The Legendary Mechanic - ตอนที่ 685-686
ตอนที่ 685 การประชุมหลังสงคราม
การโจมตีนับพันมาถึงสถานีฐานฉีกมันเป็นชิ้นๆอย่างเงียบๆในอวกาศ
เมื่อมาถึงจุดนี้หานเซี่ยวก็ได้กลับยานเขา เขาถอดชุดจักรกล นวดไหล่และยิ้มเมื่อเขาเห็นสถานีฐานถูกทำลาย
ในที่สุดก็ชนะความพยายามฉันไม่สูญเปล่า
การแจ้งเตือนภารกิจสำเร็จผุดขึ้นการทำลายป้อมปราการดาวเทียมอย่างเดียวก็ทำให้คะแนนภารกิจสูงแล้ว ความโปรดปรานเขากับผลึกม่วงเพิ่ม1350 และเขาก็ได้รับค่าประสบการณ์หลายสิบล้าน
แต่ทว่านี่แค่รางวัลส่วนน้อยที่เขาได้รับ การฆ่าทามาเรียผู้ระดับสูงกว่ามากมอบค่าประสบการณ์ให้เขามากกว่าห้าร้อยล้านแล้ว
การได้รับค่าประสบการณ์ผ่านการฆ่าพวกภัยพิบัติสูงมากโดยปราศจากผู้เล่น นั่นคือทางเลือก
สงครามคือโอกาสจริงๆเขาจะไปหาศัตรูระดับภัยพิบัติมากขนาดนั้นได้จากไหน?
ผ่านการต่อสู้นี้เขาชัดเจนถึงพลังเขา เทียบกับสองเดือนก่อน ความสามารถต่อสู้เขาตอนนี้อยู่ในระดับที่แตกต่าง
ด้วยเทคนิคต่อสู้ในตำนานเขาสามารถบดขยี้ศัตรูส่วนใหญ่ได้ด้วยกองทัพจักรกลเขา แม้จะเพิ่งเข้าสู่ขอบเขตนี้ พลังรบจริงเขาก็นับเป็นจุดสูงสุดของเกรดA+แล้ว
ด้วยพรสวรรค์การปั้นที่ทรงพลังมากมายที่ผสานเข้าด้วยกันมันจึงให้ผลเกินจริง
ไม่แม้แต่จะส่งภัยพิบัติสิบคนมาสู้กับเขาย่อมมีแต่จะส่งของขวัญมาให้เขา!
ขอแค่ผู้อยู่เหนือไม่แทรกแซงคนอื่นในแดนหลั่งเลือดก็ไม่ควรต่อกรกับฉันได้..
หานเซี่ยวคิดก่อนจะตบหน้าตัวเองและกำจัดความคิดออกไป
เกือบไปฉันเกือบขุดหลุมตัวเอง!
หานเซี่ยวหันไปมองสนามรบ
ด้วยฐานที่ถูกทำลายช่องทางเสริมกำลังจึงขาดหาย ขวัญกำลังใจของเซ็คชั่นซีโร่พุ่งสูงและเริ่มเก็บกวาดศัตรูที่เหลือ
หานเซี่ยวทำภารกิจเสร็จเขาจึงไม่ลงมืออีก เขาออกไปพร้อมกับกองยานกองทัพแบล็คสตาร์
มอเร็ดและสามกองยานล้อมศัตรูไว้จุดจบของศึกนี้ถูกตัดสินแล้ว สุดท้ายเซ็คชั่นซีโร่ก็ได้ชัย
สามกอวยานเก็บกวาดสนามรบและเก็บสินสงครามก่อนออกไป
…
หลังผ่านไฮเปอร์ไดรฟ์กว่าชั่วโมงกองยานก็หยุดในพื้นที่ปลอดภัย
หานเซี่ยวได้รับคำเชิญของมอเร็ดให้เข้าร่วมประชุมบนยานหลัก
หลังเรียกเฮอลัสฮาร์ม่อนและเจ้าหน้าที่คนอื่น หานเซี่ยวก็เชื่อมโยงยานเขากับยานหลัก
ซวบ!
