The Legendary Mechanic - ตอนที่ 751-752
ตอนที่ 751 มาถึง
ซาร์ดีมเป็นลูกน้องแมดิสันนี่คือข้อมูลที่หานเซี่ยวไม่คิดว่าจะได้รับ ในชีวิตก่อนหน้าเขา ซาร์ดีมไม่ถือเป็นNPCชื่อดังต่อผู้เล่นและไม่มีภารกิจให้กระตุ้น เขาไม่คิดว่าซาร์ดีมจะมีเบื้องหลังใหญ่ขนาดนี้
แมนิสันแข็งแกร่งมากในฐานะสมาชิกของแอนเชี่ยนวัน เขาสร้างกองกำลังตัวเองในเวอร์ชั่นหายนะของพวกพิเศษ
หานเซี่ยวอ่อนไหวต่อทุกเรื่องที่เกี่ยวกับแมนิสันและไม่อยากข้องเกี่ยวกับเขานี่เพราะอโรเชีย
เธอคือผู้รอดชีวิตของอารยธรรมปัญญาประดิษฐ์ที่ถูกพิชิตโดยแมนิสันและริสด้าก็ยังหวังให้หานเซี่ยวล้างแค้นให้ หานเซี่ยวยังมีภารกิจรีบู้ตอยู่
แต่ทว่าเขาไม่เต็มใจตอแยกับสิ่งมีชีวิตที่โบราณและทรงพลังตนนี้ จักรวรรดิช่างกลไม่มีความขัดแย้งกับเขาเลย มันนับเป็นการขาดทุนสำหรับหานเซี่ยวที่จะกลายเป็นศัตรูเขาเพียงแค่ภารกิจทั่วไป เขาไม่อยากทำภารกิจนี้เลย ดังนั้นเขาจึงชะลอมัน ริสด้ายังรู้ว่านี่เป็นไปไม่ได้โดยปราศจากความช่วยเหลือของผู้อยู่เหนือ ดังนั้นเขาจึงอดทนรอและไม่เร่งหานเซี่ยว
แมนิสันเป็นใหญ่ในกาแล็กซี่กลางและแม่น้ำดวงดาวแรกเริ่มแต่องค์กรเขาก็ยังลอบฝังเขี้ยวในหลายทุ่งดาว ‘จักรวรรดิช่างกล’เขาไม่ได้แค่อ้างถึงกองทัพจักรกลเขา แต่ยังอ้างถึงจำนวนช่างกลภายใต้บัญชาเขาที่สามารถสร้างเป็นจักรวรรดิได้
แมนิสันชอบรับสมัครช่างกลนี่อาจเป็นเหตุผลที่ลูกน้องเขาอยู่ในวงแหวนดาวกระจาย ไม่แปลกใจที่ซาร์ดีมจะอวดดี
ดวงตาหานเซี่ยวเป็นประกาย
อย่างไรก็ตามแม้เขาจะตกใจกับเบื้องหลังของซาร์ดีม เขาก็รีบสงบสติ
ไม่ว่ายังไงแมนิสันก็ไม่รู้จักเขา พวกเขาไม่ได้ขัดแย้งกัน ดังนั้นเขาจึงไม่กลัวเขา
การที่แมนิสันไม่รู้การดำรงอยู่ของหานเซี่ยวถือเป็นข้อได้เปรียบเขาแถม เขายังแปลกใจที่พบว่าซาร์ดีมคือคนของจักรวรรดิช่างกล
หลังแสร้งทำเหมือนลังเลสักพักหานเซี่ยวก็ส่ายหัว”แน่นอนว่าต้องเคยได้ยินชื่อ แต่ผมก็ยังไม่อยากเข้าร่วมกับคุณ”
ความมั่นใจของซาร์ดีมเปลี่ยนเป็นความตกใจ
เขาคิดว่าตราบเท่าที่เขาอ้างถึงจักรวรรดิช่างกลการรับสมัครคนๆนี้คงเป็นเรื่องง่าย
“คุณรู้ไหมว่าจักรวรรดิช่างกลมีทรัพยากรมากแค่ไหนและมีค่าแค่ไหนต่อช่างกล?”ซาร์ดีมกล่าว
