The Legendary Mechanic - ตอนที่ 1252 เข้า
ยานอวกาศแล่นเข้าท่าจอดของฐานลับแห่งหนึ่ง ประตูเลื่อนเปิด หานเซี่ยวเดินออกมา เห็นผู้รักษาสัจจะกำลังรอ
โอ้ มันผ่านมาสักพักแล้ว นายยังใส่ชุดนี้อีก?นายไม่ต้องซักเสื้อผ้าเลยเหรอ? หานเซี่ยวหัวเราะ
..ไม่ ปากของผู้รักษาสัจจะกระตุก ฉันกำลังรอนายอยู่ ไปคุยกันข้างใน
ผู้รักษาสัจจะนำทาง หานเซี่ยวตามเข้าไปทางเดินฐาน
ทั้งสองคุยขณะเดิน
หานเซี่ยวลูบคางและพูดด้วยความอยากรู้ มันผ่านมาแค่ไม่กี่สิบปี และนายก็สะสมกุญแจวิหารสามได้อีกแล้ว นายสุดยอดมาก
ไม่มีอะไร มีแค่ศูนย์ครั้งหรือนับครั้งไม่ถ้วนสำหรับการเข้าวิหาร ด้วยประสบการณ์ การทำมันใหม่จะง่ายขึ้นมาก บางกุญแจใช้ได้หลายครั้ง และเราก็เก็บพวกมันไว้ ตัวอย่างเช่น สิ่งมีชีวิตความสามารถเอสเปอร์แรกเริ่ม เราสามารถรวบรวมพวกมันได้ครั้งก่อน เราจึงแค่ใช้พวกมันใหม่..สำหรับกุญแจประเภทอื่น ด้วยอำนาจเงินและช่องทางที่นายให้ การรวบรวมจึงง่ายกว่าเดิมมาก ผู้รักษาสัจจะอธิบาย
หานเซี่ยวพยักหน้า
โดยทั่วไป ของสำคัญสามารถนำกลับมาใช้ใหม่ได้และไม่ต้องรวบรวมอีก
มันเหมือนกับชีวิตก่อนหน้า ขนาดขององค์กรเทพอำนวยใหญ่กว่าเดิมมาก ซึ่งหมายความว่าผู้รักษาสัจจะต้องเข้าวิหารมาหลายครั้งแล้ว ประสิทธิภาพนี้จึงไม่น่าแปลกใจ
ครั้งนี้ หานเซี่ยวกำลังเข้าวิหารคนเดียวเพื่อทำภารกิจรอบสามของภารกิจวนซ้ำ
ทั้งสองคุยกันระหว่างทางและไปถึงห้องที่พวกผู้อาวุโสอยู่ ทันทีที่หานเซี่ยวเดินเข้า ดวงตาหลายสิบคู่ก็จ้องมองเขา บรรพชนที่คืนชีพหลายคนกำลังรออยู่ ทันทีที่พวกเขาเห็นหานเซี่ยว พวกเขาก็กรูกันมาล้อมเขา
แบล็คสตาร์ ยินดีด้วยที่ได้เป็นประธานสมาคม!
สัญญาต้องเป็นสัญญา เราสามารถออกไปได้แล้วใช่ไหม?
พวกเขาแย่งกันพูด
หานเซี่ยวยกมือ ส่งสัญญาณให้พวกเขาเงียบ อืม มันได้เวลาแล้ว แต่ฉันคิดว่ามันดีกว่าที่จะรอสักปีสองปี
ปีสองปี?
สีหน้าพวกเขาเปลี่ยนไป
นายบอกให้เรารอสามปีหลังสามปี ตอนนี้มันเกือบห้าสิบปีแล้วพวก!เราไม่สามารถทนได้แล้ว!
