The Legendary Mechanic - ตอนที่ 755-756
ตอนที่ 755 มันฝรั่งร้อน
ในขณะเดียวกันหานเซี่ยวก็พาฮีล่าและเฟย์ดินหลบหนีออกไปแล้ว เขากำลูกบาศก์วิวัฒนาการไว้แน่น สีหน้าเขาดูขัดแย้ง
มันเป็นความสุขที่ไม่คาดคิดแต่หลังความปีติยินดี หานเซี่ยวก็ค่อยๆสงบลง
เนื่องจากลูกบาศก์วิวัฒนาการปรากฏมันไม่ควรเกี่ยวกับเฟย์ดิน มีเหตุผลเบื้องหลัง
การปรากฏของมันลึกลับมากสมองหานเซี่ยวทำงานอย่างรวดเร็ว จำลองเหตุการณ์นี้อีกครั้งและคาดเดาสาเหตุและผลที่จะตามมา
การปรากฏของลูกบาศก์วิวัฒนาการในมือคนกลุ่มนี้หมยาความว่าพวกเขาขโมยสมบัติจักรวาลมาจากไซเคอร์และหนีมาไม่แปลกใจที่พวกเขาเงียบไปเป็นเดือนหลังฆ่าแฮร์โรฟาล มันกลับกลายเป็นว่าแผนพวกเขาคือการขโมยลูกบาศก์วิวัฒนาการ…
ตอนนี้หานเซี่ยวเข้าใจแผนพวกเขาแล้ว
ดูเหมือนฉันจะเข้าใจผิดคนเหล่านี้ไม่ได้มาเพื่อจัดการฉัน แต่เพื่อขโมยสมบัติ…
แต่ทำไมพวกมันถึงฆ่าแฮร์โรฟาล?เขามีบางสิ่งที่พวกหัวขโมยต้องการหรือแรงจูงใจอื่น?
ในชีวิตก่อนหน้าเขาลูกบาศก์วิวัฒนาการเป็นที่รู้จักเมื่อมันอยู่ในมือของศาสนจักร จนกระทั่งออสตินเผยความลับ หานเซี่ยวไม่รู้ว่าลูกบาศก์นั้นเป็นของไซเคอร์ในช่วงเวลานี้ แม้นี้อาจไม่ใช่ความลับระดับสูง มันก็ไม่ใช่สิ่งที่เผยแพร่ต่อสาธารณะ และด้วยระดับปัจจุบันของผู้เล่น มันยากที่จะได้รับข้อมูลแบบนี
ในเวอร์ชั่นหลังผู้เล่นที่เข้าร่วมศาสนจักรสามารถจ่ายแต้มสะสมและอีนาสเพื่อแลกกับโอกาสใช้ลูกบาศก์วิวัฒนาการได้
ผลของลูกบาศก์ส่วนใหญ่คือการพัฒนาสายพันธ์และบทบาทเฉพาะก็แตกต่างไปสำหรับบุคคล หากคนอ่อนแอแกร่งขึ้น คนแข็งแกร่งอยู่แล้วก็จะยิ่งแข็งแกร่ง แต่ทว่า ครั้งแรกที่มันถูกใช้จะให้ผลสูงุสด การพยายามต่อไปจะยิ่งอ่อนลงจนกระทั่งไม่มีผลอีก
ลูกบาศก์วิวฒนาการเปลี่ยนมือจากไซเคอร์ไปยังศาสนจักรฉันไม่มั่นใจว่าเกิดอะไรขึ้น ฝีมือเทพเอส?
หานเซี่ยวหยุดชะงักนึกถึงชีวิตก่อนหน้าเขา มีข้อมูลเกี่ยวกับเทพเอสสร้างปัญหาในเผ่าเนตรม่วงอยู่ แต่มันไม่เกิดในช่วงเวลานี้ แต่เป็นเหตุการณ์ระหว่างเวอร์ชั่น3.0และ4.0
ผู้เล่นไม่ได้สัมผัสมันเองแค่เห็นบันทึกข้อความและไม่มีการกล่าวถึงลูกบาศก์วิวัฒนาการ
“ฟิลลิปค้นหาข่าวล่าสุดของเผ่าเนตรม่วง”หานเซี่ยวสั่ง
ข่าวของดาวอวิตานถูกค้นหาอย่างรวดเร็วแต่เพราะการควบคุมโดยรัฐบาลกระบวนการเฉพาะเจาะจงจึงถูกบดบัง มีแค่การกล่าวถึงว่าดาวอวิตานเสียหายหนักและไม่พูดถึงชื่อเทพเอส
เพราะทุ่งดาวใหญ่จะสร้างเรื่องเล็กๆขึ้นนับร้อยเรื่องทุกวันเหตุการณ์บนดาวอวิตานจึงไม่ดึงดูดความสนใจนัก ดังนั้น หานเซี่ยวจึงไม่ได้ให้ความสนใจเรื่องเล็กๆนี้
หานเซี่ยวคิดสักพักเหตุการณ์บนดาวอวิตานควรเกิดจากเทพเอส ฉันมั่นใจ80%ว่าพวกเขาขโมยลุกบาศก์มาจากไซเคอร์ ด้วยกลยุทธ์แกล้งโจมตีทางตะวันออก แต่จริงๆแล้วกลับโจมตีทางตะวันตก
ในกรณีดังกล่าวการโจมตีเผ่าเนตรม่วงโดยเทพเอสจึงดำเนินการต่อไป
เมื่อเชื่อมกับการตายขงอแฮร์โรฟาลหานเซี่ยวก็ตกใจ
หรือนี่จะเกี่ยวกับฉัน?นี่คือสิ่งที่เรียกว่าbutterflyeffect?
