The Legendary Mechanic - ตอนที่ 683-684
ตอนที่ 683 คอมโบเดียว!
ที่ใจกลางของสถานีฐานผู้บัญชาการสถานีก็คอยสังเกตการเคลื่อนไหวของแบล็คสตาร์
“แบล็คสตาร์คือคนเดียวที่เจาะม่านพลังเข้าไปได้ทามาเรียได้นำคนไปจัดการกับเขาครับ”เจ้าหน้าที่กล่าว
ผู้บัญชาการพยักหน้าและมองเรดาห์ทันใดนั้น ตาเขาก็หรี่ลง
“หืม?ศัตรูส่งทีมภัยพิบัติไปทางป้อมปราการดาวเทียมที่แบล็คสตาร์อยู่?คิดจะสนับสนุนเขาสินะ”ผู้บัญชาการกล่าว”หากเป็นแบบนั้นก็ส่งภัยพิบัติไปหาแบล็คสตาร์อีกห้า เราไม่อาจปล่อยให้ศัตรูทำลายป้อมปราการดาวเทียมเราได้ หากสถานีเสียการป้องกัน ความสูญเสียเราจะหลีกเลี่ยงไม่ได้!”
เมื่อคำสั่งถูกส่งภัยพิบัติอีกห้าก็ลงมือ
ทั้งสองฝ่ายส่งกำลังเสริมไปยังสนามรบที่แบล็คสตาร์อยู่
…
บนป้อมปราการดาวเทียมหานเซี่ยวสู้กับทามาเรียและอีกสี่ด้วยกองทัพจักรกลอยู่พักหนึ่งแล้ว
สนามรบขยายออกไปหลายร้อยกิโลทุกที่ที่ผ่าน ผิวป้อมปราการจะฉีกขาด
การต่อสู้ในท้องฟ้ามาถึงจุดสุดยอดอแล้ว
บูมบูม บูม!
ภัยพิบัติทั้งห้าพุ่งซ้ายขวาทำลายทหารจักรกลทีละตัว
บูม!
ขวานจักรกลทองเข้มกำลังหมุนเหมือนพายุบดขยี้เครื่องจักรทุกตัวตามเส้นทาง ทามาเรียต่อยและเตะใส่ทหารจักรกลทุกตัวจนแหลก
อีกสี่ยังสร้างความเสียหายให้กองทัพจักรกล
ดูเหมือนว่าศัตรูจะไม่อาจหยุดได้แต่พวกเขาก็เหนื่อยและบาดเจ็บ
การโจมตีของเครื่องจักรนับล้านรุนแรงมากพวกเขาถูกโจมตีไม่หยุด ตามด้วยข้อกำหนดกระตุ้นของเทคนิคต่อสู้ในตำนาน หานเซี่ยวได้เปลี่ยนวิธีควบคุมของฟิลลิป การโจมตีสองครั้งแรกจะมุ่งเน้นจำกัดเส้นทางหลบของศัตรูเพื่อเพิ่มความแม่นยำของการโจมตีครั้งที่สาม
นอกจากนี้เขายังแบ่งความถี่การโจมตีของหน่วยต่างๆ นี่หมายความว่าการโจมตีทุกรอบของกองทัพจะมีความเสียหายจริง มันทำให้ศัตรูต้องรับแรงกดดันหนัก
ทามาเรียไม่กล้าเมินเฉยการโจมตีเธอทุ่มสมาธิทุกครั้งที่กองทัพโจมตี ไม่งั้น เธอคงถูกโจมตีจนบาดเจ็บสาหัส
เธอโกรธ
สิ่งนี้เรียกว่าพลังโจมตีจำกัด?!
จอร์ดไอระยำ!
