The Legendary Mechanic - ตอนที่ 761 -762
ตอนที่ 761 เจรจา
ยานอวกาศทรงหยดน้ำค่อยๆเข้าชั้นบรรยากาศและร่อนลงฉากเพลิงและลาวาแตกปะทุปรากฏ
ไซเคอร์รู้ถึงตำแหน่งของลูกบาศก์ดังนั้นยิ่งเขาเข้าใกล้ สัมผัสตำแหน่งก็ยิ่งแม่น
“พิกัดหยุดที่ดาวเคราะห์นี้…หรือเขายอมละทิ้งลูกบาศก์และเลือกหลบหนีหรือเขาจงใจรอที่นี่เพื่อพบฉัน?”
ไซเคอร์พยายามเดาเจตนาของศัตรูและรู้สึกว่าคนๆนี้อาจวางกับดักล่อเขาทำให้เขาไม่อาจไล่เขาต่อได้ เพื่อป้องกัน เขาจึงขับยานไปแทนที่จะบินด้วยตัวเอง
หลังบินสักพักเรดาห์ตรวจจับก็ส่งเสียงเมื่อสัมผัสได้ถึงสัญญาณชีวิต พื้นที่ห่างไกลถูกขยายและมันก็พบว่ามีนักรบจักรกลหลายร้อยกำลังล้อมสิ่งมีชีวิต ราวกับมันถูกจับกุม
“นั่นดูเหมือนจะเป็นซาร์ดีม”สีหน้าไซเคอร์ดำมืดและบินไปหาซาร์ดีมทันที
กองทัพบนพื้นยกปืนเปิดฉากยิงใส่ยาน
บูมบูม บูม!
พลังงานจิตที่มองไม่เห็นสร้างเป็นม่านพลังบิดเบือนพื้นที่รอบๆเหมือนกำแพงอากาศ ปืนใหญ่อนุภาคระเบิดออกเป็นจุดสีฟ้าเมื่อกระทบมัน
การระเบิดยังดำเนินแต่ม่านพลังก็ยังนิ่ง
วินาทีถัดมาคลื่นพลังจิตสีขาวซีดก็กวาดไปทั่ว
สวบ!
ทหารจักรกลนับร้อยด้านล่างไม่ได้รับโบนัสพลังจักรกลและแตกเป็นเสี่ยงๆคลื่นพลังจิตหลีกเลี่ยงซาร์ดีมและเขาก็คือคนเดียวที่ยืนอยู่หลังคลื่นผ่าน
ผู้ใช้พลังจิตคือสายที่ใช้พลังจิตพลังมันขึ้นอยู่กับการโจมตีทางจิต และในเวลาเดียวกัน มันก็มีวิธีการโจมตีทางกาย พลังผลักดันเบื้องหลังสิ่งนี้คือการใช้พลังจิตเพื่อส่งผลต่อสภาพแวดล้อม สร้างการโจมตีทางกายภาพ
ไซเคอร์บดขยี้พันธนาการบนตัวซาร์ดีมด้วยจิตโยนเขาเข้ายาน
“แค่กแค่ก …ในที่สุดท่านก็มา!”
ซาร์ดีมจับประตูยานไว้อย่างอ่อนแรง
เขารอดแล้ว!
ผู้อยู่เหนือพึ่งพาได้การเชื่อในตัวไซเคอร์นับเป็นสิ่งที่ถูกต้อง!
“ศัตรูเป็นใคร?”ไซเคอร์ไม่เสียเวลาคุย
“มัน..มันคือแบล็คสตาร์!”
“แบล็คสตาร์?ฉันเคยได้ยินชื่อเขามาก่อน…โอ้ดูเหมือนจะเป็นคนจากกลุ่มดาวโคลตัน เขาเข้าร่วมสงครามลับและยั่วยุฮีเบอร์ด้วยสินะ”
“ครับครับ มันคือเมล็ดพันธ์ผู้อยู่เหนือ เขาอ้างว่าไร้เทียมทานในหมู่ภัยพิบัติ”
ไร้เทียมทานในหมู่ภัยพิบัติ?งั้นฉายานี้ก็ทำให้เขามั่นใจว่าจะสู้กับผู้อยู่เหนือได้?
