The Legendary Mechanic - ตอนที่ 727-728
ตอนที่ 727 พิษจิต
ผู้อยู่เหนือทั้งสี่เป็นที่รู้จักดี[เผด็จการ]ฮีเบอร์ [จักรพรรดินีมังกร]เอเมส [เมกัส]ออสติน หานฌซี่ยวเคยเจอกับทั้งสามมาแล้ว แต่สำหรับผู้อยู่เหนือคนสุดท้าย [เนตรม่วง]ไซเคอร์ เขาไม่เคยเจอ
อาณาเขตของไซเคอร์ตั้งอยู่สุดขอบของวงแหวนดาวกระจายหานเซี่ยวเคยร่วมงานเลี้ยง แต่ไซเคอร์กลับไม่ปรากฏ
ไซเคอร์เกิดในอารยธรรมระบบดาวและเป็นผู้นำสูงสุดของอารยธรรมนั้นเขาได้นำเผ่าเขาพัฒนาอย่างเงียบสงบ
เป็นไปได้ไหมว่าเขาก็เข้าร่วมฝั่งจักรวรรดิคริมสัน?
ภายในชุดจักรกลเขาสีหน้าของหานเซี่ยวดำมืด
ในเวอร์ชั่น3.0ของชีวิตก่อนหน้าเขาไซเคอร์ไม่ได้ร่วมสงครามลับนี้
แม้เขาจะไม่เคยเห็นไซเคอร์หานเซี่ยวก็ยังจำข้อมูลเขาได
ไซเคอร์ไม่ใช่สิ่งมีชีวิตรูปร่างมนุษย์ยีนเขาสามารถโยงได้กับหนึ่งในเทพของศาสนจักรอาร์เคน เขาครอบครองพรสวรรค์ทางวิญญาณสูและครอบครองความสามารถในการใช้พลังจิตรวมถึงการรับรู้ทางจิต
การโจมตีที่เขาได้รับแค่การโจมตีพลังจิตจากไซเคอร์ที่เก็บไว้ด้วยวิธีการพิเศษและไม่ใช่จากร่างหลักดังนั้นความเสียหายจึงไม่สูง อาการปวดหัวคือสถานะด้านลบต่างๆ
หานเซี่ยวไม่แน่ใจว่าการลอบโจมตีนี้ไซเคอร์ตั้งใจเองหรือศัตรูได้ใช้วิธีการบางอย่างโดยไซเคอร์ไม่รู้ตัว
หลังความคิดเหล่านี้พุ่งผ่านเขาก็พลันพบว่าเขาไม่มีพลังงานจะคิดต่ออีก สถานะด้านลบเริ่มเล่นบทบาทพวกมันและสมองเขาก็เต็มไปด้วยการพูดพล่อยราวกับมีคนนับไม่ถ้วนบ่นอยูในหัวเขา
ภาพเริ่มซ้อนทับราวกับมีกระจกวางในตำแหน่งสุ่มทั่ว ความรู้สึกอ่อนแอเริ่มปรากฏจากก้นบึ้งจิตวิญญาณ
ตอนนี้ที่คนจากแดนหลั่งเลือดรู้ว่าภัยพิบัติไม่อาจคุกคามฉันได้พวกมันก็เริ่มใช้การโจมตีระดับผู้อยู่เหนือกับฉัน…
หานเซี่ยวกัดฟันและโบกมือจากนั้นกองทัพจักรกลก็ทำตามคำสั่ง เพิ่มพลังการโจมตีใส่เฮดาวี่ ในเวลาเดียวกัน พวกมันก็วิ่งเหมือนคลื่นจักรกลไปทางสนามรบ บดขยี้ยานรบศัตรูและเร่งความเร็วการบุก
หานเซี่ยวไม่สนใจชะลอการต่อสู้อีกและเตรียมโค่นสถานีฐานให้เร็วที่สุดและจบการต่อสู้เพื่อกลับไปดูแลสถานะด้านลบนี้
เฮดาวี่ตกตะลึงแสงสีขาวก่อนหน้าคือการโจมตีทางจิตและโดยไม่มีลักษณะภายนอกใดๆ เขาไม่รู้ว่าหานเซี่ยวบาดเจ็บไหม
แม้กระทั่งเมล็ดพันธ์ผู้อยู่เหนือเช่นเขาก็ไม่อาจบอกได้นับประสาอะไรกับทุกคนบนสนามรบ มีแค่ตัวหานเซี่ยวถึงรู้
“จอร์ดนั่นมันอะไร?”
สีหน้าของเฮดาวี่น่าเกลียดเขาเกลียดวิธีเช่นนี้มากที่สุด
“นี่เป็นความลับ”จอร์ดไม่พอใจเฮดาวี่และไม่คิดอธิบายนอกจากนี้ เฮดาวี่ก็แค่คนร่วมมือ ไม่ใช่คนของแดนหล่งเลือด
เฮดาวี่ระงับความโกรธขณะรับมือกับกองทัพจักรกลพร้อมสังเกตหานเซี่ยวก่อนกล่าว”เขาดูเหมือนจะไม่ได้รับผลกระทบ แสงสีขาวนั่นทำอะไร?”
