Half Line ข้ามเส้นนี้ไป ระวังตกหลุมรัก - ตอนที่ 173
แต่ค้างอยู่ในท่านั้นได้ไม่นาน ฮาจุนที่ในตอนแรกดิ้นไปมาขณะถูกทาบทับด้วยร่างที่ค่อนข้างหนัก ก็ออกแรงกดต้นแขนลงบนไหล่ของมูคยอมแล้วเบี่ยงตัวหนีออกมา เมื่อมีช่องว่างบริเวณวงแขน ฮาจุนก็ใช้ขาเกี่ยวตัวมูคยอมให้ล้มนอนลง จนพลิกกลับมาเป็นฝ่ายที่อยู่ด้านบนแทน
เหตุการณ์กลับตาลปัตร มูคยอมหัวเราะคิกคักอย่างสนุกสนาน กลับกันฮาจุนก็กำลังขมวดคิ้วมุ่นอย่างจริงจัง
“อย่าให้ฉันต้องใช้แรงกับคนป่วยสิ”
“ถ้าอย่างนั้นก็ช่วยบริการคนไข้หน่อยสิครับ คุณหมอ”
มูคยอมเถียงกลับด้วยรอยยิ้มสบายอกสบายใจ ก่อนจะพลิกตัวกลับไปอยู่ด้านบนอีกครั้ง หลังจากสลับพลิกกันไปมาโดยใช้เตียงเป็นเวทีมวยปล้ำขนาดย่อม ฮาจุนก็ตัดสินใจเอาตัวออกมาจากการต่อสู้ที่ดูท่าว่าจะไม่จบสิ้นลงสักที และพยายามคลานลงจากเตียงไปยืนที่พื้นห้อง
แต่มือของมูคยอมกับคว้าข้อเท้าของคนที่กำลังจะหนีเอาไว้แน่น ฮาจุนลื่นไถลไปบนผ้าคลุมเตียง และถูกดึงเข้าหามูคยอมเหมือนกับเหยื่อที่ถูกจับได้
“ฉันบอกว่าไม่ได้ไง!”
แม้ฮาจุนจะพยายามยึดขอบเตียงเพื่อรั้งตัวเองเอาไว้ แต่ก็ดูเหมือนว่าจะสายเกินไป เขาหมดทางหนีแล้วจริงๆ ทันใดนั้นมูคยอมก็ขยับตัวเข้าทาบทับทั้งเรือนร่างของฮาจุนทันที
ฮาจุนที่พยายามเบี่ยงตัวให้หลุดจากการจับกุมอีกครั้งหยุดชะงักทุกการเคลื่อนไหว แม้แต่เสียงที่เปล่งออกมาก็ยังดูไร้เรี่ยวแรง
“นายป่วยจริงๆ ใช่ไหมเนี่ย ทำไมแรงเยอะขนาดนี้”
“ฉันบอกไปแล้วไง ว่าตอนนี้ดีขึ้นแล้ว”
“ทำแบบนี้เดี๋ยวไข้ก็กลับมาอีก”
“จัดสักยกให้เหงื่อออกเดี๋ยวก็ดีขึ้นเอง การได้มีเซ็กส์กับโค้ชอีหลังแข่งเสร็จ มันเป็นความเคยชินและสิ่งที่ต้องทำสำหรับฉันไปแล้วนะ ถ้าข้ามครั้งนี้ไปและไม่ได้ทำฉันจะต้องรู้สึกไม่สบายใจแน่ๆ”
แม้จะพูดเช่นนั้น แต่อุณหภูมิร่างกายของมูคยอมที่สัมผัสได้ผ่านแผ่นหลังของฮาจุนก็ยังสูงอยู่พอสมควร เมื่อรับรู้ได้ถึงความร้อนจากตัวมูคยอม ในหัวของ
ฮาจุนก็รีบชั่งน้ำหนักสองตัวเลือกที่วางไว้
