The Legendary Mechanic - ตอนที่ 1217 นักฆ่าคนแก่
บีเกอร์ ผานกอนกับคนอื่นกลับไปดาวร้าง ก่อนหน้านี้พวกเขาสู้กันในอวกาศและเลี่ยงดาวนี้อย่างมีสติ ผลพวงบางส่วนโดนหยุดโดยผู้รักษาสัจจะ ดาวจึงปลอดภัย
หานเซี่ยวพูดถึงหัวข้อที่พวกเขาคุยกันก่อนหน้านี้กับคนอื่น ครั้งนี้ บรรยากาศดีขึ้นมากอย่างเห็นได้ชัด บีเกอร์กับคนอื่นตอนนี้กำลังฟังข้อเสนอของเขาอย่างจริงจัง
ดังคำกล่าวที่ว่า’ตราบเท่าที่หมัดใหญ่พอ มันก็สามารถทำให้คนมีสติได้’
..พวกนายไม่อยู่ในสถานะที่จะปรากฏตัวใหม่ในจักรวาล เหนือสิ่งอื่นใด พลังของพวกนายลดลงหลังคืนชีพและก็อยู่เบื้องหลังยุค มันดีสุดที่พวกนายจะคิดหาวิธีชดเชย ในความคิดฉัน พวกนายควรใช้เวลากับการฝึกมากกว่า เรียนรู้เทคโนโลยีกับความรู้ใหม่ หานเซี่ยวพูด
สิ่งนี้จะไม่น่าเชื่อเลยก่อนการประลอง แต่ตอนนี้ทุกคนกลับเห็นด้วยอย่างยิ่ง พวกเขาคิดว่าพวกเขาคืนชีพกันได้แค่ครั้งเดียว ตอนนี้ที่พวกเขาคืนชีพกลับมาและมีโอกาสชดเชยความเสียใจ ตอบสนองความทะเยอทะยานพวกเขาและไปถึงจุดสูงสุดใหม่ พวกเขาจึงหวงแหนมันมาก พวกเขาต่างอยากทำให้แน่ใจว่าตัวเองจะทำถูกต้อง
โอกาสหายากมาก บรรพชนเหล่านี้จึงอดทน พวกเขารอได้
แบล็คสตาร์ นายช่วยให้เราได้เรียนรู้สิ่งใหม่ๆในวันนี้ คงมีไม่กี่คนที่สู้กับนายได้ในยุคสำรวจ บีเกอร์ถอนหายใจ
ก่อนหน้านี้พวกเขาเสียหน้าไปมาก แต่ก็ไม่ได้เกลียดหานเซี่ยว
พวกเขาไม่ใช่ศัตรูกัน แม้คำพูดของหานเซี่ยวจะรุนแรง แต่ก็เป็นความจริง ในฐานะคนที่ไม่เพียงจะช่วยพวกเขาแต่ยังแข็งแกร่งกว่าพวกเขามาก คำพูดของหานเซี่ยวจึงมีน้ำหนัก
ฉันขอเสนอให้พวกนายเข้าร่วมสมาคมผู้อยู่เหนือ แม้ปัจจุบันจะสงบสุขกว่ายุคสำรวจมันก็ยังมีคลื่นใต้น้ำ ผู้อยู่เหนือไม่อยู่ในตำแหน่งที่ปลอดภัย นายสามารถค้นหาโศกนาฏกรรมพินนาเคิลทางออนไลน์ได้ นั่นคือปฏิบัติการกวาดล้างที่อารยธรรมขั้นสูงดำเนินการกับเรา พวกเขาพยายามควบคุมจำนวนของเรามาโดยตลอด ดังนั้นการอยู่ร่วมกันจึงเป็นอะไรที่ดีสุด หานเซี่ยวเริ่มโปรโมตสมาคมอีกครั้ง
คราวนี้ นอกเหนือจากผานกอนที่ตัดสินใจใช้เส้นทาง’แก้แค้น’ อีกสี่เริ่มรับข้อเสนอของหานเซี่ยวอย่างจริงจังและพิจารณา
