The Legendary Mechanic - ตอนที่ 1114 ตัวกำหนดยุคสมัย
ในเวลาเดียวกัน สิ่งที่เกิดขึน้บนดาวเมฆแม่เหล็กยังถูกถ่ายทอดสดไปยังกาแล็กซี่ผ่านช่องทางเข้ารหัสทหาร ผู้นำของสามอารยธรรมจักรวาลต่างเฝ้าติดตามเหตุการณ์ตลอดเวลา เมื่อเห็น ทั้งสามก็เงียบ
บาเดอร์สูดหายใจลึก แมนิสัน..เราให้อิสระกับเขามากเกินไป เราสามารถทนเรื่องอีกได้ แต่ครั้งนี้ เขาข้ามเส้น
พระสันตะปาปาพูด เขามักไม่สนใจคำเตือนเรา ท้าทายอำนาจเราเรื่อยๆ และตอนนี้ยังอยากยึดอาวุธนี้ไป เขาบอกว่าเขากำลังสู้เพื่อหลักประกันผู้อยู่เหนือ แต่เขาแค่พยายามทำให้เรากลัวเขาเพื่อให้เขาอยู่ระดับเดียวกับเรา เขาจะต้องใช้สิ่งนี้มาคุกคามเราแน่นอนในอนาคต ความเป็นไปได้ทั้งหมดจะต้องถูกกำจัด
ฉันดูเหมือนจะจำได้ว่าแบล็คสตาร์มีความสามารถคล้ายกับอุปกรณ์เปิดฟ้าหลากมิติ ถ้าเขาร่วมมือกับแมนิสันและรับเอาแกนไวรัสไป เขาจะสามารถย้ายออกไปได้ทันที… บาเดอร์หันไปมองเออแรนเรลผู้เงียบอยู่และพูดด้วยน้ำเสียงจริงจัง ตราบเท่าที่เขาออกไปพร้อมแกนไวรัส เราจะสมมติว่าไวรัสกบฏเสมือนอยู่กับแบล็คสตาร์…เช่นนั้น ท่านผู้ปกครองแห่งจักรวรรดิมีข้อเสนอแนะอะไรไหม?
เออแรนเรลเงียบก่อนพูด ตอนนี้มันไม่ใช่เวลาสำหรับการกวาดล้าง โลกริบหรี่กำลังพัฒนาและอารยธรรมกลุ่มดาวชั้นยอดก็เป็นภัยคุกคาม ถ้าเราบังคับแบล็คสตาร์กับจักรพรรดิจักรกล พวกเขาอาจไปหาอารยธรรมกลุ่มดาวชั้นยอดพร้อมด้วยไวรัสในมือ นั่นถึงจะเป็นภัยคุกคามของจริง เราควรพยายามเต็มที่เพื่อไม่ให้เกิดเรื่องแบบนั้นขึ้น
ถูกต้อง ด้วยอารยธรรมกลุ่มดาวชั้นยอด มันยังไม่ใช่เวลาจริงๆ..แต่ ความอดทนของเราก็มีจำกัด เราไม่สามารถปล่อยเรื่องนี้ไปได้ บาเดอร์พูดขึ้น พระสันตะปาปาพูด บางทีการมีไพ่ตายเพื่อปกป้องความปลอดภัยของพวกเขาก็ถือเป็นความต้องการที่สมเหตุสมผลของกลุ่มผู้อยู่เหนือ แต่เราไม่สามารถเมินเฉยภัยคุกคามที่จะมีผลต่อการปกครองของเราได้ ฉันรู้ว่าถ้าแบล็คสตาร์หรือจักรพรรดิจักรกลได้รับเทคโนโลยีไวรัสนี้ไป เราจะยังสามารถรักษาความสัมพันธ์กับพวกเขาได้ตราบเท่าที่เราไม่ผลักดันพวกเขาเกินเลย แต่ทว่า มันก็ยังเป็นภัยคุกคามซ่อนเร้น เราจะหลับตาและทำเหมือนมันไม่เคยเกิดขึ้นได้งั้นเหรอ?เราไม่ได้มาถึงจุดนี้ด้วยการเลือกยอมคนอื่น!
