The Legendary Mechanic - ตอนที่ 1349 คืนชีพและประกาศ
ตอนที่ 1349 คืนชีพและประกาศ
บนดาวเคราะห์เทียมในโลกริบหรี่ พื้นดินสีเงินที่เกิดจากโลหะไร้ขอบเขตปกคลุมทั้งดาว ไม่มีอาคารบนพื้น และทั้งดาวก็เป็นทรงกลมสีเงินที่มีแค่การดัดแปลงระบบนิเวศแบบพื้นฐานสุด
ผู้อยู่เหนือกว่าร้อยอยู่ตรงกลางที่ราบสีเงิน ดวงตาของพวกเขาจับจ้องแผ่นหลังหานเซี่ยว
เพื่อลดปัจจัยไม่คาดคิด สามอารยธรรมเลือกดาวในดินแดนพวกเขาเป็นสถานที่สำหรับวิหารคืนชีพ และผู้อยู่เหนือหลายคนก็ตามหานเซี่ยวมา
สามอารยธรรมจักรวาลไม่วางกองยานใดไว้รอบนอกดาว พวกเขาแค่วางสมอปรับเสถียรไว้ รวมถึงอาวุธทางไกลในตำแหน่งอื่น พวกเขาจะใช้อุปกรณ์ทางไกลเพื่อสังเกตสถานการณ์จากระยะไกล ดังนั้นด้านนอกดาวจึงไร้กองกำลัง นี่เป็นคำแนะนำของหานเซี่ยว ผู้อยู่เหนือทั้งหมดอารมณ์ร้อนและถ้าพวกเขาถูกบังคับให้เจรจาตอนตื่น พวกเขาจะไม่พอใจ มันอาจไม่เป็นประโยชน์ต่อสองฝ่าย ครั้งนี้ สามอารยธรรมจักรวาลตกลง อีกฝ่ายเองก็เป็นบุคคลทางประวัติศาสตร์ที่มีชื่อ พวกเขาล้วนเป็นคนมีสถานะสูง มันไม่เหมาะสำหรับพวกเขาที่จะแสดงท่าทีแข็งกร้าวตั้งแต่ต้น ในทางตรงกันข้าม การสื่อสารระหว่างผู้อยู่เหนือจะไม่มีปัญหาเลย
ถ้าต้องการการชักชวนด้วยร่างกาย หานเซี่ยวกับกลุ่มผู้อยู่เหนือก็พอ มีเพียงพลังถึงเป็นที่เคารพ นี่คือกฏที่ไม่ต้องพูดระหว่างผู้อยู่เหนือ ถ้ากองกำลังทหารเข้าแทรกแซง มันอาจให้ผลตรงข้าม
งั้นฉันจะเริ่มแล้วนะ
หานเซี่ยวมองเหลียวหลังและเห็นทุกคนพยักหน้า จากนั้นเขาก็มองออกไป เปิดใช้ตราคืนชีพบนหลังมือ
แสงสีทองพลันเบ่งบาน ยิงออกไปเหมือนเส้นไหม กลั่นตัวเป็นวัตถุเรืองแสงบนที่ราบต่อหน้าทุกคน พวกมันค่อย ๆ แข็งตัวและกลายเป็นรูปแบบชีวิต ความผันผวนพลังงานสะท้อนกันและกันราวกับมีพายุปรากฏขึ้น พัดผมกับเสื้อผ้าทุกคน
ผู้อยู่เหนือทุกคนจ้องฉากนี้ กลัวว่าจะพลาดอะไรไป
พวกเขายังมีชีวิต!
นี่คือวิธีคืนชีพ มันไม่เหมือนที่คาด ฉันคิดว่าจะมีกระบวนการฟักตัวหรืออะไรทำนองนั้นซะอีก
พูดก็พูด หลักการนี้คืออะไร?มันดูเหมือนเวทมนตร์
เสียงกระซิบดังจากด้านหลังเขา แต่หานเซี่ยวแสร้งทำเป็นไม่ได้ยิน
ลูกหลานสายตรงของสามอารยธรรมจักรวาล ลูกหลายสายตรงของกลุ่มดาวชั้นยอด ผู้อยู่เหนือเป็นกลาง…องค์กรของผู้คืนชีพครั้งนี้ซับซ้อนกว่าสองครั้งก่อนหน้าและความขัดแย้งก็อาจรุนแรง
หานเซี่ยวเตรียมใจ
ขณะนี้ ในที่สุดผู้คืนชีพก็ตื่นจากความงุนงงและมองหน้ากันด้วยความตกใจ สำรวจสภาพแวดล้อมและผู้คนรอบตัว
เกิดอะไรขึ้น?
