The Legendary Mechanic - ตอนที่ 1108 จอมปราชญ์จักรกล
กองยานของหานเซี่ยวหยุดที่ฐานทัพทะเลทรายดวงดาวชั่วคราวของจักรวรรดิเพื่อเติมกระสุนและซ่อมเกราะ
ตลอดสองสามเดือนที่ผ่านมา ด้วยข้อมูลที่เขาได้รับผ่านช่องทางตลาดมืด เขาทำการกวาดล้างองค์กรสีเทาในทะเลทรายดวงดาว สร้างภาพลักษณ์ว่าเขาไร้ความปราณี สิ่งนี้ทำให้คนอื่นไม่กล้าเสี่ยง พวกเขาเลือกเชื่อฟัง หยุดแตะต้องไวรัสกบฏเสมือน ดังนั้น สถานการณ์ของทุ่งดาวจึงดีขึ้น
ขณะทำเช่นนั้น หานเซี่ยวยังพยายามค้นหาแกนไวรัส เขาปล่อยให้แฮร์ริสันเลือกจุดข้อมูลทับซ้อนหลายครั้ง
แต่ทว่า ประกายโชคไม่ทำงานและเขาไม่เคยหาแกนไวรัสเจอ แม้กระทั่งอีซอปก็ยังไม่สามารถหาเจอ
เขาต้องรับผิดชอบการเก็บกวาดความไม่แน่นอน ส่วนแมนิสันจดจ่อกับการวิจัย ทั้งสองฝ่ายได้ผลลัพธ์บ้าง ปัจจุบัน ไวรัสอัจฉริยะอยู่ภายใต้การควบคุมแล้ว
“..ฉันคิดว่าพวกนายจะคิดค้นโปรแกรได้เร็วๆนี้ซะอีก แต่มันต้องใช้เวลาหลายเดือน นี่ไม่เหมาะกับระดับของนายเลยนะ แมนิสัน”
ภายในห้องรับรองสมาชิกระดับสูงของฐานทหาร หานเซี่ยวกำลังคุยกับภาพฉายทางไกลของแมนิสัน
แมนิสันส่ายหัว”การวิเคราะห์รหัสไวรัสไม่ง่ายเลย แถม เราต้องป้องกันไวรัสจากการปะทุ เราจึงต้องดำเนินตามเงื่อนไขที่กระตุ้นมัน เราไม่มีทางเลือกนอกจากระวังตัว นั่นทำให้เราใช้เวลานาน”
ช่างกลเสมือนระดับผู้อยู่เหนือ สามารถกำจัดไวรัสกบฏเสมือนได้ง่ายๆ แต่ความยากในการเปลี่ยนความสามารถตัวเองเป็นเครื่องมือที่ใครก็ใช้ได้นั้นเป็นคนละเรื่อง ตัวอย่างเช่น ผู้ชายคนหนึ่งจะสามารถเดินและวิ่งได้อย่างเป็นธรรมชาติ แต่ถ้าเขาขอให้สร้างหุ่นยนต์ที่สามารถทำได้เหมือนเขา มันคงไม่ง่าย “สามอารยธรรมจักรวาลวางแผนทำอะไร?”
“ปัญหายังเป็นเงื่อนไขกระตุ้นให้ไวรัสปะทุ เพื่อทำให้แน่ใจว่ามันจะไม่ปะทุ เราจึงไม่สามารถทำให้ความเร็วการติดเชื้อไวรัสลดลงได้ฉับพลัน ดังนั้น ต่อให้มีไฟร์วอลล์ เราก็ไม่สามารถใช้งานได้ในวงกว้าง ตอนนี้ พวกเขาทำได้ติดตั้งหลังโหนดติดไวรัสถูกทำความสะอาด นี่ยังเป็นเหตุผลที่ว่าแม้จะด้วยการควบคุมของสามอารยธรรมจักรวาล ไวรัสกบฏเสมือนก็ยังทำให้โหนดเครือข่ายทะเลทรายดวงดาวติดไวรัสไปกว่าครึ่ง”
“ถ้าฉันจำได้ไม่ผิด การกำจัดไวรัสขนาดใหญ่จะกระตุ้นมันด้วยสินะ?”หานเซี่ยวถาม
“ใช่”แมนิสันตอบ”ดังนั้น เครื่องมือสแกนที่สามอารยธรรมจักรวาลขอให้เราสร้างจึงไม่สามารถค้นพบไวรัสได้ พวกเขาวางแผนจับโหนดทั้งหมดโดยการสแกนพวกมัน จากนั้นก็ฝังเครื่องมือป้องกันไวรัสเพื่อทำความสะอาดโหนดที่ติดไวรัสพร้อมกัน หลังจากนั้น พวกเขาจะติดตั้งไฟร์วอลล์ทันทีเพื่อป้องกันการติดไวรัสซ้ำ แบบนี้ ต่อให้ไวรัสจะปะทุ ความเสียหายก็ยังลดลง”
“แม้วิธีการนี้จะยุ่งยากแต่ก็ปลอดภัยสุด”
หานเซี่ยวไม่คัดค้านแผนของสามอารยธรรมจักรวาล
แต่ทว่า เขามีคำถามในใจ ในชีวิตก่อนหน้าเขา สามอารยธรรมจักรวาลควรทำแบบเดียวกัน แต่สุดท้ายมันยังเป็นหายนะสำหรับทั้งจักรวาลได้อย่างไร?
