The Legendary Mechanic - ตอนที่ 681-682
ตอนที่ 681 จุดอ่อนของแบล็คสตาร์
สถานีอวกาศขนาดมหึมาสีดำลอยในอวกาศภายนอกมันถูกติดตั้งด้วยแถวปืนป้องกันระดับดาวเทียม ป้อมปราการดาวเทียม9แห่งล้อมรอบสถานีวอากาศ
นี่คือสถานีไฮเปอร์ไดรฟ์T-04ซึ่งเป็นเป้าหมายของการโจมตี
ครั้งนี้ทามาเรียและพวกระดับสูงในห้องประชุมฐานต่างเข้าร่วมการประชุมระยะไกล
ผู้บัญชาการสงครามจอร์ดปรากฏบนจอ
‘ตามแหล่งข้อมูลสิบเอ็ดวันก่อน แบล็คสตาร์ได้ออกศูนย์ใหญ่เขา เราเดาว่าเขาคงจะกลับมาสนามรบ ทุกคนต่างให้ความสนใจกับเขา”จอร์ดกล่าวด้วยน้ำเสียงจริงจัง
ผู้บัญชาการของแดนหลั่งเลือดทั้งหมดในสามระบบดาวล้วนเข้าประชุมแบล็คสตาร์ได้กลับสนามรบแล้ว นี่คือเหตุผลที่การประชุมถูกจัดขึ้น หลังการต่อสู้ของแบล็คสตาร์กับเหล่าขุนพล จอร์ดก็ให้ความสนใจกับหานเซี่ยวเป็นอย่างมาก
แม้คนๆเดียวจะไม่อาจชี้ทิศทางสงครามได้แบล็คสตาร์ก็นับเป็นตัวอันตราย มันนับเป็นเรื่องจำเป็นในสายตาจอร์ด
“ตามข่าวลือและการต่อสู้กับแปดขุนพลผมได้จัดเตรียมข้อมูลแบล็คสตาร์ไว้แล้ว ผมจะส่งมันให้พวกคุณทีหลัง”จอร์ดกล่าว
เขาเชื่อมั่นว่าการรู้จักศัตรูย่อมทำให้ได้เปรียบผลึกม่วงวางตำแหน่งแบล็คสตาร์ไว้สูงมาก ข้อมูลชุดนี้สามารถทำให้แน่ใจว่าทุกคนจะรู้เกี่ยวกับศัตรู หากพวกเขาถูกโจมตี พวกเขาจะรู้วิธีจัดการกับแบล็คสตาร์
การประชุมจบลงอย่างรวดเร็วและผู้บัญชาการของสถานีT-04ก็ได้รับข้อมูล เขาดูมันไม่กี่วิก่อนทามาเรียจะเดินไปหาเขาและคว้าอุปกรณ์สื่อสารไปดเอง
ผู้บัญชาการสถานีพูดไม่ออกตำแหน่งของทามาเรียในฐานสูงกว่าเขา ผู้หญิงผิวเขียวคนนี้ไม่ได้เป็นแค่หัวหน้าของเหล่าภัยพิบัติกว่าสิบ แต่ยังเป็นที่ปรึกษา นอกจากการเชื่อฟังคำสั่งเขาในระหว่างต่อสู้ เธอไม่เคยสนใจเขาเลย ผู้บัญชาการสถานีจึงชินแล้ว
ทามาเรียชำเลืองมองก่อนยิ้มเยาะและโยนทิ้ง
“ฉันก็สงสัยตั้งนานว่าแบล็คสตาร์จะแน่สักแค่ไหนแต่มันกลับเป็นว่าเขารับมือได้ง่ายๆ..”
