The Legendary Mechanic - ตอนที่ 1166 จิตใจที่สั่นคลอน
บูม!
เหมือนสายฟ้านับพันสายผ่าพร้อมกัน พลังจักรกลปะทุเหมือนมังกรเงิน
คนบนดาววงแหวนดินแหงนมอง มันราวกับดวงอาทิตย์สองดวงพลันปรากฏ
ประตูแสงสองบานเปิดขึ้นในอวกาศมืด และจักรกลนับไม่ถ้วนก็กรูออกมาจากกล่องกองทัพมิติที่สอง
อีกด้านคือเมฆพายุดำ อีกฝั่งเหมือนเนินเขาหิมะ
กองทัพจักรกลล้อมทั้งสอง พลังจักรกลขยายออกจากตัวพวกเขาและเชื่อมต่อกับกองทัพ ประกอบกันเป็นยักษ์สองตัว!
ในชั่วพริบตา อาวุธขนาดใหญ่สองอันก็ปะทะกัน คมดาบดำขนาดเท่าภูเขาปะทะกับตรีศูลทอง!
เกร๊ง! คลื่นไซโอนิคระเบิด ขยายผ่านชั้นบรรยากาศเทียมของดาววงแหวนดิน ทำให้เกิดปฏิกิริยาลูกโซ่!
คนนับไม่ถ้วนรีบปิดหู พวกเขารู้สึกราวกับมีคนกำลังเคาระฆังในหัว พวกเขาสามารถรู้สึกได้ว่าสมองกำลังสั่น บ้างเสียสมดุลเหมือนเมา ล้มลงกับพื้น และไม่สามารถควบคุมร่างกายได้
ด้านนอกชั้นบรรยากาศดาว สองเทพจักรกลปรากฏและสู้กันอย่างดุเดือด
ทุกการเคลื่อนไหวของเทพจักรกลเต็มไปด้วยพลังน่าหวาดหวั่น ถึงแม้พวกเขาจะอยู่ไกลจากดาว ผลพวงก็ยังทำให้เกิดภัยพิบัติธรรมชาติบนผิวดาว
เครื่องจักรออกจากกล่องกองทัพมิติที่สองไม่หยุด เครื่องจักรพวกเขาสู้กันภายใต้การนำของอาวุธอัครฑูตพวกเขา แบ่งเป็นสนามรบขนาดเล็กนับไม่ถ้วน
ปัญญาประดิษฐ์ต่อสู้ของทั้งสองฝ่ายพยายามทำลายกัน และสร้างสถานการณ์ที่จำนวนเหนือกว่า ทหารจักรกลที่บ้างครั้งหลุดแถวตกเป็นเป้าระดมยิง จากนั้นก็ฟื้นคืนผ่านพลังจักรกลและเข้าสู่สนามรบทันที
ชั้นบรรยากาศของดาววงแหวนดินเต็มไปด้วยร่องรอยลำแสงไซโอนิคที่ดูเหมือนจะก่อตัวเป็นตาข่ายปกคลุมดาว
บางครั้ง เหล็กหลอมโดยอุณหภูมิสูงจะเย็นตัวเป็นอุกกาบาตที่ตกลงบนผิวดาว
นี่ไม่ใช่การต่อสู้ครั้งแรกระหว่างหานเซี่ยวกับแมนิสัน พวกเขามีความคิดคร่าวๆถึงความสามารถของกันและกัน ดังนั้นพวกเขาจึงทุ่มสุดตัวตั้งแต่ต้นและปลดปล่อยอาวุธอัครฑูต
ตาแก่แมนิสันมีอาวุธอัครฑูตกว่า 40 ชนิด ความคล้ายกันคือพวกมันเป็นสิ่งมีชีวิตจักรกลที่ดำรงอยู่มาหลายปี พวกมันจึงมีพลังงานมากมายในประกายไฟ
หานเซี่ยวได้รับพรสวรรค์การปั้น(จักรวรรดิจักรกลพันล้าน)จากตาแก่แมนิสันครั้งก่อนที่พวกเขาสู้กัน ไม่เพียงมันจะมอบโบนัสทุกชนิดให้ มันยังเพิ่มความสามารถช่างกลแกนหลักรวมถึง(การสร้างชีวิตอัครฑูต)อีกหกระดับ หมายความว่าจะสร้างอาวุธอัครฑูตได้เพิ่มอีกหก!