น่าเสียดายหากมีแค่คนเดียวที่รอด
หานเซี่ยวคิดไม่ตกเขาวางแผนไว้ทุกอย่าง แต่ใครจะรู้ว่าคู่ต่อสู้พวกเขาจะอ่อนแอจนถูกกวาดทันที?ไม่มีโอกาสซักถามเลย
รอเดี๋ยว…
เมื่อมาถึงจุดนี้หานเซี่ยวก็หยุด เมื่อคิดถึงข้อมูลที่เขาได้รับ ข้อสงสัยใหม่ก็ผุด
ในเมื่อเทพเอสลอบลงมือและไม่มีสัญญาณจากเผ่าเนตรม่วงว่าลูกบาศก์วิวัฒนาการถูกขโมย งั้น เหตุผลที่ซาร์ดีมคอยจับตาดูกลุ่มนี้ก็นับว่าน่าสงสัย
บางทีซาร์ดีมอาจไม่ได้สนใจในรางวัลค่าหัวแต่เป็นลูกบาศก์วิวัฒนาการในมือ?
คิ้วหานเซี่ยวขมวดคิ้วคิดถึงสามความเป็นไปได้
ความเป็นไปได้แรกคือซาร์ดีมมีช่องทางข่าวพิเศษและสามารถได้รับข่าวตำแหน่งของลูกบาศก์ดังนั้นจึงอยากริบ
สองคือจักรวรรดิช่างกลรู้เรื่องนี้และอยากเป็นคนที่ได้รับผลประโยชน์ทั้งหมดดังนั้นจึงสั่งซาร์ดีม ผู้อยู่ในวงแหวนดาวกระจายให้แย่งลูกบาศก์มา
ความเป็นไปได้สุดท้ายคือซาร์ดีมถูกขอโดยไซเคอร์ให้ช่วยเผ่าเนตรม่วงรับเอาลูกบาศก์คืน….ไม่ไซเคอร์อาจไม่บอกความจริง แค่บอกให้ซาร์ดีมจับตา ดังนั้นเขาอาจไม่รู้เรื่องลูกบาศก์วิวัฒนาการ
ไม่ว่าความเป็นไปได้ไหนซาร์ดีมก็คือคู่แข่ง และในสถานการณ์เลวร้ายสุด มันหมายความว่าไซเคอร์กำลังเดินทางมาที่นี่
เมื่อชั่งน้ำหนักแล้วดวงตาหานเซี่ยวก็หม่นแสง
เขาไม่ใช่คนแปลกหน้าต่อลูกบาศก์อย่างน้อยเขาก็รู้ว่ารูปร่างเดิมของมันมีขนาดใหญ่มาก ดังนั้นลูกบาศก์วิวัฒนาการมือเขาควรเป็นรุ่นพกพา
ออสตินบอกเขาว่าเขาไม่เคยเห็นรูปลักษณ์มันมาก่อนไซเคอร์ไม่ได้แสดงลูกบาศก์อย่างเปิดเผยเหมือนศาสนจักร ดังนั้นควรมีคนน้อยมากที่รู้เกี่ยวกับมันและซาร์ดีมก็อาจไม่รู้…
ตอนนี้หนาเซี่ยวพลันคิดถึงบางสิ่ง และหน้าเขาก็เปลี่ยนเป็นดำมืด เขารีบติดต่อออโรร่าที่อยู่บนยาน
“สถานการณ์ที่ท่าจอดเป็นยังไง?”
ออโรร่าสับสน”ลุงหานรู้ได้ไงว่าเกิดเรื่อง?เราเพิ่งได้รับการแจ้งจากศูนย์ควบคุมภาคพื้นว่ามีคนโจมตีเมืองดังนั้นเส้นทางเดินทางจึงถูกปิดชั่วคราว เฉพาะเมื่อผู้กระทำผิดถูกจับ พวกเขาจึงจะเปิดเส้นทาง”
เกิดเรื่องจริงๆ!
หานเซี่ยวนวดนิ้วมือ
ช่วงเวลาที่เขากำจัดลูกน้องเทพเอสซาร์ดีมคงปิดทั้งดาวโดยไม่ยอมให้ใครออกไป
การเคลื่อนไหวใหญ่เช่นนี้ย่อมไม่ใช่แค่ขังผู้โจมตีเมืองแต่ยังเป็นการเก็บลูกบาศก์วิวัฒนาการไว้บนดาว
แต่นี่คือปัญหาใหม่ ด้วยการปกปิดร่องรอยเขา ซาร์ดีมย่อมไม่มีทางไล่ล่า ต่อให้พวกเขาตรวจสอบอย่างถี่ถ้วนทั้งดาว มันต้องใช้เวลานานแค่ไหนเพื่อหาลูกบาศก์?ด้วยจำนวนคนที่นี่ ความยากก็เหมือนการงมเข็มในมหาสมุทร โดยปราศจากวิธีตรวจจับที่สอดคล้อง แค่ปิดดาวนั้นไร้ประโยชน์
ดังนั้นซาร์ดีมควรมีวิธีระบุตำแหน่งลูกบาศก์วิวัฒนาการ อาจเป็นเครื่องมือตรวจจับได้เมื่ออยู่ในระยะที่กำหนด นี่อาจเป็นวิธีตรวจจับของไซเคอร์ เครื่องตรวจจับควรมีจำกัดไม่งั้นฉันคงถูกพบไปนานแล้ว
แม้เขาจะไม่ได้สัมผัสกับเรื่องราวทั้งหมดเองตามเบาะแสที่มี หานเซี่ยวก็สามารถสรุปได้ ความคิดเขาพลันสว่าง
ด้วยความคิดนี้หานเซี่ยวบอกให้อีกสองคนหยุด
เจตนาเดิมเขาคือออกดาวมาซิเฟอร์ทันทีหลังฆ่าโอโรเซ็นแต่ซาร์ดีมได้หยุดเส้นทางไว้ก่อนเขาจะได้ขึ้นยาน หากเขาอยากออก เขาต้องฝ่าออกไป ดังนั้นเขาจึงไม่รีบ แทนที่จะรีบกลับท่า เขาอาจคิดหาวิธีจัดการกับลูกบาศก์ในมือเขาก่อน
หานเซี่ยวสรุปสถานการณ์ปัจจุบันเขา
การได้รับลูกบาศก์วิวัฒนาการหมายถึงการเผชิญหน้ากับซาร์ดีมไซเคอร์ผู้บ้านถูกปล้น เทพเอสผู้ขโมยและศาสนจักรอาร์เคน!
