The Legendary Mechanic - ตอนที่ 1354 สุดโต่ง

ตอนที่ 1354 สุดโต่ง

　　ทันทีที่เขาพูด ผู้อยู่เหนือในห้องก็อดมองเขาด้วยความประหลาดใจไม่ได้ ผู้คืนชีพที่กำลังขึ้นยานเองก็ตกตะลึง

　　 นายพยายามจะทำอะไร? คาซูยิประหลาดใจ

　　‘มันแค่การประลอง ทำไมต้องทำสีหน้าแบบนั้น? 

　　เมื่อมองสีหน้าพวกเขา หานเซี่ยวก็รู้สึกช่วยไม่ได้

　　ผู้อยู่เหนือในปัจจุบันรู้ความสามารถเขาดี ต่อให้เขาอยากประลองกับใคร ก็มีไม่มากที่เต็มใจตอบสนอง ทั้งหมดฉลาดมากและปกป้องผลประโยชน์ตัวเองดี

　　นอกจากนี้ เขามีตำแหน่งพิเศษแล้ว และทุกการเคลื่อนไหวของเขาก็โดนจับตามอง มันทำให้คนคิดดมาก และมันก็ไม่สะดวกสำหรับเขาที่จะสู้กับคนของตัวเอง　　แต่ทว่า ผู้คืนชีพใหม่ไม่มีความประทับใจต่อเขาลึกซึ้ง พวกเขาอาจตอบตกลงและก็อาจมีโอกาสกระตุ้นภารกิจท้าทายผู้อยู่เหนือ มันคุ้มที่จะลอง สีหน้าของผู้คืนชีพหลายคนเปลี่ยนไป และพวกเขาก็คิดถึงบางสิ่ง แบล็คสตาร์ ในฐานะประธานสมาคมผู้อยู่เหนือกลับริเริ่มท้าทายพวกเขาจริง หรือว่าเขากลัวว่าพวกเขาจะไม่เต็มใจโดนกักบริเวณและมีความคิดอื่น เขาจึงอยากสอนบทเรียนพวกเขาและทำให้พวกเขาทำตัวดี?

　　ขณะคิด ช่องสื่อสารก็กลายเป็นเงียบ

　　เมื่อเห็นว่าไม่มีใครพูด หานเซี่ยวก็กระแอมและถาม ทำไมถึงหวงเนื้อหวงตัวกันจัง?ไม่มีใครอยากเล่นกับฉันเลย?

　　สงวนตัวบ้านแกสิ!แกต้องมีแรงจูงใจซ่อนเร้นแน่..

　　ผู้อยู่เหนือหลายคนกลอกตา

　　ตอนเอกอนโดนฆ่า พวกเขาได้เห็นปลายยอดน้ำแข็งของหานเซี่ยว แม้พวกเขาจะเพิ่งคืนชีพ พวกเขาก็ยังห่วงหน้าตัวเอง ทำไมพวกเขาถึงจะอยากโดนทุบตีเล่น?

　　ถ้าพวกเขาสามารถเอาชนะแบล็คสตาร์ได้ พวกเขาคงได้รับชื่อเสียง แต่ทว่า พวกเขายังไม่ฟื้นคืนสภาพสูงสุด และรู้ว่ามีคนไม่มากที่มีความมั่นใจจะเอาชนะผู้อยู่เหนือที่โดดเด่นสุดของยุคนี้ได้

　　แม้นิลฟ์กาดิ์จะตกลงประลองในอนาคต เขาก็ยังไม่มีทหารจักรกลสักกลุ่มตอนนี้ เขาจึงไม่มีเจตนาก้าวออกมา หลังรอกว่าสิบวินาที ก็ไม่มีใครตอบ

　　เมื่อเห็นว่าไม่มีใครพูด ออโรร่าจึงทำลายความเงียบ เอิ่ม..ไม่ต้องห่วงว่าจะเจ็บตัว ฉันจะรักษาเอง 

　　ฮีล่าแค่นเสียงและก้าวไปข้างหน้า ถ้านายคันมือมาก ฉันจะสู้กับนายเอง ทำไมต้องไปหาคนอื่นด้วย? 

