The Legendary Mechanic - ตอนที่ 747-748
ตอนที่ 747 แสงนิรันดร์และความสนใจของซาร์ดีม
วันถัดมาหานเซี่ยวมาถึงที่อู่ต่อยานแต่เช้าและเตรียมประดิษฐ์ชิ้นส่วนยานที่ได้รับมอบ
เพื่อความลับพิมพ์เขียวของยานจะแบ่งเป็นกลุ่มต่างๆและมอบให้แก่วิศวกรอาวุโส ส่วนประกอบหลักของยานจะถูกสร้างโดยผู้ใต้บัญชาหลักขององค์กร วิศวกรใหม่อย่างเขามักไม่มีส่วนร่วม
บริษัทยอดหินพิจารณาปัญหาของกำหนดส่งและด้วยพลังที่หานเซี่ยวแสดงพวกเขาจึงต้องดึงเขามาเข้าร่วม อย่างไรก็ตาม พวกเขาไม่ได้มอบส่วนสำคัญให้หานเซี่ยว
ส่วนประกอบทั้งสามที่หานเซี่ยวรับผิดชอบมีข้อกำหนดทางเทคนิคสงแต่ไม่ใช่ส่วนประกอบหลัก เพราะมันเป็นส่วนประกอบระดับสูง บริษัทจึงไม่มีสายผลิตเช่นนั้น ดังนั้นวิศวกรอาวุโสจึงต้องลงมือ
เดิมเขาไม่วางแผนขโมยพิมพ์เขียวแต่หากมันคือยานเกรดกลุ่มดาว..แค่ก แค่ก ..เนื่องจากมันเป็นงานของช่างกล มันจะถือเป็นการขโมยได้ยังไง?
เขาวางแผนใช้เทคโนโลยีเสมือนเพื่อแทรกซึมฐานข้อมูลของบริษัทเขาควรสามารถขโมยกรอบพื้นฐานของยานเกรดกลุ่มดาวได้ วิศวกรเสมือนที่บริษัทจ้างเพื่อป้องกันฐานข้อมูลไม่ต่างอะไรกับเด็กหัดเดินต่อหน้าเขา
พิมพ์เขียวสำคัญส่วนใหญ่ยังอยู่ในรูปแบบสำเนาถาวรแม้วิธีดังกล่าวจะเป็นยุคก่อนประวัติศาสตร์ แต่ก็ไม่ได้ล้าสมัย เหนือสิ่งอื่นใด ช่างกลเสมือนนั้นมีชื่อไปทั่วโลก และไม่มีใครอยากให้ฐานข้อมูลตัวเองถูกคนอื่นลอบมองทุกวัน
บริษัทยอดหินกำลังเร่งดำเนินการตามคำสั่งซื้อและความเร็วการสร้างก็เป็นข้อได้เปรียบเขาตราบเท่าที่เขาทำตามโควต้าสำเร็จ บริษัทอาจให้พิมพ์เขียวเขาอีก จากนั้นเขาก็จะเก็บแต้มภารกิจได้
ตราบเท่าที่เขาพบวิธีขโมยส่วนที่เหลือของพิมพ์เขียวเขาก็จะสามารถสร้างทั้งลำได้
เมื่อมาถึงพื้นที่ทำงานสำหรับวิศวกรระดับสูงหานเซี่ยวก็เห็นลุคและทักทายเขา
“บาร์นทำไมคุณถึงมาที่นี่?”ลุคแปลกใจ
“ทำไมถึงดูแปลกใจนักละ?”หานเซี่ยวเลิกคิ้ว
“ผมคิดว่าคุณจะใช้เวลาทั้งวันเพื่อเรียนพิมพ์เขียวซะอีกหากคุณอยากดูโต๊ะทำงานคุณ ผมจะให้คนมาพาไป กำหนดเวลาใกล้มาถึงแล้วและผมก็ยุ่งมาก ผมไม่มีเวลาทำอะไรเลย”
ลุคคิดว่าหานเซี่ยวมาเพื่อทำความคุ้นเคยกับสถานที่ทำงานเขา
หานเซี่ยวส่ายหัว”เข้าใจผิดแล้วผมมาที่นี่เพื่อเริ่มงาน”
ดวงตาของลุคเบิกกว้าง”คุณใช้เวลาแค่คืนเดียวเพื่อเรียนพิมพ์เขียวที่ผมมอบให้?”
