The Legendary Mechanic - ตอนที่ 701-702
ตอนที่ 701 คมเขี้ยว
กลุ่มดาวทาราแลมภูมิภาครูหนอน0358
รูหนอนสีดำฟ้าขนาดใหญ่และเล็กดำรงอยู่ในพื้นที่แถบนี้ฉีกอวกาศรอบๆพวกมัน นักท่องอวกาศต่างเดินทางอย่างระมัดระวังในพื้นที่ไม่มั่นคงนี้ และหานเซี่ยวก็เช่นกัน
ในส่วนกลางของวงแหวนดาวกระจายเป็นกลุ่มรูหนอนขนาดใหญ่ที่อยู่ภายใต้กลุ่มดาวทาราแลมเขตอันตรายนี้เรียกว่าเขตรูหนอน มีคนน้อยมากจะมาแถวนี้ อารยธรรมกลุ่มดาวต่างๆได้ส่งคนมาประจำการและสร้างสถานีสังเกตรูหนอน แบ่งเขตรูหนอนเป็นหลายร้อยภูมิภาค
เขตรูหนอนในวงแหวนดาวกระจายเชื่อมต่อกับสถานที่มากมายรอบวงแหวนดาวกระจายงานของสถานีสังเกตรูหนอนคือวัดว่ารูหนอนนี้จะนำพาไปที่ไหน แต่ทว่า เนื่องจากรูหนอนนั้นไม่มั่นคง รูหนอนเก่าจึงมักหายไป และรูหนอนใหม่ก็ปรากฏบ่อยมาก ดังนั้น ความคืบหน้าของการวัดจึงช้ามาก
ตามข้อมูลอย่างเป็นทางการจนถึงทุกวันนี้ พวกเขาทำการวัดได้เพียง1ใน2.4ล้านของรูหนอนทั้งหมด
เป้าหมายปัจจุบันของหานเซี่ยวคือสถานีสังเกตของภูมิภาค0358ผู้ให้ภารกิจพิมพ์เขียวมรดกสีเงินคือช่างกลที่ประจำการในสถานีนี้
เมื่อเขาผ่านกลุ่มรูหนอนมากสถานีอวกาศขนาดเล็กก็ปรากฏในวิสัยทัศน์เขา หานเซี่ยวส่งคำขอลงจอดบนสถานีอวกาศ ซึ่งได้รับการยอมรับอย่างรวดเร็ว เขาขับยานเพื่อลงจอด หลังจากเลื่อนบนรางแม่เหล็กของสถานีสักพัก เขาก็เข้าสู่ท่าจอด
หานเซี่ยวลงจากยานและทักทายเจ้าหน้าที่บำรุงรักษาของท่าจอด
“ท่านแบล็คสตาร์ท่านมาเพื่อหาศาสตราจารย์แฮร์โรฟาลอีกแล้วงั้นหรอครับ?”เจ้าหน้าที่ถาม
“ใช่แล้วเขาอยู่ไหน?”หานเซี่ยวพยักหน้า
“ท่านมาได้ถูกเวลาพอดีศาสตราจารย์ได้ตามทีมวัดไปรวบรวมข้อมูลรูหนอนไปและเพิ่งกลับมาสองวันก่อน เขาอยู่ภายในห้องวิจัยครับ กำลังทำการทดลอง”
“ขอบคุณ”หานเซี่ยวยิ้มและออกท่าจอดมุ่งหน้าไปยังห้องวิจัย
สถานีสังเกตรูหนอนนี้ไม่ได้เป็นของเคล็นท์หรือผลึกม่วงแต่เป็นของกลุ่มดาวอื่นที่ไม่ได้ร่วมในสงครามลับ
แฮร์โรฟาลคือช่างกลสายวิจัยที่ไม่ถนัดต่อสู้ศาสตราจารย์แห่งสถาบันการศึกษาช่างกลของอารยธรรมกลุ่มดาวนี้ เขามักอยู่แนวหน้าในหมู่ศาสตราจารย์ ศึกษาวิชาทุกแขนง เพื่อศึกษากลุ่มรูหนอน เขาจึงขอมาทำงานที่นี่
หานเซี่ยวทำภารกิจพิมพ์เขียวเสร็จจนถึงรอบเจ็ดแล้วเขามาสถานีสังเกตนี้หลายครั้ง ดังนั้นคนที่นี่จึงคุ้นเคยกับเขา
เมื่อมาถึงห้องวิจัยหานเซี่ยวก็ประกาศตัวตนเขาด้านนอกประตู หลังรอสักพัก ประตูก็เปิดและแฮร์โรฟาลก็เดินออกมา เขาจ้องหานเซี่ยวและกล่าวอย่างไม่พอใจ”เธออีกแล้ว เธอกำลังรบกวนการทดลองฉัน”
“การทดลองสามารถทำได้ตลอดเวลาแต่คุณจะไม่ได้เห็นผมทุกวัน”หานเซี่ยวหัวเราะ
