The Legendary Mechanic - ตอนที่ 1237 แผนใหญ่ของโซโรคิน
โดยปกติ กระบวนการปรับเปลี่ยนวัฒนธรรมจะกินเวลาสองถึงห้าชั่วอายุคน แต่ทว่า มันผ่านมาไม่ถึงสามสิบปีตั้งแต่เผ่าคุนเด้เริ่มรับการเปลี่ยนแปลงวัฒนธรรม มันยังเร็วเกินไปที่จะปล่อยพวกเขาออก จักรวรรดิคงมีเหตุผลบางอย่างที่ทำล่วงหน้า
หานเซี่ยวได้แต่เดาคร่าวๆ
แม้เผ่าคุนเด้จะแพ้ ประชากรที่เหลือนับพันล้านของพวกเขาก็ถือว่าเป็นกำลังคนจำนวนมาก ตอนนี้ที่พวกเขาปักหลักในอาณาเขตกองทัพแบล็คสตาร์ พวกเขาจึงถือเป็นของกองทัพ แถม แม้การเปลี่ยนแปลงวัฒนธรรมจะดำเนินไปแล้ว กองทัพแบล็คสตาร์กำลังส่งเสริมผลประโยชน์ของกองทัพ พยายามทำให้เผ่าคุนเด้ภักดีและปรารถนาจะเข้าร่วมกองทัพ
จักรวรรดิอาจทำแบบนี้เพื่อหยุดการโฆษณาของกองทัพแบล็คสตาร์ในเผ่าคุนเด้โดยเร็วเพื่อให้เผ่าคุนเด้ไม่กลายเป็นกองหนุนของกองทัพอย่างสมบูรณ์ ในเวลาเดียวกัน พวกเขาอยากทำให้สมาชิกเผ่าคุนเด้ที่ไม่เปลี่ยนแปลงอย่างสมบูรณ์สร้างปัญหากับกองทัพ
จิ๊ ลูกไม้ตื้นๆ..
หานเซี่ยวเม้มปาก
เขาเพิ่งพบมาร์บรูซไม่นานมานี้ และการตอบสนองก็มาอย่างรวดเร็ว นี่ได้รับการสนับสนุนโดยเบื้องบนจักรวรรดิ ทัศนคติที่เปลี่ยนไปของจักรวรรดิที่มีต่อเขาสามารถเห็นได้ชัดจากสิ่งนี้
หานเซี่ยวไม่สนใจมันเลยจริงๆ มันเป็นข่าวดีสำหรับเขา เขาไตร่ตรองสักพักและพูด ตอบกลับจักรวรรดิ เรายินดีต้อนรับการตรวจสอบ ให้คนจัดเตรียมเวลากับจักรวรรดิ เราจะจัดตั้งทีมตรวจสอบทางฝั่งเราและหใ้พวกเขาติดตามฑูตจักรวรรดิเพื่อดำเนินการตรวจสอบ
เข้าใจแล้วค่ะ ซิลเวียพยักหน้า อีกเรื่องกลุ่มการเงินไร้ขีดจำกัดเป็นหนี้กลุ่มการเงินต้นกำเนิดมาสามเดือนแล้ว ฉันบอกแผนกการเงินให้คุยกับพวกเขา แต่พวกเขาไม่ให้การตอบกลับ ท่านอยากถามพวกเขาเป็นการส่วนตัวไหม?
กลุ่มการเงินไร้ขีดจำกัดเป็นหนี้ฉัน?พวกเขามีปัญหาด้านการไหลเวียนของเงินทุนหรือไง?
เลพตัสให้คนตรวจสอบแล้ว ธุรกิจของกลุ่มการเงินไร้ขีดจำกัดมั่นคง พวกเขายังทำสถิติใหม่ในบางสาขา กระแสเงินทุนพวกเขามั่นคงมาก แต่พวกเขาไม่จ่ายเรา
มากแค่ไหน?
ทั้งหมด 43 โครงการ เป็นเงินทั้งสิ้น 482000 ล้านอีนาส ..
