The Legendary Mechanic - ตอนที่ 753 -754
ตอนที่ 753 ชิงลงมือ
[จักรพรรดิช่างกล]คือขั้นต่อไปของศาสดาแห่งช่างกลซึ่งระดับสูงสุดคือ35 ตามชื่อ จักรพรรดิช่างกลสามารถปกครองทหารจักรกลได้นับไม่ถ้วน ความสามารถและพรสวรรค์มันช่วยมอบโบนัสมหาศาลให้กองทัพ แถมยังมีความสามารถในการรวบรวมพลังให้ช่างกลเพิ่ม
การแนะนำของพรสวรรค์[จักรพรรดิจักรกล]คือ’เครื่องจักรจะเชื่อฟังท่านเหมือนเป็นคนของท่าน’ผลมันคือเพิ่มประสิทธิภาพการบุกรุกเสมือน150%และจะเพิ่มความสัมพันธ์กับเครื่องจักร200% รวมถึงเพิ่มความสามารถที่ข้องเกี่ยวขึ้นอีกขั้น โบนัสสามารถเกินระดับสูงสุด
พรสวรรค์นี้ยังเป็นอีกหนึ่งความสามารถแกนหลักเหมือน[พรสวรรค์บิดาแห่งเครื่องจักร] [กายศาสดา] จักรพรรดิจักรกลก็ยังส่งผลให้สถานะพลังจักรกลเพิ่มขึ้นอีกครั้ง ทำให้เครื่องจักรแข็งแกร่งขึ้น
แน่นอนความสามารถความสัมพันธ์กับเครื่องจักรใหม่[ความสามารถกับเครื่องจักรระดับจักพรรรดิ]เหนือกว่าระดับศาสดาซึ่งมอบความสัมพันธ์กับเครื่องจักรให้150%ที่ระดับสูงสุด
[พรสวรรค์จักรพรรดิ]คือหนึ่งในความสามารถแกนหลักผลมันคือการใช้พลังจักรกลเพื่อเพิ่มพลังเครื่องจักรหนึ่งถาวร ทำให้มันทรงพลังขึ้น มันสามารถใช้ได้แค่สามครั้งกับเป้าหมายเดิมและมีคูลดาวน์นานมาก ขอบเขตการเสริมพลังขึ้นอยู่กับสถานะของหานเซี่ยวเอง และเป้าหมายก็มีโอกาสสุ่มได้รับความสามารถพิเศษเพิ่มเติม
พูดง่ายๆความสามารถนี้สามารถทำให้เครื่องจักรทั่วไปกลายเป็นเครื่องจักรชั้นสูง!
ช่างกลมีความสามารถเสริมเครื่องจักรตั้งแต่ต้นแต่ความสามารถนี้จะทำให้เครื่องจักรทะยานขึ้นไปอีกระดับขั้น
สำหรับความสามารถอื่นที่ยังไม่ทำงานพวกมันสามารถใช้ได้เมื่อมีการเรียนความรู้ล้ำยุคหรือความรู้ขั้นสูงสุดที่สอดคล้อง ซึ่งหานเซี่ยวยังไม่ทำ
[ช่องทางส่งคลื่นควอนตัมอนันต์]ต้องใช้ความรู้ล้ำยุคหลายอย่างรวมถึง[การประยุกต์อวกาศขั้นสูง]มันเป็นการยกระดับวิธีส่งพลังจักรกลผ่านมิติ
เนื่องจากเผ่าเขาหานเซี่ยวสามารถส่งพลังจักรกลข้ามระยะไกลได้ แต่นี่ทำได้เพียงเพราะเขาเป็นเผ่ามิติ แต่ทว่า [ช่องทางส่งคลื่นควอนตัมอนันต์]คือเทคโนโลยีที่สามารถใช้ได้กว้างขวาง ไม่ใช่แค่ตัวเขาและไม่ใช่แค่พลังจักรกล แต่กับทุกพลังงาน มันเป็นวิธีการขั้นสูงขึ้นของการส่งพลังงานระยะไกล นี่เป็นเทคโนโลยีที่แมนิสันใช้เพื่อสร้างอารยธรรมปัญญาประดิษฐ์
[กองทัพมิติที่สอง]สามารถซ่อนกองทัพเขาไว้ในมิติที่สองได้เขาจะรักษาการเชื่อมต่อกับมิติที่สองนี้และจากนั้นก็เปิดมันขึ้นได้ตลอดเพื่ออัญเชิญกองทัพ นี่คือเทคโนโลยีพกพาขั้นสูงกว่าบอลบีบอัด
[พลังจักรพรรดิพลังจักรกล]คือความสามารถที่จะรวมพลังหาเขา เหมือนบิดาแห่งเครื่องจักรแต่เป็นขั้นกว่า