　　เมื่อได้ยิน หานเซี่ยวก็หันไปมองสองสาว

　　สุดท้าย ก็มีคนรักษาหน้าฉัน พวกเธอสองคนยังรักฉัน　　คาซูยิหัวเราะ พยายามคลายบรรยากาศ เอาล่ะ เอาล่ะ แบล็คสตาร์ไม่ได้มีเจตนาร้าย ไม่ต้องกังวลนัก ถ้าไม่เต็มใจ ก็ลืมไป 

　　 จิ๊ นายทำเหมือนฉันกำลังกุมจุดอ่อนพวกเขา ช่างมัน ไว้ค่อยคุยตอนพวกนายพร้อม 

　　เมื่อเห็นว่าไม่มีใครให้ความสนใจกับคำเชิญ หานเซี่ยวไม่มีทางเลือกนอกจากหาทางออก คิดว่ามันจะยากขึ้นในการรับผลประโยชน์

　　ขณะที่เขากำลังจะเปลี่ยนเรื่องและไล่ทุกคน เสียงทุ้มก็ดังขึ้น

　　 ไม่จำเป็นต้องรออนาคต ฉันจะเป็นคู่ต่อสู้ให้นายเอง!’

　　ดวงตาหานเซี่ยวสว่างวาบ และรีบหันไปมอง เขาเห็นสิ่งีมีชีวิตรูปร่างกำยำ

　　นักสู้!

　　เขาอยู่นี่ เขาอยู่นี่ พวกหัวแข็ง! 　　ผู้คืนชีพทั้งหมดหันไปและจ้องชายคนนั้นด้วยความตกใจ

　　 เคอร์ นายคิดว่านายเป็นคู่ต่อสู้ของเขาจริงเหรอ? บางคนอดถามไม่ได้

　　 ฮึ่ม ฉันยังมีความตระหนักในตนเองอยู่ แต่ทว่า การเจอกับความยากลำบากคือเส้นทางยุทธ์ของฉัน!การไม่กล้าต่อสู้แม้จะไม่มีอันตรายต่อชีวิตจะทำลายความเชื่อของฉัน เนื่องจากฉันได้พบกับยอดฝีมือ ฉันก็จะใช้มันเพื่อฝึกตัวเอง! 

　　ใบหน้าของเคอร์เย็นชา เจตนาต่อสู้เขาพุ่งทะยาน

　　หานเซี่ยวประทับใจ

　　ตามคาดของนักสู้ พวกเขาไม่เคยทำให้เขาผิดหวัง!

　　เมื่อเห็นแบบนี้ ผู้คืนชีพหลายคนก็พูดไม่ออก เขารู้ว่าแบล็คสตาร์อาจอยากสร้างความโดดเด่น แต่เขาก็ยังพุ่งไปข้างหน้า มีแค่นักสู้ถึงทำอะไรแบบนี้　　ทุกคนทิ้งระยะห่างเงียบๆจากเคอร์ กลัวว่าพวกเขาจะติดโรคไปด้วย

　　 ในเมื่อตกลง งั้นก็มา 

　　หานเซี่ยวแทบรอไม่ไหวที่จะบินออกห้อง กลัวว่าเด็กนี่จะกลับคำพูด

　　เคอร์เป็นแค่ผู้อยู่เหนือเป็นกลางธรรมดา ต่อให้เขาจะไม่ใช่ยอดฝีมือ เขาก็ยังเป็นผู้อยู่เหนือ ไม่ว่าผลประโยชน์ที่ได้รับจากเขาจะน้อยแค่ไหน หานเซี่ยวก็ยังได้รับ ไม่ว่ายังไง เขาไม่จู้จี้ และแค่เพราะเขาเป็นผู้อยู่เหนือธรรมดาไม่ได้หมายความว่าเขาไร้ความสามารถ เหนือสิ่งอื่นใด เขามีพรสวรรค์การปั้นมากมายที่ดึงจากผู้ใช้พลังธรรมดา

　　 รอก่อน เราจะใช้อะไรเป็นการเดิมพัน? เคอร์ถาม

　　 นายอยากได้อะไร? 

　　 ถ้าฉันล้มนายได้ นายจะต้องเลิกกักบริเวณฉัน เคอร์พูด

　　ครั้งนี้ แม้แต่หานเซี่ยวที่รู้นิสัยของนักสู้ก็ยังแปลกใจและทุกคนก็ตกตะลึง

　　ไม่มีทางที่แกจะคิดว่าแกเหนือกว่าผู้อยู่เหนือระดับสูงสุดจริงหรอกใช่ไหม

　　ถ้าแกอยากสู้ซึ่งๆหน้า เรายังยอมรับได้โดยใช้ศัตรูแข็งแกร่งเพื่อฝึกตัวเอง แต่แกคิดจริงๆว่าจะมีโอกาสชนะ?แกประเมินตัวเองสูงเกินไป!