ผู้บัญชาการสถานีหยิบมันขึ้นและก็เข้าใจทันที
จอร์ดได้เพิ่มวิธีจัดการกับแบล็คสตาร์มาในข้อมูลด้วย
อันที่จริงผลการต่อสู้ของแบล็คสตาร์กับแปดขุนพลนับว่าน่าทึ่ง แต่ทว่า หลังวิเคราะห์ จุดอ่อนของแบล็คสตาร์ก็เด่นชัด ความสามารถโจมตีเขามีจำกัด ผ่านการต่อสู้ เขาล้วนถูกสะกดข่มโดยแปดขุนพล แค่อยู่รอดได้เพราะกายอมตะ
แม้จะลือกันว่าแบล็คสตาร์ใช้พลังงานไซโอนิคได้แล้วก็ยังมีช่างกลมากมายทั่วจักรวาลที่ใช้มันได้ มันห่างไกลกับความเป็นไปไม่ได้ที่จะจัดการ
แถมอาวุธไซโอนิคเชิงกลยุทธ์ก็เหมือนกับอาวุธนิวเคลียร์ทางอวกาศ แม้กระทั่งอารยธรรมกลุ่มดาวก็จะไม่ใช้พวกมันเว้นแต่จะไม่มีทางเลือก และพวกเขาก็ย่อมไม่ใฃ้ในสงครามลับนี้ เว้นแต่แบล็คสตาร์จะอยากไปเยือนศาลทหารของอารยธรรมจักรวาลทั้งสามและถูกขังนับร้อยปี เขาจะไม่ใช้พลังงานไซโอนิคแรกเริ่ม
ด้วยเหตุผลหลายประการจอร์ดจึงมีรายละเอียดวิธีจัดการแบล็คสตาร์ไว้ด้วย ทั้งหมดที่พวกเขาต้องทำคือส่งภัยพิบัติมากประสบการณ์หนึ่งหรือสองคนและภัยพิบัติทั่วไปสามถึงห้าคนไปทำลายกองทัพจักรกลของแบล็คสตาร์ จากนั้นแบล็คสตาร์ก็จะไร้ประโยชน์ในสงคราม
ตามวิธีที่องค์กรของเซ็คชั่นซีโร่พยายามหลีกเลี่ยงการเสียพลรบระดับสูงตราบเท่าที่แบล็คสตาร์ถูกจัดการ ภัยคุกคามของคนอื่นก็จะลดลงมาก
ไม่แปลกใจที่ทามาเรียจะดูถูกแบล็คสตาร์ไม่ได้จัดการยากอย่างที่พวกเขาคิด
“อย่างไรก็ตามร่างกายของแบล็คสตาร์ก็สุดยอดมาก”ทามาเรียแยกเขี้ยว และน้ำเสียงก็เต็มไปด้วยความปราถนา”ฉันสงสัยว่าฉันจะได้รับความสามารถเขาไหมหลังฉันกินเขา”
วัฒนธรรมเผ่าของทามาเรียป่าเถื่อยมากพวกเขาเชื่อว่าจะได้รับพลังของศัตรูโดยการกินเนื้อสดๆและการกินศัตรูที่แข็งแกร่งจะทำให้พวกเขาแกร่งขึ้น ทามาเรียสนใจร่างกายของหานเซี่ยวมากและอยากกลืนเขาทั้งตัว
ฮึม!
ครั้งนี้สัญญาณเตือนของฐานดังขึ้น สีหน้าทุกคนเปลี่ยนไปขณะรีบวิ่งไปประจำตำแหน่ง
เมื่อเห็นผู้บัญชาการกลับมาบางคนก็รีบรายงาน”ท่านครับ ฐานดาว4ถูกโจมตี กำลังขอกำลังเสริมจากฐานอื่น นี่คือข้อมูลของยานศัตรูที่เรดาห์จับได้ครับ”
ฐานไฮเปอร์ไดรฟ์T-04คือแกนกลางที่รักษารูหนอนในฐานทั้ง12การขอกำลังเสริมจะถูกรายงานมาที่นี่ หลังอนุมัติ เส้นทางก็จะเปิด งานของสถานีคือการดูทุกอย่าง
ผู้บัญชาการสถานีรีบดูรายงานและกล่าว”ฐานไหนที่ตอบสนอง?”
“16 9 และ12ครับ”
“เปิดช่องทาง12”ผู้บัญชาการไม่ลังเลเลย
ทีมปฏิบัติการพยักหน้าและทำตามคำสั่ง
ผ่านหน้าต่างของสถานีลำแสงสีฟ้านับพันยิงจากอุปกรณ์พิเศษสองตัวของสถานี สร้างเป็นรูหนอนทรงกลมสีน้ำเงินเข็มสองด้าน พลังงานที่ขอบรูหนอนกระเพื่อม ขยายและค่อยๆมั่นคง รูหนอนทั้งสองเรียงตัวกันในทั้งตำแหน่งและขนาด
วินาทีถัดมาแสงไฮเปอร์ไดรฟ์ก็ยิงออกจากรูหนอนด้านซ้ายเข้ารูหนอนขวา นี่คือกองยานกำลังเสริม ใช้เวลาไม่ถึงสามสิบวินาทีในการโยกย้าย
“เรียบร้อย”ผู้บัญชาการสถานีพยักหน้า
แต่ก่อนจะได้หายใจดาวทั้งสามจาก12ก็เปลี่ยนเป็นสีแดงบนหน้าจออีกครั้ง ส่งสัญญาณว่าถูกโจมตี!
