The Legendary Mechanic - ตอนที่ 1003 สองผู้อยู่เหนือ
ฮีล่าครุ่นคิดอยู่นาน หานเซี่ยวรอด้วยรอยยิ้มบนหน้า เขาไม่รีบร้อน
หลังผ่านไปสักพัก ฮีล่าก็ค่อยๆถอนหายใจ
“ฉันเลือกเป็นอิสระ”
คิ้วของหานเซี่ยวเลิกขึ้น”เอาละ งั้นฉันจะให้ซิลเวีย..”
ก่อนเขาจะพูดจบ ฮีล่าก็ตัดบท”แต่ไม่ใช่ตอนนี้”
ใบหน้าของหานเซี่ยวกระตุก เมื่อเห็นแววตาล้อเลียนของเธอ เขาก็พูดไม่ออก
เธอกล้าแกล้งฉัน?
ถ้าเธอชอบพูดไม่จบประโยค ทำไมไม่เขียนหนังสือละ?
ฮีล่าถอนหายใจก่อนพูดจากก้นบึ้งหัวใจเขา “ในอดีต ฉันขาดความรู้สึกปลอดภัย ฉันอยากติดตามนามาตลอด ดังนั้นเป้าหมายเดียวของฉันคือแกร่งขึ้นจนกว่าจะมีพลังพอปกป้องตัวเองได้ ตอนนี้ที่ฉันเป็นผู้อยู่เหนือและสามารถปกปิดตัวเองในสถานการณ์อันตรายได้ ฉันก็ยังคิดไม่ออกว่าจะทำอะไรต่อ ดังนั้น ฉันจะอยู่ในกองทัพไปก่อน ถ้าฉันเปลี่ยนใจ ฉันจะคิดมันอีกที”
ฮีล่าได้คิดเรื่องนี้แล้วระหว่างทางกลับ เธอควรทำอะไรหลังเป็นผู้อยู่เหนือ?
ในอดีต เพื่อแกร่งขึ้น เวลาส่วนใหญ่เธอใช้ไปกับการต่อสู้ เธอไม่เคยหยุดชื่นชมความงามของจักรวาล อย่างน้อยตอนนี้ ฮีล่าก้ไม่คิดสร้างองค์กรของตน
นอกจากนี้ เมื่อนึกย้อนกลับไปบนเส้นทางที่เธอเดิน หานเซี่ยวได้ช่วยเหลือเธอมามาก โดยปราศจากเขา ไม่มีทางที่เอเมสจะรับเธอเป็นศิษย์ มีเพียงพระเจ้าถึงรู้ว่าเธอจะกลายเป็นผู้อยู่เหนือได้ตอนไหน
หลังเป็นหนี้หานเซี่ยวมานาน เธอก็รู้สึกว่าเธอต้องตอบแทนบาง เธอไม่อยากแยกทันทีที่เป็นผู้อยู่เหนือ นิสัยของเธอไม่ยอมให้เธอเป็นหนี้หานเซี่ยวไปตลอด
ย้อนกลับไป แบล็คสตาร์ได้ก่อตั้งองค์กรตัวเองทันทีที่เขากลายเป็นผู้อยู่เหนือ แต่เขาก็ทำผลงานให้เกาะมังกรไว้มาก ดังนั้นเขาจึงมีสิทธิ์ทำแบบนั้น ฮีล่ารู้สึกว่าผลงานของเธอในกองทัพยังน้อยกว่าที่หานเซี่ยวเคยทำให้เกาะมังกร ดังนั้นเธอจึงไม่สามารถทำแบบเดียวกันกับหานเซี่ยวได้
