The Legendary Mechanic - ตอนที่ 1032 นกขมิ้น
ในเนบิวลาที่เหมือนฝัน พลังงานโกลาหลแรกเริ่มกลับมาจากมิติที่สองและปรากฏต่อหน้าทุกคน
นี่คือกลุ่มพลังงานสีแดงสดขนาดใหญ่ในรูปแบบของหมอก เหหมือนเมฆที่กำลังเดือด แสงสีเทากะพริบเหมือนสายฟ้า พลังงานตรงกลางหนาแน่นสุด และยิ่งไกลจากศูนย์กลาง พลังงานก็ยิ่งเบาบาง ตรงขอบ พลังงานสีแดงแหว่งไปมา เมื่อมองใกล้ๆ พลังงานดูเหมือนจะก่อตัวจากอนุภาคเล็กๆนับไม่ถ้วน
กลุ่มแสงสีแดงขนาดเล็กจำนวนมากร่ายรำรอบพลังงานโกลาหลแรกเริ่ม เหล่านี้คือร่างย่อยที่พลังงานโกลาหลสร้างขึ้น สิ่งที่อีวานพบคือหนึ่งในเหล่านี้
พลังงานโกลาหลแรกเริ่มคือความสามารถเอสเปอร์บรรพกาล มันมีจิตสำนึกเป็นอิสระ จิตสำนึกและพลังงานส่วนใหญ่มันอยู่ในโหมดจำศีล เหลือแค่สัญชาตญาณส่วนน้อยของมันเพื่อรักษากิจวัตรประจำวัน มันล้มเลิกความคิดที่จะปล่อยตัวเองให้ท่องไปในจักรวาลแบบสุ่มๆ
กลุ่มแสงสีแดงขนาดใหญ่สะท้อนในรูม่านตาของลูกยานของทุกองค์กร ดวงตาพวกเขาเต็มไปด้วยความประหลาดใจและตื่นเต้น
‘มันปรากฏแล้ว!ลงมือ!”
ครั้งนี้ องค์กรทั้งหมดเปิดใช้งานกับดักรักษาเสถียรภาพที่พวกเขาตั้งไว้ก่อนหน้า
บูซ!
อุปกรณ์ทั้งหมดทำงาน รวมถึงรูนและของวิเศษทุกชนิด
พลังงานมิติเวลาขยายจากจุดต่างๆเหมือนระลอก ทำให้’รอยพับ’ในพื้นที่นี้แบนลง มิติเวลากลายเป็นเสถียร ไม่ว่าจะเป็นไฮเปอร์ไดรฟ์หรือรูหนอน พวกมันไม่สามารถใช้งานได้!
พลังงานโกลาหลแรกเริ่มมีความไวต่อการเปลี่ยนแปลงมาก มันสัมผัสได้ถึงการเปลี่ยนแปลงของสภาพแวดล้อมทันที จิตสำนึกที่จำศีลมันตื่นขึ้นด้วยความตกใจ เมฆพลังงานมันหดกลับทันที หดลงและความหนาแน่นมันก็เพิ่มขึ้นด้วยอัตราสูง พยายามเปลี่ยนเป็นหลุมดำเพื่อทำลายมิติเวลาและฉีกเปิดรอยแยกในมิติ
อวกาศในพื้นที่เหมือนกระดาษ และกับดักก็เหมือนพลังที่ยื่นออกไปด้านนอก ทำให้กระดาษตรงและแน่น พลังงานโกลาหลแรกเริ่มทำให้ตัวเองหนาแน่น พยายามฉีกกระดาษแผ่นนี้ มุ่งเน้นพลังงานมันเป็นจุดเดียวเพื่อสร้างรอยพับในอวกาศ สองพลังเหล่านี้สู้กัน ภายใต้สถานการณ์ปกติ ‘กระดาษแผ่นนี้’ถูกเจาะทันที แต่มันไม่ง่ายอย่างที่คิด
เมื่อเห็น เสียงก็ดังในช่องสาธารณะ
“เก็บพลังงานโกลาหลแรกเริ่มเร็ว ค่าสัมประสิทธิ์มิติเวลากำลังลดลงจากจุดสูงสุด ถ้ามันยังต่อต้าน มันจะหนีได้ในไม่ช้า!’