“หืม?นี่ไม่ใช่การโจมตีทั่วไป!”
สีหน้าของผู้บัญชาการสถานีเปลี่ยนไปเขารีบออกคำสั่ง”สถานีไฮเปอร์ไดรฟ์T-04เตรียมรับมือ เปิดใช้งานป้อมปราการดาวเทียมทั้งหมด และส่งกองยานออกไป ศัตรูอาจปรากฏได้ทุกเมื่อ!”
สัญญาณเหล่านี้เป็นเรื่องปกติเมื่อมีการโจมตีฐานผู้บัญชาการฐานตอบสนองอย่างรวดเร็วและพบว่าเป้าหมายของเซ็คชั่นซีโร่คือฐาน
เซ็คชั่นซีโร่ได้แยกกองกำลังพวกเขามาสองเดือนตอนนี้ ในที่สุดผลกระทบก็เผย พวกเขาเลือกสถานีฐานไฮเปอร์ไดรฟ์T-04เป็นเป้าหมายโต้ตอบเพราะพื้นที่นี้มีกองทหารจำกัดและยังไม่ได้สร้างประตูดาวระยะไกล
ทุกคนในฐานเริ่มลงมือทามาเรียหรี่ตาและยืนขึ้น เธอไม่เพียงไม่ประหม่า แต่ยังรู้สึกตื่นเต้น
“เยี่ยมในที่สุดก็มีคนให้สู้ ฉันไม่ได้ออกกำลังมานานแล้ว”
ในไม่ช้าฐานเหล่านี้ก็ถูกโจมตีและร้องขอกำลังเสริม แม้จะรู้ว่านี่เป็นแผน ผู้บัญชาการสถานีก็ไม่มีทางเลือกนอกจากต้องส่งกองกำลังไป
ขณะที่พวกเขากำลังกังวลเรดาห์ก็แผดเสียงดัง
“คำเตือน!คำเตือน!เป้าหมายที่ไม่รู้จักจำนวนมากกำลังเข้าใกล้!”
พวกเขามองช่องหน้าต่างซึ่งตอนนี้ปรับให้มองไกลได้มากขึ้น กระแสแสงของไฮเปอร์ไดรฟ์หยุดและแสดงกองยานเซ็คชั่นซีโร่
“มาแล้ว!”ผู้บัญชาการกัดฟัน
“ในที่สุด!”ทามาเรียกำหมัดแน่นและเดินออกไป
…
สถานีT-04อยู่ในสายตาและป้อมปราการดาวเทียมติดอาวุธก็ทำงาน
“กองยานศัตรูเตรียมการเรียบร้อยแล้วดูเหมือนว่าพวกเขาจะเดากลยุทธ์เราออก”
มอเร็ดมองภาพฉายและไม่สนใจเขาไม่คิดว่ากลยุทธ์เรียบง่ายแบบนี้จะหลอกศัตรูได้ มันแค่ต้องมีประสิทธิภาพ
“เวลามีจำกัดทุกหน่วย โจมตี!”
เมื่อได้รับคำสั่งกงอยานก็เร่งความเร็วและรุกคืบ ผ่านเรดาห์ ทั้งสองฝั่งเริ่มยิงใส่กัน ลำแสงปืนใหญ่อนุภาคเต็มไปด้วยอวกาศมืดมิด
ป้อมปราการดาวเทียมทั้งเก้าก่อตัวเป็นโล่รูปทรงแปลกๆปกป้องสถานีฐานไว้
มีทีมโจมตีสามทีมกำลังเสริมปรากฏจากสองทิศทางและกระจายการโจมตี แรงกดดันของกองยานมอเร็ดลดลงมาก
ทีมของหานเซี่ยวติดตามมอเร็ดด้วยกลมกลืนภายในกองยาน
ระยะห่างระหว่างสองฝ่ายยังกว้างพวกเขายิงใส่กันในระยะไกลและยังไม่เข้าสู่การต่อสู้ระยะประชิด หานเซี่ยวพลันได้รับการสื่อสารของมอเร็ด
“แบล็คสตาร์คุณเป็นป้อมปราการทั้งเก้าไหม?พวกมันคือแหล่งพลังงานของม่านพลังสถานีฐาน ม่านพลังประเภทนี้แข็งมาก และเราก็ไม่มีเวลาจะทำลายมันช้าๆ ผู้บัญชาการของอีกสองทีมและผมได้หารือกัน เราวางแผนส่งทีมหนึ่งไปขึ้นป้อมปราการศัตรูและทำลายพวกมัน!”
