The Legendary Mechanic - ตอนที่ 1200 ปัญหา
ดวงตาหานเซี่ยวเป็นประกาย
แม้มิติที่สองนี้อาจเป็นแค่ภาพหลอนของโลกจริง นี่ก็เป็นขุมทรัพย์สำหรับหานเซี่ยว ไม่เพียงเขาจะได้รับความสามารถสายอาชีพใหม่ เขายังได้รับเทคโนโลยีขั้นสูงมากขึ้นที่แตกต่างจากจักรวาลสำรวจ สำหรับช่างกล นี่คือแจ็คพอต!
เดิมหานเซี่ยววางแผนได้รับทักษะบางอย่างก่อนกลับ ด้วยอาจารย์ที่เต็มใจให้ความรู้ ประสิทธิภาพจึงดีกว่าการพยายามเอง
นอกจากนี้ ชายลึกลับยังผ่านวัฏจักรมาหลายรอบ ต่อให้สภาพร่างกายจะโดนรีเซ็ตตลอดเวลา ทำให้การฝึกเปล่าประโยชน์ ความทรงจำของเขาก็ยังอยู่ นี่หมายความว่าเทคโนโลยีทั้งหมดที่เขาเรียนรู้จะอยู่ในหัวเขาตลอด ด้วยภูมิหลังน่ากลัวเช่นนี้ มันจึงเป็นเรื่องดี
ด้านข้าง คาซูยิจ้องด้วยตาเบิกกว้าง แล้วฉันล่ะ?
ชายลึกลับเหลือบมองเขาก่อนส่ายหัว นายไม่ใช่ช่างกล ไม่มีอะไรที่ฉันสามารถสอนนายได้
เห้ย นั่นไม่ดีเลยนะ! คาซูยิเสียใจ
มันเห็นได้ชัดว่าฉันมาก่อน ไม่ว่าจะเป็นการจำกลุ่มหรือนำทาง แต่ผลประโยชน์ทั้งหมดกลับตกแทบเท้าแบล็คสตาร์แทน ทำไมกัน?
ชายลึกลับคิดถึงมันก่อนพูดอีกครั้ง ถ้านายอยากได้ข้อมูลทางเทคนิค มันก็ไม่ใช่ว่าไม่มีทาง เมื่อวัฏจักรโดนทำลาย ทุกอย่างที่นี่จะหายไปและนั่นรวมถึงวัตถุทุกชนิดด้วย มีแค่ข้อมูลถึงเก็บได้ ตามหลักการของรูปแบบข้อมูล ข้อมูลที่โดนเปลี่ยนด้วยคนนอกสามารถเก็บรักษาไว้ได้ เนื่องจากนายไม่สามารถเรียนความรู้ นายก็สามารถใช้เครื่องบันทึกจากด้านนอกมาเก็บข้อมูลนี้ได้…
เมื่อได้ยิน สีหน้าของคาซูยิก็ดีขึ้นมาก ต่อให้เขาไม่ใช่ช่างกล เขาก็เข้าใจคุณค่าของเทคโนโลยีนี้ เขาสามารถส่งมันให้ลูกน้องเขาเพื่อหนุนองค์กรเขาหรือแม้แต่แลกมันกับศาสนจักรอาร์เคน
ตอนนี้ ดวงตาของหานเซี่ยวหรี่ตา อย่าลืมว่าเป้าหมายนายคือการเปลี่ยนแปลงลักษณะแห่งเทพ นายไม่ควรมายุ่งกับเรื่องเล็กน้อยนี่ ปล่อยเรื่องนี้ให้เป็นหน้าที่ฉันแทน ถ้าฉันไม่ก้าวลงนรก ใครจะทำ?
นายกำลังแสดงความหน้าด้านอีกแล้ว สีหน้าคาซูยิเปลี่ยนไป นายอยากเขมือบทุกอย่างไว้คนเดียวเลยงั้นเหรอ?
