The Legendary Mechanic - ตอนที่ 1204 ผู้สืบทอด
ผู้อยู่เหนือกว่าสิบหยุดกลางอากาศ ฉากนี้น่าตื่นตาตื่นใจมาก แต่หานเซี่ยวกับคาซูยิไม่มีเวลามาชื่นชม ทั้งคู่ต้องจัดการกับผู้พิทักษ์
ผลของการแทรกแซงมิติเวลามีจำกัด ตอนนี้มันเป็นเวลาที่พวกเขาต้องระเบิดพลัง ถ้าผู้พิทักษ์ไม่ตายก่อนผลของอุปกรณ์แทรกแซงหมด งั้นหานเซี่ยวก็ไม่มีทางเลือกนอกจากใช้ชุดราชาหลบหนีไปพร้อมกับอีกสอง
ยิ่งคนนอกตายในนี้มาก ร่างแยกของผู้พิทักษ์ยิ่งมาก ตอนนี้ พวกเขาคือกลุ่มสี่ และความยากก็น่ากลัวอยู่แล้ว ร่างจริงกับร่างแยกไม่ได้รับผล ยังเคลื่อนไหวได้อย่างอิสระ ต่อให้คาซูยิจะคอยช่วย เขาก็มีพลังงานจำกัดและไม่สามารถจัดการกับทุกอย่างได้ บางครั้ง การโจมตีของร่างแยกยังผ่านการป้องกันของเขา โดนตัวเทพจักรกลของหานเซี่ยว เพื่อสร้างความเสียหายให้มากสุด หานเซี่ยวไม่หลบการโจมตีใด แต่กลับรับทั้งหมดโดยไม่ป้องกัน นี่เป็นการแลกความเสียหาย ด้วยความอึดของเขา การโจมตีที่โดนตัวเขาเป็นครั้งคราวจึงไม่สร้างภัยคุกคามนัก แต่ยังเร่งความเร็วการซ้อนทับโบนัสสถานะชั่วคราว ทำให้ความเสียหายของเขาสูงขึ้น
ตอนนี้ เขาไม่เก็บออมไรไว้ ระเบิดความสามารถทั้งหมด และยังใช้กองทัพกับเทพจักรกลระดมจู่โจม ความสามารถปลดขีดจำกัดทั้งหมดทำงาน ความเสียหายจริงของ [เทคนิคต่อสู้ในตำนาน] ถูกกระตุ้น และ [การล้างแค้นของความเจ็บปวด’ก็ช่วยให้เขาใช้พลังโจมตีรุนแรง ซึ่งสามารถทำให้ความเสียหายประชิดเขาเพิ่มขึ้น 1.5% ต่อพลังชีวิตที่ลดลง 3%
ความสามารถนี้มาจากผู้นำดาราทมิฬ ตอนแรกที่เขาได้รับมัน เขาเป็นแค่ภัยพิบัติพลังชีวิตกว่าแสน แต่ตอนนี้เขาเป็นผู้อยู่เหนือที่มีค่าพลังชีวิตกว่า 40 ล้าน และแม้กระทั่ง1.5%ของพลังชีวิตทั้งหมดที่เปลี่ยนเป็นความเสียหายเพิ่มเติมก็อยู่ที่ประมาณหกแสน!