ในเวลาเดียวกันเมื่อกองทัพจักรกลได้รับโบนัสพลังจักรกล พวกมันก็จะมอบโบนัสสถานะให้ตัวเขาผ่านพลังจักรกล โบนัสนี้ขึ้นอยู่กับขนาดกองทัพ
ยิ่งกองทัพเขาใหญ่โบนัสของพลังจักรพรรดิก็ยิ่งสูง ซึ่งหมายความว่ารูปแบบกองทัพได้รับผลประโยชน์จากสิ่งนี้มากสุด
เมื่อเขาเปิดใช้งานความสามารถนี้และมอบโบนัสให้กับกองทัพจักรกลผ่านพลังจักรกลเขาก็จะได้รับโบนัสจำนวนมาก แน่นอน การผลาญพลังงานของความสามารถนี้สูง ช่างกลทั่วไปจะไม่สามารถใช้พลังจักรพรรดิได้นานหากไม่มีความสามารถฟื้นพลังงาน
[ที่ปรึกษาราชา]และ[พรสวรรค์จักรพรรดิ]คล้ายกันพวกมันมีความสามารถในการเสริมเครื่องจักร ความแตกต่างคือที่ปรึกษาราชาจะเป็นความสามารถวงกว้าง ผลมันค่อนข้างพิเศษ มันสามารถเก็บพลังจักรกลพิเศษที่มอบให้โดยจักรพรรดิจักรกลได้เป็นเวลานาน ด้วยเตาปฏิกรณ์พลังงานของเครื่องจักร พลังจักรกลนั้นจะถูกเก็บไว้ภายในตัวครื่องจักร มอบความสามารถการเติบโตด้วยตนเองให้มัน
นี่หมายความว่าเครื่องจักรจะยกระดับขึ้นเองโดยไม่ต้องมีหานเซี่ยวคอยพัฒนา
ตราบเท่าที่ทหารจักรกลไม่ถูกทำลายในการต่อสู้สถานะพวกมันก็จะค่อยๆเพิ่ม และก็จะเปลี่ยนเป็นจักรกลชั้นสูง ทหารจักรกลเกรดฟ้าอาจค่อยๆกลายเป็นเกรดม่วง ทหารจักรกลระดับ100อาจค่อยๆได้รับสถานะที่เทียบได้กับทหารจักรกลระดับ120
นี่เหมือนกับการเปลี่ยนทหารจักรกลเป็นทหารมีชีวิตจริงที่กลายเป็นทหารผ่านศึกตราบเท่าที่รอดชีวิต
คำแนะนำความสามารถคือ’ราชาคือผู้ที่รอดชีวิตจากการสู้รบนับร้อยครั้ง’
ความสามารถเหล่านี้แสดงให้เห็นถึงความพิเศษของจักรพรรดิจักรกลผู้ปกครองของทหารจักรกลนับไม่ถ้วน นี่คือที่ที่เครื่องจักรเริ่มกลายเป็นสิ่งมีชีวิตจักรกล
พลังจักรกลสามารถเปลี่ยนเป็นพลังงานพิเศษที่สามารถกลายเป็นแหล่งพลังงานของตัวเครื่องจักรเองเหมือน’พลังงาน’ของสิ่งมีชีวิตจักรกล
[ศาสดาแห่งช่างกล]คือช่วงท้ายของสายช่างกลยิ่งช่วงหลัง ความสามารถของช่างกลจะยิ่งเข้าใกล้กับการกระทำของเทพ คำว่า’จักรพรรดิ’เป็นคำที่สมบูรณ์แบบในการอธิบายความสามารถของช่างกล
ในห้องฝึกดวงตาของหานเซี่ยวล้นไปด้วยประกายไฟขณะทนความเจ็บปวดที่เกิดจากการเปลี่ยนขั้นสายอาชีพ
นี่ไม่ใช่การวิวัฒนาการเผ่าดังนั้นร่างของหานเซี่ยวจึงไม่เปลี่ยนไปนัก แต่พลังานในตัวเขากลับยิ่งรุนแรงราวกับพลังจักรกลกำลังเดือดพล่าน ที่ระดับจุลภาค ราวกับว่าทุกเซลล์เขาเปลี่ยนเป็นซูเปอร์โนวา ดูดซับพลังจักรกลอย่างต่อเนื่อง จากนั้นก็บีบอัดตัวเอง
ผ่านกระบวนการนี้พลังจักรกลเขาค่อยๆเปลี่ยนและพุ่งทะยาน
พลังจักรกลจำนวนมากผุดขึ้นภายในตัวเขาหานเซี่ยวเกือบได้ยินเสียงคลื่นน้ำ
หลังจากนั้นไม่นานมันก็ราวกับเซลล์ในตัวเขากลายเป็นหมดแรงและพลังงานในตัวก็เริ่มสงบ
ซูดด!