ภาพลวงตา?ฝัน?โลกเสมือน?สหพันธ์แห่งแสงทำอะไรกับฉัน?
อืม?มันเป็นแก!ฉันบดขยี้แกด้วยมือฉันเอง แกยังมีชีวิตได้ไง?’
หลังกลุ่มผู้คืนชีพเห็ฯสถานการณ์รอบตัว ฉากวุ่นวายก็ปรากฏ เปลวไฟโผล่จากตัวพวกเขา พลังงานพวกเขาเข้าสู่สภาวะใช้งานแบบไม่เสถียร พวกเขาเริ่มเข้าสู่สถานะต่อสู้ หลายคนที่เป็นศัตรูกันเริ่มเคลื่อนไหว สำหรับพวกเป็นกลางที่ไม่เข้าใจสถานการณ์ พวกเขาขมวดคิ้ว ถอยไปด้านข้างเงียบๆ อวัยวะมองเห็นพวกเขาเริ่มหมุน พวกเขาสังเกตสถานการณ์ ขณะที่หานเซี่ยวกำลังจะพูด ชายร่างสูงก็มองมา จ้องพวกหานเซี่ยว
ถ้าฉันเดาไม่ผิด เราคงตายแล้วสินะ พวกนายคืนชีพเรา?
เขาสวมชุดคลุมเทพสวยหรู เสียงของเขาดูเก่าแก่ มันมีกลิ่นอายสงบที่ระงับความวุ่นวายของทั้งสถานที่ ดึงความสนใจของผู้คืนชีพทุกคนมาที่เขา ตามสายตาเขา พวกเขาจับจ้องพวกหานเซี่ยว
แกพยายามขโมยบทพูดฉัน?หานเซี่ยวมองเขา และจิตสำนึกก็คัดกรองผ่านฐานข้อมูล ไม่ช้า เขาก็พบข้อมุลของชายคนนี้
ฮิลเบิร์ต มูลเลอร์คืออสเปอร์สายตรงของศาสนจักร ผู้อยู่เหนือระดับสูงสุด ความสามารถของเขาเกี่ยวกับมิติ เขาเคยเป็นเสาหลักของศาสนจักร เขามีสถานะสูงส่งอย่างมาก!
แต่เพราะความสามารถของวูร์นอสเหมาะกับศาสนจักรกว่า หลังวูร์นอสเติบโต ศาสนจักรจึงเปลี่ยนเจ้าของอาวุธแห่งชาติและฮิลเบิร์ตก็ออกจากตำแหน่งเสาหลัก เขาไปสำรวจมิติที่สอง หายตัวไปนาน และชะตากรรมของเขาก็ไม่มีใครรู้
จากที่ดูตอนนี้ ชายคนนี้คงตายแล้ว จักรวาลกว้างใหญ่มาก อันตรายมีอยู่ทั่ว หานเซี่ยวไม่รู้ว่าเขาพบอะไรในมิติที่สอง แต่เขาก็มีโอกาสเข้าไปที่พันธมิตรดาวสวรรค์ หานเซี่ยวเคยเรียนรู้ถึงหน้าตาและชื่อของคนนอกสามกลุ่มแรกที่เจซพูด คนเหล่านั้นไม่อยู่ในทางเลือกคืนชีพของเขาเลย
ความคิดต่างๆแวบผ่านหัวหานเซี่ยว แต่เขาก็พยักหน้าและตอบ
ถูกต้อง ฉันเชื่อว่าพวกนายยังมีความทรงจำ พวกนายตายไปนานแล้วและกลายเป็นประวัติศาสตร์ ตอนนี้เป็นปี 783 ของปฏิทินกาแล็กซี่ และก็ผ่านมาหลายปีแล้ว ฉันได้ใช้วิธีการที่เรียกว่าวิหารคืนชีพเพื่อปลุกพวกนาย..