จอร์ดหัวเราะเย็นและไม่ตอบ
หลังปะทะกันมาเป็นสิบปีข้อมูลที่สะสมโดยแดนหลั่งเลือดเกี่ยวกับหานเซี่ยวก็ไม่น้อยเลย เทียบกับพลังทางกาย แบล็คสตาร์ถือว่าอ่อนแอด้านจิต นี่ไม่อาจปกปิด และหลายคนก็รับรู้ แต่ทว่า หานเซี่ยวถือว่าอ่อนแอในเรื่องนี้เท่านั้น เพราะพลังชีวิตที่สูงล้ำ จอมเวทย์หรือผู้ใช้พลังจิตระดับภัยพิบัติจึงไม่อาจสู้กับเขาได้
แต่ทว่าหากผู้โจมตีคือผู้อยู่เหนือ งั้นมันก็ต่างออกไป
การโจมตีเกิดจาดพิษพลังจิตของไซเคอร์ซึ่งเป็นสิ่งที่จอร์ดต้องพยายามมากเพื่อให้ได้มา แรงบันดาลใจเขามาจากร่างแยกเทพเอสที่ผู้นำดาราทมิฬอัญเชิญมาเจ็ดปีก่อน จุดประสงค์เพื่อทำให้หานเซี่ยวอ่อนแอ
นี่เพราะฮีเบอร์หวังให้หานเซี่ยวไปถึงผู้อยู่เหนือเพื่อให้เขาจะได้ลงมือฆ่าเขาเพิ่มชื่อเสียงดังนั้น จอร์ดจึงยึดคำสั่งของฮีเบอร์เป็นชีวิต ไม่ใช่พิษนี้ รอให้เขาพัฒนา
แต่ทว่าไม่นานมานี้ ฮีเบอร์ได้เข้าถึงสถานการณ์เองและบอกว่ามันแทบเป็นไปไม่ได้ที่แบล็คสตาร์จะกลายเป็นผู้อยู่เหนือในสองถึงสามปี แผนของฮีเบอร์จึงล่ม และดังนั้น จอร์ดจึงคิดว่าไม่ต้องเก็บแบล็คสตาร์ไว้อีก
เนื่องจากแบล็คสตาร์ไม่อาจเลื่อนระดับได้ฮีเบอร์จึงไม่มีทางแทรกแซงสงครามได้ตามกฏ ดังนั้นจอร์ดจึงตัดสินใจใช้พิษจิตของไซเคอร์เพื่อทำให้แบล็คสตาร์อ่อนแอ ลดแรงกดดันด้านพลัง
ความคิดนี้เทียบเท่ากับการถือหุ้นที่มีศักยาพสูงแต่จู่ๆหุ้นนั้นก็ซบเซาหรือแม้กระทั่งดิ่ง และตัดสินใจขายหุ้นอย่างรวดเร็วเพื่อลดการขาดทุน
พิษของไซเคอร์ร้ายกาจมากและไม่อาจบอกแหล่งที่มาได้จอร์ดประเมินว่าแบล็คสตาร์คงไม่รู้จักชื่อของไซเคอร์ด้วยซ้ำ
“ภารกิจนายลุล่วงแล้วหาโอกาสถอยซะ”จอร์ดกล่าวก่อนตัดการสื่อสาร
เขาพอใจมากกับผลลัพธ์นี้
เฮดาวี่เงียบเขาพลันรู้สึกหดหู่
เฮดาวี่โยกซ้ายขวาในสนามรบใช้ยานแดนหลั่งเลือดเป็นที่กำบังรวมถึงกายไร้เทียมทานเขา บังคับให้ตัวเองหลุดจากการล้อมของกองทัพจักรกล จากนั้นก็ขโมยยานและรีบหนีไป
หานเซี่ยวคุ้นเคยกับการหลบหนีเขามานานและรู้ว่าเขาไม่อาจไล่ตามได้ เขาเรียกกองทัพจักรกลกลับและหันไปจัดการกับศัตรูภัยพิบัติคนอื่น
ลำแสงไซโอนิคเปล่งแสงทำลายต่อเนื่องทำลายแนวป้องกัน
เมื่อเผชิญหน้ากับการบุกของเซ็คชั่นซีโร่แดนหลั่งเลือดก็เปลี่ยนกลยุทธ์ ไม่ต่อต้านอีก พวกเขาเริ่มถอนกำลังและเมื่อเห็นสถานีกำลังจะล่ม พวกเขาก็ตัดสินใจระเบิดมัน ตัดเส้นทางไปฐานดาวอื่นและป้องกันเซ็คชั่นซีโร่จากการไล่ตาม
หลังเสียรูหนอนฐานดาวที่เหลือก็เป็นอิสระ และกองยานจากแต่ละดาวก็เริ่มอพยพ ทิ้งระบบดาวแคนท์ไปเพื่อรักษากำลัง
มันใช้เวลาไม่นานสำหรับกองกำลังทั้งหมดจากแดนหลั่งเลือดที่อพยพเซ็คชั่นซีโร่ประสบความสำเร็จอย่างมากในการโต้กลับ ขับไล่กองกำลังทั้งหมดในระบบดาวแคนท์
จำนวนระบบดาวของแดนหลั่งเลือดลดจากห้าเป็นสี่ซึ่งหมายความว่าสถานการณ์ในระบบดาวแคนท์ไม่เสถียร หากมันเป็นลมตะวันตก คาย่าหรือไชด้า ซึ่งถูกยึดมานาน มันคงไม่ง่ายขาดนี้ ถึงกระนั้น นี่ก็ยังเป็นชัยชนะ และขวัญกำลังใจของเซ็คชั่นซีโร่ก็เพิ่ม อารยธรรมผลึกม่วงมีความสุขมาก
รางวัลสำหรับภารกิจผู้เล่นถูกตัดสินเช่นกันและชัยชนะก็เพิ่งคะแนนภารกิจพวกเขา
บนดาวแห่งหนึ่งที่เซ็คชั่นซีโร่ยึดควันดำม้วนตัวและพื้นก็เต็มไปด้วยศพไหม้ กลุ่มทหารเดินทั่วสนามรบเพื่อเก็บของ
มีผู้เล่นมากมายในสนามรบในทีมเก็บกวาดหยิบของราวกับกำลังเก็บขยะ
“การเก็บเกี่ยวเราครั้งนี้ไม่เลวหากเราเปลี่ยนอุปกรณ์ชำรุดทั้งหมดนี้เป็นวัสดุได้ เราควรขายได้สักหนึ่งหรือสองพันอีนาส”
ดาบคลั่งหยิบค้อนสงครามจักรกลเทคโนโลยีสุงขึ้นโยนมันเข้ากล่องขณะพูดด้วยสีหน้ามีความสุข
ทีมหุบเขาแม่น้ำอยู่ในทีมเก็บกวาดด้วย
รองหัวหน้าดาบปีศาจหยิบปืนที่พังขึ้นมา เลียปากก่อนโยนมัน”หัวหน้า คุณได้ค่าประสบการณ์มากแค่ไหน?”