หรือเพราะฉันทำงานได้ดีเกินไปและเปลี่ยนรายละเอียดบางอย่าง?ตัวอย่างเช่น ควรมีคนลอบขนไวรัสออกไป แต่ถูกหยุดโดยฉัน?หานเซี่ยวตั้งคำถามนี้ไว้ในใจ
แมนิสันไม่รู้ว่าหานเซี่ยวกำลังคิดอะไร เขาอธิบายแผนของสามอารยธรรมต่อ
“ดังนั้น เราจึงเตรียมการต่างๆ หนึ่งคือแผนกำจัดไวรัสทั้งหมด อีกหนึ่งคือหาแกนไวรัส แกนไวรัสเป็นขั้วควบคุมสำหรับกลไกกระตุ้นส่วนใหญ่ ตราบเท่าที่มันถูกกำจัด ความเสี่ยงจะลดลงไปมาก เราจะไม่ต้องกังวลว่าไวรัสจะปะทุตอนเราพยายามกำจัดพวกมัน”
“พวกนายยังไม่เจอแกนไวรัส?”
“มันซ่อนตัวได้ดีเกินไป”แมนิสันส่ายหัว
เขาแค่นเสียงเบา เขารู้สึกว่าตาแก่นี่ไม่ได้พูดความจริง แต่ทว่า ไม่มีประเด็นให้เปิดเผยอีกฝ่าย ทั้งสองเป็นคู่แข่งกันในแง่นี้ แมนิสันคงไม่ใจดีให้เบาะแสแก่เขา
จากบรรดาช่างกลผู้อยู่เหนือทั้งหมดที่มาช่วย ทั้งหมดต่างอยากได้รับแกนไวรัสเพื่อค้นความลับทั้งหมดของเทคโนโลยีนี้
ตอนนี้ที่การระบาดของไวรัสอยู่ภายใต้การควบคุมและช่วงเวลาอันตรายสุดผ่านพ้นไปลแว การแข่งขันจึงก่อตัว แม้กระทั่งสามอารยธรรมจักรวาลก็ตั้งใจแข่งขันกันเพื่อมัน
หานเซี่ยวรู้ว่าเขาไม่สามารถได้รับข้อมูลใดจากแมนิสัน เขาจึงข้ามหัวข้อนี้ไป”ตอนนี้นายทำงานเสร็จแล้ว นายยังวางแผนอยุ่ในแผนกวิจัยไหม?”
“ไม่ ฉันจะออกไปเดินเล่น เหตุผลหนึ่งคือค้นหาเบาะแสเกี่ยวกับแกนไวรัส อีกหนึ่งคือฉันวางแผนไปดูผู้ศรัทธาจักรกล”
“ผู้ศรัทธาจักรกล?”หานเซี่ยวเลิกคิ้ว
เขาไม่เคยลืมว่าพวกเขาขัดแย้งกันเพราะเรื่องนี้ แมนิสันมักดำรงอยู่ตำแหน่งเทพเจ้าหลัก เขาอยากเก็บความศรัทธาส่วนใหญ่ไว้กับตัว
ด้วยเหตุนี้ แมนิสันจึงยืนหยัดมานานกว่าสิบปี ทำให้หานเซี่ยวสูญเสียเล็กน้อย
ย้อนกลับไป เขาเลือกไม่แข่งขัน หลังจากนั้นเขาก็ค่อยๆเติบโต ในเวลาเดียวกันก็รักษาความสัมพันธ์อันดีกับแมนิสัน
“นายมีความเห็นยังไง?”แมนิสันฟังดูเหมือนกำลังยิ้ม แต่ก็ไม่
“ฮึ่ม ฉันออกความเห็นได้ด้วย?”หานเซี่ยวหรี่ตา “เทียบกับสิบปีก่อน นายพัฒนาขึ้นมาก แต่ทว่า มันยังไกลเกินจะมาท้าทายฉันอีกครั้ง”แมนิสันพูดเสียงเย็น”อย่าอิจฉาสิ่งที่เป็นของฉัน ตอนนี้เรามีความสัมพันธ์ดีต่อกัน เก็บสิ่งนี้ไว ฉันเตือนนายไว้แล้ว ฉันไม่อยากเห็นนายมีการติดต่อกับผู้ศรัทธาจักรกลในทุกรูปแบบ”
จากนั้น ภาพฉายทางไกลของแมนิสันก็หายไป
ใบหน้าของหานเซี่ยวดำมืด เขาหงุดหงิด
แกเปลี่ยนท่าทีเหมือนพลิกหนังสือ
แถม ผู้ศรัทธาจักรกลเป็นของแกตอนไหน?หน้าด้าน!พูดก็พูด มันก็ผ่านมากว่าสิบปีแล้วที่ฉันไม่ได้สู้กับเขา..
หานเซี่ยวหรี่ตาและไตร่ตรอง
เขาเปิดหน้าต่างสถานะ ดูค่าประสบการณ์จำนวนมหาศาลที่สะสมและรู้สึกมั่นใจ
งานแข่งแบล็คสตาร์เกิดขึ้นตลอดเวลาทำให้เขาได้รับค่าประสบการณ์จำนวนมาก เขาคำนวณมันพอสำหรับเขาที่จะเลื่อนระดับจาก 320 เป็น 335หรือ337 แถม ค่าประสบการณ์ส่วนนี้ยังมากพอจะให้เขาได้รับแต้มศักยภาพจนทำให้ความรู้สายอาชีพทั้งหมดมีระดับเต็ม
หลังเก็บเกี่ยวมานาน ฉันรู้สึกว่าฉันสามารถแข่งกับแมนิสันได้ใหม่…
หานเซี่ยวตัดสินใจก้าวถอยกว่าสิบปีก่อนเพราะเขาอยากแกร่งขึ้นก่อน ตอนนี้ที่เขาพัฒนา เขาจึงเริ่มกล้า
การแข่งขับเพื่อผู้ศรัทธาจักรกลเป็นอีกเรื่อง แต่สำหรับหานเซี่ยว อีกเหตุผลคือเหตุผลหลัก
ฉันไม่พอใจ ฉันอยากสู้กับตาแก่นั่น!