ทหารจักรกลเกรดต่ำส่วนใหญ่ยังบอบบางเมื่อเจอกับภัยพิบัติแต่การโจมตีพวกมันอยู่ในระดับที่ต่างกัน
ก่อนหน้านี้ส่วนใหญ่ หานเซี่ยวจะใช้กองทัพจักรกลเพื่อลดพลังงานศัตรูก่อนเขาจะลงมือเอง อย่างไรก็ตาม ตอนนี้ศัตรูถูกขังในกองทัพจักรกรและแทบไม่อาจทำอะไรได้ พวกเขาไม่มีโอกาสเข้าใกล้หานเซี่ยวเลย
ฟิลลิปควบคุมการต่อสู้ทั้งหมดหานเซี่ยวว่างพอจะทำการบุกรุกเสมือนกับป้อมปราการนี้
ป้อมปราการดาวเทียมมีมาตรการป้องกันนับไม่ถ้วนและรั้งกองทัพจักรกลเขาไว้ครึ่งหนึ่งเพื่อรีบทำลายดาวเทียมนี้ การบุกรุกเสมือนนับเป็นวิธีที่มีประสิทธิภาพสุด
บูม!
ครั้งนี้ทามาเรียใช้ความสามารถบางอย่างและเจาะวงล้อมกองทัพ ลากเปลวไฟสีแดงเลือดตามมา เหมืนอจรวด เธอยึดติดกับหานเซี่ยว!
“ฮ่าห์!”
ด้วยเสียงคำรามดังขวานจักรกลผ่าลงมา!
“จิ๊”
หานเซี่ยวไม่มีทางเลือกนอกจากหยุดการบุกรุกเสมือนม่านพลังไซโอนิคทั้งสองปรากฏจากมือสองข้างและขวางการโจมตี
ตึง!
ขวานติดดอยู่ระหว่างม่านพลังครั้งนี้ ราวกับขวานมีพลังดูดกลืน เปลวไฟทั่วตัวทามาเรียกลับยิ่งแดงขึ้นเรื่อยๆ
วินาทีถัดมาคลื่นสีแดงเลือดทรงพลังหนาก็ระเบิดจากขวาน!
มันระเบิดใส่ระยะประชิด!
บูม!
เมื่อถูกโจมตีหนักหานเซี่ยวก็กระอักเลือดและถอยไป ด้วยความแอปลกใจ ทามาเรียกลับพุ่งเข้ามาและรัดแขนหานเซี่ยวด้วยโซ่ของขวาน ดึงเขากลับมา
“อย่างที่บอกไปแกจะไปไหนไม่ได้ทั้งนั้น!”ทามาเรียคำรามและโหม่งใส่หน้าผากหานเซี่ยวอย่างแรง!
บูม!
หานเซี่ยวรู้สึกมึนหัวทามาเรียมีพละกำลังอย่างน้อยสองพัน มันจึงเป็นปกติที่เธอจะเหนือกว่าในแง่ของพลัง
แรงสั่นสะเทือนแทรกซึมเข้าไปยังโมดูลซับแรงกระแทกและทำให้หูเขาส่งเสียง
ทามาเรียกำลังจะโจมตีต่อแต่หานเซี่ยวก็พลันออกจากชุดลิงภูเขาและเผยร่างเขา ไม่เพียงแต่เขาจะไม่ตื่นตระหนก เขายังพูดไม่ออก
“แก..อยากตายมากสินะ”
วินาทีถัดมาการกระทำของหานเซี่ยวก็ทำให้ทามาเรียสับสน
ไม่ใช่แค่เขาจะไม่หลบเขายังโอบแขนรอบเอวทามาเรียและกอดเธอไว้
“แก…”
ก่อนทามาเรียจะได้ตอบสนองเธอก็รู้สึกถึงอันตราย ทันใดนั้น เธอก็พบบางสิ่งและทั่วร่างก็แข็งทื่อ
กองทัพจักรกลทั้งหมดในท้องฟ้าพลันหันกระบอกปืนมาและเล็งหานเซี่ยว…รวมถึงทามาเรีย!
“ปล่อยฉัน!”