แมนิสันได้สะสมเทคโนโลยีและพิมพ์เขียวมานานหลายปีไม่ต้องพูดถึงความรู้ล้ำยุค เขาอาจมีความรู้ขั้นสูงสุดสำหรับช่างกลด้วย รวมถึงพิมพ์เขียวลับหรือที่สูญหาย เขายังมียานอวกาศและอาวุธของสามอารยธรรมจักรวาล เหล่านี้ดึงดูดช่างกลนับไม่ถ้วนให้เข้าร่วมกับเขา..แน่นอน ความรู้เหล่านี้ต้องแลกกับแต้ม
หานเซี่ยวเลิกคิ้ว
“ผมรู้แต่ไม่ใช่ช่างกลทุกคนที่อยากเป็นลูกน้องของแมนิสัน”
เขาถูกล่อลวงโดยทรัพยากรแต่ของเหล่านั้นไม่ได้ฟรี เขาต้องทำสิ่งต่างๆให้จักรวรรดิช่างกลเป็นเวลานาน แถม การเข้าร่วมยังหมายถึงการเปิดเผยตัวตนจริงเขาและเขาต้องจบด้วยการทำงานให้แมนิสันจริงๆ
ดังนั้นไม่มีทางที่เขาจะตอบรับ นี่เป็นเหมือนบริษัทต่างๆที่อยากจ้างเขา แต่เขาอยากเริ่มบริษัทตัวเอง แม้บริษัทฉันจะไม่ใหญ่เท่าของแกตอนนี้ แต่ฉันก็เป็นคนที่ได้รับกำไรทั้งหมด!
ซาร์ดีมหรี่ตาหมุนตัวและกลับไปนั่ง”งั้นคุณก็ออกไปได้แล้ว”
เมื่อเห็นว่าบาร์นตัดสินใจแล้วเขาจึงไม่อยากเสียเวลาและพลังงาน
เขาไม่กังวลเรื่องตัวตนจริงหานเซี่ยวหลังปฏิบัติการบนดาวมาซิเฟอร์มากว่าร้อยปี เบื้องหลังเขาไม่ใช่ความลับต่อใครหลายคน เขากล้าบอกความจริงของเบื้องหลังเขาเพราะเขาไม่กลัวเลย เขาดำเนินงานอย่างถูกต้องตามกฏหมาย หากคนรู้ว่าเขาเป็นส่วนหนึ่งของจักรวรรดิช่างกลแล้วยังไง?ท่านแมนิสันไม่ใช่อาชญากร การมีลูน้องในวงแหวนดาวกระจายเพื่อสร้างฐานไม่ได้ละเมิดกฏหมายใด
หานเซี่ยวไม่สนใจเกี่ยวกับความไม่พอใจของซาร์ดีมเขาส่ายหัวและออกห้องไป
เขาไม่กลัวการตอแยซาร์ดีมแต่นี่หมายความว่าซาร์ดีมต้องคอยจับตาดูเขา ซึ่งทำให้การขโมยพิมพ์เขียวแสงนิรันดร์ยากขึ้น
โชคดีซาร์ดีมดูเหมือนจะไม่รู้ตัวตนจริงฉัน การเดาผิดๆของเขาทำให้ฉันสบายขึ้น ฉันควรหลอกเขาได้ แต่หากสุดท้ายยังขโมยไม่ได้ ฉันก็ต้องใช้ตัวตนนี้เพื่อขโมยมัน..หรือควรเปลี่ยนตัวตนอีก?
ขณะคิดถึงการปล้นหานเซี่ยวก็ค่อยๆเดินไป
หลังหานเซี่ยวออกไปซาร์ดีมก็เป็นคนเดียวในห้อง เขาส่ายหัวและผิดหวัง
เดิมทีเขาคิดว่าการรับสมัครบาร์นจะง่าย แต่ไม่คิดว่าจะหัวรั้นแบบนี้
ตื่อตื่อ..
ครั้งนี้อุปกรณ์สื่อสารของซาร์ดีมดังขึ้น
เมื่อเขามองผู้โทรสีหน้าเขาก็เปลี่ยนไป และหยิบอุปกรณ์สื่อสารขึ้น”สวัสดีครับ ท่านไซเคอร์!’
คนที่ติดต่อเขาคือไซเคอร์!
ภาพไซเคอร์ปรากฏบนจอ”หากฉันจำไม่ผิดดาวมาซิเฟอร์เป็นของนายสินะ?”
“ครับมีอะไรให้ผมช่วยงั้นหรือครับ?”