ระหว่างสู้กันแบบนี้จนเหนื่อยกันไปข้าง หรือมีเซ็กส์กันจนเหนื่อยพับกันไป หากทั้งสองตัวเลือกไม่ได้ช่วยให้สภาพร่างกายของมูคยอมกลับมาดีขึ้น ในทางกลับกันมันอาจทำให้อาการไข้ของมูคยอมทรุดหนักกว่าเดิม
ลมหายใจบางเบาถูกพ่นออกจากริมฝีปากของฮาจุน เขาลดเสียงเบาลงขณะที่แตะมือลงบนแขนของมูคยอมราวกับว่ากำลังเกลี้ยกล่อม
“โอเค เข้าใจแล้วคิมมูคยอม นายหลบออกไปก่อน”
“ไม่ได้จะหนีใช่ไหม”
“ไม่หนีหรอกน่า ฉันสัญญา”
เมื่อมูคยอมผ่อนแรงแขนลง ฮาจุนก็คลานออกมาจากอ้อมแขนที่หนักอึ้ง ราวกับว่าเพิ่งหลุดออกจากการโดนหินทับ เขาถอนหายใจครั้งหนึ่ง แล้วผลัก
มูคยอมให้นอนลง
ทำทีเหมือนไม่เห็นแววตาเคลือบแคลงที่กำลังมองมา ฮาจุนหยิบเอาเจลหล่อลื่นออกมาจากลิ้นชักข้างเตียง แล้วคลานไปนั่งคุกเข่าคร่อมอยู่บนต้นขาของมูคยอม เมื่อดึงชั้นในที่ทาบทับอยู่บริเวณกระดูกเชิงกรานของมูคยอมลง คนด้านล่างก็เบิกตาโตขึ้น
“จะใส่เข้าไปเลยเหรอ ไม่ได้สิ นายจะเจ็บเอานะ คิดจะทำแบบปุบปับให้จบไปเลยหรือไง”
“อยู่นิ่งๆ หน่อยสิ”
อาจเพราะที่ผ่านมาแค่คิดจะทำฮาจุนก็โอนอ่อนตามไปง่ายๆ ระหว่างที่เกิดการลงไม้ลงมือกันในช่วงสั้นๆ ส่วนนั้นของมูคยอมถึงได้เริ่มแข็งตัวขึ้นมาเล็กน้อยแล้ว แม้จะตัดสินใจไปแล้ว ฮาจุนก็ยังอดกังวลไม่ได้ และจ้องเขม็งไปยังท่อนเนื้อที่อยู่ตรงหน้า
ราวกับว่าตอบสนองกับสายตาที่มองมา ส่วนกลางกายของคนใต้ร่างก็กระตุก ทั้งยังค่อยๆ แข็งตัวและขยายใหญ่กว่าเดิม แม้จะเคยได้กกกอดไปหลายต่อหลายครั้ง แต่ก็ไม่บ่อยนักที่ฮาจุนจะมีโอกาสได้มานั่งมองแบบเต็มสองตาในช่วงเวลาที่ท่อนเนื้อกำลังขยายตัวใหญ่ขึ้นเหมือนพืชพันธุ์ที่กำลังเติบโต ข้างแก้มของฮาจุนเห่อร้อนจนมีริ้วสีแดงพาดขึ้นมา
มารีบทำให้จบดีกว่า หลังตกลงกับตัวเองเสร็จฮาจุนก็รีบบีบเจลลงบนฝ่ามือ มูคยอมเลือกที่จะรอเงียบๆ ไม่ถามอะไรออกไป ไม่แม้กระทั่งห้ามปราม ราวกับกำลังสงสัยว่าฮาจุนตั้งใจจะทำอะไรกันแน่
เรียวมือขาวชุ่มโชกไปด้วยเจลเนื้อใสและเหนียวเหนอะหนะ นิ้วมือที่ทั้งเรียวยาวและห็นข้อนิ้วชัดดูอ่อนโยนและเรียบร้อยก็จริง แต่หลังมือที่เผยให้เห็นแนวกระดูกอย่างชัดเจนและรูปทรงที่งดงามราวกับถูกปั้นแต่งนั้น ไม่ว่าใครมาเห็นก็ต้องมองว่าเป็นมือของชายหนุ่มที่แข็งแรงกำยำอย่างแน่นอน เมื่อได้เห็นมือที่ปลุกเร้าอารมณ์ได้เป็นอย่างดีทั้งยังหาที่ไหนบนโลกนี้ไม่ได้อีก มูคยอมก็กลืนน้ำลายลงคออย่างยากลำบาก
