิ้มปรากฏขึ้นบนริมฝีปากของมูคยอม
“พูดอีกทีหน่อย”
“ฉันชอบนาย…”
มูคยอมยิ้มกว้างขึ้นกว่าเดิม
“ฉันก็ชอบนายเหมือนกัน จริงๆ นะ… ชอบจนจะเป็นบ้าอยู่แล้ว”
มูคยอมวางมือลงบนแก้มทั้งสองข้างของฮาจุน เขาจูบไล่ตามสายตาไปเรื่อยๆ และจากนั้นก็เงยหน้าขึ้นไปสบตากันนิ่งๆ ช่องว่างระหว่างคิ้วแคบลงตามรอยยิ้ม
“น่ารักดีนะ แต่… ฉันหงุดหงิดนิดหน่อยที่คิดว่ามันเป็นเพราะยาจากคนแปลกหน้าที่เอามาให้นาย”
“หืม…”
มือที่จับใบหน้ากดลงบนไหล่ของฮาจุน เอวที่หยุดไปชั่วครู่เคลื่อนไหวเร็วขึ้นอย่างเห็นได้ชัดเมื่อเทียบกับที่ผ่านมา
ปั๊กๆ
เสียงกระแทกเนื้อนั้นดังก้องทั่วทั้งห้องด้วยความเร็วสูงอย่างไม่หยุดพัก
“ฮื่อ อื้อ! ฮ้าาา! อะอ๊า!”
“ดูเหมือนว่ายาจะออกฤทธิ์เต็มขีดจำกัดแล้วละ”
“อ๊ะ อ้าๆๆ! ฮ่าา อ๊าา!”
เสียงหัวเราะที่เล็ดลอดออกมาระหว่างการครวญครางได้จางหายไปแล้ว ร่างกายที่เคยรู้สึกมีความสุขเหมือนถูกจั๊กจี้ ตอนนี้กลับสั่นสะท้านด้วยความรู้สึกรุนแรงราวกับโดนเฆี่ยนตี
ฮาจุนส่งเสียงครางอย่างต่อเนื่อง แม้แต่โต๊ะที่ค่อนข้างใหญ่และหนักก็พลอยส่งเสียงดังเอี๊ยดอ๊าดไม่สามารถทนต่อมูคยอมได้ แกนกายของฮาจุนปล่อยน้ำกามออกมาอีกรอบบนร่างกายของตนเอง ในขณะเดียวกันมูคยอมก็ปล่อยน้ำกามเข้าไปในจุดลึกของร่างกายฮาจุนเช่นกัน ผนังด้านในที่มีความรู้สึกแน่นเล็กน้อยเปียกโชกไปหมด บนเสื้อที่กระจัดกระจายอยู่เหนือร่างกายท่อนบนเองก็มีของเหลวกระเด็นแพร่กระจายออกมาเช่นกัน
“อ้าา อื้อ ฮื่อออ…”
“มันไม่ใช่เวลาที่จะมาหัวเราะนะโค้ช”
มูคยอมเอ่ยด้วยน้ำเสียงถอนหายใจพลางพยุงหลังและบั้นท้ายของคนที่นอนราบไปกับโต๊ะขึ้นมา ทันทีที่เขากอดร่างกายที่แนบติดอยู่กับร่างกายส่วนบนของเขา ขาทั้งสองข้างของอีกฝ่ายก็โอบรอบเอวของเขาไว้ทันที ยูนิคอร์นได้เปลี่ยนสถานะเป็นหมีโคอาล่าเสียแล้ว
มูคยอมเดินไปที่ผนังด้านหนึ่งทั้งๆ ที่กอดเอาฮาจุนไว้ มันเป็นผนังกระจกที่ในช่วงกลางวันแสงแดดจะส่องลงมา ขณะที่ก้าวเดินโดยไม่ถอนการสอดแทรกออกไปนั้น ฮาจุนที่ถูกทิ่มแทงเข้าไปข้างในทุกการย่างก้าวก็ฝังใบหน้าของตนเองไว้ที่ไหล่ของมูคยอมและส่งเสียงครางออกมา มูคยอมกระชับอ้อมกอดฮาจุนแล้วหมุนตัวเพื่อให้อีกฝ่ายสามารถมองออกไปนอกหน้าต่างได้ แล้วเอ่ยถาม
