The Legendary Mechanic - ตอนที่ 687-688
ตอนที่ 687 ผู้นำดาราทมิฬและดินแดนแห่งผู้ล่วงหล่น
โรงงานทหารของฐานแบล็คสตาร์1ใหญ่สุดหูสุดลูกตาสายประกอบนับไม่ถ้วนทำงานทุกชั่วโมง อะไหล่จักรกลประกอบเป็นอาวุธต่างๆโดยแขนจักรกลนับไม่ถ้วน ช่างกลหลายคนเดินระหว่างสายประกอบ คอยแก้จุดที่ผิดพลาดเป็นครั้งคราว
ด้านบนของโรงงานคือห้องควบคุมหลักที่สามารถมองได้ทั่วโรงงานกองพิมพ์เขียวถูกคลี่กางบนโต๊ะโลหะใกล้กับหน้าต่างห้องควบคุมหลัก
เรย์โนลนั่งอยู่อ่านพิมพ์เขียวด้วยสีหน้าจริงจัง
ครั้งนี้ประตูห้องควบคุมหลักเปิดออก และซิลเวียก็วิ่งเข้ามาด้วยใบหน้าตื่นเต้น
“นี่ฉันมีข่าวดี!”
เรย์โนลขยับสายตาจากพิมพ์เขียวและมองซิลเวีย
“พี่หญิงโปรดบอกมา”เขากล่าวด้วยสีหน้าจริงจัง
ซิลเวียชินกับนิสัยของเรย์โนลแล้วและได้เรียนรู้ที่จะเมินเฉยเธอยกมือและบอลพลังจักรกลก็ปรากฏในฝ่ามือเธอ
“ฮี่ๆฉันเป็นเกรดBแล้ว ฉันสุดยอดเลยไหม?”ซิลเวียกล่าวอย่างตื่นเต้น
“สุดยอด”เรย์โนลตอบด้วยใบหน้าตายด้านเขายังยกมือขึ้นและปรบมือ
เมื่อเห็นแบบนี้ซิลเวียก็รู้สึกอึดอัด เธอรู้สึกเหมือนสิ่งที่เธอภูมิใจอาจไม่คู่ควรจะกล่าวถึงในสายตาภัยพิบัติ
แต่เธอก็อยากคุยกับใครบางคนหานเซี่ยวพาเจ้าหน้าที่เก่าออกไปทำสงคราม ดังนั้นคนที่เธอสนิทสุดก็มีแค่เรย์โนล โดยปกติ เธอจะถามเรย์โนลทุกคำถามที่มี แม้เรย์โนลจะเป็นศิษย์น้องเธอ เขาก็ถือว่าเป็นผู้ช่วยสอนของหานเซี่ยว
ซิลเวียไม่อาจระงับความตื่นเต้นที่เข้าสู่เกรดBได้และมีความสุขอีกครั้งหลังรู้สึกอึดอัดสักพักเธอกล่าว”อาจารย์จะต้องมีความสุขมากแน่ๆเมื่อเขาได้ยิน เขามักหวังฉันไว้สูง…
สำคัญสุดหานเซี่ยวสัญญาว่าหากเธอกลายเป็นยอดมนุษย์เกรดBได้ เธอจะสามารถเข้าร่วมรบได้และไม่ต้องทำการบ้านทุกวัน
ฉันเป็นอิสระ!
ฉันซิลเวีย มีความสุขมาก!
หลังยินดีสักพักซิลเวียก็ตระหนักว่าเรย์โนลไม่พูดอะไร เธอเงยหน้าขึ้นและเห็นว่าแม้เรย์โนลจะหันหน้าให้เธอ แต่ตาเขาก็ยังลอบมองพิมพ์เขียวบนโต๊ะ
การพูดกับฉันน่าเบื่อขนาดนั้นเลย?ซิลเวียดีดนิ้วสวมสีหน้าโกรธและกล่าว”หยุดมองไปทางอื่นได้แล้ว ฉันกำลังคุยกับนายนะ!”
เรย์โนลมองกลับและกล่าวด้วยสีหน้าจริงจังราวกับไม่มีอะไรเกิดขึ้น”อืมพี่หญิงพูดถูก”
ว้าวตอบแบบพอไปที…ซิลเวียกัดฟัน สูดหายใจและสงบอารมณ์ จากนั้นก็นำอุปกรณ์สื่อสารขึ้นมา”อาจารย์ทำเรื่องใหญ่อีกแล้ว ดูสิ ผู้คนทั่วทุ่งดาวต่างพูดถึงเขา พวกเขาต่างบอกว่าเขามีโอกาสสูงที่จะกลายเป็นผู้อยู่เหนือคนต่อไปของวงแหวนดาวกระจาย จิ๊ จิ๊ ไม่คิดเลยว่าอาจารย์จะน่าทึ่งขนาดนี้ หากเขากลายเป็นผู้อยู๋เหนือ ในฐานะศิษย์เขา เราอาจ..”
เธอหยุดตระหนักว่าเรย์โนลไม่ตอบอีกแล้ว เธอเงยมองและเห็นว่าเรย์โนลกำลังมองพิมพ์เขียวบนโต๊ะอีกครั้ง
“ยังมองอีก?!”
ซิลเวียอับอายและหงุดหงิดเธอดีดนิ้วเสียงดัง
ฉันสาวสวยยังไม่น่าดึงดูดเท่ากับพิมพ์เขียวแสนน่าเบื่อเหล่านั้น?