เออแรนเรลขมวดคิ้วและตะโกน แล้วนายมีความคิดอะไรถึงพูดแบบนี้?นายกำลังพูดถึงสงครามที่จะเกี่ยวข้องกับอารยธรรมขั้นสูงทั้งหมดในจักรวาล การกวาดล้างจะกินเวลาหลายสิบปีหรืออาจถึงร้อยปี นายไม่รู้ผลที่ตามมางั้นเหรอ?หรือนายอยากกลับไปยุคสำรวจ?
มันจะไม่เป็นแบบนั้น เราเป็นผู้ปกครองไม่มีใครเหนือกว่าเรา บางทีนี่อาจเป็นช่วงเวลาที่วุ่นวายสุดตั้งแต่เริ่มปฏิทินกาแล็กซี่ แต่มันจะทำให้อุปสรรคทั้งหมดของเราถูกกำจัด มันดีกว่าที่จะเฝ้าดูศัตรูเราแข็งแกร่งขึ้นจนเราไม่สามารถกำจัดได้.. น้ำเสียงของพระสันตะปาปาสงบนิ่ง
แล้วอารยธรรมกลุ่มดาวชั้นยอดละ?
ถ้าพวกมันอยากใช้เทคโนโลยีกบฏเสมือน เราจะประกาศเรื่องนี้ให้ทั่วทั้งจักรวาลรู้ นี่เป็นเหตุผลดีสุดที่จะเริ่มทำสงครามกับพวกมันได้ อารยธรรมกลุ่มดาวชั้นยอดได้เพิกเฉยต่อความปลอดภัยของจักรวาลและพยายามใช้อาวุธอันตรายแบบนี้ เพื่อรักษาความสงบ เราไม่มีทางเลือกนอกจากกวาดล้างพวกมัน นี่จะเป็นโอกาสทำลายอารยธรรมกลุ่มดาวชั้นยอดทั้งหมด แม้ทั้งสองฝ่ายจะเสียหาย แต่ก็ไม่มีอะไรสามารถสั่นคลอนตำแหน่งเราได้อีกหลังจากนั้น..หลังศัตรูเราถูกกำจัด เราจะมีเวลามากพอจัดการเรื่องภายใน เออแรนเรลกัดปาก บีบคำพูดผ่านไรฟัน ความมั่นคงอยู่เหนือสิ่งอื่นใด
พระสันตะปาปาไม่โดนโน้มน้าว เราจะไม่ยอมให้ใครมาล้ำเส้น
บรรยากาศเริ่มตึงเครียด
เมื่อเห็นทั้งสองเถียงกัน บาเดอร์ก็มองซ้ายขวาด้วยสีหน้าแปลกๆ
วันนี้จักรวรรดิที่แสนเกรี้ยวกราดกลับพูดถึงความมั่นคง ส่วนศาสนจักรที่มักหน้าด้านกลับกลายเป็นพวกคลั่งสงคราม?
บาเดอร์มึนงง
เขาระงับความตกใจ กระแอมและพูดว่า พระสันตะปาปาเด็ดขาดมาก เนื่องจากผู้ปกครองจักรวรรดิไม่เห็นด้วยกับการใช้กำลัง เราก็อาจใช้ทางอื่นได้ มาพูดถึงเหตุการณ์ที่แมนิสันกับแบล็คสตาร์ทำสำเร็จ เราสามารถประนีประนอมกับพกเขาได้ชั่วคราวด้วยเงื่อนไขว่าพวกเขาต้องช่วยเราจัดการกับอารยธรรมกลุ่มดาวชั้นยอด เมื่อทั้งคู่บาดเจ็บเราก็จะไปเก็บกวาดทั้งสองฝ่าย
โจ่งแจ้งเกินไป พระสันตะปาปาส่ายหัว
ถ้าจักรพรรดิจักรกลและแบล็คสตาร์ได้รับเทคโนโลยี พวกเขาต้องรู้ดีถึงความเสี่ยง
นี่ยังไม่ชัดเจน เออแรนเรลพูด แบล็คสตาร์ยังไม่ตอบตกลงกับจักรพรรดิจักรกล เขาเป็นคนฉลาด ฉันเชื่อว่าเขาจะตัดสินใจเพื่อความสงบสุขของจักรวาล
พระสันตะปาปาพูดเสียงเย็น แล้วไง?สหพันธ์ก็เคยไว้ใจจักรพรรดิจักรกลมาก ซึ่งทำให้เขาหลงระเริงและหลุดการควบคุม ด้วยตัวอย่างเช่นนั้น จักรวรรดิยังวางแผนปกป้องแบล็คสตาร์อยู่อีก?
