The Legendary Mechanic - ตอนที่ 1035 ทุบตีเพื่อนตัวเอง
นี่ไม่ใช่ครั้งแรกที่หานเซี่ยวได้สู้กับจอมเวทย์ จอมเวทย์ผู้อยู่เหนือทุกคนมีสไตล์ของตัวเองและวิธีการต่อสู้ก็ต่างกัน
เรเวนลูดคือหนึ่งในแอนเชี่ยนวัน เนื่องจากศักยภาพเขามีจำกัด เขาจึงมาถึงจุดสูงสุดของตัวเองแล้วและไม่สามารถกลายเป็นผู้อยู่เหนือระดับสูงสุดได้ ในชีวิตอันยาวนาน เขาเรียนคาถานับไม่ถ้วน สถาบันเวทย์ภายใต้เขาคือองค์กรที่จะศึกษาและคิดค้นคาถาใหม่ให้เขา ในการต่อสู้นี้ เขาแสดงให้เห็นถึงความรู้อันกว้างขวางของเขาในศาสตร์นี้
ในฐานะแอนเชี่ยนวัน ‘ราชามังกร’มิลิซาสมีสไตล์แตกต่างมาก มิลิซาสมุ่งเน้นเวทย์มังกรทรงพลัง ต่อสู้ด้วยพละกำลังดิบๆแบบตรงไปตรงมา ส่วนเรเวนลูดมีคาถานับไม่ถ้วนเพื่อรับมือกับสถานการณ์ทุกประเภท
ผู้อยู่เหนือทุกคนต่างมีความถนัดของตน ต่อหน้าสถานการณ์เสียเปรียบเช่นนี้ แม้เรเวนลูดจะถูกข่ม เขาก็ค่อยๆใช้คอมโบคาถาที่เปลี่ยนแปลงตลอดเวลาเพื่อให้ตัวเองมีเวลาหายใจ
ด้วยแสงของอัญมณีบนคฑาเขา วงแหวนคล้ายไหมที่ทำจากอักษรรูนปรากฏรอบตัวเขา พลังงานเวทย์สีม่วงเริ่มหมุนและขยายเป็นพายุ พลังงานเกรี้ยวกราดพัดอาวุธอัครฑูตที่อยู่ใกล้ให้ออกไป สร้างโอกาสสั้นๆให้ร่ายคาถา เรเวนลูดอยู่ในตาพายุ ด้วยการเปลี่ยนท่าทางมือ พายุเวทย์ควบแน่นเป็นลูกศรเวทย์นับพันที่ลอยรอบเขา
“ความสามารถลับ – พายุลูกศรเวทย์!”
ลูกศรคล้ายผลึกม่วงยิงออกไปทุกทิศทางใส่กองทัพจักรกล ทำให้เกิดกลุ่มระเบิดพลังงานสีม่วงสวยงาม
บูม บูมบูม!
คลื่นกระแทกและขยายตัว พัดเอาทหารจักรกลจำนวนมากออกไป ในเวลาเดียวกัน การสั่นสะเทือนของอนุภาคเวทย์ก็ทำให้ทหารจักรกลจำนวนมากขยับไม่ได้ ความสามารถนี้มีทั้งความเสียหายและผลการควบคุมในวงกว้าง
เรเวนลูดไม่หยุดแค่นั้น เขาโบกมือ หนังสือเวทย์ปรากฏและพลิกเปิด หน้าทั้งหมดส่องแสงและเปลี่ยนเป็นวงแหวนแสงทรงกลม สร้างทางเข้ามิติที่สองที่ขยายตัวด้านหลังเขา ทางเข้าขยายกว้างไปหลายพันเมตร
ฮึ่ม!
ปลายหอคอยรูปสี่เหลี่ยมขนาดมหึมาที่ดูเหมือนทำจากผลึกยื่นออกจากอุโมงค์ ค่อยๆแสดงให้เห็นถึงรูปลักษณ์เต็มๆ มันคืออาคารเวทมนตร์ที่งดงาม
คาถาเวทย์ขั้นสูง – อัญเชิญเจดีย์เวทย์!