ประสิทธิภาพนี้สูงมาก
เขาไม่เชื่อชิ้นส่วนยานเกรดสูงเหล่านี้ซับซ้อนมากและเขาก็ต้องใช้เวลาสามวันเต็มเพื่อทำความเข้าใจ จากที่เขาเห็น หานเซี่ยวควรต้องใช้เวลาอย่างน้อยหนึ่งถึงสองวัน แต่เขากลับเรียนมันได้ในคืนเดียว!
หานเซี่ยวมองลุคผู้สับสนและกล่าว.”งั้นผมจะไปทำงานแล้วหากไม่มีอะไรอื่นอีก”
ลุคได้สติและรีบกล่าว”งั้นผมก็จะไม่รบกวนคุณอีก”
หานเซี่ยวพยักหน้าและเข้าสู่โรงงาน
ลุคถอนสาตากลับเมื่อเห็นหานเซี่ยวปิดประตูเพื่อนร่วมงานใหม่คนนี้น่าทึ่งกว่าที่เขาคิด
บัตรเข้าถึงของวิศวกรอาวุโสสามารถเข้าถึงโรงงานระดับสูงของบริษัทยอดหินได้สิ่งอำนวยความสะดวกของมันครบถ้วนและแม้มันจะเทียบไม่ได้กับโรงงานในกองทัพแบล็คสตาร์ มันก็ยังมีค่ามาก
หานเซี่ยวปิดประตูเป็นคนเดียวที่อยู่ในห้องทำงานเขา จากนั้นก็มองไปรอบๆห้องทำงานและพยักหน้า
“พวกเขาให้เวลาฉันครึ่งเดือนแต่ฉันต้องใช้เวลาแค่ครึ่งวัน อืม ฉันคิดว่านี่พูดเกินไปหน่อย ฉันควรชะลอความเร็วและยืดไปสักสามวัน”
เกร๊ง!
จากนั้นหานเซี่ยวก็ดีดบอลบีบอัดเพื่อสร้างผู้ช่วยต่างๆเหล่านี้คือเครื่องจักรดัดแปลงพิเศษที่เขาสร้างและเป็นเครื่องจักรเกรดA+ พวกมันไม่อาจหาซื้อได้ในตลาดและเป็นอุปกรณ์ส่วนตัวเขา
บูซ!
พลังจักรกลยิงออกจากแขนเขาและผู้ช่วยเขาก็เริ่มทำงานพวกมันใช้วัสดุต่างๆและเริ่มการสร้าง
ค่าประสบการณ์จำนวนมากเขาคือเหตุผลว่าทำไมเขาไม่กลัวตัวอ่อนวิญญาณขณะสร้างชิ้นส่วน เขาก็ใช้[เครือข่ายควอนตัม]เพื่อเชื่อมต่อเครือข่ายของบริษัทและเจาะฐานข้อมูล
ทักษะของหานเซี่ยวมีมากเกินพอจะจัดการกับระบบป้องกันของบริษัทธรรมดานี้เขาซ่อนร่องรอยเขาและเจาะผ่านระบบง่ายๆ จากนั้นก็ให้ฟิลลิปทำการคัดลอกข้อมูลทั้งหมด
“ไหนขอฉันดูของดีๆหน่อย..”หานเซี่ยวอารมณ์ดี
กระแสข้อมูลไม่รู้จบปรากฏในหัวรวมถึงบันทึกการทำธุรกรรมทั้งหมดของบริษัทยอดหิน หลังกำจัดข้อมูลไร้ประโยชน์ทั้งหมดไป หานเซี่ยวก็ได้ชุดข้อมูลเป็นประโยชน์มากมาย
พิมพ์เขียวยานเกรดสูงจะไม่เก็บไว้ในฐานข้อมูลและมีการสร้างตู้นิรภัยพิเศษเพื่อจัดเก็บแต่ตำแหน่งของตู้ไม่ระบุบนแผนที่ ดังนั้นเขาจึงไม่รู้
พิมพ์เขียวที่เก็บไว้ในฐานข้อมูลเป็นยานอวกาศธรรมดาแต่หานเซี่ยวไม่ปฏิเสธของฟรีและรับทั้งหมด แม้แต่เนื้อยุงก็ยังถือเป็นเนื้อ แถม เขามีพรสวรรค์[ทฤษฏีการวิจัย] และจะได้รับแต้มสติปัญญาต่อทุกสามทักษะ
หลังค้นหาสักพักหานเซี่ยวก็พบข้อมูลเกี่ยวกับสิ่งที่เขามองหา คำสั่งซื้อครั้งใหญ่สำหรับบริษัทยอดหิน
“ป้อมปราการแสงนิรันดร์?”หานเซี่ยวตกตะลึง
โมเดลยานหลักนี้มีชื่อเสียงมากมันไม่ใช่ผลิตภัณฑ์ของอารยธรรมกลุ่มดาวใดๆภายในวงแหวนดาวกระจาย แต่เป็นหนึ่งในโมเดลยานหลักของสหพันธ์แห่งแสง!