“เพราะว่าวันนี้นายป่วย…”
ฮาจุนปล่อยคำพูดท้ายประโยคให้ลอยหายไป เขาใช้มือเฉอะแฉะกอบกุมแกนกายที่แข็งตัวเต็มที่อย่างระมัดระวัง แต่ก็เต็มไปด้วยความคล่องแคล่ว
ลูกกระเดือกของฮาจุนขยับเล็กน้อย ภายในฝ่ามือสัมผัสได้ถึงความอุ่นร้อนจนพาลให้คิดว่าตอนนี้เจลเย็นที่ชโลมลงไปคงจะถูกหลอมละลายจนรุ่มร้อนไปหมดแล้วแน่ๆ เป็นความรู้สึกเหมือนกำลังจับแท่งเหล็กที่ร้อนลวก ไม่ใช่ท่อนเนื้อแกนกาย
“ใช้แค่มือนะวันนี้… นายจะไม่ได้เหนื่อยมาก ไว้ค่อยจัดเต็มตอนที่นายหายดีแล้วกัน”
“คิดว่าจะทำให้ฉันเสร็จได้โดยใช้แค่มือเหรอ นายมั่นใจเหรอ”
“ถ้าไม่เอามือ… ฉันใช้ปากให้ก็ได้นะ”
ขณะที่พูดเช่นนั้น ฮาจุนก็ใช้มือที่ชุ่มโชกบีบนวดแกนกายของมูคยอมช้าๆ แม้จะอยู่ในกำมือที่ไม่ได้จัดว่าเล็กของชายหนุ่มวัยผู้ใหญ่ อวัยวะที่กำลังถูกกำปล่อยกำปล่อยก็ถูกดูดกลืนไปกับฝ่ามือที่เปรอะเปื้อนไปด้วยเจลจนเกิดเสียงแจ๊ะแจ๊ะ ทำเอามูคยอมผ่อนลมหายใจร้อนผ่าวออกมา
“ฮะ… นานๆ ทีทำแบบนี้ก็รู้สึกดีเหมือนกันนะ”
เมื่ออีกฝ่ายแสดงความพึงพอใจ ฮาจุนก็กล้าที่จะขยับมือมากขึ้น มือที่ขยับไปมาช้าๆ จากบนลงล่าง ค่อยๆ เพิ่มความเร็วในการนวดเค้นแกนกายจนเกิดเสียงเฉอะแฉะ
ไม่เพียงแค่ขยับขึ้นลง แต่ฮาจุนยังหมุนข้อมือไปทางซ้ายทีขวาที และใช้นิ้วโป้งบดขยี้ลงที่ปลายหัว จนส่วนยอดนั้นเริ่มเปียกชุ่มไปด้วยเมือกเหนียวอันเกิดจากเจลที่ผสมรวมกับน้ำหล่อลื่นที่ถูกขับออกมา จนมูคยอมพ่นลมหายใจเคล้าด้วยเสียงหัวเราะ
“ไหนบอกว่าไม่เก่งงานที่ต้องใช้มือ ฉันว่าการใช้มือของนายนี่อยู่ในระดับหัวกระทิเลยนะ”
“…ชอบไหม”
ขณะที่ถาม ความสงสัยและความต้องการเอาชนะที่ซุกซ่อนอยู่ก็เผยให้เห็นผ่านแววตาของฮาจุนอย่างกระหายหิว มูคยอมพยักหน้าราวกับว่าต้องการจะมอบความมั่นใจให้ จากนั้นจึงใช้มือกุมพวงแก้มของฮาจุนแล้วดึงเข้าหาตัว ก่อนจะประทับริมฝีปากลงบนอวัยวะเดียวกัน
“นายนี่มีพรสวรรค์ในเรื่องลามกตั้งแต่เกิดเลยนะเนี่ย เป็นไปได้ยังไง น่าประทับใจจัง”