ประตูเปิดตรงหน้าพวกเขาคือทางเดินเชื่อม หานเซี่ยวนำคนอื่นเข้ายานหลัก มีคนต้อนรับรออยู่ พวกเขารีบเดินมาและต้อนรับเขาด้วยน้ำเสียงเคารพ
“ท่านแบล็คสตาร์ทุกคนได้มาถึงแล้ว พวกเขากำลังรอท่านอยู่”
“นำทางเลย.
หานเซี่ยวพยักหน้าและตามคนนำทางไปห้องประชุม
ประตูเปิดและเสียงยินดีก็ดังจากภายในบรรยกาศดีมาก
มีคนน้อยมากในห้องทั้งหมดคือผู้ดูแลองค์กรพันธมิตรภายในกองยานที่ถูกเชิญ หลังได้รับชัยชนะ ทุกคนก็ยินดี
หานเซี่ยวก้าวเข้ามาและเสียงคุยภายในโถงก็หยุด ทุกคนมองมา เมื่อเห็นว่ามันเป็นหานเซี่ย วดวงตาพวกเขาก็เต็มไปด้วยความชื่นชมและเคารพ พวกเขาเปิดทางให้หานเซี่ยว
“แบล็คสตาร์คุณมาแล้ว เชิญนั่ง”
ใจกลางโถงคือโต๊ะประชุมวงกลมและทุกคนก็นั่งอยู่มอเร็ดนั่งที่นั่งเจ้าภาพ เมื่อเขาเห็นหานเซี่ยว เขาก็รีบยืนและเชิญหานเซี่ยว
“สวัสดีพวกคุณเป็นยังไงกันบ้าง?กินอะไรกันหรือยัง?”หานเซี่ยวนั่งและทักทายคนอื่น
“ฮ่าๆตอนนี้ทุกคนมากันครบแล้ว มาเริ่มประชุมกัน ท่านราล์ฟมีบางสิ่งที่อยากคุยกับเรา”
มอเร็ดยิ้มและกดโต๊ะภาพฉายของราล์ฟปรากฏเหนือกลางโต๊ะประชุม
ราล์ฟกระแอมคอและพูด
“ทุกคนทำได้ดีมากพวกคุณทำลายสถานีฐาน ทำให้ฐานที่มั่น12แห่งของแดนหลั่งเลือดแยกกัน กองกำลังเราทำลายฐานทั้ง12ได้สำเร็จ นี่คือชัยชนะครั้งใหญ่ของเรา!”
แปะแปะ แปะ!
ทุกคนปรบมือ
“มอเร็ดคุณเด็ดขาดมาก ความดีความชอบคุณในการทำลายสถานีฐานสูงมาก แครี่ คุณยับยั้งศัตรูและทำภารกิจสำเร็จ ปิแอร์ คุณ..”
ราล์ฟชมทุกคนและทุกคนก็ปรบมือไม่หยุด สีหน้าหานเซี่ยวแปลกๆ นี่ชวนให้เขานึกถึงตอนประกาศผลสอบ
พวกเขาแค่ชนะศึกและตอนนี้ก็ได้รับคำชม
“สุดท้ายความดีความชอบที่มากสุดในชัยชนะครั้งนี้..”
ราล์ฟหันไปมองหานเซี่ยว”แบล็คสตาร์คุณทำลายป้อมปราการดาวเทียมศัตรูลำพัง ซึ่งกล่าวได้ว่าเป็นคนสำคัญในการเปลี่ยนสนามรบ!”
ทุกคนพยักหน้าเห็นด้วย
ใครบอกว่าคนๆเดียวไม่อาจเปลี่ยนสนามรบได้?แบล็คสตาร์คนเดียวทำมันได้!
“อะแฮ่มผมแค่ทำสิ่งที่สมควร”หานเซี่ยวรักษาสีหน้าและโบกมือ
มอเร็ดอดกล่าวเสริมไม่ได้”หากไม่ใช่เพราะคุณเราอาจชนะได้แต่ต้องสูญเสียครั้งใหญ่ แน่นอนว่านี่เป็นเพราะคุณ!’