ครั้งก่อน ฉันอ่อนแอกว่า ฉันจึงยอม แต่การแก้แค้นไม่มีคำว่าสายเกินไป!
ในอดีต แกมาหาฉัน รังแกฟิลลิปของฉัน ตอนนี้ ฉันมีเหตุผลให้มั่นใจ มันถึงคราวของฉันที่จะเริ่มท้าทายและดูถึงความแตกต่างของเรา
เนื่องจากการดำรงอยู่ของสมาคมผู้อยู่เหนือ ความแตกต่างพลังระหว่างบุคคลจะส่งผลถึงน้ำหนักคำพูด แม้วาระของแมนิสันจะยังอีกนาน เขาก็สามารถเตรียมการล่วงหน้าสำหรับการเลือกตั้งต่อไปได้
นอกจากนี้ มันเพราะสมาคม เขาจึงไม่ต้องกังวลถึงการโต้ตอบของแมนิสัน ในฐานะประธาน แมนิสันต้องเป็นตัวอย่างและไม่ก่อปัญหาลับๆ ไม่งั้นจะขัดกับเป้าหมาของสมาคม แม้แมนิสันจะให้ความช่วยเหลือเขาระหว่างการซุ่มโจมตีฮีล่า มันก็เป็นการวินวิน สำหรับหานเซี่ยว มันหักล้างกัน
ความคิดทั้งหมดฉายผ่านหัวเขา เขานำรายการความสามารถขึ้นมา เลือกกลุ่มความสามารถพิมพ์เขียว โยนค่าประสบการณ์ลง เพิ่มระดับพวกมันจนเต็ม
ท่านได้เพิ่มระดับความสามารถหนึ่งจนเต็ม ท่านได้รับ 1 แต้มศักยภาพ ท่านได้เพิ่มระดับความสามารถหนึ่งจนเต็ม ท่านได้รับ 1 แต้มศักยภาพ
ปัจจุบัน หานเซี่ยวมีความรู้ขั้นสูงุสดแค่สามที่ระดับไม่เต็ม(วิศวกรรมจักรกลขั้นสูงสุด)ที่ระดับ 3 (ไฟชีวิตจักรกล)ระดับ 4 และ[วิทยาศาสตร์วัสดุไร้สิ้นสุด]ระดับ 2 พวกมันต้องใช้ 144 แต้มศักยภาพ แม้เขาจะยังมีแต้มศักยภาพเหลือ เขาก็ยังต้องทำให้ความสามารถนับร้อยมีระดับเต็ม
ยิ่งมีความสามารถระดับเต็มมาก การใช้เพิ่มระดับความสามารถอื่นยิ่งสูง รวมถึงพิมพ์เขียวระดับต่ำ แม้ค่าใช้จ่ายจะไม่เพิ่มมากเท่าการเลื่อนระดับตัวเอง นี่ก็หมายความว่าแม้ผู้เล่นจะใช้กลยุทธ์เพิ่มระดับต่างๆ พวกเขาก็ไม่ส่งผลกระทบมากนัก พวกเขายังต้องพยายามเพื่อรับเอาแต้มศักยภาพ
แถบค่าประสบการณ์ของเขาลดลงอย่างรวดเร็ว ไม่ช้า เขาก็ใช้ค่าประสบการณ์ไปกว่าครึ่ง ค่าประสบการณ์?เหลือแค่พอให้เขาเลื่อนเป็นระดับ 326 หลังเลื่อนระดับความสามารถ เขาก็ได้รับแต้มศักยภาพ เขาไม่อยากรออีก เขามีกระเทียมจำนวนมากและแหล่งค่าประสบการณ์ต่อเนื่อง การคำนวณจึงไม่จำเป็น
นอกจากนี้ หานเซี่ยวยังสงสัยมากว่าแต้มศักยภาพของเขาจะยังใช้ได้ไหมตอนความรู้ทั้งหมดเขาถึงระดับสูงสุด
เมื่อมองแต้มศักยภาพ 144 แต้ม หานเซี่ยวก็สูดหายใจลึก ใช้กับพวกมันทั้งหมด
ท่านเลื่อนระดับ[วิศวกรรมจักรกลขั้นสูงสุด]เป็นระดับ5(สูงสุด)!
ท่านเลื่อนระดับ[ไฟชีวิตจักรกล]เป็นระดับ5(สูงสุด)!
ท่านเลื่อนระดับ[วิทยาศาสตร์วัสดุไร้สิ้นสุด]เป็นระดับ5 (สูงสุด)!
ความรู้สายอาชีพทั้ง 60 ของท่านถึงระดับสูงุสดแล้ว!
ท่านได้รับ 1 เศษความสามารถวิหารแรกท่านได้รับพรสวรรค์[จอมปราชญ์จักรกล]!
