The Legendary Mechanic - ตอนที่ 1034 ประลอง
ไซเคอร์หนีห่างไป ปรมาจารย์เร้นลับถูกรั้งไว้โดยกายสถิต และเรเวนลูดก็ไล่ตามกองทัพจักรกลไป สถานการณ์การต่อสู้เปลี่ยนไปหลายครั้งในช่วงเวลาสั้นๆ กองยานขององค์กรอื่นเป็นได้แค่ผู้สังเกตการณ์
เมื่อมาถึงจุดนี้ องค์กรเหล่านี้รู้ดีว่าพลังงานโกลาหลแรกเริ่มไม่ใช่ของพวกเขาอีก
พวกเขาค่อนข้างผิดหวังแต่ก็ไม่แปลกใจ ไม่กี่วันก่อนหน้านี้ เมื่อพวกเขาตระหนักว่าจักรวรรดิกับศาสนจักรจะแทรกแซง พวกเขารู้ว่าโอกาสพวกเขาริบหรี่
แต่ทว่า การสามารถยืนยันได้ว่าพลังงานโกลาหลแรกเริ่มปรากฏในกลุ่มดาวมรกต รวมถึงโอกาสดูการต่อสู้ระหว่างผู้อยู่เหนือ ส่วนใหญ่รู้สึกว่ามันเป็นการเดินทางที่คุ้มค่า
แม้พลังงานโกลาหลแรกเริ่มจะถูกแบล็คสตาร์เอาไป พวกเขาก็ไม่แยกย้ายกันทันทีแต่กลับหยิบขนมมากินขณะดูการต่อสู้ระหว่างแบล็คสตาร์และปรมาจารย์เร้นลับ
มีเพียงองค์กรไม่กี่แห่งที่ยังไม่ยอมแพ้ แต่ก็ถูกหยุดโดยกองทัพจักรกล เมื่อมองดูปืนไซโอนิคหนาแน่น คนเหล่านี้ก็ทำได้แค่หยุด
แม้กายสถิตที่นำกองทัพจักรกลจะสู้กับปรมาจารย์เร้นลับอยู่ กองยานของจักรวรรดิก็ตอบสนองเช่นกันและรายงานการแทรกแซงของแบล็คสตาร์ นี่ส่งต่อถึงชายผู้รับผิดชอบ เบโครอดี้
“แบล็คสตาร์อยู่ที่นั่นด้วย/และเขาได้รับมันแล้ว?!”
ไกลออกไปในห้องบัญชาการระยะไกลภายในดินแดนจักรวรรดิ ดวงตาของเบโครอดี้เบิกกว้างจนแทบถลนออกมา เขาตกใจและโกรธ
“ท่านเรเวนลูดกำลังไล่ตามมันครับ เขาอาจจะมีความขัดแย้งกับแบล็คสตาร์โดยตรง เราควรทำยังไงดีครับ?”ผู้บัญชาการกองยานถาม เมื่อได้ยิน เบโครอดี้ก็ขมวดคิ้ว เขาเต็มไปด้วยความลังเล
เขารู้สึกว่าเรื่องนี้จัดการได้ยากมาก แบล็คสตาร์คือพันธมิตรคนสำคัญของจักรวรรดิ โดยปกติ สองฝ่ายควรหลีกเลี่ยงความขัดแย้งกันให้ได้มากสุด
แต่ทว่า ก่อนหน้านี้ จักรวรรดิไม่รู้ว่าแบล็คสตาร์จะแทรกแซง ซึ่งทำให้เบโครอดี้กังวล
ด้วยการควบคุมโลกริบหรี่ของจักรวรรดิ พวกเขากลับไม่สังเกตเห็นแบล็คสตาร์ส่งกลุ่มออกมา นี่แสดงให้เห็นว่ากองทัพแบล็คสตาร์ได้ลอบสร้างหลายสิ่งในโลกริบหรี่โดยใช้ประโยชน์จากจักรวรรดิ
เบโครอดี้รู้สึกว่าสถานการณ์เป็นเช่นนี้ แบล็คสตาร์ควรเป็นฝ่ายก้าวถอยก่อน แต่ทว่า แบล็คสตาร์กลับเห็นชัดว่าจักรวรรดิมีส่วนร่วม แต่เขาก็ยังลงมือ สำหรับเบโครอดี้ แบล็คสตาร์ไม่ไว้หน้าจักรวรรดิเลย ซึ่งทำให้ผู้นำฝ่ายเหยี่ยวอย่างเขาไม่พอใจ
ไม่ต้องสงสัยเลย เขารู้สึกว่าสถานการณ์ทั้งหมดเป็นความผิดของแบล็คสตาร์ ดังนั้นเขาจึงอยู่ในภาวะกลืนไม่เข้าคายไม่ออก
เขาควรดำเนินการต่อขณะเสี่ยงยั่วโมโหแบล็คสตารืหรือถอยกลับและล้มเลิกแผน?