ก่อนหน้านี้ หานเซี่ยวได้สร้างสมบัติจักรวาลใหม่สี่ชิ้นและใช้แต้มการเปลี่ยนแปลงลักษณะแห่งเทพจนหมดกับฝั่งเครื่องจักร เพิ่มระดับมันจากห้าเป็นเก้า นี่ยังมอบอาวุธอัครฑูตให้เขาเพิ่ม
ดังนั้น หานเซี่ยวจึงสร้างอาวุธอัครฑูตอีกประมาณสิบขณะดูสถานการณ์ของสงครามริบหรี่ แม้จะยังมีน้อยกว่าของแมนิสัน แต่ก็ไม่มากเท่าครั้งก่อน
ด้วยพลังปัจจุบันของฉัน ต่อให้ไม่มีบัตรอัญเชิญตัวละคร ฉันก็สามารถสู้กับตาแก่แมนิสันได้และไม่เสียเปรียบเหมือนครั้งก่อน
แต่ทว่า หานเซี่ยวสามารถใช้แต้มได้ทันที หมายความว่ากระบวนการย่อยจะโดนข้ามไป ประหยัดเวลาได้มาก นี่ทำให้เขาแข็งแกร่งขึ้นในเวลาอันสั้น มันเป็นสิ่งที่ไม่มีใครสามารถเลียนแบบได้
เมื่อพิจารณาถึงโบนัสจำนวนมากจาก(จักรวรรดิจักรกลพันล้าน) ไขกระดูกสันหลังไททัน หมัดกระแทก และสมบัติจักรวาลใหม่ หานเซี่ยวเดาว่าพลังปัจจุบันของเขาควรเหมือนกับตอนเขาระเบิดพลังครั้งก่อน!ส่วนเดียวที่ยังอ่อนแอกว่าคือค่าสถานะพื้นฐานที่เขาได้รับผ่าน(กระแสพลังสุดขั้ว เลือดเดือด) และ(รากฐานชีวิตขั้นสูง)
บนหน้าต่างสถานะ ภารกิจท้าทายจักรพรรดิจักรกลปรากฏขึ้นตามคาด
พอมาคิดดู นี่เป็นครั้งสามแล้วที่เขาเห็นภารกิจนี้
ฉันจะใช้ค่าประสบการณ์ฉันด้วยเพื่อให้ฉันแกร่งสุดขีด
หานเซี่ยวเหลือบมองหน้าต่างสถานะ ใช้ค่าประสบการณ์สะสมส่วนใหญ่เพื่อเลื่อนระดับ
ระดับของเขาพุ่งไปถึงระดับ 331 ก่อนหยุด ค่าประสบการณ์ที่เหลือไม่พอเลื่อนระดับอีก
โบนัสที่เขาได้รับจากการเลื่อนระดับตอนนี้ไม่มากนัก แต่ทุกๆการยกระดับกับวิวัฒนาการจะยังทำให้เขาแข็งแกร่งขึ้นมาก ดังนั้น แม้แต้มตื่นรู้จะมีผลกระทบต่อพลังเขา เขาก็ไม่คิดใช้ค่าประสบการณ์ไปกับพวกมันสักพัก
เหนือสิ่งอื่นใด มันเป็นช่วงท้ายของเวอร์ชั่นสี่แล้ว ถ้าเขาไม่ใช้ค่าประสบการณ์เล่น เขาอาจสะสมค่าประสบการณ์ได้จนถึงระดับ340
บูม!
ทุกการปะทะระหว่างคมดาบลงทัณฑ์และตรีศูลจะทำให้เกิดการระเบิดของพลังงานรุนแรง
เมื่อรู้สึกถึงพลังจากการปะทะ แมนิสันก็แปลกใจ
เขาจำได้ชัดว่าครั้งก่อนที่เขาสู้กับแบล็คสตาร์ พลังเทพจักรกลของแบล็คสตาร์ในสภาวะปกติไม่สามารถสู้กับเขาได้เลย จากประสบการณ์ในอดีต ถ้าแบล็คสตาร์ไม่ใช้ความสามารถระเบิดพลัง เขาควรบดขยี้อีกฝ่ายได้ง่ายๆ แต่ทว่า ตอนนี้พวกเขากลับสูสีกัน!
สิ่งที่แมนิสันตกใจสุดคือจำนวนอาวุธอัครฑูตของหานเซี่ยวที่เพิ่มขึ้นเกือบสองเท่า นี่ไม่ใช่สิ่งที่สภาวะระเบิดสามารถนำมาได้ มันคือการแสดงความสามารถพื้นฐาน!
ไอบ้านี่ฝึกอย่างไร?
แมนิสันรู้ว่าแบ็คสตาร์เติบโตเร็วมาก แต่เขาก็ยังไม่เข้าใจ
ตั้งแต่เด็ก เขาคืออัจฉริยะในสายตาคนรอบตัว เขาเป็นดาวเด่นของเผ่าพันธ์ุเขา เขาเรียนรู้ทุกอย่างได้เร็วกว่าคนอื่นมากและไม่มีใครสามารถตามเขาทัน เขาเหนือกว่าทุกคนที่พยายามไล่ตามเขา เขาไม่เคยพบอัจฉริยะช่างกลคนใดที่แข่งขันกับเขาได้
แต่ทว่า นี่เปลี่ยนไปเมื่อเขาพบกับแบล็คสตาร์ มันเป็นครั้งแรกที่แมนิสันพบว่าเขาไม่ใช่อัจฉริยะอีกต่อไป
แบล็คสตาร์ดูเหมือนจะสามารถทำสิ่งที่เขาไม่สามารถทำได้ และนี่ก็สร้างอารมณ์ที่เขาไม่เคยรู้สึกมาก่อนในชีวิต มันขมและเปรี้ยว
นี่คือสิ่งที่คนทั่วไปเรียกว่าอิจฉา?