หานเซี่ยวสูดหายใจลึกสัมผัสเขารู้สึกสดชื่นอีกครั้ง
พลังงานคือรากฐานของพวกพิเศษมันไม่ใช่แค่เชื้อเพลิงของพลังพิเศษ มันยังเป็นตัวเร่งปฏิกิริยาวิวัฒนาการของยีน การเลื่อนขั้นสายอาชีพนี้ทำให้พลังจักรกลวิวัฒนาการไปอีกระดับ แม้เผ่าเขาจะยังเหมือนเดิม หานเซี่ยวก็รู้สึกว่ายีนเขาแข็งแกร่งขึ้น
ระยะหลังๆทุกๆการเลื่อนขั้นสายอาชีพต้องใช้ข้อกำหนดการเลื่อนระดับกว่า20
การเลื่อนขั้นสายอาชีพนี้ช่วยพัฒนาความสามารถเขาขึ้นมากแม้สถานะเขาจะไม่เปลี่ยนไปมาก ทั้งหมดก็เป็นความสามารถและพรสวรรค์ใหม่ที่ทรงพลัง
ขณะตรวจดูความสามารถใหม่หานเซี่ยวก็ยิ่งยินดี
“สี่ความสามารถที่ยังไม่ทำงานติ้องใช้ความรู้ที่สอดคล้องจิ๊ ฉันจะสามารถทดสอบผลพวกมันได้หลังเปิดใช้งานพวกมัน..”หานเซี่ยวไตร่ตรอง”สำหรับตอนนี้ แค่จักรพรรดิจักรกล ความสัมพันธ์จักรกลระดับจักรพรรดิและพรสวรรค์จักรพรรดิที่ใช้ได้ แถม ความสามารถและพรสวรรค์ที่เกี่ยวกับเทคโนโลยีเสมือนยังเพิ่มขึ้น35% ดังนั้นการเจาะเมืองลอยฟ้าของซาร์ดีมจึงง่ายขึ้น”
หลังใคร่ครวญอยู่พักหนึ่งหานเซี่ยวก็ตัดสินใจไม่เลื่อนระดับความสามารถใด ระดับ240อยู่ตรงหัวมุม เขาจึงไม่อยากใช้ค่าประสบการณ์กับส่วนอื่น
จากนั้นเขาก็ใช้ค่าประสบการณ์ที่เหลือกับการเลื่อนระดับเพื่อดูว่าเขาขาดแค่ไหนในการไปสู่ระดับ240
ค่าประสบการณ์ที่เหลือเติมเต็มแค่สามในสี่ของแถบค่าประสบการณ์และไม่พอ
เขาควรอยู่ห่างจากผู้อยู่เหนือแค่สองระดับ
.”อืม ใกล้เคียงกับการประมาณการของฉัน อีกแค่ไม่กี่วัน ค่าประสบการณ์ที่ผู้เล่นให้ควรจะเติมเต็มช่องว่างนี้”หานเซี่ยวพยักหน้า
เขาจะมีเวลามากพอศึกษาความสามารถใหม่เขาในอนาคตแต่คืนนี้เขามีเป้าหมายอื่น เขาเชื่อมต่อตัวเองกับเครือข่ายควอนตัมทันที
วิสัยทัศน์เขามืดวินาทีถัดมา โหนดในเครือข่ายควอนตัมก็สว่างขึ้นทีละตุ่มเหมือนดอกไม้ไฟ
ขนาดและความสว่างของพวกมันแตกต่างกันลำแสงสร้างขึ้นผ่านการเชื่อมต่อของพวกมัน สร้างเป็นเครือข่ายที่แสดงรูปทรงของเมือง
หานเซี่ยวแหงนมองเหนือเมืองหลัก โหนดของเมืองลอยฟ้าสว่างดุจดาว มีเส้นไหม้นับไม่ถ้วนเป็นมาตรการป้องกันคล้ายผลึก
ด้วยความคิดหานเซี่ยวตรงไปโหนดเครือข่ายของเมืองลอยฟ้า โหนดเมืองลอยฟ้าขยายในวิสัยทัศน์เขาเมื่อเขาเข้าสู่โหนดนี้
กำแพงหนาที่เกิดจากกระแสข้อมูลเข้าสู่สายตาเขาและจุดข้อมูลจำนวนมากก็ลาดตระเวนรอบๆเหมือนกองทัพ
นี่คือชั้นนอกสุดของไฟร์วอลล์เมืองลอยฟ้า
“ฟิลลิปจัดการ”
แน่นอนซาร์ดีมเข้าใจถึงภัยคุกคามของช่างกลเสมือน ในฐานะช่างกลเกรดA+ เขาวางมาตรการป้องกันไว้มาก การป้องกันเสมือของศูนย์ควบคุมเกาะลอยฟ้าเหนือกว่าบริษัทยอดหินหลายระดับ ช่างกลเสมือนระดับภัยพิบัติทั่วไปไม่มีทางเจาะมันได้เลย
แต่ทว่าเทคโนโลยีเสมือนของหานเซี่ยวเพิ่งผ่านการพัฒนามา ดังนั้นมันจึงเป็นเรื่องง่ายที่จะจัดการกับการป้องกันเสมือน
เหนือสิ่งอื่นใดช่างกลสายอาวุธไม่ได้ถนัดในสายนี้ แถม พลังดิบของหานเซี่ยวก็เหนือกว่าซาร์ดีม
การเจาะโดยปราศจากร่องรอยและโดยไม่ให้รู้ตัวยากยิ่งกว่าการทำลายปัญญาประดิษฐ์ของอีกฝ่ายแม้กระทั่งหานเซี่ยวก็ไม่กล้าทำอะไรเร่งรีบ เขาร่วมมือกับฟิลลิปและค่อยๆเจาะผ่านการป้องกันของเมืองลอยฟ้าเพื่อหลีกเลี่ยงการทำให้อีกฝ่ายรู้ตัว