(จอมปราชญ์จักรกล) : +1.25ตัวคูณความสัมพันธ์กับเครื่องจักรทั้งหมด +ระดับต่อความสามารถที่เกี่ยวกับสายช่างกล(ไม่จำกัดโดยระดับสูงสุดของความสามารถ) +40%ความสามารถการผลิต การเสริม และการซ่อม +60% ผลเทคโนโลยีเสมือน : +15%สถานะพื้นฐานเครื่องจักร +120%ความเร็วการผลิตเครื่องจักร +3000 สติปัญญา
หมายเหตุ ‘ในดินแดนจักรกล ท่านคือผู้รอบรู้’
แต้มศักยภาพปัจจุบันที่ท่านมีและแต้มศักยภาพที่ท่านได้รับในอนาคตจะเปลี่ยนเป็น’แต้มตื่นรู้’ที่อัตราแลกเปลี่ยน 1:1
การใช้1 : แต้มตื่นรู้สามารถแปลงเป็นแต้มสถานะ 100 หน่วย(เปลี่ยนกลับไม่ได้)
การใช้ 2 : แต้มตื่นรู้สามารถใช้เพื่อเพิ่มระดับความสามารถระดับสูงสุดได้ 1ระดับ(เปลี่ยนกลับไม่ได้) การใช้ 3 : แต้มตื่นรู้สามารถใช้เพิ่มกระบวนการปลุกพรสวรรค์พิเศษ”ด้ ปริมาณเพิ่มขึ้นโดยทุกๆ 1 แต้มตื่นรู้ ขึ้นอยู่กับระดับและเกรดของพรสวรรค์พิเศษ(เปลี่ยนกลับไม่ได้)
การใช้ 4 : แต้มตื่นรู้สามารถใช้เพื่อเพิ่มความคืบหน้าการคิดค้นพิมพ์เขียว ปรมาณที่เพิ่มขึ้นขึ้นอยู่กับระดับและเกรดของพิมพ์เขียว(เปลี่ยนกลับไม่ได้)
(วิศวกรรมเครื่องจักรขั้นสูงสุด)ได้มาถึงระดับเต็ม[การสร้างสุดเร้าใจ]ทำงาน!
โว้ว!หานเซี่ยวแปลกใจมาก
ผลของจอมปราชญ์จักรกลคู่ควรกับความยากในการได้รับ ไม่เพียงจะให้โบนัสครอบคลุม แต่ยังมากมหาศาล ผลกระทบต่อพลังอาจเทียบได้กับสัมผัสจักรกลสมบูรณ์ พลังโดยรวมเขาเพิ่มประมาณ 10%
แล้วถ้าสายอื่นละจะเป็นอะไร..จอมปราชญ์เวทย์?ฟังดูดี จอมปราชญ์พลังจิต?ชักแปลกละ.. จอมปราชญ์เอสเปอร์?อืม…
จอมปราชญ์นักสู้?ช่างมัน
พรสวรรค์เป็นไปตามคาดของหานเซี่ยว แต่การใช้แต้มศักยภาพใหม่ทำให้เขาแปลกใจ ไม่มีผู้เล่นคนใดในชีวิตก่อนหน้าเขาที่สามารถเลื่อนระดับความรู้จนเต็มได้มาก่อน นี่คือครั้งแรกสำหรับเขาด้วย
แต้มศักยภาพเป็นแต้มตื่นรู้
เขาอ่านการใช้มันอย่างละเอียด ยิ่งเขาอ่าน เขายิ่งตื่นเต้น เทียบกับแต้มศักยภาพ แต้มตื่นรู้หลากหลายกว่า
การแปลงพวกมันเป็นแต้มศักยภาพและเพิ่มขีดจำกัดสูงสุดของความสามารถดีมากและไม่ต้องมีคำอธิบายเพิ่มเติม แต่เขาประทับใจกับอีกสามฟังก์ชันกว่า
การเพิ่มเกรดพิมพ์เขียวดูเหมือนจะทำให้เขาได้รับกระแสพิมพ์เขียวทองอย่างมั่นคง ตัวอย่าง ถ้าเขายังคงโยนแต้มตื่นรู้ลงพิมพ์เขียวปืนพกระดับต่ำ แต่ด้วยแต้มที่มากพอ มันอาจเปลี่ยนเป็นพิมพ์เขียวเกรดทอง!
และประเภทพิมพ์เขียวจะไม่เปลี่ยนไปมาก มันแค่เปลี่ยนจากปืนดินปืนเป็นปืนใหญ่ทำลายดาวพกพา
แต้มตื่นรู้สามารถใช้เพิ่มความคืบหน้าการคิดค้นพิมพ์เขียวได้อีกด้วย ซึ่งสามารถใช้ร่วมกับ[การสร้างสุดเร้าใจ] ข้อกำหนดเบื้องต้นสำหรับเปิดใช้งานมันคือต้องมีวิศวกรรมเครือ่งจักรขั้นสูงสุดระดับเต็ม ผลของความสามารถคือใช้ค่าประสบการณ์เพื่อรวบรวมพิมพ์เขียวหลายชิ้นให้เป็นหนึ่งหรือผสานพิมพ์เขียว ไม่มีขีดจำกัดสูงสุดด้านจำนวน แถมยังเลือกได้ว่าจะพัฒนาเป็นเส้นทางไหนเช่นโจมตี ป้องกันหรือสนับสนุน
ความสามารถนี้ทำให้การประดิษฐ์พิมพ์เขียวยิ่งมั่นคง มันยังเป็นวิธีเดียวที่ผู้เล่นชีวิตก่อนหน้าสามารถคิดค้นพิมพ์เขียวทองได้ แต่ทว่า โอกาสทำเช่นนี้ก็ต่ำมาก ส่วนใหญ่ คนจะได้รับแค่โครงสร้างสั้นๆของพิมพ์เขียวทอง
การใช้แต้มตื่นรู้สุดท้ายคืออันที่ช่างหานชอบสุด ใช้เพื่อผสานพรสวรรค์!