หานเซี่ยวตวัดตามองคาซูยิ เมื่อนายมาหาฉันเพื่อจับกลุ่ม นายบอกว่านายเป็นหนี้ฉันครั้งหนึ่ง ฉันยังไม่ได้ขอนายเลย การผูกขาดสิ่งนี้ถือเป็นค่าตอบแทนฉันแล้ว แถม นายไม่ใช่ช่างกล ทำไมนายต้องการเทคโนโลยีนี้? อย่างมาก เมื่อเราออกไป ฉันจะให้เงินปันผลในรูปแบบอื่นกับนาย นายจะว่าอะไรไหม?
ว่าสิฟะ! นี่คือนี่ นั่นคือนั่น เทคโนโลยีไม่ได้อยู่ภายในขอบเขตข้อตกลงของเรา
คาซูยิไม่ยอมแพ้
หานเซี่ยวลูบคาง พูดอย่างมีความหมาย นายแน่ใจนะว่าอยากสู้? อย่าลืม นายอยู่ในร่างจริงนะ..
เมื่อได้ยิน สีหน้าของคาซูยิก็เปลี่ยนไป
และนอกจากนี้…ถ้าแผนทำลายวัฏจักรล้มเหลว นายจะวางแผนออกไปยังไง? หานเซี่ยวหัวเราะ
คาซูยิพูดไม่ออกและทำได้แค่โบกมือ ได้ ฉันยอม ฉันไม่อยากได้มันแล้ว
แม้เขาจะอยากได้มัน แต่เทียบกันแล้ว ชีวิตของเขาสำคัญกว่า เนื่องจากเขามาด้วยร่างจริง ถ้าเขาสู้กับแบล็คสตาร์ ทางหนีของเขาคงโดนปิด เขาคิดถึงมันก่อนตระหนักว่าเขาต้องประนีประนอม
อย่างไรก็ตาม แม้คาซูยิจะยอมแพ้ต่อเทคโนโลยีนี้ เขาก็ไม่ตั้งใจปล่อยเรื่องอื่น เขามองชายลึกลับ คู่หูของฉันมีอุปกรณ์พิเศษที่สามารถช่วยให้เขาเคลื่อนย้ายออกไปได้โดยไม่มีข้อยับยั้ง งานนี้ในมิติที่สองยาก ถ้านายไม่หยุดเขา เขาก็สามารถไปได้ตลอดเวลา ฉันเสนอให้นายสอนเทคโนโลยีนี้กับเขาแค่ส่วนหนึ่งและให้ส่วนที่เหลือเมื่อเขาทำภารกิจสำเร็จ
โอ้? มีของแบบนั้นด้วย? ชายลึกลับหันไปมองหานเซี่ยว
หานเซี่ยวเหลือบมองคาซูยิ ขณะพยักหน้า ใช่ ฉันมีความสามารถแบบนั้น และฉันก็เห็นด้วย
แน่นอน เขารู้ว่าคาซูยิกำลังคิดอะไร เขากังวลว่าหานเซี่ยวจะหลบหนีเมื่อได้รับข้อมูลทั้งหมด
หานเซี่ยวไม่คิดว่าที่คาซูยิทำมีปัญหาอะไร ถ้ามันเป็นเขา เขาก็คงทำเหมือนกัน
ทั้งสองเป็นแค่เพื่อนร่วมทีมกันชั่วคราว แม้พวกเขาจะเป็นมิตรกัน แต่ต่อหน้าผลประโยชน์ ควาามสัมพันธ์ของพวกเขาไม่พอจะนำมาซึ่งความไว้วางใจกัน คนที่ระดับพวกเขาจะไม่ฝากความหวังไว้กับคนอื่นง่ายๆ