แม้นั่นจะไม่ใช่คำพูดที่มีจุดประสงค์ในการหยอกล้อ แต่ตอนนี้ฮาจุนกลับกำลังพยายามปิดซ่อนความต้องการที่เผยออกมาและหลบตาอีกคน กระนั้นมือของเขาก็เริ่มขยับถี่รัวขึ้น มือที่รูดรึงท่อนเนื้อเริ่มขยับขยายไปบดขยี้ลงบนปลายหัว พลางลูบคลำด้วยความคล่องมือมากกว่าเดิม
“พรสวรรค์อะไรกันล่ะ… ฉันก็เป็นผู้ชายนะ เรื่องแค่นี้ก็ต้องรู้อยู่แล้วสิ”
“งั้นเหรอ… อื้มม นายช่วยตัวเองบ่อยไหม”
“ก็เท่าๆ กับคนอื่นนั่นแหละ…”
“เท่ากับคนอื่นเหรอ ฮึก เท่าไหนกันนะ ฉันต้องลองไปถามคนอื่นดูไหม”
แทนที่จะตอบกลับไป ฮาจุนกลับก้มลงตรงรอยแยกระหว่างชุดคลุมที่หลุดลุ่ย ขยับใบหน้าเข้าใกล้กับแผงอกของมูคยอม เพราะเพิ่งผ่านพ้นฤดูร้อนไปได้ไม่นานนัก แผ่นอกสีแทนที่ทั้งแน่นและกว้างจึงมีสีที่เข้มกว่าในช่วงก่อนวันหยุด
เรียวลิ้นแลบเลียออกมาจากริมฝีปากของฮาจุนเล็กน้อย ไม่ทันได้คาดเดาว่าคนบนตัวตั้งใจจะทำอะไร ฮาจุนก็ไล้เลียลงบนกล้ามเนื้อบริเวณสีข้างที่เรียงตัวแน่นอยู่ใกล้กับกระดูกซี่โครง
“อ่า แม่ง”
ความรู้สึกดีเหมือนกับมีกระแสไฟฟ้าแล่นอยู่ในร่างทำเอาช่วงสะบักของมูคยอมกลัดเกร็งขึ้นในทันที ทั้งต้นขาและกล้ามเนื้อที่หลังแน่นต่างก็ขยายใหญ่ขึ้นเช่นกัน
มูคยอมพ่นคำหยาบออกมาโดยไม่รู้ตัว และยกมือขึ้นลูบเบาๆ ไปที่หัวของฮาจุนซึ่งก้มอยู่บนตัวของเขา ไม่รู้เพราะชอบใจกับการตอบรับจากมูคยอมหรือเปล่า ฮาจุนถึงได้เพิ่มแรงในการลูบคลำ และไล้เลียเนื้อหนังเป็นทางยาวและกว้างขึ้น ฮาจุนขยับย้ายริมฝีปากไปตรงนู้นทีตรงนี้ที ทั้งยังกัดลงบนลำคอของเขาซ้ำแล้วซ้ำเล่า เมื่อถูกฟันขบลงไป กล้ามเนื้อบริเวณไหปลาร้าก็กลัดเกร็งขึ้น
โดยไม่คิดแม้แต่จะจัดการกับลมหายใจที่ค่อยๆ กระชั้นถี่ขึ้น มูคยอมก็ยื่นมือไปรั้งขอบกางเกงของฮาจุนลง ในตอนที่พยายามจะดึงชั้นในใต้กางเกงที่ถูกถอดออก ฮาจุนก็หยุดชะงักทุกความเคลื่อนไหว แล้วเงยหน้าขึ้น
“บอกไปแล้วไงว่าวันนี้จะใช้แค่มือ”
“ใครบอกกัน ฉันก็จะใช้แค่มือนี่ไง”
“ไม่ได้ นายอยู่เฉยๆ ไปเลย”
“ขยับต่อสิ อย่าหยุด”