“ไม่ผมกำลังฟัง”เรย์โนลกระแอม เขาเอาอุปกรณ์สื่อสารมาจากมือซิลเวียและมองข่าว ใบหน้าเขากลับกลายเป็นจริงจังและพึมพำ”แบล็คสตาร์…เมล็ดพันธ์ผู้อยู่เหนือ”
เมื่อเห็นว่าเรย์โนลไม่มองพิมพ์เขียวอีกซิลเวียก็แสดงสีหน้าพอใจ
ในฐานะเลขาของหานเซี่ยวเธอรู้ดีว่าระยะเวลาสัญญาของเรย์โนลกำลังจะหมด เพื่อกองทัพแบล็คสตาร์ เธอรู้สึกว่าเธอต้องทำให้เรย์โนลอยู่ต่อ
ตามความรู้เธอเกี่ยวกับเรย์โนลความปราถนาของคนๆนี้คือการเรียนรู้ ซิลเวียรู้สึกว่าวิธีที่จะทำให้เขาอยู่คือคอยเตือนเขาว่าอาจารย์เธอกำลังแข็งแกร่งขึ้น แสดงให้เขาเห็นถึงความโดดเด่นของอาจารย์เธอ แบบนั้น เรย์โนลอาจเลือกอยู่และติดตามแบล็คสตาร์ต่อเพื่อเรียนรู้และทำงานเพื่อกองทัพ
แม้ซิลเวียจะไม่อยากให้ใครมาแย่งอาจารย์เธอแต่เพื่อกองทัพ…เธอตัดสินใจเสียสละ
“ผู้อยู่เหนือ…ผู้อยู่เหนือ..”เรย์โนลพึมพำโดยปกติ เขามักจริงจังและเป็นทางการ แต่ตอนนี้เขากลับดูหนักใจ”แบล็คสตาร์…แบล็คสตาร์สามารถแก้ปัญหานี้ได้ตลอด…”
“อะไรนะ?”ซิลเวียไม่เข้าใจ
“ไม่มีอะไร”
เรย์โนลกลับเป็นเหมือนเดิม
…
ในเวลาเดียวกันในค่ายฝึกของฐาน1บร็อควางอัปกรณ์สื่อสารที่กำลังเล่นข่าวลง เขาอยากหยิบแก้วไวน์และดื่มเพื่อระงับความกลัว แต่ก็ตระหนักว่ามือเขาสั่นไม่หยุด
เขาคือพวกที่เหลือของดาราทมิฬหลังผู้นำหายไป เขาก็ดำเนินภารกิจมาตลอดและเชื่อว่าผู้นำต้องกลับมา ดังนั้น เขาจึงเข้าร่วมและแทรกซึมกองทัพแบล็คสตาร์ หวังว่าวันหนึ่งจะกลายเป็นหมากชิ้นสำคัญของผู้นำ ตอนนี้เขาทำหน้าที่เป็นจ่าฝึกในฐาน
ไม่กี่ปีที่ผ่านมาบร็อคทำงานด้วยความกลัว ไม่กล้าทำอะไรออกนอกลู่นอกทางและปลอมตัวอย่างระวัง กลัวว่าจะมีคนสงสัย ความไว้วางใจจากผู้นำคือสิ่งที่ทำให้เขาก้าวต่อไป
อย่างไรก็ตามเมื่อเขาเห็นข่าวว่าหานเซี่ยวกลายเป็นเมล็ดพันธ์ผู้อยู่เหนือ ความเชื่อเขาก็สั่นคลอน
เขาอดสงสัยไม่ได้…ว่าผู้นำจะต่อกรกับแบล็คสตาร์ได้จริงๆ?
มันต่างอะไรกับการฆ่าตัวตายไหม?
หากเป็นแบบนั้นการอยู่ในกองทัพแบล็คสตาร์ในฐานะสายอาจเป็นการผลักผู้นำลงหลุม
บร็อคตกใจพลังของแบล็คสตาร์ทำให้เขาสิ้นหวัง
เขาลอบตัดสินใจหากวันหนึ่งผู้นำกลับมาและสามารถติดต่อเขาได้ เขาต้องโน้มน้าวให้ผู้นำอย่ายุ่งกับแบล็คสตาร์ มันยากยิ่งกว่าการยุ่งกับโกโดร่า!
…
บนดาวอารยธรรมที่เสียหายในทุ่งดาวหนึ่ง…
ผิวดาวเผาไหม้ด้วยวเปลวไฟนิรันดร์และควันพื้นแตก เมืองถูกทำลาย
กองยานที่เสร็จสิ้นการรุกรานได้ถอนป้อมปืนค่อยๆยกตัวขึ้นเหนือชั้นบรรยากาศ ทิ้งดาวที่เสียหายไว้
กองยานบุกรุกนี้ประกอบไปด้วยยานรบสามพันลำ
แต่ทว่าไม่ไกลจากดาว กองยานขนาดใหญ่กว่าพันเท่าจอดอยู่ ยานรบดูเหมือนมีไม่รู้จบ ราวกับมีทั่วกาแล็กซี่ ยานรบสามพันลำก็แค่ส่วนเล็กๆของกองยานใหญ่
กองยานเช่นนี้สามารถสู้กับอารยธรรมกลุ่มดาวได้ตรงๆ
ยานรบสามพันลำกลับสู่ทัพใหญ่เมือนหยดน้ำที่เข้ามหาสมุทร
ยานรบรูปจานของทีมนี้เบี่ยงไปจากคนอื่นและค่อยๆเข้าลึกในกองทัพมาถึงใจกลางกองยานขนาดใหญ่
ที่ใจกลางยานคือยานหลักระดับดาวเคราะห์เทียบกันแล้ว ยานทรงจานเหมือนกร้อนกรวดและยานหลักยักษ์นี้ก็เหมือนภูเขา
เครื่งหมายถูกทำเครื่องบนเกราะชั้นนอกของยานเป็นรูปชายสวมฮู้ดเทา
ยานทรงจานเข้าจอดในยานหลัก
หวือ!