เมื่อได้ยิน เออแรนเรลก็หลับตา ลืมขึ้นหลังผ่านไปสักพัก ดวงตาของเธอไร้อารมณ์เมื่อลืมขึ้นอีกครั้ง
เมื่อถึงเวลานั้น ฉันก็มีมาตรการของฉัน
เช่น?
นั่นไม่ใช่เรื่องที่นายต้องกังวล อีกด้าน การเผชิญหน้ายังดำเนินอยู่บนดาวเมฆแม่เหล็ก ทันทีที่แมนิสันพูดอย่างนั้น ทุกคนก็กใจกันมาก พวกเขาไม่คิดว่าแมนิสันจะเต็มใจส่งไวรัสให้คนอื่น
หานเซี่ยวเองก็เช่นกัน เขาแค่ล้อเลียนแมนิสันและทดสอบเขา เขาไม่คิดว่าแมนิสันจะเห็นด้วยจริงๆ เมื่อได้ยิน หานเซี่ยวก็ลังเลและไม่ตอบสนองทันที เขาเริ่มคิดอย่างรวดเร็ว
แมนิสันอยากร่วมมือกับฉัน ไม่ใช่เพื่อเบี่ยงเป้าหมายมาหาฉันแต่เพราะความสามารถของชุดราชา ในบรรดาคนทั้งหมดที่นี่ มีแค่ฉันคนเดียวที่สามารถนำแกนไวรัสออกไปได้ ตาแก่นี่แข็งแกร่ง แต่เขาก็ไม่มั่นใจว่าจะหลบหนีออกจากที่นี่ได้ ซึ่งทำให้เขาเลือกฉัน…
หานเซี่ยวไตร่ตรอง ร่างนี้คือกายสถิตที่ไร้ชุดราชา อย่างไรก็ตาม เขาสามารถเรียกชุดสำรองจากโรงงานมิติได้ มันจึงไม่ใช่ปัญหา แมนิสันกำลังฆ่านกสองตัวด้วยหินก้อนเดียว ถ้าฉันตกลงและออกไปพร้อมแกนไวรัสฉันจะตกเป็นเป้าของทุกคนทันที ส่วนแมนิสันก็ไม่ต้องสู้หาทางออกหลังโยนมันร้อนให้ฉัน ส่วนฉันต้องเผชิญแรงกดดันของสามอารยธรรม
ถ้าฉันผิดสัญญาหลังได้รับเทคโนโลยี ไม่เพียงฉันต้องรับแรงกดดันคนเดียว แต่ฉันยังต้องทนผลกระทบของการผิดสัญญา ไม่ต้องพูดถึงการทำให้แมนิสันขุ่นเคือง ชื่อของฉันในหมู่ผู้อยู่เหนือจะดิ่งลงเหว ดังนั้น เขาจึงมั่นใจว่าฉันต้องการพันธมิตร ..
หานเซี่ยวกัดฟัน
เขาเล่นสกปรกอีกแล้ว!พวกเขาสองคนไม่ได้คุยกันส่วนตัวแต่เปิดเผย เจตนาของแมนิสันชัดเจน เขาอยากเบี่ยงเป้าหมาย และทุกคนก็เข้าใจ แต่ทว่า บางคนก็ยังตื่นตระหนก เมื่อเห็นหานเซี่ยวกำลังจะถูกโน้มน้าวใจ ผู้ตรวจการของจักรวรรดิก็ตะโกนเสียงดัง แบล็คสตาร์!คุณต้องคิดให้ดีว่าคุณกำลังทำอะไรอยู่!