ขณะที่ฐานเขาถูกบุกรุกโดยหานเซี่ยวและฟิลลิปซาร์ดีมกลับไม่รู้ตัว
หลังใช้เวลาสักพักในที่สุดหานเซี่ยวก็ผ่านการป้องกันมาได้และเข้าสู่ศูนย์ควบคุม ได้รับสิทธิ์เข้าถึงชั่วคราว
“ได้แล้ว”หานเซี่ยวยินดี”ฟิลลิปค้นฐานข้อมูลสำหรับพิมพ์เขียวแสงนิรันดร์”
“กำลังค้นหาฮึ่ม..พบแล้ว ฮึ่ม!”น้ำเสียงของฟิลลิปเริงร่า
ดวงตาหานเซี่ยวเป็นประกายไม่กลั้นเสียงหัวเราะอีก”ตามคาด เขาไม่วางพิมพ์เขียวไว้ในฐานข้อมูลของธุรกิจใด แต่เป็นฐานเขาเอง”
ซาร์ดีมต้องแลกพิมพ์เขียวนี้จากจักรวรรดิช่างกลด้วยแต้มสะสมเขาบ้านของจักรวรรดิช่างกลอยู่ไกลจากวงแหวนดาวกระจายมาก ดังนั้นไม่มีทางที่สำเนาจริงจะถูกส่งมา ดังนั้น วิธีที่เขาได้รับพิมพ์เขียวย่อมเป็นการส่งผ่านข้อมูล มันเป็นไปได้มากที่ซาร์ดีมจะยังมีพิมพ์เขียวเก็บไว้ในฐานข้อมูล
เพราะการป้องกันของเมืองลอยฟ้าอยู่คนละระดับกับบริษัทยอดหินช่างกลเสมือนส่วนใหญ่จึงเจาะมันไม่ได้ นั่นทำให้ซาร์ดีมรู้สึกปลอดภัยกว่าที่จะเก็บมันไว้ในฐานเขา
เพราะเหตุนั้นหานเซี่ยวจึงไม่จำเป็นต้องขโมยสำเนาฉบับ เขาแค่ต้องคัดลอกฐานข้อมูลของเมืองลอยฟ้าซึ่งง่ายกว่า
หานเซี่ยวหัวเราะเบาๆ”ฟิลลิปคัดลอกพิมพ์เขียวทั้งหมดในฐานข้อมูลเขา.
เนื่องจากพิมพ์เขียวสมบูรณ์ของแสงนิรันดร์อยู่ในฐานพิมพ์เขียวทั้งหมดที่ซาร์ดีมได้รับจากจักรวรรดิช่างกลก็ต้องอยู่ด้วย
เนื่องจากเจาะมาแล้วหานเซี่ยวจึงคิดเอาทุกอย่างไป
ขณะทำเช่นนั้นหานเซี่ยวก็มองดูสิ่งที่ซาร์ดีมกำลังทำ ซึ่งทำให้เขารู้สึกแปลกๆ
ซาร์ดีมดันค้นฐานข้อมูลเขาด้วยเนื่องจากสัญญาณเตือนไม่ดัง ต่อให้พวกเขาใช้ฐานข้อมูลพร้อมกัน เขาก็ไม่พบหานเซี่ยว เขาไม่รู้ว่าหานเซี่ยวได้เข้าศูนย์ควบคุมเขาและบ้านเขากำลังถูกปล้น
ขณะที่ฟิลลิปกำลังคัดลอกพิมพ์เขียวเขาก็ไม่มีอะไรให้ทำ ดังนั้นเขาจึงเปิดบันทึกคำสั่งของศูนย์ควบคุมเพื่อดูว่าซาร์ดีมกำลังทำอะไร
บันทึกคำสั่งได้บันทึกคำสั่งทั้งหมดของซาร์ดีมไว้หานเซี่ยวตรวจดูมันคร่าวๆ แต่เมื่อสังเกตเห็นประวัติการเข้าศูนย์ควบคุม ดวงตาเขาก็หยุด
“ปรับใช้กำลังเสริมพิทักษ์กฏจักรกลจำนวนมากไปเมืองย่อยสองเพื่อจับตาดูคนกลุ่มหนึ่งน่าสนใจ ซาร์ดีมเป็นกลางไม่ใช่หรือ?ทำไมถึงจับตามองคน?อย่างน้อยต้องเป็นภัยพิบัติ เหมือนบาร์นที่ดึงดูดความสนใจเขา..อืม เข้าใจแล้ว คนๆนี้อาจกำลังรับสมัครคนภายใต้ชื่อของจักรวรรดิช่างกลอีกก็ได้ หากมันเป็นภัยพิบัติจริงๆ ฉันอาจชิงพรสวรรค์จากเขาได้ก่อนออกดาวมาซิเฟอร์”
หานเซี่ยวอดหัวเราะไม่ได้เขานำภาพของเป้าหมายขึ้น เมื่อเห็น รอยยิ้มเขาก็แข็งค้าง
มันคือคอลลินและพรรคพวกหานเซี่ยวไม่เคยเห็นคนเหล่านี้มาก่อน แต่ก็จำหนึ่งในนั้นได้
โอโรเซ็น!
อาชญากรต้องจับของอารยธรรมไทล่าผู้ฆ่าแฮร์โรฟาล และอาจเป็นลูกน้องของเทพเอส!
ชายคนนี้คือเป้าหมายภารกิจของภารกิจค่าหัว[การล้างแค้นของแฮร์โรฟาล]!
นี่เป็นสิ่งที่หานเซี่ยวไม่คาดคิดเขาตกตะลึง
“มันเป็นคนเหล่านี้?ทำไมถึงหายไปหลายเดือนทำไมถึงมาที่นี่?”
หานเซี่ยวเริ่มตื่นตระหนก
คำพูดสุดท้ายของแฮร์โรฟาลบอกว่าคนพวกนี้น่าจะเป็นลูกน้องของเทพเอสที่ส่งมาแฮร์โรฟาลตายไปแล้วและตอนนี้คนเหล่านี้ก็ปรากฏบนดาวมาซิเฟอร์…
หรือพวกมันจะพบเขาแล้ว?