ที่อาณาจักรพวกเขา ตราบเท่าที่พวกเขาไม่ใช้ญาติสนิทหรือเพื่อน ไม่มีใครจะยอมใครง่ายๆ ต่อหน้าผลประโยชน์
แม้หานเซี่ยวจะตกใจที่ได้รู้ความลับของจักรวาล เขาก็ไม่เปลี่ยนพฤติกรรมและจุดประสงค์ในการมาเพราะสิ่งนั้น เหนือสิ่งอื่นใด การวนซ้ำจักรวาลพวกเขาอยู่ไกลเกินไปและต่อให้เขารู้ เขาก็ทำอะไรไม่ได้ สุดท้าย คนยังต้องมีชีวิตอยู่กับปัจจุบัน
ไม่ว่าจะสูงส่งแค่ไหน เมื่อมันเป็นปัญหาที่เกี่ยวกับผลประโยชน์ส่วนตัว คนเราต้องจัดการพวกมันจากมุมมองที่ใช้งานได้จริง มูลค่าของเทคโนโลยีดังกล่าวน่าทึ่ง ไม่มีเหตุผลให้หานเซี่ยวยอมให้คาซูยิแบ่งชิ้นเค้กไปง่ายๆ ไม่ว่าเขาจะทำงานร่วมกันเพื่ออารยธรรมขั้นสูงในอนาคตหรือไม่ เขาก็ต้องริเริ่มเพื่อให้ได้มาซึ่งผลประโยชน์ดังกล่าวก่อน
นั่นโดยเฉพาะตอนเขาเป็นช่างกล เขาตระหนักถึงความสำคัญของการไม่ให้เทคโนโลยีรั่วไหล เขาจึงไม่ลังเลที่จะคุกคามคาซูยิ…ถ้าอีกฝ่ายไม่ประนอม นับประสาอะไรกับแผนหลบหนีสำรอง เขาไม่ลังเลที่จะโจมตีทันที
สำหรับลูกไม้เล็กๆ น้อยๆ ของคาซูยิ หานเซี่ยวไม่สนใจ เขาไม่ตั้งใจจะแค่รับและไม่ให้ ด้วยเทคโนโลยีในมือ เขาจะบรรลุข้อตกลงเพื่อช่วยทำลายวัฏจักร เขายังมีศีลธรรมบ้างและต้องให้หลักประกันกับคาซูยิ
ด้วยวิธีดังกล่าว ถ้าสองฝ่ายประนอมกัน ความสัมพันธ์ก็ยังไปต่อได้
เนื่องจากพวกเขาเป็นคนมีสถานะ ทั้งคู่จึงเป็นพวกหัวรั้น การเจรจาต่อรองเพื่อผลประโยชน์เป็นเรื่องปกติ และต่อให้ขุ่นเคือง พวกเขาก็ไม่ละทิ้งการเสแสร้งทั้งหมด
ชายลึกลับดูลังเล แต่ในที่สุดก็พูด ในกรณีนั้น ฉันจะสอนส่วนหนึ่งของเทคโนโลยีให้ก่อน แต่ทว่า นายควรใช้ประโยชน์จากช่วงเวลานี้เพื่อร่างแผนการ นอกจากนี้ ทรัพยากรของเนตรเห็นแจ้งก็เปิดให้นายอย่างสมบูรณ์ นายสามารถขยายกองทัพจักรกลของนายได้ที่นี่..