ประตูเปิดและผู้นำดาราทมิฬก็เดินออกมาด้วยสายตาไร้อารมณ์ เขาหันไปโบกมือ บอกให้ลูกน้องด้านหลังเขานำพวกเชลยตามมา
หลังเดินสักพักพวกเขาก็มาถึงตรงหน้าประตูเหล็กใหญ่ ไซคลอปยักษ์ข้างประตูเห็นเชลยด้านหลังและแสยะยิ้ม
“นายเร็วมากเข้าไป เขากำลังรออยู่”
เมื่อเขาพูดประตูเหล็กก็ค่อยๆเปิด ผู้นำดาราทมิฬปรับจิต นำคนอื่นและเดินเข้าไป ภาพตรงหน้าเขาสว่าง เสียงและคลื่นความเร็วกระทบหน้าเขา
นี่คือวังขนาดใหญ่ที่กำลังมีงานเลี้ยงมีโต๊ะนับไม่ถ้วนเต็มไปด้วยอาหารและแอลกอฮอล์ มีคนอยู่ทั่ว สิ่งมีชีวิตนับไม่ถ้วนจากเผ่าต่างๆกำลังกลืนเนื้อและดื่ม คำรามและหัวเราะ แถมยังมีนักเต้นสาวที่เดินรอบ
ผู้นำดาราทมิฬยังเห็นว่ามีคนตรงมุมกำลังกอดนักเต้นสาวและกระแทกเธอกับกำแพงหัวเราะและคำราม
ความวุ่นวายเต็มห้องแม้จะอยู่มานาน ผู้นำดาราทมิฬก็อดขมวดคิ้วไม่ได้
มนุษย์สัตว์ที่เมาล้มทั่วผู้นำดาราทมิฬกดบ่าเขาและผลักออกไป จากนั้นก็เดินไปใจกลางวัง ที่ใจกลางมีบัลลังก์สีแดงแกะสลักเป็นรูปร่างของสิ่งมีชีวิตแปลกๆ เหมือนเทพโบราณที่เขาไม่รู้จักนาม ซึ่งศาสนจักรอาร์เคนบูชา
บนบัลลังก์คือสิ่งมีชีวิตรูปร่างผอมแห้งติดกระดูกสวมฮู้ดหยาบนอกจากหน้าเขา ร่างกายเขาถูกบดบังแน่น เขากำลังก้มหน้า ไม่ส่งเสียงเลย ฮู้ดจึงบังหน้าเขาไว้ในเงามืด
ผู้นำดาราทมิฬมาหยุดตรงหน้าบัลลังก์ไม่สนใจภาพวุ่นวายรอบๆ เขาชี้ไปที่เชลยนับสิบด้านหลังเขา”ท่านครับ ผมนำเอสเปอร์เหล่านี้มา”
ทันใดนั้นสิ่งมีชีวิตบนบัลลังก์ก็สั่น ราวกับเขาตื่นจากการนอนหลับ เขาค่อยๆเงยหน้า เผยให้เห็นใบหน้าใต้ฮู้ด
ภายใต้ฮู้ดคือหมอกดำเหมือนน้ำวนมีจุดแสงสีแดงกระพริบอยู่ตรงกลาง
ด้วยวิธีลึกลับสิ่งมีชีวิตไร้หน้ากลับพูดได้ เสียงเขาหยาบกระด้าง”ทำ..ได้ดี..”
เมื่อเขาพูดเขาก็บิดคอ หมอกดำใต้ฮู้ดพลันหายไป เปลี่ยนเป็นใบหน้าของมนุษย์เลือดผสมโดยปราศจากลักษณะพิเศษ
ชาย
เขายืนขึ้นและเดินลงจากบัลลังก์ไปหาเชลยขณะที่ผู้นำดาราทมิฬหลบไป
เขายืนตรงหน้าเชลยคนแรกมองไปในดวงตาของเชลย แสยะยิ้ม และคว้าคอของเชลยผู้นี้
วินาทีถัดมาทั่วร่างเชลยสั่นและแห้งเหือด แต่เขายังไม่ตาย เขาล้มลงกับพื้นด้วยตาเบิกกว้าง ไม่แม้แต่จะมีพลังงานพูด
“ไม่เลว”
ชายสวมฮู้ดเลียปากราวกับกำลังเพลิดเพลินกับรสชาติจากนั้นก็ทำแบบเดียวกันกับเชลยทั้งหมดก่อนเดินกลับไปบัลลังก์ มองผู้นำดาราทมิฬด้วยสีหน้าพึงพอใจ
“ดีฉันชอบนาย”
“นับเป็นเกียรติของผมอย่างยิ่ง”ผู้นำดาราทมิฬลดหัว”ตามข้อตกลงเราทุกเอสเปอร์ที่ผมนำมา ท่าน..”