วินาทีต่อมา กองยานขนาดเล็กที่อยู่ใกล้สุดก็พุ่งไปทางพลังงานโกลาหลแรกเริ่ม ซึ่งกลายเป็นกลุ่มแสงสว่างมาก เกราะนอกของยานเหล่านี้เลื่อนเปิดออก แสดงอุปกรณ์จักรกลพิเศษที่ปล่อยแรงดึงดูดมหาศาลใส่พลังงานโกลาหลแรกเริ่ม พลังงานโกลาหลแรกเริ่มสั่นสะเทือนเล็กน้อย คลื่นพลังงานถูกดึงไปจากกระจุกแสงและดูดเข้าอุปกรณ์ เหมือนลำแสง
องค์กรเหล่านี้สู้เพื่อพลังงานโกลาหลแรกได้เตรียมการมาแล้ว นี่คืออุปกรณ์ที่ใช้เพื่อบรรจุและยับยั้งสิ่งมีชีวิตพลังงาน ถึงแม้พลังงานโกลาหลแรกเริ่มจะสามารถควบแน่นมันได้ พลังงานมันก็ยังถูกดูด เหมือนการเล่นชักเย่อ
แต่ทว่า ครั้งนี้ โดยไม่มีการเตือนใดๆ พลังงานโกลาหลแรกเริ่มยิงลำแสงหนาแน่นออกมา ถล่มกองยานนี้
วินาทีต่อมา ม่านพลังพวกเขากูกเจาะ ยานพวกเขาระเบิดทันที กองยานนี้ถูกทำลายในการโจมตีเดียว!
ด้วยการะรเบิดของพลังงานมัน พลังจิตของพลังงานโกลาหลแรกเริ่มก็ทำงาน คลื่นพลังจิตปรากฏ ขยายออกไป คนที่ถูกล้อมด้วยกระแสจิตจะรู้สึกปวดหัว
ภายในกองยานจักรวรรดิ เรเวนลูดเห็นสิ่งนี้ และริมฝีปากเขาก็โค้งงอ
“ฮี่ๆ พลังงานโกลาหลแรกเริ่มไม่ใช่สิ่งที่จะได้รับโดยไม่มีความเสี่ยง”
ความสามารถเอสเปอร์บรรพกาลเก่าแก่มาก พวกมันเป็นกลุ่มพลังงานไร้เจ้าของ ดังนั้น พวกมันจึงใช้วิธีการของตนเพื่อใช้พลังพวกเขา เช่นการยิงพลังงานเป็นลำแสง
ครั้งนี้ พลังงานโกลาหลแรกเริ่มหันหลังและหนีไปด้วยความเร็วสูงเหมือนอุกกาบาต กองยานรีบตามไป พยายามขวางทาง
“ของฉัน!”
ดวงตาเรเวนลูดเป็นประกาย เขาอกอยาน ไล่ตามมันด้วยความเร็วสูง
รูนและคาถาล้อมรอบร่างกายเขา เปล่งประกายด้วยแสงเวทย์ พลังเวทย์หนาแน่นดึงพลังงานโกลาหลแรกเริ่มและเพิ่มความเร็วมันเอง ในเวลาเดียวกัน ผลกระทบเวทย์ยังส่งเข้าไปในพลังงานโกลาหล เปลี่ยนเป็นอักษรรูนที่ควบคุมโดยเรเวนลูดเพื่อผสมพลังงานแปลกปลอมเข้ากับมัน ลดการควบคุมร่างกายมัน
ผลชัดเจน พลังงานโกลาหลแรกเริ่มไม่สามารถคงรูปแบบมันได้ และกลุ่มแสงก็ระเบิดอย่างรวดเร็ว ขยายตัวกลับไปเป็นกลุ่มเมฆพลังงาน
จอมเวทย์ผู้อยู่เหนือมักเดินทางในมิติที่สอง ประสบการณ์ของเรเวนลูดในการรับมือกับพลังงานสูงมาก มันไม่ใช่งานยาก ลำแสงพลังงานที่พลังงานโกลาหลแรกเริ่มยิงออกมาถูกป้องกันง่ายๆ