แฮร์โรฟาลเป็นชายชราผมม่วงแดงผมและเคราเขาเป็นสีขาว เขาแก่มาก แต่หลังยังตรงและก็ดูฟิตกว่าชายหนุ่มบางคน
สำหรับสายช่างกลความรู้คือพลัง แฮร์โรฟาลศึกษาทฤษฏีจักรกลต่างๆอย่างลึกซึ้งและมีพรสวรรค์สูง แถม เขายังศึกษาพวกมันมาหลายปี ดังนั้นจึงเป็นปกติมากที่เขาจะเป็นช่างกลเกรดA แต่ทว่า แฮร์โรฟาลได้ทำการวิจัยและศึกษาเทคโนโลยีเสมอ เขาไม่คอยได้สู้กับใคร
แม้ระดับเขาจะไม่ต่ำเขาก็มีสายอาชีพรองมากมายคล้ายกับ[นักวิชาการ] ความสามารถต่อสู้เขาต่ำสุดในหมู่ภัยพิบัติ
อารยธรรมระบบดาวมีภัยพิบัตินับสิบดังนั้น อารยธรรมกลุ่มดาวจึงมีเป็นร้อย หลังหานเซี่ยวเข้าสู่ภัยพิบัติ เขาก็ได้ติดต่อกับคนระดับเดียวกัน ดังนั้นมันจึงดูเหมือนจะมีภัยพิบัติมากมาย จริงๆแล้ว เทียบกับจำนวนมหาศาลของเกรดBกับC จำนวนภัยพิบัติยังถือว่าต่ำมาก
อารยธรรมกลุ่มดาวมีภัยพิบัติค่อนข้างมากดังนั้นพวกเขาจึงสามารถมีพวกที่ไม่ต้องสู้เช่นแฮร์โรฟาลได้
แม้แฮร์โรฟาลจะมักมุ่งเน้นการวิจัยเขาก็รู้ว่าแบล็คสตาร์ก็เป็นช่างกล ดังนั้นเขาจึงเคารพเขา เขาหยุดการศึกษาชั่วคราวและเชิญหานเซี่ยวไปห้องรับรอง
หลังคุยกันสักพักหานเซี่ยวก็ย้ายไปยังเรื่องภารกิจพิมพ์เขียว พิมพ์เขียวมรดกเงินนี้เป็นของแฮร์โรฟาล หานเซี่ยวทำข้อตกลงกับเขาไว้นานแล้วว่าตราบเท่าที่เขาช่วยเหลือบางอย่าง แฮร์โรฟาลจะต้องสอนพิมพ์เขียวนั้นให้หานเซี่ยว ภารกิจอยู่ที่รอบเจ็ด
แฮร์โรฟาลคิดสักพักก่อนร้องขอการแจ้งเตือนผุดขึ้นบนหน้าต่างสถานะ
เขามองภารกิจลอบใหม่มันไม่ยาก แต่แค่ยุ่งยาก
หานเซี่ยวไม่ล่าช้าเขาจบการสนทนาและอำลาแฮร์โรฟาล เขาออกสถานีสังเกตและตรงไปทำภารกิจทันที
พิมพ์เขียวมรดกระดับ180มีทั้งหมดสิบรอบสำหรับหานเซี่ยว มันไม่อันตรายเลย เขาสามารถทำเสร็จได้ตราบเท่าที่มีเวลา
เดือนต่อมาหานเซี่ยวเดินทางไปรอบๆ กลับและออกสถานีสังเกตและมุ่งเน้นการทำภารกิจเดียวนี้ให้เสร็จ ราล์ฟให้วันหยุดยาวกับเขา เขาจึงมีเวลาเหลือเฟือ
ขณะที่เขากำลังทำภารกิจเขาไม่เจออุบัติเหตุใดๆ มันราบรื่นมาก ในเวลาแค่สิบวัน ภารกิจพิมพ์เขียวในรายการภารกิจก็แสดงว่าสำเร็จ หานเซี่ยวรีบกลับไปสถานีสังเกตทันที
แฮร์โรฟาลพาหานเซี่ยวไปห้องส่วนตัวขุดกองของ และนำตู้เซฟจักรกลทรงเหลี่ยมออกมา เขาใส่พลังจักรกลตัวเองลงไปเป็นรหัสผ่าน และชิ้นส่วนจักรกลของตู้ก็เริ่มขยับเหมือนรูบิค หลังจากผ่านไปครู่หนึ่ง มันก็เปิด
แฮร์โรฟาลหยิบพิมพ์เขียวออกมาสะบัดมันเล็กน้อยและวางบนโต๊ะ
“เอาละตามข้อตกลงเรา พิมพ์เขียวนี้เป็นของเธอแล้ว มันแปลก เธอยุ่งกับการต่อสู้อยู่ช่วงนี้ แต่ก็ยังบีบเวลามาทำเรื่องต่างๆเพื่อฉัน พิมพ์เขียวนี้สำคัญกับเธอมากงั้นหรอ?”