น้ำเสียงของซาร์ดีมเคารพมากแตกต่างจากตอนพูดกับหานเซี่ยวโดยสิ้นเชิง
ในฐานะผู้นำเผ่าเนตรม่วงมันง่ายสำหรับไซเคอร์ที่จะติดต่อเจ้าของดาวเคราะห์เป็นกลาง
นอกจากนี้เขายังรู้จักซาร์ดีมมานาน ศาสนจักรอาร์เคนอยู่เบื้องหลังเขา ดังนั้นเขาจึงเข้าถึงข้อมูลได้มาก ตัวตนจริงของซาร์ดีมไม่ใช่ความลับต่อเขาเลย
ด้วยความที่เขาได้รับการสนับสนุนโดยศาสนจักรแม้ไซเคอร์จะอยู่ในวงแหวนดาวกระจาย เขาก็ยังรู้จัดแวดวงผู้อยู่เหนือในกาแล็กซี่กลาง บุคคลที่ทรงพลังเหล่านี้รู้ว่าเขาเป็นกึ่งพันธมิตรของศาสนจักร
แม้ไซเคอร์จะสนใจแค่การดูแลเผ่าและไม่ชอบสร้างปัญหาเหมือนฮีเบอร์ในแง่อิทธิพลของสังคม ไซเคอร์นับว่าเหนือสุดในบรรดาสี่สุดยอดแห่งวงแหวนดาวกระจาย
ดังนั้นซาร์ดีมจึงเคารพเขา
“อืมฉันมีงานให้นายทำ”ไซเคอร์พูด”ฉันอยากให้นายจับตามองยานจิ้งจอกแสง ฉันจะส่งรูปร่างมันให้ทีหลัง ไม่ว่าใครจะมาถึงบนดาวนายด้วยยานประเภทนี้ จงจับตาไว้ พวกมันอาจไปที่นั่นเพื่อซ่อมยาน ดังนั้นหาทางทำให้พวกมันอยู่บนดาวมาซิเฟอร์ต่อไป”
“ครับ”โดยไม่ต้องคิดซาร์ดีมตอบรับ
แม้เขาจะอ้างว่าเป็นกลางเขาก็รู้ว่าคนประเภทไหนที่เขาต้องไว้หน้า
“นายต้องถ่วงเวลาพวกมันไว้และอย่าปล่อยให้หนีออกวงแหวนดาวกระจายได้”ไซเคอร์ย้ำ
“เข้าใจแล้วครับ”ซาร์ดีมพยักหน้า
จากนั้นไซเคอร์ก็วางสาย
ด้วยความที่หนึ่งในร่างแยกเทพเอสได้ย้ายพวกคอลลินและคนอื่นเพื่อขโมยลูกบาศก์เผ่าเนตรม่วงจึงไม่มีบันทึกภาพของคนเหล่านี้และไม่รู้หน้าตา แต่พวกเขาก็รู้ลักษณะยาน
ร่องรอยที่ไซเคอร์ทิ้งไว้บนลูกบาศก์วิวัฒนาการแสดงว่าลูกบาศก์ไม่ได้กำลังหลบหนีด้วยไฮเปอร์ไดรฟ์และหยุดเป็นครั้งแรกหลังมองแผนที่ดาว ไซเคอร์ก็ตระหนักว่าลูกบาศก์วิวัฒนาการหยุดใกล้ดาวมาซิเฟอร์
เนื่องจากเขารู้ตำแหน่งเขาจึงเดาได้ว่าพวกหัวขโมยวางแผนอะไรอยู่
ดังนั้นไซเคอร์จึงคิดแผนขึ้นและติดต่อซารดีม
ขณะทำเช่นนั้นเขาก็ตรงไปดาวมาซิเฟอร์ ตราบเท่าที่ซาร์ดีมถ่วงเวลาได้สักสองสามวัน เขาก็จะไปถึง
ด้วยพลังเขาคอลลินและคนอื่นไม่อาจหลบหนีได้
ในวลาเดียวกันบนวงโคจรของดาวมาซิเฟอร์คอลลินขับยานจิ้งจอกแสงที่เสียหายหนักและค่อยๆขับเข้าท่าจอดดาวมาซิเฟอร์
เพราะความเหนือกว่าของเครื่องยนต์พวกเขาพวกเขาจึงข้ามครึ่งทุ่งดาวได้ในเวลาสิบวัน ทิ้งผู้ไล่ตามไว้ด้านหลัง
ในที่สุดพวกเขาก็มาถึงดาวเป็นกลางนี้ดาวมาซิเฟอร์คือสถานที่ที่พวกเขาเลือกซ่อมยานพวกเขา