ก่อนซิลเวียจะพูดจบ ดวงตาของหานเซี่ยวก็เบิกกว้างและหยุดเธอ
โอ้ ไอสารเลวนี้กล้าไม่จ่ายเงิน ฉันจะคุยกับเขาเอง จากนั้นหานเซี่ยวก็โทรหาโซโรคิน
มันดังสักพักก่อนติด ภาพของโซโรคินปรากฏบนจอ
ท่านแบล็คสตาร์ ช่างเป็นอะไรที่หายาก ผมกำลังคิดอยู่เลยทำไมวันนี้ผมอารมณ์ดี มันกลายเป็นว่าผมมีแขกผู้ทรงเกียรตินี่เอง
ไม่มีอะไรมาก ฉันได้ยินว่านายเป็นหนี้ฉันก้อนโต ฉันจึงมาเร่งให้นายจ่าย
หานเซี่ยวเลิกคิ้ว
โซโรคินดูหนักใจ จากนั้นก็พูดด้วยน้ำเสียงจริงใจและช่วยไม่ได้ เห้อ การเงินเราไม่ค่อยดี เงินทุนหมุนเวียนเราตึงตัวมาก ท่านก็รู้ สำหรับคนที่มีธุรกิจใหญ่โตแบบเรา เราต้องใช้เงินนับพันล้านทุกวัน ตอนนี้ผมไม่มีเงินเลย
หยุดโกหกได้แล้ว แกคิดว่าแผนกการเงินฉันเป็นตัวตลกหรือไง?รายงานจากฝั่งเราระบุว่าแกทำเงินได้ดีมาก และแกยังบอกว่าแกไม่มีเงิน?
มันเป็นเพราะเรากำลังขยายธุรกิจเราเรากำลังขยายธุรกิจเรา เราต้องใช้เงินจำนวนมากเพื่อเปิดช่องทางใหม่ และมันต้องใช้เงินลงทุนจำนวนมาก ผมจึงไม่มีเงิน
ตอแหล อย่าโทษฉันที่ไม่เตือนแก ถ้าแกไม่จ่ายเงินตามข้อตกลง แกจะต้องชดใช้ จากนั้นอย่ามาเสียใจ…อีกเรื่อง ฉันได้ยินว่าพักนี้แกกำลังพยายามขโมยคนของเลพตัสด้วยเงินเดือนสูง นั่นจริงไหม?
ฮี่ๆ ผมเป็นนักธุรกิจ นี่เป็นการดำเนินงานปกติ
ทั้งสองโต้เถียงกันสักพักและโซโรคินก็ยังไม่บอกว่าจะจ่าย
เมื่อเห็นการตอบสนองไม่ปกติของโซโรคิน หานเซี่ยวก็มีการคาดเดาในหัว เขาพลันพูดขึ้นอย่างมีความหมาย ดูเหมือนนี่จะไม่ใช่เรื่องธุรกิจ มันดูเหมือนเรากำลังมีปัญหาบางอย่างในแง่ของจุดยืนเรา
เมื่อได้ยิน โซโรคินก็ยิ้ม ผมคิดว่าเราทำงานด้วยกันได้ดี แต่มันดูเหมือนจะผิด.. ทั้งคู่ใช้คำพูดคลุมเครือใส่กันเพราะไม่อยากทิ้งหลักฐาน แต่ก็เข้าใจกัน
นับตั้งแต่หานเซี่ยวรายงานเรื่องของโซโรคินต่อจักรวรรดิโดยใช้โอกาสตอนกอดด์หายไป โซโรคินก็โดนตรวจสอบและตกเป็นเป้าของจักรวรรดิทั้งในที่ลับและที่แจ้ง ตลอดสองปีที่ผ่านมา เขาต้องระวังตัว หวาดกลัวและกังวลตลอดเวลา
ตอนแรก โซโรคินคิดว่าจักรวรรดิแค่สอบสวนผู้ต้องสงสัยทั้งหมด เขาจึงปล่อยวาง แต่ทว่า การกระทำของจักรวรรดิเร็วๆนี้ก็ทำให้เขารู้สึกว่ามีบางอย่างไม่ถูกต้อง ผ่านสายสัมพันธ์ เขาถามไปทั่วและพบว่าแรงจูงใจของจักรวรรดิในการสอบสวนเขาเป็นเพราะพวกเขาสงสัยตัวตนของเขา
ปัจจุบัน แบล็คสตาร์เป็นคนเดียวในจักรวาลที่รู้ความลับของเขา เดิม กลุ่มการเงินไร้ขีดจำกัดจับมือกับแบล็คสตาร์เพื่อปิดปากเขา แต่ทว่า แบล็คสตาร์กลับเปิดเผยความลับของเขาต่อจักรวรรดิ นั่นจึงทำให้โซโรคินโกรธ
เนื่องจากโซโรคินโดนทรยศแล้ว เขาจึงไม่อยากให้กองทัพแบล็คสตาร์สูบเลือดจากกลุ่มการเงินไร้ขีดจำกัดอีก
ถ้าไม่มีอะไรแล้ว ผมก็ขอตัว ฮี่ๆ ผมยังมีเรื่องอื่นให้ต้องจัดการ