เมื่อเห็น หานเซี่ยวก็พูดต่อ มีผลประโยชน์มากมายจากการเข้าร่วมสมาคม พวกนายเพิ่งคืนชีพ จึงไม่มีอะไรนอกจากพลังตัวเอง ไร้องค์กรหรือกองกำลังภายใต้บัญชา และต้องเริ่มจากศูนย์ซึ่งกินเวลานานมาก แถม อาณาเขตของทุ่งดาวต่างๆยังโดนแบ่งด้วยกองกำลังต่างๆ แม้จะด้วยพลังที่พวกนายมี พวกนายก็ยังต้องพบอุปสรรคมากมาย.แต่ทว่า ถ้าพวกนายกลายเป็นสมาชิกของสมาคมพวกนายสามารถยืมข้อมูล ทรัพยากร กองทัพและอื่นๆจากสมาชิกคนอื่นได้ ถ้าอยากเริ่มองค์กรเอง เราก็จะช่วยด้วย การช่วยนายจะกลายเป็นส่วนหนึ่งของเครือข่ายผลกำไร…
คนอื่นพยักหน้า พวกเขาโดนล่อลวง
จักรวาลกวา้งใหญ่มาก โดยปราศจากกำลังคนหรือเงิน ไม่มีอะไรจะประสบความสำเร็จ
ระหว่างยุคสำรวจ อารยธรรมต่างๆของพวกเขาได้จัดหาสิ่งที่พวกเขาต้องการให้ พวกเขาชินกับการมีอำนาจ พวกเขาไม่สามารถปรับตัวได้ถ้าต้องเริ่มจากศูนย์
ท่านหญิงราคะไตร่ตรอง เราเต็มใจสนับสนุนนาย แต่นายเป็นแค่รองประธานและไม่สามารถรับผิดชอบได้ทั้งหมด นอกจากนี้ เนื่องจากนายแข็งแกร่งขนาดนี้ ประธานก็คงไม่อ่อนแอนัก….
อืม นั่นจริง เราซาบซึ่งในสิ่งที่นายทำเพื่อเรา แต่เราต้องคิดในนามของเรา เทียบกันแล้ว มันดีกว่าไม่ใช่หรือที่จะสนับสนุนคนมีอำนาจสูงสุด? บีเกอร์ถาม
หานเซี่ยวยิ้ม
ตอนนี้มันเป็นอะไรที่พวกนายไม่รู้ เส้นทางของฉันแตกต่างจากตัวประธาน เขาเป็นคนทะเยอทะยานและก้าวร้าวมาก เขาอยากผูกสมาคมไว้กับเขา ให้เดินไปบนเส้นทางเดียวกัน ซึ่งเป็นการทำให้คนจำนวนมากไม่พอใจ ไม่มีโอกาสที่เขาจะได้รับเลือกใหม่แล้ว แถม ตอนนี้เขาก็แก่แล้ว ใครจะไปรู้ว่าสักวันเขาจะจากไป?ดังนั้น จึงไม่มีอนาคตอะไรในการสนับสนุนเขา แต่ฉันมีเพื่อนมากมายและย่อมได้รับเลือกให้เป็นประธานในการเลือกตั้งครั้งต่อไป แถม มีโอกาสสูงมากที่ฉันจะได้รับเลือกอีกหลายครั้ง การลงทุนกับฉันเป็นทางเลือกที่ดีสุด ฉันไม่ได้พูดเกินจริง พวกนายสามารถค้นหาทางออนไลน์ได้..แล้วก็นะ เขาแพ้ฉัน
แม้เขาจะเอาชนะแมนิสันได้ครั้งเดียวและแพ้มากกว่าชนะ การบอกว่าเอาชนะเขาได้ก็คงไม่ผิด เหนือสิ่งอื่นใด จักรพรรดิจักรกลไม่อยู่ที่นี่
เข้าใจแล้ว
เช่นนั้น ภาพลักษณ์ของแมนิสันจึงเสียหายอีกครั้ง
พวกเขาคุยกันสักพัก หานเซี่ยวให้คำแนะนำมากมายและอธิบายสถานกาณ์ปัจจุบันของจักรวาลให้พวกเขาฟัง บีเกอร์กับคนอื่นตั้งใจฟังและเรียนรู้มากมาย
หลังหานเซี่ยวพูดจบถึงความสัมพันธ์ซับซ้อนระหว่างสามอารยธรรมจักรวาล เขาก็หยุด เปลี่ยนเรื่อง อย่างไรก็ตาม ฉันสนใจในยุคสำรวจมาก แต่สิ่งที่ฉันรู้มีดจำกัด พวกนายมาจากยุคนั้น ช่วยบอกรายละเอียดเพิ่มเติมของสถานการณ์ในยุคนั้นให้ฟังได้ไหม?
