The Legendary Mechanic - ตอนที่ 1253 วิหารสาม 1
ช่วงเวลานี้รู้สึกเหมือนสั้น และเหมือนนานนับปี
วิสัยทัศน์ของหานเซี่ยวค่อยๆชัดเจนตอนเขาเห็นสภาพแวดล้อม
นี่คือโลกสีขาวไร้สิ้นสุดไร้แรงโน้มถ่วง ตัวของเขาลอยกลางอากาศ ทรงกลมแสงสีขาวนับไม่ถ้วนลอยรอบเขา บ้างเล็ก บ้างใหญ่ มองจากระยะไกล ทรงกลมแสงทุกอันดูเหมือนกำลังเล่นภาพพร่ามัว
วิหารสามดูไม่ต่างจากที่ผู้รักษาสัจจะอธิบาย
หานเซี่ยวมองไปรอบๆด้วยความอยากรู้ ทันใดนั้น เขาก็หันไปเห็นว่าทางเข้าประตูแสงที่เขามาสั่นอย่างรุนแรงราวกับกำลังจะพัง
ทันใดนั้น ด้วยสัญชาตญาณ เขายื่นมือออกไปและหุบกำปั้น
บูซ! ครั้งนี้ กระแสพลังงานพิเศษพลันปรากฏในตัวเขา กระแสพลังงานอบอุ่นหกสายดูเหมือนจะปรากฏออกมา รวมกันบนฝ่ามือเขา เปลี่ยนเป็นลวดลายเฉพาะ
วินาทีต่อมา ทางเข้าดูเหมือนจะได้รับการสนับสนุนบางอย่างและเริ่มมั่นคง เปลี่ยนเป็นประตูแสงที่หมุนอย่างช้าๆราวกับกระจกส่องแสง
นี่คืออะไร?
หานเซี่ยวแปลกใจ ก่อนหน้านี้ เขาคิดแค่ว่าไม่อยากให้ทางเข้าหายไป และพลันรู้สึกสังหรณ์ใจว่าเขาสามารถทำได้ ซึ่งมันก็เกิดขึ้นจริง
เขาก้มมองฝ่ามือ สังเกตว่าจู่ๆก็มีตราเกิดขึ้น มันดูเหมือนเป็นการรวมกันของลวดลายหกแบบ
แปลก ฉันมีของสิ่งนี้ตอนไหน?
หานเซี่ยวกำลังจะเปิดหน้าต่างสถานะเพื่อตรวจสอบสถานะ แต่ด้วยความตกใจ เขาพบว่าเขาไม่สามารถเปิดหน้าต่างสถานะได้
นี่เป็นครั้งแรกที่หน้าต่างสถานะไม่ตอบสนอง!
หานเซี่ยวขมวดคิ้ว เขากำหมัดแน่น พยายามควบคุมพลังงานภายในตัว ขณะนั้นเอง พลังจักรกลสีทองก็พุ่งออกมา
อืม แม้หน้าต่างสถานะจะไม่เปิด สถานะฉันก็ไม่เปลี่ยน ฉันยังอยู่ในจุดสูงสุด’
หานเซี่ยวสัมผัสสภาพของร่างกายและถอนหายใจโล่งอก แม้เขาจะไม่สามารถเปิดหน้าต่างสถานะได้ มันก็ไม่ส่งผลกับความสามารถเขา
ตั้งแต่ต้น ทุกอย่างที่เขารู้สึกสมจริง ควาามสามารถทั้งหมดที่เขาเรียนกลายเป็นเทคนิคส่วนตัวเขาที่ใช้ได้ตลอดเวลา ถ้ามันเป็นผู้เล่น พวกเขาคงไม่สามารถใช้ความสามารถใดได้โดยปราศจากหน้าต่างสถานะ ตัวอย่างเช่น ตอนสร้างเครื่องจักร เขาต้องจบกระบวนการทั้งหมดเอง ส่วนผู้เล่นแค่ต้องรอแถบความคืบหน้าเต็ม นี่คือครั้งแรกของหานเซี่ยวภายในวิหาร ทั้งหมดที่เขาทำได้คือค่อยๆคิด
เขาทดสอบความสามารถมากมายและตระหนักว่าเขาใช้มันได้เกือบหมด พวกเดียวที่ไม่ใช้คือความสามารถที่เกี่ยวกับโลกภายนอกเช่นการสื่อสารเครือข่ายควอนตัมและโรงงานมิติ แม้กระทั่งคุณสมบัติของชุดราชาก็ยังใช้ไม่ได้
แม้เขาจะหยุดทางเข้าวิหารไม่ให้หายได้ การสื่อสารทุกวิธีที่เขามีกับโลกภายนอกก็ใช้ไม่ได้อีก
น่าสนใจ วิหารพิเศษมาก ไม่เพียงชุดราชาจะไร้ประโยชน์ แม้กระทั่งหน้าต่างสถานะก็เปิดไม่ได้..