ทามาเรียตกใจมากและรีบผลักหานเซี่ยว
แต่ทว่าชุดจักรกลลิงภูเขาที่ถูกควบคุมโดยฟิลลิปก็ยิงบอลบีบอัดนับสิบออกมาซึ่งเปลี่ยนเป็นกับดักทุกประเภทและวางไว้รอบๆทั้งสอง ด้วยกับดักทั้งหมด ไม่ว่าใครก็ไม่อาจขยับได้2-3วินาที
พวกเขากลายเป็นเป้านิ่ง
หานเซี่ยวหัวเราะข้างหูทามาเรีย”คิดไม่ถึงสินะ?ฉันก็แค่เหยื่อ”
“แกอยากตายไปด้วยงั้นหรอ?!”หลังทามาเรียกล่าวเช่นนี้เธอก็ตระหนักว่าหานเซี่ยวมีฉายาว่ากายอมตะ ความโกรธและความสิ้นหวังปรากฏบนหน้าเธอ เธอกัดฟันและกล่าว”แกคิดว่าแกฆ่าไม่ตายจริงๆ?”
“เปล่า”หานเซี่ยวกระพริบตาจากนั้นก็พูดบางสิ่งที่ทามาเรียไม่เข้าใจ”แต่ฉันต้านทานความเสียหายจริง”
วินาทีถัดมาปืนใหญ๋ไซโอนิคนับไม่ถ้วนจากทุกทิศทางก็ยิงพร้อมกัน!
บูม!
บอลแสงขยายปกคลุมทั้งสองภัยพิบัติอีกสี่รีบวิ่งหนีสุดกำลัง
บอลแสงขยายจนถึงขีดสุดก่อนระเบิดคลื่นกระแทกกวาดไปทั่ว เหมือนยางลบที่ลบภาพ
บอลแสงระเบิดกลายเป็นประกายแสงตกลงมาเหมือนฝน
ที่ใจกลางการระเบิดหานเซี่ยวยังอยู่ดีและมีพลังเต็มเปี่ยม เขาเรียกชุดจักรกลและสวมมันอีกครั้ง จากนั้นก็ปล่อยศพไหม้เกรียมซึ่งยังปล่อยควันดำลงมาจากฟ้า
ด้วยกายเหล็กเขาจึงต้านทานความเสียหายจริง ผ่านวัฏจักรพลังชีวิตมานา พลังชีวิตที่เสียจากการระเบิดฟื้นอย่างรวดเร็ว เขาไม่เพียงไม่บาดเจ็บ เขายังรู้สึกสดชื่น
โอ้มันเพราะการเพิ่มค่าสถานะจากรากฐานชีวิตที่สะสมหลายชั้นนี่เอง ไม่แปลกใจ…
หานเซี่ยวเลิกคิ้ว
ด้วยการใช้ตัวเองเป็นเหยื่อล่อควบคุมศัตรูก่อนใช้กองทัพจักรกลระดมยิงนี่คือไพ่ตายเขาหลังได้รับความสามารถวัฏจักรพลังชีวิตมานา ตราบเท่าที่ศัตรูเข้าใกล้เขา พวกเขาก็จะติดกับ
หลังได้รับเทคนิคต่อสู้ในตำนานวิธีนี้ก็ยิ่งเป็นไพ่ตายที่สามารถฆ่าศัตรูได้
ทามาเรียถูกฆ่าตายทันที!
ไม่ว่าเธอจะเป็นใครในสายตาหานเซี่ยว เธอก็แค่นักสู้เกรดA+ที่มีพลังชีวิตประมาณ70% พอจะตายในคอมโบเดียว
หานเซี่ยวหันไปและมองภัยพิบัติอีกสี่ด้วยรอยยิ้ม
“เข้ามาสิมาทำความรู้จักกันหน่อย”
ภัยพิบัติอีกสี่ตัวสั่นด้วยสีหน้าหวาดกลัว พวกเขามีเพียงความคิดเดียวในหัว
อย่าเข้ามาใกล้ฉัน!
ตอนที่ 684 ชัยชนะ
บูม!