“ขอดูก่อนนะ..”ดาบคลั่งมอง”ฉันเกือบเลื่อนขั้น”
เพราะผู้เล่นมืออาชีพต้องเข้าร่วมโปรลีกตอนสิ้นสุดเวอร์ชั่น2.0พวกเขาจึงไม่ได้ประหยัดค่าประสบการณ์นัก ดังนั้นตอนต้นของเวอร์ชั่น พวกเขาจึงไม่มีระดับสูงสุดและส่วนใหญ่ก็ระดับไม่ถึงร้อยที่ต้องผ่านการเลื่อนระดับ
“คุณเลื่อนระดับเร็วมาก!”ดาบปีศาจอิจฉา”ผมยังขาดอีกมาก”
“ฉันฆ่าไปมากกว่านายและได้รับคะแนนภารกิจสูงกว่าแน่นอนว่าฉันย่อมเร็วกว่า”ดาบคลั่งยิ้มเยาะ
ดาบปีศาจเบ้ปาก”ช่างเถอะผมไม่รีบเลื่อนระดับพร้อมกับคุณหรอก ผมใช้ค่าประสบการณ์ไปมากเพื่อเรียนความรู้ขั้นสูง ผมจะระงับเกรดไว้ก่อน”
“ทำไมต้องระงับเกรดด้วย?นายอาจเลื่อนเป็นเกรดBหลังถึงระดับร้อย”
“ใครจะรู้?อาจมีบทลงโทษสำหรับการฆ่าพวกเกรดCหลังไปถึงระดับBยังไงก็ตาม คุณเป็นหนูตะเภาของเรา มันดีกว่าสำหรับผมที่จะรอสักพัก”ดาบปีศาจแสยะยิ้ม
“แล้วแต่นายเถอะยังไงก็ต้องเลื่อนระดับไม่ช้าก็เร็ว”ดาบคลั่งกลอกตา
อีกด้านของสนามรบเกลียดสวรรค์ยังกวาดสนามรบพร้อมมิตรสหายเขา
“การต่อสู้นี้จบลงแล้วหลังจากนี้ เราจะหาเวลาไประบบดาวอื่นเพื่อเข้าร่วมภารกิจสงครามอื่น”เกลียดสวรรค์เสนอ
แม้พวกเขาจะเข้าร่วมสงครามก็ไม่มีโอกาสหลบหนีไปค่ายศัตรู ตอนนี้ที่ภารกิจสงครามจบ พวกเขาจึงมีอิสระ และเกลียดสวรรค์ก็ตัดสินใจใช้โอกาสนี้
“แต่ส่วนลด50%ดูเหมือนจะอยู่ต่อฉันรู้สึกว่าเราควรเพลิดเพลินกับผลประโยชน์ก่อนเปลี่ยนฝ่าย เราควรกลับไปศูนย์ใหญ่กองทัพแบล็คสตาร์ก่อน ใช้ผลประโยชน์ทั้งหมด และจากนั้นก็เข้าร่วมแดนหลั่งเลือด”หนึ่งในนั้นกล่าว
เกลียดสวรรค์พยักหน้าตอบ”เป็นความคิดที่ดี”
‘แค่ว่าเนื้อเรื่องหลักเราจะต้องถูกลบก่อนและเปลี่ยนเป็นเนื้อเรื่องหลักฝ่ายเคล็นท์”หนึ่งในนั้นกล่าวอย่างเสียใจ
เกลียดสวรรค์ส่ายหัว”แต่อย่างน้อยเราก็สามารถได้รับรางวัลจากภารกิจนี้เราไม่ควรถือว่าเราขาดทุน เทียบกับเนื้อเรื่องลับของฝ่ายเคล็นท์ นี่อาจไม่เสียหายอะไร”
ทุกคนพยักหน้าเห็นด้วย
ในเวลาเดียวกันในฐานที่มั่นอื่น ดอกไม้คืนฤดูหนาวกำลังพิจารณาปัญหาเดียวกัน
“หลังภารกิจนี้จบควรมีคนที่ไปเข้าร่วมกับเคล็นท์ ตอนนั้น ฉันจะสามารถพิสูจน์สมมติฐานฉันได้ว่าฝ่ายเคล็นท์คือตัวเลือกที่ดีสุด”ดอกไม้คืนฤดูร้อนถอนหายใจ เขาเชื่อในการเดาเขา
กองกำลังส่วนใหญ่กำลังเก็บกวาดสนามรบดังนั้นหานเซี่ยวจึงปล่อยให้พวกเฮอลัสจัดการ ส่วนเขาอยู่ในห้องฝึก
ในห้องใบหน้าหานเซี่ยวขาซซีดและหลับตา พยายามรวบรวมพลังเพื่อสัมผัสสภาพร่างกายเขา หลังจากนั้นไม่นานเขาก็ลืมตาขึ้นอีกครั้ง
ชักลำบากซะแล้ว
[วิญญาณติดพิษ]จะทำให้สภาวะจิตเขาอ่อนแอลดค่าสถานะทั้งหมด20% นอกจากนี้ ค่าความแข็งแกร่งและพลังงานจะลดลงเร็วกว่าปกติ50% ซึ่งหมายความว่าเขาต้องใช้ความพยายามมากขึ้นในการใช้ทักษะเดิม
[สัมผัสบิดเบือน]ลดอัตราการโจมตีอัตราการโจมตีจุดตายและหลบหลีก
[ประสาทหลอน]ก่อกวนสภาพจิตใจเขาด้วยเสียงแปลกๆตลอดเวลา ทำให้เขายากที่จะรักษาความสงบ
สถานะ[จิตเสื่อม]นับว่าอันตรายสุดมันจะสร้างบุคลิกภาพย่อนภายในตัวเขา มันเชื่อมโยงกับสถานะ[จิตปรสิต]ที่พิษจิตจะเบียดเบียนวิญญาณเขา ผลาญพลังงานส่วนหนึ่งเขาไปเรื่อยๆ เพื่อบำรุงบุคลิกย่อย สิ่งนี้จะเสริมความแข็งแกร่งจนถึงจุดที่มันแข่งขันกับบุคลิกหลักในการควบคุมร่างกาย
หากการควบคุมร่างกายเขาถูกปล้นนหน้าต่างสถานะจะแสดงว่าเขาเข้าสู่สถานะสับสนและจะวิ่งอาละวาด ไม่อาจจำใครได้
แต่ทว่าหานเซี่ยวรู้ว่าผลจริงนั้นซับซ้อนกว่า ไม่หยุดแค่สถานะนั้น
ไซเคอร์…เห้อฉันเกลียดผู้ใช้พลังจิต…
หานเซี่ยวนวดขมับตอนนี้ บุคลิกย่อยยังอ่อนแอ และก็ไม่อาจตรวจพบการมีอยู่ของมันได้ แต่ทุกครั้งที่เขาโจมตี บุคลิกย่อยจะแข็งแกร่งขึ้น
มันอาจเป็นวัตถุประสงค์ของแดนหลั่งเลือดเพื่อยับยั้งฉันทำให้ฉันกลัวที่จะสู้?