อย่างน้อยสองผู้อยู่เหนือและอารยธรรมจักรวาลต้องมาหาเรื่องเขา!
หานเซี่ยวสูดหายใจตระหนักว่าลูกบาศก์ในมือเขาเป็นมันฝรั่งร้อน!
แม้มันจะน่ายินดีมันก็ยังอันตราย!
ดังนั้นเขาต้องจัดการกับมันอย่างระมัดระวัง
หานเซี่ยวเคร่งขรึมและรีบคำนวณข้อดีและข้อเสีย
มีสองทางเพื่อจัดการกับมันซ่อนมันหรือส่งมอบ
หากฉันอยากเก็บมันไว้..อืมฉันก็อยู่ไม่ไกลจากระดับผู้อยู่เหนือแล้ว ฉันมีคุณสมบัติครอบครองสมบัติจักรวาล แต่ผลที่ตามมาคือการเป็นศัตรูกับไซเคอร์ เทพเอสจะมุ่งเป้ามาที่ฉันเพื่อรับเอาลูกบาศก์วิวัฒนาการ ฉันได้มีความสัมพันธ์คล้ายน้ำกับไฟกับฮีเบอร์แล้ว หากไซเคอร์และฮีเบอร์จับมือกัน….
แต่ผลประโยชน์ของการเก็บมันไว้ก็สามารถทำให้กองทัพฉันแข็งแกร่งขึ้นฉันยังใช้มันเพื่อล่อลวงกองกำลังได้ มีหลายอารยธรรมที่สามารถต้านทานการล่อลวงของลูกบาศก์วิวัฒนาการได้ ไซเคอร์และศาสนจักรผูกขาดการใช้ลูกบาศก์ พวกเขาไม่อยากใช้มันเพื่อบ่มเพาะคู่แข่ง
หานเซี่ยวลอบพยักหน้าซาร์ดีมอาจปิดตายดาว แต่ไม่อาจหยุดเขาจากการใช้ลูกบาศก์ได้ ถึงแม้จะไม่สามารถฝ่าแนวป้องกัน เขาก็ยังลอบเอามันออกจากดาวได้ด้วยการใช้กระโดดมิติ
ตราบเท่าที่ซาร์ดีมหามันไม่เจอไม่ช้าก็เร็ว การปิดดาวย่อมจบ และจากนั้นพวกเขาก็สามารถขึ้นยานออกไปได้
ปัญหาคือหากเขาเก็บลูกบาศก์วิวัฒนาการไว้ เขาจะไม่อาจหลอกมันจากองค์กรอื่นได้ กองทัพแบล็คสตาร์จะกลายเป็นเป้าหมายวิจารณ์ของสาธารณะ
หานเซี่ยวใคร่ครวญ
ต่อให้ฉันส่งมอบมันการเลือกคนเพื่อรับมือจะเป็นปัญหา เทพเอส จักรวรรดิช่างกล อารยธรรมจักรวาลหรือไซเคอร์
การส่งมันให้เทพเอสจะเปลี่ยนจากศัตรูเป็นมิตรแต่หากมีการเปิดเผย เขาก็เสี่ยงจะยั่วโมโหสามอารยธรรมจักรวาลรวมถึงกองกำลังอื่น
มันก็จะแปลกหากส่งมอบให้จักรวรรดิช่างกลการโยนลูกบาศ์ที่เป็นมันร้อนให้คนอื่นและใช้มันเพื่อแลกกับทรัพยากร ในเวลาเดียวกัน มันยังช่วยให้เขากำจัดอันตราย หลีกเลี่ยงการต่อสู้ได้
หากมอบให้อารยธรรมจักรวาลพวกเขาก็จะกลายเป็นพันธมิตร ใครที่เป็นผู้มอบจะได้รับผลประโยชน์ สหพันธ์แห่งแสงจะให้ทรัพยากรจำนวนมากเป็นการแลก ส่วนจักรวรรดิคริมสันจะให้ตั๋วไปโลกริบหรี่พ่วงด้วยทรัพยากร
มีสองความเป็นไปได้สำหรับศาสนจักร มันจะเป็นอันตรายสำหรับเขา
หากเขาส่งมันให้ศาสนจักรเรื่องราวก็จัยิ่งซับซ้อนเพราะไซเคอร์เป็นพันธมิตรพวกเขาอยู่แล้ว ศาสนจักรอาจไม่ละทิ้งไซเคอร์เพื่อสนับสนุนเขา
แต่ทว่าหากเขากลายเป็นผู้อยู่เหนือ ศาสนจักรอาจไม่ใช้กำลังแย่งชิงลูกบาศก์ ซึง่หมายความว่าผลลัพธ์สุดท้ายอาจเป็นการคืนลูกบาศก์ให้ไซเคอร์เพื่อรักษาความสัมพันธ์หากเขาส่งมอบมันให้พวกเขา ในกรณีนั้น ไม่ใช่แค่พวกเขาจะรักษาไซเคอร์ไว้ พวกเขายังให้เขาเป็นพันธมิตรด้วยและยังอนุญาตให้ใช้ลูกบาศก์วิวัฒนาการ
ไซเคอร์อาจชื่นชมศาสนจักรแต่ไม่ใช่กับหานเซี่ยว
แน่นอนศาสนจักรเป็นหนึ่งในเจ้าโลกและไม่ต้องกลัวไซเคอร์รำคาญ มีความเป็นไปได้ที่พวกเขาจะเก็บลูกบาศก์ไว้เอง
ตัวเลือกสุดท้ายคือส่งคืนให้เจ้าของและทำให้เรื่องเงียบนี่จะทำให้เขาได้รับมิตรภาพของไซเคอร์มา และอาจสามารถหยิบยืมลูกบาศ์ได้เป็นครั้งคราวเช่นศาสนจักร
ขณะที่หานเซี่ยวกำลังชั่งน้ำหนักเฟย์ดินก็ถาม”แบล็คสตาร์ เรากำลังไปไหน?เราจะไม่ไปยาน?”