สำคัญสุด ฮีล่ารู้แค่วิธีสู้และฆ่า แต่ไม่รู้วิธีสร้างองค์กร และเธอก็ไม่อยากเสียพลังงานไปกับเรื่องเหล่านี้ เธอสืบทอด’พรสวรรค์’ของเอเมสมาจริงในแง่นี้ เธออยากใช้เวลาเหล่านี้เพื่อเสริมสร้างพลังเธอ เธอไม่สนใจสร้างองค์กรอะไรตอนนี้
จากวิธีที่เธอมอง ด้วยพลังและความสัมพันธ์ของเธอกับหานเซี่ยว ตำแหน่งเธอในกองทัพจะเหนือทุกคน ถ้าเธออยากฝึกฝนตัวเอง การอยู่ในกองทัพแบล็คสตาร์ต่อย่อมดีกว่าการใช้เวลาไปสร้างองค์กรใหม่ นอกจากนี้ กองทัพแบล็คสตาร์ยังเป็นองค์กรชั้นนำในวงแหวนดาวกระจาย มันไม่เหมาะสำหรับเธอที่จะสร้างองค์กรผู้อยู่เหนือใหม่เนื่องจากเธอไม่มีทางหาทรัพยากรได้มากนัก
หลังได้ยินคำอธิบาย หานเซี่ยวก็หัวเราะ”ได้ งั้นก็อยู่ในกองทัพไปก่อน คำสัญญาฉันมีผลเสมอ ถ้าเธออยากแยกตัวและกลายเป็นอิสระ ฉันจะช่วยเธอเอง
“อืม”ฮีล่าพยักหน้า
“เธอเป็นผู้อยู่เหนือแล้ว ดังนั้นมันไม่เหมาะที่จะเป็นหนึ่งในองครักษ์ฉันอีก อืม ฉันควรประกาศให้เธอเป็นรองผู้บัญชาการกองทัพแบล็สตาร์ ตำแหน่งเธอจะตำกว่าแค่ฉัน ไม่ด้อยไปกว่าลากี เธอจะมีส่วนร่วมในการตัดสินใจทุกอย่างของกองทัพ เธอสามารถจัดการงานประจำวันเช่นการขุดทรัพยากร และอื่นๆได้ เธอจะได้รับอำนาจสั่งการกองยานส่วนหนึ่ง รวมถึงมีตำแหน่งผู้บัญชาการขององครักษ์แบล็คสตาร์ แต่ทว่า เธอจะไม่เป็นส่วนหนึ่งขององครักษ์ฉัน”
หานเซี่ยวเลื่อนตำแหน่งและมอบอำนาจให้เธอมากมาย
เหนือสิ่งอื่นใด คุณค่าของเธอแตกต่างไปแล้ว ต่อให้ฮีล่าไม่ต้องการ เขาก็ต้องมอบมันให้เธอ เหตุผลหนึ่งเพื่อแสดงว่าฮีล่าสำคัญต่อเขามากและย้ำถึงความสัมพันธ์ระหว่างเธอกับกองทัพ อีกหนึ่งเพื่อพิสูจน์ต่อโลกภายนอกว่าเขาจะทำตามกฏของอุตสาหกรรมนี้
เขาคิดถึงหลายฉาก และการเลือกอยู่ต่อของฮีล่าก็คือผลลัพธ์ที่ดีสุด
นี่คือเจ้าหน้าที่ผู้อยู่เหนือคนแรกในกองทัพ การมีหนึ่งหรือสองผู้อยู่เหนือในองค์กรเดียวนั้นเป็นคนละแนวคิด
ในอดีต กองทัพมีแค่ฉันคอยรั้งอำนาจ ด้วยฮีล่า เธอจะสามารถดูแลหลายเรื่องแทนฉันได้ มันเป็นประโยชน์ต่อการเพิ่มอิทธิพลของกองทัพ….