　　ราวกับสังเกตเห็นความสับสนของหานเซี่ยวและพวกเขา เคอร์พูด

　　 แม้โอกาสจะไม่สูง การตั้งเป้าหมายก็สามารถกระตุ้นศักยภาพฉันและช่วยให้ฉันปลดปล่อยพลังที่เหนือกว่าได้!ความแตกต่างระหว่าพลังเราสูงมาก ฉันจึงต้องใช้ปัจจัยภายนอกทั้งหมดเพื่อเสริมพลังฉัน! 

　　 นาย.บริสุทธิ์จริงๆ 

　　หานเซี่ยวไม่รู้จะพูดอะไร

　　ทุกคนกลับไปยานเพื่อดูการต่อสู้

　　บนสนามรบ ตัวของเคอร์เต็มไปด้วยไฟ เขาพร้อมสู้ เขาเผชิญหน้ากับหานเซี่ยวจากระยะไกลและกลิ่นอายก็จับเข้ากับตัวหานเซี่ยว

　　กลิ่นอายของนักสู้ไม่เลว แต่ความแตกต่างในพลังสูงไป หานเซี่ยวได้พยายามเต็มที่ที่จะรู้สึกถึงมัน แต่เขาก็แทบไม่รู้สึกถึงอันตรายเลย ในสายตาเขา มันเหมือนลูกแมวที่ตวัดกรงเล็บใส่เขา มันไม่ดุร้ายแต่น่ารักซะมากกว่า

　　หานเซี่ยวมองหน้าต่างสถานะและภารกิจท้าทายผู้อยู่เหนือก็ปรากฏขึ้น ด้วยการรับชมของผู้อยู่เหนือมากมาย อิทธิพลของพวกเขาย่อมถึงมาตรฐานกระตุ้นภารกิจ

　　ภารกิจยังคงเป็นทนให้ได้ รางวัลสำหรับระดับสูงสุดคือสุ่มความสามารถ แน่นอน ข้อกำหนดนี้ไม่ยากสำหรับเขาเลย ตรงกันข้าม เขาสงสัยว่าเคอร์จะทนได้นานแค่ไหนในมือเขา…

　　 งั้น ความยากครั้งนี้ก็โกหก 20 นาทีนี่สบายๆ คาคาซุเก่งเรื่องนี้ ฉันจึงใช้มันเป็นตัวอ้างอิงได้  　　ใบหน้าหานเซี่ยวกระตุก

　　มันเป็นฉันหรือเคอร์ที่กำลังทำภารกิจท้าทาย?

　　 ฉันมาแล้ว! 

　　กลิ่นอายของเคอร์พุ่งถึงจุดสูงสุด เขาพลันส่งเสียงคำราม ไฟบนตัวขยายและเขาก็ผลักฝ่ามือไปข้างหน้า ระเบิดคลื่นพลังใส่ไม่หยุดเหมือนโซ่สีเหลือง

　　ตัวของหานเซี่ยวไม่ขยับ และปืนใหญ่ลอยก็ปรากฏด้านหลังเขา มันยิงลำแสงหนาแน่นออกมา ทำลายคลื่นอัดกระแทกทั้งหมดเมื่อเห็น ตัวของเคอร์ก็สั่น เขาพลันพ่นร่างแยกไฟนับสิบออกมาพุ่งใส่หานเซี่ยว เขาไม่รีบแต่กลับยกฝ่ามือเขาพร้อมกันเพื่อรวบรวมพลัง

　　หานเซี่ยวกำหมัด ชกสองด้าน สนามพลังรุนแรงทำงานโดยชุดจักรกล ทำลายร่างแยกทั้งหมด

　　ครั้งนี้ เคอร์ได้สะสมพลังเสร็จแล้ว ออร่านักสู้ของเขาส่องสว่างระหว่างมือและเขาก็พลันพุ่งไปข้างหน้า

　　คลื่นแสงนักสู้สีเหลืองล้อมด้วยออร่าแหลมยิงออกใส่หานเวี่ยวเหมือนกระบี่แสง ร่วมกับพลังงานพลุ่งพล่านจากเสียงตะโกนของเคอร์ในช่องสื่อสาร

　　 ย้ากก!หมัดถล่มกาแล็กซี่ รูปแบบที่สาม! 

　　เมื่อได้ยินชื่อแสนหน้าด้าน หานเซี่ยวก็รู้สึกว่าแม้กระทั่งคลื่นแสงนักสู้ยังแข็งแกร่งกว่า

　　นี่คือการต่อสู้!การตะโกนชื่อระหว่างการโจมตีจะได้รับโบนัส!