“ประมาณนั้น”หานเซี่ยวพยักหน้า
แฮร์โรฟาลเห็นว่าหานเซี่ยวไม่คิดอธิบายเพิ่มดังนั้นเขาจึงไม่ถามต่อ เขากางพิมพ์เขียวบนโต๊ะ”นี่คือสิ่งที่เธอถามหา ฉันได้มันมาจากคนอื่น ดังนั้นมันจึงไม่ใช่ความลับอะไร แม้มันจะเป็นเทคโนโลยีที่น่าสนใจ มันก็ไม่ได้ก้าวหน้ามาก มันดูเหมือนจะเป็นพิมพ์เขียวที่สืบทอดกันมา”
“ให้ผมดู”
หานเซี่ยวสแกนผ่านพิมพ์เขียวแถบความคืบหน้าสำหรับการอ่านปรากฏขึ้นทันทีบนหน้าต่างสถานะ สติปัญญาเขาสูงมาก ดังนั้นการอ่านจึงรวดเร็ว
ในเวลาไม่ถึงนาทีเขาก็อ่านพิมพ์เขียวซับซ้อนนี้จนเสร็จ ด้วยหน้าต่างสถานะ ตราบเท่าที่เขามีสติปัญญาพอ ประสิทธิภาพการเรียนรู้จะเหนือกว่าช่างกลทั่วไปหลายร้อยเท่า
แฮร์โรฟาลคิดว่าหานเซี่ยวแค่มองมันสั้นๆเขาไม่มีทางรู้ว่าหานเซี่ยวเข้าใจมันแล้ว
ท่านได้รับ[พิมพ์เขียวปนใหญ่แช่แข็งดาวยุคน้ำแข็ง]x1
ท่านได้เรียนรู้พิมพ์เขียว[พิมพ์เขียวปนใหญ่แช่แข็งดาวยุคน้ำแข็ง]!
ในที่สุด..หานเซี่ยวสูดหายใจลึกและมองคำแนะนำพิมพ์เขียว
พิมพ์เขียวมรดกมีชื่อค่อนข้างง่อยปืนใหญ่แช่แข็งดาวยุคน้ำแข็งคือเครื่องจักรระดับ180 มันเป็นอาวุธทางยุทธศาสตร์ระดับดาวเคราะห์สำหรับผู้ใช้ปืนใหญ่ ในฐานะช่างกล เขาก็ใช้มันได้
ปืนใหญ่พลังงานจะยิงลำแสงอนุภาคพลังงานความร้อนสูงออกไปส่วนปืนใหญ่แช่แข็งดาวจะเย็นมาก ตามคำแนะนำพิมพ์เขียว ที่กำลังขับสูงสุดของมัน การโจมตีหนึ่งจะสามารถทำให้ทั้งดาวเข้าสู่ยุคน้ำแข็งได้ แม้พลังทำลายล้างมันจะไม่สูงเท่าอาวุธทำลายดาวเคราะห์ มันก็ยังเป็นอาวุธที่ทรงพลังมาก
อาจเพราะปืนใหญ่แช่แข็งดาวเก่าแก่มากมันจึงไม่ต้องการความรู้สูงมาก ท่ามกลางความรู้ล้ำยุค มันต้องการแค่พลังงานสภาวะผิดปกติและอาวุธทำลายล้างที่ควบคุมได้ โชคดี หานเซี่ยวมีทั้งคู่
“อืมสิง่นี้ต้องใช้วัสดุหายาก ฉันต้องกลับไปเพื่อสร้างมัน”
เขามองดูต้นทุนและหน้ามุ่ย ราคาของปืนใหญ่นี้อาจสูงยิ่งกว่ายานพิฆาตดาวเคราะห์
การพัฒนาของเทคโนโลยีหมายถึงการสร้างอาวุธพลังสูงด้วยต้นทุนต่ำพิมพ์เขียวเก่ามักมีพลังสูงและราคาแพง
แต่ทว่าปัญหาที่สามารถแก้ได้ด้วยเงินจะถือว่าเป็นปัญหาไหม?