ป้อมปราการดาวเทียมถูกไถจนราบโดยกองทัพจักรกลซ้ำแล้วซ้ำเล่าภัยพิบัติทั้งสี่ไม่ล้อมหานเซี่ยวอีกแต่กลับวิ่งหนีเอาชีวิตรอด
ขณะโจมตีศัตรูหานเซี่ยวก็ยังเจาะป้อมปราการดาวเทียม เหนือสิ่งอื่นใด การทำลายป้อมปราการดาวเทียมคือเป้าหมายหลักเขา หลังฆ่าทามาเรีย อีกสี่ไม่กล้าเข้าใกล้เขาเลย ไม่มีใครขวางเขาได้
ความสามารถเทคโนโลยีเสมือนมากมายได้พัฒนาขึ้นมากดังนั้นหานเซี่ยวจึงควบคุมป้อมปราการดาวเทียมได้โดยไม่ต้องพยายามมากนัก ช่างกลเสมือนเกรดA+สามารถเจาะปัญญาประดิษฐ์ส่วนใหญ่ได้
หานเซี่ยวค้นผ่านโมดูลของป้อมปราการดาวเทียมและถอนหายใจ
“ไม่มีโมดูลทำลายตัวเอง?”
หลังคิดหานเซี่ยวก็ควบคุมป้อมปราการดาวเทียมเพื่อเปิดอุโมงค์พื้นผิว จากนั้นเขาก็ส่งทหารจักรกลบางส่วนไปในป้อมปราการดาวเทียมและฝังระเบิดไซโอนิคไว้
ในแง่ของประสิทธิภาพการทำลายเตาปฏิกรณ์พลังงานภายในป้อมปราการดาวเทียมสะดวกกว่าการทำลายป้อมปราการดาวเทียมจากภายนอก
…
ในเวลาเดียวกันบนสนามรบหลักยานอวกาศขนาดเล็กจำนวนหนึ่งพุ่งผ่านสนามรบ ในนั้นคือภัยพิบัติที่ถูกส่งมาโดยมอเร็ด พวกเขากำลังพยายามทำลายการป้องกันศัตรูและสนับสนุนหานเซีย่ว
แต่ทว่าปืนใหญ่อนุภาคพลังงานสูงก็หนาแน่นมาก ดังนั้นทีมกำลังเสริมจึงต้องถอยอยู่หลายครั้ง ไม่อาจเจาะแนวป้องกันศัตรูได้
ยิ่งกองยานแดนหลั่งเลือดมาถึงสนามรบผ่านช่องทางกำลังเสริมทีละกองยานกองยานหลักก็ไม่อาจให้ความคุ้มครองกำลังเสริมเหล่านี้ได้อีก
“สถานการณ์ไม่ดีแล้วเราใช้เวลานานไป ศัตรูจำนวนมากในฐานได้กำจัดทีมยับยั้งและมาถึงสถานีฐานแล้ว จำนวนศัตรูที่เรากำลังเผชิญมากขึ้นหลายเท่า!”
ภายในยานหลักสีหน้าของมอเร็ดเปลี่ยนไป
เขากัดฟันและผลักคำพูดผ่านไรฟัน
“หากเป็นแบบนี้ต่อไปเราจะได้รับชัยชนะแบบน่าสมเพช!แบล็คสตาร์คือกุญแจสำคัญในการทำลายสถานการณ์ แต่เขาอยู่ลำพังไร้คนหนุน ผู้ช่วยที่เราส่งไปก็ยังไม่สามารถทำลายแนวป้องกันได้อีกงั้นหรอ?!”
“พวกเขาไม่สามารถครับศัตรูดูเหมือนจะรู้เจตนาเราและขวางเส้นทางไปป้อมปราการที่แบล็คสตาร์อยู่โดยสิ้นเชิง”
สีหน้ามอเร็ดตึงแน่นเขาโบกมือ”ถ่ายทอดคำสั่งฉันออกไป ทุกหน่วย ถอนขบวนรบและผลักไปข้างหน้า เปิดเส้นทางให้ทีมกำลังเสริมและเจาะแนวป้องกันศัตรู!”