หานเซี่ยวได้สติคืนคิดและส่ายหัว”ไม่จำเป็น ฮีล่า พาออโรร่ามา”
พวกเขาไม่อาจกลับไปบริษัทยอดหินได้อีกซาร์ดีมต้องสงสัยตัวเขาก่อนใครในฐานะช่างกลลึกลับ และเขาต้องไปรายงาน ในเมื่อเขาเป็นที่สงสัยไม่ว่าจะกลับไปหรือหาย เขาจึงไม่ต้องเสแสร้งอีก
ยังไงก็ตามฉันคือคนที่ทำมันและฉัน บาร์นก็เป็นคนชอบธรรมและไม่กลัวปัญหา!
หานเซี่ยวเลิกคิด
เขาชินกับการตรวจสอบและคำนวณผลลัพธ์ที่ดีสุดแต่ไม่ว่ายังไง ตอนนี้ลูกบาศก์เป็นของเขาแล้ว
เพลิดเพลินกับมันก่อนตัดสิน!
“ท่านไซเคอร์ผมได้ปิดท่าจอดดาวแล้วครับ”
อีกด้านซาร์ดีมกำลังสื่อสารกับไซเคอร์
“ก่อนฉันไปถึงอย่าปล่อยให้ใครไป”ไซเคอร์ตอบ
“ครับ..แต่โปรดรีบหน่อยนะครับผมไม่สามารถปิดดาวได้นานนัก”
ซาร์ดีมมีสีหน้าทำอะไรไม่ถูกโชคดี มีข้อแก้ตัวในการตามล่าผู้กระทำผิดอยู่ แต่การปิดท่านานจะทำให้ธุรกิจของดาวเสียหายและเขาก็ยอมรับไม่ได้
“ทำได้ดีมากฉันเกือบถึงแล้ว”ไซเคอร์ตอบ
“ครับงั้นตอนนี้ผมควรทำอะไร?”
“ไม่จำเป็นต้องทำอะไรแค่อย่าให้ใครออกดาว หากมีใครพยายามฝ่าฝืน ก็ลงมือหยุด”
เขาสามารถบอกได้ว่าลูกบาศก์วิวัฒนาการยังอยู่บนดาวมาซิเฟอร์แต่ระยะทางนั้นไกลเกินกว่าจะบอกได้แม่น ดังนั้นเมื่อซาร์ดีมบอกเขาว่าลูกน้องเทพเอสตายแล้ว ไซเคอร์จึงแปลกใจ
ตราบเท่าที่มันยังอยู่บนดาวมันก็จะดี วินาทีที่เขาไปถึง เขาก็จะพบตำแหน่งของลูกบาศก์วิวัฒนาการ
ตอนที่ 756 ความทะเยอทะยาน
ตามแนวเทือกเขาของดาวมาซิเฟอร์ภูเขาถูกขุดด้วยเครื่องจักรของหานเซี่ยวเพื่อสร้างถ้ำ และถ้พก็ติดตั้งที่พักพิงอัตโนมัติ ปลอมเป็นหิน ในแสงของยามรุ่ง คนด้านนอกจะมองไม่เห็นถ้ำและติดตั้งม่านกันการตรวจจับดาวเทียม ทำให้มันเป็นไปไม่ได้ที่เจ้าของดาวจะพบคลื่นพลังงานใดที่นี่ด้วยดาวเทียม พื้นที่นี้ยังเป็นจุดบอดบนเรดาห์
ภายในถ้ำเป็นโพรงและหานเซี่ยวก็กางป้อมปราการจักรกลพกพาที่นั่น ยึดพื้นที่นับพันตารางเมตร รากฐานจกรกลมากมายกรายทั่วผนัง รองรับช่องโพรงของภูเขานี้ พื้นที่นี้กลายเป็นฐานที่มั่น และรากฐานจักรกลมากมายก็ทำหน้าที่เป็นแหล่งกำเนิดแสง
หลังวางมือบนลูกบาศก์วิวัฒนาการเมื่อคืนก่อนหานเซี่ยวก็ได้วิเคราะห์สถานการณ์และตัดสินใจออกเมืองมาตั้งฐานที่มั่นลับชั่วคราวเพื่อป้องกันซาร์ดีมจากการตรวจพบ หลังฮีล่าพาออโรร่ามา หานเซี่ยวก็พาทั้งสามมาที่นั่นและสร้างฐานเล็กๆด้วยบอลบีบอัดที่เขาพกติดตัว
เขามักพาอุปกรณ์เพื่อตั้งค่ายชั่วคราวไว้
หลังจัดตั้งหานเซี่ยวก็นำลูกบาศก์วิวัฒนาการออกมา อธิบายสมมติฐานเขา เดิมที ทั้งสามสับสนกับพฤติกรรมไร้เหตุผลของเขา แต่หลังได้ยินประวัติของชิ้นนี้ พวกเขาก็ตรัสรู้
ทั้งสามมองลูกบาศก์ดำเล็กๆนี้ด้วยความอยากรู้ออโรร่าอยากรู้เกี่ยวกับสมบัติจักรวาลล้วนๆ ส่วนฮีล่าสนใจในความสามารถมันที่จะเพิ่มพลัง
แต่เฟย์ดินกลับแสดงสีหน้ากังวล”นี่คือลูกบาศก์วิวัฒนาการในตำนาน?ในเมื่อเราหยิบมันมาได้เราจะทำยังไง?ส่งมันคืนให้ไซเคอร์?เขาจะคิดว่าเราขโมยมันมาไหม?”