เดี๋ยว ทำไมฉันถึงคิดเรื่องนี้?
แมนิสันตกใจ จู่ๆมันก็เกิดโดยที่เขาไม่รู้ตัว แบล็คสตาร์ได้สั่นคลอนความมั่นใจที่เขาสร้างมาหลายปี
ดวงตาของเขาแน่วแน่ เขาระงับอารมณ์นี้ ตัดสิ่งรบกวนทั้งหมดและตั้งสติ จดจ่อกับการต่อสู้
ครั้งนี้ หานเซี่ยวพลันเหวี่ยงคมดาบไปด้านหลัง เหมือนสายธนูที่ถูกดึงให้ตึง พลังมหาศาลไหลจากข้อต่อของไขกระดูกสันหลังไปยังแขน
อุปกรณ์ลอยฟ้าแปลกๆโผล่ออกจากผิวเทพจักรกล วนเวียนรอบคมดาบเชื่อมต่อกันและสร้างเป็นรูปแบบซับซ้อนที่เปล่งแสงพลังงานไซโอนิค ปลดปล่อยพลังงานพร้อมกันไปยังคมดาบแห่งการลงทัณฑ์
แสงสีฟ้าโปร่งใสพลันปรากฏบนคมดาบเหมือนถูกเคลือบด้วยฟอง
เมื่อแมนิสันกำลังจะยกตรีศูลขึ้นป้องกัน เสียงตะโกนแสบแก้วหูของแบล็คสตาร์ก็ดังขึ้น
“หมัดอัดกระแทกเกตตะ อากาศสั่นสะเทือน!”
วินาทีต่อมา คมดาบก็ฟันลง!
พลังของการโจมตีนี้เหนือกว่าเดิมมาก!
แมนิสันสัมผัสได้เช่นกัน เขารีบยกตรีศูลขึ้นป้องกัน
ตูม!
เหมือนภูเขาสองลูกปะทะกัน แสงสีฟ้าบนคมดาบยิงออกมา ระเบิดหน้าอกของแมนิสัน คลื่นกระแทกรุนแรงดังก้องภายในเทพจักรกลของเขา รอยแตกขนาดใหญ่ปรากฏบนผิว และแผ่นเกราะก็แตกเป็นเสี่ยงๆ
กระแสพลังงานของแมนิสันปั่นป่วนไปชั่วขณะ เขารีบปรับสมดุล ดูดทหารจักรกลใกล้ๆเพื่อซ่อมแซมควาามเสียหาย
การโจมตีนี้ทรงพลังมาก เขาจำได้ว่าแบล็คสตาร์ไม่เคยใช้ท่านี้มาก่อน มันดูเหมือนจะเป็นสมบัติจักรวาลใหม่
แต่ทว่า สิ่งที่เขาหงุดหงิดสุดไม่ใช่ความจริงที่โดนบังคับให้ถอย แต่เป็นเพราะเขาตกใจกับเสียงตะโกนของแบล็คสตาร์
แกจะตะโกนหาพระแสงอะไรตอนสู้?
และแกยังส่งข้อความเสียงส่วนตัวหาฉัน แกทำไปเพื่ออะไร?
แกคิดว่าแกเป็นนักสู้หรือยังไง?
แมนิสันหงุดหงิดมาก
ด้วยสถานการณ์ปัจจุบัน พวกเขาสองคนไม่สามารถกำหนดผู้แพ้ชนะได้ในเวลาอันสั้น ซึ่งหมายความว่าจักรพรรดินีมังกรกับคนอื่นสามารถใช้เวลาหาแฝดสลับวิญญาณได้ ถ้าเขาได้รับแฝดสลับวิญญาณ ก็จะไม่มีประเด็นอะไรให้ต้องสู้กันอีก..ดูเหมือนฉันจะต้องใช้ไพ่ตาย
ดวงตาของแมนิสันเป็นประกาย
“เป็นการโจมตีที่รุนแรงมาก!’
ที่ขอบสนามรบ ผู้ดูแลดาวและกองยานป้องกันมองการต่อสู้ด้วยความระมัดระวัง
แม้พวกเขาจะรู้ว่าผู้อยู่เหนือทรงพลัง แต่การดูด้วยตาตัวเองก็ไม่ใช่สิ่งที่ภาพถ่ายสามารถเทียบได้
“โชคดี เราไม่ได้สู้กับจักรพรรดิจักรกลก่อนแบล็คสตาร์จะมา ไม่งั้นเราคงโดนกวาดล้างไปแล้ว”
ผู้ดูแลดาวรู้สึกว่าการตัดสินใจของเขาฉลาดมาก
เขาหันไปมองเอเมสกับฮีล่า ผู้กำลังค้นหาดาวและสับสน
“แบล็คสตาร์กับจักรพรรดิจักรกลดูเหมือนจะมีเป้าหมายเดียวกัน พวกเขากำลังมองหาอะไร?”