หานเซี่ยวหรี่ตา และสมองก็หมุนอย่างรวดเร็ว จ้องตราบนฝ่ามือและมีความเข้าใจ
หกรูปแบบ…หก..ถ้าฉันจำไม่ผิด นั่นคือจำนวนชิ้นส่วนวิหารสามที่ฉันมี?
ดวงตาหานเซี่ยวเป็นประกาย แม้ตอนนี้เขาจะไม่เห็นหน้าต่างสถานะ เขาก็ยังจำเรื่องแบบนี้ได้
เดิม เขามีแค่สองชิ้นส่วนวิหารสาม หนึ่งจากตำนานผู้สะสมความสามารถเอสเปอร์แรกเริ่มและอีกอันจากการทุบตีผู้อาวุโสเทพอำนวย
ข้อกำหนดภารกิจรอบสามของการวนซ้ำคือเข้าหนึ่งในวิหาร รางวัลคือชิ้นส่วนวิหารสามชิ้นของวิหารที่เกี่ยวข้อง แม้เขาจะไม่เห็นหน้าต่างสถานะ หานเซี่ยวก็รู้สึกว่าหน้าต่างสถานะอาจยังทำงานอยู่ เขาไม่สามารถเห็นการแจ้งเตือน แต่รางวัลภารกิจยังคงรับได้
ถ้าเป็นแบบนั้น เขาก็มีชิ้นส่วนวิหารสามห้าชิ้นแล้ว
สำหรับชิ้นส่วนพิเศษอีกชิ้น หานเซี่ยวมีการคาดเดาอยู่ ตามการดำรงอยู่ของผู้รักษาสัจจะ ความเป็นไปได้ที่ยิ่งใหญ่สุดคือการเข้าวิหาร และเขาจะได้รับชิ้นส่วนของมันเอง
ถ้าทฤษฏีนี้เป็นจริง จำนวนก็ตรงกัน และมันจะอธิบายถึงสถานการณ์นี้ นี่หมายความว่าตรานี้ไม่ได้ปรากฏเองแต่มักหลับใหลในตัวเขาและข้อกำหนดเปิดใช้งานคือเข้าวิหาร
ฉันไม่รู้เกี่ยวกับการใช้ชิ้นส่วนวิหาร แต่พวกมันทำให้ทางเข้าวิหารมั่นคง..หรือชิ้นส่วนจะเกี่ยวกับระดับอำนาจที่ฉันมีในวิหาร?ยิ่งมีเยอะ ฉันยิ่งทำอะไรได้เยอะ?
ผู้รักษาสัจจะบอกว่าเขารู้สึกเหมือนจมอยู่ในฝันตอนเข้าวิหารและจิตใจก็ไม่ชัดเจน แต่จิตใจของฉันว้าวุ่นเล็กน้อย ไม่คลุมเครือแบบที่เขาพูด นั่นเป็นเพราะชิ้นส่วนวิหารด้วยหรือเปล่า?
หานเซี่ยวอดคิดไม่ได้
ทันใดนั้น เขาก็ได้สติและส่ายหัว
ไว้ค่อยคิด ฉันไม่สามารถเสียเวลาได้มาก ฉันควรคิดหลังออกไปและดูหน้าต่างสถานะเอา..ตอนนี้ฉันต้องสังเกตวิหารก่อน!