ตอนที่ 752 จักรพรรดิช่างกล
ยานจิ้งจอกแสงบินไปทางท่าจอดดาวมาซิเฟอร์ภาจยในห้อง คอลลินกำลังพูดกับลูกน้องเขา
“เราจะลงจอดในเมืองย่อยก่อนพวกนายจะไปหาอู่ต่อยาน ให้พวกเขาส่งยานเราไปและซ่อมโดยเร็วที่สุด เงินไม่ใช่ปัญหา…สำหรับเราที่เหลือ เราจะหาจุดซ่อนในเมืองเพื่อพักผ่อน”
คนอื่นตอบรับอย่างไม่เป็นระเบียบ
“ไม่ต้องห่วง”โอโรเซ็นพูดอย่างเกียจคร้าน”ดาวมาซิเฟอร์คือดาวเป็นกลางไม่มีใครจะมาสร้างปัญหาให้เรา เผ่าเนตรม่วงจะไม่รู้ทิศทางที่เราหลบหนี ไม่มีใครไล่ล่าเรา ดังนั้นเราย่อมปลอดภัย เราแค่ต้องอยู๋บนดาวหนึ่งหรือสองวันและรอให้ยานเราซ่อมเสร็จ จากนั้น เราก็จะนำลูกบาศก์กลับไปได้”
เมื่อพูดถึงลูกบาศก์ความปราถนาก็ปรากฏในตาของโอโรเซ็น ขณะเหลือบมองลูกบาศก์ดำเล็กๆที่ห้อยอยู่บนคอคอลลิน
คอลลินสังเกตเห็นและกล่าว”เราจะคิดหาวิธีใช้สิ่งนี้กันหลังออกวงแหวนดาวกระจายตอนนี้อย่าเพิ่งคิดถึง”
ด้วยสมบัติเช่นนี้ในมือทุกคนจึงถูกล่อลวง แต่ไม่มีใครคิดอยากขโมย พวกเขาแค่อยากประสบกับผลของมัน
แม้ลูกบาศก์วิวัฒนาการจะเป็นสมบัติจักรวาลมันก็ไม่คุ้มค่าให้ทรยศเทพเอส
ด้วยความที่เทพเอสมีข้อมูลของอารยธรรมวิวัฒนาการพวกเขาจึงรู้เรื่องหนึ่งของลูกบาศก์ด้วย ดังนั้นพวกเขาจึงไม่มีเหตุผลให้คาดหวังอะไรไร้สาระ เหนือสิ่งอื่นใด แม้เผ่าเนตรม่วงจะมีภัยพิบัติมากมาย ไซเคอร์ก็ยังเป็นเพียงผู้อยู่เหนือคนเดียว
แต่ทว่าความจริงที่การใช้ลูกบาศก์วิวัฒนาการจะทำให้พวกเขาแข็งแกร่งขึ้นก็เป็นความจริงที่เถียงไม่ได้
ครั้งนี้ยานอวกาศเข้าสู่ท่าจอด เสร็จสิ้นขั้นตอนง่ายๆและลงไปทางหนึ่งในเมืองย่อยของดาว
ทันทีที่พวกเขาออกยานคอลลินและคนอื่นก็เริ่มเคลื่อนไหว พวกเขาพบอู่ต่อยานและจ่ายพวกเขาเพื่อซ่อมยาน
ยานจิ้งจอกแสงถูกติดตั้งด้วยเครื่องยนต์ชั้นเลิศพวกเขาต้องใช้เวลาเดินทางแค่ไม่กี่วันสำหรับระยะทางที่ยานทั่วไปต้องใช้เวลาเป็นเดือน ไม่งั้น พวกเขาคงมาไม่ถึงดาวมาซิเฟอร์ ซึ่งอยู่ขอบวงแหวนดาวกระจายในเวลาแค่สิบวน พวกเขายืนกรานจะซ่อมยานเพราะความเร็วของยานจิ้งจอกแสงช่วยพวกเขาประหยัดเวลาเดินทางได้มาก พวกเขาไม่ต้องเปลี่ยนยานพวกเขาเว้นแต่จะไร้ทางเลือก
ยิ่งหลบหนีได้เร็วก็ยิ่งดีพวกเขาไม่รู้ว่ามีผู้ไล่ตามเขาอยู่หรือไม่