ดวงตาหานเซี่ยวเป็นประกายขณะพึมพำ”เฒ่าแมนิสัน โซโรคินและคนอื่นอาจได้รับพรสวรรค์เฉพาะตัวด้วยวิธีนี้”
ตลอดสองสามเดือนที่ผ่านมา ด้วยข้อมูลที่เขาได้รับผ่านช่องทางตลาดมืด เขาทำการกวาดล้างองค์กรสีเทาในทะเลทรายดวงดาว สร้างภาพลักษณ์ว่าเขาไร้ความปราณี สิ่งนี้ทำให้คนอื่นไม่กล้าเสี่ยง พวกเขาเลือกเชื่อฟัง หยุดแตะต้องไวรัสกบฏเสมือน ดังนั้น สถานการณ์ของทุ่งดาวจึงดีขึ้น
ขณะทำเช่นนั้น หานเซี่ยวยังพยายามค้นหาแกนไวรัส เขาปล่อยให้แฮร์ริสันเลือกจุดข้อมูลทับซ้อนหลายครั้ง
แต่ทว่า ประกายโชคไม่ทำงานและเขาไม่เคยหาแกนไวรัสเจอ แม้กระทั่งอีซอปก็ยังไม่สามารถหาเจอ
เขาต้องรับผิดชอบการเก็บกวาดความไม่แน่นอน ส่วนแมนิสันจดจ่อกับการวิจัย ทั้งสองฝ่ายได้ผลลัพธ์บ้าง ปัจจุบัน ไวรัสอัจฉริยะอยู่ภายใต้การควบคุมแล้ว
“..ฉันคิดว่าพวกนายจะคิดค้นโปรแกรได้เร็วๆนี้ซะอีก แต่มันต้องใช้เวลาหลายเดือน นี่ไม่เหมาะกับระดับของนายเลยนะ แมนิสัน”
ภายในห้องรับรองสมาชิกระดับสูงของฐานทหาร หานเซี่ยวกำลังคุยกับภาพฉายทางไกลของแมนิสัน
แมนิสันส่ายหัว”การวิเคราะห์รหัสไวรัสไม่ง่ายเลย แถม เราต้องป้องกันไวรัสจากการปะทุ เราจึงต้องดำเนินตามเงื่อนไขที่กระตุ้นมัน เราไม่มีทางเลือกนอกจากระวังตัว นั่นทำให้เราใช้เวลานาน”
ช่างกลเสมือนระดับผู้อยู่เหนือ สามารถกำจัดไวรัสกบฏเสมือนได้ง่ายๆ แต่ความยากในการเปลี่ยนความสามารถตัวเองเป็นเครื่องมือที่ใครก็ใช้ได้นั้นเป็นคนละเรื่อง ตัวอย่างเช่น ผู้ชายคนหนึ่งจะสามารถเดินและวิ่งได้อย่างเป็นธรรมชาติ แต่ถ้าเขาขอให้สร้างหุ่นยนต์ที่สามารถทำได้เหมือนเขา มันคงไม่ง่าย “สามอารยธรรมจักรวาลวางแผนทำอะไร?”
“ปัญหายังเป็นเงื่อนไขกระตุ้นให้ไวรัสปะทุ เพื่อทำให้แน่ใจว่ามันจะไม่ปะทุ เราจึงไม่สามารถทำให้ความเร็วการติดเชื้อไวรัสลดลงได้ฉับพลัน ดังนั้น ต่อให้มีไฟร์วอลล์ เราก็ไม่สามารถใช้งานได้ในวงกว้าง ตอนนี้ พวกเขาทำได้ติดตั้งหลังโหนดติดไวรัสถูกทำความสะอาด นี่ยังเป็นเหตุผลที่ว่าแม้จะด้วยการควบคุมของสามอารยธรรมจักรวาล ไวรัสกบฏเสมือนก็ยังทำให้โหนดเครือข่ายทะเลทรายดวงดาวติดไวรัสไปกว่าครึ่ง”
“ถ้าฉันจำได้ไม่ผิด การกำจัดไวรัสขนาดใหญ่จะกระตุ้นมันด้วยสินะ?”หานเซี่ยวถาม
“ใช่”แมนิสันตอบ”ดังนั้น เครื่องมือสแกนที่สามอารยธรรมจักรวาลขอให้เราสร้างจึงไม่สามารถค้นพบไวรัสได้ พวกเขาวางแผนจับโหนดทั้งหมดโดยการสแกนพวกมัน จากนั้นก็ฝังเครื่องมือป้องกันไวรัสเพื่อทำความสะอาดโหนดที่ติดไวรัสพร้อมกัน หลังจากนั้น พวกเขาจะติดตั้งไฟร์วอลล์ทันทีเพื่อป้องกันการติดไวรัสซ้ำ แบบนี้ ต่อให้ไวรัสจะปะทุ ความเสียหายก็ยังลดลง”
“แม้วิธีการนี้จะยุ่งยากแต่ก็ปลอดภัยสุด”
หานเซี่ยวไม่คัดค้านแผนของสามอารยธรรมจักรวาล
แต่ทว่า เขามีคำถามในใจ ในชีวิตก่อนหน้าเขา สามอารยธรรมจักรวาลควรทำแบบเดียวกัน แต่สุดท้ายมันยังเป็นหายนะสำหรับทั้งจักรวาลได้อย่างไร?