มอเร็ดรีบพูดสิ่งที่เขาหมายถึงคือตราบเท่าที่ป้อมปราการดาวเทียมสักอันระเบิด ม่านพลังก็จะเกิดรูขึ้น ก่อนป้อมปราการดาวเทียมอื่นจะเข้าไปอุดช่องโหว่ พวกเขาก็จะสามารถใช้โอกาสนี้เพื่อโจมตีได้ ภารกิจจะสำเร็จเมื่อสถานีฐานถูกทำลาย
พวกเขาไม่มีเวลามากนักในปฏิบัติการนี้ ทีมยับยั้งและทีมหลอกมีจำนวนมากสุด เมื่อกำลังเสริมศัตรูถูกแบ่งตอนฐานเหล่านี้เจอกับแรงกดดันมากพอ แบบนี้ ทีมศัตรูจึงเหลือป้องกันฐานไม่มาก พวกเขาต้องใช้โอกาสตอนศัตรูถูกแยกและทำลายฐาน
“ไม่มีปัญหาทีมผมจะไม่ตามผม ผมจะลงมือคนเดียว”
ภารกิจบนหน้าต่างสถานะเปลี่ยนเป็น’ทำลายป้อมปราการดาวเทียม’
หานเซี่ยวพยักหน้าและยอมรับเขาปล่อยให้ริสด้าควบคุมยาน จากนั้นก็กระโดดอออกยาน เปิดใช้ชุดจักรกลลิงภูเขาและปรับเป็นโหมดท่องอวกาศ เขาบินหลบบริเวณปะทะและตรงไปดาวเทียมจากด้านข้าง
ทีมอื่นเองก็ตรงไปดาวเทียมอื่นและอีกสองทีมก็ส่งยานไปด้วย หานเซี่ยวลงมือลำพัง ตราบเท่าที่เขาไปถึงป้อมปราการดาวเทียมได้ เขาก็จะทำลายมันได้อย่างรวดเร็ว
ฉันเร็วขึ้นและเป้าก็เล็กลงเมื่อลงมือลำพังแถม ด้วยชื่อฉัน มันง่ายที่จะควบคุมพลรบระดับสูงศัตรูหากลงมือลำพัง
ในวิสัยทัศน์เขาป้อมปราการดาวเทียมเล็กๆดูใหญ่ขึ้น เขาสามารถเห็นได้ชัดถึงโครงสร้างจักรกลบนผิวป้อมปราการดาวเทียม ไม่ช้า กองยานที่ปกป้องก็พบเขา และปืนใหญ่บางอันก็ยิงใส่เขา
ด้วยหน้าจอยุทธวิธีที่เตือนเขาถึงทิศทางของปืนใหญ่อนุภาคพลังงานสูงหานเซี่ยวได้หลบเต็มกำลังแ บางครั้งก็ใช้ม่านพลังไซโอนิคและป้องกัน
ไม่นานหานเซี่ยวก็ตรงไปในกองยานป้องกัน พุ่งผ่านระหว่างกองยานศัตรู
ด้วยสมองเขาที่ทำงานเต็มกำลังเขาจึงประมวลข้อมูลมหาศาลได้เร็วมาก หานเซี่ยวไม่มีเวลาสนใจโลกภายนอก เขามุ่งเน้นการรับมือกับการโจมตีจากทุกทิศทาง หลังผ่านไประยะเวลาหนึ่ง เขาก็รู้สึกว่าแรงกดดันนั้นเบาลงมาก!
หานเซี่ยวหันไปและเห็นโดยไม่รู้ เขาได้ทะลุแนวป้องกันทั้งหมดแล้ว ไกลออไป มอเร็ดและอีกสองทีมยังสู้ระยะประชิดกับกองยานสถานี แยกความสนใจศัตรูและลดความหนาแน่นการโจมตีทางฝั่งหานเซี่ยว
ในที่สุดก็มีเพื่อนร่วมทีมดีๆ
ดวงตาหานเซี่ยวเป็นประกายโดยไม่ล่าช้า เขามุ่งตรงไปป้อมปราการดาวเทียม
ป้อมปราการดาวเทียมเป็นทรงกลมมันดูเหมือนดาวขนาดเล็กจากภายนอก มันมีขนาดไม่ถึง1%ของดาวอความารีน มันฟังดูเล็ก แต่เมื่อมองใกล้ๆ หานเซี่ยวรู้สึกว่ามันไม่ต่างจากดาวทั่วไป
ม่านพลังสีฟ้าหยุดเขาไว้ด้านนอกหนาเซี่ยวกดลงบนม่านพลังและเร่งพลัง ม่านพลังภายในร้อยเมตรเริ่มกระเพื่อมด้วยความถี่สูง แสงมันเริ่มหม่น และระดับพลังงานมันก็ลดลง ประมาณว่าม่านพลังมาถึงจุดวิกฤติ อีกแขนของหานเซี่ยวเปลี่ยนเป็นปืนใหญ่ไซโอนิคและยิง!