เพราะเขาติดตามหานเซี่ยวไปเยือนออสตินเขาจึงรู้ว่าของชิ้นนี้เป็นของไซเคอร์
หานเซี่ยวตอบอย่างช่วยไม่ได้”ฉันยังไม่ได้คิดเลย”
“มันเป็นไปไม่ได้ที่นายจะคิดเก็บมันไว้”เฟย์ดินกล่าว”หากนายทำแบบนั้นเราจะกลายเป็นศัตรูกับไซเคอร์ ตอนนี้นายก็เป็นศัตรูกับฮีเบอร์แล้ว หากเพิ่มไซเคอร์เข้าไป นั่นจะเป็นครึ่งผู้อยู่เหนือในวงแหวนดาวกระจาย..”
หานเซี่ยวกล่าวแทรก”เราสามารถคุยกันได้ทีหลังในเมื่อมันอยู่ในมือฉันแล้ว ก็มาลองใช้กันก่อน”
“เราจะใช้มันยังไง?”ฮีล่าถามอย่างหมดความอดทน
“หากฉันจำไม่ผิด..”
หานเซี่ยวพลิกลูกบาศก์ดำเล็กทุกด้านเรียบเนียนเหมือนกระจก ไม่มีรอยหยัดใ แม้กระทั่งตอนเขาเพิ่มแรงกดของนิ้ว มันก็ยังไม่มีร่องรอย
หลังลังเลเขาก็ปิดทั้งสองด้านของลูกบาศก์ด้วยสองมือ กดลงบนทุกมุมของลูกบาศก์พร้อมกัน วินาทีต่อมา ผิวสีดำสนิทก็สว่างด้วยลำธารแสงและบอลพลังงานสีดำก็ห่อหุ้มรอบลูกบาศก์
“ขั้นแรกถูกต้อง..”หานเซี่ยวดีใจ
วิธีที่ง่ายสุดในการใช้มันคือใส่มันเข้าในสภาพเป็นกลางแต่เมื่อลูกบาศก์วิวัฒนาการอยู่ในโหมดพกพา ภาชนะก็ต้องเปิดเพื่อให้พลังงานจากลูกบาศก์ออกมาได้
ขั้นแรกจึงเป็นการทำให้ภาชนะอยู่ในสถานะพร้อมนี่คือสิ่งที่หานเซี่ยวเพิ่งทำ แต่มันไม่ได้หมายความว่าเขากระตุ้นลูกบาศก์แล้ว
จากนั้นชั้นวัตถุก็หุ้มรอบลูกบาศก์ซึ่งทำหน้าที่เป็นหน้าจอป้อนรหัสผ่าน ต้องมีการวาดสัญลักษณ์รหัสผ่านบนภาชนะ นี่เทียบเท่ากับรหัสผ่าน เทียบกับลูกปัดข้อความแล้ว สิ่งนี้ค่อนข้างง่าย
ผู้เล่นหลายคนจากชีวิตก่อนหน้าเขาเคยใช้ลูกบาศก์วิวัฒนาการในศาสนจักรดังนั้น จึงมีคนที่เฝ้าดูNPCจากศาสนจักรปลดผนึกลูกบาศก์และบันทึกมันไว้ กระบวนการไม่ใช่ความลับอะไร และยังมีคนที่โพสต์สรุปรหัสผ่านสำหรับลูกบาศก์วิวัฒนาการ ซึ่งประกอบไปด้วยสัญลักษณ์ที่แตกต่างกัน42ตัว
แต่รูปร่างและตำแหน่งของสัญลักษณ์ยังคลุมเครือต่อหานเซี่ยวโชคดี สถานะสติปัญญาเขาสูงขึ้นจนความทรงจำมีโครงสร้างเหมือนตู้หนังสือ ความทรงจำทั้งหมดเขาถูกจัดเก็บเป็นหมวดหมู่ ซึ่งสามารถเข้าถึงและดูได้ โหมดการคิดดังกล่าวสามารถควบคุมได้เพียงแค่ฝึก นับประสาอะไรกับช่างกลที่มีสติปัญญาสูงและพื้นที่สมองใหญ่ ไม่งั้น พวกเขาจะจำพิมพ์เขียวยากๆได้ยังไง?