“ตอนนี้ยังมองเห็นสายรุ้งไหม”
ฮาจุนเงยหน้าที่เปียกชื้นขึ้นมาและมองออกไปเลยไหล่ของมูคยอมแล้วส่ายหัว
“ไม่… หายไปแล้ว”
“อย่างอื่นด้วยเหรอ ไม่มีอะไรเลยเหรอ”
“ไม่มีรุ้ง แต่ดอกไม้มันกำลังบินไปบินมา…”
มูคยอมระเบิดหัวเราะปนถอนหายใจ
“ดอกไม้งั้นเหรอ ดอกไม้กำลังบินไปบินมาอยู่บนท้องฟ้างั้นเหรอ”
“อื้อ มะ มันก็สวยดีนะ… แต่ทำไมดอกไม้มันถึงบินได้ล่ะ”
ในที่สุดฮาจุนที่เริ่มรู้สึกถึงความไม่เข้ากันของทิวทัศน์ภายนอกก็พึมพำ
ออกมาในเชิงสงสัย
อย่างไรก็ตาม การได้เห็นทิวทัศน์ที่เพ้อฝันเช่นนี้ ก็ถือว่ามันเป็นวิธีที่ดีที่สุดที่จะชื่นชมมันต่อไปจนกว่ายาจะหมดฤทธิ์ มูคยอมขยับเอวเบาๆ แต่ถี่ยิบแล้วถามต่อ
“นั่นน่ะสิ แปลกเนอะ ทำไมดอกไม้ถึงบินไปบินมากันนะ”
“ฮ๊า อื้อ มะ ไม่รู้ ฮื่อ มีใครโปรยลงมาหรือเปล่า…”
“แต่ว่านะอีฮาจุน ฉันไม่เห็นมันเลย”
“จะ จริงเหรอ ฮึก ทำไมล่ะ…”
มูคยอมที่อุ้มฮาจุนไว้วางอีกฝ่ายลง เมื่อเท้าแตะลงบนพื้น แต่ขาของฮาจุนที่ยังคงสั่นนั้นไม่สามารถรองรับร่างกายของเขาได้อย่างที่ควรจะเป็น ฮาจุนจึงยังคงเกาะและพิงร่างกายของตนเองไว้กับมูคยอม
แกนกายที่ถูกล็อกไว้ลึกภายในร่างกายเปลี่ยนมุมตามที่ต้องการ มันแทงที่เยื่อเมือกแล้วเลื่อนไถลออกไปด้านนอก ฮาจุนตัวสั่นเทา
“ตอนนี้นายเมายา”
“ยาเหรอ”
“ที่นายสูบเมื่อกี้น่ะ ไม่ใช่บุหรี่”
ตอนนั้นเองที่ดวงตาของฮาจุนเบิกกว้างขึ้น
อีกฝ่ายอ้าและหุบริมฝีปากของตนเองหลายครั้งราวกับตกใจ และถามด้วยน้ำเสียงที่สั่นเทา
“หา… ยาเหรอ อย่าบอกนะว่า…ยาเสพติดเหรอ”
“ใช่ ถึงแม้ว่าจะเป็นสารประเภทเบาๆ ก็เถอะ”
“เป็นไปไม่ได้…”
ใบหน้าที่เคยร้อนผ่าวตอนนี้กลับซีดเผือด มูคยอมรีบจูบลงบนแก้มเพื่อปลอบฮาจุน เขาตั้งใจจะบอกให้รู้ถึงสถานการณ์ ไม่ได้ตั้งใจทำให้อีกฝ่ายตกใจ