“รองผู้บัญชาการกองทัพ?ยังไงก็ได้”ฮีล่าไม่สนใจตำแหน่งนัก ทันใดนั้น เธอก็กดขอบโต๊ะ โน้มตัวมาข้างหน้า พูดด้วยความหลงใหลในดวงตา”เราจะคุยเรื่องพวกนี้ทีหลัง ฉันมีคำขอ มาสู้กัน”
“ได้”หานเซี่ยวตอบรับ”แต่ไม่ใช่วันนี้ เธอเพิ่งกลับมา ไปพักผ่อนก่อน ใช้เวลากับน้องสาวเธอ ฉันจะจัดการเรื่องบางอย่างด้วย อีกไม่กี่วัน ฉันจะทุบตี…อะแฮ่ม สู้กับเธอ”
“ได้”
ฮีล่าพยักหน้าและระงับหัวใจที่เต็มไปด้วยความปรารถนา นับตั้งแต่เธอกลายเป็นผู้อยู่เหนือ เธอก็อยากรับรู้ถึงความแตกต่างระหว่างทั้งคู่
หลังคุยกันอีกสักพัก ฮีล่าก็ออกห้องไปหาออโรร่า ทั้งสองคุยกันเรื่อยเปื่อยหลังไม่เจอหน้ากันมาหลายปี
เมื่อเห็นฮีล่าออกไป หานเซี่ยวก็ยิ้ม ครั้งนี้ อุปกรณ์สื่อสารเขาดัง
เขามองมันและมันมาจากเออแรนเรล เพื่อให้จักรวรรดิติดต่อฉัน มันอาจเป็นเรื่องฮีล่า..หานเซี่ยวไตร่ตรองก่อนรับสาย
“ท่านผู้ปกครอง อะไรที่ทำให้คุณโทรหาผมในวันที่แสนยุ่ง?”หานเซี่ยวยิ้ม
“ฉันได้ยินว่าเจ้าหน้าที่คนหนึ่งของคุณเป็นผู้อยู่เหนือ”เออแรนเรลพยักหน้า
“ฮ่าๆ เธอชื่อฮีล่า เธอไม่ใช่แค่เจ้าหน้าที่ผม แต่เป็นเพื่อนสนิทผม เธอและผม….”หานเซี่ยวเลิกคิ้ว”โอ้ เกือบลืมไป พวกคุณคงมีข้อมูลของเธอแล้ว”
“อืม คุณพูดกับฮีล่าหรือยัง?”
“บังเอิญจริงๆ ผมเพิ่งคุยกับเธอจบ”
“แล้วแผนการของเธอละ?”
“เธอไม่อยากสร้างองค์กรเพราะคิดว่ามันยุ่งยาก ดังนั้นเธอจะอยู่ต่อเพื่อช่วยเหลือผม”
“ฉันเข้าใจ…”เออแรนเรลหยุดเงียบไปสักพัก”ฉันมีบางอย่างอยากจะขอคุณ”
“เชิญ” “ถ้าเป็นไปได้ ฉันหวังว่าคุณจะช่วยโน้มน้าวฮีล่าให้เข้าร่วมจักรวรรดิ”
ตามคาด…หานเซี่ยวยิ้มและไม่พูด
ความสัมพันธ์เขากับฮีล่าทำให้จักรวรรดิรู้สึกว่ามีโอกาสสูงมากที่จะได้พันธมิตรผู้อยู่เหนือคนใหม่
เมื่อเห็นหานเซี่ยวไม่ตอบ เออแรนเรลก็ถาม”คุณคิดว่ายังไง?”
“ไม่มีปัญหา ผมจะพยายาม แต่ก็ไม่ขอรับปาก”หานเซี่ยวตอบ
“ฉันเข้าใจ”เออแรนเรลพยักหน้า เธอไม่บังคับ
ครั้งนี้ หานเซี่ยวเปลี่ยนเรื่อง.”ยังไงก็ตาม ในเมื่อคุณติดต่อหาผม ผมก็มีเรื่องต้องรายงาน คุณขอให้ผมรักษาความสงบของวงแหวนดาวกระจาย และผมก็มีความคิดที่สามารถใช้ได้ในช่วงเวลานี้ แต่ทว่า มันค่อนข้างมีผลกระทบ ผมจึงต้องการการสนับสนุน”