“ท่านครับ เราควรติดต่อท่านผู้ปกครองหรือไม่?”
ขณะไตร่ตรอง เสียงลูกน้องก็ดึงเบโครอดี้ออกมา เขาหยุด”ยังไม่ต้อง ติดต่อแบล็คสตาร์ก่อน ฉันจะคุยกับเขา”
เขารู้ว่าเออแรนเรลชอบแบล็คสตาร์ ดังนั้นเขาจึงไม่อยากแจ้งเธอ
ศูนย์บัญชาการโทรหาแบล็คสตาร์ มันดังสามครั้งก่อนจะถูกรับสาย ใบหน้าของหานเซี่ยวปรากฏบนจอด้วยรอยยิ้ม
“ไม่เลว ไม่เลว คุณติดต่อผมเร็วกว่าที่คาดไว้”
ดวงตาของเบโครอดี้กระตุก เขาระงับความโกรธไว้ ฝืนยิ้ม”แบล็คสตาร์ จำผมได้ไหม ผมเบโครอดี้” “สวัสดี เราเจอกันอีกแล้ว คุณกินข้าวหรือยัง?”
“ผมเพิ่งกิน”
“คุณดูดีเลยทีเดียว ช่วงนี้คุณนอนหลับสบายไหม?คุณไม่ใช่หนุ่มๆอีกแล้วนะ อย่าทำงานหนักเกินไปละ พักผ่อนให้มากขึ้น”
“ผมชอบทำงานหนัก มันชินแล้ว แต่ช่วงนี้ผมค่อนข้างหลับสบาย ผม..”
เมื่อพูดได้ครึ่งทาง เบโครอดี้ก็หยุด
เขาเพิ่งสังเกตว่าเขากำลังเล่นตามเกมของหานเซี่ยวโดยไม่รู้ตัว เกือบลืมว่าเขาอยากพูดอะไร
แถม เราไม่ได้สนิทกัน!
เบโครอดี้กระแอม พยายามปกปิดความอึดอัดใจ จากนั้นก็ถาม”คุณรู้สินะว่าทำไมผมถึงโทรมา?มันน่าแปลกที่คุณหมายตาพลังงานโกลาหลแรกเริ่มเหมือนกัน ข้อมูลนี้มาจากมรดกเทพเอส คุณควรแจ้งจักรวรรดิเราหรืออย่างน้อยก็รายงานการกระทำ ถ้าคุณรายงาน เหตุการณ์วันนี้คงเลี่ยงได้”
สีหน้าหานเซี่ยวดูแปลกใจ ราวกับเขากำลังพูดว่า ถามอะไรโง่ๆ?
“การไม่แจ้งก็หมายความว่าผมอยากได้มันแล้วไม่ใช่หรือยังไง?แถม ผมจำได้ว่าผมไม่มีหน้าที่ต้องมอบข้อมูลทั้งหมดที่มีให้จักรวรรดิหรือรายงานการกระทำทุกอย่าง เราเป็นพันธมิตร ไม่ใช่นายจ้างและลูกจ้าง”
เบโครอดี้สวมสีหน้าจริงจัง”ยังไงก็ตาม ไม่ต้องคุยเรื่องนี้กันอีก ฟังผม จักรวรรดิไม่อยากให้โลกภายนอกเห็นเราสู้กับพันธมิตร นี่ต้องหาทางออก”
“งั้นก็ง่ายๆ ยอมแพ้ซะ มอบพลังงานโกลาหลแรกเริ่มให้ผม”หานเซี่ยวยิ้ม
“เป็นไปไม่ได้”เบโครอดี้พูด แต่จากนั้นก็ตระหนักว่าน้ำเสียงเขาดูหยาบคายเกินไป เขาจึงสงบลง”จักรวรรดิต้องการพลังงานโกลาหลแรกเริ่มเหมือนกัน เราจะไม่ปล่อยมันไปง่ายๆ” “คุณต้องการมันไปทำอะไร?”หานเซี่ยวอยากรู้
เบโครอดี้ปิดปากสนิททันที
เขาไม่สามารถบอกความจริงกับแบล็คสตาร์ได้ว่ามันเพื่อจำลองความสามารถของลูกบาศก์วิวัฒนาการ
พวกเขาต้องการพลังงานโกลาหลแรกเริ่มเพื่อทำให้กอดด์โตเร็วขึ้น ก้าวสู่อาณาจักรผู้อยู่เหนือ เป้าหมายคือวิเคราะห์ลูกบาศก์วิวัฒนาการ กอดด์คือคนเดียวที่สามารถวิเคราะห์พลังงานวิวัฒนาการได้ด้วยความสามารถเอสเปอร์เขาถ้าเขาเป็นผู้อยู่เหนือ
หลังจากนั้นสักพัก เบโครอดี้ก็ฝืนพูดออกมา”มันแค่บังเอิญ..”