ปากหานเซี่ยวกระตุกและก็จำต้องยิ้มตอบ
ราล์ฟยิ้ม”คุณไม่ต้องถ่อมตัวผมได้รายงานกับเบื้องบนแล้ว พวกเขาพอใจกับความสำเร็จคุณมาก พวกเขาตัดสินใจเพิ่มเงินลงทุนในกองทัพแบล็คสตาร์เป็นรางวัล แถม พวกเขาจะถือว่าคุณเป็นหุ้นส่วนระยะยาว”
เมื่อราล์ฟกล่าวสีหน้าทุกคนก็เปลี่ยนไป พวกเขาอิจฉา
เป้าหมายที่ใหญ่สุดที่พวกเขาเข้าร่วมสงครามลับคือการเป็นหุ้นส่วนระยะยาวของอารยธรรมกลุ่มดาวแบล็คสตาร์ได้ล้ำหน้าพวกเขาไปแล้ว
ในสายตาของอารยธรรมผลึกม่วงความสำคัญของกองทัพแบล็คสตาร์อาจเหนือกว่าคนอื่น
ตอนนี้นี่คือสิ่งที่ฉันอยากได้ยินผลประโยชน์จริงๆ..หานเซี่ยวยิ้ม
“คุณยังฆ่าตุลาการของแดนหลั่งเลือดทามาเรีย นี่คือเจ้าหน้าที่แดนหลั่งเลือดระดับสูงคนแรกที่ตาย แดนหลั่งเลือดเสียสมาชิกคนสำคัญไป คุณทำได้ดีมาก”
หานเซี่ยวตกตะลึงดังนั้น ผู้หญิงที่ฉันฆ่าคือเจ้าหน้าที่คนสำคัญคนแรกที่ตายในสงครามลับ?
นี่หมายความว่า…ฉันเป็นคนแรก?
งั้น..ฮีเบอร์จะโกรธไหม?
เนื่องจากพวกเขาเสียเปรียบมาตลอดราล์ฟจึงเครียด เขาเตือนถึงการล้างแค้น ทันทีที่แบล็คสตาร์กลับ เขาก็ทำให้แดนหลั่งเลือดแพ้ ราล์ฟโล่งใจ
ยิ่งเขามองหานเซี่ยวเขาก็ยิ่งพอใจ
ในสายตาเขาความสามารถที่แบล็คสตาร์แสดงเหนือกว่าภัยพิบัติทั่วไป โดยปกติ มีเพียงผู้อยู่เหนือถึงสามารถบดขยี้กลุ่มภัยพิบัติได้ แต่ทว่า แบล็คสตาร์ไม่ใช่ผู้อย่เหนือ ดังนั้น เขาจึงรู้สึกว่ามีแค่คำอธิบายเดียว ศักยภาพของแบล็คสตาร์เหนือล้ำ นอกจากนี้ เขายังเติบโตเร็วมาก เห็นได้ชัดว่าเขาแข็งแกร่งกว่าสองเดือนก่อน!
ผลึกม่วงได้มองไปในอดีตของหานเซี่ยวประมาณสิบปีก่อน แบล็คสตาร์เพิ่งเข้ากาแล็กซี่และสร้างกลุ่มทหารรับจ้าง ตอนนั้น เขายังไม่ถึงเกรดB แต่ในเวลาไม่ถึงสิบปี เขากลับเติบโตถึงจุดนี้
นี่หมายความว่าแบล็คสตาร์มีศักยภาพจะเป็นผู้อยู่เหนือมาก!
ตั้งแต่จบยุคสำรวจมันก็ไม่มีผู้อยู่เหนือคนใดที่เติบโตได้เร็วเท่าแบล็คสตาร์!
ราล์ฟหอบหายใจตราบเท่าที่ฮีเบอร์ไม่ลงมือ แบล็คสตาร์ก็อาจบดขยี้คนของแดนหลั่งเลือดได้หมด เขาคืออาวุธสังหารของเซ็คชั่นซีโร่!