อะแฮ่ม พวกนาย อย่ารีบสิ ฉันมีสามเหตุผล
หานเซี่ยวชี้นิ้วและอธิบาย อย่างแรก ฉันเพิ่งได้รับเลือกเป็นประธาน การรออีกหน่อยดีกว่า สอง ใน 40 ปีที่ผ่านมา สามอารยธรรมจักรวาลไม่ได้รับพันธมิตรสักคน พวกเขาอาจไม่พอใจ ฉันต้องดูก่อนว่าพวกเขาจะทำอะไร
สำหรับเหตุผลสุดท้าย ฉันต้องเข้าวิหาร ฉันไม่รู้ว่าจะใช้เวลานานแค่ไหน
ตามที่ผู้รักษาสัจจะบอก กระแสเวลาในวิหารต่างจากโลกภายนอก ผู้รักษาสัจจะไม่รู้สึกเหมือนเขาใช้เวลานานนักในนั้น แต่เมื่อเขาออกมา เขาก็พบว่าเวลาผ่านไปหลายปีแล้ว ดังนั้น หานเซี่ยวจึงเตรียมตัว
เมื่อได้ยิน บรรพชนหลายคนก็อยู่ในสภาพกลืนไม่เข้าคายไม่ออก
พวกเขาอยากออกไปตอนนี้ แต่ถ้าหานเซี่ยวเข้าวิหารและอาจหายตัวไปหลายปี โดยปราศจากการสนับสนุนของเขา หลายเรื่องคงลำบาก
ไม่สำคัญ ผานกอนพูดเสียงเย็น ฉันจะไม่เข้าร่วมสมาคมอยู่แล้ว ฉันตัดสินใจจะออกไปเร็วๆนี้! หานเซี่ยวเหลือบมองเขา พยักหน้า ไม่พูดอะไร
บรรพชนกลุ่มนี้แบ่งเป็นสามกลุ่มโดยมีคนละเป้าหมาย หนึ่งอยากเพลิดเพลินกับสิทธิพิเศษของผู้อยู่เหนือในยุคสงบสุข มันคือการเข้าร่วมสมาคม ตัวอย่างเช่น ท่านหญิงราคะ
กลุ่มสองอยากซ่อนในเทพอำนวยและช่วยผู้รักษาสัจจะดำเนินการองค์กรต่อ พวกเขาไม่วางแผนออกไป แน่นอน พวกเขาไม่มีปัญหากับการรอ
กลุ่มสุดท้ายคือคนที่อยากออกไปล้างแค้นอารยธรรมขั้นสูง พวกเขาเป็นคนกลุ่มน้อยและตัวแทนพวกเขาก็คือผานกอน เขาวางแผนจะเป็นหมาป่าเดียวดายตั้งแต่ต้น เขาจึงไม่อยากเข้าร่วมสมาคม
หานเซี่ยวไม่อยากคนเหล่านี้เข้าร่วมด้วย เหนือสิ่งอื่นใด การแก้แค้นจะทำให้ความขัดแย้งระหว่างสามอารยธรรมจักรวาลกับผู้อยู่เหนือรุนแรงขึ้น ถ้าคนเหล่านี้เข้าสมาคม สมาคมควรช่วยพวกเขาหรือไม่เมื่อเวลามาถึง?สมาชิกสมาคมส่วนใหญ่ต้องคัดค้านการช่วยพวกเขาแน่ ดังนั้น เขารู้สึกว่าเขาอาจปล่อยหมาป่าเหล่านี้ไปเพื่อไม่ฉุดสมาคมลง
ในชีวิตก่อนหน้าเขา การกระทำของคนเหล่านี้คือหนึ่งในชนวนสำคัญของหายนะผู้ใช้พลัง หานเซี่ยวไม่สนใจว่าผานกอนและคนอื่นจะไปไหน
หานเซี่ยวรู้ว่าผานกอนกำลังคิดอะไร ผานกอนไม่คิดว่าสมาคมจะช่วยเหลือ เขารู้จุดประสงค์ของสมาคมผู้อยู่เหนือ เขาจึงไม่อยากสร้างภาระให้สมาคมและตัดสินใจรับผิดชอบการล้างแค้นลำพัง
ในชีวิตก่อนหน้าของหานเซี่ยว ผานกอนไม่เคยรั่วไหลการมีอยุ่ของเทพอำนวย ดังนั้น ผ่านการเอาแต่ใจ ชายคนนี้ยังมีศีลธรรม
หานเซี่ยวมองบีเกอร์และคนอื่น แล้วพวกนายล่ะ?เต็มใจรอฉันไหม?