ขณะที่พลังงานโกลาหลแรกเริ่มกำลังจะตกอยู่ในมือของเรเวนลูด คลื่นพลังงานจิตรุนแรงก็เข้าใกล้เขาจากด้านหลัง
เรเวนลูดหรี่ตาลง เบี่ยงความสนใจเขาไปใช้คาถาป้องกันและขวางการโจมตีจิตทั้งหมดไม่ไกลนัก เงาร่างหนึ่งยับยั้งเขาอย่างรวดเร็ว พุ่งใส่พลังงานโกลาหลแรกเริ่ม ในมือเขาคือภาชนะบรรจุพลังงาน
“ฮึ่ม ไซเคอร์”
โดยไม่พูดอะไร เรเวนลูดโจมตีใส่ไซเคอร์ ทั้งสองสู้กันขณะไล่ตามพลังงานโกลาหลแรกเริ่มลงมา
องค์กรรอบๆเห็นสิ่งนี้และอยากใช้มันเป็นโอกาส แต่ทว่า ยานอวกาศใดก็ตามที่เข้ามาใกล้พลังงานโกลาหลแรกเริ่มจะถูกทำลายเป็นเสี่ยงๆจากการต่อสู้ระหว่างผู้อยู่เหนือ
เรเวนลูดเหือนกว่าและยับยั้งการโจมตีของไซเคอร์ได้ แต่แม้การต่อสู้จะรุนแรง แต่ทั้งคู่ก็ยังไม่ได้ทุ่มสุดตัว พวกเขาไม่ลืมที่จะออมพลังงานบางส่วนไว้เพื่อบรรจุพลังงานโกลาหลแรกเริ่ม
ด้วยสองผู้อยู่เหนือ พลังงานโกลาหลแรกเริ่มจะไม่สามารถสร้างปัญหาใดได้ รูนผนึกถูกประทับบนตัวมันทีละอัน ความต้านทานมันยิ่งอ่อนแอ ค่อยๆแสดงทีท่าว่าจะถูกผนึกอย่างสมบูรณ์
ในเวลเดียวกัน ทีมของอารยธรรมโมโดยังลอยอยู่ขอบสนามรบ ภัยพิบัตินับสิบในยานจ้องพลังงานโกลาหลแรกเริ่มตาไม่กะพริบ
“พวกเรา เอาไงกันดี?”
“อัตราสำเร็จต่ำเกินไป เราจะสามารถป้องกันการโจมตีพวกเขาได้สั้นๆแม้ว่าพวกเราทุกคนจะร่วมมือกัน ไม่มีเวลาพอที่เราจะถอย เราจะต้องสังเวยชีวิตมากมายแน่ มันไม่คุ้ม?”
พวกเขาสบตากันและส่ายหัว
เจ้านายพวกเขาบอกพวกเขาให้ลงมือ แต่ไม่มีโอกาสเลย แม้ภัยพิบัติเหล่านี้มักค่อนข้างภาคภูมิใจ แต่พวกเขาก็ไม่มีความมั่นใจที่จะเผชิญหน้ากับผู้อยู่เหนือ ต่อให้พวกเขาจะภักดีอารยธรรมโมโดแค่ไหนก็ตาม
ร็อดดิกเงียบไปสักพักก่อนพูด”ถ้าไม่มีโอกาส ก็อย่าเข้าไป”
เมื่อได้ยิน ภัยพิบัตินับสิบก็ผ่อนคลาย ร็อดดิกรู้สึกผิดหวังแต่ก็ไม่ฝืนเกิน เป้าหมายเดิมของเขาคือการส่งภัยพิบัติจำนวนมากออกไปถ้าอีกฝ่ายไม่มีผู้อยู่เหนือ
แต่ทว่า ด้วยการแทรกแซงของผู้อยู่เหนือ ภารกิจจึงล้มเหลว เนื่องจากไม่มีโอกาส ทางเลือกที่ดีสุดคือการถอย ไม่จำเป็นต้องปล่อยภัยพิบัติของอารยธรรมให้ตายฟรี
“นี่แค่ภารกิจเสริม ไม่ต้องฝืน เบื้องบนจะเข้าใจ ถ้าผมเสียพวกคุณไปมากเพราะเหตุการณ์นี้ เบื้องบนจะตำหนิผมด้วยซ้ำ”
ไม่นาน ร็อดดิกก็สั่ง”พวกคุณ ถอย!”