หานเซี่ยวไม่รู้สึกเช่นนั้นเขาเก็บที่อยู่เขาและปลอมตัว ไม่มีทางที่ลูกน้องเทพเอสจะเจอเขา
“นี่คือดาวมาซิเฟอร์สุดขอบวงแหวนดาวกระจาย ตอนนี้พวกมันมาหลังผ่านไปหลายเดือน…อืม หรือพวกมันคิดออกวงแหวนดาวกระจายและหลบหนีจากอารยธรรมไทล่า ไม่มาหาฉันอีก?”
หานเซี่ยวขมวดคิ้วจากมุมมองเขา สิ่งที่เกิดกับแฮร์โรฟาลคือจุดเชื่อมโยงเดียว ด้วยเบาะแสจำกัด เขาจึงเดาได้น้อยมาก
เขาไม่คิดว่าจะเจอลูกน้องเทพเอสที่นี่เป็นแผน หรือบังเอิญ?
หลังไตร่ตรองหานเซี่ยวก้ตัดสินใจ
“ไม่ว่ายังไงในเมื่อคนเหล่านี้มาแล้ว ไม่ว่าจะเป็นการล้างแค้นให้แฮร์โรฟาลหรือเพื่อภารกิจ ฉันก็ไม่มีเหตุผลให้ต้องปล่อยพวกมันไป!”
แฮร์โรฟาลคือเพื่อนที่เคยสู้ร่วมกันมาแม้หนาเซี่ยวจะไม่มีเวลาค้นหาผู้กระทำผิด แต่เขาก็ไม่มีทางยอมปล่อยไปเด็ดขาดหากกล้ามาปรากฏต่อหน้าเขา
หานเซี่ยวดูภาพวงจรปิดอีกครั้งและเดาเป้าหมายของซาร์ดีม
“อืมดูเหมือนว่าเขาเองก็อยากได้ค่าหัวเหมือนกันสินะ ฉันต้องโจมตีก่อน!”
นี่ไม่ยากสำหรับเขาเลยในเมื่อเขาได้เจาะระบบเมืองลอยฟ้าแล้ว เขาแค่ทำให้กำลังเสริมพิทักษ์กฏไม่ส่งสัญญาณเตือนและก็จะเข้าหาคนเหล่านี้ได้ก่อนซาร์ดีม
ปัญหาเดียวคือหานเซี่ยวรู้สึกว่าคนเหล่านี้อาจมีร่างแยกเทพเอส
หานเซี่ยวกำหมัดเพราะความเป็นไปได้นั้น ภัยคุกคามของโอโรเซ็นและพรรคพวกจึงเกือบถึงผู้อยู่เหนือ
“ปัจจุบันฉันอยู่ในที่ลับ ทางเลือกเดียวคือฆ่าพวกมันก่อนที่พวกมันจะได้เรียกร่างแยกเทพเอสออกมา!”
หานเซี่ยวกัดฟัน
เขาไม่รู้ว่าคนเหล่านี้แข็งแกร่งแค่ไหนยกเว้นโอโรเซ็นที่เป็นภัยพิบัติแต่เขาก็สามารถเอาชนะกลุ่มภัยพิบัติทั่วไปได้ง่ายๆ
เขาควรมีโอกาสฆ่าพวกนี้ก่อนที่พวกมันจะได้ใช้ร่างแยกเทพเอสถึง50%!
ตอนที่ 754 ฉันตาฝาดหรือเปล่า?
หลังจับตำแหน่งของโอโรเซ็นหานเซี่ยวก็ติดต่อเฟย์ดินและฮีล่าทันที
“อยู่ไหนกัน?”
ฉากโคลอสเซียมปรากฏบนจอมีสัตว์อสูรหลายตัวจากดาวต่างๆกำลังสู้กัน ลานแยกอัฬจรรย์ผู้ชมด้วยม่านพลัง และบนนั้นก็เต็มไปด้วยผู้ชม เฟย์ดินนั่งอยู่ในนั้น และทั้งฮีล่ากับออโรร่าก็อยุ่ข้างเขา ทุ่มความสนใจทั้งหมดไปยังลานตรงกลาง
“นี่คือสถานเดิมพันที่ใหญ่สุดในเมืองเรากำลังพนันกันอยู่”เฟย์ดินตอบอย่างช่วยไม่ได้
“นายชอบเล่นพนันตั้งแต่เมื่อไร?”หานเซี่ยวถามอย่างสงสัย
“แค่กฉันไม่ชอบ แต่เฉินซิ่งยืนกรานจะมา เธอบอกว่านี่เป็นเงินฟรีและขอให้ฉันมาหาเงิน..”
ปากหานเซี่ยวบิดเล็กน้อย”แล้วทั้งสองละ?”
“พวกเธอยืนยันจะตามฉัน..”
เมื่อพูดจบการต่อสู้ก็จบลงแล้ว งูหลามใหญ่พ่นหมอกพิษและทำให้สัตว์ร้ายศัตรูมันเป็นอัมพาต
“เราชนะอีกแล้ว!เราชนะอีกแล้ว!”ออโรร่าโบกมือด้วยความตื่นเต้น”พี่เราชนะสี่ครั้งติดแล้ว!”