แม้แสงนิรันดร์จะไม่ใช่ยานไพ่ตายของอารยธรรมจักรวาลมันก็ยังเป็นยานชั้นยอด ในสงครามกาแล็กซี่ทั่วไป นี่ถือเป็นหนึ่งในยานหลักของสหพันธ์แห่งแสง ความสามารถต่อสู้ของแสงนิรันดร์นั้นเทียบได้กับยานหลักของอารยธรรมกลุ่มดาว และยังแข็งแกร่งกว่าในแง่ของพลังงาน แถม ต้นทุนการสร้างยังถูกกว่า และมันก็เป็นหนึ่งในยานหลักภายในสหพันธ์แห่งแสงที่มีข้อกำหนดทางเทคนิคต่ำสุด
พิมพ์เขียวยานรบของสหพันธ์แห่งแสงไม่อาจหาได้ในตลาดมืดแต่อู่ต่อยานทั่วไปในวงแหวนดาวกระจายกลับสามารถสร้างยานของอารยธรรมจักรวาลได้
มีเหตุผลเบื้องหลัง?
ดวงตาหานเซี่ยวเป็นประกายและก็อดคิดถึงความเป็นไปได้ต่างๆไม่ได้
สำหรับสหพันธ์แห่งแสงที่จะลอบตั้งโรงงานในวงแหวนดาวกระจายเพื่อสร้างยานหรือพวกเขากำลังพยายามสร้างกองกำลังในทุ่งดาวนี้?เป็นไปได้ไหมว่าพวกเขากำลังทำการเคลื่อนไหวครั้งใหญ่?หากเป็นเช่นนั้น บริษัทยอดหินก็ไม่ควรเป็นบริษัทก่อสร้างเดียวที่สร้างยานรบให้สหพันธ์แห่งแสง
เอ๊ะนั่นไม่ถูก สหพันธ์แห่งแสงควรมีคลังลับพวกเขาในวงแหวนดาวกระจายอยู่แล้ว ไม่ต้องจัดหาแหล่งผลิตภายนอก แถม เหตุผลเดียวที่พวกเขาจะสร้างกองกำลังในวงแหวนดาวกระจายก็เพื่อสู้กับจักรวรรดิคริมสัน..หรือว่าการเจรจากับจักรวรรดิจะเป็นแค่ฉากบังหน้าและพวกเขาต้องการครอบครองโลกริบหรี่ด้วยกำลัง?
นั่นไม่น่าจะใช่ไม่ต้องพูดถึงความจริงที่ว่าไม่มีเนื้อเรื่องเช่นนี้ในอดีตของฉัน หากสหพันธ์แห่งแสงอยากทำแบบนั้น พวกเขาก็คงส่งกองทัพมาแล้ว…
หลังสำรวจตัวเลือกต่างๆหานเซี่ยวก็เดาได้น่าเชื่อถือขึ้น
เรื่องนี้ไม่ควรเกี่ยวกับสหพันธ์แห่งแสงบางทีคนมีคนได้รับพิมพ์เขียวมาจากช่องทางลับและทำการสั่งซื้อกับบริษัทยอดหิน
หากเป็นเช่นนั้นลูกค้ารายใหญ่คนนี้คงมีความสัมพันธ์ใกล้ชิดกับบริษัทยอดหินหรือเป็นตัวตนที่บริษัทไม่อาจตอแยได้ หากไม่ พวกเขาคงไม่กล้ารับพิมพ์เขียวเช่นนี้มา
หากเป็นแบบนี้การขโมยพิมพ์เขียวก็จะยากกว่าที่คิด ฉันอาจไปตอแยองค์กรที่ทรงพลังเข้า…
หานเซี่ยวขมวดคิ้ว
ฉันเป็นบาร์นและไม่ใช่แบล็คสตาร์การที่บาร์นขโมยของเกี่ยวอะไรกับแบล็คสตาร์?