“งั้นก็ช่างมัน”หานเซี่ยวส่ายหัว”ยังไงก็ตาม ผมจะไม่ถอย มันคือความจริงที่เราเป็นพันธมิตร แต่ผมไม่สามารถมอบทุกอย่างที่คุณขอได้ แม้กระทั่งความรู้ขั้นสูงสุดก็ต้องการให้ผมใช้แต้มผลงานเพื่อแลก แต่คุณกลับขอผมปากเปล่า มันไม่เห็นแก่ตัวไปหน่อยเหรอ?”
เบโครอดี้พยักหน้า”ได้ งั้นก็มาแลกกัน เราเต็มใจแลกพลังงานโกลาหลแรกเริ่ม คุณต้องการอะไร?ข้อมูล?ความรู้?ทรัพยากร?สมบัติจักรวาล?ผมเดาว่าคุณต้องการพลังงานโกลาหลแรกเริ่มเพราะคุณอยากเปลี่ยนมันเป็นสมบัติจักรวาล คุณสามารถแลกมันกับเราได้ คุณสามารถเลือกจากรายการที่ผมให้ไปครั้งก่อน”
จักรวรรดิมอบสมบัติจักรวาลให้เรเวนลูดเป็นค่าจ้าง ดังนั้นเนื่องจากพลังงานโกลาหลอยู่ในมือแบล็คสตาร์ เบโครอดี้จึงทำข้อตกลงเดียวกันกับแบล็คสตาร์
แน่นอนว่าข้อตกลงกับเรเวนลูดย่อมไม่มีอยู่อีก เขาจะได้รับแค่ทรัพยากรเป็นค่าชดเชย…
เรเวนลูด ผู้ยังไล่ตามกองทัพจักรกลไม่รู้ว่านายจ้างเขาได้ละทิ้งความหวังในตัวเขาไปแล้ว
หานเซี่ยวเลิกคิ้ว”แล้วถ้าคุณกลับคำพูดละ?”
“ถ้าคุณตกลง ผมจะให้เรเวนลูดถอยก่อน และคุณสามารถเก็บมันไว้ได้ จากนั้นคุณจะประกาศเพื่อกำจัดข่าวลือเรื่องความขัดแย้งนี้ จากนั้น คุณสามารถแลกมันกับเราได้ ดังนั้น คุณไม่ต้องห่วงว่าเราจะกลับคำพูด”
เบโครอดี้ไม่วางแผนลับหลัง อย่างน้อยเขาก็มีศักดิ์ศรีในฐานะเบื้องบนของจักรวรรดิ
แต่ทว่า หานเซี่ยวไม่คิดตอบรับทันที…
ถ้าเพื่อนร่วมทีมฉันหนีไป ฉันจะทุบตีใคร?