ด้วยการระเบิดสีฟ้ารูกว้างสามสิบเมตรปรากฏบนม่านพลัง เทียบกับทั้งม่านพลัง รูนี้ดูเล็กไป แต่มันก็มากพอให้หานเซี่ยวเข้าไป
หานเซี่ยวมองรอบๆรูกำลังหด มันกำลังซ่อมตัวเอง เขาเรียกกล่องกองทัพ20กล่องออกมาและเข้าไปก่อนรูจะปิด
ป้อมปราการดาวเทียมนี้มีบรรยากาศเทียมสำหรับช่างซ่อมบำรุงหานเซี่ยวรีบลอยลงบนผิวมัน
เมื่อลงพื้นเขาก็มองรอบๆ รอบเขาเป็นภูมิทัศน์จักรกลเย็นชาและไร้ชีวิต
“คำเตือนฮึม!ตรวจพบแหล่งพลังงานปฏิกิริยาสูงห้าแหล่ง!”
หานเซี่ยวหรี่ตา
ตงขอบฟ้ามีศัตรูห้าคนกำลังเข้ามา คนตรงหน้าสวมชุดจักรกลหนักดุร้ายและแบกขวานจักรกลสีดำทองขนาดใหญ่ไว้บนบ่า
เกร๊ง!
เกราะใบหน้าของคนๆนี้เปิดเผยให้เห็นใบหน้าดุร้ายและผมสั้นสีทอง มันคือคนที่มอเร็ดเตือนหานเซี่ยวให้ระวัง ตุลาการของแดนหลั่งเลือด ทามาเรีย
“ฉันรอแกมานานแล้ว”
ทามาเรียจ้องหานเซี่ยวและยิ้ม
เมื่อเธอเห็นแบล็คสตาร์เธอก็ยินดีมาก เธอตามเส้นทางหานเซี่ยว พาคนมายังดาวเทียมนี้ล่วงหน้าเพื่อรอหานเซี่ยว
ในแง่ของหน้าที่เธอตั้งใจจัดการแบล็คสตาร์ แต่ส่วนตัว ทามาเรียอยากสู้กับแบล็คสตาร์
“แค่ห้า?”หานเซี่ยวมอง”แปดขุนพลยังฆ่าฉันไม่ได้แกประเมินฉันต่ำไป มันจะต้องใช้15ภัยพิบัติเพื่อสร้างแรงกดดันให้ฉัน”
“หึจอร์ดพบจุดอ่อนแกแล้ว เราไม่คิดฆ่าแก ดังนั้นจึงไม่จำเป็นต้องใช้ทั้ง15คนหรอก แค่ห้าก็มากเกินพอแล้ว”
หานเซี่ยวไม่แปลกใจหลังศึกสุดท้าย แดนหลั่งเลือดคงไม่ส่งคนมามากเพื่อพยายามฆ่าเขา แต่น่าจะส่งคนมาเพื่อยับยั้งเขา
ทามาเรียเลียปาก”ร่างแกน่าทึ่งมากรอก่อนเถอะ ฉันจะกัดเนื้อแก เคี้ยวกระดูกแกจนแตก ดื่มเลือดแกจนแห้ง สูบไขกระดกแก และกินทุกเซลล์จากร่างแก ฉันได้ยินว่าความสามารถฟื้นฟูแกแข็งแกร่งมาก ฉันหวังว่าแกจะทำให้ฉันอิ่มได้”
หานเซี่ยวรู้สึกรังเกียจหากคำพูดเหล่านี้มาจากปากคนอื่น พวกเขาอาจพยายามข่มขู่เขา แต่เขารู้ได้ว่าทามาเรียพูดจริง
ผู้หญิงคนนี้อยากกินฉัน?!
บูม!
ครั้งนี้พื้นเริ่มสั่น ผิวของป้อมปราการดาวเทียมเปิดออก ป้อมปืนผุดขึ้นจากภายในเหมือนป่าโลหะ และทั้งหมดก็เล็งไปยังหานเซี่ยว
ทหารอสูรนับล้านวิ่งออกจากใต้พื้นและล้อมเขา
นี่คือมาตรการป้องกันภายในป้อมปราการ
ในชั่วพริบตาศัตรูก็อยู่ทั่ว!
ทามาเรียปิดเกราะหน้าและคำราม”ก่อนสงครามนี้จะจบแกไม่อาจไปไหนได้ทั้งนั้น!”