ฉันรวย!
เขาเก็บพิมพ์เขียวไปพยักหน้าและกล่าว”ฉันควรกลับแล้ว”
“ไม่คิดอยู่คุยกันหน่อยหรอ?ฉันยังอยากคุยเรื่องเทคโนโลยีกับเธออยู่เลย”
“อาจไม่ผมมีเรื่องต้องทำ”
“เห้องั้นฉันจะไปส่งเธอขึ้นยาน หากมีเวลาว่าง ก็มาคุยกับฉันได้ตลอดนะ เธอมีหมายเลขติดต่อฉันแล้ว”
แฮร์โรฟาลเศร้าใจเขาชอบคุยกับหานเซี่ยว ทั้งคู่คือช่างกล และก็มีหัวข้อมากมายให้คุย
แต่ทว่าวินาทีที่อกห้อง แสงในทางเดินก็กลายเป็นสัญญาณเตือนสีแดง เสียงเตือนแหลมแผดเสียงไปทั่ว
ฮึ่ม!
“ศัตรูโจมตี!ศัตรูโจมตี!”
สีหน้าแฮร์โรฟาลเปลี่ยนไปก่อนจะได้พูด ทั่วทั้งสถานีก็สั่นสะเทือนและแฮร์โรฟาลก็เกือบล้ม
ทันใดนั้นเสียงอึกทึกจากการระเบิดก็ดังขึ้น
บูม!
เปลวไฟรุนแรงขยายตัวอย่างรวดเร็วในทิศทางพวกเขาอุดทางเดินไว้
หานเซี่ยวขมวดคิ้วอนุภาคนาโนปีนขึ้นมาบนฝ่ามือเขาและเปลี่ยนเป็นเกราะ เขาพลิกฝ่ามือและม่านพลังไซโอนิคก็ปรากฏ ขวางไฟไว้ได้ง่ายๆ จากนั้นก็หันไปมองแฮร์โรฟาล
“ศัตรูกำลังโจมตีจากด้านนอกออกไปจากสถานีสังเกตกันก่อนเถอะ”
แฮร์โรฟาลมีประสบการณ์ต่อสู้น้อยมากแต่ก็ไม่ได้ขาดประสบการณ์จนตื่นตระหนก เขาติดตั้งชุดจักรกลตัวเองและพุ่งชนทางเดิน เจาะเกราะชั้นนอกของสถานีสังเกตและบินออกไป หานเซี่ยวเองก็ใช้ชุดลิงภูเขาและตามเขาออกไป
ในที่สุดทั้งสองก็เห็นว่าเกิดอะไรข้นด้านนอกสถานีสีหน้าพวกเขาเปลี่ยนไป
กองยานได้ล้อมสถานีสังเกตไว้ทุกทิศทางมันมียานรบอย่างน้อยห้าร้อยลำ และก็กำลังยิงใส่สถานีสังเกต ม่านพลังเกือบจะถูกทำลายโดยสิ้นเชิง
วินาทีถัดมาไฟก็ขยายและสถานีสังเกตก็ระเบิดเป็นชิ้นๆ
“ไม่ห้องวิจัยฉัน!”แฮร์โรฟาลตะดกน
“บ้าจริงยานอวกาศฉัน!”ดวงตาหานเซี่ยวกระตุก
เรย์โนลได้ขับยานแสงทมิฬกลับดังนั้นเขาแค่ใช้ยานอวกาศขนาดเล็กทั่วไป อย่างไรก็ตาม หานเซี่ยวยังมีเก็บอีกมากในกล่องกองทัพ มันคงขาดทุนหนักหากพวกมันถูกทำลายไปด้วย แม้เขาจะไม่ได้ขาดเงิน แต่การสูญเสียก็ยังน่าละอาย!