“รับทราบ!’ทุกคนตอบด้วยความดีใจ
แต่ทว่า วินาทีต่อมา การเปลี่ยนแปลงครั้งใหญ่ก็เกิดขึ้น!
กองยานของอารยธรรมโมโดพลันหันกลับและพุ่งไปทางพลังงานโกลาหลแรกเริ่ม ไม่ใช่แค่นั้น พวกเขายังยิงอาวุธทั้งหมดในเรเวนลูดกับไซเคอร์!
ทุกคนตกตะลึง แม้กระทั่งการต่อสู้ระหว่างเรเวนลูดกับไซเคอร์ก็ยังหยุดเพราะพวกเขาต้องขัดขวางการโจมตีฉับพลันนี้ ทั้งคู่สับสนมาก
พ-พวกมันกล้ายิงเรา?
พวกมันกล้ามาจากไหน!?
ภายในห้องบัญชาการ สีหน้าร็อดดิกเปลี่ยนไป เขาตะโกน”พวกแกทำบ้าอะไร?!.
“เราเสียการควบคุมยานเราไปแล้วครับ!”ภัยพิบัติหลายคนมึนงง
ร็อดดิกพลันคิดถึงบางอย่างและใบหน้าก็ขาวซีด
ความรู้สึกนี้คุ้นเคย….
“มันคือการบุกรุกเสมือน?!”
บัดซบ!
ด้วยความโกรธและตกใจ ร็อดดิกเพิ่งตะโกนให้ทุกคนหนี
แต่ทว่า ก่อนเขาจะได้ทำอะไร การสื่อสารก็ถูกตัด หน้าจอดำมืด สะท้อนให้เห็นใบหน้าบิดเบี้ยวของเขา
“แบล็คสตาร์!”
ปัง!
ร็อดดิกคำราม ทุบอุปกรณ์สื่อสารจนแหลก ห้องเต็มไปด้วยความโกรธและทำอะไรไม่ถูก
การแทรกแซงของบุคคลที่สามดึงดูดความสนใจ ทั้งเรเวนลูดกับไซเคอร์หยุดสู้กัน หันไปถล่มกองยานอารยธรรมโมโด
ภัยพิบัตินับสิบตื่นตระหนก พวกเขาหนีออกจากยานตัวเอง แต่ทว่า เรเวนลูดกับไซเคอร์ไม่คิดปล่อยให้คนที่โจมตีพวกเขาไป ดังนั้นพวกเขาจึงไล่ตาม
ภัยพิบัติที่อารยธรรมโมโดใช้ความพยายามเพื่อเลี้ยงดูทนได้ไม่นานก่อนตายลงทีละคน
คนเหล่านี้ไม่มีโอกาสสู้กลับเลย พวกเขาทำได้แค่วิ่งหนีเอาชีวิตรอด
หลังภัยพิบัติกว่า 80%ถูกกำจัด เรเวนลูดกับไซเคอร์ถึงหยุด หันกลับไปสู้กัน
สิ่งนี้ข่มขู่องค์กรอื่นทั้งหมด พวกเขาเคลื่อนตัวห่างออกไปพร้อมกองยานและไม่กล้าต่อสู้กับคนทั้งสองเพื่อแย่งพลังงานโกลาหลแรกเริ่ม ไอลีนโนเวล
กองยานของจักรวรรดิไม่ได้แค่ดู มันกำลังสู้กับกองยานของเผ่าเนตรม่วง ในแง่ของขนาดและเทคโนโลยี จักรวรรดิเหนือกว่า กองยานเผ่าเนตรม่วงถูกทำลายอย่างรวดเร็ว
“ยังอยากสู้กับฉันไหม?”เรเวนลูดเลิกคิ้วและส่งข้อความเสียงผ่านคาถา”เราสามารถสู้กันได้ทั้งวัน แต่กองยานแกจะถูกกวาดล้าง ฉันได้ยินว่าคนของแกสำคัญต่อแกมาก นี่คุ้มงั้นหรือ?”