ฮีล่าพยักหน้าก่อนหันไปมองเฟย์ดินด้วยคำใบ้ในสายตาว่า”แล้วนายจะเดิมพันข้างไหนต่อ?”
เฟย์ดินยักไหล่ราวกับเขาไม่อยากนำทั้งสองไปในเส้นทางผิดๆ
หานเซี่ยวรู้สึกปวดหัว”หยุดเล่นได้แล้วเรามีงาน มาหาฉัน ฉันจะรอพวกนายที่เมือง2 ฉันจะส่งพิกัดไปให้ทีหลัง”
จากนั้นหานเซี่ยวก็วางสายและออกท่าไปเมือง2ขณะเชื่อมต่อกับระบบหลักของเมืองลอยฟ้า
ทำไมต้องรออีกวัน?หานเซี่ยวตัดสินใจลงมือทันที!
แต่ซาร์ดีมเป็นลูกน้องของแมนิสันดังนั้นหานเซี่ยวจึงไม่คิดเปิดเผยตัวตนจริงเขา นอกจากนี้ เขาได้รับพิมพ์เขยวมาแล้วและก็ไม่ต้องอยู่บนดาวมาซิเฟอร์อีก ตัวตนของบาร์นไร้ประโยชน์แล้ว ดังนั้นเขาจึงไม่กลัวอะไร เขาไม่ต้องกังวลถึงผลกระทบของการสังหารพวกโอโรเซ็นบนดาว
หานเซี่ยวรอที่จุดรวมตัวของเมือง2สักพักและกลุ่มฮีล่าก็มาถึงในไม่ช้าวินาทีที่เห็นหานเซี่ยว ออโรร่าก็ตรวจพบการปเลี่ยนแปลงของหานเซี่ยวและปล่อยเสียงอุทาน
“พลังชีวิตของลุงหานแข็งแกร่งขึ้นอีกแล้ว!”
เฟย์ดินและฮีล่าตกตะลึงที่ได้ยิน
หานเซี่ยวไม่ปฏิเสธและพยักหน้า”ฉันรู้สึกว่าฉันแตะประตูของผู้อยู่เหนือแล้ว”
ร่างของฮีล่าสั่นไหวและมองหานเซี่ยวด้วยสายตาซับซ้นอ
เฟย์ดินมีความสุขมากและถาม”พวกเราจะไปจากดาวมาซิเฟอร์เลยไหม?”
“ใช่แต่ก่อนไป ฉันมีงานต้องทำก่อน…”
หานเซี่ยวอธิบายให้คนอื่นฟัง
ฮีล่าพยักหน้า”ในเมื่อศัตรูคือภัยพิบัติเฟย์ดินและฉันก็จะไปด้วย ออโรร่าควรรอบนยาน”
เฟย์ดินไม่มีปัญหากับการฆ่าอาชญากรแต่เขาก็สับสนเล็กน้อย”ด้วยพลังของนาย นายไม่ควรต้องการให้เราช่วยจัดการกับภัยพิบัติสองคนเลยนี่?”
หานเซี่ยวส่ายหัว”อย่าดูถูกพวกมันพวกมันคือลูกน้องของเทพเอสและมีร่างแยกเทพเอสอยู่ เราต้องฆ่าพวกมันทันท ดังนั้นฉันจะทุ่มสุดตัวตั้งแต่เริ่ม ฉันจะมั่นใจขึ้นหากนายและเธอไปด้วย!”
เมื่อได้ยินว่าเรื่องนี้เกี่ยวกับผู้อยู่เหนือฮีล่าและเฟย์ดินก็จริงจัง
“หากศัตรูอัญเชิญร่างแยกเทพเอสมาชีวิตฉันจะไม่ตกอยู่ในอันตรายเพราะพลังฉัน แต่มันแตกต่างไปสำหรับพวกนาย ดังนั้น พวกนายต้องฟังคำสั่งฉัน เรามีโอกาสแค่ครั้งเดียว.