หานเซี่ยวยกมืออวกาศรอบเขากระเพื่อมและกล่องกองทัพก็มาถึงทีละกล่อง หานเซี่ยวนับพวกมันและโล่งใจ
ตัวกล่องได้รับความเสียหายบ้างแต่บอลบีบอัดภายในยังปกติดี กลช่องกองทัพไม่เพียงแต่ติดอุปกรณ์ไฮเปอร์ไดรฟ์ แต่ยังมีม่านพลัง นี่เพื่อป้องกันศัตรูจากการโจมตีกล่องกองทัพ
ทั่วสถานีสังเกตกลายเป็นเศษซากมีเพียงพวกพิเศษไม่กี่คนที่รอด การโจมตีฉับพลันเกินไป คนด้านในตอบสนองไม่ทัน
ด้วยความที่มันเป็นสถานีอวกาศสำหรับการวิจัยมันจึงมีมาตรการป้องกันจำกัด เหนือสิ่งอื่นใด มีคนไม่มากที่จะโจมตีสถานีสังเกตรูหนอนที่จัดตั้งโดยอารยธรรมกลุ่มดาว แถม นี่ยังเป็นเขตรูหนอน กลุ่มรูหนอนไม่มั่นคงคือแนวป้องกันธรรมชาติ
“คนเหล่านี้เป็นใคร?ทำไมถึงโจมตีเรา?”แฮร์โรฟาลตกใจและโกรธ
หานเซี่ยวอยากรู้เหมือนกันเขารู้สึกโดยสัญชาตญาณว่าศัตรูมาหาเขา
เขาขมวดคิ้วและมองกองยาน ขณะที่กำลังจะพูด เขาก็ได้รับข้อความบนชุด
“ในที่สุดเราก็ได้เจอกันอีกครั้งแบล็คสตาร์!”
เสียงนี้ดูคุ้นๆ!
หานเซี่ยวมองไป
วิสัยทัศน์เขาข้ามผ่านจักรวาลและจับกับคนๆหนึ่งจากกองยานหลังเห็นหน้าตาของคนๆนี้ชัดเจน หานเซี่ยวก็ตกใจและแปลกใจ
คนๆนี้คือศัตรูเก่าเขาที่หายตัวไปหลายปีผู้นำดาราทมิฬ!
ตอนที่ 702 จ้าวแห่งผู้ล่วงหล่น
นับตั้งแต่การตามล่าผู้นำดาราทมิฬสูญเปล่าหานเซี่ยวก็ไม่เคยเห็นเขาอีก ไม่มีใครรู้ว่าเขาซ่อนตัวอยู่ไหน แต่ตอนนี้เขากลับปรากฏ แถมยังนำกองยานมาด้วย
หานเซี่ยวขมวดคิ้วผู้นำดาราทมิฬต้องรู้ที่อยู่เขาแน่นอนและมีช่องทางข่าวกรองที่ยอดเยี่ยม เขาควรทำงานให้กับองค์กรที่แข็งแกร่งมาก
ดาราทมิฬจะมีโอกาสมุ่งเป้าไปยังโกโดร่าหากฉันถูกฆ่าสำหรับองค์กรที่ทำงานกับดาราทมิฬ มันอาจเป็นองค์กรที่พยายามลอบสังหารฉันมาก่อน เป้าหมายก็คงเหมือนกัน จึงตกลงกันได้ง่าย…
หานเซี่ยวรีบคิดจากนี้ เขาอนุมานได้ว่าผู้นำดาราทมิฬแค่โจมตีเขาเพราะเขามั่นใจ ด้วยความพยายาบลอบสังหารที่ล้มเหลวเป็นจำนวนมาก พวกเขาต้องระวัง
กองยานเล็กๆนี้ไม่ได้คุกคามเขาเลยเหนือสิ่งอื่นใด กองทัพจักรกลเขาไม่ได้มีไว้ประดับ แต่ทว่า หานเซี่ยวไม่ประมาท เขากลับตื่นตัวมาก เขารู้สึกว่าผู้นำดาราทมิฬต้องมีไพ่ตาย
หานเซี่ยวไม่คิดสนทนากล่องกองทัพเปิดทีละกล่องและกองทัพจักรกลจำนวนมากก็ขยายออกมา
โดยไม่ลังเลหานเซี่ยวโจมตี ปืนใหญ่นับไม่ถ้วนยิงออกไปเหมือนจะส่องสว่างไปทั่วจักรวาล พายุโจมตีเขาฉีกยานรบเหล่านั้นทันที!
ด้วยกองทัพจักรกลนับล้านรวมถึงพรสวรรค์ต่างๆกับพลังจักรกล หานเซี่ยวจึงเป็นกองทัพไปในตัว เขาสามารถทำลายทั้งกองยานได้ลำพัง
องครักษ์จักรกลนับไม่ถ้วนล้อมหานเวี่ยวสร้างเป็นชั้นป้องกัน การโจมตีของกองยานไม่สามารถเจาะการป้องกันได้เลย
แฮร์โรฟาลก็ได้รับการปกป้องด้วยเขามองกองทัพจักรกลที่เต็มวิสัยทัศน์และคำๆหนึ่งก็ผุดในหัวเขา รวย!
ภายในเวลาอันสั้นยานรบนับร้อยเหล่านี้ก็ถูกกวาดเกือบหมด แต่หานเซี่ยวก็ขมวดคิ้ว
การต่อสู้ง่ายๆนี้ทำให้เขาตื่นตัวเขาไม่เชื่อว่าผู้นำดาราทมิฬจะโจมตีเขาโดยไม่มีการเตรียมตัว
กองยานขนาดเล็กนี้จะกำจัดเขาได้ยังไง?