เขาแค่ขโมยพิมพ์เขียวและหนี
แต่โครงพื้นฐานของป้อมปราการแสงนิรันดร์ถูกเก็บไว้ภายในฐานข้อมูล โครงของยานอ้างถึงเกราะนอกและส่วนประกอบของยานและก่อตัวเป็นเปลือกนอกของยาน มันคล้ายกับโครงและผิวของยานอวกาศและไม่มีทักษะเทคนิคส่วนแกนเกี่ยว เพราะโครงนอกของยานใหญ่เช่นนี้มักถูกสร้างขึ้นนอกชั้นบรรยากาศ ทักษะเทคนิคที่เกี่ยวข้องจึงสูงมากและต้องได้รับความช่วยเหลือจากปัญญาประดิษฐ์ ดังนั้น พิมพ์เขียวของโครงยานจึงถูกป้อนลงฐานข้อมูล
ส่วนประกอบหลักของยานได้แก่เตาปฏิกรณ์พลังงานเครื่องสร้างม่านพลัง เครื่องยนต์และอื่นๆอีกมาก ส่วนประกอบทั้งหมดก่อตัวเป็นอวัยวะของยานและสำคัญกว่าโครงนอกมาก
เมื่อหานเซี่ยวเห็นโครงของป้อมปราการแสงนิรันดร์การแจ้งเตือนก็ผุดขึ้น
ท่านได้รับ[พิมพ์เขียวยานรบ: แสงนิรันดร์(ไม่สมบูรณ์)]!
ไม่สมบูรณ์ก็ยังดีดีกว่าได้รับส่วนอื่นของพิมพ์เขียว..หานเซี่ยวคิดกับตัวเอง
สิบวันต่อมาหานเซี่ยวซ่อนตัวในอู่ต่อยานเพื่อสร้างส่วนประกอบ และความคืบหน้าภารกิจก็เพิ่มขึ้นมาก
เขาสำเร็จเป้าหมายแรกในสามวันและเบื้องบนของบริษัทก็ตกตะลึง
หลังตรวจสอบแน่ใจว่าคุณภาพไม่มีปัญหาเบื้องบนก็รู้สึกเหมือนได้รับสมบัติมา จากนั้นก็ส่งพิมพ์เขียวให้หานเซี่ยวเพิ่ม และเขาก็สำเร็จในเวลาไม่ถึงสองวัน
เบื้องบนของบริษัทให้พิมพ์เขียวกับหานเซี่ยวเพิ่มซึ่งเสร็จสิ้นอย่างรวดเร็ว อย่างไรก็ตาม เบื้องบนก็เริ่มสงสัย ประสิทธิภาพของหานเซี่ยวเหนือเกินไป และพวกเขาก็เจอกับปัญหา หากเป็นแบบนี้ เจ้าเด็กใหม่บาร์นคงได้พิมพ์เขียวอื่นอีกมาก หากเป็นแบบนี้ มันก็จะขัดกับแผนเดิมพวกเขาในการแยกพิมพ์เขียวเพื่อลดความเสี่ยง
เพียงเมื่อเบื้องบนกำลังลังเลนายใหญ่เบื้องหลังบริษัทก็มาตรวจสอบความคืบหน้า
ในห้องประชุมซาร์ดีมพลิกรายงานล่าสุดของบริษัทยอดหินและกวาดมองเหล่าผู้จัดการข้างๆ
“ผมผิดหวังในประสิทธิภาพพวกคุณมากทำไมการสร้างแสงนิรันดร์ถึงยังไม่เสร็จ?”
“ท่านซาร์ดีมนี่คือยานหลักของอารยธรรมจักรวาล เราไม่อาจสร้างมันได้เร็วนักด้วยฝีมือเรา แถม บริษัทเรายังมีวิศวกรเกรดB+แค่คนเดียวและความสามารถการผลิตส่วนประกอบเหล่านี้ก็ต่ำมาก..”
“โอ้?”ซาร์ดีมหรี่ตา”ผมสงสัยว่าจริงๆแล้วความสนใจหลักพวกคุณแค่ตัวเลขยอดขายของอู่ทั้งหมดที่พวกคุณต้องการคือเพิ่มตัวเลขยอดขายต่อโลกภายนอกและไม่อยากทำงานกันแล้วสินะ?”