ไซเคอร์ส่ายหัวกลุ่มดาวโคลตันอยู่ห่างไกลจากเผ่าเนตรม่วง และข่าวเกี่ยวกับหานเซี่ยวก็ส่งมาถึงเขา หูเขา เขาไม่สนใจ สำหรับเขา ภัยพิบัติเป็นแค่มด
เขาไม่สนในสงครามลับหากเขามีเวลา เขาจะใช้มันเพื่อกังวลปัญหาของเผ่า
“ท่านไซเคอร์แบล็คสตาร์โยนผมมาที่นี่ไม่กี่ชั่วโมงก่อน เขาควรยังอยู่บนดาวนี้…ตอนนี้ เมื่อท่านทำลายทหารจักรกลเขา ท่านก็เผยตัวเอง ผมเชื่อว่าเราควรรีบจับแบล็คสตาร์ ไม่งั้นเขาคงหนีไปอีกครั้ง”
ซาร์ดีมยกข้อเสนอทันที
เขาไม่ลืมความอับอายที่เขาเจอและอยากเอากองทัพเขาคืนไซเคอร์หนุนเขา และในสายตาเขา ภัยพิบัติไม่มีทางต่อกรกับผู้อยู่เหนือได้ ไม่ว่าแบล็คสตาร์จะดิ้นรนยังไง เขาก็เป็นได้แค่กระสอบทราย
ซาร์ดีมกัดฟันคิดฝัน ฉันไม่ได้แค่จะเอากองทัพจักรกลฉันคืน ฉันจะขโมยของแกด้วย!
“โอ้นั่นสมเหตุสมผล เราควรรรีบลงมือ”ไซเคอร์ล่าว
ด้วยการรับรู้เขาเขาไม่กลัวว่าแบล็คสตาร์จะหนีแต่กลัวว่าแบล็คสตาร์จะไม่มีที่หนีต่างหาก เขาอาจทุบภาชนะพกพาของลูกบาศก์เป็นชิ้น เผยให้เห็นรูปลักษณ์จริงของลูกบาศก์ ในกรณีนั้น เขาต้องรวบมกำลังคนทั้งหมดของเผ่าเนตรม่วงเพื่อย้ายลูกบาศก์กลับ และเขาก็เกลียดปัยหาเช่นนี้
ขณะที่เขาเตรียมขับยานไปเขาก็รู้สึกว่าลูกบาศก์กำลังเริ่มมาหาพวกเขา อย่างรวดเร็ว จุดสีดำเล็กๆยิ่งขยายใหญ่ขึ้น
ครื่น!
เงาพุ่งตัดผ่านอากาศและหินหนืดที่ไหลบนผิวก็แยกออกไปด้านข้างเพราะแรงลม
วินาทีต่อมาเงาดำก็หยุดกลางอากาศไม่ไกล จับจ้องไซเคอร์
“นั่นคือแบล็คสตาร์!”ซาร์ดีมอุทาน
“เขากลับมาด้วยตัวเอง….”ไซเคอร์แปลกใจเขาเดาว่าเจตนาของอีกฝ่ายควรเป็นการเจรจา
สายตาเขาจับจ้องลูกบาศก์วิวัฒนาการขนาดเล็กที่ห้อยบนคอหานเซี่ยวด้วยการรับรู้เขา นี่คือลูกบาศก์วิวัฒนาการฉบับพกพา
ฮึ่ม!
โดยไม่รอให้หานเซี่ยวเปิดปากไซเคอร์ยกมือและพลังจิตก็ระเบิดออกไป กระแทกใส่หานเซี่ยว
เขาขี้เกียจเกินจะพูดกับหานเซี่ยวเขารู้ว่าอีกฝ่ายวางแผนใช้ลูกบาศก์วิวัฒนาการมาต่อรองเขา แต่หานเซี่ยวมีคุณสมบัติอะไรมาคุยกับเขา?