โซโรคินสวมรอยยิ้มจอมปลอมและวางสาย
หน้าจอดำ หานเซี่ยวเก็บอุปกรณ์สื่อสารไปพร้อมยิ้มเยาะ
เขาไม่ได้ทำแบบนี้เพื่อบังคับโซโรคินให้เปิดเผยตัวตน เขาแค่อยากรู้ว่าโซโรคินจะรับมือยังไง
แกคิดว่าฉันแค่ปั่นหัวแก แต่จริงๆแล้วฉันหวังให้แกเสียความเยือกเย็น ถ้าแกสู้กับฉัน นั่นจะดีสุด การทุบตีแกเป็นเรื่องสมเหตุสมผล
ดวงตาของหานเซี่ยวเป็นประกายขณะที่เขาหัวเราะเบาๆ ตัวตนของโซโรคินคล้ายกับกอดด์ มันเป็นรูปแบบหนึ่งของการป้องกัน แต่ทว่า หานเซี่ยวกล้าแตะต้องกอดด์เพราะระดับของเขาสูงกว่ามาก เขาสามารถเห็นความสามารถทั้งหมดของกอดด์ได้ เขาจึงมีความมั่นใจ แต่โซโรคินแตกต่าง ระดับของเขาสูงกว่าหานเซี่ยวในตอนนี้ซะอีก หานเซี่ยวยังเห็นเครื่องหมายคำถามจำนวนมากบนหน้าต่างสถานะและไม่รู้ว่าโซโรคินเก็บซ่อนอะไรไว้
สำคัญสุด การกำจัดกอดด์นั้นเป็นเพราะกอดด์เกี่ยวข้องกับเรื่องที่ใหญ่เกินกว่าจะเมินเฉย ถ้าเขาไม่ทำ ทุกคนก็จะจบ สำหรับโซโรคิน ความสำคัญของเขาไม่สูง หานเซี่ยวจึงไม่อยากทำลายกฏของสมาคมเพราะเหตุผลส่วนตัว
แน่นอน นี่จำกัดเฉพาะการที่เขาโจมตีก่อน ถ้าโซโรคินมาหาเขา หานเซี่ยวก็ไม่ว่าอะไรที่จะ’ต้อนรับ’
…
ทันทีที่วางสาย สีหน้าของโซโรคินก็เปลี่ยนไป
เขาเสียใจเล็กน้อย เขารู้สึกว่าเขาไม่ควรลังเลตอนตัวตนของเขาโดนแบล็คสตาร์มองออก เขาควรกำจัดภัยคุกคามนี้ให้เร็วที่สุด
แม้การรวมเมล็ดพันธ์ุวิญญาณทั้งหมดจะทำให้ร่างกายนี้โดนทำลาย และเขาจะเสียตัวตน แต่การปล่อยแบล็คสตาร์ไปก็ยังเสี่ยงต่อการเสียตัวตนนี้ด้วย
เนื่องจากเขาจะสูญเสียอะไรมากมายอยู่แล้ว เขาจึงอยากลากแบล็คสตาร์ลงไปด้วย
แม้เขาจะโกรธ เขาก็ยังลังเล เขากังวลว่าเขาอาจทำให้เรื่องนี้เลยเถิด แต่ก็ยังกังวลว่าเขาจะสามารถเอาชนะแบล็คสตาร์ได้จริงไหม
ไม่ว่ายังไง ฉันต้องวางแผนสำรวจ ฉันต้องหาทางสืบทอดเงินทุนมหาศาลส่วนหนึ่งของกลุ่มการเงินไร้ขีดจำกัด ถ้ากระแสเงินสดมากเกินไป มันจะดึงดูดความสนใจต่อให้ฉันใช้ช่องทางตลาดมืดก็ตาม มันดีสุดที่จะเปลี่ยนเงินทุนให้เป็นของจริง… โซโรคินกัดฟัน
ไม่ว่าเขาจะทำหรือไม่ การเตรียมทางถอยก็ไม่ผิด
ร่างของแบล็คสตาร์ทำลายไม่ได้ วิญญาณคือจุดอ่อนเดียวของเขา แต่ถึงอย่างนั้น เขาก็เป็นผู้อยู่เหนือระดับสูงสุด การฆ่าเขายากเกินไป เขายังมีชุดราชา การขับไล่เขาเข้าจักรวาลไร้การสำรวจยังไม่ได้ผล ตามความสามารถฉันและสมบัติจักรวาลที่ฉันลอบสะสม แผนเดียวที่มีอัตราความสำเร็จสูงคือสร้างความเสียหายอย่างหนักหรือผนึกวิญญาณเขาให้เขาเข้าสู่สถานะจำศีลระยะยาว
ในการทำแบบนั้น ฉันต้องหาไฟวิญญาณก่อน จากนั้นอัตราสำเร็จถึงจะสูงขึ้น ฉันสงสัยว่าไฟวิญญาณจะมีนายใหม่หรือยัง ถ้ามี ฉันก็ต้องฆ่าอีกฝ่ายและเอามันคืน…
..