หลังไตร่ตรองสักพักเขาก็ค่อยๆนึกถึงโครงสร้างของสัญลักษณ์และเริ่มแกะรอยด้วยนิ้วเขา เขาวาดสัญลักษณ์เสร็จอย่างรวดเร็ว แต่ฝาพลังงานกลับยังปิด และลูกบาศก์ก็ตกลงพื้น เห็นได้ชัวด่ามันล้มเหลว
ใช่แล้วรหัสผ่านที่ศาสนจักรตั้งอย่อมไม่เหมือนกับที่เทพเอสตั้ง หานเซี่ยวพลันตระหนัก เขาหดหู่ หากเขาเปิดมันไม่ได้ เขาก็ทำได้แค่ทุบมันเพื่อให้มันคืนขนาดเดิม และความปั่นป่วนย่อมรุนแรงและผู้คนย่อมสังเกตเห็น
เขาขมวดคิ้วและถอนหายใจปลอบตัวเอง นั่นอาจไม่เป็นอย่างนั้น ลูกบาศก์วิวัฒนาการเป็นของอารยธรรมสาบสูญและภาชนะพกพาก็เป็นเทคโนโลยีของอารยธรรมนี้ มันก้าวหน้ามากและไม่ใช่สิ่งที่คนธรรมดาสามารถถอดรหัสได้ อาจมีแค่เทพถึงสร้างของเช่นนี้ได้ แต่มันควรยากที่จะพัฒนาเทคโนโลยี
เช่นนั้นสัญลักษณ์42เหล่านี้ควรเป็นรหัสผ่านของภาชนะ สำหรับทำไมภาชนะไม่เปิด..อาจเพราะฉันวางไม่แม่นหรือคำสั่งนั้นผิด
หานเวี่ยวไม่ณู้ว่าเขาเดาถูกสัญลักษณ์ชุดนี้คือรหัสผ่านเปิดใช้งานลูกบาศก์พกพา ซึ่งไม่อาจเปลี่ยน มันไม่ได้แค่ใช้เพื่อปลดผนึกภาชนะ แต่ยังเป็นกุญแจในการควบคุมพลังงานของลูกบาศก์
นี่คือข้อมูลลับสุดยอดที่อารยธรรมวิวัฒนาการทิ้งไว้ปัจจุบัน ความรู้เช่นนี้อยู่ในมือเทพเอส แม้กระทั่งคอลลินและคนอื่นก็ไม่รู้วิธีเปิดมัน เพื่อป้องกันความโลภ การทรยศหรือการเปิดเผยข้อมูลโดยไม่ตั้งใจ
ในชีวิตก่อนหน้าเขาศาสนจักรไม่กลัวการเปิดเผยข้อมูลดังกล่าวเพราะไม่มีใครสามารถเอาของพวกเขาไปได้ ดังนั้นหานเซี่ยวจึงกลายเป็นหนึ่งในไม่กี่คนที่รู้รหัสผ่านเปิดมัน
เขาพยายามกว่าสามสิบครั้งค่อยๆเลียนแบบสัญลักษณ์ ปรับมันจนแม่น สุดท้าย ในการลองครั้งที่37 ปฏิกิริยาที่แตกต่างก็เกิดขึ้น
จากศูนย์กลางของทุกหน้าลูกบาศก์รูเล็กๆปรากฏ ซึ่งมีอนุภาคคล้ายริบบิ้นเล็ดรอดออกมา ล้อมลูกบาศก์และขับเคลื่อนมันในอากาศ
“มันเปิดแล้ว!”หานเซี่ยวร้องอุทาน
เมื่อมองคนอื่นหานเซี่ยวก็สูดหายใจลึก ก่อนยื่นฝ่ามือออกไปและปล่อยพลังจักรกลเขาไปทางลูกบาศก์วิวัฒนาการ
ฮู่!
วินาทีถัดมากระแสสีดำดูเหมือนจะพบทางหลบหนีและกรูกันไปหาหานเซี่ยว แทรกซึมเข้าไปในตัวเขา
คัน!
นั่นคือความคิดแรกเขา
อาการคันแบบนี้ดูเหมือนจะผุดจากวิญญาณเขาผิวหนัง กล้ามเนื้อ กระดูก เส้นเลือดและอวัยวะล้วนรู้สึกคัน แต่มันเป็นไปไม่ได้ที่จะเอื้อมมือออกไปเกาเหมือนเกาตัว มันไม่อาจบรรเทาได้เลย
เมื่อมาถึงจุดนี้การแจ้งเตือนก็เริ่มปรากฏบนหน้าต่างสถานะ
ท่านได้ใช้ลูกบาศก์วิวัฒนาการ(เกรดทอง)!
ท่านได้รับผลประโยชน์พิเศษถาวร-[การเพิ่มประสิทธิภาพยีน: ลูกบาศก์วิวัฒนาการ]!
ระบุสายพันธ์..ระบุเสร็จสิ้น: สายพันธ์ปัจจุบันท่านคือ : [ผู้ไล่ตามดาว]
โครงสร้างทางพันธุกรรมท่านกำลังถูกปรับให้อยู่ในสถานะที่ดีสุดโปรดอย่าขัดกระบวนการ
การเพิ่มประสิทธิภาพครั้งแรกสำเร็จคุณสมบัติท่านเพิ่มขึ้น ท่านได้รับ +6พละกำลัง +4ความเชี่ยวชาญ +5สติปัญญา +4ลี้ลับ +3เสน่ห์และ+30พลังงาน
เนื่องจากระดับพลังงานท่านสูงกว่าระดับ0การเพิ่มประสิทธิภาพครั้งสองจึงสำเร็จ คุณสมบัติท่านเพิ่มขึ้น และได้รับ+8พละกำลัง +7ความเชี่ยวชาญ +11ความทนทาน +7สติปัญญา +5ลี้ลับ +6เสน่ห์และ+40พลังงาน
เพราะระดับพลังงานท่านเหนือกว่าระดับ14การเพิ่มประสิทธิภาพครั้งที่16จึงสำเร็จ คุณสมบัติท่านเพิ่มขึ้นและได้รับ+64พละกำลัง +67ความเชี่ยวชาญ +72ความทนทาน +76สติปัญญา +61ลี้ลับ +43เสน่ห์และ+240พลังงาน
เมื่อเขาเพิ่มมาเป็นระดับ238สถานะพลังงานเขาก็เกิน4หมื่นและบรรลุโบนัสระดับ14แล้ว
สำหรับระดับสถานะพลังงานที่เพิ่มมาแต่ละครั้งมันจะได้การเพิ่มประสิทธิภาพสถานะเป็นรางวัล ดังนั้น ยิ่งร่างกายแข็งแกร่ง การใช้ครั้งแรกก็ยิ่งได้ผลดี สถานะที่ได้รับนั้นขึ้นอยู่กับปัจจัยหลายอย่าง เช่นการทำงานของเซลล์ อายุขัย และสายพันธ์ ซึ่งสายพันธ์นั้นมีผลกระทบสุด ลูกบาศก์วิวัฒนาการจะปรับให้เหมาะตามเผ่าพันธ์ และหากสายพันธ์นั้นหายากและทรงพลัง ผลประโยชน์ก็ยิ่งสูง
เมื่อลูกบาศก์วิวัฒนาการถูกใช้เป็นครั้งที่สองมันจะไม่คำนวณตามระดับพลังใหม่ แต่จะทำกระบวนการเดิมซ้ำ แต่ สถานะที่มอบให้จะลดลงมาก การใช้แต่ละครั้งยิ่งให้ผลน้อยลงจนกระทั่งไม่เหลือ มีเพียงการกลายเป็นสายพันธ์ใหม่ถึงจะได้รับผลประโยชน์บางอย่าง แต่ถึงกระนั้นก็ยังมีประสิทธิภาพน้อยกว่าการใช้ครั้งแรก
หานเซี่ยวอดทนต่ออาการคันขณะคำนวณในหัวการเพิ่มประสิทธิภาพทางพันธุกรรมชุดนี้ทำให้เขามีค่าสถานะเพิ่มขึ้นอย่างน่ากลัว ทั้งพละกำลัง ความเชี่ยวชาญ ความทนทาน สติปัญญาและลี้ลับเพิ่มขึ้นกว่า500แต้ม ส่วนเสน่ห์ก็เพิ่มเกือบ400 สำหรับพลังงาน มันเพิ่มถึง2100!