ในเวลาเดียวกัน บนผิวดาว คนนับไม่ถ้วนแหงนมองการต่อสู้ด้วยความตื่นตาตื่นใจ
สองเทพจักรกลสู้กันเต็มกำลังในอวกาศ แสงสว่างในจักรวาลมืดทำให้ทุกอย่างดูชัดเจนจากผิวดาว
“พี่…ระ-เราควรทำยังไงกันดี?”
เมื่อเห็นพลังทำลายล้างแบบนี้ จิลกับวอร์เร็นก็ตกตะลึง ความกลัวเริ่มปกคลุมหัวใจพวกเขา
ตอนนี้ทั้งคู่ถึงตระหนักว่าตัวเองน่าหัวเราะแค่ไหนที่คิดว่าสามารถเล่นงานแบล็คสตาร์ได้
คนที่แข็งแกร่งแบบนั้นคงลบเราเป็นฝุ่นได้ด้วยแค่การหายใจ แต่เรายังวางแผนยึดร่างเขา?
นี่ไม่ต่างอะไรกับการฆ่าตัวตาย!
ทั้งสองคือพวกเดียวที่สามารถใช้ตัวสลับวิญญาณได้ และพวกเขาก็มักเชื่อว่าพวกเขาคือผู้ถูกเลือก ดังนั้น พวกเขาจึงมั่นใจแบบผิดๆ
แต่ทว่า เมื่อพวกเขาได้เห็นการต่อสู้ระหว่างสองผู้อยู่เหนือระดับสูงสุด พวกเขาก็ตระหนักว่าตัวเองอวดดีแค่ไหน!มันไม่น่าแปลกใจเลย พวกเขาถูกขังโดยอารยธรรมโมโดมานานมากและข้อมูลที่พวกเขาได้รับเกี่ยวกับโลกภายนอกก็น้อย
“ขณะที่ความสนใจพวกเขาโดนเบี่ยงเบน เราต้องคิดหาทางหนี ดูเหมือนว่าพวกเขากำลังตามหาเราจริงๆ”
เมื่อเห็นแบล็คสตาร์ปรากฏตัวด้วย จิลก็รู้ว่ามันไม่ปกติแล้ว
ต้องออกวงแหวนดาวกระจายเดี๋ยวนี้!ไปให้ไกลที่สุด และไม่กลับมาอีกจนกว่าเราจะเป็นผู้อยู่เหนือ!
ในเวลาเดียวกัน เอเมสกับฮีล่ากำลังบินในชั้นบรรยากาศ ฮีล่าปลดปล่อยสัมผัสวิญญาณและตรวจคนบนผิวดาว ขณะค้นหา ทั้งสองมักเหลือบมองสนามรบในอวกาศ
“ดูเหมือนพวกเขาจะสูสีกันอยู่ เราไม่ต้องกังวล แบล็คสตาร์จะไม่เป็นไร”ฮีล่าพูดเสียงเบา
เมื่อเห็นว่าการต่อสู้ระหว่างแบล็คสตาร์กับจักรพรรดิจักรกลรุนแรงแค่ไหน เธอก็รู้สึกคันไม้คันมือ นับตั้งแต่เธอเข้ามิติโลกใต้พิภพ เธอก็ไม่เคยสู้กับใครเต็มกำลังเลยยกเว้นแบล็คสตาร์
แต่ทว่า เมื่อคิดถึงการต่อสู้ 30 ครั้งที่หานเซี่ยวรับปาก เธอก็ระงับความปรารถนานั้นไว้
เอเมสส่ายหัว”รีบหาเป้าหมายกัน ยิ่งเราหาได้เร็ว เราก็จะจากไปได้เร็ว เขาจะได้ไม่ต้องเสี่ยงสู้กับจักรพรรดิจักรกล”
เมื่อเห็นการต่อสู้ เธอก็ยอมรับว่าเธอช่วยเหลืออะไรไม่ได้มากจริงๆ
ย้อนกลับไปตอนเธอสู้กับแบล็คสตาร์ เธอได้ยอมรับความจริงที่แบล็คสตาร์เหนือกว่าเธอ ดังนั้นเธอจึงไม่รู้สึกท้อแท้อะไร
แต่ทว่า วินาทีถัดมา สีหน้าของทั้งคู่ก็เปลี่ยนไป พวกเธอรีบหันไปมองสนามรบ
ในชั่วพริบตา ทั้งสองสัมผัสได้ถึงแหล่งพลังงานผู้อยู่เหนือใหม่ที่บินออกจากกล่องกองทัพมิติที่สองของจักรพรรดิจักรกล!
พวกมันไม่ใช่ปฏิกิริยาพลังงานของอาวุธอัครฑูต แต่เป็นผู้อยู่เหนือ!
“จักรพรรดิจักรกลมีผู้ช่วย?”
ฮีล่าหยุดกลางอากาศ
“เราต้องกลับไปช่วย!เราไม่สามารถดูผู้บัญชาการกองทัพโดนล้อมได้!”