“เขากำลังอัญเชิญเจดีย์เวทย์ของเขา หยุดเขา!”ดวงตาของไซโอนิคไพรม์ทอประกาย เขหายุดตัวเองจากการถูกระเบิดและพุ่งไปข้างหน้าอีกครั้ง
เจดีย์เวทย์คืออุปกรณ์แกนหลักของจอมเวทย์ระดับสูง จอมเวทย์ที่ไร้เจดีย์จะอยู่กันคนละระดับ จอมเวทย์สามารถแสดงพลังเต็มที่ได้เมื่อสู้ร่วมกับเจดีย์เวทย์
ตัวอย่างเช่น วังคาถาลับของออสตินคือเจดีย์เวทย์เกรดทอง ซึ่งไม่เพียงจะทำให้เขามีพลังมหาศาล แต่ยังไปไหนก็ได้
ค่าใช้จ่ายของเจดีย์เวทย์ที่สามารถเก็บไว้ในมิติที่สองและอัญเชิญออกมาแพงมาก โดยปกติ เมื่อจอมเวทย์อัญเชิญเจดีย์ออกมา มันหมายความว่าพวกเขาตัดสินใจยืนหยัดและต่อสู้ในจุดๆนั้น นี่เพราะเจดีย์เวทย์ส่วนใหญ่ไม่มีพลังเคลื่อนย้ายที่แข็งแกร่งเท่าวังคาถาลับ
เจดีย์เวทย์คือไพ่ตาย เนื่องจากมันถูกอัญเชิญ นั่นหมายความว่าเรเวนลูดไม่คิดออมมือ เขากำลังจะทุ่มสุดตัว
“แบล็คสตาร์ แกแกร่งกว่าฉัน…แต่มันไม่ง่ายที่จะเอาชนะฉัน!’
เรเวนลูดกัดปาก ความภาคภูมิใจของเขาในฐานะผู้อยู่เหนือถูกเหยียบย่ำ และเจตจำนงแห่งการต่อสู้ก็ลุกโชน กองทัพจักรกลเปิดใช้งานอุปกรณ์ปรับเสถียรมิติ แต่ทว่า ภายในสนามประลองม่วงเข้ม พลังเวทย์หนาอ่อนแอ เรเวนลูดทำทุกวิถีทางเพื่อให้การอัญเชิญมีเสถียรภาพ
เจดีย์เวทย์ยื่นออกมาทีละนิด ประกายแสงสีเงินและกองทัพจักรกลเปลี่ยนเป้าหมายการโจมตีระยะไกลไปที่เจดีย์เวทย์ รูนป้องกันขนาดใหญ่ปรากฏบนเจดีย์เวทย์เพื่อปกป้องมัน คล้ายกับม่านพลังงานสีม่วง เกิดประกายไฟและการระเบิดไม่หยุดยั้งบนผิวมัน
เรเวนลูดใช้พลังงานเวทย์เขาจนถึงขีดสุด แสงสีม่วงเข้มเปล่งจากตัวเขา ในระหว่างการอัญเชิญเจดีย์เวทย์ การเคลื่อนที่เขาลดลงไปมาก ชั้นม่านพลังเวทย์หนายังป้องกันการร่ายเขาจากการถูกแทรกแซง
ทันใดนั้น อวกาศด้านหลังเขาก็กระพเอม นักล่าฟ้าคลั่งที่มีความสามารถเคลื่อนย้ายระยะสั้นเข้าไปภายในม่านพลัง ด้วยฟันและกรงเล็บแหลม กระโจนใส่เรเวนลูด
ในชั่วพริบตา เรเวนลูดรีบหันร่างและหลบไปได้อย่างหวุดหวิด
พลังงานเวทย์ตบนักล่าฟ้าคลั่งออกไป จากนั้นเขาก็ก้มมอง ซี่โครงเขาและขาซ้ายถูกเฉือนเป็นแผลลึก เขาสามารถเห็นเนื้อเขาที่กลังขยับอยู่ภายใน พยายามปิดบาดแผล
ก่อนเขาจะได้ทำอะไร ไซโอนิคไพรม์ก็ปรากฏตัว หอกเขาแทงมาข้างหน้าอย่างรวดเร็ว
ความสามารถของหอกในการเจาะม่านพลังเป็นภัยคุกคามใหญ่ การอัญเชิญใกล้จบลงแล้ว เพื่อป้องกันการโจมตีนี้ เขาต้องร่ายคาถาและหยุดการอัญเชิญ เรเวนลูดกัดฟัน ตัดสินใจไม่หลบ เขาต้องอัญเชิญออกมาให้ได้ต่อให้ต้องแลกมาด้วยบาดแผล
หวืด!
ตามเคย ม่านพลังถูกเจาะง่ายๆและหอกก็แทงใส่หน้าอกของเรเวนลูด
รสชาติของเลือดพุ่งขึ้นคอเขา เรเวนลูดไม่สนใจมันและจบส่วนสุดท้ายของคาถาอัญเชิญ
“ออกมา!’
บูม!