การเพิ่มของค่าสถานะเกินกว่าแต้มสถานะทั้งหมดที่เขาได้รับจนถึงระดับ14ของขั้นพลังงาน!
ผลรวมของสถานะที่เพิ่มทั้งหมดเกินกว่าสามพันซึ่งเทียบเท่ากับการเพิ่มสถานะของหานเซี่ยวหนึ่งในสาม!
เพราะศักยภาพของผู้ไล่ตามดาวไม่ธรรมดาร่วมกับอายุที่ยังน้อย เซลล์ที่แข็งแรง และพลังงาน การเพิ่มจึงน่ากลัวมาก!
เมื่อเขากลายเป็นจักรพรรดิช่างกลเพิ่มเป็นระดับ238 พลังงานรวมเขาก็สูงถึง32600 ตอนนี้ หลังใช้ลูกบาศก์ พลังงานเขาก็เพิ่มเป็น34750!
ถึงแม้อาการคันจะสุดทนเขาก็เผยสีหน้ายินดี
แต่ทว่าการแจ้งเตือนบนหน้าต่างสถานะยังไม่จบ
การใช้ลูกบาศก์วิวัฒนาการครั้งแรกได้มอบรางวัลแก่ท่านเป็นการเพิ่มประสิทธิภาพทางพันธุกรรม16จะมีบทลงโทษค่าประสบการณ์+40% ซึ่งจะคงอยู่นาน16เดือน
หานเซี่ยวพยักหน้ากับตัวเองผู้เล่นจะได้รับการลงโทษค่าประสบการณ์เมื่อใช้ลูกบาศก์วิวัฒนาการ เหนือสิ่งอื่นใด สถานะที่ได้รับเทียบเท่ากับการได้รับระดับเพิ่มขึ้นเป็นสิบระดับ มันเหมือนกับการดึงต้นกล้าขึ้นเพื่อช่วยให้มันโต มันเป็นไปไม่ได้ที่จะไร้ต้นทุน หลักการนี้ก็เหมือนๆกัน ทุกครั้งที่ใช้ลูกบาศก์ จะมีบทลงโทษค่าประสบการณ์40%และระยะเวลาก็ขึ้นกับจำนวนครั้งที่ได้รับการเพิ่มประสิทธิภาพทางพันธุกรรม
แต่ทว่านี่ไม่มีอะไรต่อหานเซี่ยว แค่บทลงโทษ40% ภายใต้อิทธิพลของการเพิ่ม30%ผ่านสินทรัพย์การเมือง มันก็เหลือบทลงโทษแค่10% ค่าประสบการณ์ที่หานเซี่ยวได้รับขึ้นอยู่กับสวนกระเทียมหอมเขา เขาสามารถรอได้
นอกจากนี้ยิ่งสถานะแกร่ง ระดับพลังงานก็ยิ่งสูง เช่นนั้น โอกาสทะลวงผ่านเป็นผู้อยู่เหนือตอนระดับ240จึงสูงขึ้น
ครั้งนี้หน้าต่างสถานะผุดขึ้น
พบเงื่อนไขพิเศษ: ในครั้งแรกที่ท่านใช้ลูกบาศก์วิวัฒนาการ ท่านได้ปลดล็อคการเพิ่มประสิทธิภาพทางพันธุกรรมกว่าสิบชั้น
กระตุ้นผลพิเศษ
ในการเลื่อนระดับครั้งต่อไปท่านจะได้รับโอกาสเพิ่มเติมในการวิวัฒนาการเผ่าพันธ์
การเพิ่มประสิทธิภาพพันธุกรรมจบลง
อนุภาคสีดำหยุดไหลหดกลับไปในลูกบาศก์วิวัฒนาการ
หานเซี่ยวรีบนั่งลงเพื่อปรับลมหายใจสงบสติตัวเอง จากนั้นก็ค่อยๆสัมผัสพลังภายในตัวเขา ตอนนี้เขารู้สึกเหมือนเขามีพลังพอจะระเบิดทั้งดาว
เฟย์ดินรีบถาม”มันเป็นยังไงบ้าง?”