ไซเคอร์ไม่เต็มใจให้เขาเหนือกว่าดังนั้น โดยไม่พูดอะไร เขาโจมตีตรงๆ
หากแกมีอะไรจะพูดก็รอจนฉันได้รับลูกบาศก์วิวัฒนาการ!
ก่อนหานเซี่ยวจะได้พูดคลื่นพลังงานจิตก็กระแทกเขา โชคดี เขาเตรียมตัวที่จะใช้พรสวรรค์ใหม่จากเผ่าศาสดาโกลาหลแล้ว วาดพลังจำนวนมาจากมิติเพื่อลบพลังงานจิตไปครึ่งหนึ่ง
พลังงานจิตที่เหลือเจาะผ่านบุกรุกสมองเขาและเขาก็รู้สึกปวดหัวราวกับมีตะปูนับไม่ถ้วนกำลังตอกลงมา แต่ทว่า พรสวรรค์เขาเช่น[การเคารพ] [จิตแกร่ง]และ[ผนึกวิญญาณ]ทำให้เขามีความต้านทานจิตสูง การโจมตีนี้ลดพลังชีวิตเขาไปกว่าแปดหมื่น
นี่คือพลังที่แท้จริงของผู้อยู่เหนือ!
แต่ทว่าด้วยพลังชีวิตปัจจุบันของหานเซี่ยว การโจมตีนี้แค่พอจะทำลายภัยพิบัติทั่วไป สำหรับเขา เขาสามารถฟื้นฟูได้ในชั่วพริบตา
เจ้าหมอนี่เด็ดขาดจริงๆ!หานเซี่ยวกลายเป็นจริงจัง
แต่ทว่านี่คือสิ่งที่เขาต้องการ มีเพียงการแสดงพลังเขาต่ออีกฝ่ายเขาถึงมีสิทธิ์เจรจาอย่างเท่าเทียม
ขณะคิดมือของหานเซี่ยวก็ไม่ได้ช้าลงเลย โดยไม่พูด เขาใช้คำสาปโชคกับไซเคอร์ และโดยไม่ถอย เขาเปิดใช้กายศาสดารวมถึงพรมิติ ทะเลพลังงานไซโอนิคระเบิดออกมา คล้ายกับแม่น้ำดวงดาวในกาแล็กซี่ที่โถมใส่ยานของไซเคอร์
บูม!
พลังงานไซโอนิคบดขยี้กับม่านพลังจิตของไซเคอร์อย่างแรงคล้ายกับน้ำตกซัดใส่หิน ประกายไฟฟ้าคล้ายกับละอองน้ำและสภาพแวดล้อมก็สั่นสะเทือนอย่างแรง
“พลังนี้..ไม่ถูกต้องแล้ว”
ไซเคอร์อดแปลกใจไม่ได้แรงกดดันที่เกิดขึ้นนั้นแตกต่างจากที่เขาคิดไว้โดยสิ้นเชิง
แม้จะกดดันเล็กน้อยแต่การเป็นผู้อยู่เหนือมาหลายปี นี่เป็นครั้งแรกที่เขารู้สึกถึงแรงกดดันจากภัยพิบัติ
เกร๊ง!
พริบตาหานเซี่ยวก็เทพลังงานออกมามากขึ้น อัญเชิญกองทัพจักรกลเขา กล่องกองทัพโผล่ออกมาทีล่กล่อง ปล่อยกองทัพจักรกลนับล้าน คลื่นทหารสีดำกรูกันออกมาทั่วท้องฟ้า
ไม่ใช่แค่กองทัพจักรกลของหานเซี่ยวแต่ของซาร์ดีมด้วย ขนาดนั้นเกินกว่าสิบล้าน
บูซ!