หานเซี่ยวอธิบายแผนการ
เขาเคยแพ้มาแล้วครั้งหนึ่งดังนั้นจึงไม่ทำอะไรบ่มบ่าม เพราะศัตรูไม่รู้การดำรงอยู่ของเขา เขาจึงตัดสินใจลงมือก่อน
โรงแรมสะพานดาวของเมือง2คือที่ที่พวกคอลลินอยู่
โรงแรมสะพานดาวตั้งอยู่ในย่านโคมแดงของเมือง2และนี่คือย่านที่มีสิ่งบันเทิงมากมาย โรงแรมนี้ตั้งอยู่ใจกลางถนนและสะดุดตามาก
คอลลินและพรรคพวกมาถึงดาวมาซิเฟอร์วันนั้นหลังส่งยานพวกเขาไปซ่อม พวกเขาก็ใช้เงินเหมือนน้ำในโรงแรมและเรียกพนักงานหญิงต่างเผ่ามาบริการพวกเขา
สมาชิกของแดนผู้ล่วงหล่นไม่มีปัญหาเรื่องเผ่าพันธ์แม้กระทั่งคอลลินที่จดจ่อกับภารกิจก็ยังไม่ปฏิเสธสิ่งบันเทิงนี้ วินาทีที่พวกเขาเริ่มการเดินทางกลับ พวกเขาตองใช้เวลาหลายปีในแถบจักรวาลรกร้าง วันเหล่านี้บนดาวมาซิเฟอร์คือโอกาสสุดท้ายที่จะได้เพลิดเพลิน
คอลลินผลักพนักงานสาวที่นอนข้างๆและปีนออกจากเตียงเตียงใหญ่เต็มไปด้วยหญิงสาวที่นอนหมดแรงเป็นสิบจากเผ่าต่างๆ
จากนั้นเขาก็สวมเสื้อคลุมเพื่อปกปิดร่างที่เต็มไปด้วยแผลและหยิบขวดเบียร์ออกจากตู้เย็นดื่มครึ่งขวดในอึกเดียว เดินไปหน้าต่างห้องและมองทิวทัศน์
มันดึกแล้วแต่ยังมีคนเดินถนนมากมาย แต่ทว่า อย่างน้อย40-50%เมา แสงไฟเขียวและแดงส่องลงมา และทั่วดาวก็ดูหรูหรา เป็นครั้งคราว ยานบินจะตัดผ่านท้องฟ้า
เมื่อมองทิวทัศน์คอลลินก็นึกถึงการกระทำทั้งหมดของเขาตลอดหลายเดือน เขากระทำการอุกกาจมาก เขาทำให้เผ่าเนตรม่วงตกอยู่ในความปั่นป่วน จากนั้น ก็ทำภารกิจสำเร็จและถอนตัวมาได้ คอลลินอดรู้สึกภูมิใจไม่ได้
จากนั้นเขาก็แตะลูกบาศก์วิวัฒนาการซึ่งห้อยอยู่บนคอ และยิ้มด้วยความรังเกียจ
“อ้า..วงแหวนดาวกระจาย”
ทุ่งดาวนี้ไม่มีค่าให้กล่าวถึง
เพียงเมื่อความคิดนี้ผุดแสงแสบตาก็ระเบิดจากหน้าต่างตรงหน้าเขา
บูม!
กรอบหน้าต่างระเบิดทันที!
คลื่นระเบิดส่งคอลลินที่ไม่ทันตั้งตัวลอยออกไปหลังเขากระแทกผ่านกำแพงห้อง ตกไปที่ทางเดิน ในเวลาเดียวกัน ระเบิดคุ้นเคยก็เกิดขึ้นในทุกห้องและลูกน้องทุกคนของคอลลินก็ลอยออกไป
ทั่วโรงแรมประสบกับการระเบิดหินและคอนกรีตปลิวว่อน ฝุ่นหนาปกคลุมทั้งโรงแรมหลังเล็ก และโรงแรมก็กลายเป็นเศษซาก
โอโรเซ็นในสภาพเปลือยกายตกมาที่ทางเดินและทั้งคอลลินกับโอโรเซ็นก็มองหน้ากันความโกรธอัดแน่นในสายตา
มีคนกล้าซุ่มโจมตีพวกเขา?
พวกนักล่าค่าหัว?
ศัตรูต้องมาเพราะค่าหัวของอารยธรรมไทล่าแน่แต่ด้วยพลังของทั้งคู่ นักล่าค่าหัวย่อมตาย!
คอลลินจ้องโอโรเซ็นอย่างเกรี้ยวกราดและกำลังจะปล่อยพลังเพื่อกำจัดนักล่าค่าหัววินาทีต่อมา การโจมตีจิตสองสายก็กวาดไปทั่วโรงแรม หนึ่งสีแดงเข้มและหนึ่งไร้สี
ฮู่!
สมองของลูกน้องทั้งหมดระเบิดและมีเพียงคอลลินกับโอโรเซ็นถึงทนได้แต่พวกเขาก็รู้สึกปวดหัวมาก และหัวก็ขาวโพลน สูญเสียการควบคุมร่างกายไปชั่วขณะ
มีภัยพิบัติสองคนในหมู่นักล่าค่าหัว?
สีหน้าของคอลลินและโอโรเซ็นเปลี่ยนไป
แต่ก่อนจะได้ดิ้นรนรังสีแสงก็สว่างในตาพวกเขาอีกครั้ง
นี่คือฉากสุดท้ายที่ทั้งคู่ได้เห็น
ด้านนอกโรงแรมสะพานดาวคนเดินถนนตกใจและรีบวิ่งออกห่าง
วินาทีต่อมากองทัพจักรกลขนาดใหญ่ก็ปรากฏและล้อมโรงแรม กองทัพจักรกลกระหน่ำกระสุนใส่โรงแรมเป็นหมื่นนัดต่อวินาที
บูม!
ถนนสายนี้พังพินาศ!
ฝูงชนบนถนนถูกขวางด้วยกองทัพจักรกลและไม่อาจเห็นสิ่งที่เกิดขึ่นภายในได้
อีกด้านของวงล้อมหานเซี่ยวเฝ้าดูทหารจักรกลนำศพสองศพมาไว้ตรงหน้าเขา ทั้งสองคือคอลลินและโอโรเซ็น
ก่อนที่จะได้สู้กลับทั้งคู่ก็ตายด้วยการซุ่มโจมตีของกองทัพจักรกลแล้ว!
หานเซี่ยวพยายามประเมินพลังของศัตรูไว้สูงสุดและเตรียมพร้อมลงมือเองเมื่อกองทัพจักรกลไม่สามารถฆ่าอีกฝ่ายได้แต่ทว่า เขาไม่คิดเลยว่าทั้งคู่จะตายภายใต้การระดมยิงรอบเดียว เขาตะลึงงัน
สิ่งนี้เกินกว่าที่เขาคาดไว้
หนาเซี่ยวได้จัดแผนสำรองไว้มากแต่ก็ตระหนักว่าล้วนเปล่าประโยชน์ความง่ายของภารกิจนี้ทำให้เขาตกใจมาก
ไม่ใช่ว่าพวกมันคือลูกน้องเทพเอส?ทำไมถึงอ่อนแอขนาดนี้?