ฮาจุนที่กำลังสับสนปิดปากฉับเมื่อได้ยินเช่นนั้น แล้วจึงสานต่อการกระทำก่อนหน้า แม้แกนกายของเขาจะยังไม่ถูกนำออกมานอกร่มผ้า แต่ริ้วแดงระเรื่อก็พาดผ่านบริเวณขอบตา ราวกับว่ากำลังรู้สึกกระดากอาย
พอทำท่าจะหันหลังกลับทั้งๆ ที่เป็นคนเริ่มก่อน ความอายก็เริ่มก็ตัวขึ้น เมื่อฮาจุนถูกถอดกางเกง ชั้นใน รวมไปถึงเสื้อ จนร่างกายเปลือยเปล่า มูคยอมก็ชโลมเจลท่วมฝ่ามือ และกอบกำเข้าที่ความเป็นชายกลางตัวของฮาจุน อ่า เสียงครางสั้นดังขึ้นพร้อมกับที่การเคลื่อนไหวของฮาจุนหยุดลงอีกครั้ง
สิ่งที่อยู่ในกำมือของมูคยอมค่อยๆ ขยายใหญ่ขึ้น เจ้าของของมันก็กำลังกดกลั้นเสียงครวญครางขณะที่สะโพกเริ่มสั่นเทิ้ม มือของมูคยอมสัมผัสเข้ากับแผ่นหลังที่เริ่มร้อนรุ่มของคนซึ่งไม่ใช่แม้แต่คนป่วยด้วยซ้ำ ไม่มีเวลาให้ได้ตกใจ ร่างของฮาจุนก็ถูกดึงเข้าหาจนแผ่นอกของทั้งคู่แนบชิด
ถัดลงไปจากร่างกายส่วนบนที่ติดกันอย่างแนบแน่น มือของทั้งคู่ต่างก็กำลังมอบสัมผัสให้แกนกายที่แข็งขันของกันและกันอยู่ มือที่ในตอนแรกแยกย้ายกันไปทำหน้าที่กลับมาประสานรวมกันราวกับว่ากำลังกุมมือกัน เมื่อมือสองมือมาบรรจบจนเกิดช่องว่างเหมือนรังนกขึ้น แกนกายทั้งสองก็แนบชิดกันจนไม่เหลือที่ว่าง และในตอนที่มูคยอมหยัดเอวเข้าไปจนท่อนเนื้อที่เลอะเฉอะแฉะถูไถกันไปมา ฮาจุนก็สำลักลมหายใจออกมาในทันที
“อ๊ะอึก ฮ้า”
“โค้ชก็ชอบใช่ไหม”
“ฮึก นาย…ล่ะ”
“ชอบสิ ฮืม ชอบจนแทบบ้าเลย”
เมื่อแกนกายที่แข็งตัวเต็มที่จนรู้สึกได้อย่างรวดเร็วของทั้งคู่แนบชิดกันอย่างแน่นแฟ้น ความลื่นไหลก็พาให้รู้สึกเสียวซ่านขึ้น
ส่วนนั้นของฮาจุนไม่ได้อยู่ในระดับที่เล็ก มันมีลักษณะที่ตรงและเกลี้ยงเกลาเหมือนกับเจ้าของ มูคยอมยกยิ้มมุมปากโดยไม่รู้ตัว เมื่อรู้สึกว่าไม่ใช่แค่ได้เจาะทะลวงเข้าไปในตัว แต่เขายังได้ใช้ส่วนนั้นของตัวเองสำรวจอวัยวะส่วนเดียวกันของอีกคน ราวกับว่าได้ตกลงไปในห้วงแห่งความสุขสม ฮาจุนก็กำลังหยัดสะโพกเข้าออกกับอุ้งมือ ขณะที่นอนคว่ำอยู่บนตัวมูคยอม