“เราจะคุยกันครั้งหน้า ผมยังไม่ตัดสินใจ ผมต้องคิดดูก่อน ดังนั้น ตอนนี้ มาแข่งขันกันอย่างยุติธรรมเถอะ..ในเมื่อคุณไม่อยากให้โลกภายนอกรู้ เราก็จะสู้กันในสถานที่ที่ไม่มีใคร”น้ำเสียงหานเซี่ยวสงบ เขาไม่ได้ปฏิเสธตรงๆ
ใบหน้าของเบโครอดี้แข็งทื่อ เขาหงุดหงิดมาก เขาไม่อยากเสียเวลาอีกและพูดตกลง จากนั้นก็ตัดสาย บอกลูกน้องเขาให้แจ้งเรเวนลูดว่าเขาต้องเอาพลังงานโกลาหลแรกเริ่มมาให้ได้
ในความคิดเขา ร่างหลักของหานเซี่ยวยังอยู่ในวังแบล็คสตาร์ มีเพียงกายสถิตกับกลุ่มกองทัพจักรกลเท่านั้น ปรมาจารย์เร้นลับกำลังสู้กับกายสถิต เรเวนลูดควรยังมีโอกาส
…
ภายในเนบิวลาสว่างไสว เรเวนลูดไล่ตามกองทัพจักรกลไป ห่างไปจากสนามรบที่กายสถิตอยู่และออกนอกสายตาทุกคน
โดยปราศจากการยับยั้งของอุปกรณ์ คาถาเคลื่อนย้ายของเรเวนลูดยังเร็วขึ้น ไม่ว่ากองทัพจักรกลจะเร็วแค่ไหน เขาก็สามารถไล่ทันได้ในพริบตา แต่เขาค่อยๆตามด้านหลังเพราะเขาอยากออกห่างจากกายสถิตให้ได้มากที่สุด
เหนือสิ่งอื่นใด ไม่ว่ากายสถิตจะอยู่หรือไม่ มันก็ไม่แตกต่าง เขาไม่อากเผชิญหน้ากับการโจมตีของกายสถิตด้วยร่างเขาเหมือนปรมาจารย์เร้นลับ
ฉันคือจอมเวทย์!ฉันบางเหมือนกระดาษ!
รูปแบบป้อมปืนระยะไกลคืองานถนัดเรา การต่อสู้ระยะประชิด?แกยังจะเรียกตัวเองว่าจอมเวทย์ได้ยังไง?! ไอรีนโนเวล
ปรมาจารย์เร้นลับผู้วาดไปทั่วตัวมีพลังต่อสู้ระยะประชิดที่แข็งแกร่ง แต่เรเวนลูดคือจอมเวทย์สมัยเก่า สำหรับเขาการต่อสู้ระยะประชิดก็เหมือนกับว่าช่างกลที่พุ่งเข้าสู่อ้อมแขนนักสู้…อืม ยกเว้นแบล็คสตาร์
นี่ไกลพอสมควรแล้ว
เรเวนลูดตั้งสมาธิและใช้คาถาเคลื่อนย้าย เขาปรากฏตรงหน้ากองทัพจักรกล โบกมือ และคฑาเวทย์ก็ปรากฏลอยเหนือหัวเขา อัญมณีด้านบนคฑาส่องแสงวิเศษ
วินาทีต่อมา หนังสือเวทย์เล่มหนาก้ปรากฏทีละเล่มรอบเรเวนลูด วดรอบเขาเหมือนวงแหวนดาวและให้พลังเวทมนตร์อันทรงพลัง
เมื่อหนังสือเวทย์เปิดออก หน้าก็พลิกเปิดอย่างรวดเร็ว แสงเวทย์สีม่วงปรากฏและขยายออกไปทันที เปลี่ยนเป็นกำแพงพลังงานสีม่วงเข้มที่ล้อมกองทัพจักรกลทั้งหมดตรงหน้า มันใหญ่มอง
มองจากด้านใน กำแพงด้านในทรงกลมนี้เป็นสีม่วงเข้มที่ปกคลุมด้วยสยาธารของพลังเวทย์สีฟ้าและขาว เหมือนดาวหางเวทย์ มันดูเหมือนม่านสีม่วงที่ประทับด้วยลวดลายสีฟ้าและขาว
“กำแพงทาร์กัล-สนามประลองม่วงเข้ม นี่คือคาถาต้องห้ามใหม่ที่สร้างโดยทีมวิจัยของฉัน”
หลังร่ายคาถา เรเวนลูดก็ยิ้มอย่างมั่นใจราวกับพลังงานโกลาหลแรกเริ่มตกอยู่ในมือเขาแล้ว
สายฟ้าพลังจักรกลบนกองทัพจักรกลอ่อนลง พวกมันยิงใส่กำแพงแต่ปืนใหญ่ไซโอนิคก็หายไปเมื่อกระทบกับทรงกลมเหมือนโดนดูดซับ ทหารจักรกลบางตัวบินไปตรงขอบ แต่วินาทีที่สัมผัสกับกำแพง เวทย์ก็ระเบิดขับไล่ทหารจักรกลออกไป
เรเวนลูดมั่นใจว่ากองทัพจักรกลไม่มีทางหลบหนีได้ ในสถานการณ์อย่างนี้ วิญญาณจอมวายร้ายที่อยู่ในตัวเขาเริ่มเดือดพล่าน เขาเริ่มทำท่าแบบพวกวายร้าย-อธิบาย!