แต่ทว่าสำหรับพวกเขา เครื่องยนต์ความเร็วสูงพิเศษของยานจิ้งจอกแสงมากพอจะกำจัดผู้ไล่ล่าทุกคน เผ่าเนตรม่วงอาจไม่รู้ว่าพวกเขาไปไหนด้วยซ้ำ แน่นอน การเชื่อมต่อระหว่างไซเคอร์และลูกบาศก์เป็นความลับ ดังนั้นพวกเขาจึงไม่รู้ว่าตำแหน่งพวกเขาถูกเปิดเผยแล้ว
สำหรับตัวตนพวกเขาพวกเขาไม่กังวลเลย พวกเขาขโมยลูกบาศก์ขณะใช้ความสามารถเคลื่อนย้ายของเทพเอส ดังนั้นเผ่าเนตรม่วงย่อมไม่รู้หน้าตาพวกเขา
ครั้งเดียวตอนพวกเขาถูกเปิดเผยคือในอารยธรรมไทล่าซึ่งก็ผ่านมาหลายเดือนแล้วและไม่มีส่วนเกี่ยวกับการขโมยลูกบาศก์วิวัฒนาการเลย ไม่มีใครจะเชื่อมโยงสองเหตุการณ์เข้าด้วยกัน เหนือสิ่งอื่นใด เผ่าเนตรม่วงไม่ได้ประกาศว่าลูกบาศก์โดนขโมย ไม่แม้แต่ในสื่อท้องถิ่นของดาวอวิตาน สงครามลับยังเป็นข่าวหน้าหนึ่ง
ดังนั้นสำหรับคอลลินและคนอื่น การมาดาวมาซิเฟอร์หมายความว่าพวกเขาได้ก้าวเท้าออกวงแหวนดาวกระจายไปแล้ว พวกเขาคิดว่าพวกเขาปลอดภัยแล้ว
เมื่อยานพวกเขาถูกส่งไปซ่อมคอลลินและคนอื่นก็อยู่ในโรงแรม
สิ่งที่พวกเขาไม่รู้คือวินาทีที่พวกเขาก้าวเท้าสู่ดาว พวกเขาก็ถูกจับตามองแล้ว
แค่ครึ่งชั่วโมงหลังไซเคอร์โทรมา…
“ยานจิ้งจอกแสงปรากฏแล้ว..”
ซาร์ดีมได้รับข้อมูลทันที
ข้อมูลรายงานการเทียบท่าทั่วไปล้วนถูกจับตาโดยเขาทันทีที่ยานของคอลลินเข้ามา พวกเขาก็ถูกพบ ซาร์ดีมได้จับตาดูพวกคอลลินอย่างใกล้ชิด
พวกเขาไปเมืองย่อย2หาอู่ต่อยานและไปพักโรงแรมที่..
ทั่วดาวอยู่ภายใต้การจับตาของเขาหลังเห็นยานจิ้งจอกแสง ซาร์ดีมก็จับตาดูพวกคอลลิน
เขาไม่รู้จักพวกเขาแต่หลังผู้ช่วยปัญญาประดิษฐ์เขาค้นหาสักพัก เขาก็พบค่าหัวของโอโรเซ็นจากอารยธรรมไทล่า
“กลุ่มอาชญากร?ทำไมไซเคอร์ถึงไล่ล่าพวกเขา?”ซาร์ดีมอดสงสัยไม่ได้”เป็นไปได้ไหมว่าเขาอยากใช้โอกาสนี้เพื่อสร้างสัมพันธ์กับอารยธรรมไทล่า?มันเป็นไปได้ที่ไซเคอร์จะทำเรื่องแบบนี้แต่ความจริงที่เขาลงมือเอง…อาจเพราะเขาอยากเพิ่มอิทธิพลเขา?”
ด้วยความที่ขาดข้อมูลเขาจึงไม่รู้ว่าลูกบาศก์วิวัฒนาการถูกขโมยมา
นอกจากนี้ซาร์ดีมยังไม่ได้เชื่อมโยงลูกบาศก์ขนาดเล็กสีดำบนคอคอลลินเข้ากับลูกบาศก์วิวัฒนาการขนาดใหญ่โต
“ไซเคอร์แค่อยากให้ฉันถ่วงเวลาอืม หากไม่จำเป็น ฉันก็ไม่ต้องสู้”
ซาร์ดีมใคร่ครวญสักพักและตัดสินใจไม่ทำให้พวกเขาตื่นตัว
เขากลับออกคำสัง่ใหม่ต่อกองกำลังเขาและลอบสั่งให้เพิ่มการลาดตระเวนรอบพวกคอลลินนี่ช่วยให้เขาจับตาดูได้ใกล้ชิดขึ้น
“ใช่แล้ว..”