หานเซี่ยวจดจ่อ ควบคุมร่างกายและบินไปทรงกลมแสงที่ใกล้สุด เขาลืมตากว้าง อยากดูภาพชัดๆ แต่มันยังพร่ามัวอยู่ดี เขาลังเลสักพัก เอื้อมมือที่มีตราวิหารไป และแตะทรงกลมแสง
พรึ่บ!
วินาทีที่เขาสัมผัสกับมัน ข้อมูลจำนวนมากก็ไหลเข้าหัวเขา
ทันใดนั้น ภาพก็ปรากฏตรงหน้าหานเซี่ยว มันราวกับเขาได้เห็นการเติบโตและล่มสลายของเผ่า การสร้างอารยธรรม การเลี้ยงคนแต่ละรุ่น พัฒนาเทคโนโลยี สุดท้ายก็โดนทำลายด้วยหายนะ
หานเซี่ยวยังคงตกตะลึงไปสักพักก่อนจะถอนมือออก เขาตระหนักว่าที่เขาจำได้แค่บางส่วนของภาพที่เห็น บางความรู้ได้ปรากฏในหัวเขาที่ดูเหมือนจะเป็นส่วนหนึ่งของเทคโนโลยีที่อารยธรรมนี้สร้างขึ้น
ความรู้นี้เกี่ยวข้องกับชีววิทยาและเทคโนโลยีพันธุกรรมเป็นหลัก มันเป็นแค่ส่วนหนึ่งของอารยธรรมนี้เท่านั้น
หานเซี่ยวย่อยมันและกลับไปสัมผัสทรงกลมแสงเพิ่ม
หลังทดสอบหลายครั้ง เขาก็มีความคิดคร่าวๆถึงกลไกลของวิหารและสรุปรูปแบบบางอย่างจากการคาดเดา
ก่อนอื่น ทรงกลมแสงคือตัวเก็บข้อมูลที่บันทึกข้อมูลของสิ่งต่างๆ ส่วนใหญ่เป็นอารยธรรม โดยปกติ ทรงกลมแสงอันหนึ่งจะแสดงถึงอารยธรรมหนึ่ง ไม่มีอยู่ในอดีต และควรเป็นการวนว้ำในอดีต
สอง เขาสามารถอ่านข้อมูลภายในนั้นได้โดยการสัมผัส แต่จะจำได้แค่ส่วนหนึ่ง จำนวนของสิ่งที่เขาจำได้ควรเกี่ยวกับระดับอำนาจที่มี หมายถึงจำนวนชิ้นส่วนวิหาร
แต่ทว่า มีขีดจำกัดของจำนวนความทรงจำที่เก็บได้ เมื่อถึงจุดหนึ่ง เมื่อเขาอ่านทรงกลมแสงใหม่ เขาจะลืมส่วนหนึ่งของข้อมูลที่เขาอ่าน
ตามลักษณ์ของรูปแบบข้อมูล จำนวนความทรงจำที่เขาเก็บไว้ได้ทุกครั้งที่เขาเข้าวิหารน่าจะโดนจำกัดและรีเซ็ตครั้งหน้าที่เข้านี่หายความว่าจำนวนความรู้ที่เขาสามารถนำออกวิหารได้แต่ละครั้งจำกัดด้วยและขีดจำกัดน่าจะขึ้นอยู่กับชิ้นส่วนวิหาร
สาม หลังแตะทรงกลมแสงหลายครั้ง เขาสังเกตเห็นว่าเทคโนโลยีที่เขาได้รับมาเกี่ยวข้องกับชีววิทยา พันธุศาสตร์และความสามารถเอสเปอร์เป็นหลัก นี่อาจแตกต่างระหว่างวิหาร หมายความว่าความรู้ของอารยธรรมเหล่านี้ในการวนซ้ำถูกเก็บไว้แยกตามประเภทมัน วิหารที่ต่างกันอาจแทนถึงประเภทความรู้ วิหารสามน่าจะบรรจุความรู้ชีววิทยา พันธุศาสตร์และความสามารถเอสเปอร์ที่เกี่ยวกับเทคโนโลยี
สี่ ทรงกลมแสงบางอันบรรจุข้อมูลเกี่ยวกับผู้อยู่เหนือจากการวนซ้ำต่างๆ ด้วยการอ่านมัน เขาสามารถจมกับประสบการณ์ชีวิตพวกเขาและยังได้รับข้อมูลบางอย่างที่พวกเขารู้
แต่ทว่า มีแค่เอสเปอร์ในวิหารสาม ตามการคาดการณ์ของหานเซี่ยว ถ้าเขาอ่านทรงกลมแสงเกี่ยวกับช่างหรือจอมเวทย์ เขาน่จะได้รับความรู้ เทคโนโลยี คาถา พิมพ์เขียวหรือสิ่งอื่น
เจซไม่ได้โกหก…
หานเซี่ยวตกใจ
แม้รูปแบบเหล่านี้จะเป็นการคาดการณ์ เขาก็รู้สึกว่ามันควรใกล้กับความเป็นจริงมาก!