เหมือนสายฟ้านับพันสายผ่าพร้อมกัน พลังจักรกลปะทุเหมือนมังกรเงิน
คนบนดาววงแหวนดินแหงนมอง มันราวกับดวงอาทิตย์สองดวงพลันปรากฏ
ประตูแสงสองบานเปิดขึ้นในอวกาศมืด และจักรกลนับไม่ถ้วนก็กรูออกมาจากกล่องกองทัพมิติที่สอง
อีกด้านคือเมฆพายุดำ อีกฝั่งเหมือนเนินเขาหิมะ
กองทัพจักรกลล้อมทั้งสอง พลังจักรกลขยายออกจากตัวพวกเขาและเชื่อมต่อกับกองทัพ ประกอบกันเป็นยักษ์สองตัว!
ในชั่วพริบตา อาวุธขนาดใหญ่สองอันก็ปะทะกัน คมดาบดำขนาดเท่าภูเขาปะทะกับตรีศูลทอง!
เกร๊ง! คลื่นไซโอนิคระเบิด ขยายผ่านชั้นบรรยากาศเทียมของดาววงแหวนดิน ทำให้เกิดปฏิกิริยาลูกโซ่!
คนนับไม่ถ้วนรีบปิดหู พวกเขารู้สึกราวกับมีคนกำลังเคาระฆังในหัว พวกเขาสามารถรู้สึกได้ว่าสมองกำลังสั่น บ้างเสียสมดุลเหมือนเมา ล้มลงกับพื้น และไม่สามารถควบคุมร่างกายได้
ด้านนอกชั้นบรรยากาศดาว สองเทพจักรกลปรากฏและสู้กันอย่างดุเดือด
ทุกการเคลื่อนไหวของเทพจักรกลเต็มไปด้วยพลังน่าหวาดหวั่น ถึงแม้พวกเขาจะอยู่ไกลจากดาว ผลพวงก็ยังทำให้เกิดภัยพิบัติธรรมชาติบนผิวดาว
เครื่องจักรออกจากกล่องกองทัพมิติที่สองไม่หยุด เครื่องจักรพวกเขาสู้กันภายใต้การนำของอาวุธอัครฑูตพวกเขา แบ่งเป็นสนามรบขนาดเล็กนับไม่ถ้วน
ปัญญาประดิษฐ์ต่อสู้ของทั้งสองฝ่ายพยายามทำลายกัน และสร้างสถานการณ์ที่จำนวนเหนือกว่า ทหารจักรกลที่บ้างครั้งหลุดแถวตกเป็นเป้าระดมยิง จากนั้นก็ฟื้นคืนผ่านพลังจักรกลและเข้าสู่สนามรบทันที
ชั้นบรรยากาศของดาววงแหวนดินเต็มไปด้วยร่องรอยลำแสงไซโอนิคที่ดูเหมือนจะก่อตัวเป็นตาข่ายปกคลุมดาว
บางครั้ง เหล็กหลอมโดยอุณหภูมิสูงจะเย็นตัวเป็นอุกกาบาตที่ตกลงบนผิวดาว
นี่ไม่ใช่การต่อสู้ครั้งแรกระหว่างหานเซี่ยวกับแมนิสัน พวกเขามีความคิดคร่าวๆถึงความสามารถของกันและกัน ดังนั้นพวกเขาจึงทุ่มสุดตัวตั้งแต่ต้นและปลดปล่อยอาวุธอัครฑูต
ตาแก่แมนิสันมีอาวุธอัครฑูตกว่า 40 ชนิด ความคล้ายกันคือพวกมันเป็นสิ่งมีชีวิตจักรกลที่ดำรงอยู่มาหลายปี พวกมันจึงมีพลังงานมากมายในประกายไฟ
หานเซี่ยวได้รับพรสวรรค์การปั้น(จักรวรรดิจักรกลพันล้าน)จากตาแก่แมนิสันครั้งก่อนที่พวกเขาสู้กัน ไม่เพียงมันจะมอบโบนัสทุกชนิดให้ มันยังเพิ่มความสามารถช่างกลแกนหลักรวมถึง(การสร้างชีวิตอัครฑูต)อีกหกระดับ หมายความว่าจะสร้างอาวุธอัครฑูตได้เพิ่มอีกหก!