“ลองบอกฉันมา” “เนื่องจากโลกริบหรี่ ผู้อยู่เหนือของทุ่งดาวต่างๆจะมารวมกันในวงแหวนดาวกระจายน ซึ่งจะนับเป็นผู้อยู่เหนือ 90%ของทั้งจักรวาล”หานเซี่ยวพูดขึ้น”ในเมื่อเป็นแบบนั้น ผมอาจเป็นฝ่ายนำ เชิญคนเหล่านี้มารวมกันในที่เดียว เป็นเจ้าภาพงานเลี้ยงครั้งใหญ่สำหรับผู้อยู่เหนือของทั้งจักรวาล แบบนี้ ผมจะสามารถตกลงกับพวกเขาทั้งหมดได้”
เมื่อได้ยินความคิดของหานเซี่ยว เออแรนเรลก็เริ่มคิด
นี่เทียบเท่ากับการเชิญผู้อยู่เหนือทั้งจักรวาล ซึ่งจะส่งผลกระทบมากเกินไป คนเหล่านี้คือบุคคลอันเป็นสัญลักษณ์ของทุ่งดาวต่างๆ ถ้าสิ่งนี้สำเร็จ มันก็มากพอจะส่งผลต่อทั้งจักรวาล
มันอาจถูกเขียนไว้ในประวัติศาสตร์ ในฐานะเหตุการณ์ที่น่าจดจำ
สิ่งที่แบล็คสตาร์จะได้รับจากมันค่อนข้างชัดเจน อย่างแรก มันจะช่วยเขาประหยัดเวลาและพลังงานในการแก้ไขความมั่นคงของทุ่งดาว ไม่ว่าจะเป็นการเจรจาหรือการแสดงอำนาจ
นอกจากนี้ ถ้าเขาสามารถรวมผู้อยู่เหนือทั้งหมดได้ ในฐานะเจ้าภาพ อิทธิพลของเขาจะเพิ่มขึ้นมาก มันพิสูจน์ว่าผู้อยู่เหนือเหล่านี้เต็มใจไว้หน้าเขา
“คุณมั่นใจแค่ไหนว่าจะรวบรวมทั้งหมดได้”เออแรนเรลถาม
“ประมาณ 50%”
“จริง?”เออแรลเรลสงสัย”ผู้อยู่เหนือส่วนใหญ่ฉลาด พวกเขารู้ดีว่าการตอบรับคำเชิญของคุณหมายความว่าพวกเขากำลังช่วยคุณสร้างอิทธิพลให้กับตัวเอง ผู้อยู่เหนือของจักรวรรดินั้นไม่มีปัญหา แต่คุณสามารถแน่ใจได้หรือว่าสหพันธ์กับศาสนจักรจะเห็นด้วย?”
“ผมรับปากไม่ได้ แต่…”หานเซี่ยวหัวเราะ”ผมคิดว่าหน้าผมควรใช้ได้มาก สำหรับที่ผมจะไม่สามารถเชิญได้ ผมอาจต้องพึ่งจักรวรรดิ” “ได้ มันน่าลอง ฉันจะให้คนช่วย”เออแรนเรลคิดและอนุมัติแผนการ
“งั้นผมควรขอบคุณจักรวรรดิล่วงหน้า”หานเซี่ยวยิ้ม”อีกเรื่อง ผมมีบางอย่างอยากพูด”
“ว่ามา”
“เกี่ยวกับลูกบาศก์วิวัฒนาการ ผมคิดแล้ว”หานเซี่ยวส่ายหัว”ผมขอโทษ แต่ผมไม่คิดใช้ลูกบาศก์แลกกับอย่างอื่นในตอนนี้ ผมได้อ่านรายการที่จักรวรรดิมอบให้หลายครั้งแล้ว แต่น่าเศร้าที่ไม่มีอันไหนต้องตาผม ผมรู้สึกซาบซึ้งมากที่จักรวรรดิมีความจริงใจในเรื่องนี้ แต่ผมได้ตัดสินใจแล้ว’
เออแรนเรลเงียบไปก่อนพูดขึ้น”ไม่มีปัญหา เราจะไม่บังคับคุณ ถ้าคุณเปลี่ยนใจ คุณสามารถติดต่อฉันได้”
ทั้งสองคุยกันสักพักก่อนวางสาย
หานเซี่ยวเล่นอุปกรณ์สื่อสาร คิดถึงบทสนทนาและพยักหน้า หลังพิจารณา เขาก็ได้ปฏิเสธข้อเสนอจักรวรรดิ