ซาร์ดีมคิดได้เขาโทรหาอู่ต่อยานที่รับงานซ่อมยานจิ้งจอกแสงและสั่งให้พวกเขาชะลอกระบวนการ
แม้ยานนี้จะไม่ได้เป็นของเขาด้วยตำแหน่งเขาบนดาว เขาก็มีอำนาจ
“นั่นควรพอแล้วตอนนี้ ฉันแค่ต้องคอยจับตาดู..”
ซาร์ดีมออกคำสั่งใหม่กับศูนย์ควบคุมของเมืองลอยฟ้าให้เตือนเขาทันทีที่คอลลินและคนอื่นทำอะไรผิดปกติจากนั้นก็วางเรื่องนี้ไว้
ในฐานะเจ้าของดาวเขายุ่งมาก ดังนั้นจึงไม่มีทางที่เขาจะมานั่งจับตาดูได้ทั้งวัน
หลังการพบปะที่ไม่น่าพอใจกับซาร์ดีมหานเซี่ยวก็ตระหนักว่าไม่มีคนมาไล่เขาไป เขาทำงานตามปกติ แต่เมื่อยามเย็นมาถึง เขาก็ได้รับข่าวร้าย
บริษัทยอดหินย้ายเขาออกจากโครงการแสงนิรันดร์และไม่ปล่อยให้เขาร่วมโครงการต่อ เขาไม่ต้องสร้างชิ้นส่วนยานอีกและพิมพ์เขียวในมือเขาก็ถูกริบ
เขาได้เรียนรู้พิมพ์เขียวทั้งหมดเหล่านั้นแล้วดังนั้นการเอาพวกมันไปจึงไม่มีผลต่อเขา แต่ สัญญาณที่ซาร์ดีมให้ก็ชัดเจนมาก เขาจะไม่ปล่อยให้หานเซี่ยวได้มีโอกาสเห็นพิมพ์เขียวแสงนิรันดร์
ซาร์ดีมเริ่มกีดกันฉันแล้วหากฉันอยู่ที่นี่ต่อไป ฉันจะกลายเป็นคนงานว่างและจะไม่ได้ร่วมงานสำคัญ
หานเซี่ยวส่ายหัว
ฉันมีความสามารถอยู่แล้วไม่จำเป็นต้องอยู่บนดาวมาซิเฟอร์อีก ฉันจะออกไปทันทีที่ได้รับพิมพ์เขียวแสงนิรันดร์…
ถึงแม้ซาร์ดีมจะกีดกันเขาหานเซี่ยวก็มีแผนแล้วในหัว
พูดก็พูดซาร์ดีมคือคนที่ให้ความคิดนี้กับเขา
เดิมทีหานเซี่ยวไม่อาจคิดได้ว่าพิมพ์เขียวแกนถูกซ่อนไว้ที่ไหนในฐานข้อมูลของบริษัทยอดหิน แต่หลังซาร์ดีมมา เขาก็มีเป้าหมายใหม่
มันกลับเป็นว่าซาร์ดีมคือเจ้าของพิมพ์เขียวแสงนิรันดร์
นี่หมายความว่าเขาต้องเก็บพิมพ์เขียวแสงนิรันดร์ไว้ในบ้านเขาดังนั้นหานเซี่ยวจึงไม่มีอะไรให้ทำในบริษัทนี้อีก
บ้านของซาร์ดีมก็คือฐานเมืองลอยฟ้าเหนือดาวมาซิเฟอร์
เป้าหมายของหานเซี่ยวคือการเจาะรบบเมืองลอยฟ้า!