นอกจากนี้ เพื่อฟื้นพลังงานของเขาต่อไป หานเซี่ยวได้ควบคุมอาวุธเขาภายในเทพจักรกลเพื่อยิงใส่ตัวเขา ดังนั้นพลังชีวิตของเขาจึงลดลงและเพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่อง กระตุ้นทักษะ [การล้างแค้นของความเจ็บปวด) ซ้ำแล้วซ้ำเล่า …ต่อให้ความเสียหายธรรมดาก็สามารถป้องกันหรือลดลงได้ พลังการโจมตีทุกครั้งของเขาเกินกว่าที่ผู้อยู่เหนือธรรมดาจะทำได้
ควบคู่ไปกับโบนัสของเขาจากผู้ศรัทธาจักรกล การเปลี่ยนแปลงลักษณะแห่งเทพ ระดับสิบ (ใจไร้ความกลัว) กับ (กระแสพลังงานสุดขั้ว เลือดเดือด) กับอุปกรณ์สีทองทั้งหมดของเขา แม้กระทั่งหานเซี่ยวก็ไม่รู้ว่าตอนนี้ความเสียหายที่เขาสร้างได้น่ากลัวขนาดไหนตอนเขาทุ่มสุดตัว
เขาเห็นแค่ว่าภายใต้พลังยิงหนาแน่น ม่านพลังงานที่ผู้พิทักษ์ะเรียกมาระเบิดทันทีที่มันปรากฏ และค่าพลังชีวิตมันก็ลดด้วยความเร็วสูง มันอาจเป็นจิตสำนึกมิติพลังงานไร้สิ้นสุด แต่ความแข็งแกร่งร่างกายของมันก็จำกัดการส่งออกพลังงาน ความเร็วที่มันเติมพลังงานให้ม่านพลังมันไม่สามารถตามความเร็วการทำลายล้างของหานเซี่ยวได้ทัน
ถ้ามันเป็นสิ่งมีชีวิตที่มีสติสัมปชัญญะก็จะเข้าใจว่ามันไม่ใช่คู่ต่อสู้ของหานเซี่ยว แต่ทว่า ผู้พิทักษ์ไม่มีอารมณ์และทำได้แค่ลงมือตามขั้นตอนที่กำหนดไว้ล่วงหน้า ไม่สามารถฝ่าฝืนกลไกของมันได้
จุดแข็งของผู้พิทักษ์คือความยืดหยุ่น ภายในอาณาเขตมัน พรสวรรค์เผ่าของหานเซี่ยวโดนผนึก เขาไม่สามารถใช้ทักษะเผ่ามิติได้เลย ทำให้เขาไม่สามารถไล่ตามความเร็วของผู้พิทักษ์ได้ แม้กองทัพจักรกลของเขาจะทรงพลัง แม้กองทัพจักรกลของเขาจะทรงพลัง การโจมตีระยะไกลส่วนใหญ่ก็ถูกเลี่ยงด้วยผู้พิทักษ์
ความเสียหายจำนวนมากสูญเปล่า มันมีลักษณะเฉพาะของสิ่งมีชีวิตพลังงาน พลังชีวิตมันฟื้นคืนได้เร็ว ถ้าเป็นแบบนี้ อัตราสำเร็จในการทำลายมันก่อนอุปกรณ์แทรกแซงจะหมดคงเป็นประมาณ 40% ซึ่งต่ำไป..ปลดปล่อยยีนของฉันยังไม่ได้ใช้ แค่คูลดาวน์นาน ฉันจะใช้มันได้แค่ครั้งเดียว และต้องให้สำแดงผลสูงสุด.. หานเซี่ยวยังคงยิงขณะคิด
มันดูเหมือนเขาต้องใช้ทักษะประจำตัว..
เทพจักรกลพลันสลาย เปลี่ยนเป็นกองทัพจักรกลที่ปกคลุมฟ้า ตัวของหานเซี่ยวหลบหนี อ้าแขนเต็มที่เพื่ออวด’ร่างกายอ่อนแองของเขา ราวกับเขากำลังวางแผนหลอกล่ออีกฝ่าย
แน่นอน โดยไม่พูดอะไร ผู้พิทักษ์กระโจนเข้าไป ในรูปแบบตั้งต้น กลยุทธ์การต่อสู้กับช่างกลคือโจมตีใส่ตรงๆ ทันทีที่เปิดเผยตัว
หานเซี่ยวไม่หลบ แต่ต้อนรับและยอมให้ผู้พิทักษ์ทุบกล้ามเนื้อหน้าอกกำยำของเขา คลื่นกระแทกกระจายออกไป แต่หานเซี่ยวไม่สนใจพลังชีวิตที่เสียไป แขนของเขาโอบรัดเป้าหมายไว้แน่นและแสยะยิ้ม เจ้าหนู ยังกล้าวิ่งมาอีกไหม? มาหาพ่อมา
เขาไม่ได้ใช้ท่านี้มานาน เหตุผลหลักเพราะจักรวาลรู้ชื่อเสียงเขา จึงมีแค่คนโง่ที่ตอบสนองต่อการยั่วยุนี้ เฉพาะแค่คนที่ไม่รู้ถึงความสามารถเขา เขาถึงใช้วิชาประจำตัวได้..
โดยไม่ลังเล หานเซี่ยวกระตุ้น ปลดปล่อยยีน พร้อมกับสั่งกองทัพจักรกลเขา กินนี่ไปซะ! ฟ้า! ดิน! รวม! เป็นหนึ่ง!
บูม!