จักรวรรดิอยากเป็นเจ้าของลูกบาศก์วิวัฒนาการเพื่อควบคุมธุรกิจโทเท็มวิวัฒนาการ ซึ่งดันตรงกับสิ่งที่เขาต้องการ นี่คือความขัดแย้งด้านผลประโยชน์ ต่อให้จักรวรรดิไม่พอใจกับมัน เขาก็ต้องรักษาธุรกิจนี้ไว้
แทนที่จะพึ่งพาคนอื่น เขาชอบพึ่งพาตัวเองกว่า ความสัมพันธ์อันดีของเขากับจักรวรรดิเกิดขึ้นไม่ใช่เพราะความรู้สึก แต่เป็นเพราะเขามีประโยชน์ต่อจักรวรริด และนั่นคือรากฐานของกองทัพ ไอรีนโนเวล
การปฏิเสธข้อเสนออาจทำให้จักรวรรดิไม่พอใจ แต่ก็ไม่มีโอกาสที่จะทำลายความสัมพันธ์ของทั้งคู่ จักรวรรดิยังต้องการเขา
การกระทำแรกคือพูดถึงแผนรวมผู้อยู่เหนือทั้งหมดก่อนตัดสินใจถึงลูกบาศก์วิวัฒนาการเพื่อเป็นการทดสอบท่าที
เพื่อควบคุมบางสิ่ง เขาต้องมีพลังพอจะต่อรอง จักรวรรดิเป็นยักษ์ใหญ่อย่างไม่ต้องสงสัย แต่กองทัพในปัจจุบันก็มีพลังพอจะเก็บผลกำไรนี้ไว้ โดยเฉพาะเมื่อฮีล่ากลับมา
ต้นตอแรงกดดันจากสหพันธ์และศาสนจักรคือการที่จัรวรรดิไม่ยอมขายโทเท็ม แต่ทว่า ถ้านั่นไม่ใช่กรณีอีก คำตอบนั้นก็ชัดเจน สหพันธ์และศาสนจักรย่อมอยากให้พันธมิตรจักรวรรดิได้รับผลกำไรจากมันมากกว่าการให้คู่แข่งพวกเขาควบคุมธุรกิจโดยตรง
แม้บนหน้ากระดาษ ทั้งสองกรณีจะยังหมายความว่าจักรวรรดิคือคนได้รับผลประโยชน์ แต่เจ้าของผลกำไรนั้นเป็นของคนเดียว
“จักรวรรดิจะต้องลอบเคลื่อนไหวแน่ มาดูกันว่าพวกเขาจะทำอะไร”
หานเซี่ยวส่ายหัว
…
วันต่อมา มีการประกาศในกองทัพแบล็คสตาร์
“ผู้อยู่เหนือคนที่หกของวงแหวนดาวกระจาย ฮีล่าได้เอาชนะโทเลน เธอจะกลายเป็นรองผู้บัญชาการกองทัพแบล็คสตาร์”
ไม่แยกตัวและสร้างองค์กรตัวเอง แต่กลับอยู่ในกองทัพต่อ!
องค์กรนับไม่ถ้วนต่างให้ความสนใจกับเรื่องนี้ ทันทีที่ข่าวหลุดออกไป ทั้งทุ่งดาวก็ตกใจ!
ทุกคนรู้ว่าตั้งแต่ที่กองทัพแบล็คสตาร์มีสองผู้อยู่เหนือ อิทธิพลพวกเขาย่อมเพิ่มขึ้นมาก
แม้แบล็คสตาร์จะสามารถบดขยี้ผู้อยู่เหนือธรรมดาได้หลายคน แต่สำหรับประชากรรอบจักรวาล มันแตกต่างออกไป
หลายองค์กรที่มีแรงจูงใจแอบแฝงต่างรอคอยให้ฮีล่าแยกตัว แต่สิ่งต่างๆกลับไม่เป็นดั่งหวัง
เป็นผู้อยู่เหนือ แต่ก็ยังพอใจที่จะรับใช้แบล็คสตาร์?
เธอมีกระดูกสันหลังไหม?!
ทำไมไม่เรียนรู้จากรุ่นพี่ตัวเองและสร้างองค์กรเอง!
ให้ตายสิ มันต้องมีวิธีแยก!