เขาไม่ได้มาแค่เพราะเตรียมพร้อมสำหรับหายนะผู้ใช้พลังแต่ยังเป็นการแลกเปลี่ยนข้อมูลกับบรรพชน เมื่อเห็นว่าเวลาเหมาะเจาะ เขาจึงหยิบยกขึ้นมา
นายถามถูกคนแล้ว ใครจะไปรู้เรื่องยุคนั้นได้มากกว่าเรา?
หานเซี่ยวมักเป็นคนพูดเสมอขณะที่พวกเขาฟัง เมื่อเห็นว่าหานเซี่ยวนำเรื่องที่พวกเขาคุ้นเคยดี พวกเขาจึงสนใจ พวกเขาเริ่มพูดวันแสนรุ่งโรจน์ในอดีตตลอดตั้งแต่ยุคมืดจนถึงยุคสงคราม
หานเซี่ยวรับฟัง พยักหน้าและถามเป็นครั้งคราว เขาได้รับความลับมากมายเกี่ยวกับสงครามยุคสำรวจจากพวกเขา รวมถึงข้อมูลเกี่ยวกับบรรพชนบางคน
พูดถึงเรื่องนี้ พวกนายรู้จักจักรพรรดิวิญญาณไหม?
…
โรเวลล์ ซิสซ็อก?ฉันสู้กับเขาหลายครั้งบนสนามรบ ชายคนนั้นมีความสามารถมาก แต่ฉันตายก่อนเขา ฉันไม่รู้ว่าเกิดอะไรขึ้นกับเขาหลังจากนั้น ท่านหญิงราคะพูด
เขาถูกฆ่าตายในสนามรบ บีเกอร์พูด ด้วยฝีมือฉันเอง นายฆ่าเขาเหรอ? หานเซี่ยวสนใจ
อืม พูดให้เจาะจง ฉันเข้าร่วมการซุ่มโจมตีเขา ร่วมกับอีกสอง แต่ฉันเป็นคนปิดฉาก
โอ้ นี่คงไม่ใช่เรื่องบังเอิญหรอกมั้ง?
หานเซี่ยวอยากรู้มากกว่าโซโรคินจะแสดงสีหน้าอย่างไรถ้าบีเกอร์เข้าร่วมสมาคม
อืม เมื่อพิจารณาว่าโซโรน้อยเป็นคนยังไง มันต้องเกิดคลื่นสึนามิในหัวเขาแน่ เขาอาจจะยังสวมรอยยิ้มจอมปลอมได้…หรือฉันควรกระตุ้นเขาบ้าง?
หานเซี่ยวรีบระงับความคิดชั่วร้ายและถาม แน่ใจนะว่าเขาตายแล้ว?ความสามารถเอสเปอร์วิญญาณของเขาพิเศษมาก บางทีเขาอาจย้ายดวงวิญญาณโดยที่ไม่มีใครรู้
นายกำลังบอกว่าเขาแกล้งตาย? บีเกอร์แปลกใจ เขาคิดสักพัก และส่ายหัว ฉันไม่รู้ แต่ ฉันไม่สังเกตเห็นอะไรแปลกๆเลยตอนนั้น
ฉันแค่เดา ถ้าเขายังมีชีวิตจนถึงตอนนี้เหมือนผู้รักษาสัจจะและนายได้พบเขาอีกครั้ง นายจะจำเขาได้ไหม?