“ท่าน..ท่านเข้าใจเราผิดเราไม่มีความคิดเช่นนั้นเลยครับ!”สีหน้าเบื้องบนเปลี่ยนไปและรีบปกป้องตนเอง
แม้พวกเขาจะเป็นผู้บริหารของบริษัทซาร์ดีมก็คือนายที่แท้จริงและบริษัทก็เป็นสินทรัพย์ของซาร์ดีม นอกจากการรับคำสั่งซื้อจากโลกภายนอก ความรับผิดชอบพวกเขาคือการผลิตของให้ซาร์ดีม
หากซาร์ดีมคือผู้ปกครองดาวมาซิเฟอร์งั้นบริษัทยอดหินก็เป็นรัฐวิสาหกิจ ตราบเท่าที่ซาร์ดีมต้องการ เขาจะริบอำนาจผู้จัดการเหล่านี้ได้ง่ายๆ
การสร้างป้อมปราการแสงนิรันดร์คือภารกิจที่ซาร์ดีมให้บริษัทยอดหินและพิมพ์เขียวก็เป็นของเขา
“อย่าลืมว่าพวกคุณเป็นใคร”ซาร์ดีมเตือน”ผมจะให้เวลาอีกสี่เดือนหากยังสร้างไม่เสร็จ..”
เบื้องบนรีบแสดงความจงรักภักดี”ไม่ต้องห่วงครับเราจะสร้างมันเสร็จแน่”
จากนั้นซาร์ดีมก็พยักหน้าและถาม”คุณจ้างวิศวกรอาวุโสใหม่?”
“ครับเขาชื่อบาร์น”
จากนั้นซาร์ดีมก็ชี้ข้อมูล”ต่อให้เขาเป็นช่างกลเกรดB+ประสิทธิภาพเขาก็หายากมาก อืม มีสองความเป็นไปได้ เขาอาจเป็นช่างกลที่มีศักยภาพสูงล้ำจนกลายเป็นภัยพิบัติได้ หรือ..เขาซ่อนพลังเพื่อแรงจูงใจอื่น”
เบื้องบนตกตะลึง”เราควรทำยังไงครับ?”
“ไม่จำเป็นต้องสนใจ”
ซาร์ดีมโบกมือและเผยสีหน้าตื่นเต้น
“หากมันเป็นอย่างแรกการรับเขาเป็นศิษย์ก็คงดี หากมันเป็นอย่างหลัง มันอาจดียิ่งขึ้น”
ทุกคนมองหน้ากัน
“งั้นเราควรจัดการงานเขายังไงครับ?จะปล่อยให้เขาสร้างแสงนิรันดร์ต่อหรือไม่ครับ?ด้วยประสิทธิภาพเขาเขาจะเรียนพิมพ์เขียวได้มาก”
ซาร์ดีมขดปาก”เราแค่ต้องปกป้องพิมพ์เขียวของส่วนประกอบหลักไม่ต้องกังวลถึงส่วนอื่น”
“ครับ”ไม่มีใครกล้าโต้แย้ง
จากนั้นซาร์ดีมก็ลุกขึ้น”จับตาดูไวผมจะหาเวลาติดต่อเขา เพื่อนคนนี้ชักน่าสนใจ”
ทะเลดาวไร้ขอบเขตและจักรวาลก็ไร้สิ้นสุด
วงแหวนดาวกระจายคือขอบการสำรวจจักรวาลทุ่งดาวนี้แบ่งแยกเป็นกว่าสิบกลุ่มดาวและมีอารยธรรมระบบดาวอย่างน้อยพัน
ท่ามกลางระบบดาวเหล่านี้ระบบดาวคืนนิรันดร์กาลคือหนึ่งในระบบที่พิเศษสุด
เพราะอารยธรรมกลุ่มดาวใหม่กำลังถือกำเนิดในระบบดาวนี้
ภายใต้การนำของหัวหน้าพวกเขาอารยธรรมผงาดด้วยความเร็วสูงล้ำ เผ่าพวกเขาวิวัฒนาการด้วยอัตราเหลือเชื่อ และเผ่าพวกเขาก็นับถือผู้นำพวกเขามาก พวกเขาเปลี่ยนชื่อเผ่าและเรียกตัวเองว่าเผ่าเนตรม่วง
ไซเคอร์คือผู้นำของอารยธรรมนี้
วันนี้เผ่าเนตรม่วงได้ต้อนรับแขกไม่ได้รับเชิญ
ตอนที่ 748 เป้าหมายคือลูกบาศก์วิวัฒนาการ