มันเป็นการคืนชีพจริงๆ..
เหลือเชื่อ มีของแบบนี้ด้วย? ฉันคิดว่ามีคนอัปโหลดจิตสำนึกที่เหลือของฉันเข้าโลกเสมือนซะอีก
ผู้คืนชีพเริ่มสงบลงและแปลกใจ
พวกเขาไม่เคยคิดถึงเรื่องนี้มาก่อน อย่างน้อยตอนพวกเขาตาย ก็มีไม่มากที่คิดว่าพวกเขาจะตื่นขึ้นมาสักวัน
มนุษย์หญิงชาวจักรวรรดิที่สวมชุดทหารหรี่ตาและถามหานเซี่ยว
งั้นนายเป็นใคร?
เธอจะเรียกฉันว่าแบล็คสตาร์ ผู้ครอบครองวิหารคืนชีพ ที่ปรึกษาของสามอารยธรรมจักรวาลและประธานผู้อยู่เหนือในปัจจุบันก็ได้ หานเซี่ยวแนะนำตัวเองและพูดเสริมด้วยรอยยิ้ม ฉันเคยเป็นพันธมิตรกับจักรวรรดิ เราถือได้ว่ามีความสัมพันธ์กัน ท่านรีวี่
งั้น นายก็เป็นหนึ่งในพวกเรา?
สีหน้าของรีวี่อ่อนลง
เธอคือหนึ่งในเสาหลักของจักรวรรดิจอมเวทย์ระดับสูงสุด ฉายา’จักรพรรดินีปีศาจ’และระดับพลังเธอก็โดดเด่น
เมื่อได้ยินฉายาของหานเซี่ยว มันก็ฟังเหมือนเขาอยู่ข้างสามอารยธรรมจักรวาล ในเวลาเดียวกัน หานเซี่ยวยังอ้างว่าเป็นพันธมิตรจักรวรรดิ รีวี่จึงรู้สึกว่าเขาไม่ใช่ศัตรู
เธอหันไปสังเกตผู้อยู่เหนือหลังหานเซี่ยว ทันใดนั้น สายตาเธอก็หยุดที่คล็อตติและรอยยิ้มแปลกใจก็ปรากฏบนหน้า
เจ้ามืดน้อยไม่ใช่เหรอ?นายยังไม่ตาย?!
ทุกคนมองไป เห็นใบหน้าของคล็อตติที่มักเย็นชากระตุกเล็กน้อย เขาสับเท้าเงียบๆราวกับอยากหลบในฝูงชน
เห้ คล็อตติ!อย่าแกล้งทำเป็นไม่รู้จักฉันนะ ฉันเห็นนาย จะหลบไปไหน?
รีวี่ยืนเท้าเอว เสียงของเธอหยาบเหมือนสิงโตคำราม หานเซี่ยวอดลูบหูไม่ได้ เขารู้สึกว่าผู้หญิงคนนี้กับนักล่าดวงอาทิตย์คือคนจำพวกเดียวกัน
..เราเจอกันอีกแล้ว
การต่อต้านที่หาได้ยากปรากฏบนหน้าของคล็อตติ แต่เขาก็ยังฝืนตัวเองให้ตอบรับ
ในแง่ของความอาวุโส รีวี่ถือได้ว่าเป็นผู้อาวุโสของเขา เธอสอนเขามา ร่วมกับเสาหลักคนอื่น ตอนคล็อตติยังอ่อนแอ เธอคือเงาที่ฝังลึกในหัวใจเขาและถือได้ว่าเป็นอาจารย์ครึ่งหนึ่ง
สิ่งที่ทำให้หนังศีรษะของคล็อตติชาด้านสุดคือรีวี่อ่อยเขา เดินหน้าหาเขาอย่างมีจุดประสงค์ พูดก็พูด รีวี่ถือได้ว่าสวย ถ้ามันเป็นภายใต้สถานการณ์ปกติ เขาคงไม่ต้องเลี่ยงเธอ แต่ปัญหาคือ…รีวี่เป็นพวกแปลงเพศ เธอไม่เหมือนนักดาบดอกบัวที่เลือกเพศ นอกจากนี้ มันไม่ใช่การตัดสินใจตอนรีวี่อ่อนแอ แต่เป็นการตัดสินใจหลังเธอเป็นผู้อยู่เหนือ เหตุผลนั้นแปลกแค่เธอพูดว่า’เมื่อเบื่อที่จะเป็นผู้ชาย ก็ต้องลองเป็นผู้หญิง’!