บีเกอร์คิดถึงมัน พยักหน้าและพูด แม้เราจะไม่สามารถทนมันได้นาน แต่ภาพรวมก็ยังสำคัญกว่า เราอาจไม่ได้มาจากรุ่นเดียวกันกับผู้อยู่เหนือสมัยใหม่ แต่เราล้วนเป็นตัวแทนของคนระดับเดียวกัน เมื่อเราปรากฏ ทั้งจักรวาลจะต้องสั่นคลอน ไม่ต้องห่วง เราจะไม่ทำลายภาพรวมเพื่อผลประโยชน์ส่วนตน’
เมื่อได้ยิน หานเซี่ยวก็ยิ้มด้วยความพึงพอใจ
หลังผ่านไปนานกว่า 40 ปี บรรพชนส่วนใหญ่ก็ปรับตัวเข้ากับยุคสมัยได้ บางคนไม่คิดเพื่อตัวเองและโดนหลอก…อะแฮ่ม..โดนเขาโน้มน้าวอีก ปล่อยทิ้งอดีตพวกเขาในยุคสำรวจ พวกเขาตัดสินใจเข้าร่วมสงครามใหม่ระหว่างผู้อยู่เหนือกับอารยธรรมขั้นสูงและเต็มใจสู้เพื่อผู้อยู่เหนือทั้งหมด
จากมุมมองคนเหล่านี้ เมื่อการเปลี่ยนแปลงมาถึง พวกเขาไม่สามารถขาดแบล็คสตาร์ได้ ด้วยเหตุนี้ พวกเขาจึงเต็มใจซ่อนตัวต่อไป
แม้บีเกอร์กับคนเหล่านี้จะยังไม่ปรากฏต่อสาธารณะ ในหัวใจพวกเขา พวกเขาก็ได้คิดว่าตัวเองเป็นสมาชิกของสมาคมแล้ว เยี่ยม ฉันคิดไม่ผิดเกี่ยวกับพวกนาย.. หานเซี่ยวหัวเราะ
เมื่อได้รับคำตอบกลับ พวกเขาก็จัดแจงอารมณ์ กลับไปเล่นไพ่ต่อ
หานเซี่ยวดึงผู้รักษาสัจจะไปนอกห้อง
หานเซี่ยวปิดประตู เพื่อจัดการกับการเปลี่ยนแปลงครั้งใหญ่ที่กำลังจะมาถึง เราต้องการผู้อยู่เหนือเพิ่ม สื่อการคืนชีพพร้อมหมดยัง?
อืม พร้อมแล้ว ขอบคุณความจริงที่ว่าผู้อยู่เหนือมากมายได้ทิ้งลูกหลานและเผ่าไว้เบื้องหลัง มันจึงรวบรวมได้ไม่ยาก ผู้รักษาสัจจะพยักหน้า
ครั้งนี้ หานเซี่ยวกำลังเข้าวิหาร เขากำลังจะทำภารกิจ คืนชีพผู้อยู่เหนือ
การคืนชีพผู้อยู่เหนือผ่านวิหารต้องใช้สื่อกลางทุกชนิด ในช่วงไม่กี่ทศวรรษที่ผ่านมา กองทัพแบล็คสตาร์กับองค์กรเทพอำนวยได้ลอบดำเนินภารกิจรวบรวมวัตถุที่เกี่ยวข้องกับผู้อยู่เหนือ พวกเขาได้รวบรวมมรดก ประชากรของเผ่าที่เหลือ และอื่นๆ
หานเซี่ยวดูรายชื่อและสแกนผ่าน ดวงตาของเขาหรี่ลง
ดูเหมือนจะมีคนแข็งแกร่งในรายชื่อคนที่กำลังจะได้คืนชีพรอบนี้ด้วย
ไม่ว่าจะแข็งแกร่งแค่ไหน พวกเขาจะแกร่งกว่านาย? ผู้รักษาสัจจะเม้มปาก
นายพูดถูกแล้ว ฉันมันไร้เทียมทาน หานเซี่ยวยอมรับคำชมนี้