ดาวอวิตานของระบบดาวคืนนิรันดร์กาลไม่ใช่ดาวแม่ของเผ่าเนตรม่วงมันเป็นดาวที่มีการพัฒนาอย่างมาก ตำแหน่งมันดี และมันก็มีศูนย์กลางทางการเงินสุดสำคัญ มีประชากรกว่าหมื่นสองพันล้านคน
ในเมืองหลักบางแห่งบนดาวอวิตานมีสิ่งมีชีวิตบินโฉบระหว่างอาคารสูง คนของเผ่าเนตรม่วงเกิดมาพร้อมกับความสามารถการบิน เมืองสงบสุขและเจริญมาก
แต่ทว่าวันนี้ ความสงบสุขบนดาวกลับแตกสลาย
อุกกาบาตสีแดงเข้มพลันปรากฏและเริ่มตกลงมาด้วยความเร็วสูงเรดาห์ไม่ตรวจพบการเคลื่อนไหวของอุกกาบาตนี้ล่วงหน้าเลย ราวกับจู่ๆมันก็ปรากฏออกมา
อุกกาบาตตกลงด้วยความเร็วสูงล้ำตรงใส่เมืองหลักนี้ เวลาที่กองยานบนดาวจะตอบสนองได้น้อยมาก
การป้องกันดาวเคราะห์นอกชั้นบรรยากาศทำงานปล่อยพลังงานสีดำเข้มและสร้างตาข่ายคลุมดาว
อุปกรณ์เช่นนี้มักใช้เพื่อหยุดอุกกาบาตพลังงานสีดำก่อตัว มันแข็ง ยืดหยุ่น และเหนียว
แต่ทว่าอุกกาบาตกลับเจาะตาข่ายพลังงานนี้ง่ายๆเหมือนมีดตัดไหม
ระบบป้องกันดาวเริ่มใช้แผนสองมันปล่อยลำแสงทำลายนับไม่ถ้วน พยายามเปลี่ยนอุกกาบาตให้เป็นฝุ่งผง แต่ก็เปล่าประโยชน์ ราวกับอุกกาบาตไม่อาจทำลายได้ แถมการโจมตีส่วนใหญ่ยังพลาดเป้า
เมื่อมองจากด้านบนฝนสีดำของลำแสงจะเห็นได้ชัดเจน!
ในเวลาเดียวกันสัญญาณเตือนการโจมตีทางอากาศก็ดังขึ้นทั่วเมืองที่อุกกาบาตกำลังตก ทางเข้าหลุมหลบภัยใต้ดินนับไม่ถ้วนปรากฏบนผิวเมือง ประชาชนส่วนใหญ่รีบเข้าไปซ่อน ไม่ช้า ถนนก็ว่างเปล่า
พวกเขาเปิดใช้ม่านพพลังขนาดใหญ่ซึ่งคลุมทั้งเมือง พยายามหยุดผลกระทบของอุกกาบาต ปืนใหญ่นับพันโผล่จากพื้นของเมืองและยิงใส่อุกกาบาต
ด้านนอกม่านพลังเมืองภัยพิบัติของเผ่าเนตรม่วงลอยอยู่กลางอากาศ
อุกกาบาตสีแดงเข้มที่ปกคลุมด้วยไฟขยายในตาเขา
“ไฟหนาเกินไปฉันไม่อาจเห็นรูปร่างจริงของอุกกาบาตนี้ได้เลย มันเกือบถึงพื้นแล้ว ฉันต้องหยุดมัน!”
ผู้พิทักษ์คือผู้ใช้พลังจิตระดับภัยพิบัติเขาแหงนมองอุกกาบาต และปล่อยพลังงานจิตทั้งหมด หวังจะหยุดมันหรืออย่างน้อยก็เปลี่ยนเส้นทาง
แต่ด้วยความตกใจเขาตระหนักว่าพลังงานจิตเขากลับหายไปทันทีที่สัมผัสกับอุกกาบาต เขาไม่อาจทำอะไรมันได้เลย
“นี่มันบ้าอะไร..”
วินาทีถัดมาความเร็วของอุกกาบาตก็เพิ่มขึ้นอีกครั้งขณะที่มันเจาะผ่านม่านพลังและตกใส่เมือง
ปัง!
หลุมกว้างหลายร้อยเมตรปรากฏบนพื้นเปลวไฟคล้ายพายุกระจายออกไป เผยให้เห็นตัวตนจริงของอุกกาบาตนี้ มันเป็นสิ่งมีชีวิตรูปร่างมนุษย์ เหมือนกลุ่มหมอก ปล่อยควันดำจากทั่วทั้งร่าง มันไม่มีหน้า มีแค่วังวนบนหัวที่มีจุดแสงสีแดงอยู่ตรงกลาง
มันคือร่างแยกเทพเอส!