ก่อนหน้านี้ หานเซี่ยวได้สร้างสมบัติจักรวาลใหม่สี่ชิ้นและใช้แต้มการเปลี่ยนแปลงลักษณะแห่งเทพจนหมดกับฝั่งเครื่องจักร เพิ่มระดับมันจากห้าเป็นเก้า นี่ยังมอบอาวุธอัครฑูตให้เขาเพิ่ม
ดังนั้น หานเซี่ยวจึงสร้างอาวุธอัครฑูตอีกประมาณสิบขณะดูสถานการณ์ของสงครามริบหรี่ แม้จะยังมีน้อยกว่าของแมนิสัน แต่ก็ไม่มากเท่าครั้งก่อน
ด้วยพลังปัจจุบันของฉัน ต่อให้ไม่มีบัตรอัญเชิญตัวละคร ฉันก็สามารถสู้กับตาแก่แมนิสันได้และไม่เสียเปรียบเหมือนครั้งก่อน
แต่ทว่า หานเซี่ยวสามารถใช้แต้มได้ทันที หมายความว่ากระบวนการย่อยจะโดนข้ามไป ประหยัดเวลาได้มาก นี่ทำให้เขาแข็งแกร่งขึ้นในเวลาอันสั้น มันเป็นสิ่งที่ไม่มีใครสามารถเลียนแบบได้
เมื่อพิจารณาถึงโบนัสจำนวนมากจาก(จักรวรรดิจักรกลพันล้าน) ไขกระดูกสันหลังไททัน หมัดกระแทก และสมบัติจักรวาลใหม่ หานเซี่ยวเดาว่าพลังปัจจุบันของเขาควรเหมือนกับตอนเขาระเบิดพลังครั้งก่อน!ส่วนเดียวที่ยังอ่อนแอกว่าคือค่าสถานะพื้นฐานที่เขาได้รับผ่าน(กระแสพลังสุดขั้ว เลือดเดือด) และ(รากฐานชีวิตขั้นสูง)
บนหน้าต่างสถานะ ภารกิจท้าทายจักรพรรดิจักรกลปรากฏขึ้นตามคาด
พอมาคิดดู นี่เป็นครั้งสามแล้วที่เขาเห็นภารกิจนี้
ฉันจะใช้ค่าประสบการณ์ฉันด้วยเพื่อให้ฉันแกร่งสุดขีด
หานเซี่ยวเหลือบมองหน้าต่างสถานะ ใช้ค่าประสบการณ์สะสมส่วนใหญ่เพื่อเลื่อนระดับ
ระดับของเขาพุ่งไปถึงระดับ 331 ก่อนหยุด ค่าประสบการณ์ที่เหลือไม่พอเลื่อนระดับอีก
โบนัสที่เขาได้รับจากการเลื่อนระดับตอนนี้ไม่มากนัก แต่ทุกๆการยกระดับกับวิวัฒนาการจะยังทำให้เขาแข็งแกร่งขึ้นมาก ดังนั้น แม้แต้มตื่นรู้จะมีผลกระทบต่อพลังเขา เขาก็ไม่คิดใช้ค่าประสบการณ์ไปกับพวกมันสักพัก
เหนือสิ่งอื่นใด มันเป็นช่วงท้ายของเวอร์ชั่นสี่แล้ว ถ้าเขาไม่ใช้ค่าประสบการณ์เล่น เขาอาจสะสมค่าประสบการณ์ได้จนถึงระดับ340
บูม!
ทุกการปะทะระหว่างคมดาบลงทัณฑ์และตรีศูลจะทำให้เกิดการระเบิดของพลังงานรุนแรง
เมื่อรู้สึกถึงพลังจากการปะทะ แมนิสันก็แปลกใจ
เขาจำได้ชัดว่าครั้งก่อนที่เขาสู้กับแบล็คสตาร์ พลังเทพจักรกลของแบล็คสตาร์ในสภาวะปกติไม่สามารถสู้กับเขาได้เลย จากประสบการณ์ในอดีต ถ้าแบล็คสตาร์ไม่ใช้ความสามารถระเบิดพลัง เขาควรบดขยี้อีกฝ่ายได้ง่ายๆ แต่ทว่า ตอนนี้พวกเขากลับสูสีกัน!
สิ่งที่แมนิสันตกใจสุดคือจำนวนอาวุธอัครฑูตของหานเซี่ยวที่เพิ่มขึ้นเกือบสองเท่า นี่ไม่ใช่สิ่งที่สภาวะระเบิดสามารถนำมาได้ มันคือการแสดงความสามารถพื้นฐาน!
ไอบ้านี่ฝึกอย่างไร?
แมนิสันรู้ว่าแบ็คสตาร์เติบโตเร็วมาก แต่เขาก็ยังไม่เข้าใจ
ตั้งแต่เด็ก เขาคืออัจฉริยะในสายตาคนรอบตัว เขาเป็นดาวเด่นของเผ่าพันธ์ุเขา เขาเรียนรู้ทุกอย่างได้เร็วกว่าคนอื่นมากและไม่มีใครสามารถตามเขาทัน เขาเหนือกว่าทุกคนที่พยายามไล่ตามเขา เขาไม่เคยพบอัจฉริยะช่างกลคนใดที่แข่งขันกับเขาได้
แต่ทว่า นี่เปลี่ยนไปเมื่อเขาพบกับแบล็คสตาร์ มันเป็นครั้งแรกที่แมนิสันพบว่าเขาไม่ใช่อัจฉริยะอีกต่อไป
แบล็คสตาร์ดูเหมือนจะสามารถทำสิ่งที่เขาไม่สามารถทำได้ และนี่ก็สร้างอารมณ์ที่เขาไม่เคยรู้สึกมาก่อนในชีวิต มันขมและเปรี้ยว
นี่คือสิ่งที่คนทั่วไปเรียกว่าอิจฉา?