ทันทีที่เขาพูดจบทุกคนก็ตกใจ
สถานการณ์ปัจจุบันชัดเจนมากมันแบ่งออกเป็นห้าชั้น
ชั้นนอกสุดคือบริเวณที่มอเร็ดและกองยานเซ็คชั่นซีโร่อยู่อีกชั้นภายในคือกองยานป้องกันของสถานีฐาน ทั้งสองกำลังสู้กัน
ด้านหลังกองยานป้องกันคือม่านพลังขนาดใหญ่ของสถานีฐานแยกสนามรบชั้นนอกและแกนสถานีฐาน อีกชั้นภายในคือป้อมปราการดาวเทียมทั้งเก้ารอบสถานีฐาน ตรงกลางของทั้งหมดนี้คือเป้าหมายของเซ็คชั่นซีโร่ สถานีฐานไฮเปอร์ไดรฟ์T-04
คำสั่งของมอเร็ดคือการให้กองยานทั้งหมดเดินหน้าโดยไม่ต้องสำรองและเปิดเส้นทางให้ทีมสนับสนุนไปช่วยแบล็คสตาร์นี่ไม่แตกต่างจากการละทิ้งความเป็นไปได้ในการถอนทัพและจงใจเข้าสู่วงล้อมศัตรู
ห่ากพวกเขาเจาะแนวป้องกันศัตรูแต่ไม่อาจทำลายม่านพลังของสถานีฐานได้มันก็จะเป็นจุดจบของพวกเขา
“นี่มันเสี่ยงเกินไป!”
“ฉันไม่เห็นด้วยกับวิธีดังกล่าว”
เหล่ากัปตันกองยานคัดค้านพวกเขาเป็นขององค์กรหุ้นส่วนและไม่ใช่ลูกน้งอของมอเร็ด
ข้อเสียของกองกำลังพันธมิตรแสดงออกมาอีกครั้งเมื่อเจอกับอันตรายที่ต้องเสี่ยง พวกเขาจะไม่สามัคคีและจะจัดลำดับความปลอดภัยตัวเองไว้ก่อน
การคัดค้านดังจากช่องทางสื่อสารไม่หยุดสีหน้ามอเร็ดยิ่งดำมืด มีเพียงกบฏฟีเล็นใหม่ที่อยู่ภายใต้คำสั่งเขา แต่พวกเขาก็มีกำลังไม่มากพอ เขาต้องการความช่วยเหลือจากองค์กรอื่น
ปัง!
มอเร็ดทนไม่ได้อีกต่อไปเขาทุบโต๊ะและคำราม
“ผมรู้ว่าทุกคนอยากได้รับความโปรดปรานจากผลึกม่วงและกลายเป็นหุ้นส่วนระยะยาวของอารยธรรมกลุ่มดาวแต่พวกคุณกลับไม่อยากสู้ด้วยชีวิต คุณคิดว่าอารยธรรมผลึกม่วงจะหลอกได้ง่ายขนาดนั้น?!”
“ผมพอแล้วกับการถูกแดนหลั่งเลือดย่ำยีซ้ำแล้วซ้ำเล่าโอกาสอยู่ตรงหน้าเราแล้ว ท่านแบล็คสตาร์กำลังสู้กับศัตรูสุดชีวิต ตราบเท่าที่เราช่วยเขา เราก็จะทำลายสภาวะและชนะศึกนี้ได้!’
“พวกคุณต่างก็เป็นองค์กรใหญ่จากระบบดาวคุณมีชื่อเสียง ทำไมพวกคุณถึงกลายเป็นพวกขี้ขลาดไปได้?หากคุณไม่มีความกล้าที่จะรับความเสี่ยง ผมก็ขอโทษด้วยที่ต้องพูดแบบนี้ แต่ทำไมพวกคุณถึงยังเข้าร่วมสงครามนี้อีก?!”
ช่องทางสื่อสารกลายเป็นเงียบไม่มีใครพูด
เมื่อเห็นแบบนี้มอเร็ดก็กล่าวต่อ”ดำเนินการตามคำสั่ง!”
ทั้งกองยานไม่ค่อยๆขยับไปข้างหน้าอีกพวกเขาถอนขบวนรบและถาโถมใส่แนวป้องกันของกองยานศัตรูเหมือนค้อน!