ดาวเทียมสังเกตของดาวอวิตานบันทึกสิ่งนี้และถ่ายทอดสดไปยังเมืองอื่นบนดาวร่างแยกเทพเอสกำลังถูกจับตาดูโดยคนนับหมื่นล้าน
ป้อมปราการบนดาวอวิตานสังเกตเห็นผู้พิทักษ์เมืองและผู้คุ้มกันกำลังพยายามล้อมร่างแยกเทพเอส กองยานเริ่มเคลื่อนไหวเช่นกัน ยานรบรีบรวมกัน มีกองกำลังกว่าครึ่งของทั้งดาวรีบรุดหน้าไป
แต่ทว่าวินาทีต่อมา สิ่งที่ร่างแยกเทพเอสทำก็ทำให้ทั้งดาวต้องสั่กลัว
เขาอ้าแขนกว้างระดับพลังงานเขาเพิ่มขึ้นด้วยความเร็วสูง พลังงานน่ากลัวรวมกันเหมือนซูเปอร์โนวาที่กำลังจะระเบิด!
ฮึ่ม!
วินาทีถัดมาแสงก็ทำให้ทุกคนบนดาวที่กำลังดูต้องหลับตา จากนั้น รังสีระเบิดก็ตัดการถ่ายทอดสด
แต่ทว่าแม้จะไม่มีการถ่ายทอดสด ทุกคนบนดาวอวิตานก็รู้สึกได้
พื้นใต้เท้าพวกเขากำลังสั่น!
ด้วยร่างแยกเทพเอสเป็นศูนย์กลางบอลพลังงานสีแดงและดำขยายอย่างรวดเร็ว กลืนทั้งเมือง มันสามารถเห็นได้จากอวกาศ
บอลพลังงานขยายคลุมเมืองดูเหมือนจะถึงขีดจำกัดแล้ว
ครั้งนี้บอลพลังงานแบ่งออกเป็นสองชั้น ชั้นด้านนอกเริ่มอ่อนลงและสีเริ่มซีด ยังคงขนาดเดิมไว้ ส่วนชั้นในกำลังหดอย่างรวดเร็ว
เมื่อชั้นในมีขนาดครึ่งหนึ่งของชั้นนอกบอลพลังงานก็ดูเหมือนจะเสียสมดุล ไม่ว่าจะเป็นชั้นในหรือนอก พวกมันระเบิดอย่างรุนแรง เปลี่ยนเป็นคลื่น กวาดทุกสิ่งในเส้นทางมัน!
บูม!
รอยแยกปรากฏในเมืองไม่ว่าจะเป็นผู้พิทักษ์ ทหารหรือพลเมืองในที่หลบภัย พวกเขาล้วนเปลี่ยนเป็นเถ้าถ่าน
มันเหมือนวันโลกาวินาศ!
เมื่อผลกระทบของระเบิดจบเมืองหลักนี้ก็ถูกลบออกจากผิวดาว
อาคารสูงทั้งหมดหายไปมีเพียงหลุมใหญ่และรอยแยก
ไม่มีวิญญาณสักดวงที่รอด
ร่างแยกเทพเอสค่อยๆบินขึ้นจากด้านล่างของหลุมเผยตัวเองจากภาพดวงเทียม
เขาหยุดกลางอากาศสักพักก่อนบินไปทิศทางอื่นไปยังเมืองอื่น
เมื่อการถ่ายทอดสดดาวเทียมฟื้นกลับทุกคนบนดาวก็เห็นและทุกคนก็ดูเหมือนจะลืมวิธีหายใจ
ความกลัวไม่รู้จบจับหัวใจทุกคน
ไม่กี่นาทีหลังการระเบิดครั้งใหญ่ทุกสื่อข่าวของเผ่าเนตรม่วงก็รายงานข่าวที่เกิดขึ้นบนดาวอวิตาน
ในเวลาเดียวกันกองยานที่มียานของไซเคอร์อยู่ตรงกลางก็ออกจากดาวแม่เผ่าเนตรม่วงและตรงไปช่วยดาวอวิตาน
ยานอวกาศ’จิ้งจอกแสง’สามลำในโหมดล่องหนลงจอดไม่ไกลจากดาวแม่เผ่าเนตรม่วง
“ไซเคอร์เคลื่อนไหวแล้วขั้นแรกสำเร็จ!”