มูคยอมตาค้างมองฮาจุนที่กำลังทำเช่นนั้น ใบหน้าของฮาจุนทั้งงดงามและสวยน่ามอง แต่ก็ดูหล่อสมชายในเวลาเดียวกัน แม้จะเติบโตโดยผ่านเรื่องยากลำบากมาอย่างมากมาย แต่หากมองแค่ภายนอกก็เหมือนได้เห็นใบหน้าของทายาทที่เกิดมาในตระกูลชั้นสูง เฉกเช่นเรือนร่างที่ในตอนนี้ยังคงมีเสื้อปกปิดอยู่ ด้วยรูปร่าง เค้าโครงที่สูงยาว และผิวขาวใสที่มีติดตัวมาตั้งแต่เกิด แค่การขยับตัวธรรมดาก็ดูสง่างามมากแล้ว
เพราะมัวแต่ให้ความสนใจไปกับเรือนร่างที่น่าภิรมย์ ตอนนี้สายตาที่เริ่มเลือนรางจนหลุดโฟกัส เสียงครางแผ่วและลมหายใจถี่รัวจากริมฝีปากที่เปิดออกครึ่งหนึ่ง และผิวที่เห่อร้อนจนแดงเรื่อกำลังหลอมละลายบรรยากาศที่สะอาดสะอ้านและเกลี้ยงเกล้าอย่างไม่น่าเชื่อ พอคิดว่าในโลกใบนี้เขาเป็นเพียงคนเดียวที่ได้เห็นสิ่งเหล่านี้ แค่ได้มองมูคยอมก็อารมณ์พุ่งพล่านไปหมดแล้ว ความร้อนที่เริ่มก่อตัวจากร่างกายส่วนล่างตีซัดขึ้นมาถึงอก จนเขาร้อนรุ่มไปทั่วทั้งร่าง
“อ๊ะ อึก!”
“อ่า ฮาจุน ดีมาก”
มูคยอมเพิ่มแรงมือขึ้น และเมื่อเขากระหน่ำหยัดสะโพกใส่เข้าไป แกนกายที่ติดกันอยู่ก็ถูไถกันรุนแรงกว่าเดิม
“อ๊ะ อ๊า!”
ขณะที่การเสียดสีรุนแรงดำเนินซ้ำไปมาอยู่หลายครั้งจนเกิดเสียงเฉอะแฉะขึ้น ฮาจุนก็ครางไม่หยุดปาก และเพิ่มความเร็วในการขยับสะโพกขึ้นอย่างฉับพลัน ฮาจุนที่กำลังเสือกไสแกนกายเข้าออกอุ้งมือเงยหน้าขึ้นและส่งเสียงสั่นเครือจากลำคอในตอนที่ยังคงนอนคว่ำอยู่บนตัวมูคยอม ไม่นานน้ำกามก็พุ่งออกจากแกนกายแดงก่ำที่ตั้งชัน ไหลลงไปเปรอะเปื้อนมือและหน้าท้องของมูคยอม
เมื่อสิ้นสุดปลายทางแห่งกามารมณ์ ฮาจุนก็อ่อนแรงและฟุบลงเหมือนลูกหมาเพิ่งเกิด ร่างกายของฮาจุนที่แนบชิดไปกับมูคยอมกำลังร้อนรุ่ม มูคยอมออกแรงดึงฮาจุนที่ตัวแดงก่ำและร้อนพอๆ กับเขาในตอนที่ไข้ขึ้นเข้ามาในอ้อมกอด แล้วขบเม้มไปที่ใบหูแดงระเรื่อ
แม้จะไปแตะปลายทางมาแล้ว แต่ส่วนนั้นของฮาจุนก็ยังไม่สงบลง เช่นเดียวกับมูคยอม เขาไม่ปล่อยมือออกจากแกนกายที่ยังคงตั้งลำแข็งขัน ทั้งยังขยับมือด้วยแรงที่มากกว่าเดิม เมื่อโดนสัมผัสและนวดเค้นอย่างรุนแรงหลังจากที่เพิ่งเสร็จไป ฮาจุนก็ส่ายหัวและพยายามดันตัวให้หลุดจากอ้อมกอด
“อ๊ะ พอแล้ว… อะ อึก เดี๋ยวฉันทำ…”
“ฮ่ะ ทนอีกนิดนะ ฉันก็ใกล้จะเสร็จแล้ว”
“อะ… ฮ้า! ฮึก อื้อ…!”