หานเซี่ยวส่ายหัวต่อหน้าการโจมตีของผู้อยู่เหนือ แม้เขาจะเตรียมตัวมาดี การโจมตีก็ยังได้ผล
มันดูเหมือนว่าเขาต้องทิ้งทุกอย่างที่เขามีและคิดวิธีแก้ไขสถานะนี้..
หานเซี่ยวถอนหายใจ
ระยะเวลาไม่ได้เขียนไว้ดังนั้น มันย่อมไม่หายไปเอง ฉันควรแก้มันยังไง?
วิธีที่ง่ายสุดคือขอให้ไซเคอร์ช่วยแต่เขาไม่มั่นใจว่าไซเคอร์เป็นมิตรหรือศัตรู
สองคือขอให้ออสตินช่วยแผนนี้สามารถพิจารณาได้
ข้อมูลบนหน้าต่างสถานะไม่ครอบคลุมพอและหานเซี่ยวก็อยากตรวจสอบรายละเอียดของพิษแต่เขาเมหาะกว่าสำหรับการจัดการกับพวกวัสดุ ไม่ใช่จำพวกนี้ เขาจึงต้องเรียกลากีและเฟย์ดินมา
“นายถูกลอบโจมตีจากผู้อยู่เหนือสายพลังจิต?”
เมื่อเฟย์ดินและลากีมาห้องและได้ยินคำอธิบายจากหานเซี่ยวทั้งคู่ก็ตกใจ
หานเซี่ยวถูคิ้วและถอนหายใจ”มันเป็นไปไม่ได้ที่จะหลีกเลี่ยงและฉันก็ไม่คิดว่าจะเจอกับไซเคอร์เฟย์ดิน ช่วยตรวจสอบและดูหน่อยว่าสถานการณ์เลวร้ายแค่ไหน”
เฟย์ดินยื่นมือกดหลังหูหานเซี่ยวขณะหลับตา พลังจิตเขาเริ่มซึบซาบเข้าสมองหานเซี่ยว
หานเซี่ยวรู้สึกได้ถึงพลังจิตของเฟย์ดิน
ฮึม!
ทันใดนั้นภาพตรงหน้าเขาก็เปลี่ยนเป็นภาพลวงตาและแสดงภาพในสภาวะจิตเขา แบ่งปันร่วมกับเฟย์ดิน
ดินแดนจิตเขาเป็นโลกว่างเปล่าทั้งเขาและเฟย์ดินอยู่ในร่างวิญญาณและอนุภาคแสง มองไปทั่วบริเวณ
ประมาณ10%ของพื้นที่เต็มไปด้วยหมอกดำม่วงเป็นครั้ง มันพยายามรวมกันเป็นร่างมนุษย์แต่ก็ล้มเหลว
“นี่คือพิษจิตที่หยั่งรากและทำให้ดินแดนจิตนายเปราะบาง”เสียงของเฟย์ดินเคร่งเครียด”ไม่เพียงมันจะดูดพลังนายและขยายตัวมันวินาทีที่มันยึดดินแดนนายได้30% บุคลิกย่อยจะถือกำหนดและมันจะสู้กับนายเพื่อแย่งการควบคุมร่างกาย”
สีหน้าของหานเซี่ยวน่าเกลียด”นายล้างมันได้ไหม?”
เฟย์ดินส่ายหัว”นี่คือพลังจิตของผู้อยู่เหนือฉันทำอะไรม่ได้ พลังจิตฉันยังถูกมันกลืนและเปลี่ยนเป็นสารอาหาร ขอโทษ..”