เจดีย์ทั้งหลังเผยโฉม มันปล่อยคลื่นพลังเวทย์รุนแรงออกมา พัดทหารจักรกลทั้งหมดออกไป รวมถึงอาวุธอัครฑูต
นี่คือหอคอยผลึกสูง ฐานมันคือแผ่นดิสก์ขนาดมหึมา โดยรวม มันดูเหมือนชิ้นหมากรุกที่ขยายใหญ่ กระแสเวทมนตร์หลากสีไหลอยู่ภายในผลึก รูนและวงเวทย์นับไม่ถ้วนค่อยก่อตัว สร้างม่านพลังทรงกลมหมุนห่อหุ้มเจดีย์เวทย์
เรเวนลูดไอสองสามครั้ง สร้างวงเวทย์รักษาสีเขียว และยัดมันเข้าแผลที่เกิดจากไซโอนิคไพรม์เพื่อห้ามเลือด จากนั้นก็บินไปในเจดีย์เวทย์ เชื่อมต่อพลังเวทย์เขากับแกนพลังงานของเจดีย์เวทย์
วินาทีต่อมา หลุมดำก็ปรากฏด้านล่างเจดีย์เวทย์ หุ่นเชิดเวทย์จำนวนมากกรูกันออกมา หลังจากนั้น อุโมงค์มิติก็ปรากฏขึ้นรอบๆ สัตว์ประหลาดนับไม่ถ้วนถูกอัญเชิญ พุ่งตรงใส่กองทัพจักรกล
ไซโอนิคไพรม์เหวี่ยงและควงหอกในมือ ยิงคลื่นแสงออกไป ทำลายสัตว์ประหลาดได้ง่ายๆ
ครั้งนี้ เสียงของเรเวนลูดดังก้องไปทั่วเหมือนฟ้าร้อง
“ในเมื่อแกอยากสู้ งั้นก็มาลุยกันให้จบ แบล็คสตาร์!”
“จอมเวทย์ผู้อยู่เหนือที่เอาจริง..ผมจะไม่ทำให้นายท่านผิดหวัง!”
ประกายไฟฟ้าสว่างวาบในดวงตาของไซโอนิคไพรม์ เขานำกองทัพจักรกลพุ่งไปข้างหน้าอย่างไม่เหรงกลัว
กองทัพทั้งสองปะทะกัน!
…
ไม่นานหลังกองยานจักรวรรดิมาถึงที่เกิดเหตุ สิ่งที่พวกเขาเห็นคือซากปรักหักพัง อัญมณี เศษเนื้อ เครื่องจักรลอยอยู่ทั่ว มีปฏิกิริยารังสีจำนวนนับไม่ถ้วนในอวกาศที่สร้างขึ้นโดยการระเบิดพลังงานสูง เจดีย์เวทย์ที่เสียหายหนักลอยอยู่ เต็มไปด้วยหลุมและรอยแตก แสงเวทย์รอบมันหม่นแสง
กองยานจักรวรรดิไม่เห็นวี่แววของกองทัพจักรกล พวกเขาจึงส่งคนไปในเจดีย์เวทย์และพบเรเวนลูดที่ยืนพิงกำแพง เสื้อผ้าเขาขาดรุ่งริง ร่างกายเขาเต็มไปด้วยแผล และยังมีรอยเลือดสีทองแห้งบนพื้น คฑาเวทย์หักครึ่งนอนอยู่ข้างเท้าเขา รอยตัดเนียนมาก
“พวกคุณ…แค่ก…ในที่สุดก็มา” ไอลีนโนเวล
เสียงของเรเวนลูดอ่อนแรง เขายืนขึ้น ทหารจักรวรรดิหลายคนรีบไปพยุง
“เกิดอะไรขึ้น?ทำไมถึงเป็นแบบนี้ไปได้?!”เบโครอดี้ตกใจ
ศัตรูก็แค่กองทัพจักรกลของแบล็คสตาร์ ต่อให้เรเวนลูดล้มเหลว ในฐานะผู้อยู่เหนือ เขาจะถูกทุบตีจนสาหัสแบบนี้ได้ยังไง?! เบโครอดี้คิดและถาม”ร่างหลักของแบล็คสตาร์มาที่นี่?”
เรเวนลูดส่ายหัว”ไม่”
“โอ้..งั้นคุณควรทำลายกองทัพจักรกลได้และได้รับพลังงานโกลาหลแรกเริ่มมาแล้วสินะ?”เบโครอดี้ถาม
เรเวนลูดส่ายหัวอีกครั้งด้วยสีหน้าซับซ้อน”ไม่ ผมแพ้”
สีหน้าของเบโครอดี้เปลี่ยนไป’งั้น คุณกำลังบอกว่า คุณ ผู้อยู่เหนือที่มาเองและยังใช้เจดีย์เวทญืกลับแพ้ให้หนึ่งในกองทัพจักรกลของแบล็คสตาร์ที่ไม่มีแม้แต่กายสถิต?”