การประเมินผลหลังศึกทำไปโดยมีจุดประสงค์หนึ่งคือใช้การมอบรางวัลให้แบล็คสตาร์เป็นตัวอย่างเพื่อปลุกขวัญกำลังใจสมาชิกเซ็คชั่นซีโร่
สองคือแสดงทัศนคติพวกเขาต่อแบล็คสตาร์ว่าเขาสำคัญไหน
ฆ่านกสองตัวด้วยหินก้อนเดียว
ตอนนี้ไม่มีใครตระหนักว่าผลกระทบของศึกนี้จะยิ่งใหญ่กว่าที่พวกเขาคิด…
ตอนที่ 686 แผนของฮีเบอร์
หลังชัยชนะเซ็คชั่นซีโร่ก็ไม่ดำเนินการโจมตีชั่วคราว หานเซี่ยวออกกองยานหลักไปหลังได้รับรายชื่อติดต่อของพวกมอเร็ด
รางวัลสำหรับภารกิจนี้เร็วมากผลึกม่วงใจกว้างมาก มอบเงินให้เขากว่า27ล้านและทรัพยากรหายาก แสดงความสำคัญของหานเซี่ยวต่อพวกเขา
หลังศึกนี้ราล์ฟก็เห็นหานเซี่ยวเป็นสมบัติ
เขาบอกหานเซี่ยวให้รอชั่วคราวมีเพียงภารกิจสำคัญที่เขาจะคิดใช้แบล็คสตาร์เป็นไพ่ตาย ไม่จำเป็นที่เขาต้องไปลงมือกับภารกิจกองโจรทั่วไป
แน่นอนหานเซี่ยวเต็มใจหย่อนยาน เขาสามารถใช้โอกาสนี้เพื่อย่อยทรัพยการที่เขาเพิ่งได้รับจากอารยธรรมผลึกม่วงและเติมเต็มกองทัพจักรกลเขา นอกจากนี้ ลากียังกำลังเดินทางมา
ในเวลาเดียวกันอิทธิพลของสงครามนี้ก็ค่อยๆกระจาย
…
“เซ็คชั่นซีโร่ประสบความสำเร็จอย่างมากในระบบดาวคาย่าทำลายดาวฐานของแดนหลั่งเลือดไป12แห่ง”
สำหรับอารยธรรมและองค์กรต่างๆทั่ววงแหวนดาวกระจายที่ให้ความสนใจกับสงครามลับข่าวนี้ทำให้พวกเขารู้สึกมีพลัง นับตั้งแต่เริ่มสงคราม นี่คือชัยชนะแรกของเซ็คชั่นซีโร่
องค์กรเหล่านรู้ว่ากลยุทธ์ของผลึกม่วงคืออะไรยอมละทิ้งบางพื้นที่และแยกกองกำลังของแดนหลั่งเลือด พวกเขารู้ว่าสงครามลับจะเข้าสู่ทางตันไม่ช้าก็เร็วและสงครามนั้นอาจสิ้นสุดหลังผ่านไปหลายปี
บุคคลมากความสามารถปรากฏในสงครามลับกลายเป็นจุดสนใจ
สงครามมักเป็นเวทีสำหรับผู้แข็งแกร่งทางลัดสู่เกียรติยศ มักมีคนที่มีชื่อเสียงผ่านสงคราม สำหรับพวกที่ให้ความสนใจ หานเซี่ยวถือเป็นดาวเด่นที่เกิดบนเวทีนี้
จุดเปลี่ยนของแบล็คสตาร์เริ่มตั้งแต่สงครามแตกหักตอนสามารถต้านรับการโจมตีของแปดขุนพลได้ด้วยเหตุนั้น เขาจึงได้รับฉายากายอมตะ ซึ่งกระจายไปทั่วทุ่งดาว
แค่สองเดือนต่อมาเขาก็สร้างแรงสั่นสะเทือนอีกครั้ง ฆ่าสิบภัยพิบัติ รวมถึงตุลาการแดนหลั่งเลือด ทามาเรีย
เมล็ดพันธ์ผู้อยู่เหนือในอดอีตได้เงียบหายไปนานแล้วหลังผ่านไปหลายปี ไม่มีใครกลายเป็นผู้อยู่เหนือคนใหม่ได้ คล้ายๆกัน เมื่อเมล็ดพันธ์ผู้อยู่เหนือเหล่านั้นเข้าสู่รายชื่อ พวกเขาก็มีชื่อเสียงมาก ตอนนี้มันถึงคราวของแบล็คสตาร์แล้ว