“อย่ากังวลไปเลย ถ้าสูบเหมือนบุหรี่ มันก็ออกฤทธิ์แค่เบาๆ พอยาหมดฤทธิ์แล้วก็จะดีขึ้น มีคนที่สูบแล้วก็ไม่เกิดอาการอะไร แต่สงสัยคุณโค้ชคงอ่อนในเรื่องนี้นิดหน่อย”
“ยะ ยาเสพติดมันผิดกฎหมายนี่…”
“ไม่เป็นไร ไม่มีใครแจ้งความหรอก”
“มะ มะ มิน่าละ อ๋อ… มิน่าล่ะ ฉันถึงคิดว่ารสชาติมันแปลกๆ…”
การที่เขาบอกกับอีฮาจุน คนที่เกิดมาไม่เคยทำผิดกฎหมายว่าได้เสพยาโดยที่ไม่รู้ตัวนั้น คงจะทำให้อีกฝ่ายสะเทือนใจมากเกินไป
ฮาจุนไม่รู้ว่าต้องทำอย่างไร ดวงตาสั่นไหวและซบใบหน้าของตนเองไว้ที่ไหล่ของมูคยอมราวกับว่าต้องการที่จะปฏิเสธความจริง จากนั้นก็อีกเบิกตามองออกไปข้างนอกและพึมพำ
“พอมองดอกไม้ไปเรื่อยๆ…”
“มันสวยใช่ไหม”
“…อื้อ”
“ไหนๆ ก็เห็นแล้ว ถ้าอย่างนั้นก็ดูให้หนำใจเลยนะ ถ้ายาหมดฤทธิ์ก็จะไม่เห็นแล้ว”
จู่ๆ น้ำตาของฮาจุนก็ไหลพรั่งพรูออกมา สงสัยคงเป็นเพราะเสียใจจากคำพูดของเขา มูคยอมตบหลังของฮาจุนเบาๆ
“รู้นะว่าไม่ได้ตั้งใจ แต่ยังไงวันนี้มันก็เป็นความผิดของโค้ชที่รับยามาจากคนแปลกหน้ามาสูบโดยไม่คิดหน้าคิดหลังนะครับ”
“…ถูกแล้วละ ฉันทำผิดไปแล้ว…”
“ถ้าเกิดคนเหล่านั้นเป็นคนไม่ดี เกือบจะเกิดอะไรขึ้นแล้วล่ะ แฟนของฉันบอกว่าจะไม่ทำอะไรที่ทำให้ฉันไม่สบายใจไม่ใช่เหรอ”
“อื้อ นายพูดถูกแล้ว… ฉัน…ผิดเอง”
ฮาจุนที่หายใจคงที่มาระยะหนึ่งหอบขึ้นทีละเล็กทีละน้อยเนื่องจากอาการตกใจ จากนั้นก็เงยหน้าขึ้นมองมูคยอมด้วยสายตาแดงก่ำและเอ่ยขึ้นมาอีกครั้ง
“ขอโทษนะ ฉันผิดไปแล้ว…”
มูคยอมก้มลงสบตาฮาจุนนิ่งๆ เขาเงียบไปครู่หนึ่งแล้วเอียงศีรษะเล็กน้อยและครุ่นคิดสั้นๆ
และราวกับว่าได้ข้อสรุปแล้ว เขาจึงแย้มรอยยิ้มออกมาและขยำบั้นท้ายของฮาจุน เมื่ออ้าแก้มก้นออกจากกัน น้ำอสุจิก็ไหลออกมา และเขาก็ใช้นิ้วลูบที่รูชื้น แล้วลูบแกนกายที่ยังตั้งชูชัน ทั้งๆ ที่เปียกอยู่อย่างนั้น
“อะ อื้อ…”
“ผิดไปแล้วงั้นเหรอ”
“อื้อ ผิดไปแล้ว… ฉันผิดไปแล้ว”
“โค้ชคงอยากโดนทำโทษสินะ”
“หะ หืม… เปล่า เปล่าสักหน่อย…”
“ไม่หรอกเหรอ แต่โค้ชเป็นคนผิด ดังนั้นวันนี้ฉันจะลงโทษโค้ช ไม่ชอบงั้นเหรอ”
“เปล่า ไม่ ไม่ได้ไม่ชอบ…”