เขาโบกมือและกล่าวแทรก”ฉันรู้ฉันจะให้กองยานใหม่ อืม ฉันมีข้อมูลอยู่ นายอาจจะสนใจ”
เขาสะบัดมืออุปกรณ์สื่อสารไหลออกจากฝ่ามือเขาและลอยไปยังมือของผู้นำดาราทมิฬ
ผู้นำดาราทมิฬเปิดและมองสีหน้าเขาพลันเปลี่ยนไป มันกำลังเล่นข่าวลือเกี่ยวกับหานเซี่ยว
“เขาดูเหมือนจะเป็นคนที่ทำให้นายหลบหนีจากวงแหวนดาวกระจาย”ชายสวมฮู้ดยิ้ม”ดูเหมือนเขาจะสามารถกลายเป็นผู้อยู่เหนือได้”
ใบหน้าผู้นำดาราทมิฬดำมืด”ขอบคุณท่านมาก”
“ยินดี’เขายิ้มและกล่าวด้วยน้ำเสียงเป็นมิตรจากนั้นก็โบกมือ”ออกไปได้แล้วละ สภาพแวดล้อมดีๆเช่นนี้หายาก อย่ารบกวนการนอนของฉัน”
“ครับ”ผู้นำดาราทมิฬพยักหน้าและนำลูกน้องเขาออกไป
เมื่อเดินออกวังประตูก็ค่อยๆปิด ผู้นำดาราทมิฬมองกลับไปผ่านช่องประตู เห็นชายสวมฮู้ดลดหัวและฝันหวานต่อท่ามกลางสภาพแวดล้อมคลุ้มคลั่ง
“เป็นคนที่บ้าจริงๆ”
ผู้นำดาราทมิฬกำหมัดและความกลัวก็ฉายผ่าน
คนเบื้องหลังเขาได้จัดการให้เขาออกวงแหวนดาวกระจายและเข้าร่วมกับชายสวมฮู้ดชายคนนี้คือเจ้าของกองยานขนาดใหญ่และยังเป็นผู้อยู่เหนือที่อยากผสานความสามารถบนรายชื่อสนธิสัญญาจำกัดความสามารถเอสเปอร์ความเสี่ยงสูง
ตามข้อตกลงผู้นำดาราทมิฬต้องมอบเอ็มเบอร์ให้เขา เขายังสามารถจำสีหน้าตกใจของเอ็มเบอร์ได้ตอนตระหนักว่าตัวเองถูกทรยศ
แต่การต่อต้านเขาก็เปล่าประโยชน์ชายสวมฮู้ดพอใจกับเครื่องสังเวยมาก ดังนั้นเขาจึงทำข้อตกลงกับผู้นำดาราทมิฬ เขาสามารถให้กองยานได้ แต่ผู้นำดาราทมิฬต้องแลกพวกมันกับเอสเปอร์ที่สามารถทำให้เขาพอใจ
ดังนั้นผู้นำดาราทมิฬจึงอยู่ชั่วคราว เขาบุกและทำลายอารยธรรมพื้นผิวทีละดวง ค้นหาพวกพิเศษที่มีความสามารถเอสเปอร์น่าสนใจ หลังผ่านมาหลายปี เขาก็ได้รับกำลังคนและยานรบมามาก
เดิมทีผู้นำดาราทมิฬอยากสร้างกองกำลังต่อ แต่หานเซี่ยวก็ทำให้เขากดดัน
ตามความคืบหน้าแบล็คสตาร์อาจกลายเป็นผู้อยู่เหนือได้ จากนั้น ต่อให้เขากลับไปก็เปล่าประโยชน์ หากมีผู้อยู่เหนือในระบบดาวกาตอน มันย่อมไม่มีใครสามารถสร้างปัญหาได้ ดาราทมิฬจะไม่มีวันได้ผงาดอีกครั้ง
“ฉันต้องกลับไปให้เร็วที่สุดไม่งั้นทุกอย่างจะสายเกินไป”
ผู้นำดาราทมิฬตัดสินใจแบล็คสตาร์อยู่ในสงคราม ดังนั้นเขาจะใช้ประโยชน์จากมัน
นอกจากนี้ผู้นำดาราทมิฬยังไม่กล้าอยู่ต่อ ในเวลาไม่กี่ปี เขาก็ได้รับผลกระทบจากมัน เขาไม่อาจจินตนาการได้ว่าจะเกิดอะไรขึ้นหากเขาอยู่ต่อ เขาจะกลายเป็นคนบ้าไปด้วยไหม
กองยานขนาดใหญ่นี้เป็นองค์กรผู้อยู่เหนือที่มักเคลื่อนย้ายตลอดชายฮู้ดคือผู้นำองค์กรนี้ ในบรรดาผู้อยู่เหนือทั่วทั้งจักรวาล เขาเป็นคนบ้าที่มีชื่อเสียงสุด!
สถานที่แห่งนี้ต้อนรับอาชญากรจากทุกทุ่งดาวมันคือสวรรค์สำหรับอาชญากร
นี่คือ…[ดินแดนแห่งผู้ล่วงหล่น]!