แม้ยุคกาแล็กซี่จะเกิดกว้างและการแปลงเพศก็เป็นที่ยอมรับอย่างกว้างขวาง คล็อตติก็ไม่เคยชอบกระแสใหม่นี้ เขายังรับได้ถ้าเป็นเพื่อนกันปกติ แต่การถูกหยอกเย้ยทำให้เขารู้สึกเสียวสันหลัง เขารับมันไม่ได้จริงๆ ความคิดนี้น่าจะเป็น..
ฉันมองนายเป็นเหมือนพี่ชาย แต่นายกลับอยากนอนกับฉัน?!
อะแฮ่ม ทุกคน ตอนนี้ไม่ใช่เวลามาคุยเล่น
หานเซี่ยวรีบแทรก เขายังไม่เสร็จธุระ ถ้าเขาปล่อยให้คนเหล่านี้ที่รู้จักกันเริ่มคุยกันหมดทุกคน เขาจะได้เริ่มเข้าเรื่องตอนไหน?
อืม จริง ไว้ค่อยคุยกัน นายคืนชีพเราด้วยจุดประสงค์หนึ่ง เกิดอะไรขึ้น? ผู้คืนชีพจากสหพันธ์แห่งแสงพูด นี่คือผู้ใช้พลังจิต ลูกหลานสายตรงซึ่งเป็นบรรพบุรุษของโอลู
คนที่ถามคำถามส่วนใหญ่คือสายตรงของสามอารยธรรมจักรวาล ผู้รวมตัวกันเอง ผู้คืนชีพที่เหลือมองการสื่อสารระหว่างสองฝ่ายและรับข้อมูลเงียบๆ สำหรับสายตรงสิบคนของกลุ่มดาวชั้นยอด พวกเขาหลบอยู่ด้านข้างและระมัดระวังสูง
เมื่อได้ยินคำถามนี้ สภาพจิตใจทุกคนตื่นตัว นี่คือสิ่งที่พวกเขากังวลสุด พวกเขากลัวว่าการคืนชีพจะไม่ใช่เจตนาดี
การคืนชีพไม่ใช่แค่ความคิดของฉัน สามอารยธรรมจักรวาลกับทั้งสังคมกาแล็กซี่มีความคิดเดียวกันกับผู้อยู่เหนือทุกคนในปัจจุบัน หานเซี่ยวหยุดแล้วพูดต่อ บ้านเกิดเราพบกับวิกฤตครั้งใหญ่ที่อารยธรรมจักรวาลจากต่างถิ่นเข้ามารุกรานโลกของเรา พลังของพวกมันเหนือจินตนาการและทรงพลังอย่างยิ่ง สงครามได้เกิดขึ้นแล้ว เราต้องการพลังของทุกคน!
สงครามระดับจักรวาล?!