“ถ้าไม่ได้ไม่ชอบ ถ้าอย่างนั้นก็หมายความว่าชอบสินะ”
มูคยอมประกบจูบราวกับจิกกัด เขาดันนิ้วเข้าไประหว่างบั้นท้ายของอีกฝ่ายแล้วดึงกลับไปกลับมาพลางแลกจูบเสียงดังจ๊วบจ๊าบ
อื้อออ
ระหว่างที่ประกบริมฝีปากอยู่นั้นฮาจุนก็ส่งเสียงเจ็บปวดออกมา
มูคยอมที่ประกบจูบอยู่พักหนึ่งหันร่างของฮาจุนและคว้าข้อมือทั้งสองข้างแล้วชูขึ้นเหนือศีรษะ ก่อนจะกดข้อมือแนบติดอยู่กับผนังกระจก
ฮาจุนอยู่ในท่าทางที่ชูแขนทั้งสองข้างขึ้นราวกับกำลังเกาะผนังกระจกและมองออกไปด้านนอก
“ตอนเด็กๆ เคยโดนลงโทษแบบนี้ใช่ไหม ยืนนิ่งๆ ชูมือขึ้นแล้วมองผนังน่ะ” มูคยอมปล่อยมือแล้วกระซิบที่ใบหู
“หา อะ อื้อ…”
หลังจากปรับท่าทางของฮาจุนที่พยักหน้าอย่างเหม่อลอยแล้วทั้งสองมือของมูคยอมก็แหวกบั้นท้ายสีขาวนวลออกทันที ขณะที่ฮาจุนไหวเอวของตนเองเพื่อตอบสนองต่อการกระทำอันกะทันหันนั้น มูคยอมก็ตีที่บั้นท้ายฮาจุนเบาๆ
“อะอ๊าา… อ้า!”
“กำลังรับบทลงโทษอยู่นะ อยู่นิ่งๆ สิ”
“อื้อ อะ อื้อ”
ขณะที่เขาจับบริเวณกระดูกเชิงกรานของอีกฝ่ายแล้วดึงออกมาเบาๆ ขาของฮาจุนที่ยืนติดอยู่กับหน้าต่างก็เดินถอยหลังโซซัดโซเซไปสองสามก้าวแล้วก็ยื่นบั้นท้ายออกมา
แฮ่ก
การหายใจของฮาจุนเริ่มหอบขึ้นตั้งแต่เมื่อครู่แล้ว
มูคยอมตรวจสอบสภาพโดยการกดนิ้วโป้งเหนือช่องทางเข้า ช่องทางด้านหลังที่เคยทะลวงด้วยแกนกายหนาเมื่อไม่กี่นาทีก่อนนั้นยังคงมีเรี่ยวแรงและผ่านเข้าไปได้โดยไม่จำเป็นต้องทำให้ผ่อนคลายอีก อีกทั้งมันยังเปียกชื้นด้วยน้ำกามที่ไหลเยิ้มออกมา
เมื่อเขาดันนิ้วชี้และนิ้วกลางเข้าไปเพียงแค่สองสามครั้ง เสียงครวญครางอย่างเร่าร้อนก็ระเบิดออกมาในทันที มูคยอมที่ควงเอวไปมาครู่หนึ่งได้จับเอาแกนกายของตนเองขึ้นมาวางมันไว้ตรงทางเข้า แล้วดึงกระดูกเชิงกรานของอีกฝ่ายให้เข้ามาอีกและดันสะโพกของตนเองเข้าไป แกนกายที่แข็งชูชันและขรุขระได้ฝ่าผนังด้านในที่ติดกันอย่างร้อนระอุเข้าไปรวดเดียว
“อ๊าา! ฮื่ออ อะอื้ออ…!”
และในที่สุดฮาจุนก็ระเบิดเสียงครางยาวออกมา ก่อนจะถอนหายใจยาวอย่างหอบถี่
“ฮ๊าา อ้า อ๊าาาาา อ๊ะ….”