ในชั่วพริบตา ปืนใหญ่ไซโอนิคไร้สิ้นสุดก็กลืนกินทั้งสอง บอลแสงแพรวพราวขยายตัวออกไป บดบังสายตาทุกคน ช่างกลสามารถสู้แบบนี้ได้ด้วย? เจซ ผู้ไม่สามารถขยับจ้องฉากนั้น รู้สึกว่าความรู้ทั้งหมดของเขากว้างขึ้น เด็กสมัยนี้เล่นกันแบบนี้งั้นเหรอ? ด้านข้าง คาซูยิผู้กำลังสู้กับร่างแยกรู้สึกว่าตาขวากระตุก ความผันผวนพลังงานที่ส่งกลับทำให้หัวใจของเขาเต้นเร็วขึ้น เขารู้สึกได้ถึงภัยคุกคามรุนแรงต่อชีวิตเขา สมาชิกแผนกความมั่นคงกว่าสิบต่างมีสีหน้าเหลือเชื่อ
พวกเขาสงสัยว่าคนสองกลุ่มนี้มีความเกลียดชังกับแบบไหนถึงต่อสู้กันสุดตัวแบบนี้ ไม่ใช่ว่าอาชญากรทั้งสองนี้อยากโจมตีศูนย์ใหญ่เรา? ทำไมพวกมันถึงตั้งหน้าตั้งตาจัดการกับผู้ใช้พลังลึกลับกลุ่มนี้แทนที่จะลอบโจมตีเราขณะเราติดอยู่กับที่? เราดูเหมือนจะเป็นผู้ชมไปแล้ว…ด้วยความคิดนี้ที่ผุดในหัวทุกคน บอลแสงที่เกิดจากปฏิกิริยาพลังงานพลันระเบิด ส่งคลื่นพลังงานน่าสะพรึงกลัวออกไป
บูม!
เครื่องจักรกับผู้คนโดนพัดออกไป เผยให้เห็นพื้นที่ว่างขนาดใหญ่ เมื่อบอลแสงสลาย ทุกคนก็เห็นหานเซี่ยวกำลังลอยอยู่ที่ศูนย์กลางของระเบิด ปกคลุมด้วยเลือด
หานเซี่ยวไร้อารมณ์ และทำเหมือนมันเป็นเรื่องปกติ แต่ในความเป็นจริง เขากำลังหลั่งเหงื่อเย็นอยู่ในตัว บัดซบ เกือบไป การโจมตีของฉันกลับมาถึงระดับนี้แล้ว ฉันเกือบได้ไปเที่ยวสวรรค์…
เพราะค่าสัมประสิทธิ์แบบสุ่มของปลดปล่อยยีนที่เพิ่มสูงสุด 20% ความเสียหายที่กองทัพจักรกลระเบิดจึงทำให้เขาตกใจ ความผันผวนในพลังชีวิตแทบทำให้เขาหัวใจวายตายหลายครั้ง
ขนาดของกองทัพจักรกลที่ฉันควบคุมตอนนี้มากมหาศาล พลังโจมตีพวกมันจึงแตกต่างจากเดิม กลยุทธ์นี้ควรใช้อย่างระมัดระวังในอนาคต ไม่งั้นวันหนึ่งฉันอาจต้องพินาศไปพร้อมกับศัตรู…หานเซี่ยวลอบถอนหายใจ ด้วยเขาที่ตกอยู่ในอันตรายถึงตาย ผู้พิทักษ์ย่อมน่าเศร้ากว่า มันถูกฆ่าตายทันที จากการต่อสู้ มันไม่มีเวลาทิ้งคำพูดสักคำ..แม้มันจะไม่พูดอยู่แล้วก็ตาม นายฆ่ามันไปทั้งอย่างนั้น? คาซูยิเบิกตากว้าง
เขาคิดว่ามันเป็นการต่อสู้ที่โหดเหี้ยม แต่เขาไม่คิดว่าการโจมตีของแบล็คสตาร์จะรุนแรงขนาดนี้ ประสิทธิภาพดังกล่าวน่ากลัว แม้เขาจะไม่แสดงออกมาชัด แต่น้ำเสียงก็บอกมันหมด
-มันง่ายขนาดนี้เชียว? เมื่อได้ยินคาซูยิ หานเซี่ยวก็รู้ว่าเขากำลังคิดอะไรและตะคอก นายคิดว่ามันง่าย แต่นั่นเพราะฉันเก่งต่างหาก! ถ้ามันเป็นนาย เราคงได้แค่หนี ต่อให้มันจะเป็นผู้อยู่เหนือระดับสูงสุดคนอื่น นี่ก็คือสถานการณ์ที่ยากอย่างมาก ต้องมีคนผิดปกติอย่างเขาถึงจัดการกับภารกิจเช่นนี้ได้