ฉันคิดว่าลูกน้องเทพเอสต้องทรงพลังกว่านี้ซะอีกมันไม่รู้สึกแตกต่างจากการฆ่าภัยพิบัติคนอื่นเลย…
ปากหานเซี่ยวบิดและรู้สึกเหมือนเขาเพิ่งชกใส่หมอน
นี่ไม่แตกต่างจากการฆ่าไก่ด้วยมีดหั่นวัว
โอ้มันอาจเพราะฉันเพิ่งเลื่อนขั้นสายอาชีพมา ซึ่งเพิ่มพลังฉัน ดังนั้น ฉันจึงยับยั้งภัยพิบัติทั่วไปได้ง่ายขึ้น ใช่แล้ว ทั้งสองยังไม่มีพรสวรรค์ต้านทานความเสียหายจริง ฉันกระตุ้นความเสียหายจริงที่การโจมตีครั้งสาม ดังนั้นมันจึงตายทันที
หานเซี่ยวโน้มน้าวใจตัวเอง
เดิมทีเขาสามารถจัดการภัยพิบัติได้เกือบหมดแล้ว หลังเลื่อนขั้นสายอาชีพ ไม่ต้องพูดถึงภัยพิบัติสองคน ต่อให้ยี่สิบเขาก็ยังจัดการได้
ด้วยการตายของโอโรเซ็นภารกิจของแฮร์โรฟาลจึงลุล่วง จากนั้นเขาก็ให้ฟิลลิปใช้หนึ่งในชุดจักรกลเขาเพื่อนำศพโอเรเซ็นกลับไปอารยธรรมไทล่าเพื่อแลกค่าหัว
ตอนนั้นหานเซี่ยวมองอีกศพและหยุดที่ลูกบาศก์บนคอคอลลิน
มันคืออะไร?ทำไมถึงไม่ถูกทำลาย?
หานเซี่ยวก้มหยิบมันขึ้นมาด้วยความอยากรู้
วินาทีที่เขาสัมผัสลูกบาศก์ดำคำแนะนำของก็ผุดขึ้น
หลังเหลือบมองปากของหานเซี่ยวก็ตกและไม่อยากเชื่อกับสิ่งที่ตาเห็น ลูกบาศก์….วิวัฒนาการ?
ฉันตาฝาด?
นี่คือสมบัติจักรวาลของไซเคอร์ไม่ใช่หรือ?ทำไมมันถึงปรากฏที่นี่?
ฉันเพิ่งหยิบอาวุธเทพขึ้นมาบนถนน?
หานเซี่ยวถือมันไว้และยืนเหมือนคนโง่
จากนั้นเขาก็เห็นแจ้ง
สายตาเขาจับจ้องเฟย์ดินผู้อยู่ข้างๆเขา
“ทำไมนายถึงมองฉัน?
เฟย์ดินรู้สึกขนลุกจากสายตาหานเซี่ยว
หานเซี่ยวกลืนน้ำลายและยกนิ้วโป้งให้เฟย์ดิน
“เฟย์ดิน!นายสุดยอดมาก!”
เฟย์ดินสับสน
ไม่กี่นาทีต่อมาซาร์ดีมก็นำกองทัพจักรกลมาถึงเมือง2
มีเพียงกองเศษหินที่หลงเหลือพร้อมด้วยฝูงชนข้างๆ หานเซี่ยวและกองทัพจักรกลเขาหายไปนานแล้ว
หน่วยรักษาความปลอดภัยรีบเก็บกวาดสถานที่แต่ไม่พบเบาะแส
กลุ่มคนที่พวกเขาจับตามองถูกฆ่าโดยไม่เหลือศพไว้ฉันไม่อาจหาเบาะแสของผู้โจมตีได้เลย!
ซาร์ดีมโกรธจัด
เพราะการควบคุมของหานเซี่ยวคนสอดแนมที่ซาร์ดีมใช้สอดแนมคอลลินจึงไม่ส่งข้อมูลใดๆมาให้ หน่วยลาดตระเวนจักรกลทั้งหมดไม่หยุดกลุ่มของหานเซี่ยวและภาพวงจรปิดก็ถูกทำลาย
จนถึงตอนนี้ซาร์ดีมหน้าดำและไม่รู้ว่าเกิดอะไรขึ้น
ใครฆ่าพวกคอลลิน?
คนที่สามารถฆ่าภัยพิบัติได้ทันทีต้องทรงพลังแค่ไหน?
วัตถุประสงค์ของผู้โจมตีคืออะไร?นักล่าค่าหัวกองกำลังพิเศษของไซเคอร์หรือเหตุผลลับ?
หากผู้โจมตีไม่ใช่คนของไซเคอร์นี่ก็หมายความว่าคนที่เขาจับตามองถูกฆ่า แถมผู้โจมตียังหายไป เขาจะตอบไซเคอร์ยังไง?
ซาร์ดีมรู้สึกปวดหัวและจำต้องรายงานสถานการณ์ต่อไซเคอร์ตามจริง