ซาร์ดีมไม่รู้พลังฉันฉันสงสัยว่าเขาจะเสียใจที่บอกความจริงกับฉันไหม…โอ้ ฉันเกือบลืม เขาต้องไม่เสียใจเพราะเขาจะไม่มีทางรู้ว่าฉันคือคนที่เจาะเข้าเมืองลอยฟ้าเขา
หากเขาไม่ทำงานในบริษัทยอดหินเพราะพรสวรรค์เขาคงไม่ดึงดูดความสนใจจากซาร์ดีม หากเขาไม่ดึงดูดความสนใจจากซาร์ดีม ซาร์ดีมคงไม่พยายามชวนเขา หากเขาไม่ถูกชวน เขาคงไม่รู้ว่าซาร์ดีมคือเจ้าของพิมพ์เขียวแสงนิรันดร์
อาจกล่าวได้ว่าซาร์ดีมเป็นคนชี้นำ
หานเซี่ยวหัวเราะเยาะในใจ
เมืองลอยฟ้าเป็นฐานของช่างกลสายอาวุธเกรดA+เทียบกับฐานข้อมูลของบริษัทยอดหิน การป้องกันปัญญาประดิษฐ์ถือว่าอยู่คนละระดับเลย
แต่ทว่าหานเซี่ยวคือช่างกลเสมือนระดับที่สูงกว่าซาร์ดีม ตราบเท่าที่เขาเตรียมการพอ เขาจะสามารถเจาะแผงควบคุมของเมืองลอยฟ้าได้โดยไม่ถูกสังเกต
มันดีสุดที่จะเพิ่มโอกาสฉัน…
ตอนนี้หานเซี่ยวมีระดับ221เขาจะกระตุ้นการเลื่อนขั้นสายอาชีพตอนระดับ225 เทคโนโลยีเสมือนเขาจะเพิ่มขึ้นอีกครั้ง
เขามีค่าประสบการณ์มากมายด้วยความที่ไม่มีอะไรเร่งด่วน หานเซี่ยวจึงอยากเก็บค่าประสบการณ์ให้เขาพุ่งเป็นระดับ240ในทีเดียว ตอนนี้ที่เขาต้องการมัน เขาจึงไม่รออีก
คืนนี้บนดาวมาซิเฟอร์วุ่นวายมากสถานบันเทิงเปิดตลอดคืน ยานอวกาศบินระหว่างอาคารสูง ทิ้งรอยควันไฟเหมือนสายรุ้งในท้องฟ้ายามค่ำคืน
เนื่องจากความมีชีวิตชีวาจึงไม่มีใครหยุดหานเซี่ยวจากการออกหอพักบริษัทยอดหิน
เขาตรงไปท่าจอดกลับไปโรงเก็บยานที่เขาเช่า เดินเข้าไปในยาน และเข้าห้องฝึก นี่เพื่อป้องกันผลกระทบที่เกิดจากการเลื่อนขั้นสายอาชีพซึ่งอาจดึงดูดคน
หลังปิดประตูห้องฝึกหานเซี่ยวเปิดหน้าต่างสถานะและเลื่อนระดับ
ไม่ช้าก็มาถึงระดับ225และได้รับภารกิจเลื่อนขั้นสายอาชีพของศาสดาแห่งช่างกล
หานเซี่ยวใช้เวลาเจ็ดปีในการสะสมบัตรสำเร็จภารกิจแน่นอน เขายังมีเหลือ เขาใช้มันทันที
ต่อมาสมองเขาก็สั่น
ท่านใช้บัตรสำเร็จภารกิจ!
ท่านทำภารกิจเลื่อนขั้นสายอาชีพสำเร็จ!
ท่านได้รับสายอาชีพใหม่[จักรพรรดิช่างกลระดับ1]พลังงาน+300 พละกำลัง+5 ความเชี่ยวชาญ+5 ความทนทาน+8 สติปัญญา+12
ท่านได้รับ10แต้มสถานะ
ท่านได้รับ1แต้มศักยภาพ
ท่านได้รับพรสวรรค์[จักรพรรดิจักรกล]!
ท่านได้รับความสามารถ[ความสัมพันธ์กับเครื่องจักรระดับจักรพรรดิ]!
ท่านได้รับความสามารถ[พรสวรรค์แห่งจักรพรรดิ]
ท่านได้รับความสามารถ[ช่องทางส่งคลื่นควอนตัมอนันต์(ไม่ทำงาน)]!
ท่านได้รับความสามารถ[กองทัพมิติที่สอง(ไม่ทำงาน)]!
ท่านได้รับความสามารถ[พลังจักรพรรดิ-พลังจักรกล(ไม่ทำงาน)]!
ท่านได้รับความสามารถ[ที่ปรึกษาแห่งราชา(ไม่ทำงาน)]!
ผลของความสามารถเทคโนโลยีเสมือนทั้งหมดและพรสวรร์เพิ่มขึ้น35%อ