ครั้งนี้ผู้นำดาราทมิฬพลันทำท่าใส่หานเซี่ยวจากระยะไกลขณะหลบการโจมตีจากกองทัพจักรกล คลื่นเวทมนตร์แปลกๆกระจายหาหานเซี่ยว
ท่านถูกโจมตีโดยผู้นำดาราทมิฬ[โซ่แห่งความเจ็บปวด-ความลับ]ตัดสินตามลี้ลับ…ล้มเหลว สถานะลี้ลับท่านต่ำกว่าคู่ต่อสู้ คาถานี้มีผล!
[โซ่แห่งความเจ็บปวดความลับ] เมื่อศัตรูได้รับความเสียหาย พลังชีวิตท่านจะลดลงด้วย สำหรับทุกพลังชีวิต1%ที่ศัตรูเสีย ท่านจะเสีย0.55-0.7%
ท่านถูกโจมตีโดยผู้นำดาราทมิฬ[การดูดซับพลังชีวิต-ถ่ายโอน]ตัดสินตามลี้ลับ…ล้มเหลวสถานะลี้ลับท่านต่ำกว่าคู่ต่อสู้ คาถานี้มีผล!
[การดูดซับพลังชีวิต-ถ่ายโอน]: เมื่อท่านฟื้นพลังชีวิต ผลฟื้นฟูจะลดลง30% คู่ต่อสู้จะได้รับผลฟื้นฟู30%ที่ท่านเสียไป
ท่านถูกโจมตีโดยผู้นำดาราทมิฬ[คำสาปหัวใจ-สลาย]ตัดสินจากลี้ลับ..ล้มเหลว สถานะลี้ลับท่านต่ำกว่าคู่ต่อสู้ คาถานี้มีผล ท่านติดสถานะ[จิตสลาย]!
[จิตสลาย]: ความต้านทานทางจิต-40% ท่านจะเสียการควบคุมร่างกายและไม่อาจขยับได้
ระยะเวลา: 6.2วินาที
พลังจักรกลทั้งร่างหานเซี่ยวยังนิ่งเขาไม่อาจขยับร่างเขาได้เลย หานเซี่ยวพลันนึกได้ว่าเขายังมีบัตรอัญเชิญตัวละครผู้นำดาราทมิฬ และผลมันก็ยังเป็น[คำสาปหัวใจ]
ด้วยความที่เขาไม่อาจขยับได้เลยกองทัพจักรกลจึงเสียโบนัสพลังจักรกลไปชั่วคราว แรงกดดันของผู้นำดาราทมิฬพลันลดลง เขารีบหลบออกจากวงล้อม เวลานั้น เขายังเสียพลังชีวิตไปบางส่วน ดังนั้นผ่านคาถาโซ่แห่งความเจ็บปวด พลังชีวิตหานเซี่ยวจึงลดลงด้วย
หานเซี่ยวมองข้อมูลต่อสู้และรีบคำนวณ
โซ่แห่งความเจ็บปวดจะลดพลังชีวิตเป็นเปอร์เซ็นต์ปริมาณพลังชีวิตที่ฉันเสียคือประมาณ60%ของผู้นำดาราทมิฬ แต่ พลังชีวิตรวมฉันมากกว่าเขาสองเท่า และการฟื้นฟูพลังชีวิตของการดูดซับพลังชีวิตก็พึ่งพาพลังชีวิต สำหรับทุกพลังชีวิต700ที่ฉันเสีย เขาจะฟื้น300 แต่ความเร็วการฟื้นฟูเราพอๆกัน…
ดังนั้นตราบเท่าที่เขาฟื้นพลังชีวิต พลังชิวตของทั้งสองฝ่ายจะลดลงด้วยความเร็วเท่ากัน
มันไม่ได้ยากอะไรเขาแค่ไม่ต้องฟื้นพลังชีวิต
ครั้งนี้ผู้นำดาราทมิฬยกมือขึ้น แสงอบอุ่นส่องบนตัวเขา บาดแผลเขาหายดีและพลังชีวิตก็ฟื้นขึ้น
หานเซี่ยวขมวดคิ้วหากศัตรูรักษาตัวเองได้ งั้นการฆ่าผู้นำดาราทมิฬก็ลำบากแล้ว
แน่นอนการจับตัวเขานั้นง่ายกว่า