ก่อนหน้านี้แบล็คสตาร์ได้รับการพิจารณาให้เป็นเมล็ดพันธ์ผู้อยู่เหนือความสำเร็จสองอย่างได้กลายเป็นเอกลักาณ์เขา จุดประกายการสนทนาระหว่างคนนับไม่ถ้วน ความสำเร็จที่ไม่น่าเชื่อทั้งสองสร้างปฏิกิริยา ทำให้หานเซี่ยวกลายเป็นหัวข้อร้อนแรงระดับทุ่งดาว ชื่อเสียงเขาในวงแหวนดาวกระจายพุ่งสูงและตำแหน่งเขาก็เพิ่มขึ้นอย่างรวดเร็ว
ก่อนหน้านี้แบล็คสตาร์ไม่ถือเป็นคนใหญ่คนโตในวงแหวนดาวกระจาย ตำแหน่งส่วนใหญ่เขามาเพราะเกาะมังกร แต่ทว่า เขาก็ค่อยๆก้าวออกจากเกาะมังกร และตำแหน่งเขาก็เริ่มเติบโต
ผ่านศึกนี้มันไม่ใช่แค่ศักยภาพที่หานเซี่ยวแสดง แต่ยังเป็นความสามารถจริงของเขา ซึ่งไม่มีใครเทียบเขาได้ สำหรับหลายองค์กร แบล็คสตาร์คือผู้อยู่เหนือไปแล้วครึ่งตัว ดูเหมือนเขาจะมีโอกาสนั่งบนบัลลังก์ของผู้อยู่เหนือจริงๆ
การเกิดขึ้นของผู้อยู่เหนือถือเป็นเรื่องอ่อนไหวหากผู้อยู่เหนือคนที่ห้าปรากฏในวงแหวนดาวกระจายจริงๆ ประเด็นระหว่างเคล็นท์และผลึกม่วงจะกลายเป็นไม่สำคัญ
เมื่อหานเซี่ยวยืนหยัดต่อสู้กับแปดขุนพลองค์กรใหญ่เหล่านั้นก็ยังจับตามอง แต่ทว่า หลังข่าวเขาฆ่าภัยพิบัตินับสิบกระจายออกไป หลายคนก็ไม่อาจทำได้แค่ดู
บางคนต้องการให้เขาตายบางคนต้องการให้เขามีชีวิต
ผู้คนจำนวนมากอยากติดต่อเขา
หลายคนก่อนหน้านี้ที่แค่ดูตัดสินใจเข้าร่วม
หานเซี่ยวยังไม่รู้ว่าพายุที่เขาปั่นป่วนทำให้อิทธิพลของสงครามลับเกินกว่าที่ควรจะเป็น
พายุที่ซ่อนภายใต้สงครามลับกำลังก่อตัวขึ้น
ครั้งนี้เคล็นท์และผลึกม่วงไม่รู้อะไร พวกเขาไม่คิดว่าสงครามนี้จะหลุดการควบคุม
…
ในศูนย์ใหญ่แดนหลั่งเลือดในวังของฮีเบอร์ ฮีเบอร์นั่งอยู่บนบัลลังก์ลอย ก้มมองจอร์ด
“ทามาเรีย…ตายแล้ว?”
จอร์ดตัวสั่นไม่กล้าเงยหน้ามอง เขาก้มหัวลงกับพื้นและกล่าว”เธอตายในเงื้อมมือของแบล็คสตาร์ ผมเองก็ผิดด้วย ข้อมูลผมไม่แม่นยำ..”
มันไม่สำคัญว่าภัยพิบัติชั้นต่ำจะตายไปแต่ทามาเรียนั้นแตกต่าง เธอคือหนึ่งในสมาชิกหลักที่ติดตามแดนหลั่งเลือดมาตั้งแต่ยุคแรกๆ เธอยังได้รับการชี้แนะส่วนตัวจากฮีเบอร์ ความตายของตุลาการนั้นนับเป็นการสูญเสียครั้งใหญ่
“อืม”ฮีเบอร์กล่าวด้วยน้ำเสียงไม่แยแส
จอร์ดยังยืนนิ่งสักพักจากนั้นจึงถาม”ท่าน..คิดจะทำยังไงต่อครับ?”
“การตายในสงครามคือเกียรติของนักรบ”ฮีเบอร์กล่าว”ในสงครามนายสามารถฆ่าคนและคนก็สามารถฆ่าเราได”
จอร์ดตกตะลึงนี่หมายความว่าฮีเบอร์ไม่คิดล้างแค้น?