กองยานต้านรับการโจมตีจากทุกทิศทางยิ่งถลำลึกเข้ากองยานศัตรูและตรงไปทางป้อมปราการดาวเทียมที่หานเซี่ยวอยู่
ตอนแรกกองยานศัตรสับสนกับการเปลี่ยนแปลงอย่างฉับพลัน แต่พวกเขาก็ปรับขบวนรบอย่างรวดเร็วและขัดขวางกองยานของมอเร็ด
ไม่นานกองยานของมอเร็ดก็ชะลอความเร็วลง เหมือนพวกเขาก้าวไปในบึงน้ำ ทุกๆก้าวยากลำบากมาก เมื่อมาถึงจุดนี้ พวกเขาก็ได้อยู่ลึกในแนวป้องกันแล้วและอยู่ห่างจากม่านพลังของป้อมปราการดาวเทียมนิดเดียว
แต่มันก็ยังดูเหมือนว่ากองยานมอเร็ดต้องใช้เวลาเป็นสิบเท่าเพื่อให้ไปถึง
“ทนไว้ป้อมปราการดาวเทียมอยู่ด้านหน้าเรา!”
ห้องบัญชาการสั่นจากการโจมตีและมอเร็ดก็สั่งเสียงดัง”ทีมกำลังเสริม ถึงคราวของพวกคุณแล้ว!”
ครั้งนี้บรรยากาศระหว่างทีมสนับสนุนตึงเครียด
ด้วยสีหน้าจริงจังกัปตันของเหล่าภัยพิบัติคำราม”ทุกคน เตรียมพร้อมต่อสู้ ท่านแบล็คสตาร์ต้องการความช่วยเหลือของเรา ลุย!”
วินาทีต่อมาเหล่าภัยพิบัติก็กระโดดออกยาน เคลื่อนที่อย่างรวดเร็วโดยใช้ยานอื่นเป็นที่กำบังและในที่สุดก็เจาะแนวป้องกันได้ พวกเขาตรงไปทางป้อมปราการดาวเทียม
มอเร็ดมองคนเหล่านั้นด้วยความหวัง
ไม่ว่าพวกเขาจะชนะหรือแพ้ทั้งหมดก็ขึ้นอยู่กับพวกเขาแล้ว!
แต่ทว่าขณะที่เขากำลังคาดหวัง บางสิ่งก็เกิดขึ้น!
สมาชิกของทีมสนับสนุนกำลังจะถึงม่านพลังของป้อมปราการดาวเทียมแต่ทันใดนั้นป้อมปราการดาวเทียมก็เปล่งแสงและระเบิด!
ทั่วป้อมปราการดาวเทียมระเบิดจากภายในป้อมปราการนี้ที่ดูเหมือนดาวดวงเล็กกลับเปลี่ยนเป็นระเบิดในชั่วพริบตา!
เศษเหล็กนับไม่ถ้วนปลิวเปลี่ยนเป็นขยะอวกาศ ผลกระทบรุนแรงพอๆกับการระเบิดของดาวเคราะห์!
เมื่อป้อมปราการถูกทำลายม่านพลังของสถานีฐานก็เสียแหล่งกำเนิดไปหนึ่ง ม่านพลังตรงบริเวณนี้พลันหายไป เผยให้เห็นรูใหญ่ที่มากพอจะให้ทั้งกองยานเข้าไป
ด้านหลังรูคือสถานีฐานที่ไร้การป้องกันใดๆ
เส้นทางสู่แกนของศัตรูเปิด!
คนๆหนึ่งบินออกจากเศษซากของป้อมปราการดาวเทียม
หานเซี่ยว!
การระเบิดอย่างฉับพลันดึงดูดความสนใจของทุกคนบนสนามรบมิตรหรือศัตรู ทั้งหมดต่างมีสีหน้าโง่งม
แบล็คสตาร์ได้ทำลายป้อมปราการดาวเทียมด้วยตัวเขาเอง!
กองทัพจักรกลถูกเก็บหมดแล้วหนาเซี่ยวรับกล่องกองทัพมาและออกจากเศษซาก มีรอยไหม้มากมายบนชุดจักรกลเขา
เขาเห็นทีมสนับสนุนและโบกมือพร้อมส่งข้อความเสียงให้
“พวกนายมาช้านะ”
สมาชิกทีมต่างเตรียมพร้อมสำหรับศึกแล้วแต่ตอนนี้พวกเขากลับรู้สึกเหมือนโดนชกหน้า มองหานเซี่ยวเหมือนคนโง่
ศะ-ศัตรูอยู่ไหนล่ะ?