จากนั้นเขาก็นึกถึงเจซแห่งพันธมิตรดาวสวรรค์ สงสัยว่าจะชุบชายคนนี้ได้ไหม
หานเซี่ยวส่ายหัว พับเก็บความคิดนี้ไว้ชั่วคราว เขาพบห้องว่างและเข้าห้อง เขาปิดกล้องวงจรปิดทั้งหมดในห้อง หยิบเอาอุปกรณ์สื่อสารออกมา และโทรออก
เขาโทรหาคาซูยิ ไม่ช้า คาซูยิก็ปรากฏบนจอ
แบล็คสตาร์..โอ้ ไม่สิ ท่านประธาน มีอะไร? คาซูยิยิ้ม
หานเซี่ยวลูบคาง ฉันอาจต้องหายตัวไปสักพัก อาจหลายวัน อาจจะหลายปี เมื่อฉันไม่อยู่ ช่วยฉันจัดการเรื่องของสมาคมด้วย
นายจะไปไหน? คาซูยิลบรอยยิ้มออกหน้า
จำประสบการณ์เราในมิติที่สองได้ไหม?ฉันพบเบาะแสบางอย่างและต้องใช้เวลาสืบสวน หานเซี่ยวไม่แบ่งปันรายละเอียด แต่คาซูยิรู้ว่าวิหารเกี่ยวข้องกับข้อมูลด้วย เขาจึงรู้ว่าต้องพูดอะไร
ตามคาด คาซูยิเข้าใจความหมายและดูแปลกใจ เขาไม่ถามเพิ่ม พยักหน้าอย่างจริงจัง งั้นก็เอาเลย ไม่ต้องห่วง ฉันจะจัดการทางนี้เอง
เมื่อคาซูยิรู้เรื่องวิหารจากเจซ เขาก็รู้ว่าเส้นทางของหานเซี่ยงถูกต้องและเลือกยืนข้างเขา พวกเขากลายเป็นพันธมิตรลับกัน
คาซูยิไม่สนใจอำนาจ เขาก้าวกลายเป็นรองประธานไม่ใช่เพราะเขาอยากได้รับตำแหน่งสูงแต่เพราะหานเซี่ยวบอกเขาให้ช่วย มันไม่เสียหายอะไร เขาจึงช่วยเหลือหานเซี่ยว
งั้นฉันจะฝากมันไว้กับนาย
หานเซี่ยวพยักหน้า พูดไม่กี่เรื่องและวางสาย
เขาไม่หยุด จากนั้นก็โทรหาฮีล่า เอเมส และอื่นๆบอกพวกเขาว่าเขาจะหายตัวไปสักพัก ไปมิติที่สองเพื่อหาโอกาสให้แต้มการเปลี่ยนแปลงลักษณะแห่งเทพ
นี่ไมใช่เรื่องหายากสำหรับผู้อยู่เหนือระดับสูงสุด ข้ออ้างนี้ใช้ได้ดี ฮีล่า เอเมสกับคนอื่นไม่สงสัยอะไร
หานเซี่ยวบอกพวกเขาให้ดูแลกองทัพตอนเขาไม่อยู่
จากนั้นเขาก็โทรหากลุ่มคนสุดท้าย คนของสามอารยธรรมจักรวาล
สามอารยธรรมจักรวาลเคยอยากให้เขาได้รับเลือก คิดว่าเขาจะเป็นผู้นำที่เหมาะสมสุดของสมาคมแทนจักรพรรดิจักรกล แต่ทว่า หลังผ่านมาหลายสิบปี ความขัดแย้งยิ่งสั่งสม ความคิดนี้จึงไม่มีอีก ไม่มีทางที่สามอารยธรรมจักรวาลจะยอมให้สมาคมผู้อยู่เหนือแข็งแกร่งขึ้นแค่เพราะเขาคนเดียว
หานเซี่ยวไม่รู้ว่าต้องใช้เวลานานแค่ไหนในวิหาร เขาจึงวางแผนใช้ตัวตนกับจุดยืนเพื่อทำให้สิ่งต่างๆมั่นคง