อีกด้าน พันธมิตรและสมาชิกกองทัพแบล็คสตาร์ต่างยินดี
เมื่อรู้ว่าฮีล่าจะอยู่ ทั้งกองทัพก็ตื่นเต้น!
ด้วยผู้อยู่เหนืออีกคน สมาชิกกองทัพจึงมีความรู้สึกมั่นใจกันมากขึ้น
อิทธิพลแสดงให้เห็นอย่างรวดเร็ว มีคนมาเข้าร่วมกับกองทัพมากขึ้น
เมื่อเห็นหานเซี่ยวดูเหมือนจะฝึกฝนผู้อยู่เหนือได้จริงๆ ผู้ใช้พลังหลายคนจึงไม่นั่งเฉย ท่ามกลางพวกเขา คนที่ได้รับผลกระทบสุดคือเมล็ดพันธุ์ผู้อยู่เหนือที่เป็นกลาง โอกาสกลายเป็นผู้อยู่เหนือนั้นน่าดึงดูดใจสำหรับพวกเขามาก
… ที่ไหนสักแห่งในวงแหวนดาวกระจาย ในกองยานศาสนจักร…
ห้องประชุมของกองยานหลักเต็มไปด้วยภาพฉายของเหล่าพันธมิตรศาสนจักร โทเลนคือคนเดียวที่อยู่ และนั่งอยู่ตรงกลาง
“..นายกำลังบอกว่าความสามารถเอสเปอร์ของฮีล่านั้นเป็นอันตรายมากต่อสิ่งมีชีวิตและเมื่อมันระเบิด นายถึงกับบาดเจ็บสาหัส?”
“ถูกต้อง มันเจ็บมาก นอกจากนี้ เธอยังสร้างความเสียหายให้จิตฉันด้วย ฉันต้องพักฟื้นหลายปี”โทเลนกัดฟัน
โทเลนโกรธที่แพ้ฮีล่า ไม่เพียงเขาจะแพ้ เขายังบาดเจ็บสาหัส ซึ่งต้องใช้เวลาพักฟื้นหลายปี ก่อนเขาจะหายดี การควบคุมคาถาเขาจะลดลง และเขาก็ไม่สามารถสู้ได้ด้วยพลังสูงสุด
หลังพักผ่อนหลายวัน เขาก้ได้ติดต่อคนอื่นและรายงานเรื่องฮีล่า
คาซูยิส่ายหัว”กองทัพแบล็คสตาร์ได้รับผู้อยู่เหนือคนใหม่ที่มีศักยภาพสูง องค์กรเขาแข็งแกร่งขึ้นอีกแล้ว”
หลายคนขมวดคิ้ว
ท่ามกลางอารยธรรมจักรวาล ศาสนจักรคือคนที่ไม่อยากให้กองทัพแบล็คสตาร์แข็งแกร่งขึ้นสุด เหนือสิ่งอื่นใด พวกเขาเสียหายมากในช่วงการต่อสู้บนดาวประภาคารและหลายคนก็ไม่พอใจต่อกองทัพ
ครั้งนี้ นักล่าดวงอาทิตย์ก้มมองอุปกรณ์สื่อสารเขา”หืม?แบล็คสตาร์ส่งข้อความหาฉัน”
“ว่าไง?”คาซูยิหันไปมอง
“เอ่อ เขาส่งคำเชิญให้เรา ขอให้เราไปบ้านเขาในฐานะแขก’นักล่าดวงอาทิตย์ทำเสียงแปลก
“เรา?”
“ใช่ เขาเชิญ…ผู้อยู่เหนือทุกคนของศาสนจักร”
นอกจากคาซูยิ สีหน้าของทุกคนเปลี่ยนไป เต็มไปด้วยความตกใจและสับสน
เชิญผู้อยู่เหนือทั้งหมดของศาสนจักร?
แบล็คสตาร์คิดทำอะไรกันแน่?เขาคันเนื้อคันตัว?!
ถ้ามันเป็นคนอืน พวกเขาคงคิดว่านี่เป็นการฆ่าตัวตาย แต่เนื่องจากมันคือแบล็คสตาร์ ผู้คนจึงเชื่อว่าเขาน่าจะรู้สึกคันเนื้อคันตัว