ตอนที่ 682 ความหวังของหมู่บ้าน
บูม!
จากระยะไกลกองทัพทหารอสูรนับพันพุ่งใส่หานเซี่ยวเหมือนสึนามิ พื้นสั่นสะเทือนเมื่อพวกมันเข้าใกล้และเกราะทำพิเศษของพวกมันก็ทอประกายรุนแรง
ทามาเรียยกแขนเธอและโยนขวานทองเข้มขวานตัดผ่านลมและก่อตัวเป็นบอลไฟสีแดงขณะสับลงหัวหานเซี่ยว
ฮู่!
หานเซี่ยวกระทืบพื้นและร่างเขาก็พุ่งขึ้นฟ้าเพื่อหลบวิถีของขวานบิน
ขวานที่กำลังบินในอากาศพลันเปลี่ยนวิถีและไล่ตามหานเซี่ยว
ขวานที่กำลังบินกลางอากาศเปลี่ยนเส้นทางมันและไล่ตามหานเซี่ยว
หานเซี่ยวก้มมองจากด้านบนและเห็นห่วงโซ่โลหะผสมติดอยู่ที่ปลายขวานโซ่โลหะผสมดูเหมือนจะสามารถขยายได้เรื่อยๆโดยที่ปลายอีกด้านติดอยู่กับชุดจักรกลของทามาเรีย เห็นได้ชัดว่าสามารถควบคุมมันได้จากระยะไกล
จากนั้นโล่ที่ลอยด้านหลังหานฌซี่ยวก็ปล่อยม่านพลังไซโอนิคและชนกับขวานที่เข้ามา!
เกร๊ง!
ประกายไฟบินไปทั่ว!
ขวานเพลิงไม่อาจทำให้ม่านพลังยุบได้และกลับสู่มือของทามาเรีย
การโจมตีนี้เป็นสัญญาณเริ่มการต่อสู้
ฟิลลิปส่งสัญญาณเตือนและเมื่อหานเซี่ยวลดหัวมอง หอคอยปืนใหญ่ทั้งหมดบนป้อมปราการดาวเทียมก็เริ่มยิงใส่เขา!
ตูมตูม ตูม!
ปืนใหญ่เหล่านั้น่นควันออกมาเป็นกลุ่มตามด้วยขีปนาวุธและลำแสงเลเซอร์ที่ถล่มลงมาจากทุกทิศทางและทุกสี!
หานเซี่ยวไม่เพียงเผชิญกับห้าภัยพิบัติแต่ยังรวมถึงมาตรการป้องกันของป้อมปราการดาวเทียมนี้ด้วย
ตัวขับไซโอนิคเขาทำงานเต็มกำลังและหานเซี่ยวก็เปลี่ยนเป็นสายฟ้าขณะหลบคลื่นการโจมตีไม่รู้จบ
บูม!
เขาหลบพวกมันทั้งหมดได้อย่างหวุดหวิดแต่อุณหภูมิที่สูงขึ้นก็ทำให้ภายนอกชุดเขาร้อนจัด
เมฆเห็ดปกคลุมทั่วฟ้าและสายฟ้าจากป้อมปืนก็ทำให้มันดูราวกับเมฆพายุสายฟ้าขนาดใหญ่ที่กำลังขยายเหนือป้อมปราการดาวเทียม
ปืนใหญ่อนุภาคยิงผ่านกลุ่มเมฆมืดเผยให้เห็นแสงของโลก
โดยไม่สนใจอันตรายของสนามรบฉากนี้เหมือนแสงของพระพุทธเจ้าที่ส่องผ่านเมฆ
เมฆดำบดบังวิสัยทัศน์ของหานเซี่ยวและค่าเกราะของชุดจักรกลเขาก็ยังลดลงอย่างต่อเนื่องภายใต้การโจมตีของปืนใหญ่สีหน้าหานเซี่ยวยังสงบ และเขาก็เปิดใช้งานกล่องกองทัพ ร่วมกับทักษะสนามพลังจักรกลเขา พลังจักรกลเขาจึงเสริมแกร่งขึ้น
พลังงานเขามีสถานะใหม่และเขาก็สามารถหยิบยืมมิติเพื่อส่งพลังงาน
นี่หมายความว่าประสิทธิภาพของพลังจักรกลเขาจะเพิ่มขึ้นมาก
เกร๊ง!
เสียงของกองทัพจักรกลเขาทำงานดังขึ้นและกองทัพจักรกลเขาก็ร่วมสงคราม!