ไซเคอร์ส่งคลื่นพลังจิตไปทำลายระเบิดเวทย์ กัดฟัน”แกคิดว่าฉันจะยอมแพ้แค่เพราะคำพูดไม่กี่คำงั้นเหรอ?กองยานของจักรวรรดิแกจะต้องเสียหายเหมือนกัน!’
“ถูกต้อง แต่นั่นคือทหารของจักรวรรดิ ฉันไม่สนใจการบาดเจ็บล้มตาย”เรเวนลูดพูด”แกไม่สามารถเอาชนะฉันได้ อย่าทำให้เกิดการเสียสละโดยไม่จำเป็น ทันทีที่ฉันได้รับพลังงานมา ฉันจะให้คนของฉันปล่อยกับดักสร้างเสถียรมิติ แนสามารถออกไปได้ผ่านประตูมิติ แกจะยังไล่ล่าฉันได้?”
ไซเคอร์ดูสับสน จากนั้นก็หยุดสู้ หันไปช่วยคนของเขา
เมื่อเห็น เรเวนลูดก็รู้ว่าไซเคอร์ได้ล้มเลิกการแข่งขันแล้วและยิ้มพอใจ โดยไม่ให้ใครขวางทาง เขามุ่งเน้นการร่ายคาถาผนึก ส่งแสงเวทย์นับไม่ถ้วนเข้าพลังงานโกลาหลแรกเริ่ม
ไม่ช้า ม่านพลังเวทย์ก็ห่อหุ้มพลังงานโกลาหลแรกเริ่มไว้และหดลงอย่างรวดเร็ว จากนั้นพลังงานโกลาหลแรกเริ่มก็ถูกผนึกเข้าบอลเวทย์ผลึกในมือเรเวนลูด
“จบ!”
ดวงตาของเรเวนลูดเป็นประกาย เขาแทบจะเห็นสมบัติจักรวาลที่จักรวรรดิรับปากกำลังโบกอยู่ตรงหน้าเขา ก่อนเขาจะได้ดีใจ วินาทีที่การผนึกสำเร็จ คาถาจิตที่เตรียมไว้นานมากก็พลันกระแทกใส่เขา กระแทกเข้าจิตใจเขา ด้วยจิตใจที่สั่นคลอน เรเวนลูดจึงชะงักไปชั่วขณะ
ในเวลาเดียวกัน เงาร่างหนึ่งก็บินออกจากกองยานธรรมดา เข้ามาด้วยความเร็วสูงมาก ร่ายคาถาระหว่างทาง พลังเวทย์มากมายล้อมรอบเรเวนลูด รัดร่างเรเวนลูดไว้
นี่ไม่ใช่แค่การมัดง่ายๆ ชื่ออย่างเป็นทางการของคาถานี้คือ[หนวดปีศาจ] มันคือคาถาชั้นสูงที่สามารถผนึกจอมเวทย์ได้ชั่วขณะ รวมถึงความสามารถยับยั้งวิญญาณ เมื่อมัด เป้าหมายจะไม่สามารถขยับร่างกายได้
“มีผู้อยู่เหนืออีกคน?!’ไซเคอร์ที่อยู่ไม่ไกลสัมผัสได้ถึงคลื่นพลังงานและหันไปมองด้วยความตกใจ
ในที่สุดเรเวนลูดก็ได้สติ ตื่นขึ้น พยายามดิ้นหลุด
แต่ทว่า เงาร่างนี้ได้มาอยู่ข้างเขาแล้ว ริบเอาภาชนะผนึกพลังงานโกลาหลไป และกดฝ่ามือลงบนหน้าอกของเรเวนลูด
พลังเวทย์รุนแรงพุ่งออกมา เปลี่ยนเป็นลำแสง ซัดเรเวนลูดออกไปไกล
การโจมตีนี้ไม่สร้างความเสียหายมากนัก เรเวนลูดลอยออกไปสั้นๆและรีบปรับสมดุล เขาแหงนมองด้วยความตกใจ เมื่อเห็นคนคนนี้เต็มไปด้วยอักขระ สีหน้าเขาก็เปลี่ยนไป
“มันเป็นแก ปรมาจารย์เร้นลับ!”