“นี่คือคาถาผนึกระดับต้องห้าม มันสามารถดูดซับการโจมตีพลังงานภายนั้นและส่งออกด้านนอกได้ ในเวลาเดียวกัน มันยังป้องกันวัตถุใดก็ตามจากการผ่านกำแพง กองทัพจักรกลแกไม่สามารถหนีได้ นอกจากนี้ คาถานี้สามารถลดประสิทธิภาพของการส่งพลังงานได้ แกสังเกตไหม?พลังจักรกลแกอ่อนลง”
เขาพูดพล่าม แต่กองทัพจักรกลไม่สนใจเขาและโจมตีกายภาพใส่กำแพง แต่ก็ถูกผลักไปครั้งแล้วครั้งเล่า
เมื่อเห็นอย่างนี้ เรเวนลูดก็ส่ายหัวและยิ้ม”หยุดเสียเวลาเถอะ แบล็คสตาร์ ฉันรู้ว่าแกได้ยินฉัน มาคุยกัน”
หลังจากนั้น กองทัพจักรกลก็ล้มเลิกความพยายาม หันมาเปิดช่องสื่อสาร เสียงหานเซี่ยวดังขึ้น
“คุยอะไร?”
“แบล็คสตาร์ ฉันเคารพพลังของแก แต่กายสถิตแกไม่อยู่ ถ้าแกสู้กับฉัน แกจะเสียกองทัพเหล่านี้ไป ทำไมไม่ยอมละทิ้งพลังงานให้ฉันละ?ฉันจะจำบุญคุณนี้ไว้และมอบค่าตอบแทนให้แก เราเป็นพันธมิตรกัน เราไม่ต้องแก้ปัญหาด้วยความรุนแรง”
เรเวนลูดยิ้มและรู้สึกว่าเขาไว้หน้าแบล็คสตาร์มากแล้ว
แต่ทว่า มีแค่พวกเด็กๆไร้ประสบการณ์ถึงยอมทิ้งผลกำไรตัวเองเพราะคำพูดไม่กี่คำ แม้หานเซี่ยวจะถือเป็นทารกในแง่อายุท่ามกลางผู้อยู่เหนือ ประสบการณ์ชีวิตเขาก็ยังห่างไกลมาก เขาสั่งให้กองทัพจักรกลยิงทันที
ตึก ตก ตึก! กองทัพจักรกลล้อมเรเวนลูดและยิงใส่เขา แต่ทว่า เรเวนลูดเตรียมตัวไว้แล้ว ม่านเวทย์หลายชั้นปกป้องเขาขณะขยับตัวหลบด้วยความเร็วสูง คาถาโจมตีมากมายถูกโยนออกจากมือเขา ถล่มใส่กองทัพจักรกล
ขนาดของทรงกลมนี้ใหญ่มาก ให้เรเวนลูดมีพื้นที่พอ นอกจากนี้ ความคล่องตัวของเขาที่ได้รับจากการเคลื่อนย้ายสามารถทำให้เขาสู้ระยะกลางได้
“เป้าหมายไม่ใช่การทำลายกองทัพจักรกล มันดีสุดที่จะไปหลังได้รับพลังงานโกลาหลแรกเริ่มมา”
ขณะยิงคาถาใส่กองทัพจักรกล เรเวนลูดก็สังเกตเห็นตำแหน่งทหารจักรกลที่กำลังคุ้มกันพลังงานโกลาหลแรกเริ่ม
ทันใดนั้น ขบวนรบทหารจักรกลก็แสดงุจดบอด มีช่องโหว่ในการป้องกันของพลังงานโกลาหลแรกเริ่มและเขาก็สังเกตเห็นมัน
“โอกาส!” เรเวนลูดร่ายคาถาที่เขาเตรียมไว้นานแล้ว คลื่นที่มองไม่เห็นพุ่งออกมาและแบ่งกองทัพจักรกล เขาร่ายคาถาเคลื่อนย้ายอีกครั้ง ซึ่งเตรียมไว้ล่วงหน้า ปรากฏตัวข้างทหารจักรกลที่กำลังถือพลังงานโกลาหลแรกเริ่มไว้ มือสีม่วงที่สร้างจากพลังเวทย์คว้าภาชนะผนึกพลังงานโกลาหลแรกเริ่มตรงหน้าเขาไว้
ตอนนี้ แสงสีน้ำเงินเข้มพลันปรากฏตรงหางตาเขา ความรู้สึกเฉียบคมที่มองบทำให้ขนเขาตั้งชัน
ในชั่วพริบตา เรเวนลูดรีบหดหน้าท้องเพื่อหลบแสง หอกขาวลวดลายทองและล้อมด้วยพลังงานสีน้ำเงินได้ฉีกม่านพลังทั้งหมดเขาง่ายๆ เขาถูกปกคลุมด้วยเหงื่อเย็น
เกือบไป
ไซโอนิคไพรม์ ผู้รออยู่ท่ามกลางกองทัพเป็นเวลานานบิดหอก ยิงคลื่นพลังงานและกระแทกเรเวนลูดออกไป!