…
อโรเชียได้ติดตามหานเซี่ยวไปสงครามด้วยเธออยู่ในกองยานและหย่อนยานเหมือนหานเซี่ยว
ภายในห้องที่ไฟปิดอโรเชียกอดเข่า นั่งตรงมุมห้องและจ้องความมืดตรงหน้าเธอ
ครั้งนี้จุดแสงพลันปรากฏและก่อตัวเป็นชายผู้หนึ่ง เปล่งแสงสว่างกลางห้อง มันคือริสด้า
“มันเป็นนาย”อโรเชียไม่แสดงสีหน้า
ร่างของริสด้าสั่นจากนั้นก็พูด
“เยี่ยมหากแบล็คสตาร์กลายเป็นผู้อยู่เหนือ เขาก็จะสามารถสู้กับจักรวรรดิช่างกลได้ คนของเราอาจรอด”
“โอ้”อโรเชียไม่ตอบด้วยความหลงใหล
“แต่แบ็คสตาร์อาจไม่เต็มใจสู้กับจักรวรรดิช่างกลเธอและฉันต้องโน้มน้าวเขา เขาคือความหวังเรา”ริสด้ากล่าว
อโรเชียเงียบสักพักก่อนถาม”เขาอาจตายได้ใช่ไหม?”
“ทุกอย่างเป็นไปได้ไม่มีอะไรแน่นอน”ริสด้าส่ายหัวและเบี่ยงประเด็น”จำสิ่งที่ฉันพูดไว้”
จากนั้นริสด้าก็หายไปและห้องก็มืดเหมือนเดิม
อโรเชียยังคงฝังคางเธอระหว่างหัวเข่าและจ้องมองความมืด
..
ในขณะเดียวกันลากีก็กำลังเดินทางมา
ตอนที่ 688 กระเทียมหอมกำลังมาจากทุกที่! 1
ครึ่งเดือนผ่านไปนับตั้งแต่การต่อสู้ที่ทำลายฐานไฮเปอร์ไดรฟ์แดนหลั่งเลือดดูเหมือนจะระวังเช่นกัน ไม่มีความขัดแย้งใหญ่ระหว่างสองฝ่ายมาสักพัก ผลึกม่วงไม่มีภารกิจใหม่ให้หานเซี่ยว ดังบนั้นเขาจึงประจำการรอบๆ
ในเวลานี้เขาได้ศึกษาสินสงสงครามเขา ป้อมปราการดาวเทียม
มีป้อมปราการดาวเทียมทั้งหมด9อันหลังฐานถูกทำลาย ป้อมปราการอื่นก็ถูกยึด หานเซี่ยวได้รับหนึ่งอันจากมอเร็ดและก็นำมันมาเพื่อวิจัย
พิมพ์เขียวสำหรับดาวเทียมจักรกลขนาดใหญ่นี้ล้ำค่ามาก
หานเซี่ยวค่อยๆแกะพิมพ์เขียวตลอดครึ่งเดอนแม้จะขาดความรู้ที่จำเป็น ซึ่งทำให้มันเป็นไปไม่ได้ที่เขาจะได้รับพิมพ์เขียวสมบูรณ์ เขาก็ยังได้รับเทคโนโลยีที่เป็นประโยชน์เช่นเครื่องสร้างม่านพลัง ซึ่งสามารถนำมาประยุกต์ใช้กับม่านพลังไซโอนิคได้
แม้เขาจะไม่สามารถสร้างป้อมปราการดาวเทียมได้สุดยอดช่างกลหานเซี่ยวก็สามารถผสานพิมพ์เขียวของเวอร์ชั่นหดเล็กลงได้ ขณะที่มันมีขนาดเล็กลง มันก็ยังมีคุณสมบัติเหมือนดั้งเดิม แค่ไม่ทรงพลังเท่า
ป้อมปราการดาวเทียมเปาอาวุธเชิงกลยุทธ์ไม่ใช่อาวุธ หานเซี่ยววางแผนเปลี่ยนฐานแบล็คสตาร์บางส่วนเป็นป้อมปราการดาวเทียม อย่างน้อยก็ช่วยให้พวกเขามีความคล่องแคล่วระดับหนึ่ง
หานเซี่ยวยังยึดชุดเกราะพิเศษของทหารแดนหลั่งเลือดอย่างทหารพันอสูรมาซึ่งเปลี่ยนเป็นพิมพ์เขียวเขาและทำการปรับปรุงเบื้องต้น
…
ในห้องดัดแปลงเครื่องจักรหานเซี่ยวยืนตรงหน้าแถวตู้ มองดูชุดจักรกลประเภทต่างๆในนั้น
“เกราะทหารพันอสูรเกราะซันนิลต่างๆ ชุดเกราะรุ่นอสรพิษ และพิมพ์เขียวชุดจักรกลมาตรฐาน..หากฉันรวมพวกมัน ฉันควรได้รับพิมพ์เขียวชุดจักรกลระดับกลางถึงสูง”
หานเซี่ยวลูบคางและไตร่ตรอง
เขาตั้งใจสร้างชุดเกราะพิเศษสำหรับกองทัพแบล็คสตาณ์เพื่อใช้เป็นอุปกรณ์มาตรฐานใหม่สำหรับกองทัพ
นี่ไม่ใช่แนวคิดหลุดกรอบแต่เขาคิดมานานแล้ว
เนื่องจากชื่อเสียงของเขาที่ดังไปทั่วทุ่งดาวเดิมที หานเซี่ยวคิดว่ากองทัพแบล็คสตาร์จะสามารถพัฒนาได้อย่างช้าเพราะผู้เล่นไม่อยู่ แต่สงครามกลับพิสูจน์แล้วให้เห็นถึงโอกาส มีการถกเถียงร้อนแรงว่าเขาจะกลายเป็นผู้อยู่เหนือ ทำให้เป้าหมายพัฒนาบางอันดำเนินต่อไปได้