หลายวันต่อมา จักรวรรดิกับกองทัพแบล็คสตาร์ได้ตกลงกันถึงวันตรวจสอบ พวกเขาส่งฑูตและตรงมาโลกริบหรี่จากแาล็กซี่กลาง
ทีมตรวจสอบของจักรวรรดิต้องใช้เวลาเดินทางพอสมควร หานเซี่ยวจึงบอกกองทัพที่ประจำการบนดาวนับร้อยของเผ่าคุนเด้ให้กระจายข้อความว่าทีมตรวจสอบจะมาถึงในไม่ช้า เขาบอกพวกเขาว่าพวกเขาจะเป็นอิสระถ้าทำได้ดี
เดิม การตรวจสอบมักดำเนินการลับๆ เมื่อเป้าหมายตรวจสอบรู้มันล่วงหน้า เพื่อให้เป็นอิสระเร็วขึ้น พวกเขาอาจ’โกง’ สิ่งนี้เคยเกิดมาก่อน
แต่ทว่า ครั้งนี้ จักรวรรดิไม่ตอบสนอง ราวกับการปล่อยเผ่าคุนเด้ล่วงหน้าเป็นเป้าหมายลับของพวกเขาเช่นกัน แม้สิ่งที่หานเซี่ยวทำจะขัดกับกฏ มันก็ตรงกับความต้องการของจักรวรรดิ พวกเขาจึงทำเป็นหลับหูหลับตา หานเซี่ยวเองก็เช่นกัน เขาอยากปล่อยเผ่าคุนเด้ให้เร็วสุดเพื่อให้สามารถรับรางวัลภารกิจได้
ทั้งสองฝ่ายพยายามบรรลุเป้าหมายตัวเอง ความแตกต่างคือหานเซี่ยวรู้ว่าจักรวรรดิคิดอะไร แต่จักรวรรดิไม่รู้เป้าหมายเขา
ข่าวเรื่องทีมตรวจสอบกระจายอย่างรวดเร็วในหมู่ชาวคุนเด้ เผ่าคุนเด้ที่ใช้เวลาอย่างไร้จุดหมายพลันเห็นความหวัง
…
ดาวอยู่อาศัยเผ่าคุนเด้หมายเลข 77 ทางใต้ของเมืองไซไกอา ดาดฟ้าของตึกF0044
บาร์ตันยืนตระหง่าน เหม่อมองทั่วเมือง อพาร์ทเมนต์ทรงสูงสี่เหลี่ยมถูกจัดวางอย่างเรียบร้อยด้วยความสูงและระยะห่างเท่ากัน เมืองนี้ให้กลิ่นอายอุตสาหกรรมรุนแรง ท้องฟ้ามืดครึ้ม รุ่งอรุณซ่อนตัวหลังก้อนเมฆ ทำให้ทำเมืองดูหดหู่
บาร์ตันจำไม่ได้ว่าเขาเห็นทิวทัศน์น่าเบื่อแบบนี้มากี่ครั้งแล้ว และหดหู่ใจ ในสายตาเขา นี่ไม่ใช่เมือง แต่เป็นคุกขนาดใหญ่
ลมหนาวพัดผ่าน ตามมาด้วยเสียงด้านหลัง พี่ชายบาร์ตัน ข่าวบอกว่านี่เป็นครั้งแรกที่ทีมตรวจสอบของจักรวรรดิจะมา เราจะได้ออกจากที่แห่งนี้จริงๆงั้นเหรอ?
เมื่อได้ยิน บาร์ตันก็หันไป กลุ่มคนนับร้อยยืนบนดาดฟ้า ทั้งหมดเป็นคนหนุ่มสาว
เขายืนเงียบๆก่อนพยักหน้า
แน่สิ!