หอกของไซโอนิคไพรม์คือ’อาวุธชีวิต’ของเขาซึ่งปรากฏเมื่อเขากลายเป็นอาวุธอัครฑูต มันคือเกรดส้มเงิน และมันก็ยิ่งแกร่งตามนายมัน
ตอนนี้ หอกไซโอนิคไพรม์มีคุณสมบัติใหม่มากมาย เมื่อถูกใช้โดยไซโอนิคไพรม์เอง ลักษณะเหล่านี้จะแกร่งขึ้น มันเป็นอาวุธต่อสู้ระยะใกล้และกลางที่น่ากลัวมาก สามารถเจาะม่านพลังส่วนใหญ่ได้ง่ายๆ ม่านเวทย์ของเรเวนลูดเหมือนกระดาษต่อหน้าหอกนี้
ไซโอนิคไพรม์สะบัดหอก ไล่ตามเรเวนลูดไปทันที ไม่ปล่อยโอกาสไป
ไม่นาน เรเวนลูดก็สัมผัสถึงอันตรยาด้านหลัง อาวุธอัครฑูตที่ซ่อนตัวอยู่พุ่งเข้าประชิดเขา พวกมันเก่งการต่อสู้ระยะประชิดกันหมด เช่นนักล่าฟ้าคลั่ง จิตวิญญาณฟ้าม่วง และธงข่มสวรรค์ พวกมันบังคับให้เรเวนลูดไม่มีเวลาร่ายคาถา
นอกจากอาวุธอัครฑูตที่มีขนาดปกติอย่างคิงคองยักษ์ ทั้งหมดอยู่และซ่อนตัวอยู่ท่ามกลางกองทัพจักรกล ตอนนี้พวกมันโผล่ออกมากันหมด ไซโอนิคไพรม์นำบางส่วนไปสู้ระยะประชิด ส่วนประกายแสงสีเงินนำอีกกลุ่มโจมตีจากระยะไกล พวกมันประสานกันได้สมบูรณ์แบบมา
ด้วยความสำเร็จของการซุ่มโจมตี เรเวนลูดจึงอยู่ในสถานะเสียเปรียบ
ด้วยการเสริมพลังจักรกลของหานเซี่ยว อาวุธอัครฑูตเหล่านี้จึงมีพลังขึ้น ตอนนี้ที่หานเซี่ยวผ่านการยกระดับอีกขั้น เครื่องจักรของเขาจึงมีพลังเพิ่มขึ้นอีกครั้ง
‘การประลอง’กับอาวุธอัครฑูตนับสิบพร้อมกัน..เรเวนลูดแทบจะไม่สามารถทนได้
ไม่มีกลเม็ดที่จะทำให้หลุดพ้นได้ มันคือความแตกต่างอย่างสิ้นเชิงในพลังดิบ สถานการณ์พลิกไปอีกด้านอย่างรวดเร็ว
ฉันไม่สามารถเอาชนะกองทัพจักรกลขนาดกลางที่ไร้กายสถิต?พลังของเขามาถึงระดับนี้แล้ว?!
เรเวนลูดกัดฟันและทนการโจมตีรุนแรงจากอาวุธกว่าสิบ พลังเวทย์ในตัวเขาแตกราวกับเขื่อนแตก หัวใจเขาเต็มไปด้วยความไม่อยากเชื่อ
เมื่อรู้ถึงสถานะตัวเองตอนนี้ เรเวนลูดก็ยืนยันได้สิ่งหนึ่ง แบล็คสตาร์แข็งแกร่งขึ้นอีกแล้ว!
ครั้งนี้ เขาพลันนึกถึงประสบการณ์ตอนเขาสู้กับจักรพรรดิจักรกลหลายปีก่อน
นี่คือความรู้สึกนั้น!
แข็งแกร่งจนแม้แต่ผู้อยู่เหนืออย่างเขายังกลัว!