ด้วยความที่แวดวงผู้อยู่เหนือเล็กมาก ผู้อยู่เหนือจึงรู้จักกันหมด ตำแหน่งของปรมาจารย์เร้นลับในแวดวงยังสูงกว่าเขา
สีหน้าของปรมาจารย์เร้นลับเย็นเฉียบ เขาไม่สนใจเรเวนลูด ผู้ทั้งโกรธและกลัว เขาสำรวจพลังงานโกลาหลในมือเขา พยักหน้าและพูดด้วยใบหน้าไม่แยแส”ขอบคุณที่ช่วยฉันผนึกมัน ฉันปล่อยให้นายถือมันสักพัก ตอนนี้ มันกลับหาเจ้าของแล้ว”
เรเวนลูดโกรธ”ฉันคิดว่าแบล็คสตาร์หน้าด้านสุดแล้วในหมู่ผู้อยู่เหนือ ฉันไม่คิดว่าแกจะไม่ต่างกัน ส่งกลับคืนเจ้าของเดิม?แกเป็นเจ้าของพลังงานโกลาหลแรกเริ่มตอนไหน?”
“ฉันอยู่นี่ มันจึงเป็นของฉัน”ปรมาจารย์เร้นลับพูดเสียงเย็น
เรเวนลูดคำราม.”ผายลม แกคิดว่าแกจะออกไปได้หรือไง?”
ด้วยโอกาสที่จะได้รับสมบัติจักรวาลต่อหน้าเขา แม้ปรมาจารย์เร้นลับจะแข็งแกร่ง เรเวนลูดก็ไม่คิดยอมง่ายๆ
ปรมาจารย์เร้นลับมองเขา”ฉันสามารถไปได้ตามใจชอบ”
วินาทีที่พูด รอยแยกขนาดใหญ่ก็ปรากฏบนกับดักปรับเสถียรมิติในพื้นที่ และบางอุปกรณ์ก็ระเบิด ปรมาจารย์เร้นลับได้ลอบวางรูนระเบิดระยะไกลไว้เพื่อให้สามารถใช้คาถาเคลื่อนย้ายได้หลังสำเร็จ
ค่าสัมประสิทธิ์มิติเวลาและผลของกับดักลดลง ไม่สามารถหยุดผู้อยู่เหนือได้ สีหน้าของเรเวนลูดเปลี่ยนไป เขาเข้าใจแผนของปรมาจารย์เร้นลับ เขาเริ่มร่ายคาถาเพื่อยับยั้งอีกฝ่าย
แต่ทว่า ปรมาจารย์เร้นลับเร็วกว่า เขาเตรียมรากฐานของประตูเคลื่อนย้ายไว้ล่วงหน้า มันจึงทำงานทันที วังวนสีฟ้าปรากฏข้างเขา
เมื่อเห็นเรเวนลูดเข้ามาอย่างรวดเร็ว ปรมาจารย์เร้นลับก็สงบลงอย่างสมบูรณ์
“ไว้คราวหน้า…อืม?!”
ทันใดนั้น เขาก็รู้สึกว่ามือเขาหนัก ภาชนะผนึกพลังงานโกลาหลแรกเริ่มหายไปจากมือเขา แทนด้วยแขนจักรกลที่เชื่อมต่อกับเครื่องจักรร่างมนุษย์ ซึ่งปรากฏข้างเขา
“แก…”ความตกใจปรากฏบนหน้าปรมาจารย์เร้นลับ
เครื่องจักรนี้เอียงหัวและสั่น พลังงานมิติแปลกๆขยายออกมา ปกคลุมรอบๆ รวมถึงเรเวนลูด วินาทีต่อมา ปรมาจารย์เร้นลับกับเรเวนลูดก็ตระหนักว่าพื้นที่บริเวณนี้หนาแน่นขึ้น การเคลื่อนไหวพวกเขาช้าลง
คุกมิติ!
เรเวนลูดจำเจ้าของความสามารถนี้ได้ทันที”แบล็คสตาร์?!”
กายสถิตของหานเซี่ยวหันมามองเขา”โย่ นายยังจำฉันได้?”