การสื่อสารระหว่างทั้งคู่เกิดขึ้นชั่วพริบตา ตอนนี้ ปฏิกิริยาลูกโซ่ที่เกิดจากการทำลายล้างของจิตสำนึกมิติปรากฏ พวกเขาเห็นศพของผู้พิทักษ์สลายตัวเป็นอนุภาคคล้ายฝุ่น ด้วยมันเป็นศูนย์กลาง สัญญาณเดียวกันเกิดขึ้นกับรอบตัว ขยายออกไปทุกทิศทาง
ภาพหลอนรูปแบบข้อมูลกลายพันธุ์นี้ของวัฏจักรเวลาเหมือนกับเครื่องมือซับซ้อนซึ่งแทบจะไม่สามารถรักษาสมดุลได้ จิตสำนึกมิติเป็นองค์ประกอบหลักของเครื่องมือนี้ เช่นนั้นเมื่อแกนพบกับปัญหา เครื่องมือทั้งหมดจะหยุดทำงาน ข้อผิดพลาดนี้อาจส่งผลให้เกิดผลกระทบลูกโซ่
มีแค่คนนอกสองคน หานเซี่ยวกับคาซูยิ ร่วมกับวัตถุที่พวกเขานำมาถึงไร้ผล วัตถุอื่นที่เป็นของวัฏจักรเวลานี้จะเริ่มสลายตัว อย่างแรกคือกองทัพจักรกล รวมถึงร่างแยกผู้พิทักษ์
เพราะรากฐานของวัฏจักรเวลาได้รับการคลี่คลาย ผลของอุปกรณ์แทรกแซงจึงไม่ได้ผลตามธรรมชาติ เมื่อสมาชิกของแผนกความมั่นคงเห็นฉากนี้ พวกเขาต่างก็แปลกใจ เคลื่อนไหวโดยไม่รู้ตัวเพื่อทำการปิดล้อมต่อ แต่ทว่า หนึ่งในผู้กำกับที่อยู่ใกล้สุดกลับเริ่มสลายตัว ต่อหน้าต่อตาทุกคน เขาเปลี่ยนเป็นเถ้าถ่าน พลังระดับสูงสุดของเขาไม่มีทางต่อต้านสิ่งนี้ได้เลย เกิดอะไรขึ้น? พวกแกทำอะไรลงไป
หนีเร็ว! ฝูงชนตกใจจนไม่สนใจหน้าที่อีก แต่กลับเริ่มหนี
แต่ทว่า เจซกลับยืนนิ่ง ยิ้มให้หานเซี่ยว
หานเซี่ยวรู้สึกถึงแรงสั่นสะเทือนจากอุปกรณ์สื่อสารและมองดู ข้อมูลทางเทคนิคที่เหลืออยู่ถูกส่งมาโดยเจซ ข้อตกลงเป็นอันสิ้นสุด
นอกจากนี้ เจซยังทิ้งข้อความไว้ด้วย
แบล็คสตาร์ แผนรีเซ็ตโลกของเราไม่ได้ล้มเหลวซะโดยสิ้นเชิง อยา่งน้อยเราก็ทิ้งมรกตนี้ไว้เพื่ออนาคต
ฉันรู้ว่านายมักระแวงฉัน และฉันก็ยอมรับว่าฉันเห็นแก่ตัวจริง ฉันไม่ต้องการปิดบังมันจากนายอีก ฉันจะให้ความรู้ทั้งหมดของฉันกับนาย..
จำกลไกของวิหารที่ฉันบอกนายได้ไหม? การคืนชีพผู้อยู่เหนือต้องการสื่อด้วยข้อมูลเป้าหมาย…และนาย ผู้สืบทอดความรู้ฉัน สามารถใช้ฉันเป็นสื่อกลางได้แล้ว
หากวันหนึ่งเมื่อนายสามารถสื่อสารกับวิหารได้สำเร็จ โปรดลองคืนชีพฉันที ไม่ว่าจะสำเร็จหรือล้มเหลว มันก็จะเป็นข้อมูลล้ำค่าให้นาย แต่ทว่า ต่อให้การคืนชีพสำเร็จ ฉันก็จะไม่เก็บความทรงจำจากห้วงเวลานี้ไว้ มันจะเป็นฉันคนใหม่ นี่ควรเป็นครั้งสุดท้ายที่เราจะได้พบกัน แม้เวลาของเราจะสั้น ฉันก็ดีใจที่ได้พบนาย..ผู้สืบทอดของการวนซ้ำนี้
เมื่อแหงนมอง หานเซี่ยวก็เห็นเจซเผยรอยยิ้มขณะที่ทั้งตัวของเขาค่อยๆ สลายหายไป
ผู้สืบทอดงั้นเหรอ? ’