หานเซี่ยวโบกมือส่งสัญญาณว่าไม่ต้องช่วยอะไร จากนั้นก็ค่อยๆยืนขึ้น เมื่อเห็นฮีล่าจ้องเขา เขาก็อดหัวเราะไม่ได้
“ฉันทดสอบแล้วผลข้างเคียงน้อยมาก เธอควรลอง”
ฮีล่าพยักหน้า”ได้”
หานเซี่ยวไม่ลังเลและเปิดลูกบาศก์วิวัฒนาการอีกครั้งปล่อยให้กระแสอนุภาคดำไหลไปทางฮีล่า
จากมุมมองคนนอกกระแสอนุภาคดำจะห่อผู้ใช้เป็นรังไหมดำ มันต้องใช้เวลาสักพักกว่าฮีล่าจะฝ่ารังไหมได้ ราวกับเธอเกิดใหม่จากรังไหมเป็นผีเสื้อ มีแสงสีแดงในตาเธอ ซึ่งค่อยๆจางลง
“พี่รู้สึกยังไงบ้าง?’ออโรร่าถามอย่างสงสัย
ฮีล่ากำหมัดแน่นและสายตาที่แหลมคมก็อ่อนลงเผยรอยยิ้มที่ยากจะพบเห็น
“รู้สึกดีมาก”
เมื่อเห็นหานเซี่ยวก็ยิ้ม เขามีความสุขที่ได้แบ่งปันลูกบาศก์วิวัฒนาการ ซึ่งช่วยให้เขาพัฒนากระดูกสันหลังของกลุ่มเขา
ไม่ช้าก็มีรังไหมอีกสองก้อนมันคือเฟย์ดินและออโรร่า
หานเซี่ยวยืนข้างพวกเขามองทั้งสองที่กำลังผ่านการเปลี่ยนแปลงและพบปัญหา
หากลูกบาศก์วิวัฒนาการกลับไปหาไซเคอร์เขาก็จะไม่รู้วิธีเปิด มีเพียงการทำลายภาชนะและปลดผนึกจึงทำให้มันกลับสู่สถานะเดิม
ดูเหมือน…จะมีแค่หานเซี่ยวที่รู้วิธีใช้ลูกบาศก์ในสถานะนี้
เมื่อความคิดนี้เกิดดวงตาหานเซี่ยวก็เป็นประกาย
บางทีนี่อาจเป็นรากกฐานของการร่วมมือ…
ในเวลาอันสั้นเฟย์ดินและออโรร่าก็ออกมาจากรังไหม และผ่านการเปลี่ยนแปลง
“แล้วแผนตอนนี้คือยังไง?”เฟย์ดินถามทันทีเนื่องจากลูกบาศก์วิวัฒนาการถูกใช้ มันจึงถึงเวลาที่พวกเขาต้องคิดสิ่งที่จะทำต่อไป
คำตอบของหานเซี่ยวนับว่าเหนือความคาดหมาย
“พวกนายทุกคนจะอยู่นี่”
ทั้งสามหยุดด้วยความตกใจ
“นายคิดที่จะ..”เฟย์ดินไม่เชื่อหู
ก่อนรอให้เขาพูดจบหานเซี่ยวก็พยักหน้า”ซาร์ดีมได้ปิดตายดาวแล้ว ดังนั้นไซเคอร์อาจไล่ตามมาไม่ช้า ฉันมีวิธีฉันที่จะป้องกันตัวเองจากผู้อยู่เหนือ แต่ไม่ใช่กับพวกนาย เราจะแยกกัน อยู่ที่นี่กันไปก่อน ฉันมีวิธีออกดาวนี้”
วัตถุประสงค์จริงเขาคือการใช้กระโดดมิติเพื่อออกดาวมาซิเฟอร์แบบนี้ เขาจะได้ทดสอบความแม่นยำของวิธีตรวจจับที่ซาร์ดีมหรือไซเคอร์มี
ไม่ว่าเขาจะวางแผนจัดการกับลูกบาศก์ยังไงเขาก็ไม่อาจหลีกเลี่ยงความเสี่ยงได้ ในลักษณะนี้ มันจะดีกว่าหากเขาลงมือลำพัง เขาจะได้ไม่ต้องกังวลถึงเพื่อนร่วมทีมเขา
ในความเป็นจริงลูกบาศก์วิวัฒนาการนี้คือมันฝรั่งร้อน แต่เนื่องจากมันตกอยู่ในมือเขาแล้ว หานเซี่ยวจึงไม่เต็มใจมอบมัน
ความเสี่ยงและโอกาสเป็นของคู่กันนี่คือสถานการณ์ที่เขาได้วิเคราะห์แล้วและไม่ต้องสงสัยว่ามีแค่การเก็บลูกบาศก์ไว้กับตัวถึงสามารถทำให้เขาได้รับผลประโยชน์สูงสุด
ส่วนเรื่องที่ว่าเขามีความสามารถจะเก็บมันไว้ไหม…หากไม่ลองใครจะรู้?
ดังนั้นหานเซี่ยวจึงตัดสินใจเข้าสู่แถบจักรวาลรกร้างพร้อมลูกบาศก์วิวัฒนาการ ให้เขามีเวลาพอสะสมค่าประสบการณ์เพื่อเลื่อนระดับ
ขณะที่เขายังไม่รู้บริบทแน่ชัดเขารู้สึกว่าความจริงควรคล้ายกับการคาดคะเนเขา มันเป็นไปได้ว่าผู้ไล่ตามอาจเป็นไซเคอร์
หานเซี่ยวไม่ได้ต่อต้านไซเคอร์และยังเคารพในฐานะผู้ห่วงใยเผ่าพันธ์
ลูกบาศก์วิวัฒนาการจะทำงานได้เป็นรายคนแต่ลูกหลานของคนที่ผ่านการเปลี่ยนแปลงจะสืบทอดผลของการเพิ่มประสิทธิภาพทางพันธุกรรมด้วย นี่คือสิ่งที่ไซเคอร์สามารถวิวัฒนาการเผ่าเนตรม่วงเขามาจนถึงปัจจุบันได้
จนถึงวันนี้ลูกบาศก์ยังเป็นเครื่องมือสำคัญสำหรับการพัฒนาเผ่าเนตรม่วง..
แต่มันเกี่ยวอะไรกับเขา?
เขาไม่ใช่คนของเผ่าเนตรม่วง!
เขาไม่ใช่คนขโมยลูกบาศก์!
เขาแค่เก็บมันขึ้นมา!
หานเซี่ยวได้ตัดสินใจแล้วอย่างน้อย เขาก็แค่ต้องประมือกับไซเคอร์ หากเขาไม่อาจไล่เขาไปได้ มันก็ไม่สายเกินที่จะเจรจา!