เขาตื่นตระหนก แม้จะมีเครื่องปรับเสถียรมิติเวลา แบล็คสตาร์ก็สามารถออกไปได้ง่ายๆ
แม้ทั้งสองจะสามารถหนีได้แต่ก็หลบไม่ได้ ถ้าสามอารยธรรมจักรวาลไม่สามารถได้รับแกนไวรัส มันก็จะทำให้เกิดปัญหาภายหลัง
ช่างกลผู้อยู่เหนือเปลี่ยนตำแหน่งพวกเขา ยืนออกห่างแมนิสันและหานเซี่ยว
ครั้งนี้ แมนิสันยกแกนไวรัสขึ้น จ้องหานเซี่ยว แบล็คสตาร์ ฉันหวังกับนายไว้สูง นายควรรู้ว่านี่จะกลายเป็นเครื่องรางสำหรับผู้อยู่เหนือ เรามีหลักการเดียวกัน เอามันออกไป อนาคตของเราอยู่ในมือนาย
ไร้สาระ แม้นายจะเป็นประธานสมาคม นายก็ยังไม่มีสิทธิ์ตัดสินใจแทนผู้อยู่เหนือทั้งหมด ไม่มีใครต้องการให้นายวางแผนอนาคตแทนพวกเรา กันต์หันไปหาหานเซี่ยว แบล็คสตาร์ อย่าโดนเขาหลอก ไม่เพียงการถือแกนไวรัสจะไม่เป็นหลักประกันแก่เรา แต่ยังเป็นแหล่งหายนะอีกด้วย
หานเซี่ยวลังเล หลักการของเขาไม่เหมือนกับแมนิสัน เขาอยากแทรกแซงหายนะของผู้ใช้พลังเพื่อให้จักรวาลสามารถสงวนพลังไว้ต่อกรกับอารยธรรมต้นไม้โลกได้
แมนิสันอยากทำให้ผู้อยู่เหนือแข็งแกร่งขึ้น ทำให้ทุกคนเป็นโล่ของเขา เป้าหมายอื่นของเขาในการได้รับไวรัสโดมิโน่น่าจะเป็นการทำให้ผู้อยู่เหนือมองเขาเป็นผู้นำ
ในชีวิตก่อนหน้าของหานเซี่ยว แมนิสันน่าจะเป็นคนที่ได้รับไวรัสไป แต่ทว่า เขาไม่ใช้มันในช่วงสงครามอารยธรรมต้นไม้โลก ความทะเยอทะยานของเขาแสดงั้งแต่ที่เขาไม่เปิดเผยไพ่ตายตอนจักรวาลโดนคุกคาม เห็นได้ชัดว่าเขาอยากใช้มันกับสามอารยธรรมจักรวาล
หานเซี่ยวมองไปรอบๆ เห็นสีหน้าของทุกคน
ไวรัสโดมิโน่เป็นเครื่องรางจริงๆ?ใครจะไปรู้?มันอาจเป็นของต้องสาป
สามอารยธรรมจักรวาลจะเต็มใจที่จะโดนใครบางคนกดขี่?ถ้าฉันคุกคามพวกเขาด้วยสิ่งนี้ ทางออกของสามอารยธรรมก็คงเป็นการกำจัดศัตรูโดยไม่สนใจต้นทุน
ส่วนใหญ่ สามอารยธรรมจักรวาลจะคิดถึงภาพรวม แต่นี่ไม่ได้หมายความว่าพวกเขามีความอดทนสูง อาวุธกลยุทธ์จะบรรลุสมดุลอำนาจก็ต่อเมื่อพลังของสองฝ่านอยู่ระดับเดียวกัน แต่ทว่า ถ้าพลังของอีกฝ่ายสูงเกิน ก็ยากจะจินตนาการได้ว่าพวกเขาจะยอมให้คนนอกใช้อาวุธที่สามารถคุกคามพวกเขาเพื่อเรียกร้อง ถ้าเขาได้รับเทคโนโลยีไวรัสโดมิโน่ เขาจะสามารถทำให้จักรวาลเสียหายได้ถ้าเขาอยากทำและทำให้สังคมกาแล็กซี่ย้อนกลับไปหลายชั่วอายุคน เขาอาจรู้สึกว่านี่หมายความว่าสามอารยธรรมจักรวาลต้องยอมอดทนและประนีประนอมกับเขา…อย่างไรก็ตาม ยังมีความเป็นไปได้ที่สามอารยธรรมจักรวาลจะทุ่มทุกอย่างเพื่อกำจัดเขา