แม้จะดูไม่น่าตกใจขนาดนั้นเพราะร่างกายของอีกฝ่ายได้ถูกเปิดออกเรียบร้อยแล้ว ฮาจุนโค้งตัวลงทั้งที่สั่นระริก
ผิวขาวนวลบอบบางที่แม้จะฟาดเบาๆ ก็ขึ้นสีเล็กน้อย และต้นขาที่เกร็งจนกล้ามเนื้อที่เรียบลื่นนั้นปูดขึ้นมาเพื่อที่จะค้ำยันร่างกายเอาไว้ปรากฏเข้ามาในสายตาของมูคยอม แค่มองดูภาพนี้ก็ทำเอาขบฟันจนแตกและแกนกายนูนโป่งไปหมดแล้ว มูคยอมค่อยๆ ลูบตั้งแต่ต้นขาของฮาจุนจนไปที่บั้นท้ายของอีกฝ่าย
และเลิกชายเสื้อขึ้นไปคลุมที่หลังของฮาจุนเอาไว้
เสื้อเชิ้ตเลิกขึ้นตามรอยย่นเผยให้เห็นร่องลึกตามกระดูกสันหลังที่ยาวพาดผ่านแผ่นหลังสีขาวนวล กล้ามเนื้อหลังที่แม้จะแข็งแรง แต่ก็ยังเรียวยาวกำลังขยับไปขยับมาปะปนกับเงาสีฟ้าอมเขียว
เมื่อมูคยอมสูดลมหายใจเข้าลึกๆ ร่างกายอันเปลือยเปล่าราวกับชุดเกราะของเขาก็ขยายและเสื้อเชิ้ตของเขาก็รัดแน่นขึ้น มูคยอมปลดกระดุมเสื้อของตนเองด้วยมือข้างเดียวแล้วบอกฮาจุนในสิ่งที่ต้องทำ
“โค้ช ฉันจะกระแทกตั้งแต่ตอนนี้ไปจนกว่าจะแตก”
“ฮู่ อะ อื้อ”
“อดทนไว้อย่าเอามือลง”
“ฮ้าาา! อ๊ะ อ้าๆ!”
มูคยอมเลียริมฝีปากของฮาจุนขณะที่แกนกายยังคงฝังไว้ที่ผนังด้านในอย่างแน่นหนา เขาดึงสะโพกกลับมาพอที่จะใส่ส่วนหัว แล้วก็กระแทกอย่างแรง
“ฮ่ะ อ๊าาา!”
เนื้อกระทบกันจนเกิดเสียงดัง ฮาจุนจับกระดูกเชิงกรานไว้แน่นเพื่อไม่ให้เอวเคลื่อนไปข้างหน้าหรือข้างหลังมากจนเกิดไป และมูคยอมยกบั้นท้ายขาวนวลขึ้นอย่างไม่ลดละ ทุกครั้งที่กระดูกหัวหน่าวอันแข็งแรงกับท่อนบนของต้นขากระทบกับบั้นท้าย เขาจะเห็นเนื้อบั้นท้ายมันเด้งกระจายออกไปแล้วก็กลับมาเป็นทรงเดิม
เมื่อกระบอกอันแข็งแรงและหยาบกระด้างตอกเข้าไปอย่างไม่มียั้ง ฮาจุนที่อดกลั้นไว้ได้แค่ชั่วครู่นั้น ไม่นานนักก็เริ่มทำท่าจะร้องไห้ออกมาทันที ฮาจุนไม่แม้แต่จะล้มพับลงไปได้เลยด้วยซ้ำ แม้ว่าเอวและขาจะสั่นตั้งแต่เมื่อครู่นี้แล้วก็ตาม นั่นก็เพราะได้มูคยอมจับกระดูกเชิงกรานและกระแทกแกนกายที่เกือบจะแทงทะลุร่างกายของฮาจุนเอาไว้อยู่
“เฮือก! อ๊ะ อ้าๆ! เดี๋ยวก่อน…! อ๊ะ ดะ เดี๋ยวก่อน… อ๊ะ อ๊า!”