มูคยอมสัมผัสได้ถึงแรงรัดแน่นเป็นช่วงๆ จากต้นขาขาวที่กางอยู่บนตัวเขา เรือนร่างที่สั่นระริกกำลังมอบความเสียวซ่านที่ช่วงอกให้กับเขา กลิ่นกายที่หอมราวกับปรุงแต่งจากแสงแดดและเกล็ดน้ำตาลลอยฟุ้งจากเรือนร่างที่ร้อนรุ่มเสียยิ่งกว่าคนที่กำลังป่วยด้วยพิษไข้ มากระตุ้นประสาทสัมผัสรับกลิ่นของมูคยอม
มูคยอมฝังจมูกลงบนลำคอของฮาจุนและส่งเสียงครางต่ำออกมา น้ำกามของฮาจุนยังคงไหลออกมา จนมือและแกนกายที่ชุ่มโชกไปแล้วครั้งหนึ่งของทั้งคู่ถูกชโลมจนเปียกชื้นอีกครั้ง
ไร้ซึ่งคำพูดใด มีเพียงเสียงหายใจถี่รัวของทั้งสองที่ลอยวนอยู่รอบหู ฮาจุนวางใบหน้าลงบนลาดไหล่ของมูคยอม และ เงยหน้าขึ้นประสานสายตากับคนตรงหน้าขณะที่ค่อยๆ ปรับลมหายใจให้สม่ำเสมอ
เพราะทำแบบนี้มาเนิ่นนานจนติดเป็นนิสัย ลึกลงในแววตาดำขลับจึงฉายให้เห็นความปรารถนาที่จะขออนุญาตบางอย่าง ตอนนี้ไม่ต้องบอกก็รู้ มูคยอมสามารถอ่านเจตนารมณ์ที่ไม่ใช่ของเขาออกได้ไม่ยาก เขาแค่นยิ้มพลางพูดตอบรับความต้องการของคนตรงหน้า
“อีฮาจุน จูบหน่อย”
ทันทีที่มูคยอมพูดเช่นนั้น ฮาจุนก็กระพริบตาอยู่สองสามครั้งเหมือนกับคนที่เพิ่งรู้อะไรบางอย่างเป็นครั้งแรก จากนั้นจึงวาดยิ้มจางๆ ออกมาอย่างเชื่องช้า แต่เต็มไปด้วยความสดใส เหมือนกับได้ดวงจันทร์มาช่วยผลักเมฆดำยามค่ำคืนให้ลอยลิ่วและส่องสว่างใบหน้า ฮาจุนผงกหัวและก้มหน้าเข้าหามูคยอม
เมื่อรู้สึกได้ไอร้อนและความนุ่มหยุ่นของริมฝีปากที่กดสัมผัสลงมายังอวัยวะเดียวกัน มูคยอมก็อ้าปากออก เป็นลิ้นของฮาจุนที่ดุนดันเข้ามาก่อน และกวาดต้อนในโพรงปากของมูคยอมด้วยความเร่งเร้าและจริงจังไม่ต่างกับตอนทำซุป