ครั้งนี้ร่างวิญญาณของลากียังบีบตัวเข้ามา ปรากฏข้างทั้งสอง และตบไหล่หานเซี่ยว
“นายไม่มีความหวังเหลือแล้วแค่ส่งมอบตำแหน่งผู้บัญชาการกองทัพให้ฉัน ฉันจะทำงานนายต่อเอง”
“ขอบใจมากพวก”
ตอนที่ 728 บินด้วยตัวเอง
แม้พิษจิตจะฟังดูรุนแรง แต่หานเซี่ยวก็ไม่โกรธมากและพบว่ามันแค่ลำบาก เขาเชื่อเสมอว่าต้องมีทางออก
“แม้กระทั่งนายก็ล้างพิษไม่ได้?”หานเซี่ยวถามลากี
“ฉันสามารถสลักอักขระป้องกันบนตัวนายได้เพื่อชะลอความเร็วที่พิษจะรุกรานวิญญาณนาย”ลากีถอนหายใจ”แต่วิธีเหล่านี้ไม่อาจรักษานายได้มันเป็นความผิดฉันเองที่เป็นจอมเวทย์”
จากนั้นเฟย์ดินก็กล่าวแทรก”ฉันเองก็สามารถช่วยนายเสริมการป้องกันวิญญาณนายได้แต่นายต้องคิดหาทางแก้เอง”
เฟย์ดินเป็นคนที่มีพรสวรรค์สุดในกองทัพและเขาเข้าสู่ภัยพิบัติก่อนซิลเวีย แต่ทว่า สถานะเขาในกองทัพก็เหมือนแขกและไม่มีความรับผิดชอบใดๆ
“งั้นก็ช่วยฉันระงับพิษก่อนฉันจะคิดหาทางอื่น”
หานเซี่ยวรู้สึกโล่งใจเล็กน้อย
แม้ผู้อยู่เหนือจะทรงพลังมากภัยพิบัติก็ยังสามารถป้องกันได้ระดับหนึ่ง
ร่างของเฟย์ดินเริ่มเรืองแสงและกระแสพลังงานจิตไร้สิ้นสุดก็ไหลออกจากร่างเขาเหมือนคลื่นและห่อหุ้มโลกจิตของหานเซี่ยวไว้ จากนั้นโครงสร้างหกเหลี่ยมก็ปรากฏบนกำแพงจิตของหานเซี่ยวเพื่อเสริมการป้องกัน
อย่างรวดเร็วผลกระทบพิษจิตลดลงมากและหมอกม่วงก็ดูเหมือนจะก้าวร้าวน้อยลง
หานเซี่ยวรู้สึกกระปรี้กระเปร่าและความรู้สึกอ่อนแอก็ลดลงมาก [วิญญาณติดพิษ]ลดค่าสถานะเขาแค่14%จากเดิม20% และผลของ[สัมผัสบิดเบือน]กับ[ประสาทหลอน]ก็ยังลดลง
“ฉันจะวาดอักขระบนตัวนายออกไปกัน”ร่างจิตของลากีออกจากตัวหานเซี่ยว
หานเซี่ยวและเฟย์ดินยังถอนร่างจิตออกและสัมผัสก็กลับสู่โลกภายนอก หานเซี่ยวรู้สึกว่าฉากตรงหน้าเขากำลังเปลี่ยนและเขาก็กลับมาในห้องฝึกของยานอวกาศ พร้อมกับเฟย์ดินที่ถอนนิ้วและเดินไปข้างๆ
ลากีเดินมาและพลิกฝ่ามือคฑาผลึกหยกเขียวขนาดเล็กปรากฏในมือเขา
เขาโบกคฑาหนังสือคาถาสิบเล่มหรือมากกว่านั้นปรากฏตรงหน้าเขาและเริ่มพลิกเอง ขณะที่มันเปิดหน้า หน้าที่เต็มไปด้วยคาถาก็หลุดออกมาเองและลอยรอบลากี สิ่งเหล่านี้คือคาถาที่ลากีเตรียมไว้
“ถอดเสื้อฉันจะสลักบนตัวนาย”
หานเซี่ยวถอดเสื้อและเผยร่างกายได้รูปกล้ามเนื้อเขาอัดแน่น และแม้จะเต็มไปด้วยพลัง พวกมันก็ไม่ใหญ่เทอะทะเหมือนนักสู้ [กายทองคำ]ที่เขามีแปลงร่างเขาให้เป็นงานศิลปะ
“เอาเลย”หานเซี่ยวพยักหน้า
ลากีสะบัดมือและดวงตาเขาก็ทอประกายใช้คฑาเป็นพู่กันและเวทย์เป็นสี เขาเริ่มวาดลวดลายบนตัหานเซี่ยว
พลังงานเวทย์เย็นแผ่ซ่านไปทั่วร่างเขาด้วยความเจ็บปวดและคันมันให้ความรู้สึกเหมือนกำลังสัก
หลังผ่านไปสิบนาทีลากีก็พ่นลมหายใจยาวที่เต็มไปด้วยเวทย์ ในเวลาเดียวกัน แสงในตาเขาก็ลดลง สำหรับจอมเวทย์ การใช้เวลาสิบนาทีหรือมากกว่านั้นเพื่อจารึกมน์อาจกล่าวได้ว่าเขาทุ่มสุดตัว
จากนั้นลากีก็ถอยหลังไปและศึกษาหลังหานเซี่ยว”แม้ฉันจะไม่รู้ว่ามันได้ผลไหม..การวาดของฉันก็สวย”
หานเซี่ยวลดหัวเพื่อมองตอนนั้นเอง ทั่วร่างเขาเต็มไปด้วยอักษรรูนซับซ้อนเหมือนรอยสัก
วงเวทย์สีทองฟ้าสามารถเห็นได้ด้านซ้ายของหน้าอกและรูปร่างคล้ายดวงตาสามารถเห็นได้ที่ท้อง ทั้งสองเชื่อมต่อกันด้วยอักขระคล้ายโซ่ที่คลุมทั้งแขนเขา แผ่นหลังเขายังเต็มไปด้วยรูน กระดูกสันหลังเขาเป็นลำต้นไม้และมีกิ่งก้านนับไม่ถ้วน