“นายมาได้ทันเวลา!”เรเวนลูดยินดี คิดว่าหานเซี่ยวคือกำลังหนุนลับของจักรวรรดิ
หานเซี่ยวมองออกและส่ายหัว”ฉันไม่ได้มาเพื่อจักรวรรดิ”
รอยยิ้มของเรเวนลูดแข็งไป
เขาเข้าใจทันที ไม่เหมือนเขา แบล็คสตาร์ไม่ได้สู้แย่งพลังงานโกลาหลเพื่อจักรวรรดิ แต่อยากได้รับมันเอง
แบบนี้ แม้แบล็คสตาร์จะเป็นพันธมิตรจักรวรรดิ เขาก็ยังเป็นคู่แข่งในเรื่องนี้
เมื่อตระหนัก เรเวนลูดก็หน้าซีด ในเวลาเดียวกัน ปรมาจารย์เร้นลับยังหรี่ตา เขาอับอายและโกรธมาก”แบล็คสตาร์ แกเอาพลังงานโกลาหลแรกเริ่มของฉันไป?”
หานเซี่ยวหันมามองเขาและยิ้ม
“ฉันขอยืมคำพูดแก…ขอบคุณที่เก็บรักษามันไว้สักพัก”
เขารอนานแล้ว กายสถิตและกองทัพจักรกลเขาซ่อนอยู่ใกล้ๆตลอด
เพียงเมื่อปรมาจารย์เร้นลับลงมือและกำลังจะไป กายสถิตเขาจึงคว้าโอกาสโจมตี มันใช้[สลับมิติ]เพื่อสลับตัวมันกับภาชนะผนึก ดังนั้น ภาชนะจึงอยู่ในมือของกองทัพจักรกลเขา
แต่ทว่า แบบนี้ ระลอกพลังงานจะทำให้กองทัพจักรกลถูกเปิดเผยเช่นกัน เพื่อเลี่ยงทั้งสองไม่ให้ไล่ตามกองทัพ เขาจึงใช้กายสถิตเพื่อเปิดใช้งานคุกมิติทันที ยับยั้งปรมาจารย์เร้นลับกับเรเวนลูด ขณะที่กองทัพจักรกลสามารถจากไปได้พร้อมมัน เมื่อพวกเขากลับไปยังพื้นที่ปลอดภัย มันจะประสบความสำเร็จอย่างสมบูรณ์
ขณะที่ตั๊กแตนตำข้าวเดินตามจักจั่น มันไม่รู้ว่ามีนกขมิ้นอยู่ข้างหลัง ปรมาจารย์เร้นลับคิดว่าเขาคือนกขมิ้น แต่ไม่รู้ว่าหานเซี่ยวซ่อนอยู่ลึกกว่าเขา
“ปัญหาเดียวคือ”
หานเซี่ยวหันไปมองไซเคอร์ ผู้อยู่ห่างออกไป ชายคนนี้ไม่อยู่ในระยะคุกมิติ
เมื่อสังเกตเห็นการจ้องมอง สีหน้าของไซเคอร์ก็ขาวซีด
ครั้งนี้ เสียงของเจ้าหน้าที่เผ่าเนตรม่วงดังในเครือข่ายสื่อสาร
“ท่านผู้นำ เราตรวจพบกองทัพจักรกล มันกำลังคุ้มกันพลังงานโกลาหลแรกเริ่มและกำลังหนีด้วยความเร็วสูง เราควรไล่ตามไหมครับ?”
“ไม่ ถอย!”
เมื่อเห็นหานเซี่ยว ไซเคอร์ก็รีบหนีโดยไม่ลังเล
เขาไม่อยากขัดแย้งกับแบล็คสตาร์
สำคัญสุด แม้กองทัพจักรกลของแบล็คสตาร์จะไร้กายสถิต เขาก็ยังรู้สึกว่าเขาไม่มีทางชนะ
หานเซี่ยวอดเกาหัวไม่ได
เขาฉลาด?!
จากนั้นเขาก็มองปรมาจารย์เร้นลับที่ดูเกลียดชังเขาอย่างมาก
“ฉันจะรับเอาพลังงานโกลาหลแรกเริ่มไปด้วยรอยยิ้ม ถ้าแกไม่พอใจ…ให้ฉันช่วยแกยืดกระดูกเป็นไง?”