เขาไม่สามารถระบุได้ว่าความสามารถเคลื่อนย้ายของหานเซี่ยวมีจริงหรือไม่ เนื่องจากเขาเป็นแค่รูปแบบข้อมูลในมิติที่สองนี้ ถ้าแบล็คสตาร์เคลื่อนย้ายเขาออกไป เขาจะตายทันทีและได้รับอิสรภาพ
แต่ทว่า เขารู้ว่าข้อเสนอนี้เท่ากับการละทิ้งคาซูยิ อีกฝ่ายย่อมไม่มีทางเห็นด้วย ดังนั้นพวกเขาจึงต้องแลกเปลี่ยนกันแบบส่วนตัว แต่ทว่า เขาไม่รู้ว่าแบล็คสตาร์จะเต็มใจฆ่าพยานไหม
จริงๆ แล้วเขาอยากให้แบล็คสตาร์ใช้ความสามารถเคลื่อนย้ายเพื่อนำกำลังเสริมมา นั่นจะเป็น ประโยชน์ต่อเขามากสุด แต่ไม่มีใครเห็นด้วยกับข้อเสนอนี้เช่นกัน ถ้าแบล็คสตาร์อยากออกไป คาซูยิย่อมคัดค้านอย่างรุนแรง แบล็คสตาร์เองก็ไม่เห็นด้วยกับการผูกขาดเทคโนโลยี ทั้งสามฝ่ายมีจุดยืนของตน มันจึงยากที่จะบรรลุข้อตกลง ผลลัพธ์สุดท้ายก็คือการประนีประนอม
ชายลึกลับเข้าใจความกังวลของทุกคนและรู้ว่าพฤติกรรมพวกเขาจะไม่เปลี่ยนถ้าพวกเขาเชื่อในความลับที่เขาเผย ดังนั้น เขาจึงไม่ตั้งใจเบี่ยงไปจากแผนเดิม
หลังพูดไปมาก นายก็ยังไม่บอกชื่อ คาซูยิพูด
นายสามารถเรียกฉันว่าเจซก็ได้
แล้วทำไมนายถึงเก็บความทรงจำไว้ได้ละ?
ฉันเองก้ไม่รู้ ฉันไม่ได้เป็นแบบนี้ตอนแรกและเพิ่งตื่นประมาณวัฏจักรพันรอบที่แล้ว ก่อนหน้านี้ ฉันก็เหมือนกับทุกคน
ตอนนี้เอง การแจ้งเตือนผุดขึ้นบนหน้าต่างสถานะของหานเซี่ยว
ภารกิจต่อเนื่องแรกของ (ข้ามการวนลูป) สำเร็จ! ท่านได้รับค่าประสบการณ์พันล้าน
ภารกิจต่อเนื่องสองเปิด!
ข้อกำหนดภารกิจ : ทำลายจิตสำนึกมิติ ทำลายลูปเวลา ทำให้เจซโล่งใจ รับมรดกของเขา
รางวัลภารกิจ : ค่าประสบการณ์ 1.5 พันล้าน 1 รางวัลสุ่ม 1 บัตรอัญเชิญตัวละคร และปลดล็อกภารกิจต่อไป
หานเซี่ยวตรวจดูและพยักหน้า
ภารกิจต่อเนื่องสองเริ่ม และรางวัลก็สูงขึ้น…แต่ทว่า เทคโนโลยีจากเจซคือรางวัลที่ยิ่งใหญ่สุด ฉันประเมินว่าฉันคงต้องอยู่ในนี้นานกว่าที่คิด…
ด้วยความคิด หานเซี่ยวจึงเปิดฟอรั่มเพื่อดู โปรลีกสี่กำลังจะเริ่ม และมันดูเหมือนว่าเขาจะไม่มีเวลาให้ความสนใจ
หลังตกลงกันได้ หานเซี่ยวก็ไม่กังวลถึงการแสดงความสุภาพ ขอให้เจซสอนทักษะสายช่างกลที่เขาไม่มี เจซ (ระดับ367) ได้ส่งต่อทักษะ (พลังจักรกล-รังทหาร) : ความคืบหน้าปัจจุบัน : 0.0001%
เจซ (ระดับ367) ได้ส่งต่อทักษะ (นวัตกรรมบอลบีบอัด-กายอาวุธ) ความคืบหน้าปัจจุบัน : 0.0001%
เจซ…
เมื่อเห็นการแจ้งเตือนจำนวนมาก หานเซี่ยวก็ดีใจ
..
ในจักรวาลสำรวจ ที่ไหนสักแห่งในแม่น้ำดวงดาวแรกเริ่ม…
ในที่สุดก็สำเร็จ!