“คำสั่งสำหรับกองทัพได้รับการยืนยันแล้วพื้นที่โจมตีได้รับการยืนยัน ฮึ่ม..”เสียงของฟิลลิปดังจากหมวกของหานเซี่ยว
วินาทีถัดมาปืนใหญ่ไซโอนิคนับล้านก็เปิดฉากยิงและสาดเทลงมาเหมือนพายุสายฟ้า!
บูม!
ทั่วพื้นที่แบนราบและพื้นโลหะก็แตกเปิดอะไหล่จักรกลบินไปทั่ว และหลุมอุกกาบาตก็ปรากฏทั่วผิวดาวเทียม
ปืนใหญ่ป้องกันเกือบ40%ถูกทำลายพร้อมกัน!
ป้อมปราการดาวเทียมถูกสะกดข่มโดยกองทัพของหานเซี่ยวกองทัพจักรกลของหานเซี่ยวลอยลงและรื้อถอนป้อมปืนใหญ่ของดาวเทียมง่ายๆ
การต่อสู้สามารถเห็นได้ทั่วควันของสงครามปกคลุมทั้งสนามรบ
ทันใดนั้นการแจ้งเตือนพลังงานสูงก็ดังจากชุดจักรกลของหานเซี่ยวและเขาก็หลบไปด้านข้างทันที
หู่!
จากนั้นขวานของทามาเรียก็เฉียดร่างเขาไปอย่างหวุดหวิด
ความคล่องของนักสู้สูงมากและวินาทีที่การโจมตีแรกเธอพลาด ทามาเรียก็หมุนตัวกลางอากาศและเหวี่ยงขวานเธอลงมาด้วยความเร็ว
การโจมตีที่ทรงพลังของเธอทำให้เกิดโซนิคบูม
หานเซี่ยวปล่อยม่านพลังไซโอนคิด้วยสอมือและรับการโจมตีโดยไม่ลังเลประกายไฟยิงไปทุกทิศทาง และเกิดเสียงดังกึกก้องเหมือนฟ้าร้อง
ซวบ!
อนุภาคนาโนสีเงินเข้มพุ่งจากหลอดด้านหลังชุดจักรกลลิงภูเขาและแปลงเป็นภูติผีสี่ตนลอยด้านหลังหานเซี่ยวและเล็งปืนใหญ่ใส่ทามาเรียและหานเซี่ยว
ปัง!
พวกมันยิงการโจมตีชุดแรกแต่ไม่อาจหยุดทามาเรียจากการต่อสู้ระยะประชิดได้เธอหมุนพลังงานเพื่อสร้างเป็นโล่เพลิงและป้องกันการโจมตี!
ปัง!
การโจมตีรอบสองยิงออกไปและทามาเรียก็ยังไม่แยแส ระดับการโจมตีเช่นนี้ไม่พอให้เธอหลบ
เมื่อการโจมตีชุดสามถูกยิงทามาเรียก็อยากป้องกันมันเหมือนเคย แต่ทันใดนั้น เธอก็รู้สึกถึงพลังมหาศาลที่ไม่สนในแขนเธอและพุ่งตรงใส่อวัยวะเธอ
เทคนิคต่อสู้ในตำนานทำงาน!
เสียงระเบิดดังยิ่งกว่าก่อน!
ปัง!
สีหน้าทามาเรียสลดลงและก็ถอยหนี
พลังเจาะทะลวงอะไรกัน?!
ทามาเรียกลั้นเลือดในปากและเผยสีหน้าตกใจ
หานเซี่ยวใช้โอกาสเพื่อขยายระยะห่างระหว่างพวกเขาพลางมองข้อมูลต่อสู้จากหน้าต่างสถานะเขา
35%ของความเสียหายจริงจากการโจมตีก่อนหน้าสูงถึง12000นอกจากการเพิ่มพลังจากพลังจักรกลเขา เขาไม่ได้ใช้ทักษะอื่น แค่ความเสียหายเพิ่มจากเทคนิคต่อสู้ในตำนานก็สูงล้ำแล้ว!
พรสวรรค์การปั้นน่ากลัวมาก!