　　มุมปากหานเซี่ยวกระตุก เขาระงับความปรารถนาที่จะหลุดขำออกมาและยกมือขึ้นเพื่อเรียกม่านพลัง

　　วินาทีต่อมา คลื่นแสงนักสู้สีเหลืองก็กระแทกกับม่านพลังไซโอนิคและแสงก็ระเบิด

　　คลื่นกระแทกสลายตัว หานเซี่ยวไม่สะทกสะท้านและม่านพลังก็กะพริบไม่กี่ครั้งก่อนมั่นคง

　　สีหน้าเคอร์เปลี่ยนไป เขาพูด

　　 นายถึงกับใช้การป้องกันที่แข็งแกร่งแบบนั้น ตามคาด กระบวนท่านี้ทำลายการป้องกันนายไม่ได้ แต่มันจะไม่ง่ายขนาดนั้นหรอก! 

　　หานเซี่ยว … 

　　ฉันใช้แค่ม่านพลังพื้นบาน มันกลายเป็นสุดยอดการป้องกันตอนไหน?เมื่อเห็นว่าเคอร์จะพ่นคำตอแหลเพิ่ม หน้าหานเซี่ยวก็ชาด้าน เขาเปิดกล่องกองทัพมิติที่สอง เขาไม่คิดเรียกกองทัพมารังแกคนอื่น เขาจึงแค่ดึงอาวุธอัครฑูตออกมา

　　 ธงข่มสวรรค์ ไปจัดการเขา 

　　ธงข่มสวรรค์พยักหน้า หยิบโล่กับขวานหนักออกมาและกระโจนใส่เคอร์ หนึ่งชายหนึ่งเครื่องจักรกลพลันพัวพันกัน

　　หานเซี่ยวไม่แทรกแซง เขายืนด้านข้างมองธงข่มสวรรค์สู้กับเคอร์ลำพังขณะนับเวลาเงียบๆ

　　ด้วยการเสริมโบนัสพลังจักรกลของเขา อาวุธอัครฑูตสามารถสู้กับผู้อยู่เหนือระดับสูงได้แล้วและการสู้กับผู้อยู่เหนือธรรมดาก็ไม่ใช่ปัญหาเลย

　　ทั้งสองฝ่ายสู้กันอย่างรุนแรงและในที่สุดก็ครบ 20 นาที หลังเห็นว่าตรงกับข้อกำหนด หานเซี่ยวก็ลงมือและตบเคอร์ง่ายๆ ด้วยความแตกต่างด้านพลัง มันจึงไม่มีความตื่นเต้นอะไรเลย

　　 เอาละ นายคงพอใจแล้ว นายควรฝึกเพิ่ม..ใครอยากสู้กับฉันอีก? 

　　หานเซี่ยวไม่ได้ทุ่มสุดตัว ใช้วิธีควบคุมเพื่อจัดการเคอร์ เขาหันไปมองยานอวกาศ

　　ช่องสื่อสารเงียบ ไม่มีใครตอบ

　　พวกเขาคิดว่าแบล็คสตาร์จะเอาชนะเคอร์ด้วยความเร็วสายฟ้า แต่พวกเขาสู้กันถึงยี่สิบนาที แต่ทว่า พวกเขารู้ว่าแบล็คสตาร์จงใจให้เคอร์ได้แสดงพลัง สำหรับเขา นี่ไม่ใช่การอุ่นเครื่องด้วยซ้ำ

　　ผู้คืนชีพหลายคนคิดและรู้สึกว่าพวกเขาเข้าใจ แบล็คสตาร์อาจรู้สึกว่าช่องว่างระหว่างเขากับเคอร์สูงไป และการเอาชนะในทีเดียวคงไม่ส่งผล แถม มันดูเหมือนเขาจะใช้พลังเพื่อรังแกคนอ่อนแอ ดังนั้น เขาจึงตัดสินใจใช้วิธีการเพื่อแสดงให้คนอื่นเห็นว่าอาวุธอัครฑูตตนเดียวก็สู้กับผู้อยู่เหนือธรรมดาได้ซึ่งๆหน้าแล้ว เป็นการอวดพลังของเขาทางอ้อม

　　ส่วนหนึ่งรู้สึกว่าพวกเขาเห็นความจริง แม้พวกเขาจะรู้สึกว่ามองแผนของแบล็คสตาร์ออก พวกเขาก็ต้องยอมรับว่าพลังของแบล็คสตาร์สูงล้ำจริง ถ้าอาวุธอัครฑูตยังสู้กับผู้อยู่เหนือธรรมดาได้ งั้นสิบอาวุธอัครฑูตก็เท่ากับสิบผู้อยู่เหนือ?น่ากลัวมาก!