สไตล์ของผู้นำดาราทมิฬนั้นชัดเจนเขาเป็นจอมเวทย์คาถาประเภทคำสาป ไม่ว่ายังไง เขาก็คือหนึ่งในตัวละครบอสของเวอร์ชั่นสอง ความสามารถนี้จัดการได้ยากยิ่งกว่าเอ็มเบอร์ มันเหมาะกับการต่อสู้ตัวต่อตัวมากกว่า
จับเขาก่อนค่อยคิดทีหลัง
หานเซี่ยวตัดสินใจไม่ทำอย่างประมาท
ไม่ว่าวงจรนี้จะแข็งแกร่งแค่ไหนผู้นำดาราทมิฬก็ไม่มีพลังงานเหลือล้น คาถาทั้งสองใช้พลังงานมาก ทหารจักรกลนับล้านจะทำให้พลังงานเขาหมดง่ายๆ
ผลของคำสาปหัวใจหายไปอย่างรวดเร็วและหานเซี่ยวก็ได้รับการควบคุมคืนเขาควบคุมกองทัพจักรกลให้ล้อมผู้นำดาราทมิฬและสกัดกั้นเขา ผู้นำดาราทมิฬเริ่มดิ้นรนอีกครั้ง
เนื่องจากโซ่แห่งความเจ็บปวดหานเซี่ยวจึงไม่คิดฆ่าเขาแต่ลดมานาของผู้นำดาราทมิฬแทน ซึ่งคือเหตุผลที่ผู้นำดาราทมิฬยังอยู่ได้ ไม่งั้น เขาคงถูกกำจัดไปแล้วด้วยความเสียหายจริง
หานเซี่ยวไม่คิดใช้บัตรอัญเชิญตัวละครผู้นำดาราทมิฬทัศนคติหลักของผู้นำดาราทมิฬคือลี้ลับ ดังนั้นมันจึงสูงกว่าหานเซี่ยว
เขารู้สึกแข็งแกร่งขึ้นและคิดว่าจะฆ่าฉันได้ลำพัง?
แม้ความสามารถของผู้นำดาราทมิฬจะทำให้เขาตกใจมันก็ไม่ได้คุกคามมาก หานเซี่ยวอดคิดถึงไพ่ตายเขาไม่ได้
ทันใดนั้นความรู้สึกตื่นตัวก็ถาโถมในใจ ผู้นำดาราทมิฬหยิบเอาลูกปัดดำออกมา ผิวมันเหมือนผลึก ลูกปัดเต็มไปด้วยหมอกดำหนาแน่นและตรงกลางก็มีจุดแสงสีแดง
วินาทีถัดมาผู้นำดาราทมิฬก็บดขยี้มัน หมอกดำกระจายออกมาพร้อมกับจุดแสงสีแดง เปลี่ยนเป็นสิ่งมีชีวิตรูปร่างมนุษย์สีดำสนิท หมอกดำแผ่ออกจากทั่วร่างมัน
มันไม่มีหน้าและตรงกลางที่ควรเป็นหน้ามันก็เป็นจุดแสงสีแดงกระพริบ
กลิ่นอายน่าขนลุกกระจายออกมาหานเซี่ยวรู้สึกว่าขนทุกเส้นเขาลุกขึ้น
นี่คือแรงกดดันที่เกิดจากความแตกต่างในลำดับขั้นของชีวิต!
“นั่นคืออะไร!”แฮร์โรฟาลตกใจ
หานเซี่ยวไม่ตอบเขาแต่ใบหน้าเขากลับดำมืด
ด้วยพลังเขาตอนนี้มีสิ่งมีชีวิตประเภทเดียวที่คุกคามเขาได้…
ผู้อยู่เหนือ!
กองทัพจักรกลเปิดฉากยิงใส่ผู้นำดาราทมิฬและหมอกดำมนุษย์ข้างเขาหมอกดำขยับ มันคว้าไหล่ผู้นำดาราทมิฬและกลายเป็นแสงสีแดงไปปรากฏตำแหน่งอื่น
“ลูกปัดนี้มีประโยชน์มาก!”ผู้นำดาราทมิฬรู้สึกโล่งใจ
หมอกดำนี้คือร่างแยกของจ้าวแห่งผู้ล่วงหล่นเพื่อผสานความสามารถเอสเปอร์ในสนธิสัญญาความเสี่ยงสูง เขาได้ดูดซับความสามารถเอสเปอร์นับไม่ถ้วนจนกลายเป็นของเขา
ผู้นำดาราทมิฬเคยเห็นจ้าวแห่งแดนล่วงหล่นลงมือมาก่อนเขาทรงพลังมาก มีเพียงคำเดียวที่สามารถอธิบายทุกอย่างที่เขาเห็นได้….
พระเจ้า!