เดี๋ยว ทำไมฉันถึงคิดเรื่องนี้?
แมนิสันตกใจ จู่ๆมันก็เกิดโดยที่เขาไม่รู้ตัว แบล็คสตาร์ได้สั่นคลอนความมั่นใจที่เขาสร้างมาหลายปี
ดวงตาของเขาแน่วแน่ เขาระงับอารมณ์นี้ ตัดสิ่งรบกวนทั้งหมดและตั้งสติ จดจ่อกับการต่อสู้
ครั้งนี้ หานเซี่ยวพลันเหวี่ยงคมดาบไปด้านหลัง เหมือนสายธนูที่ถูกดึงให้ตึง พลังมหาศาลไหลจากข้อต่อของไขกระดูกสันหลังไปยังแขน
อุปกรณ์ลอยฟ้าแปลกๆโผล่ออกจากผิวเทพจักรกล วนเวียนรอบคมดาบเชื่อมต่อกันและสร้างเป็นรูปแบบซับซ้อนที่เปล่งแสงพลังงานไซโอนิค ปลดปล่อยพลังงานพร้อมกันไปยังคมดาบแห่งการลงทัณฑ์
แสงสีฟ้าโปร่งใสพลันปรากฏบนคมดาบเหมือนถูกเคลือบด้วยฟอง
เมื่อแมนิสันกำลังจะยกตรีศูลขึ้นป้องกัน เสียงตะโกนแสบแก้วหูของแบล็คสตาร์ก็ดังขึ้น
“หมัดอัดกระแทกเกตตะ อากาศสั่นสะเทือน!”
วินาทีต่อมา คมดาบก็ฟันลง!
พลังของการโจมตีนี้เหนือกว่าเดิมมาก!
แมนิสันสัมผัสได้เช่นกัน เขารีบยกตรีศูลขึ้นป้องกัน
ตูม!
เหมือนภูเขาสองลูกปะทะกัน แสงสีฟ้าบนคมดาบยิงออกมา ระเบิดหน้าอกของแมนิสัน คลื่นกระแทกรุนแรงดังก้องภายในเทพจักรกลของเขา รอยแตกขนาดใหญ่ปรากฏบนผิว และแผ่นเกราะก็แตกเป็นเสี่ยงๆ
กระแสพลังงานของแมนิสันปั่นป่วนไปชั่วขณะ เขารีบปรับสมดุล ดูดทหารจักรกลใกล้ๆเพื่อซ่อมแซมควาามเสียหาย
การโจมตีนี้ทรงพลังมาก เขาจำได้ว่าแบล็คสตาร์ไม่เคยใช้ท่านี้มาก่อน มันดูเหมือนจะเป็นสมบัติจักรวาลใหม่
แต่ทว่า สิ่งที่เขาหงุดหงิดสุดไม่ใช่ความจริงที่โดนบังคับให้ถอย แต่เป็นเพราะเขาตกใจกับเสียงตะโกนของแบล็คสตาร์
แกจะตะโกนหาพระแสงอะไรตอนสู้?
และแกยังส่งข้อความเสียงส่วนตัวหาฉัน แกทำไปเพื่ออะไร?
แกคิดว่าแกเป็นนักสู้หรือยังไง?
แมนิสันหงุดหงิดมาก
ด้วยสถานการณ์ปัจจุบัน พวกเขาสองคนไม่สามารถกำหนดผู้แพ้ชนะได้ในเวลาอันสั้น ซึ่งหมายความว่าจักรพรรดินีมังกรกับคนอื่นสามารถใช้เวลาหาแฝดสลับวิญญาณได้ ถ้าเขาได้รับแฝดสลับวิญญาณ ก็จะไม่มีประเด็นอะไรให้ต้องสู้กันอีก..ดูเหมือนฉันจะต้องใช้ไพ่ตาย
ดวงตาของแมนิสันเป็นประกาย
“เป็นการโจมตีที่รุนแรงมาก!’
ที่ขอบสนามรบ ผู้ดูแลดาวและกองยานป้องกันมองการต่อสู้ด้วยความระมัดระวัง
แม้พวกเขาจะรู้ว่าผู้อยู่เหนือทรงพลัง แต่การดูด้วยตาตัวเองก็ไม่ใช่สิ่งที่ภาพถ่ายสามารถเทียบได้
“โชคดี เราไม่ได้สู้กับจักรพรรดิจักรกลก่อนแบล็คสตาร์จะมา ไม่งั้นเราคงโดนกวาดล้างไปแล้ว”
ผู้ดูแลดาวรู้สึกว่าการตัดสินใจของเขาฉลาดมาก
เขาหันไปมองเอเมสกับฮีล่า ผู้กำลังค้นหาดาวและสับสน
“แบล็คสตาร์กับจักรพรรดิจักรกลดูเหมือนจะมีเป้าหมายเดียวกัน พวกเขากำลังมองหาอะไร?”