สีหน้าทุกคนเปลี่ยนไป
นั่นจริง ถ้าไม่ใช่อันตรายระดับนี้ ก็ไม่จำเป็นต้องผ่านความยากลำบากมากมายเพื่อคืนชีพผู้อยู่เหนือทางประวัติศาสตร์ แต่ทว่า จากมุมมองส่วนตัว ผู้คืนชีพส่วนใหญ่ไม่พอใจที่โดนใช้
ผู้คืนชีพมองผู้อยู่เหนือนับร้อยตรงหน้าและในที่สุดก็เข้าใจสถานการณ์ ความยินดีของการถูกคืนชีพหายไป เต็มไปด้วยความโกรธแทน
ถ้าเราไม่เต็มใจ จะเกิดอะไรขึ้น?จะใช้กำลัง? ผู้อยู่เหนือเป็นกลางขมวดคิ้ว พูดด้วยความไม่พอใจ
หานเซี่ยวส่ายหัว ไม่ใช่อย่างนั้น เราจะพยายามโน้มน้าวทุกคน เราจะไม่บังคับใครให้เข้าร่วมการต่อสู้
ผู้คืนชีพคือบุคคลที่มีความคิดอิสระ ไม่ใช่ทาส การบังคับพวกเขาไม่ใช่ทางเลือก ไม่ใช่เพราะตัวตนที่ซับซ้อนของพวกเขาเท่านั้น แต่ยังเป็นเพราะความรู้สึกของผู้อยู่เหนือคนอื่นด้วย
การใช้ปืนเพื่อบังคับให้ผู้คืนชีพประนีประนอมจะทำให้เกิดผลสะท้อนมากมาย หนึ่งในนั้นคือทำให้ผู้อยู่เหนือคนอืนรู้สึกแบบเดียวกัน พวกเขากังวลว่าจะได้รับการปฏิบัติแบบเดียวกันหลังคืนชีพ มันจึงยากที่จะบอกได้ว่าสมาชิกสมาคมจะเต็มใจเข้าร่วมสักกี่คน
แน่นอนว่าคงมีผู้คืนชีพไม่มากที่เห็นด้วยกับการชักชวนผ่านวาจาอย่างเดียว แถม พลังคือส่วนที่ขาดไม่ได้ มันยากสำหรับสองฝ่ายและหานเซี่ยวก็ไม่มีทางเลือกอื่นนอกจากทำใจ นี่จัดการได้ยากกว่าผู้คืนชีพสองชุดแรก หานเซี่ยวได้เตรียมใจมานานแล้วสำหรับอุปสรรคนี้
ครั้งนี้ ผู้อยู่เหนือคนหนึ่งพูด
เราต้องถามเบื้องบนก่อน ช่วยส่งอุปกรณ์สื่อสารให้เราได้ไหม?
หานเซี่ยวมองเขาและจำได้ว่าเขาคือสมาชิกของกลุ่มดาวชั้นยอด เขาชื่อมาโบ้ และก็มีพลังต่อสู้โดดเด่นเช่นกัน มันน่าเสียดายที่เขาตายในโศกนาฏกกรรม
ได้ รับ
หานเซี่ยวไม่ปฏิเสธคำขอนี้ เขาหยิบอุปกรณ์สื่อสารขึ้นมาโยนให้มาโบ้ นี่คือเงื่อนไขข้อตกลงของเขากับกลุ่มดาวชั้นยอด ด้วยประสบการณ์อู้ฟู่ของกลุ่มดาวชั้นยอด พวกเขาจึงสงสัยว่าสามอารยธรรมจักรวาลอาจลอบทำบางสิ่งกับพลรบระดับสูงในช่วงสงคราม และดังนั้นจึงไม่ยอมให้ผู้อยู่เหนือที่คืนชีพเข้าร่วมในสงคราม หานเซี่ยวไม่คิดว่าผู้คืนชีพทั้งหมดของกลุ่มดาวชั้นยอดจะเข้าร่วมเช่นกัน
มาโบ้รับมัน พยักหน้า นำสมาชิกอีกเก้าไปติดต่อเบื้องบน
เป็นเวลาสักพัก ผู้คืนชีพส่วนใหญ่เงียบ พวกเขาสบตากันและลังเล
ครั้งนี้ รีวี่พ่นลมหายใจและพูด ในเมื่อจักรวรรดิลำบาก ฉันก็จะไม่เลี่ยงหน้าที่ มันแค่สงครามนี่?ตราบเท่าที่จักรวรรดิออกคำสั่ง ฉันเต็มใจจะช่วย
ใช่ ฉันด้วย.