ต่อให้เขาไม่คิดสร้างปัญหา แต่คนก็สามารถเปลี่ยนใจกันได้ และสามอารยธรรมจักรวาลก็คงไม่เต็มใจเสี่ยง
จากมุมมองของหานเซี่ยว การที่สามอารยธรรมจักรวาลอนุญาตให้พวกเขาครอบครองเทคโนโลยีไวรัสโดมิโน่ได้ดูเหมือนไม่ใช่ปัญหาใหญ่ เหนือสิ่งอื่นใด ตราบเท่าที่ทุกคนอดกลั้น มันดูเหมือนจะไม่มีใครเสียหายใด มันดูเหมือนปัญหาเล็กน้อย
แต่ทว่า นี่เป็นแค่การคิดแบบเด็กน้อย ในความเป็นจริง สามอารยธรรมจักรวาลก็มีเส้นของตัวเอง พวกเขาสามารถทนต่อความโลภได้ แต่พวกเขาจะไม่ยอมให้ใครมาคุกคามตำแหน่งพวกเขาเด็ดขาด
ในสถานการณ์นี้ ถ้าเขาไม่สนใจคำเตือนและรับเอาแกนไวรัสไป ไม่ว่าเขาจะพูดอะไรหลังจากนี้ สามอารยธรรมจักรวาลก็ยังถือว่าเขากำลังคิดล้มล้างการปกครองของพวกเขา
ถ้าเป็นแบบนั้น หานเซี่ยวไม่คิดว่าผู้อยู่เหนือคนอื่นจะเลือกยืนข้างเขา เขารู้ดีว่าทุกคนมีเส้นทางของตัวเอง เสียงเรียกของเขาที่ได้รับการตอบรับมากมายก่อนหน้ามันเพราะผลประโยชน์ แต่ทว่า ไม่มีใครพร้อมเปิดศึกกับสามอารยธรรม ตอนนั้น คงมีคนเลือกที่จะไม่เกี่ยวข้องมากกว่าเลือกเส้นทางจุดจบ
เมื่อถึงเวลานั้น เขากับจักรพรรดิจักรกลอาจถูกมองเห็นมะเร็งของสังคม
นอกจากนี้ ผลกระทบของเรื่องนี้จะแสดงออกมาในทุกด้าน ดินแดนของกองทัพแบล็คสตาร์ในโลกริบหรี่จะถูกริบคืน อารยธรรมจะไม่ให้ทรัพยากร กลุ่มการเงินพลเรือนจะยุติการเป็นหุ้นส่วน เงินทุนของกองทัพและบัญชีกอ งทัพจะโดนระงับ และกองทัพก็จะไม่สามารถซื้อทรัพยากรได้ ทหารนับไม่ถ้วนจะทิ้ง ธุรกิจของกองทัพจะลดลงมาก ….สามอารยธรรมจักรวาลต้องใช้เขาเป็นตัวอย่าง
ทุกคนคือสมาชิกอารยธรรมกาแล็กซี่ มีคนน้อยมากที่เต็มใจสู้กับสามอารยธรรมจักรวาล
เหนือสิ่งอื่นใด คนส่วนใหญ่แค่คนธรรมดา
ดวงตาของหานเซี่ยวไหววูบ เขาหยุดล้อเล่นพูดด้วยเสียงทุ้ม นายกำลังทำให้ฉันต้องเดิมพัน
ฉันกำลังคิดถึงภาพรวม
หานเซี่ยวเงียบไปสักพักก่อนขยับตัว
บูซ!