“เอ่อ..ผมคิดว่า..”
“นายคิดว่าฉันจะโกรธและแก้แค้นให้ทามาเรีย?”ฮีเบอร์ขมวดคิ้ว”งั้นฉันจะต้องการพวกนายไว้ทำไม?”
ฮีเบอร์เผด็จการแต่นั่นไม่ได้หมายความว่าเขาประมาทและหุนหันพลันแล่น เขาสงบและไม่เปลี่ยนแผนเพียงเพราะลูกน้องตาย
ตราบเท่าที่ผู้อยู่เหนือฝั่งศัตรูไม่ลงมือเขาก็จะไม่เคลื่อนไหว
โดยปกติฮีเบอร์จะใจดีต่อลูกน้อง แต่ในสงคราม เขาเลือกเย็นมาก
สงครามคือการทดสอบของเลือดและไฟฮีเบอร์จะไม่ปกป้องลูกน้องเขา เขาต้องการให้ลูกน้องเขาเติบโตท่ามกลางไฟสงคราม ต่อให้ตายกันหมด เขาก็ไม่รู้สึกปวดใจอะไร องค์กรเขาคือเครื่องมือเขา ไม่ใช่จุดอ่อนเขา
จอร์ดไม่รู้จะพูดอะไร
“แต่นี่ยังไม่จบ”ฮีเบอร์กล่าว
“ท่านหมายความว่ายังไงครับ?”จอร์ดถาม
“เขาจะต้องรับผิดชอบการต่อสู้เราไม่อาจหลีกเลี่ยงได้”ฮีเบอร์กล่าวเสียงเย็น”เขามีศักยภาพผู้อยู่เหนือ แต่ตอนนี้ เขาก็ยังเป็นแค่ภัยพิบัติ หากฉันฆ่าเขาตอนนี้ มันจะน่าเบื่อเกินไป ดังนั้นฉันจะให้เวลาเขาเติบโต”
“หากเขาอยู่ที่ระดับภัยพิบัติฉันจะไม่ทำอะไรเขา แต่ทันทีที่เขากลายเป็นผู้อยู่เหนือ ฉันจะฆ่าเขาเอง!”
หลังหยุดฮีเบอร์ก็กล่าว”หากเขาไม่อาจกลายเป็นผุ้อยู่เหนือได้ตอนจบสงคราม ฉันก็ยังจะฆ่าเขาอยู่ดี”
“แต่..แบล็คสตาร์แข็งแกร่งมากเขาจะทำให้ฝ่ายเราเสียหายหนัก”จอร์ดอดพูดไม่ได้ เขาหวังว่าฮีเบอร์จะเปลี่ยนใจ
“ฉันรู้ว่าจำนวนผู้เสียชีวิตจะสูง..”ฮีเบอร์ก้มมองจอร์ด”ดังนั้นแบล็คสตาร์คือศัตรูที่พวกนายต้องจัดการ จงรอดชีวิตจากเขาให้ได้ แข็งแกร่งขึ้นหรือตาย ผู้ที่ไม่มีความเชื่อในตัวเองสามารถขอกลับมาศูนย์ใหญ่ได้ พวกเขาจะไม่มีทางได้ไปสนามรบอีก”
ฮีเบอร์รู้ว่าหานเซี่ยวแข็งแกร่งดังนั้นเขาจึงอยากใช้เขาเพื่อฝึกลูกน้องเขา
ตอนนี้กองกำลังทั้งหมดได้ให้ความสนใจกับแบล็คสตาร์หากเขาลงมือโจมตีระดับภัยพิบัติ มันก็จะทำให้เขาถูกดูหมิ่นได้
ฮีเบอร์ดูถูกแบล็คสตาร์ในสายตาเขา มันเป็นการกระทำที่น่ารังเกียจ
การฆ่าแบล็คสตาร์ทันทีจะเป็นการทำลายอุปสรรคสงครามนี้และลดความสูญเสียในสายตาฮีเบอร์ นั่นไม่ควรฆ่าจะกล่าวถึงเมื่อเทียบกับสิ่งที่เขาสามารถได้รับจากการฆ่าผู้อยู่เหนือ
เขาเติมใจให้เวลาหานเซี่ยวได้เติบโต
แดนหลั่งเลือดยิ่งใหญ่และทรงพลังเพราะเขาผู้อยู่เหนือซึ่งเป็นแกนกลาง
ตราบเท่าที่เขายังอยู่ไม่มีความเสียหายใดที่ไม่อาจกู้คืน
ตราบเท่าที่เขาอยู่แดนหลั่งเลือดจะสามารถพัฒนาต่อไปได้
เขาต้องการคู่ต่อสู้ที่คุ้มค่าจะสู้หากแบล็คสตาร์กลายเป็นผู้อยู่เหนือ ทั่วทุ่งดาวก็จะตื่นเต้น ตอนนั้น หากเขาสู้กับแบล็คสตาร์ มันคงไม่มีใครมีปัญหา
ฉันจะไม่รังแกเมื่อแกอ่อนแอฉันจะรอจนกว่าแกจะมาถึงระดับเดียวกับฉัน จากนั้นก็ฆ่าแกซะ!