คุณฆ่าพวกเขาทั้งหมดเลย?!
แบล็คสตาร์ฆ่าภัยพิบัติไปมากแค่ไหนกัน?!
“น่าทึ่งมาก!”
มอเร็ดตกตะลึงก่อนยินดีตะโกนด้วยความตื่นเต้น
เขาคิดว่าแบล็คสตาร์จะถูกตรึงโดยศัตรูและไร้กำลังเสริมแต่ดูเหมือนว่าสถานการณ์จะตรงข้ามกับที่เขาคิด
เขาไม่คิดเลยว่าแบล็คสตาร์จะสามารถทำลายป้อมปราการได้แม้จะถูกล้อมโดยภัยพิบัติหลายคน!
ช่างเป็นคนที่พึ่งพาได้จริงๆ!
ม่านพลังถูกทำลายมันเป็นโอกาสที่สมบูรณ์แบบมาก
มอเร็ดไม่มีเวลาคิดเรื่องอื่นเขาคว้าโอกาสและรีบออกคำสั่ง ทั้งกองยานมุ่งตรงผ่านรูในม่านพลังใหญ่ ระดมยิงใส่สถานีฐาน
…
ในเวลาเดียวกันสถานีฐานก็สั่นสะเทือนจากการโจมตี ภายในสถานีเต็มไปด้วยความวุ่นวาย เสียงเตือนภัยแผดดังไปทั่ว
“คำเตือน!คำเตือน!ตรวจพบการโจมตีพลังงานสูง!”
เหมือนการนับถอยหลังของยมฑูตลำแสงสว่างสไวด้านนอกพุ่งเข้ามาอย่างรวดเร็ว
ภายในห้องควบคุมหลักผู้บัญชาการสถานีมองออกนอกช่องหน้าต่าง ตั่วสั่นและกระตุกจากความกลัว เหมือนกับทุกคนข้างเขา เขาสิ้นหวัง
เขาไม่อาจเข้าใจได้ทำไมแบล็คสตาร์ถึงแข็งแกร่งกว่าในข้อมูล?
เขาส่งภัยพิบัติห้าคนไปเพื่อสนับสนุนทามาเรียพวกเขายังมีหน้าที่ถ่วงเวลากำลังเสริมที่จะไปช่วยแบล็คสตาร์แต่เขาไม่คิดเลยว่าแบล็คสตาร์จะฆ่าทามาเรียไปแล้วตอนภัยพิบัติอีกห้ากำลังเดินทางไป!
เธอเป็นคนที่แข็งแกร่งสุดแต่ก็ยังถูกฆ่า!
เมื่อกำลังเสริมทั้งห้าไปถึงภัยพิบัติทั้งสี่ที่ติดตามทามาเรียไปก็ตายหรือบาดเจ็บสาหัสกันหมด พวกเขาถูกบดขยี้อย่างสิ้นเชิง แบล็คสตาร์ไม่หยุดแค่นั้นและยังเข่นฆ่าภัยพิบัติอีกห้าที่เพิ่งไปถึง!
แบล็คสตาร์คนเดียวได้กำจัดพลรบระดับสูงไปกว่าครึ่ง!
‘วิธีจัดการกับแบล็คสตาร์’ในไฟล์ข้อมูลไร้ประโยชน์โดยสิ้นเชิง!
นี่ทำให้แผนเละเทะผู้บัญชาการสถานีแข็งทื่อและไม่อาจขบคิดได้
ต่อหน้าพลังเช่นนั้นเขารู้สึกไร้อำนาจและไม่มีทางแก้ ทั้งหมดที่เขาทำได้คือเฝ้าดูแบล็คสตาร์เปลี่ยนป้อมปราการดาวเทียมเป็นพลุไฟ
เวลาดูเหมือนช้าลงและการโจมตีก็ยิ่งเข้าใกล้แสงสว่างส่องบนหน้าของผู้บัญชาการสถานี
ในเวลานั้นเขามีเพียงความคิดเดียวในหัว
ฉันแพ้..ให้กับแบล็คสตาร์