พลังงานมิติปะทุ และห่อหุ้มทั้งพื้นที่นี้ ทุกคนรู้สึกเหมือนติดในห้วงมิติและไม่สามารถขยับได้อย่างอิสระ
คุกมิติ!
เนื่องจากอุปกรณ์ปรับเสถียรมิติ พลัง ระยะเวลาและระยะของความสามารถนี้จึงลดลงมาก แต่มันก็ยังมากพอ
ในบริเวณนี้ มีเพียงการเคลื่อนไหวของหานเซี่ยวถึงไม่ถูกจำกัด เขาบินผ่านวงล้อม มาถึงตรงหน้าแมนิสัน คว้าแกนไวรัสและหลบออกไป
แบล็คสตาร์! เมื่อคุกมิติหาย ทุกคนก็มาล้อมหานเซี่ยว
สายตาของทุกคนจ้องเขาด้วยอารมณ์ซับซ้อนเช่น โกรธ กังวล ลือ่นๆ
ด้านนอกฝูงชน แมนิสันมองหานเซี่ยว ดูเหมือนนายจะคิดออกแล้ว นายเป็นคนฉลาด อย่าทำให้ฉันผิดหวัง
แบล็คสตาร์ อย่าทำอะไรโง่ๆ ซิดรีนและผู้ตรวจการตกใจ
หานเซี่ยวไม่ตอบสนองกับใคร เขามองแกนไวรัสในมือ ลูบมันเบาๆ ตรวจสอบให้แน่ใจว่านี่เป็นของจริง
ด้วยผู้อยู่เหนือมากมาย ความเป็นไปได้ที่จะถูกสับเปลี่ยนจึงไม่มีอยู่
ด้วยแกนไวรัสในมือ เขารู้สึกราวกับเขาไม่ได้จับวัตถุกายภาพ แต่เป็นชะตากรรมของคนทั้งจักรวาล
ทิศทางของยุคสมัยและเส้นทางที่ดำเนินอาจถูกตัดสินใจโดยเขา
ครั้งนี้ หานเซี่ยวมองทุกคน ก่อนจะเดิมพัน เราต้องดูความเสี่ยงก่อน ขอโทษด้วย ฉันอาจตัดสินใจไม่ถูก มันแค่ว่าจู่ๆฉันก็นึกถึงคำพูดของผู้หญิงคนหนึ่งขึ้นมา…
เธอบอกว่า…จักรวาลนี้ต้องมีจุดจบไม่ว่าจะกว้างใหญ่แค่ไหน แต่ความทะเยอทะยานนั้นไร้ขีดจำกัด
ทันทีที่เขาพูด ภายใต้สายตาตกใจของทุกคน พลังจักรกลของหานเซี่ยวระเบิดออกมา ไหลเข้าภาชนะ
พลังจักรกลผสมด้วยการโจมตีวิญญาณเสมือน มันลบล้างทั้งร่างกายและวิญญาณของแกนไวรัส
คชา!
เขาทุบเปลือกโลหะทิ้งด้วยมือ ภาชนะว่างเปล่าเปลี่ยนเป็นเศษชิ้นส่วน
ช่วงเวลานี้ มันดูเหมือนทุกอย่างถูกหยุด
ทุกคน รวมถึงผู้นำสามอารยธรรมจักรวาลที่เฝ้าดูต่างตกตะลึง
ทุกคนมีการคาดเดามากมายในหัว แต่ไม่มีสักคนที่คิดถึงความเป็นไปได้นี้
แบล็คสตาร์ทำลายแกนไวรัส?
เขาบ้าไปแล้ว!ทำไมเขาถึงทำแบบนั้น?
ต่อให้ไม่อยากได้มัน ก็ไม่จำเป็นต้องทำลายมันเลย!
ทันใดนั้นแสงเจิดจ้าก็ระเบิดออกจากตาของแมนิสัน พลังงานน่าสะพรึงกลัวไหลออกจากตัวเขาเหมือนสึนามิ
น้ำเสียงของเขาดังก้องกังวลไปทั่วทั้งดาว
แก!ทำ!บ้า!อะไร!ลง!ไป!