“ฮ่าา บอกแล้วไง ว่าจะกระแทก จนกว่าจะแตก”
“อึก อ๊ะๆ อ้า อ๊าาา!”
เขากระแทกเร็วและแรงมากจนขนาดที่ว่าไม่รู้สึกเสียใจกับคำว่าลงโทษเลย ยิ่งกระแทกเข้าไปเท่าไร ข้างในก็ยิ่งร้อนและติดหนึบแคบขึ้นเท่านั้น ลมหายใจหอบอันหยาบกระด้างก็พ่นออกมาจากปากของมูคยอมเช่นกัน
ร่างกายของฮาจุนกระตุกราวกับกำลังจะล้มลงไป น้ำอสุจิตกย้อยลงมาอีกเป็นครั้งที่สองจากปลายแกนกายที่สั่นไหว ภายในร่างกายถูกกระตุ้นโดยไม่หยุดพักจนทำให้ถึงจุดสุดยอดอยู่เรื่อยๆ ฮาจุนร้องไห้พลางส่ายหัวอย่างรุนแรง เมื่อยกศีรษะขึ้น มือที่ติดกับหน้าต่างก็ขูดกระจกอย่างเป็นไปแบบธรรมชาติ จากนั้นก็เอามือทั้งสองข้างมาประสานซ้อนทับกันไว้
“อื้ออ! พอก่อน…! พอ ก่อน ผิดไป ฮื่อ! จากนี้ืจากนี้ ฉันจะไม่ทำอีกแล้ว…! อึก อื๊อ!
“แน่นอนว่าจะทำแบบนั้นอีก ฮู่ ไม่ได้สิ ก็มันเป็นสารเสพติดนี่นา หืม”
ปั๊ก มูคยอมกระแทกสิ่งนั้นของตนเองลงไปจนถึงโคน เขายืดแขนออกไปข้างหน้าและดันร่างของฮาจุนที่เอียงตัวให้ยืนขึ้น
เมื่อถูกผลักด้วยน้ำหนักของมูคยอม ฮาจุนจึงขยับเข้าไปใกล้และเกาะติดอยู่ที่หน้าต่าง มันต่างจากเมื่อครู่นี้ เมื่อยืนอยู่โดยปล่อยสะโพกไปทางด้านหลัง ร่างกายของฮาจุนก็เกือบจะเป็นเส้นตรงติดกับกระจก
ขณะที่ผิวอันร้อนระอุของฮาจุนสัมผัสกระจกที่เย็นยะเยือก ร่างกายของอีกฝ่ายก็หดลง ยอดถันที่ชูชันและแกนกายที่ยังคงตั้งตรงหลังจากที่หลั่งออกมาหลายต่อหลายครั้งก็ถูกกดทับลงบนกระจกเช่นกัน
มูคยอมคลุมร่างกายของอีกฝ่ายที่สั่นสะท้านจากความหนาวเย็นอันแข็งและราบเรียบจากด้านหลัง ความร้อนแผ่ออกมาจากร่างกายของมูคยอมที่ไม่รู้ว่าถอดเสื้อออกไปตั้งแต่ตอนไหน เผยให้เห็นร่างกายท่อนบนที่เป็นอันหนึ่งอันเดียวกันอย่างสมบูรณ์ จากส่วนที่แหลมคมราวกับถูกแกะสลักด้วยมีดและกล้ามเนื้อหนาราวกับถูกขัดเกลาแล้วติดแปะด้วยก้อนดินเหนียว ด้านหน้าร่างกายของเขาถูกกดลงบนหลังของฮาจุน แขนหนาโอบกอดเอวเอาไว้
ผนังกระจกสะท้อนภูมิทัศน์ภายนอกที่ปกคลุมไปด้วยพุ่มไม้ มันจึงทำให้เกิดความรู้สึกที่ไม่ต่างจากการมีเซ็กส์แบบเอาต์ดอร์
ฮาจุนส่ายหน้าไปมา