นอกจากหน้าเขาทั้งตัวหานเซี่ยวปกคลุมด้วยอักษรเวทย์ที่เปล่งแสงสลัวราวกับมันกำลังหายใจ
“ด้วยร่างนายเป็นฐาน ฉันได้วาดอักขระมากมายบนตัวนาย มันจะดูดซับธาตุในธรรมชาติเองเพื่อเติมเต็มพวกมัน”
อักขระร่างกายคือทักษะสำคัญในเส้นทางอักขระมันสามารถเสริมความแข็งแกร่งให้กับเป้าหมายได้ และอารยธรรมเวทย์บางแห่งก็ใช้วิธีนี้เพื่อเสริมความสามารถต่อสู้ของทหารพวกเขา ยังมียอดฝีมือบางคนที่ใช้มันกับร่างตัวเอง
นี่คือวิธีที่นักเวทย์สามารถทำเงินได้เหมือนกับวิธีที่ช่างกลขายผลิตภัณฑ์
หานเซี่ยวลูบแขนเขาด้วยความอยากรู้และนิ้วเขาก็รู้สึกได้ถึงรอยอักขระชัดเจนแม้จะด้วยประสบการณ์เขา เขาก็สามารถรู้สึกได้ว่าอักขระบนตัวเขาซับซ้อนมาก
“ระดับของอักขระถูกจำกัดโดยพลังของร่างนายยิ่งเสริม ภาระบนตัวนายก็ยิ่งสูง โชคดี ร่างนายแข็งแกร่งมากและฉันก็สามารถวาดอักขระได้มากมาย”
จากนั้นลากีก็พูดด้วยความมั่นใจ”การคุ้มครองของจักรพรรดิศักดิ์สิทธิ์อ้อมกอดของบรรพชนจอมเวทย์ชุดขาว วงเวทย์ป้องกันวิญญาณทั้งห้า 13วงแหวนของวิญญาณลับเสถียร และอื่นๆ”
“ฉันรู้สึกสบายขึ้นมาก”
ประสาทหลอนต่างถูกระงับและหัวหานเซี่ยวก็โล่งขึ้นมากเมื่อมองหน้าต่างสถานะ สถานะด้านลบต่างๆอ่อนแรงอีกครั้งและผลของวิญญาณติดพิษก็ลดเหลือแค่5๔
บนหน้าต่างสถานะเขาผลของการเสริมต่างๆถูกแสดง ส่วนใหญ่มีผลเพิ่มความต้านทานทางจิต เพราะการเพิ่มในสถานะพื้นฐาน การเพิ่มจากพรสวรรค์[ความต้านทานจิตขั้นกลาง]จึงเพิ่มขึ้นด้วย
“ตอนนี้ฉันยังสลักวงเวทย์สำรวจจิตให้นาย”ลากีชี้วงเวทย์เล็กๆบนหน้าอกหานเซี่ยว”ตราบเท่าที่นายเพ่งจิตบนวงเวทย์นี้ นายจะสามารถเข้าโลกจิตของนายได้โดยไม่ต้องพึ่งเรา นายสามารถใช้มันเพื่อสังเกตสถานการณ์ของพิษจิตได้”
“เยี่ยม”หานเซี่ยวดีใจมากช่างกลไม่มีความสามารถจิตใดๆ และเขาก็ไม่อาจสังเกตโลกจิตของเขาเองได้ เขาไม่อาจขอความช่วยเหลือได้ตลอดเวลา เช่นนั้น เขาจึงดีใจมากที่ได้อักขระนี้
เขาทดสอบมันและร่างจิตเขาก็เข้าสู่โลกจิตทันที
ตอนนั้นเองมีชั้นมากมายรอบพิษจิตและพื้นที่ของพิษก็ลดไปเป็น6%จากก่อนหน้า10%
“มาตรการนี้สามารถยับยั้งพิษได้เท่านั้นแต่หากฉันอยากกำจัดมัน ฉันยังต้องขอความช่วยเหลือ..”
ไม่จำเป็นต้องพูดถึงไซเคอร์หานเซี่ยวไม่รู้ด้วยซ้ำว่าไซเคอร์เป็นมิตรหรือศัตรู นอกจากนี้ เขาไม่มีความสัมพันธ์กับไซเคอร์เลย และหานเซี่ยวก็ไม่คิดไปหาเขา มันสะดวกกว่าที่เขาจะไปหาออสตินแทน แม้ออสตินจะเป็นจอมเวทย์ มันก็ยังมีส่วนคล้ายระหว่างจอมเวทย์และผู้ใช้พลังจิต
จากนั้นหานเซี่ยวก็ออกโลกจิตเขาและนำอุปกรณ์สื่อสารขึ้นมาหลังคิดสักพัก เขาก็สวมเสื้อและติดต่อออสติน
“แบล็คสตาร์?”ออสตินปรากฏขึ้น”มันนานมากแล้วที่นายไม่ได้ติดต่อฉันมีอะไรงั้นหรือ?”
“ท่านเมกัสผมหวังจะได้รับความช่วยเหลือ..”
หานเซี่ยวอธิบายสิ่งที่เกิดขึ้น
“นายถูกการโจมตีพลังจิตของไซเคอร์?นายโชคร้ายจริงๆ”ออสตินหัวเราะ”เอาละมาหาฉัน ฉันไม่เจอไซเคอร์มานาน มาดูกันว่าเขาพัฒนาขึ้นหรือเปล่า”
ท่ามกลางสี่สุดยอดของวงแหวนดาวกระจายฮีเบอร์คือเผด็จการ เอเมสเป็นคนเอาแต่ใจ ไซเคอร์เป็นพวกหยิ่ง และมีแค่ออสตินที่เป็นมิตร เมื่อได้ยินว่าหานเซี่ยวต้องการให้เขาช่วย เขาก็ตอบรับโดยไม่ลังเล
หลังวางสายหานเซี่ยวก็ถอนหายใจโล่งอกก่อนหันไปมองลากี”นายอยากตามฉันไปหาออสตินไหม?”