อืม..ฉันไม่แน่ใจ ถ้าเขาไม่เปลี่ยนไป คาถาตรวจจับวิญญาณของฉันคงจำเขาได้ อย่างไรก็ตาม จักรพรรดิวิญญาณยังเป็นเจ้านายคนก่อนของไฟวิญญาณ ผู้รักษาสัจจะควรสัมผัสมันได้ถ้าพวกเขาพบกัน..แต่นั่นขึ้นอยู่กับว่าเขาเปลี่ยนความถี่วิญญาณเขาหรือไม่ ความถี่วิญญาณของทุกคนนั้นเป็นเอกลักษณ์
เมื่อได้ยิน หานเซี่ยก็ลูบคางและครุ่นคิด
โซโรคินเป็นผู้เชี่ยวชาญด้านวิญญาณ เขาไม่ควรทิ้งข้อบกพร่องเช่นนี้ แต่อาจไม่เป็นแบบนั้นซะทีเดียว เหนือสิ่งอื่นใด โซโรคินใช้ชีวิตมาได้จนถึงตอนนี้ เขาคงไม่คิดว่าจะได้พบกับบรรพชนที่เขาเคยติดต่อด้วย
ไม่มีใครในปัจจุบันที่สามารถพิสูจน์ได้ว่าโซโรคินคือจักรพรรดิวิญญาณ ดังนั้นบรรพชนเหล่านี้จึงกลายเป็นหลักฐานชิ้นโต
จิ๊ ถ้าบีเกอร์จำโซโรคินได้ตอนเขาเข้าร่วมสมาคม นั่นคงน่าสนใจมาก
แบล็คสตาร์ ฉันรู้สึกว่านายกำลังพยายามพูดอะไรบางอย่าง นายรู้อะไร?จักรพรรดิวิญญาณยังมีชีวิตอยู่จริงๆ? บีเกอร์อดถามไม่ได้
ใครจะไปรู้?’หานเซี่ยวัยกไหล่ เขายังไม่ตัดสินว่าจะเปิดโปงโซโรคินไหม มันยังไม่ถึงเวลา
เขาหยุดและพูด ยังไงซะ มีสองพี่น้องคู่หนึ่งในยุคสำรวจที่ครอบครองพลังงานชีวิตกับพลังงานความตาย พวกนายคิดยังไงกับพวกเธอ?
เนอคีสกับอีรอส..พวกเธอแข็งแกร่งมาก พวกเธอสร้างโลกใต้พิภพ ไม่มีใครกล้าไปยุ่งกับพวกเธอ ในที่สุดผานกอนก็พบโอกาสพูดอะไรบางอย่าง
โลกใต้พิภพคืออะไร? หานเซี่ยวทำเหมือนเขาไม่รู้
นั่นเป็นหนทางคืนชีพอย่างหนึ่งแต่ก็มีข้อเสียมากกว่า นายจะกลายเป็นข้ารับใช้ของสองสาวนั่น
ผู้รักษาสัจจะฟังสักพักและรีบพูด บรรพชนหลายคนในตอนนั้นต่างมองหาหนทางคืนชพี เราเลือกเทพอำนวย ขณะที่บางคนฝากความหวังกับโลกใต้พิภพ แต่….
ท่านหญิงราคะส่ายหัว ฉันจะพูดเอง สองสาวนั่นหลงไปในเส้นทางเพื่อค้นหาความหมายของชีวิตและความตาย พวกเธอพึ่งพาไม่ได้เลย เราเคยเชิญพวกเธอให้เข้าร่วมเทพอำนวย แต่พวกเธอปฏิเสธ หลังจากนั้น เราก็ขาดการติดต่อกับพวกเธอและไม่รู้ว่าเกิดอะไรขึ้นหลังจากนั้น บางทีอาจตายไปแล้ว
ไม่ใช่แค่ตาย พวกนายอาจไม่เชื่อ แต่พวกเธอฆ่าตัวตาย..
ทันใดนั้น ร่างของเขาก็แข็งทื่อหลังตระหันกถึงบางสิ่ง
เมื่อโอนิเคลูอธิบายถึงโลกใต้พิภพให้เขาฟัง ตอนนั้นเขาไม่รู้อะไรมากเกี่ยวกับวิหาร แต่เมื่อคิดดู…การกระทำของสองสาวที่ทิ้งเมล็ดพันธ์ความสามารถเอสเปอร์รูปแบบข้อมูลไว้เบื้องหลังนั้นเทียบเท่ากับการชิงข้อมูลความสามารถเอสเปอร์ของพวกเธอออกจากวิหาร?นั่นทำให้เมล็ดพันธ์ุความสามารถเอสเปอร์ทั้งสองนี้ส่งต่อความรู้ของพวกเธอมาได้?