นี่คืออะไร?
แกอ่อนไปหรือเปล่า?!
เมื่อเห็นสีหน้าของเบโครอดี้ เรเวนลูดก็รู้ดีว่าอีกฝ่ายดูถูกเขา เขารู้สึกอับอาย”คุณไม่รู้อะไรเกี่ยวกับความแข็งแกร่งของแบล็คสตาร์!’
จากนั้นเขาก็เล่าการต่อสู้และทำการวิเคราะห์พลังปัจจุบันของหานเซี่ยว
“ผมเคยสู้กับจักรพรรดิจักรกลมาก่อน และความประทับใจก็ยังสดใหม่ แบล็คสตาร์ต้องแตะระดับของการเปลี่ยนแปลงลักษณะแห่งเทพแล้วแน่ นั่นทำให้อาวุธอัครฑูตกับกองทัพจักรกลเขามีพลังพอจะเอาชนะผมได้!”
โดยไม่รู้ตัว สีหน้าของเบโครอดี้เปลี่ยนไป
หลังเงียบอยู่นาน เขาก็พูด
‘พลังของแบล็คสตาร์ไม่เติบโตมายี่สิบปี ผมคิดว่าเขาคิดต้องใช้เวลานานกว่านี้ แต่ไม่คิดเลยว่าจะเร็วขนาดนี้”
ในช่วงการอัปเดทเวอร์ชั่น หานเซี่ยวไม่ได้เพิ่มระดับมากนัก ดังนั้นมันจึงดูเหมือนเขาวิ่งชนกำแพงซึ่งทำให้โลกภายนอกโล่งใจ พวกเขาคิดว่าในที่สุดเขาก็มาถึงขีดจำกัดแล้ว
เบโครอดี้ก็คิดแบบนั้น แต่ตอนนี้เมื่อเห็นสภาพของเรเวนลูด เขาก็รู้ว่าแบล็คสตาร์พบทางเดินอีกแล้ว ยี่สิบปีไม่ใช่เวลาสั้นๆ แต่ก็ยังเร็วเกินไปสำหรับผู้อยู่เหนือ!
“รายงานให้ท่านผู้ปกครองรู้และเก็บข้อมูลนี้ไว้ในเอกสารลับ อย่าให้รั่วไหลเด็ดขาด”
ตอนนี้เอง เขาตัดสินใจถูกต้อง การปิดบังความจริงที่แบล็คสตาร์แข็งแกร่งขึ้นไม่ใช่เพราะเขาอยาก แต่เพราะเขารู้ว่าผู้ปกครองต้องสั่งแบบนี้
แม้เบโครอดี้จะไม่ชอบแบล็คสตาร์ เขาก็รู้ว่าการปิดบังพลังของพันธมิตรจักรวรรดิเป็นประโยชน์ต่อจักรวรรดิ ต่อให้พลังงานโกลาหลจะถูกชิงไป เขาก็ยังต้องเก็บกวาดมันให้แบล็คสตาร์
“ถอย”เบโครอดี้สั่งยุติ
“ข้อตกลงของเรา….”เรเวนลูดพูดเป็นนัย ความหมายของเขาชัดเจน
“จักรวรรดิจะชดเชยค่าซ่อมเจดีย์เวทย์และหุ่นเชิดให้คุณ สำหรับสมบัติจักรวาลขอโทษด้วย คุณทำภารกิจไม่สำเร็จ กฏต้องเป็นกฏ”เบโครอดี้พูดด้วยใบหน้าตายด้าน
เขาไม่อยากคุยเรื่องนี้อีกและยุติการสื่อสาร
เรเวนลูดกัดฟันแน่นด้วยความโกรธ
ไม่เพียงเจดีย์เวทย์เขาจะพัง แต่หุ่นเชิดเขายังพัง เขาถูกทุบตี แถม สมบัติจักรวาลเขายังหายไปด้วย มันขาดทุน!
เรเวนลูดลูบหน้าตัวเอง
ฉันถูกทุบตีฟรีๆ!
แบล็คสตาร์ ไอระยำ เราเป็นพันธมิตร แต่แกไม่ออมมือเลย!
จำไว้ ฉันจะเอาคืนแกสักวัน
ฮีเบอร์ถูกรังแกมาก่อน ฉันต้องไปหาเขา!