พรสวรรค์นี้ถือว่าเป็นมัจจุราชต่อนักสู้ทั้งหมด
ทามาเรียควรเป็นนักสู้ระดับ230ที่อึดมากความทนทานเธอควรประมาณ1600 ดังนั้นเธอควรมีพรสวสรรค์มากมายที่เพิ่มพลังของร่างกายเธอ พลังชีวิตเธอควรสูงกว่าสามแสน
ปัจจุบันพลังชีวิตของทามาเรียควรมากกว่าหานเซี่ยว55% แต่ทั้งคู่ก็อึดกันคนละแบบหานเซี่ยวพึงพาการแปลงพลังงานเป็นพลังชีวิต และอัตราฟื้นฟูเขาก็สามารถทำให้นักสู้ที่เดินบนเส้นทางสายอึดต้องสงสัยตัวเอง
พรสวรรค์นี้เหนือกว่าที่คาดไว้มากตราบเท่าที่กองทัพจักรกลฉันสามารถยิงโดนเป้าหมาย…
ความคิดทั้งหมดพุ่งผ่านหัวและอีกสี่ภัยพิบัติก็เข้ามาและเปิดฉากโจมตี!
หานเซี่ยวรีบหลบการโจมตีระยะไกลและพลันรู้สึกถึงการโจมตีจากด้านหลัง
ศัตรูคนหนึ่งคือนักสู้สายความเร็วเขาวิ่งรอบหานเซี่ยวเหมือนดาวหาง และมีดเขาก็ยิงใส่กระดูกสันหลังหานเซี่ยว อยากทำให้หานเซี่ยวเป็นอัมพาต
หานเซี่ยวไม่คิดหันหลังและภูติผีทั้งสี่ก็แตกเป็นอนุภาคนาโน จากนั้นก็แปลงเป็นมือจักรกลที่สูงประมาณเจ็ดถึงแปดเมตร นิ้ววและฝ่ามือก่อตัวเป็นม่านพลังไซโอนิคและขวางการลอบโจมตี
ปัง!
จากนั้นมือจักรกลก็โยนนักสู้ไปเหมือนโยนขยะ!
หลังประสบกับพรสวรรค์ใหม่ของเขาหานเซี่ยวก็ไม่สู้กับทามาเรียและคนอื่นเอง เขากลับออกคำสั่งใหม่ และกองทัพจักรกลครึ่งหนึ่งเขาก็ล้อมห้าภัยพิบัติไว้
เขาจะโจมตีจากด้านข้างเพื่อขัดขวางการโจมตีของศัตรูและก่อกวน
“คิดว่าขยะพวกนี้จะหยุดเราได้งั้นหรอ?!”
ทามาเรียคำรามและไฟบนตัวเธอก็ระเบิด
…
ในเวลาเดียวกันด้านนอกม่านพลังของฐาน มอเร็ดและอีกสองกองยานกำลังสู้กับกองยานป้องกันศัตรู
พวกเขาคุยโวในตอนต้นของการต่อสู้ว่าจะบังคับให้ศัตรูถอยได้แต่ทว่า ฐานอื่นกลับได้รับข่าวจากฐาน และกองทัพส่วนหนึ่งก็ถูกส่งมาหนุนฐานนี้
การต่อสู้รุนแรงและไม่มีฝ่ายใดเหนือกว่า
“มีเพียงแบล็คสตาร์ที่เข้าประชิดป้อมปราการดาวเทียมได้สถานการณ์ตรงนั้นเป็นยังไงบ้าง?”
มอเร็ดสามารถเห็นตำแหน่งหานเซี่ยวจากห้องควบคุมหลัก
เซ็คชั่นซีโร่ส่งยอดฝีมือไปเพื่อพยายามขึ้นป้อมปราการทั้งเก้าแต่ทั้งหมดกลับถูกบังคับให้ถอยและมีเพียงแบล็คสตาร์ที่เข้าไปได้
ฝ่ามือของมอเร็ดชุ่มไปด้วยเหงื่อปัจจุบันกองยานพวกเขาอยู่นอกม่านพลัง ไม่ว่าจะทำลายฐานได้หรือไม่ก็ขึ้นอยู่กับแบล็คสตาร์แล้ว
เขาเป็นความหวังของหมู่บ้าน!
“ท่านครับเราได้สังเกตการต่อสู้ระหว่างแบล็คสตาร์และป้อมปราการดาวเทียม ศัตรูส่งห้าภัยพิบัติไปหยุดเขาครับและพวกเขาดูเหมือนจะมาเพื่อรั้งแบล็คสตาร์ไว้”
“ไม่ดีแล้ว”มอเร็ดเครียด
หากแบล็คสตาร์ถูกรั้งทั่วสนามรบก็จะตัน ยิ่งลากถ่วงนาน พวกเขาก็ยิ่งเสียเปรียบ
เขากัดฟันและออกคำสั่ง
“แจ้งอีกสองกองยานขอให้ภัยพิบัติทั้งหมดของพวกเขาสร้างทีมเล็กๆและสนับสนุนแบล็คสตาร์ เขาถูกตรึงโดยศัตรูและต้องการกำลังเสริม!”