ร่างแยกนี้คือไพ่ตายเขา!
องค์กรที่วางแผนลอบสังหารครั้งนี้คือผู้ที่อยู่เบื้องหลังดาราทมิฬมาตลอด–อาณาจักรเคล็นท์!
การช่วยผู้นำดาราทมิฬสู้กับอารยธรรมโกโดร่าคือหนึ่งในแผนของเคล็นท์เพื่อปั่นป่วนกลุ่มดาวโคลตันดาราทมิฬแค่หมากชิ้นหนึ่งเท่านั้น เป็นเวลานานแล้ว อาณาจักรเคล็นท์ลอบสร้างปัญหาให้กับเพื่อนบ้านอย่างผลึกม่วงตลอด
หลังดาราทมิฬถูกทำลายโดยหานเซี่ยวมันก็เป็นเคล็นท์ที่ค้นพบวิธีส่งผู้นำดาราทมิฬออกไปแดนผู้ล่วงหล่น
เคล็นท์ลอบมีความสัมพันธ์กับผู้ล่วงหล่นพวกเขาไม่ได้เดิมพันทุกอย่างกับฮีเบอร์ เนื่องจากชื่อเสียงของผู้ล่วงหล่น มันจึงไม่มีทางที่พวกเขาจะเปิดเผยความลับ
หลังผู้นำดาราทมิฬกลับมาพร้อมกับกองทัพเขาก็มักหลบซ่อนในเขตแดนของเคล็นท์และแกะรอยที่อยู่หานเซี่ยวผ่านช่องทางของเคล็นท์ แดนหลั่งเลือดไม่รู้เรื่องนี้
หานเซี่ยวเป้นศัตรูของผู้นำดาราทมิฬและเคล็นท์ทั้งสองสังเกตการกระทำหานเซี่ยวเหมือนนักล่าและสังเกตเห็นว่าหานเซี่ยวไปเขตรูหนอนบ่อย
ดังนั้นเคล็นท์จึงคิดแผน แบล็คสตาณ์ได้พิสูจน์แล้วว่าการฆ่าเขานั้นเป็นเรื่องยาก ทำไมถึงไม่ขับไล่เขาไปละ?
ก่อนหน้านี้กลยุทธ์ของแดนหลั่งเลือดคือลากหานเซี่ยวไปกลุ่มดาวโซล
เพื่อทำแผนนี้ให้สำเร็จเคล็นท์ลอบติดต่อกับจ้าวแห่งแดนผู้ล่วงหล่นและได้รับร่างแยกเขามา เนื่องจากพวกเขาไม่อาจสั่งฮีเบอร์ได้ พวกเขาจึงลอบติดต่อผู้อยู่เหนือคนอื่น
แม้ร่างแยกของจ้าวแห่งแดนผู้ล่วงหล่นจะมีพลังของผู้อยู่เหนือมันก็มีพลังงานจำกัด เว้นแต่จะมาเอง แบล็คสตาร์ไม่มีทางตาย
แผนของเคล็นท์คือการใช้ร่างแยกนี้สะกดแบล็คสตาร์และส่งเขาเข้ารูหนอนขับไล่เขาออกจากวงแหวนดาวกระจาย เขตรูนอนไมเพียงแต่เชื่อมต่อกับจักรวาลที่ถูกสำรวจ แต่ยังเป็นจักรวาลที่ไร้การสำรวจ!
ภายใต้สถานการณ์ปกติผู้นำดาราทมิฬจะยอมรับงานของเคล็นท์ เขาได้นำร่างแยกของจ้าวแห่งผู้ล่วงหล่นมา ตามหานเซี่ยวมาเขตรูหนอน และโจมตี!
เขาเต็มใจทำสิ่งต่างๆเพื่อเคล็นท์เพราะมันเป็นไปได้ที่จะสร้างบ้านใหม่สำหรับเลือดผสมหากเขามีความช่วยเหลือจากอารยธรรมกลุ่มดาว
เดิมทีเขาคิดว่าเคล็นท์จะให้เขาสร้างบ้านสำหรับโกโดร่าเลือดผสมในเคล็นท์ แต่รางวัลที่เคล็นท์สัญญาครั้งนี้ก็ทำให้เขาปฏิเสธไม่ลง
หากแบล็คสตาร์ถูกขับไล่สำเร็จเคล็นท์จะสร้างอารยธรรมโกโดร่าเลือดผสมในโลกริบหรี่ใหม่!
ผู้นำมองหานเซี่ยวและจากนั้นก็มองเงาร่างหมอกดำข้างเขาที่ปล่อยกลิ่นอายหวาดกลัว เขายิ้ม
มันจบแล้ว!