ลากีส่ายหัวเขาไม่คิดกลับไป
“เอาละงั้นนายสามารถอยู่ในกองทัพและช่วยเฮอลัสกับซิลเวียทำงานได้ ฉันจะออกไปไม่นาน”หานเซี่ยวกล่าว”มีแค่นายสองคนเท่านั้นที่รู้เรื่องฉัน อย่าบอกให้ใครรู้เด็ดขาด”
แม้จอร์ดจะไม่รู้ผลจริงๆของพิษและหานเซี่ยวก็เตรียมปิดข่าวทั้งหมด เขาก็ไม่อยากเปิดเผยจุดอ่อนชั่วคราวเขา
“เฟย์ดินตามฉันมา”หานเซี่ยวกล่าว
ด้วยเฟย์ดินข้างๆเขาจะสามารถเพลิดเพลินกับประกายโชคได้ และวินาทีที่มีการเปลี่ยนแปลงใดๆเกิดกับพิษ เฟย์ดินยังช่วยเขาได้ สำคัญสุด พลังงานเขาจะกลายเป็นปุ๋ยสำหรับพิษหากเขาต่อสู้ และเขาก็ต้องการเก็บนักสู้ไว้ข้างกายบ้าง เฟย์ดินคือภัยพิบัติแล้ว และพลังต่อสู้เขาก็พึ่งพาได้
“ฉันย่อมอยู่ข้างนายอยู่แล้ว”เฟย์ดินยิ้มอบอุ่น
พระเจ้าอย่าปล่อยเสน่ห์นายใส่ฉัน..หานเซี่ยวรู้สึกปวดหัว
หลังการต่อสู้จบเซ็คชั่นซีโร่ก็ทิ้งกองกำลังไว้บางส่วนที่ระบบดาวแคนท์และสร้างแนวป้องกันเพื่อป้องกันแดนหลั่งเลือดจากการกลับมา
ผู้เล่นหนึ่งล้านคนที่เข้าร่วมการต่อสู้ได้รับรางวัลกลับในขณะเดียวกัน หานเซี่ยวก็พาเฟย์ดินและคนคุ้มกันอีกคน แมเรี่ยนไปวิหารชุดคลุมแดง
หานเซี่ยวสามารถออกภารกิจจากหน้าต่างกองกำลังได้แม้อยู่ไกลผลิตภัณฑ์ทั้งหมดเขาก็วางไว้ในร้านค้าแล้ว และหานเซี่ยวก็ไม่ต้องติดตามข้างผู้เล่นตลอด
ผู้เล่นกลับมาพร้อมกระเป๋าที่เต็มไปด้วยรางวัลและส่วนลด50%ก็ยังมีอยู่ หานเซี่ยวไม่กลัวว่าจะไม่มีใครซื้อของในร้านค้า ดังนั้น เขาจึงไม่ต้องกังวลอะไร นอกจากนี้ หลังศึกนี้ จะไม่มีการต่อสู้ครั้งใหญ่แบบนี้อีกในอนาคตอันใกล้ เขามีเวลาว่างมากพอจะจัดการพิษ
วิหารชุดคลุมแดงตั้งอยู่ในกลุ่มดาวอื่นและการเดินทางก็ใช้เวลานานมาก
ในเวลาเดียวกันบนดาวฮีเบอร์ ทีมบัญชาการได้คำนวณความสูญเสียจากการต่อสู้และจอร์ดก็ฟังรายงาน แม้จะสูญเสียเยอะ จอร์ดก็ยังมีรอยยิ้มบนใบหน้า
เนื่องจากเซ็คชั่นซีโร่ส่งกองกำลังทั้งหมดมามันจึงเป็นปกติที่พวกเขาจะถูกขับไล่ แต่ทว่า การเก็บเกี่ยวครั้งใหญ่สุดของพวกเขาจากศึกนี้คือการลอบโจมตีแบล็คสตาร์ได้สำเร็จ จอร์ดพอใจมาก
แบล็คสตาร์คือคนๆเดียวแต่สามารถสะกดพลรบระดับสูงทั้งหมดทางฝั่งพวกเขาได้ ตลอดสิบปี แดนหลั่งเลือดเสียภัยพิบัติไปกว่าร้อยด้วยมือของหานเซี่ยว ต่อให้พวกเขาจะมีคนมากความสามารถจากทั่วกลุ่มดาว นี่ก็ไม่ใช่จำนวนน้อยๆ
หัวใจของฮีเบอร์แข็งดุจเหล็กและเขาก็ไม่สนใจการสูญเสียเลยแต่ทว่า จอร์ดไม่อาจไม่แยส เขาเป็นพ่อบ้านที่พิถีพิถันมากและรู้สึกเจ็บปวดใจที่เสียพลรบระดับสูง หากไม่ใช่ว่าฮีเบอร์อยากเลี้ยงหมู จอร์ดคงไม่ยอมให้หานเซี่ยวได้ทำตามใจชอบแบบนี้
เขาใช้วิธีการต่างๆมากมายแต่ก็ยังฆ่าแบล็คสตาร์ไม่ได้ต่อให้แบล็คสตาร์ติดกับเขา จอร์ดก็รู้สึกว่าเขายังไม่อาจคุกคามชีวิตของแบล็คสตาร์ได้ ดังนั้น จอร์ดจึงไม่เตรียมส่งนักฆ่าไปเพิ่มแต่เลือกปล่อยแบล็คสตาร์ไว้แทน
จอร์ดอารมณ์ดีมากเขาพอใจกับผลลัพธ์ของวันนี้
แม้เขาจะไม่รู้ว่าแบล็คสตาร์บาดเจ็บแค่ไหนจอร์ดก็ได้แต่หวังให้แบล็คสตาร์ไม่อาจเข้าร่วมสงครามได้อีก
โดยปราศจากแบล็คสตาร์พลรบระดับสูงของแดนหลั่งเลือดก็สามารถออกไปลุยด้วย
ในระบบดาวแห่งหนึ่งภายในกลุ่มดาวโคลตันเกาะมังกรกำลังลอยในกาแล็กซี่
เทียบกับเจ็ดปีก่อนเกาะมังกรเปลี่ยนแปลงไปมาก ตอนนี้มีเกาะสามเกาะลอย หนึ่งเกาะใหญ่และสองเกาะเล็ก