มูคยอมแอบเผยอปากขึ้น ไม่ว่าเมื่อก่อนหรือตอนนี้สกิลการจูบของฮาจุนก็ดูเหมือนจะไม่ค่อยพัฒนาขึ้นสักเท่าไหร่ แต่นั่นก็ไม่ใช่ปัญหาเลยสักนิด ซุปมันฝรั่งเมื่อก่อนหน้านี้ที่ถูกปรุงขึ้นมาโดยไม่ได้ใช้ทักษะที่เชี่ยวชาญอะไร สำหรับมูคยอมนั่นเป็นอาหารที่ต่อให้ได้มิชลินสตาร์ 3 ดาวก็ยังน้อยไป จูบเงอะงะนี่ก็เช่นกัน
“ฮือ อึก…”
เมื่อมูคยอมขยับปากตอบอย่างจริงจัง เสียงครางแผ่วก็เล็ดลอดออกมาจากในลำคอของฮาจุน มูคยอมใช้ลิ้นกวาดต้อนลิ้นของฮาจุน ไล้เลียตั้งแต่หลังแนวฟันไปจนถึงเพดานปาก จากที่ในตอนแรกเป็นฝ่ายรุกเข้าไปในโพรงปากของมูคยอมก่อนแม้จะไม่คล่องแคล่วนัก ผ่านไปไม่นานฮาจุนก็กลายเป็นฝ่ายที่ถูกควบคุมจนหอบหายใจถี่รัวและต้องรั้งคอของมูคยอมไว้
เมื่อริมฝีปากห่างออกจากกันเล็กน้อย และทั้งสองได้ประสานสายตาอีกครั้ง ดวงตาของฮาจุนก็เคล้าคลอไปด้วยหยาดน้ำตาเลือนราง ราวกับรู้สึกเสียดายจูบที่เพิ่งจบลงไป ฮาจุนจึงได้แลบลิ้นออกมาเล็กน้อยและจ้องมองมูคยอมอย่างล่องลอย
“อืมม… ฮ้า…!”
เมื่อมูคยอมใช้มือที่นิ่งไปกลับมาสัมผัสแกนกายของฮาจุนอีกครั้งและดูดดึงเรียวลิ้นของฮาจุนด้วยความอ่อนโยน เสียงครางกระเส่ากว่าเมื่อก่อนหน้านี้ก็หลุดออกมาจากปากของฮาจุน แผ่นท้องและเรียวขาที่แยกออกของฮาจุนซึ่งแนบติดอยู่กับตัวของมูคยอมก็กำลังสั่นเทิ้มอยู่น้อยๆ
ความสั่นไหวที่ส่งผ่านมาทางผิวหนังพาให้ร่างกายส่วนล่างร้อนรุ่ม และดึงอารมณ์ของมูคยอมให้พุ่งสูงอีกครั้ง หากเป็นในเวลาปกติแล้ว เขาสามารถที่จะจินตนาการได้อย่างชัดเจนถึงเหตุการณ์ที่จะเกิดขึ้นต่อจากนี้
หากทิ่มแทงเข้าไปยังจุดที่อ่อนไหวเป็นพิเศษนั่น ฮาจุนคงจะตัวสั่นระริกและร้องไห้ออกมาแน่ หากสอดใส่ตัวตนเข้าไปยังจุดที่ลึกด้านในแล้วหมุนคว้างสะโพกในนั้น ฮาจุนคงจะไม่สามารถส่งเสียงออกมาได้เป็นคำและสั่นเป็นลูกนก ฮาจุนคงจะตอบสนองกลับมาอย่างเทียบไม่ได้กับการที่เขาช่วยแค่ด้านหน้าเหมือนในตอนนี้