สุดยอดช่างกลหานตื่นตระหนก ยิ่งเขาคิด เขาก็ยิ่งรู้สึกว่ามันไม่ง่ายอย่างที่คิด
หรือเหตุผลที่สองสาวฆ่าตัวตายเพราะพวกเธอพบว่าวิหารสามารถคืนชีพพวกเธอได้และอยากลองคืนชีพตัวเองหลังฆ่าตัวตายเพื่อพิสูจน์ทฤษฏีและยืนยันว่าเส้นทางของพวกเธอถูกต้อง?บางทีพวกเธออาจล้มเหลวและทำได้แค่ทิ้งข้อมูลความสามารถเอสเปอร์พวกเธอไว้เบื้องหลัง….
หลังเชื่อมโยงสิ่งนี้กับสถานการณ์ที่คาซูยิประสบ หรือว่าผลกระทบของภารกิจการเปลี่ยนแปลงลักษณะแห่งเทพจะมีบทบาทฦ
ก่อนพวกเธอจะตาย คำว่า’มรดก’ได้ถูกพูดถึงในคำพูดสุดท้ายของพวกเธอ…หรือพวกเธอไม่ได้แค่จะชี้ไปยังเมล็ดพันธ์ุความสามารถเอสเปอร์ แต่ยังเป็นการรีบู้ตครั้งใหญ่ มหันตภัยแห่งจักรวาล?
ลองคิดลึกลงไปอีก หรือเนอคีสกับอีรอสจะฟื้นคืนชีพผ่านวิหารได้โดยการใช้ออโรร่า ฮีล่าหรือโลกใต้พิภพเป็นสื่อกลาง?ถ้านั่นล้มเหลว มันก็หมายความว่าพวกเธอยังมีชีวิตอยู่?
หานเซี่ยวรู้สึกว่ายิ่งเขาคิด เรื่องราวยิ่งซับซ้อน
เขาระงับอาการตกใจและสงสัยไป ข้ามเรื่องนี้และคุยกับคนอื่นต่อ
พวกเขาคุยกันสักพัก เมื่อเห็นว่ามันมากพอ หานเซี่ยวจึงแทรกและพูดด้วยรอยยิ้ม วันนี้พอแค่นี้เถอะ แันได้ส่งต่อคำแนะนำของฉันแล้ว เราสามารถถือได้ว่าเป็นเพื่อนกันแล้ว อย่าลังเลที่จะมาหาฉันถ้าต้องการอะไรในอนาคต
เมื่อได้ยิน ทุกคนก็พยักหน้า แสดงความเป็นมิตร
หานเซี่ยวอำลาทีละคน จากนั้นก็สวมชุดราชาก่อนหายไป
บีเกอร์กับคนอื่นสบตากันหลังเขาไป
เราก็ไปกันเถอะ แบล็คสตาร์พูดถูก ฉันจะทุ่มเทกับการฝึก เราได้รับโอกาสที่น่าทึ่งเช่นนี้ มาใช้มันให้คุ้มค่าเถอะ บางคนพูด
อืม..ฉันไม่วางแผนจะออกไปเผยตัวสัก 20 ปี ..ไม่ 40 ปี ฉันจะอยุ่ในเทพอำนวย
เมื่อได้ยิน ผู้รักษาสัจจะก็ยิ้มสบายใจ
ในที่สุดความคิดของเพื่อนเขาก็โดนแก้ไขด้วยแบล็คสตาร์
ความพยายามของฉันไม่สูญเปล่า..
..
หานเซี่ยวกลับไปวังแบล็คสตาร์ ซึ่งอยู่ห่างไปหลายทุ่งดาวโดยตรง เปิดหน้าต่างสถานะทันที เขาเห็นการแจ้งเตือนภารกิจที่กะพริบอยู่พักหนึ่ง
[คุยกันด้วยหมัด]สำเร็จ!
การกระทำของท่านได้รับความเคารพจากบรรพชน ผลลัพธ์ยอดเยี่ยม สิ่งนี้จะทำให้เกิดผลกระทบลึกลับต่ออนาคต
เกรด : ไม่น่าเชื่อ
+20 ความโปรดปรานท่านหญิงราคะ
+20 ความโปรดปรานทริปป์
…
+20ความโปรดปรานผานกอน
ท่านได้รับค่าประสบการณ์ 2.4แสนล้าน 8 รางวัลสุ่ม และ3บัตรอัญเชิญตัวละครเปล่า
ท่านได้รับ 10 แต้มตื่นรู้
ท่านได้รับชิ้นส่วนความสามารถ[วิหารสาม]
ท่านได้รับพรสวรรค์[มือสังหารคนแก่]
[นักฆ่าคนแก่] : เมื่อท่านเจอกับคู่ต่อสู้ที่แก่กว่า การโจมตีพื้นฐานจะเพิ่มขึ้น 15% ในเวลาเดียวกัน เสน่ห์ของท่านจะเพิ่มขึ้น 40%
นี่…
หานเซี่ยวพูดไม่ออก รางวัลดีมาก มันมอบแต้มตื่นรู้แถมยังให้พรสวรรค์ใหม่
ผลของพรสวรรค์ค่อนข้างดี เหมือน[ใจไร้ความกลัว]..