เขามักอยากพัฒนากองทัพจากกลุ่มทหารรับจ้างเป็นกองกำลังเช่นแดนหลั่งเลือดชุดเกราะที่เป็นของกองกำลังเขาก็เทียบเท่ากับชุดของกองกลุ่ม ซึ่งจะช่วยเพิ่มการติดต่อกันของกองกำลังได้อย่างมีประสิทธิภาพกว่าแค่สัญลักษณ์กองทัพ
แต่ทว่าคนส่วนใหญ่ที่มาเป็นทหารรับจ้างล้วนอิสระและหละหลวม หากเขาบังคับให้มีการเปลี่ยนแปลง เขาจะเสียพวกที่ไม่เต็มใจไป เหนือสิ่งอื่นใด ทหารรับจ้างไม่เคยกังวลว่าต้องไปไหนต่อ พวกเขาจะไม่นำความภักดีมามอบให้กลุ่มทหารรับจ้างง่ายๆ
อย่างไรก็ตามความสำเร็จเขาก็ทำให้คนเชื่อว่าเขามีโอกาสสูงจะเป็นผู้อยู่เหนือ ขีดจำกัดของกองกำลังติดอาวุธขึ้นอยู่กับพลังของผู้นำ การรวมกันขององค์กรภัยพิบัติทั่วไปไม่อาจเทียบได้กับองค์กรของเมล็ดพันธ์ผู้อยู่เหนือ
ตัวอย่างเช่นแดนหลั่งเลือดสมมติว่ามันเติบโตมาถึงขนาดนี้ได้โดยไม่มีฮีเบอร์ มันย่อมมีปัญหามากมาย ภายใน อำนาจจะแบ่งเป็นของหลายคน ไม่มีใครเต็มใจมีระดับเท่าคนอื่น ดังนั้นจึงเกิดความขัดแย้งภายใน ภายนอกแม้จะเป็นองค์กรใหญ่เช่นนั้น แต่ก็ไม่มีความสามัคคี ท้ายที่สุด พวกเขาก็ต้องแยกทางกัน
ดังนั้นผู้นำที่สามารถข่มทุกอย่างได้จึงกลายเป็นตัวเอก
หานเซี่ยวเป็นจุดศูนย์กลางความสนใจและชื่อเสียงเขาก็เกินกว่าภัยพิบัติทั่วไป ผ่านการติดต่อ เขาได้เรียนรู้ว่ามีองค์กรข่าวกรองมากมายที่ยังเรียกเขาว่ากึ่งผู้อยู่เหนือ องค์กรชื่อดังมากมายเชื่อว่าเขาจะกลายเป็นผู้อยู่เหนือ องค์กรเหล่านั้นไม่ตาบอด บันทึกพลังเขาคือตัวพิสูจน์ ไม่มีใครกล้าดูถูกเขา
ตำแหน่งของผู้นำกองกำลังเพิ่มขึ้นแม้กระทั่งทหารรับจ้างก็รู้ว่าการติดตามเมล็ดพันธ์ผู้อยู่เหนืออาจทำให้อนาคตสดใส ดังนั้นหลายคนย่อมภักดี
ไม่ใช่แค่นั้นด้วยตำแหน่งปัจจุบันเขา เขาย่อมดึงดูดพวกมากพรสวรรค์ได้
“เพราะชื่อเสียงฉันอิทธิพลของกองทัพจึงเพิ่มขึ้นทุกวัน นี่เป็นโอกาสดีที่จะขยายตัว”
หานเซี่ยวอารมณ์ดีเขาตั้งใจพัฬนากองกำลังเขาผ่านการสนับสนุนจากอารยธรรมผลึกม่วง แต่ด้วยความแปลกใจ ชื่อเสียงเขาดูเหมือนจะช่วยให้แผนเขาล่วงหน้าเร็วขึ้น
พลังคือสิ่งสำคัญสุด!
“การขยายคือโอกาสพัฒนากองทัพแบล็คสตาร์มีเป้าหมายมากมายที่ต้องทำให้สำเร็จ อย่างแรก การเปลี่ยนแปลงธุรกิจ สอง ขยายกำลังคน สาม เพิ่มกองกำลังติดอาวุธ สี่ กลายเป็นหุ้นส่วนระยะยาวกับผลึกม่วง..อืม ตราบเท่าที่สามอย่างแรกสำเร็จ เป้าหมายสี่ก็ไม่ควรเป็นปัญหา”
“แน่นอนสิ่งสำคัญสุดคือพลังฉัน เมื่อฉันจัดการปัญหาเล็กๆเสร็จ ฉันต้องใช้เวลาเพื่อหาพิมพ์เขียวมรดกเพื่อทำภารกิจเลื่อนขั้นสายอาชีพ หลังจากนั้น ก็ทำการเลื่อนระดับ200ให้สำเร็จ ยิ่งฉันแกร่ง กองทัพฉันก็จะพัฒนาได้เร็ว”
หานเซี่ยวไตร่ตรองและรีบตั้งเป้าหมาย
เขาไม่คิดว่าจะทำได้ดีเช่นนี้ก่อนสงครามและก็ไม่คิดว่าจะกลายเป็นประเด็นพูดคุย จากที่เขาเห็น แผนพั?นาที่เขาตั้งไว้ค่อนข้างอนุรักษ์นิยม
นี่คือโอกาสหายากที่เขาต้องคว้าไว้
ตึงตึง!