หรือเพราะฉันทำงานได้ดีเกินไปและเปลี่ยนรายละเอียดบางอย่าง?ตัวอย่างเช่น ควรมีคนลอบขนไวรัสออกไป แต่ถูกหยุดโดยฉัน?หานเซี่ยวตั้งคำถามนี้ไว้ในใจ
แมนิสันไม่รู้ว่าหานเซี่ยวกำลังคิดอะไร เขาอธิบายแผนของสามอารยธรรมต่อ
“ดังนั้น เราจึงเตรียมการต่างๆ หนึ่งคือแผนกำจัดไวรัสทั้งหมด อีกหนึ่งคือหาแกนไวรัส แกนไวรัสเป็นขั้วควบคุมสำหรับกลไกกระตุ้นส่วนใหญ่ ตราบเท่าที่มันถูกกำจัด ความเสี่ยงจะลดลงไปมาก เราจะไม่ต้องกังวลว่าไวรัสจะปะทุตอนเราพยายามกำจัดพวกมัน”
“พวกนายยังไม่เจอแกนไวรัส?”
“มันซ่อนตัวได้ดีเกินไป”แมนิสันส่ายหัว
เขาแค่นเสียงเบา เขารู้สึกว่าตาแก่นี่ไม่ได้พูดความจริง แต่ทว่า ไม่มีประเด็นให้เปิดเผยอีกฝ่าย ทั้งสองเป็นคู่แข่งกันในแง่นี้ แมนิสันคงไม่ใจดีให้เบาะแสแก่เขา
จากบรรดาช่างกลผู้อยู่เหนือทั้งหมดที่มาช่วย ทั้งหมดต่างอยากได้รับแกนไวรัสเพื่อค้นความลับทั้งหมดของเทคโนโลยีนี้
ตอนนี้ที่การระบาดของไวรัสอยู่ภายใต้การควบคุมและช่วงเวลาอันตรายสุดผ่านพ้นไปลแว การแข่งขันจึงก่อตัว แม้กระทั่งสามอารยธรรมจักรวาลก็ตั้งใจแข่งขันกันเพื่อมัน
หานเซี่ยวรู้ว่าเขาไม่สามารถได้รับข้อมูลใดจากแมนิสัน เขาจึงข้ามหัวข้อนี้ไป”ตอนนี้นายทำงานเสร็จแล้ว นายยังวางแผนอยุ่ในแผนกวิจัยไหม?”
“ไม่ ฉันจะออกไปเดินเล่น เหตุผลหนึ่งคือค้นหาเบาะแสเกี่ยวกับแกนไวรัส อีกหนึ่งคือฉันวางแผนไปดูผู้ศรัทธาจักรกล”
“ผู้ศรัทธาจักรกล?”หานเซี่ยวเลิกคิ้ว
เขาไม่เคยลืมว่าพวกเขาขัดแย้งกันเพราะเรื่องนี้ แมนิสันมักดำรงอยู่ตำแหน่งเทพเจ้าหลัก เขาอยากเก็บความศรัทธาส่วนใหญ่ไว้กับตัว
ด้วยเหตุนี้ แมนิสันจึงยืนหยัดมานานกว่าสิบปี ทำให้หานเซี่ยวสูญเสียเล็กน้อย
ย้อนกลับไป เขาเลือกไม่แข่งขัน หลังจากนั้นเขาก็ค่อยๆเติบโต ในเวลาเดียวกันก็รักษาความสัมพันธ์อันดีกับแมนิสัน
“นายมีความเห็นยังไง?”แมนิสันฟังดูเหมือนกำลังยิ้ม แต่ก็ไม่
“ฮึ่ม ฉันออกความเห็นได้ด้วย?”หานเซี่ยวหรี่ตา “เทียบกับสิบปีก่อน นายพัฒนาขึ้นมาก แต่ทว่า มันยังไกลเกินจะมาท้าทายฉันอีกครั้ง”แมนิสันพูดเสียงเย็น”อย่าอิจฉาสิ่งที่เป็นของฉัน ตอนนี้เรามีความสัมพันธ์ดีต่อกัน เก็บสิ่งนี้ไว ฉันเตือนนายไว้แล้ว ฉันไม่อยากเห็นนายมีการติดต่อกับผู้ศรัทธาจักรกลในทุกรูปแบบ”
จากนั้น ภาพฉายทางไกลของแมนิสันก็หายไป
ใบหน้าของหานเซี่ยวดำมืด เขาหงุดหงิด
แกเปลี่ยนท่าทีเหมือนพลิกหนังสือ
แถม ผู้ศรัทธาจักรกลเป็นของแกตอนไหน?หน้าด้าน!พูดก็พูด มันก็ผ่านมากว่าสิบปีแล้วที่ฉันไม่ได้สู้กับเขา..
หานเซี่ยวหรี่ตาและไตร่ตรอง
เขาเปิดหน้าต่างสถานะ ดูค่าประสบการณ์จำนวนมหาศาลที่สะสมและรู้สึกมั่นใจ
งานแข่งแบล็คสตาร์เกิดขึ้นตลอดเวลาทำให้เขาได้รับค่าประสบการณ์จำนวนมาก เขาคำนวณมันพอสำหรับเขาที่จะเลื่อนระดับจาก 320 เป็น 335หรือ337 แถม ค่าประสบการณ์ส่วนนี้ยังมากพอจะให้เขาได้รับแต้มศักยภาพจนทำให้ความรู้สายอาชีพทั้งหมดมีระดับเต็ม
หลังเก็บเกี่ยวมานาน ฉันรู้สึกว่าฉันสามารถแข่งกับแมนิสันได้ใหม่…
หานเซี่ยวตัดสินใจก้าวถอยกว่าสิบปีก่อนเพราะเขาอยากแกร่งขึ้นก่อน ตอนนี้ที่เขาพัฒนา เขาจึงเริ่มกล้า
การแข่งขับเพื่อผู้ศรัทธาจักรกลเป็นอีกเรื่อง แต่สำหรับหานเซี่ยว อีกเหตุผลคือเหตุผลหลัก
ฉันไม่พอใจ ฉันอยากสู้กับตาแก่นั่น!