แต่ชื่อ?!
ฉันเอาชนะกลุ่มบรรพชน ดังนั้นฉันจึงกลายเป็นพวกรังแกคนแก่?!
แถม ฉันสามารถเข้าใจได้กับโบนัสความเสียหาย แต่เพิ่มเสน่ห์นั่นอะไร?พวกเขารู้สึกว่าฉันดูเท่ห์ตอนสู้?หรือว่าพวกเขาจะเชียร์ฉันขณะที่ฉันทุบตีพวกเขา?พวกแก่พวกนี้เป็นมาโซคิสต์กันหมด?
นอกจากสิ่งเหล่านี้ กลไกกระตุ้นค่อนข้างสมบูรณ์แบบสำหรับเขา ท่ามกลางผู้อยู่เหนือ ไม่มีใครอายุน้อยกว่าเขา…
ช่างเป็นพรสวรรค์ที่แปลก แถม มันดูเหมือนจะขัดกับธรรมเนียมดั้งเดิมในการเคารพผู้สูงอายุ..
หานเซี่ยวส่ายหัว เขาดูรางวัลสักพักและปิดหน้าต่างสถานะ ไตร่ตรองถึงผลกระทบของครั้งนี้
ฉันเอาชนะพวกบรรพชน กำจัดความภาคภูมิใจ แบบนี้ พวกเขาควรเก็บตัวไปอีกนาน หายนะของผู้ใช้พลังจะชะลอไป ฉันสามารถคลายความกังวลได้บ้างแล้ว..
หานเซี่ยวพ่นลมหายใจ
เขามีเรื่องให้ทำมากมายเช่นการศึกษามรดกของเจซ ขยายกองทัพ รวบรวมชิ้นส่วนวิหารและอื่นๆ เวลาเป็นสิ่งที่เขาขาดสุด ยิ่งหายนะของผู้ใช้พลังเกิดช้า มันยิ่งดีสำหรับเขา มันจะดีสุดถ้าสัญญาณของมันแสดงหลังเขากลายเป็นประธานสมาคม ตำแหน่งของเขาจะมั่นคงมากถ้าเป็นแบบนั้น นอกจากนี้ การชักนำทิศทางของหายนะผู้ใช้พลังจะง่ายขึ้น
ปัจจุบัน สามอารยธรรมจักรวาลกำลังสู้กับพันธมิตรกลุ่มดาวชั้นยอด จักรวาลไม่มั่นคง แต่นี่เป็นช่วงเวลามั่นคงสุดสำหรับผู้อยู่เหนือ ไม่มีความขัดแย้งภายนอก พวกเขาจึงยิ่งแข็งแกร่งขณะเก็บตัว สมาคมยังสามารถสร้างเครือข่ายผลประโยชน์ได้สมบูรณ์ขึ้น…มันเพิ่งผ่านมาแค่ไม่กี่ปีตั้งแต่ก่อตั้งสมาคม แต่ก็มีหลายสิ่งที่สำเร็จไปแล้ว
มันถึงเวลาต้องทุ่มเทกับการพัฒนาสักพัก…หานเซี่ยวคิด
ในเวลาเดียวกัน แมนิสันกับโซโรคิน ผู้อยู่กันคนละสถานที่ต่างรู้สึกหนาวลงกระดูกสันหลังพร้อมกัน
แปลก ทำไมฉันถึงรู้สึกว่าจะมีเรื่องร้ายๆเกิดขึ้น?
โซโรคินงุนงง การคาดเดานับสิบผุดในหัวเขา
แต่ทว่า สำหรับแมนิสัน มันตรงไปตรงมากว่า
ไอสารเลวแบล็คสตาร์นั่นต้องกำลังวางแผนร้ายใส่ฉันอีกแล้วแน่!