การเจรจาราบรื่น เหนือสิ่งอื่นใด เขายังมีตำแหน่งเป็นที่ปรึกษาของสามอารยธรรมจักรวาล หานเซี่ยวพบว่าสามอารยธรรมจักรวาลกำลังวางแผนอะไร
สามอารยธรรมจักรวาลยังสังเกตการเปลี่ยนแปลงที่เขาก่ออยู่ พวกเขาจึงไม่ระเบิดความขัดแย้งตอนนี้
หลังจัดเตรียมทุกอย่าง หานเซี่ยวก็ไปหาผู้รักษาสัจจะอีกคน มองด้วยความคาดหวังในดวงตาและพยักหน้า
เริ่มเตรียมการและเปิดวิหารให้เร็วที่สุด! …
สามวันต่อมา พื้นที่หนึ่งใกล้ฐานองค์กรเทพอำนวย ยานอวกาศลอยในอวกาศ
หานเซี่ยวกำลังลอยอยู่นอกยานคนเดียว เขาติดต่อกับผู้รักษาสัจจะโดยใช้หน้าจอภายในชุด
บนจอ ผู้รักษาสัจจะทำท่าให้กำลังใจ พร้อมนะ?ทุกอย่างพร้อมแล้ว วิหารสามารถเปิดได้ตลอด
เอาเลย หานเซี่ยวถอนหายใจ ปรับอารมณ์
ผู้รักษาสัจจะพยักหน้า หันไปและสั่ง ทุกหน่วย เริ่มได้!
ทันทีที่เขาพูด ยานอวกาศก็พลันขยับ พวกเขาฝึกฝนมานับไม่ถ้วน เหมือนเครื่องจักรที่น่าประทับใจ ไม่มีความผิดพลาดลเย
ปัง ปัง ปัง!
สิ่งมีชีวิตความสามารถเอสเปอร์แรกเริ่มถูกยิงออกไป บรรจุในผนึกพิเศษ ลำแสงหลากสีรวมกันที่จุดหนึ่ง ขยายอย่างรวดเร็ว เปลี่ยนเป็นทรงกลมสีขาว
ภายใต้ผลของอุปกรณ์พิเศษ เหมือนกับยางชิ้นหนึ่ง ทรงกลมแสงหดตัวลงเป็นวงแหวนสว่างกว้างประมาณร้อยเมตร พลังงานมันควบแน่น
จากนั้น ยานที่เหลือก็เปิดใช้งานอุปกรณ์ทีละเครื่อง ปลดปล่อย’กุญแจ’เข้าไปในวงแหวนนี้ผ่านลำแสง
เมื่อยานดูเหมือนจะสั่น ทันใดนั้นวงแหวนก็ส่องสว่างยื่งขึ้น และฉากภาพประตูแสงเหมือนภาพลวงตาหกบาน
วินาทีต่อมา ประตูแสงก็ห้าบานก็หายไป ทิ้งไว้แค่หนึ่งเดียวที่ดูเหมือนจะปรากฏขึ้นจากภาพลวงตาเป็นของจริง มันยังสั่นอย่างไม่หยุดนิ่งราวกับพร้อมหาย
นั่นคือทางเข้าวิหารสาม ไป! ผู้รักษาสัจจะรีบพูด
หานเซี่ยวทุ่มสมาธิ เปิดใช้ตัวขับ กระโจนเข้าทางเข้า
วินาทีต่อมา แสงตรงหน้าเขาก็สว่างยิ่งขึ้น ทั้งหมดที่เขาเห็นได้คือสีขาว
วินาทีที่เขาผ่านประตู หานเซี่ยวก็รู้สึกว่าร่างกายเขาเบา ราวกับเขาทะลุกำแพงบางอย่าง เขามึนหัว ราวกับไม่อยู่ในโลกนี้อีก
ในที่สุดฉันก็อยู่ข้างใน..