ตอนนั้นมีคนเคาะประตูห้องดัดแปลงเสียงดัง
“ใคร?”หานเซี่ยวเปิดประตู
กล้ามเนื้อที่เต็มไปด้วยขนเข้าสู่สายตาเขาหานเซี่ยวแหงนมองฮาร์ม่อนสูงสามเมตรด้านนอกประตู
“ลากีกลับมาแล้วเขาอยากเจอนาย”ฮาร์ม่อนกล่าว
“โอ้ฉันคิดว่าเขาจะให้ข้ออ้างว่าเครื่องยนต์พังและลากถ่วงจนสงครามจบซะอีก”หานเซี่ยวแปลกใจ
ฮาร์ม่อนเกาขนดกและทำเสียงฮึดฮัดยาวราวกับกล้ามเนื้อในสมองเขาไม่อาจประมวลผลความหมายได้
“อืม..”หานเซี่ยวพลันนึกถึงบางสิ่ง”ทำไมนายถึงมารายงาน?เฮอลัสไปไหน?”
โดยปกติหากซิลเวียไม่อยู่ เฮอลัสจะเป็นเลขาเขา
“เขาขอให้ฉันโกหกนายว่าเขากำลังฝึก”ฮาร์ม่อนกล่าวด้วยน้ำเสียงตรงไปตรงมา
“อืม..”ปากหานเซี่ยวกระตุก”งั้นเขาทำอะไรอยู่?”
“เขากำลังเล่นไพ่”
หานเซี่ยวพูดไม่ออก
“อืมฉันเข้าใจแล้ว ฉันจะไปหาลากีเดี๋ยวนี้แหละ”
หานเซี่ยวปิดประตูเดินไปพักหนึ่งก่อนนึกอะไรได้ เขาหันไปหาฮาร์ม่อน”อีกกี่ปีกว่าจะถึงการคัดเลือกหัวหน้าเผ่านาย?”
ฮาร์ม่อนคือหนึ่งในทายาทของเผ่าร็อคเฟลแห่งอารยธรรมมนุษย์สัตว์ลู่หานภารกิจย่อยากเขาคือการเข้าร่วมสหพันธ์สงครามและช่วยเขาให้เป็นหัวหน้า
หากเขาจำไม่ผิดนี่ควรเป็นภารกิจย่อยเวอร์ชั่นสาม แต่ในกรณีที่เรื่องราวเปลี่ยน หานเซี่ยวจึงตัดสินใจถามอีกครั้ง
ฮาร์ม่อนนับนิ้วสักพักและกล่าวด้วยเสียงลังเล”ฉันคิดว่า11ปี3วัน”
อายุขัยเฉลี่ยของมนุษย์สัตว์ลู่หานคือประมาณ250ซึ่งยาวนาน การคัดเลือกหัวหน้าคืองานใหญ่ มันมักให้เวลากว่าสิบปีเพื่อให้ผู้สมัครสร้างสหพันธ์สงครามขึ้น นี่เป็นเพราะการคัดเลือกมักจะกำหนดหัวหน้าคนต่อไปอีกสองร้อยปี
“มันเป็นเรื่องดีที่นายมีสหาย”หานเซี่ยวกล่าว”ไม่งั้นฉันสงสัยว่านายคงพลาดการคัดเลือกและเสียตำแหน่งนาย…”
ฮาร์ม่อนเบิกตากว้างและเป่าปากอย่างไม่พอใจริมฝีปากหนาเขาสั่น
…
หานเซี่ยวเดินตรงไปสะพานและเห็นลากีผู้รออยู่นานแล้ว เขายิ้มและเดินไปตบไหล่ลากี
“นายกลับมาแล้ว”
‘ใช่ฉันไม่ตาย”ลากีพึมพำ”แ แต่ฉันคิดว่าโชคทั้งหมดของฉันหมดแล้ว”
รอยยิ้มหานเซี่ยวแข็ง
“อะแฮ่มนายจำสิ่งที่ฉันบอกก่อนนายไปได้ไหม?’หานเซี่ยวกล่าว
“ได้”ลากีพยักหน้า”นายบอกว่านายกำลังจะยกเลิกงานหนักของฉันและให้ฉันพัก”
“ไม่ฉันไม่ได้พูด อย่ามาตอแหล!”หานเซี่ยวกัดฟัน”ฉันบอกว่าเมื่อนายกลับมา นายจะเป็นรองกัปตัน!”
“โอ้งั้นฉันคงจำผิดไป”
“แน่ใจนะ?”หานเซี่ยวสงสัยทำไมฉันถึงรู้สึกว่าไม่ใช่?