คอลลินยิ้มและกำหมัดด้วยความตื่นเต้น
ไซเคอร์คอยพิทักษ์ดาวแม่เขาตลอดเวลาและลูกบาศก์วิวัฒนาการก็อยู่บนดาวแม่พวกเขาจะมีโอกาสขโมยก็ต่อเมื่อล่อไซเคอร์ออกไป
จุดอ่อนของไซเคอร์คือเผ่าเขาทั้งหมดที่พวกเขาต้องทำคือวางร่างแยกเทพเอสไว้บนดาวอาณานิคมและปล่อยให้ร่างแยกเทพเอสฆ่าคนของเผ่าเนตรม่วง ไซเคอร์ย่อมต้องออกดาวแม่ไปช่วย
เว้นแต่ไซเคอร์จะไม่สนใจชีวิตของผู้คนในเผ่าเขาก็ไม่มีทางเลือก
สำหรับร่างแยกแรกนี้เทพเอสมอบความสามารถเอสเปอร์ที่มีพลังทำลายล้างรุนแรงสุดให้
เทสเอสสามารถสร้างร่างแยกได้มากแต่ไม่ได้ไร้สิ้นสุดแม้จะครอบครองความสามารถเอสเปอร์นับไม่ถ้วน ร่างแยกเขาก็ไม่อาจใช้ได้ทั้งหมด หลังร่างหลักมอบความสามารถเอสเปอร์ให้ ร่างแยกเขาถึงใช้ความสามารถเหล่านี้ได้ ร่างหลักเขาจะไม่อาจใช้ความสามารถเอสเปอร์ที่มอบให้ร่างแยกได้จนกว่าร่างแยกจะตายหรือหากเขาทำให้พวกมันหายไป
ตัวอย่างเช่นหากเขาให้ความสามารถเอสเปอร์สิบอย่างกับร่างแยก งั้นเขาก็จะไม่อาจใช้ความสามารถทั้งสิบเหล่านั้นได้
ดังนั้นเทพเอสจึงเก็บสะสมความสามารถเอสเปอร์ตลอด แม้กระทั่งพลังซ้ำๆ
“เมื่อไซเคอร์มาถึงดาวอวิตานมันจะถึงเวลาเคลื่อนไหว”โอโรเซ็นยิ้ม
คอลลินพยักหน้ามองร่างแยกเทพเอสที่สองข้างเขา”ท่านเทพเอส โปรดรอสักครู่ เราจะลงมือเมื่อเวลามาถึง”
“อืม”ร่างแยกเทพเอสพยักหน้า
ร่างแยกนี้ถูกควบคุมโดยร่างหลักคอลลินและคนอื่นกำลังสื่อสารกับเทพเอสโดยตรง
ร่างแยกสองนี้มีความสามารถเอสเปอร์ประเภทต่อต้านการตรวจจับเคลื่อนย้าย ล่องหน
เขาซ่อนในกลุ่มนี้รวมถึงปิดกั้นสัมผัสพลังจิตของไซเคอร์ด้วยความสามารถเขานี่ทำให้พวกเขาสามารถซ่อนอยู่ใต้จมูกของไซเคอร์ได้
กองกำลังหลักในการขโมยลูกบาศก์วิวัฒนาการยังเป็นร่างแยกที่สองนี้เขาเป็นคนเดียวที่สามารถส่งพวกคอลลินและคนอื่นไปยังที่เก็บลูกบาศก์ได้
สำหรับร่างที่สามเขายังซ่อนบนดาวอวิตาน แผนเขาคือร่วมมือกับร่างแรกเพื่อถ่วงเวลาไซเคอร์
ร่างสามมีควาสามารถเอสเปอร์ประเภทควบคุม
แม้ร่างแยกเขาจะมีพลังระดับผู้อยู่เหนือมันก็ยังเป็นแค่ร่างแยก และไม่อาจต่อกรกับไซเคอร์ได้ ร่างแยกหนึ่งจะอยู่ได้ไม่นาน มีเพียงการร่วมมือกันของสองร่างถึงสามารถถ่วงเวลาไซเคอร์ได้นานพอ
สำหรับสาเหตุที่ทำให้เทพเอสมั่นใจในการขโมยลูกบาศก์นั้นมันเพราะเขามีรายละเอียดเกี่ยวกับลูกบาศก์
ลูกบาศก์วิวัฒนาการไม่ใช่ของเล็กๆ
โดยปราศจากคู่มือใช้งานจะไม่มีใครรู้วิธีนำลูกบาศก์วิวัฒนาการติดตัวไปด้วย!