เกาะใหญ่สุดคือเกาะลอยเดิมซึ่งตอนนี้เป็นเกาะหลัก อีกสองเกาะเล็กโคจรรอบเกาะหลักเหมือนดาวเทียมเ,กสองดวง สองเกาะใหม่นี้เป็นที่ตั้งกองกำลังทีมภาคสนาม
ด้วยการสนับสนุนของกองทัพแบล็คสตาร์วิลน่าจึงใช้เวลาแค่เจ็ดปีเพื่อเติบโตจนมีขนาดเท่านี้ แม้กระทั่งท่าของเกาะหลักก็ไมอาจจุทั้งกองกำลังได้ เช่นนั้น เกาะย่อยสองแห่งจึงเป็นค่ายสำหรับกองทัพใหม่
เจ็ดปีแห่งการพัฒนาทำให้เกาะมังกรมีหน้าตาใหม่
ตอนนี้เอเมส อีซอป วิลน่าและเจนนี่กำลังรวมกันที่ท่าจอดเกาะมังกร คนชื่อดังทั้งหมดของเกาะมังกรล้วนอยู่กันพร้อมกัน
ยานอวกาศสีแดงลำเล็กจอดอยู่ที่ท่าและทั้งฮีล่ากับออโรร่าก็กำลังถือกระเป๋าเดินทาง
บุคลิกทั้งสองยังเหมือนเดิมแต่ก็มีความเป็นผู้ใหญ่มากกว่าเจ็ดปีก่อน ทั้งคู่สวมชุดต่อสู้แตกต่างกัน ชุดของฮีล่าเป็นสีแดงและดำ ส่วนของออโรร่าเป็นสีขาวขอบทอง
“ไม่คิดอยู่ต่อเพื่อช่วยฉันจริงๆหรอ?”วิลน่าถามด้วยความเสียใจ
วันที่กองทัพแบล็คสตาร์จะถอนตัวใกล้เข้ามาเรื่อยๆและกองกำลังที่สองของวิลน่าก็คืออันที่เป็นของเกาะมังกร เธอคือผู้บัญชาการกองยานและยอดฝีมือภายใต้เอเมส
เธอทำงานให้เกาะมังกรมาเจ็ดปีเต็มแล้วและสนิทกับคนของเกาะมังกรมากโดยเฉพาะกับฮีล่าและออโรร่า
มันเป็นวันที่ฮีล่าและออโรร่าจะออกเกาะมังกรพวกเธอติดตามจักรพรรดินีมังกรมากว่าสิบปี และมันถึงเวลาที่จะบินด้วยตัวเองแล้ว
วิลน่าอ้อนวอนให้สองสาวอยู่ต่อเพื่อทำหน้าที่เป็นมือซ้ายขวาของเธอแต่มันน่าเสียดายที่ทั้งสองมีความตั้งใจแน่วแน่
“ฉันขอโทษพี่สาววิลน่า เราสัญญากับลุงแบล็คสตาร์ไว้ว่าเราจะไปหาเขา”ออโรร่าขอโทษ
วิลน่าถอนหายใจกองทัพแบล็คสตาร์ช่วยเหลือเธอมามาก และสองสาวก็สนิทกับแบล็คสตาร์ เธออายที่จะแย่งทั้งสองจากแบล็คสตาร์
จากนั้นเจนนี่ก็กล่าว”ฉันโอนเงินสองแสนอีนาสเข้าบัญชีพวกเธอแล้วมากพอให้เดินทาง”
“แบล็คสตาร์เป็นคนรวยและไม่จำเป็นที่ฉันต้องให้เงินพวกเธอเพิ่มหลังเข้าร่วมกับเขา”
“ขอบคุณค่ะพี่สาวเจนนี่”ออโรร่ากล่าวอย่างสุภาพ “ฮึ่ม”เจนนี่หันไปโดยไม่พูดอะไรอีกเธอหดหู่มากที่ทั้งสองยืนกรานจะเข้าร่วมกับกองทัพแบล็คสตาร์
จากนั้นวิลแซนเดอร์ก็หัวเราะ”อย่าลืมทักทายแบล็คสตาร์ให้ฉันด้วยละ”
“ค่ะ”ออโรร่าพยักหน้า
“ฉันด้วย”ผู้จัดการโลจิสไฮเออร์เองก็พูด
“ค่ะ”ออโรร่าหดหัวเล็กน้อยแม้จะรู้จักกันมากว่าสิบปี หน้าตาดุร้ายของไฮเออร์ก็ยังทำให้เธอกลัวเล็กน้อย
อีซอปส่ายหัว”ฉันมองไปในอนาคตของพวกเธอและไม่รู้ว่ามันเป็นเรื่องดีหรือร้ายที่ติดตามแบล็คสตาร์”
ออโรร่ากระพริบตา”โชคชะตาไม่เคยถูกกำหนดและจะเปลี่ยนตลอดเวลานี่คือสิ่งที่คุณบอกเรา”อีซอปถอนหายใจยาว
ท้ายที่สุดทั้งสองก็มองเอเมส
เอเมสยิ้มและพูดเสียงเบา”ระวังตัวด้วยละ”
ออโรร่าฉีกยิ้มกว้าง”ค่ะอาจารย์!”
แม้แต่ฮีล่าที่ไร้อารมณ์ก็ยังก้มหัวให้ด้วยความเคารพ”ขอบคุณสำหรับการสอนของอาจารย์ตลอดสิบปี”
ความรักสามารถเห็นได้ในตาของเอเมสและเธอก็พยักหน้าโดยไม่พูดอะไรอื่น
จากนั้นฮีล่าก็ยืนหลังตรงและมองมิตรสหายตลอดสิบปีจากนั้นก็ดึงฮีล่าขึ้นยานไป
จากนั้นยานก็ลอยขึ้นในอากาศและหายไปในดวงดาวภายใต้การเฝ้ามองของเอเมสเอเมสนำมือไพล่หลังและกล่าวเสียงเบา”งั้น นี่ก็คือความรู้สึกของการเป็นอาจารย์”
หูของอีซอปกระตุกเล็กน้อยและย่องหนีเหมือนโจร