เขาโกรธเพราะเขาถูกทุบตีโดยหานเซี่ยว สำหรับการเสียสมบัติจักรวาล เขาไม่ได้ตำหนิหานเซี่ยว โดยปราศจากแบล็คสตาร์ ปรมาจารย์เร้นลับก็คงได้มัน แถมเขายังเคารพอีกฝ่าย…. แต่ฉันยังโกรธ!
…
กลับไปสนามรบเดิม กายสถิตและกองทัพจักรกลยังสู้กับปรมาจารย์เร้นลับอย่างรุนแรง
ครั้งนี้ กายสถิตพลันหยุด กองทัพหยุดยิงและถอยหลัง
“อืม?”ปรมาจารย์เร้นลับขมวดคิ้ว เขาถือขวานเวทย์ไว้ในมือและไม่โยนมัน”ทำไมถึงหยุด?”
หานเซี่ยวโบกมือ”ฉันได้มันมาแล้ว ไม่ต้องสู้อีก แต่ถ้าแกยังไม่พอใ ฉันสามารถเล่นต่อได้”
ปรมาจารย์เร้นลับเงียบไป
เขาถ่วงมานานแล้ว เขาเสียร่องรอยพลังงานโกลาหลแรกเริ่มไป ดังนั้นจึงไม่มีทางไล่ตามได้ เดิมเขาอยากสั่งสอนหานเซี่ยวด้วยคาถาลดโชค แต่ชายคนนี้กลับเป็นคนโชคร้ายที่สุดที่เขาเคยเห็น โชคเขาไม่มีทางแย่ไปกว่านี้ได้ ตามการทำนาย เขาควรตายตั้งแต่ยังเด็ก แต่กลับกลายเป็นคนที่แข็งแกร่งขนาดนี้
พูดตรงๆ ปรมาจารย์เร้นลับรู้สึกเคารพหานเซี่ยวเล็กน้อย
เนื่องจากทุกอย่างที่เกี่ยวข้องกับโชคนั้นไร้ประโยชน์ต่อแบล็คสตาร์ ปรมาจารย์เร้นลับจึงทำอะไรไม่ได้ เหนือสิ่งอื่นใด ต่อให้เขาฉีกกายสถิตได้ แต่มันก็ไม่ได้สร้างความเสียหายกับแบล็คสตาร์…ไม่ต้องพูดถึงความจริงที่เขาไม่สามารถฉีกมันได้
“วันนี้แกชนะ”ปรมาจารย์เร้นลับมองหานเซี่ยว จากนั้นก็ส่งข้อความจิตให้หานเซี่ยว”ในเมื่อแกโชคร้ายจนน่าสมเพช ฉันก็จะแจ้งให้แกรู้ล่วงหน้า โกรูตันอาจวางแผนบางอย่างกับแก”
หานเซี่ยวตกตะลึง”แกเตือนฉัน?แกเป็นคนใจดีขนาดนี้เชียว?”
“ฮึ่ม”ปรมาจารย์เร้นลับไม่ตอบ เขาหันกลับไปที่ยานเขา เมื่อมองปรมาจารย์เร้นลับจากไป หานเซี่ยวก็คิดถึงคำพูด
หานเซี่ยวจำได้ว่าทั้งปรมาจารย์เร้นลับกับโกรูตันคือผู้พิทักษ์ตลาดมืด พวกเขาควรอยู่ฝ่ายเดียวกัน เขาทำลายแผนของปรมาจารย์เร้นลับ แต่อีกฝ่ายยังเตือนเขาและขายโกรูตัน
“ดูเหมือนจะมีความขัดแย้งภายในระหว่างผู้พิทักษ์ของตลาดมืดกาแล็กซี่เหมือนกัน หรือยิ่งผู้พิทักษ์น้อย ส่วนแบ่งยิ่งมาก?”
ด้วยความที่การต่อสู้จบลงแล้ว องค์กรจึงกระจัดกระจาย
สำหรับองค์กรส่วนใหญ่ แม้พวกเขาจะไม่ได้รับอะไร พวกเขาก็มีส่วนร่วมในเหตุการณ์สำคัญ มันจึงคุ้ม
แต่อารยธรรมโมโดกลับเสียหายหนักสุดในเหตุการณ์นี้
พวกเขาไม่ได้แตะปลายพลังงานเลยและภัยพิบัติกว่า 80%ก็ตาย “ช่างน่าสงสาร..”
หานเซี่ยวแสดงความเห็นใจ
เมื่อการต่อสู้แย่งพลังงานโกลาหลแรกเริ่มจบลง คนที่ไม่เกี่ยวข้องจึงจากไป มอบเวลาให้เขามองดูสมบัตินี้