นอกจากการบรรลุเป้าหมายคืนชีพ ผู้รักษาสัจจะแทบไม่ได้รับอะไรครั้งก่อนที่เข้าวิหาร มันอาจเพราะระดับอำนาจเขาไม่สูงพอ
แต่ทว่า เขามีหกชิ้นส่วนในวิหารสาม ระดับอำนาจเขาจึงสูงกว่า เขาควรสามารถทำได้มากกว่า
เมื่อคิดถึงเจซ คำขอของเขาก็ปรากฏในหัวหานเซี่ยว
มาดูกันว่าระบบคืนชีพของวิหารทำงานยังไง
หานเซี่ยวจดจ่อและนำสื่อกลางที่ผู้รักษาสัจจะเตรียมไว้ออกมา
ทันทีที่เขาคิดถึงการทดสอบระบบคืนชีพตราบนฝ่ามือของเขาก็ตอบสนอง
พรึ่บ!
วินาทีต่อมา เส้นแสงบางก็ยิงออกจากทรงกลมแสงบางอัน และปรากฏตรงหน้าหานเซี่ยว ด้วยแสงสว่าง ตราเปล่งแสงลอยกลางอากาศ
หานเซี่ยวสำรวจมันและยินดี
ตรานี้..มันคือตราคืนชีพวิหารที่ผู้รักษาสัจจะวาดไว้
หานเซี่ยวเอื้อมมือไปแตะมัน ตราพลันเปลี่ยนเป็นลำแสงและเข้าหลังมือเขา
ในเวลาเดียวกัน กระแสข้อมูลก็ไหลเข้าเสมองเขาที่บันทึกคำแนะนำการใช้งานตราคืนชีพและรายชื่อเป้าหมายที่ตรานี้สามารถคืนชีพได้
น่าเศร้า เจซไม่อยู่ในรายชื่อ
ดูเหมือนมันจะล้มเหลว….
หานเซี่ยวถอนหายใจ ไม่รู้ว่าสื่อกลางของเขาไม่เป็นที่ยอมรับโดยวิหาร หรือมีข้อจำกัดบางอย่างในการคืนชีพเป้าหมายจากการวนซ้ำอื่น
แม้พวกเขาจะไม่ได้ใช้เวลาร่วมกันนานนัก เจซก็ทิ้งความประทับใจไว้ให้เขา เนื่องจากการคืนชีพล้มเหลวและเขาไม่สามารถพบเจซได้อีก เขาจังรู้สึกซับซ้อน
ช่างเถอะ นี่แค่โชคชะตา
หานเซี่ยวส่ายหัว ปรับอารมณ์ ความคิดของเขากระโดดจากเจซไปพันธมิตรดาวสวรรค์และพึมพำ ตัวเก็บข้อมูลของพันธมิตรดาวสวรรค์ควรมีอยู่ภายในวิหารด้วยใช่ไหม?
ทันทีที่เขาคิด ตราวิหารก็ตอบสนอง และเปล่งแสง ชี้ไปทางหนึ่ง
เมื่อเห็น หานเซี่ยวก็แปลกใจ
จากนั้นเขาก็บินไปทางนั้นและหยุดข้างทรงกลมแสง
นี่คือทรงกลมแสงรูปแบบข้อมูลของพันธมิตรดาวสวรรค์?