ครั้งก่อน ฉันอ่อนแอกว่า ฉันจึงยอม แต่การแก้แค้นไม่มีคำว่าสายเกินไป!
ในอดีต แกมาหาฉัน รังแกฟิลลิปของฉัน ตอนนี้ ฉันมีเหตุผลให้มั่นใจ มันถึงคราวของฉันที่จะเริ่มท้าทายและดูถึงความแตกต่างของเรา
เนื่องจากการดำรงอยู่ของสมาคมผู้อยู่เหนือ ความแตกต่างพลังระหว่างบุคคลจะส่งผลถึงน้ำหนักคำพูด แม้วาระของแมนิสันจะยังอีกนาน เขาก็สามารถเตรียมการล่วงหน้าสำหรับการเลือกตั้งต่อไปได้
นอกจากนี้ มันเพราะสมาคม เขาจึงไม่ต้องกังวลถึงการโต้ตอบของแมนิสัน ในฐานะประธาน แมนิสันต้องเป็นตัวอย่างและไม่ก่อปัญหาลับๆ ไม่งั้นจะขัดกับเป้าหมาของสมาคม แม้แมนิสันจะให้ความช่วยเหลือเขาระหว่างการซุ่มโจมตีฮีล่า มันก็เป็นการวินวิน สำหรับหานเซี่ยว มันหักล้างกัน
ความคิดทั้งหมดฉายผ่านหัวเขา เขานำรายการความสามารถขึ้นมา เลือกกลุ่มความสามารถพิมพ์เขียว โยนค่าประสบการณ์ลง เพิ่มระดับพวกมันจนเต็ม
ท่านได้เพิ่มระดับความสามารถหนึ่งจนเต็ม ท่านได้รับ 1 แต้มศักยภาพ ท่านได้เพิ่มระดับความสามารถหนึ่งจนเต็ม ท่านได้รับ 1 แต้มศักยภาพ
ปัจจุบัน หานเซี่ยวมีความรู้ขั้นสูงุสดแค่สามที่ระดับไม่เต็ม(วิศวกรรมจักรกลขั้นสูงสุด)ที่ระดับ 3 (ไฟชีวิตจักรกล)ระดับ 4 และ[วิทยาศาสตร์วัสดุไร้สิ้นสุด]ระดับ 2 พวกมันต้องใช้ 144 แต้มศักยภาพ แม้เขาจะยังมีแต้มศักยภาพเหลือ เขาก็ยังต้องทำให้ความสามารถนับร้อยมีระดับเต็ม
ยิ่งมีความสามารถระดับเต็มมาก การใช้เพิ่มระดับความสามารถอื่นยิ่งสูง รวมถึงพิมพ์เขียวระดับต่ำ แม้ค่าใช้จ่ายจะไม่เพิ่มมากเท่าการเลื่อนระดับตัวเอง นี่ก็หมายความว่าแม้ผู้เล่นจะใช้กลยุทธ์เพิ่มระดับต่างๆ พวกเขาก็ไม่ส่งผลกระทบมากนัก พวกเขายังต้องพยายามเพื่อรับเอาแต้มศักยภาพ
แถบค่าประสบการณ์ของเขาลดลงอย่างรวดเร็ว ไม่ช้า เขาก็ใช้ค่าประสบการณ์ไปกว่าครึ่ง ค่าประสบการณ์?เหลือแค่พอให้เขาเลื่อนเป็นระดับ 326 หลังเลื่อนระดับความสามารถ เขาก็ได้รับแต้มศักยภาพ เขาไม่อยากรออีก เขามีกระเทียมจำนวนมากและแหล่งค่าประสบการณ์ต่อเนื่อง การคำนวณจึงไม่จำเป็น
นอกจากนี้ หานเซี่ยวยังสงสัยมากว่าแต้มศักยภาพของเขาจะยังใช้ได้ไหมตอนความรู้ทั้งหมดเขาถึงระดับสูงสุด
เมื่อมองแต้มศักยภาพ 144 แต้ม หานเซี่ยวก็สูดหายใจลึก ใช้กับพวกมันทั้งหมด
ท่านเลื่อนระดับ[วิศวกรรมจักรกลขั้นสูงสุด]เป็นระดับ5(สูงสุด)!
ท่านเลื่อนระดับ[ไฟชีวิตจักรกล]เป็นระดับ5(สูงสุด)!
ท่านเลื่อนระดับ[วิทยาศาสตร์วัสดุไร้สิ้นสุด]เป็นระดับ5 (สูงสุด)!
ความรู้สายอาชีพทั้ง 60 ของท่านถึงระดับสูงุสดแล้ว!
ท่านได้รับ 1 เศษความสามารถวิหารแรกท่านได้รับพรสวรรค์[จอมปราชญ์จักรกล]!