ในเวลาเดียวกัน บนผิวดาว คนนับไม่ถ้วนแหงนมองการต่อสู้ด้วยความตื่นตาตื่นใจ
สองเทพจักรกลสู้กันเต็มกำลังในอวกาศ แสงสว่างในจักรวาลมืดทำให้ทุกอย่างดูชัดเจนจากผิวดาว
“พี่…ระ-เราควรทำยังไงกันดี?”
เมื่อเห็นพลังทำลายล้างแบบนี้ จิลกับวอร์เร็นก็ตกตะลึง ความกลัวเริ่มปกคลุมหัวใจพวกเขา
ตอนนี้ทั้งคู่ถึงตระหนักว่าตัวเองน่าหัวเราะแค่ไหนที่คิดว่าสามารถเล่นงานแบล็คสตาร์ได้
คนที่แข็งแกร่งแบบนั้นคงลบเราเป็นฝุ่นได้ด้วยแค่การหายใจ แต่เรายังวางแผนยึดร่างเขา?
นี่ไม่ต่างอะไรกับการฆ่าตัวตาย!
ทั้งสองคือพวกเดียวที่สามารถใช้ตัวสลับวิญญาณได้ และพวกเขาก็มักเชื่อว่าพวกเขาคือผู้ถูกเลือก ดังนั้น พวกเขาจึงมั่นใจแบบผิดๆ
แต่ทว่า เมื่อพวกเขาได้เห็นการต่อสู้ระหว่างสองผู้อยู่เหนือระดับสูงสุด พวกเขาก็ตระหนักว่าตัวเองอวดดีแค่ไหน!มันไม่น่าแปลกใจเลย พวกเขาถูกขังโดยอารยธรรมโมโดมานานมากและข้อมูลที่พวกเขาได้รับเกี่ยวกับโลกภายนอกก็น้อย
“ขณะที่ความสนใจพวกเขาโดนเบี่ยงเบน เราต้องคิดหาทางหนี ดูเหมือนว่าพวกเขากำลังตามหาเราจริงๆ”
เมื่อเห็นแบล็คสตาร์ปรากฏตัวด้วย จิลก็รู้ว่ามันไม่ปกติแล้ว
ต้องออกวงแหวนดาวกระจายเดี๋ยวนี้!ไปให้ไกลที่สุด และไม่กลับมาอีกจนกว่าเราจะเป็นผู้อยู่เหนือ!
ในเวลาเดียวกัน เอเมสกับฮีล่ากำลังบินในชั้นบรรยากาศ ฮีล่าปลดปล่อยสัมผัสวิญญาณและตรวจคนบนผิวดาว ขณะค้นหา ทั้งสองมักเหลือบมองสนามรบในอวกาศ
“ดูเหมือนพวกเขาจะสูสีกันอยู่ เราไม่ต้องกังวล แบล็คสตาร์จะไม่เป็นไร”ฮีล่าพูดเสียงเบา
เมื่อเห็นว่าการต่อสู้ระหว่างแบล็คสตาร์กับจักรพรรดิจักรกลรุนแรงแค่ไหน เธอก็รู้สึกคันไม้คันมือ นับตั้งแต่เธอเข้ามิติโลกใต้พิภพ เธอก็ไม่เคยสู้กับใครเต็มกำลังเลยยกเว้นแบล็คสตาร์
แต่ทว่า เมื่อคิดถึงการต่อสู้ 30 ครั้งที่หานเซี่ยวรับปาก เธอก็ระงับความปรารถนานั้นไว้
เอเมสส่ายหัว”รีบหาเป้าหมายกัน ยิ่งเราหาได้เร็ว เราก็จะจากไปได้เร็ว เขาจะได้ไม่ต้องเสี่ยงสู้กับจักรพรรดิจักรกล”
เมื่อเห็นการต่อสู้ เธอก็ยอมรับว่าเธอช่วยเหลืออะไรไม่ได้มากจริงๆ
ย้อนกลับไปตอนเธอสู้กับแบล็คสตาร์ เธอได้ยอมรับความจริงที่แบล็คสตาร์เหนือกว่าเธอ ดังนั้นเธอจึงไม่รู้สึกท้อแท้อะไร
แต่ทว่า วินาทีถัดมา สีหน้าของทั้งคู่ก็เปลี่ยนไป พวกเธอรีบหันไปมองสนามรบ
ในชั่วพริบตา ทั้งสองสัมผัสได้ถึงแหล่งพลังงานผู้อยู่เหนือใหม่ที่บินออกจากกล่องกองทัพมิติที่สองของจักรพรรดิจักรกล!
พวกมันไม่ใช่ปฏิกิริยาพลังงานของอาวุธอัครฑูต แต่เป็นผู้อยู่เหนือ!
“จักรพรรดิจักรกลมีผู้ช่วย?”
ฮีล่าหยุดกลางอากาศ
“เราต้องกลับไปช่วย!เราไม่สามารถดูผู้บัญชาการกองทัพโดนล้อมได้!”