พวกเขาเป็นลูกของผู้อาศัยในอพาร์ทเมนต์นี้ เกิดใน’ยุคแห่งการกักขัง’ บาร์ตันอายุเยอะสุด เขาจึงเป็นผู้นำของเด็กๆ
ระหว่างการเปลี่ยนแปลงวัฒนธรรม ทุกอย่างในชีวิตพวกเขาถูกจัดเตรียม ที่อยู่อาศัยพวกเขา และเพื่อนบ้านต่างโดนจัดเตรียมหมด การออกบ้านต้องรายงานไปยังระบบจัดการปัญญาประดิษฐ์ท้องถิ่น และพวกเขาก็จะออกได้หลังได้รับอนุมัติเท่านั้น ทุกอย่างที่พวกเขาทำต้องโดนตรวจสอบ
เผ่าคุนเด้ไม่ได้รับอนุญาตให้พัฒนาเทคโนโลยีตัวเอง สิ่งเดียวที่พวกเขาสามารถหาได้คือความรู้ผู้ใช้พลัง ซึ่งมาจากกองทัพแบล็คสตาร์ กองทัพแบล็คสตาร์เห็นเผ่าคุนเด้ว่าเป็นกองหนุน
การเปลี่ยนแปลงวัฒนธรรมเกี่ยวข้องกับหลายๆด้านรวมถึงสิ่งจำเป็นในชีวิตประจำวัน ข่าวสารที่พวกเขาเห็น การศึกษาที่พวกเขาได้รับและอื่นๆ หลังผ่านไปกว่ายี่สิบปี นี่ก็กลายเป็นบรรทัดฐานชีวิตของเผ่าคุนเด้ พวกเขาได้รับข้อมูลนี้ทุกวันและความคิดก็เปลี่ยนโดยไม่รู้ตัว
แต่ทว่า สำหรับทารกแรกเกิดกลุ่มแรกในยุคกักขัง ความรุ่งเรืองของเผ่าคุนเด้ในอดีตเป็นแค่คำพูด พวกเขาไม่สามารถจินตนาการได้ ขณะที่ได้รับการศึกษาในโรงเรียน พวกเขายังได้รับอิทธิพลจากความเกลียดชังของคนรุ่นก่อนไปด้วย
ผู้อาวุโสบางคนที่ประสบกับความพ่ายแพ้ของเผ่าคุนเด้ยังเกลียดชังฝังกระดูก เตือนคนรุ่นใหม่ไม่ให้ลืมมัน บางคนเลือกไม่พูด ปล่อยให้คนรุ่นใหม่ทิ้งมันไว้ด้านหลัง รอคอยอิสระในอนาคต
การใช้ชีวิตบนดาดปิดตาย สังคมช่างหดหู่ และระหว่างความเชื่อที่แบ่งแยก คนรุ่นนี้หลงทาง ไม่มีใครรู้ว่าเส้นทางข้างหน้าจะนำไปสุ่ที่ใด
ตอนนี้การมาถึงของทีมตรวจสอบได้ทำให้พวกเขาเห็นสิ่งสำคัญกว่าสิ่งอื่นใด นั่นคือความหวัง
บาร์ตันมองผ่านดวงตาที่เต็มไปด้วยความหวัง เราอาจมีโอกาสแค่ครั้งเดียวในชีวิต..ใครก็ตามที่ก่อปัญหาจะเป็นคนบาปของทั้งเผ่า
ชายหนุ่มถอนหายใจ พี่บาร์ตัน บางทีเราอาจไม่ก่อปัญหา แต่อย่างที่พี่รู้ มีหลายคนที่ยังตามืดบอดไปด้วยความเกลียดชัง…นี่อาจเป็นสิ่งที่ทีมตรวจสอบไม่อยากเห็น
บาร์ตันยืนเงียบๆ จากนั้นก็ค่อยๆยกคีมในมือขึ้น ประกายไฟฟ้าแล่บบนผิวเขาและเขาก็พูด ใครบางคนจะต้องเป็นผู้นำ เรายังมีเวลาเตรียมตัว ไปคุยกับทุกคนในนี้ที่ยังเต็มไปด้วยความเกลียดชัง เพื่อทั้งเผ่า ฉันเชื่อว่าพวกเขาจะต้องเลือกได้ถูก
ถ้ามีใครที่ยังตามืดบอด เต็มไปด้วยความเกลียดชัง ไม่เต็มใจเปลี่ยนแปลง นั่นจะเป็นภาระของทุกคน…
บาร์ตันหยุด สีที่แสดงถึงความเจ็บปวดปรากฏบนเปลือกเขา
ฆ่าพวกเขา ต่อให้พวกเขาจะเป็นครอบครัวเราก็ตาม