(จอมปราชญ์จักรกล) : +1.25ตัวคูณความสัมพันธ์กับเครื่องจักรทั้งหมด +ระดับต่อความสามารถที่เกี่ยวกับสายช่างกล(ไม่จำกัดโดยระดับสูงสุดของความสามารถ) +40%ความสามารถการผลิต การเสริม และการซ่อม +60% ผลเทคโนโลยีเสมือน : +15%สถานะพื้นฐานเครื่องจักร +120%ความเร็วการผลิตเครื่องจักร +3000 สติปัญญา
หมายเหตุ ‘ในดินแดนจักรกล ท่านคือผู้รอบรู้’
แต้มศักยภาพปัจจุบันที่ท่านมีและแต้มศักยภาพที่ท่านได้รับในอนาคตจะเปลี่ยนเป็น’แต้มตื่นรู้’ที่อัตราแลกเปลี่ยน 1:1
การใช้1 : แต้มตื่นรู้สามารถแปลงเป็นแต้มสถานะ 100 หน่วย(เปลี่ยนกลับไม่ได้)
การใช้ 2 : แต้มตื่นรู้สามารถใช้เพื่อเพิ่มระดับความสามารถระดับสูงสุดได้ 1ระดับ(เปลี่ยนกลับไม่ได้) การใช้ 3 : แต้มตื่นรู้สามารถใช้เพิ่มกระบวนการปลุกพรสวรรค์พิเศษ”ด้ ปริมาณเพิ่มขึ้นโดยทุกๆ 1 แต้มตื่นรู้ ขึ้นอยู่กับระดับและเกรดของพรสวรรค์พิเศษ(เปลี่ยนกลับไม่ได้)
การใช้ 4 : แต้มตื่นรู้สามารถใช้เพื่อเพิ่มความคืบหน้าการคิดค้นพิมพ์เขียว ปรมาณที่เพิ่มขึ้นขึ้นอยู่กับระดับและเกรดของพิมพ์เขียว(เปลี่ยนกลับไม่ได้)
(วิศวกรรมเครื่องจักรขั้นสูงสุด)ได้มาถึงระดับเต็ม[การสร้างสุดเร้าใจ]ทำงาน!
โว้ว!หานเซี่ยวแปลกใจมาก
ผลของจอมปราชญ์จักรกลคู่ควรกับความยากในการได้รับ ไม่เพียงจะให้โบนัสครอบคลุม แต่ยังมากมหาศาล ผลกระทบต่อพลังอาจเทียบได้กับสัมผัสจักรกลสมบูรณ์ พลังโดยรวมเขาเพิ่มประมาณ 10%
แล้วถ้าสายอื่นละจะเป็นอะไร..จอมปราชญ์เวทย์?ฟังดูดี จอมปราชญ์พลังจิต?ชักแปลกละ.. จอมปราชญ์เอสเปอร์?อืม…
จอมปราชญ์นักสู้?ช่างมัน
พรสวรรค์เป็นไปตามคาดของหานเซี่ยว แต่การใช้แต้มศักยภาพใหม่ทำให้เขาแปลกใจ ไม่มีผู้เล่นคนใดในชีวิตก่อนหน้าเขาที่สามารถเลื่อนระดับความรู้จนเต็มได้มาก่อน นี่คือครั้งแรกสำหรับเขาด้วย
แต้มศักยภาพเป็นแต้มตื่นรู้
เขาอ่านการใช้มันอย่างละเอียด ยิ่งเขาอ่าน เขายิ่งตื่นเต้น เทียบกับแต้มศักยภาพ แต้มตื่นรู้หลากหลายกว่า
การแปลงพวกมันเป็นแต้มศักยภาพและเพิ่มขีดจำกัดสูงสุดของความสามารถดีมากและไม่ต้องมีคำอธิบายเพิ่มเติม แต่เขาประทับใจกับอีกสามฟังก์ชันกว่า
การเพิ่มเกรดพิมพ์เขียวดูเหมือนจะทำให้เขาได้รับกระแสพิมพ์เขียวทองอย่างมั่นคง ตัวอย่าง ถ้าเขายังคงโยนแต้มตื่นรู้ลงพิมพ์เขียวปืนพกระดับต่ำ แต่ด้วยแต้มที่มากพอ มันอาจเปลี่ยนเป็นพิมพ์เขียวเกรดทอง!
และประเภทพิมพ์เขียวจะไม่เปลี่ยนไปมาก มันแค่เปลี่ยนจากปืนดินปืนเป็นปืนใหญ่ทำลายดาวพกพา
แต้มตื่นรู้สามารถใช้เพิ่มความคืบหน้าการคิดค้นพิมพ์เขียวได้อีกด้วย ซึ่งสามารถใช้ร่วมกับ[การสร้างสุดเร้าใจ] ข้อกำหนดเบื้องต้นสำหรับเปิดใช้งานมันคือต้องมีวิศวกรรมเครือ่งจักรขั้นสูงสุดระดับเต็ม ผลของความสามารถคือใช้ค่าประสบการณ์เพื่อรวบรวมพิมพ์เขียวหลายชิ้นให้เป็นหนึ่งหรือผสานพิมพ์เขียว ไม่มีขีดจำกัดสูงสุดด้านจำนวน แถมยังเลือกได้ว่าจะพัฒนาเป็นเส้นทางไหนเช่นโจมตี ป้องกันหรือสนับสนุน
ความสามารถนี้ทำให้การประดิษฐ์พิมพ์เขียวยิ่งมั่นคง มันยังเป็นวิธีเดียวที่ผู้เล่นชีวิตก่อนหน้าสามารถคิดค้นพิมพ์เขียวทองได้ แต่ทว่า โอกาสทำเช่นนี้ก็ต่ำมาก ส่วนใหญ่ คนจะได้รับแค่โครงสร้างสั้นๆของพิมพ์เขียวทอง
การใช้แต้มตื่นรู้สุดท้ายคืออันที่ช่างหานชอบสุด ใช้เพื่อผสานพรสวรรค์!
ดวงตาหานเซี่ยวเป็นประกายขณะพึมพำ”เฒ่าแมนิสัน โซโรคินและคนอื่นอาจได้รับพรสวรรค์เฉพาะตัวด้วยวิธีนี้”