เมื่อได้ยินเสียงสงสัยใบหน้าของลากีก็ผิดหวัง”นายไม่เชื่อฉัน…เห้อ ฉันควรู้อยู่แล้ว คนอย่างฉันไม่น่าเชื่อถือหรอก”
“พอแล้ว”หานเซี่ยวกล่าวอย่างหมดอาลัยตายอยาก”ในเมื่อนายไม่คัดค้านฉันก็จะประกาศทั้งกองทัพว่านายคือรองกัปตันคนแรก ฉันยังวางแผนประกาศถึงอดีตนาย นายเคยเป็นผู้บัญชาการของจอมเวทย์ต้องห้ามแห่งวิหารชุดแดง อดีตนี้จะเพิ่มชื่อเสียงนายและจะไม่มีใครกล้าตั้งคำถาม”
ลากีพยักหน้าไม่คัดค้านแต่เน้นย้ำจุดหนึ่ง”อย่าลืม นายสัญญากับฉันว่าแค่เลื่อนตำแหน่งและงานฉันจะไม่เพิ่ม
แกไม่ต้องจำให้มันแม่นขนาดนั้นได้ไหม?!
…
การแต่งตั้งรองกัปตันถูกส่งไปยังอุปกรณ์สื่อสารของสมาชิกกองทัพแบล็คสตาร์เรือนแสน
เมื่อเปิดประวัติกลุ่มทหารรับจ้างกองทัพแบล็คสตาร์ภายใต้แถวผู้นำ ตำแหน่งรองกัปตันมักว่างเสมอ ชื่อแรกที่เขียนเป็นลากี
ลากีเข้าร่วมไม่นานดังนั้นจึงยังมีทหารรับจ้างระดับต่ำถึงกลางภายในกองทัพที่ไม่รู้จักเขา ด้วยความอยากรู้ สับสน แปลกใจและอื่นๆ พวกเขาเปิดประวัติลากีและตกใจ
ไม่เพียงแค่รองกัปตันใหม่จะเป็นเกรดA+เขายังเป็นอดีตผู้บัญชาการจอมเวทย์ต้องห้าม รวมถึงศิษย์คนที่สี่ของเมกัส ออสติน!
อดีตของลากีน่าประทับใจมากมีคนนอกไม่กี่คนที่รู้ว่าเกิดอะไรขึ้นระหว่างออสตินและลากี นี่คือสมาชิกแดนหลักขององค์กรผู้อยู่เหนือที่ออกมาและเข้าร่วมกับกองทัพแบล็คสตาร์!
หานเซี่ยวอยู่ในความนิยมสูงสุดดังนั้นทุกการกระทำเขาจึงดึงดูดความสนใจของคนนับไม่ถ้วน ไม่ใช่แค่สมาชิกกองทัพ องค์กรต่างๆยังตกใจ
หนึ่งในศิษย์ของเมกัสกลับเป็นรองกัปตันของกองทัพแบล็คสตาร์พวกเขาร่วมมือกัน??
การรับรู้ของกองทัพแบล็คสตาร์เปลี่ยนไปสำหรับคนนับไม่ถ้วนรวมถึงสมาชิกเอง ความสำเร็จของแบล็คสตาร์และการขยายของกองทัพดูเหมือนจะเพิ่มขึ้นไม่หยุด
อย่างที่หลายคนเห็นแบล็คสตาร์อยากใช้อิทธิพลเขาเพื่อนำผลประโยชน์มาสู่กองทัพเขา มีเจตนาที่จะกลายเป็นยักษ์ใหญ่ของทุ่งดาว!
คำถามที่ตามมากระตุ้นความสนใจจากทุกฝ่าย
เกาะมังกรจะทำยังไงหากแบล็คสตาร์ขยายตัว?
เหนือสิ่งอื่นใดกองทัพแบล็คสตาร์ได้รับการขนานว่าเป็นทีมภาคสนามของเกาะมังกร ตอนนี้แบล็คสตาร์แสดงให้เห็นถึงศักยภาพของผู้อยู่เหนือ แล้วเขาจะยังอยู่ภายใต้เอเมสอยู่ไหม?
แม้มันจะยังไม่ชัดเจนว่าแบล็คสตาร์จะกลายเป็นผู้อยู่เหนือไหมความทะเยอทะยานก็ไม่ใช่เรื่องง่ายที่จะลบ ตำแหน่งที่พุ่งสูงของแบล็คสตาร์ย่อมเปลี่ยนวิธีคิดเขา
คนนับไม่ถ้วนตื่นเต้นเมื่อคิดถึงความเป็นไปได้ในอนาคต
หากการประกาศของรองกัปตันดึงดูดความสนใจการประกาศของหานเซี่ยวครั้งต่อไปย่อมทำให้แผ่นดินสั่นสะเทือน
กองทัพแบล็คสตาร์ประกาศรับสมัครจำนวนมากไปทั่ววงแหวนดาวกระจาย!
หานเซี่ยววางแผนเจาะเข้าไปยังรายชื่อเมล็ดพันธ์ผู้อยู่เหนือเพื่อดึงดูดคนมากความสามารถ
เขาเชื่อว่าต้องมีคนหลายคนยอมเดิมพันว่าเขาจะกลายเป็นผู้อยู่เหนือ
การเข้าร่วมตอนนี้ย่อมมีค่ากว่าการเข้าร่วมองค์กรผู้อยู่เหนือมันเทียบเท่ากับการเป็นหุ้นส่วนตอนเริ่มธุรกิจ ต่อให้ขาดทุน มันก็แค่เสียเวลา มันยังยอมรับได้
มันคือการเดิมพันครั้งใหญ่!
เมื่อกองทัพแบล็คสตาร์ทำการประกาศคนและองค์กรนับไม่ถ้วนทั่วทุ่งดาวก็ถูกล่อลวง