นี่คือเผด็จการฮีเบอร์!
แบบนี้อิทธิพลที่เขาได้รับจะสูงขึ้น ความตายของแบล็คสตาร์จะนำความรุ่งโรจน์มาสู่ตำแหน่งเผด็จการอีกครั้ง
“เข้าใจแล้วครับผมจะบอกให้ทุกคนรู้เจตนาท่าน”เสียงของจอร์ดดังขึ้นเมื่อถูกครอบงำโดยเจตนาของฮีเบอร์
แม้จากมุมมองของจอร์ดการปล่อยให้แบล็คสตาร์เติบโตจะไม่ฉลาดนัก
แต่…
มันคือเผด็จการ!
เขามั่นใจในฮีเบอร์มากต่อให้แบล็คสตาร์กลายเป็นผู้อยู่เหนือ เขาก็ไม่ใช่คู่มือของฮีเบอร์
มุมมองของท่านฮีเบอร์อยู่ในระดับที่แตกต่างเขาเห็นโอกาส ขณะที่วิสัยทัศน์ฉันจำกัดที่สงคราม
…
“แบล็คสตาร์แข็งแกร่งขึ้นอีกแล้ว”
ในวังเกาะมังกรอีซอปถอนหายใจและมองดูเอเมสซึ่งนั่งอยู่บนบัลลังก์
“ฉันยังประเมินเขาต่ำไปตอนนั้น ฉันอยากให้แบล็คสตาร์เป็นมือขวาเธอ ไม่คิดเลยว่าเขาจะเติบโตเร็วขนาดนี้ ไม่ช้าก็เร็ว เขาจะต้องขอออกเกาะมังกรแน่”
เอเมสเงียบเธออยากให้หานเซี่ยวแข็งแกร่งขึ้น แต่เธอไม่อยากให้หานเซี่ยวทิ้งเธอไป
อีซอปถอนหายใจและกล่าว”เขาทำเพื่อเกาะมังกรมามากแล้วแต่ฉันเคยเห็นผู้อยู่เหนือมามาก นอกจากพวกที่ชุบเลี้ยงโดยสามอารยธรรมจักรวาล ไม่มีใครเต็มใจอยู่ใต้คนอื่น ฉันรู้ว่าเขาสำคัญต่อเธอ แต่วงแหวนดาวกระจายใหญ่เกินไป เขาไม่มีทางเป็นลูกน้องเธอได้ตลอด”
“เขาจะไม่สามารถไปไหนได้”เอเมสกล่าวเสียงเย็น
อีซอปขมวดคิ้ว”อย่าทำแบบนั้นไม่ว่ายังไง แบล็คสตาร์ก็เป็นเพื่อนเธอ ด้วยความสัมพันธ์นี้ พวกเธอจะเป็นพันธมิตรกัน ไม่จำเป็นต้องสร้างความขัดแย้ง..”
“ฉันบอกว่าเขาจะไม่สามารถไปไหนได้ทั้งนั้น!”
เอเมสตะโกนและขัดอีซอปก่อนลดสายตา
“เว้นแต่ฉันจะหยุดเขาไม่ได้”