ขณะคิด เขาก็อ่านเนื้ือหาของหนึ่งในทรงกลมแสงและพลันยืนยันได้ มันบรรจุข้อมูลของอารยธรรมหนึ่งจากการวนซ้ำพันธมิตรดาวสวรรค์จริง
หานเซี่ยวมองตราบนมือด้วยความประหลาดใจ
ดูเหมือนฉันจำเดาถูก ชิ้นส่วนวิหารแสดงถึงอำนาจ แต่มันน่าแปลกใจที่มันสามารถนำทางได้ด้วย…อืม ฉันเดาว่ามันสมเหตุสมผล มีข้อมูลมากมายภายในวิหาร การหาข้อมูลเฉพาะเจาะจมเหมือนการงมเข็มในกองหญ้า
ทันทีที่เขาพูดแบบนั้น ตัวของหานเซี่ยวก็สั่น และความคิดกล้าหาญก็ผุดขึ้น ถ้ามันสามารถนำทางได้เหมือนเข็มทิศ ถ้าฉันค้นหาข้อมูลการวนซ้ำของกาแล็กซี่และพบมัน นั่นหมายความว่าเรากำลัง..
บูซ! ก่อนเขาจะคิดจบ ตราวิหารก็ชี้ไปทางหนึ่ง
มีจริงๆ?!
ลมหายใจของหานเซี่ยวติดขัด และหัวใจก็ดำดิ่ง
เขากัดปาก ตามทางนั้นไปเงียบๆ
เขายืนนิ่งหน้าทรงกลมแสงสีกพักก่อนจะสูดหายใจลึก และค่อยๆแตะมัน
แต่ทว่า วินาทีต่อมา หานเซี่ยวก็ตกตะลึง
ไม่มีเนื้อหาในทรงกลมแสงนี้ มันว่างเปล่า!
ทำไมมันถึงไม่มีอะไรเลย?!’
หานเซี่ยวแตะมันอยู่หลายครั้ง นี่เป็นครั้งแรกที่เขาเจอเรื่องแบบนี้
จากนั้นเขาก็พยายามค้นหาสามอารยธรรมจักรวาลของกาแล็กซี่และอารยธรรมขั้นสูงอื่น
ทุกการค้นหาได้ผล แต่ไม่มีทรงกลมแสงเป้าหมายใดที่มีข้อมูลในนั้น พวกมันเป็นเปลือกเปล่า
หานเซี่ยวตกใจ แต่ก็อดโล่งใจไม่ได้
เขากังวลถึงการเห็นข้อมูลของจักรวาลสำรวจภายในวิหาร มันหมายความว่าเช่นเดียวกับพันธมิตรดาวสวรรค์ กาแล็กซี่เป็นแค่ภาพลวงตาของอดีต แต่ทว่า นี่เกินความคาดหมาย แม้เขาจะสามารถค้นหาอารยธรรมเป้าหมายได้ พวกมันก็ว่างเปล่าหมด หานเซี่ยวไม่รู้ว่ามันหมายความว่าไง แต่อย่างน้อยมันก็ไม่ใช่สถานการณ์เลวร้ายสุด
น่าสนใจ เกิดอะไรขึ้นกัน?
หานเซี่ยวขมวดคิ้ว และครุ่นคิด เริ่มคาดเดา
เหตุผลที่พวกมันว่างเปล่า…มันหมายความว่ากาแล็กซี่กำลังดำเนินการบันทึกอยู่ หมายความว่ามันเป็นปัจจุบัน และข้อมูลที่เกี่ยวข้องจะโดนบันทึกโดยวิหารหลังเราประสบกับการรีบู้ตครั้งใหญ่?ถ้าเป็นแบบนั้นจริง มันควรเป็นข่าวดี ครั้งนี้ หานเซี่ยวนึกถึงบางสิ่งบางอย่างและสีหน้าก็เปลี่ยนไป
ดังนั้น เปลือกเปล่าเหล่านี้..คือหลุมศพที่วิหารเตรียมไว้สำหรับการวนซ้ำนี้?
วิหารกำลังพยายามบอกว่าไม่มีสิ่งใดหนีพ้นความตายได้?
หานเซี่ยวเงียบไป
เขาจ้องทรงกลมแสงตรงหน้า วินาทีน้้น หัวใจของเขาเต็มไปด้วยความรู้สึกเศร้าโศก