ฉันได้ตายไปแล้ว ถ้าสหพันธ์ต้องการพลังของฉันเพื่อสู้กับศัตรู ฉันก็จะยอมแผดเผาตัวเองอีก ด้วยรีวี่ที่นำ สมาชิกสายตรงของสามอารยธรรมจึงเห็นด้วยและแสดงการสนับสนุน
เมื่อเห็น หานเซี่ยวก็ถอนหายใจโล่งอก
การสนับสนุนของสมาชิกสายตรงเป็นไปตามคาด พลรบระดับสูงที่ได้รับการปลูกฝังด้านการรักชาติจากสามอารยธรรมมีความน่าเชื่อถือและเต็มใจทำเพื่อจักรวาลสำรวจ
แต่ทว่า เนื่องจากมันเกี่ยวกับชีวิตที่สอง สิ่งต่างๆจึงไม่ราบรื่นนัก แม้หลายคนจะแสดงจุดยืน แต่ก็มีเสียงไม่เห็นด้วยเช่นกัน
แบล็คสตาร์ ฉันขอโทษ แต่เราไม่อยากสู้ต่อแล้ว
หานเซี่ยวกับคนอื่นมองไป และสีหน้าพวกเขาก็ต้องเปลี่ยน
คนที่พูดไม่ใช่ยอดฝีมือทางประวัติศาสตร์ แต่เป็นสมาชิกของสมาคมที่ตายในการต่อสู้ไม่นานมานี้ ชื่อของเขาคือการอซและเขาก็เคยมีปฏิสัมพันธ์กับหานเซี่ยวมาก่อน สมาชิกสมาคมคนอื่นที่ตายเองก็ตามหลังการอซมา พวกเขาตกลงกันแล้วและรวบรวมความกล้าที่จะสบตาหานเซี่ยว
ตามคาด แม้กระทั่งผู้อยู่เหนือที่เต็มใจเข้าร่วมการต่อสู้ก็ไม่อยากเสี่ยงตายอีก
หานเซี่ยวหรี่ตา แม้จะไม่แปลกใจ เขาก็ยังส่ายหัวและถอนหายใจ
อย่างไรก็ตาม ก่อนเขาจะได้ตอบ ผู้คืนชีพอีกคนก็ค้าน
ฉันขอโทษ แต่ฉันไม่คิดเข้าร่วมในสงครามนี้เช่นกัน
หานเซี่ยวหันไปด้วยความตกใจ
คนที่พูดไม่ใช่ใครนอกจากฮิลเบิร์ต เขาคือสมาชิกสายตรงคนแรกของสามอารยธรรมที่ปฏิเสธการเกณฑ์ทหารนี้
รีวี่มองเขาด้วยความแปลกใจ นาย…
ก่อนเธอจะพูดจบ ฮิลเบิร์ตก็โบกมือและแรก
ฉันได้สละชีวิตเพื่อสามอารยธรรมจักรวาลมาแล้วและทำหน้าที่จนลุล่วง ต่อให้ฉันจะเป็นลูกหลาน แต่ศาสนจักรก็ไม่สามารถขอให้ฉันมีส่วนร่วมได้อีก แม้แต่คนระดับบนก็ยังมีทางเลือกเกษียณ นอกจากนี้ ฉันตายไปแล้ว ทุกอย่างจึงเป็นอันหักล้าง ในที่สุดฉันก็ได้มีโอกาสครั้งที่สอง ฉันไม่สามารถทำงานเพื่อพวกเขาได้ไปตลอด
ทันทีที่เขาพูดแบบนั้น สมาชิกสายตรงหลายคนของอารยธรรมที่ยังกลืนไม่เข้าคายไม่ออกก็ตกตะลึง พวกเขารู้สึกว่าเขาพูดความจริงและพยักหน้าเห็นด้วย
แม้กระทั่งลูกหลายสายตรงของอารยธรรมที่แสดงจุดยืนไปแล้วก็ยังหวั่นไหวกับคำพูด
ลูกหลานสายตรงของสามอารยธรรมจักรวาลเดิมอยากเกลี้ยกล่อมเขา แต่หลังได้ยิน พวกเขาก็พูดไม่ออก
นี่ชักไม่สวย..
เมื่อเห็นฉากนี้ ผู้นำสามอารยธรรมจักรวาลที่ดูผ่านอุปกรณ์ทางไกลก็รู้สึกหัวใจบีบรัด