　　 ในเมื่อไม่มีใครสนใจสู้ งั้นก็กลับกัน’

　　หานเซี่ยวรอสักพัก พอเห็นว่าไม่มีใครพูดเ เขาก็รู้ว่าเขาคงหลอกใครไม่ได้อีก เขาปล่อยการควบคุมเคอร์และกลับยาน　　เคอร์นวดไหล่เขา แต่เขาไม่ได้หดหู่ เขากลับรู้สึกว่าหลังการทรมานรอบนี้ ความทนทานเขาเพิ่มและความเชื่อของเขาในวิชายุทธ์ก็หนักแน่นขึ้น วงจรสมองของเขาแตกต่างจากคนธรรมดา ด้วยเหตุการณ์นี้ ทุกคนจึงกลับฐานโดยไม่พูดอะไร จากนั้นก็แยกย้ายกลับพื้นที่พวกเขา

　　หานเซี่ยวเปลี่ยนใช้ชุดราขา ย้ายกลับไปฐานกองทัพในโลกริบหรี่ เขามองหาเฟย์ดินและเนโร่เพื่อหาโชคก่อนกลับห้อง

　　เฟย์ดิน เนโร่ คาร์ล็อตกับเจ้าหน้าที่มีศักยภาพคนอื่นที่ยังไม่ถึงระดับผู้อยู่เหนือไม่ถูกส่งไปแนวหน้าและยังฝึกอยู่ แน่นอน เขามีแรงจูงใจเห็นแก่ตัว ถ้าเขายอมให้เมล็ดพันธุ์ผู้อยู่เหนือไปตายที่แนวหน้าเป็นจำนวนมาก มันจะไม่คุ้ม สถานการณ์ปัจจุบันยังไม่ถึงจุดที่พวกเขาต้องเติมเต็มช่องว่าง

　　 หวังว่าฉันจะได้สิ่งที่เหมาะสม แม้เคอร์จะขยะ เขาก็ยังมีของดี…

　　หานเซี่ยวเห็นค่าสถานะของเคอร์มาก่อนมันเป็นเหมือนการสุ่มรางวัล เขาถูมือและเลือกรับภารกิจ

　　วินาทีต่อมา หน้าต่างสถานะก็แสดงว่าภารกิจลุล่วง หานเซี่ยวข้ามรางวัลพื้นฐานและมองการแจ้งเตือนด้านล่าง

　　(ท่านได้รับรางวัล : สุ่มหนึ่งในความสามารถ/พรสวรรค์ของโคเลอร์]

　　หมายเหตุ : โคเลอร์คือนักสู้ ส่วนหนึ่งของความสามารถจะปรับให้เข้ากับสายท่าน

　　กำลังสุ่ม..สำเร็จ!

　　โปรดเลือกหนึ่งในห้าตัวเลือกด้านล่างเป็นรางวัล

　　[หัวโหม่ง-รูปแบบหนึ่ง] -ความสามารถ : กระแทกเป้าหมายด้วยหน้าผากอันแข็งแกร่ง +25%พลังโจมตี พลังป้องกันของหัวจะเพิ่มขึ้นชั่วคราว 250% มีโอกาสทำให้ติดสถานะมึนงง และดีบัฟอื่นต่อตัวท่านหรือศัตรู คูลดาวน์ 14 วินาที

　　(ปืนใหญ่กลุ่มอีกา) ความสามารถ : เป็นเวลา 5 วินาที +120%ความเร็วการโจมตีระยะไกล -30%พลังโจมตี และโอกาสได้รับสถานะ(กลับบ้าน)ทุกครั้งที่โจมตีทางไกล3-5% คูลดาวน์ 355 วินาที

　　[ผู้ท้าทายแสนแข็งกร้าว) พรสวรรค์ : เมื่อเจอศัตรูที่มีระดับสูงกว่าท่าน ค่าสถานะทั้งหมดจะเพิ่มขึ้น3%-15% ขึ้นอยู่กับความแตกต่างระดับ

　　(ขยายการโจมตีต่อเนื่อง) พรสวรรค์ : การโจมตีต่อเนื่องมีความเสียหายเพิ่มขึ้น สูงสุดถึง12% 

　　(พันธะมังกรฟ้า)ความสามารถ : ศัตรูจะโดนจำกัดให้สู้ระยะประชิด จับทั้งสองฝ่ายไว้ ระยะเวลาของการหลบหนีขึ้นอยู่กับความแตกต่างด้านพละกำลังและความทนทาน ระยะเวลาต่ำสุดของการควบคุมคือ 2 วินาที