ในโรงงานจักรกลลับ แมนิสันจ้องมองกลุ่มข้อมูลเสมือนด้านหน้า ไม่สามารถปิดบังรอยยิ้มพึงพอใจได้
นับตั้งแต่ไวรัสกบฏเสมือนจบ แมนิสันก็ใช้เวลาส่วนใหญ่ในโรงงาน พยายามเลียนแบบไวรัสกบฏเสมือน หลังต่อสู้กับความกล้ามานาน ในที่สุดเขาก็คืบหน้า สร้างไวรัสต้นแบบ แม้จะมีหลายคุณสมบัติที่ยังหายไปและมันก็อ่อนแอกว่าเวอร์ชั่นเดิม แมนิสันก็เชื่อว่าสิ่งนี้แสดงให้เห็นถึงทิศทางที่ถูกต้อง ตราบเท่าที่เขาเอาชนะปัญหาทางเทคนิคทั้งหมดได้ เขาก็จะสร้างไวรัสกบฏเสมือนที่สมบูรณ์แบบขึ้นมาได้
แบล็คสตาร์ แกทำลายแกนไวรัสนี้ คิดว่ามันทำลายแผนฉันได้ แต่แกคงไม่คิดว่าฉันจะสามารถรื้อฟื้นเทคโนโลยีนี้ได้! ฮี่ๆ ในแง่การวิจัยและพัฒนา แกยังอ่อนหัด!
มุมปากของแมนิสันยกขึ้นและหายไป
เขาทุ่มสมาธิรวบรวมรูปแบบตัวอ่อนของไวรัสอย่างระมัดระวัง ทำการเข้ารหัสหลายครั้งสำหรับข้อมูลการทดลองก่อนตัดสินใจเก็บเทคโนโลยีนี้ไว้เป็นไพ่ตาย แต่ทว่า เขาพลันนึกถึงวิธีการแปลกๆ ที่แบล็คสตาร์ใช้ฉกเฟลอนทั้งสองของเขาไปและหรี่ตาลง
เทคโนโลยีปัจจุบันของฉันยังไม่พอ ฉันต้องหาทางเจาะเทคโนโลยีแปลกๆ ที่แบล็คสตาร์มี..
แมนิสันเปิดตารางวิจัยและหลังตรวจดู เขาก็ลบโครงการไม่สำคัญออกไปก่อนเพิ่มเป้าหมายวิจัยใหม่
หลังเสร็จงาน แมนิสันก็นำอุปกรณ์สื่อสารออกมา และหลังตรวจสอบวันที่ เขาก็ประกาศเวลาการประชุมต่อไปในกลุ่มสนทนาของผู้อยู่เหนือ
พูดถึงเรื่องนี้ แบล็คสตาร์กับคาซูยิไม่ได้เข้าร่วมการประชุมมาสองครั้งแล้ว หรือว่าพวกเขาติดต่อกัน ฉันไม่แน่ใจว่าพวกเขาไปไหน…
การประชุมทุกครั้ง แบล็คสตาร์จะสร้างปัญหาให้เขา โดยปราศจากเสียงน่ารำคาญของแบล็คสตาร์ในการประชุมสองครั้งก่อน แมนิสันรู้สึกว่าร่างกายของเขาผ่อนคลายมาก พบความสงบอีกครั้ง
นอกจากนี้ โดยปราศจากแบล็คสตาร์ชักนำ คนอื่นจึงปกป้องตัวเองกันหมด ไม่มีใครกระโดดมาสร้างปัญหา การประชุมสองครั้งที่ผ่านมาราบรื่น แมนิสันรู้สึกมีความสุขอีกครั้งที่ได้ดำรงตำแหน่งผู้มีอำนาจสูงสุด
แม้เขาจะไม่รู้ว่าแบล็คสตาร์กำลังทำอะไร แมนิสันก็อยากให้แบล็คสตาร์ชะลอการกลับมา กล่าวอีกนัยหนึ่ง…
แค่อย่ากลับมาก็พอ!