พลังจักรกลคล้ายกับประกายไฟฟ้าที่ระเบิดจากตัวหานเซี่ยวเชื่อมต่อกับทหารจักรกลแต่ละตัวเหมือนตาข่ายไฟฟ้า ตอนนี้เอง การกระทำของทหารจักรกลทั้งหมดถูกเชื่อมโยง
จากนั้นหานเซี่ยวก็ปล่อยพลังทั้งหมดระดับพลังงานที่เขาปล่อยนั้นพุ่งสูงและโมเมนตัมเขาก็ขยายตัว
ตอนนี้เองซาร์ดีมก็พลันสังหรณ์ใจไม่ดี
ไซเคอร์เปิดปากขึ้น
“นายพูดผิด”
ซาร์ดีมได้สติและตอบกลับด้วยความสับสน”ผิดอะไรครับ?”
“นายบอกว่าเขาเป็นเมล็ดพันธ์ผู้อยู่เหนือ”
ซาร์ดีมอดหันไปมองไซเคอร์ไม่ได้และด้วยความตกใจเขาพบว่าสีหน้าของไซเคอร์นั้นย่ำแย่มาก บางครั้ง สีหน้าเขาจะบิดเบี้ยว
“เขาไม่ใช่เมล็ดพันธ์ผู้อยู่เหนือ..”น้ำเสียงของไซเคอร์ดูเคร่งเครียด”แต่เขาเป็นผู้อยู่เหนือต่างหาก!”
ดุจสายฟ้าฟาดใส่ความคิดของซาร์ดีมขาวโพลน ทั่วร่างแข็งค้าง และดวงตาเขาก็ค่อยๆขยายใหญ่ สีหน้าเขาเปลี่ยนจากความไม่เชื่อเป็นหวาดกลัว
แบล็คสตาร์…คือผู้อยู่เหนือ?!
นี่หมายความว่าวงแหวนดาวกระจายมีผู้อยู่เหนือห้าคนแล้ว?!
สีหน้าซาร์ดีมขาวซีดหากหานเซี่ยวยังเป็นภัยพิบัติ เขาคงไม่มีปัญหาหากตั้งเขาเป็นศัตรู แต่ทว่า อีกฝ่ายเป็นผู้อยู่เหนือแล้ว เขาจะกล้าแก้แค้นได้ยังไง?
นี่เกิดขึ้นตอนไหน?สองวันก่อนตอนฉันปะทะกับเขา เขายังเป็นภัยพิบัติ!หรือเขาจะปิดบังพลัง?
บางทีตอนเขาปลอมตัวเป็นบาร์น เขาก็คงเป็นผู้อยู่เหนือแล้ว
งั้นเขาก็หลอกฉันมาตลอด?!
เมื่อเห็นว่าเขากำลังพัวพันปัญหาของผู้อยู่เหนือซาร์ดีมก็ปากสั่น
หากแบล็คสตาร์และไซเคอร์เริ่มสู้กันผลพวงของการต่อสู้…
ซาร์ดีมเริ่มตื่นตระหนกเขาคิดว่าเมื่อไซเคอร์มาถึง เขาคงปลอดภัย แต่ตอนนี้ดูเหมือนเขาอาจตาย!
ครั้งนี้กองทัพจักรกลล้อมรอบยานไซเคอร์ไว้และเล็งปากกระบอกปืนไปที่เขา ในเวลาเดียวกัน แสงสลัวของการสะสมพลังงานก็สามารถเห็นได้
ฮึ่ม!
ดวงตาทั้งเจ็ดของไซเคอร์พลันขยายใหญ่และพลังงานจิตเขาก็หลั่งไหลออกมาทอเป็นชั้นๆที่ห่อหุ้มทั้งยาน
“ยิง!”หานเซี่ยวกดฝ่ามืออย่างแรง
ปิ้วปิ้ว ปิ้ว!
ปืนใหญ่อนุภาคนับล้านยิงใส่เป้าหมายเดียวกันและวินาทีต่อมา รังสีไซโอนิคต่างๆก็รวมกันที่จุดเดียว กระตุ้นให้เกิดปฏิกิริยาลูกโซ่ ที่จุดศูนย์กลาง บอลพลังงานสีน้ำเงินก่อตัวและขยายอย่างรวดเร็ว
กองทัพจักรกลถอยเมื่อบอลพลังงานขยายตัวเป็นเส้นผ่านศูนย์กลางกว่าร้อยกิโลเมตรก่อนระเบิด!
บูม!
เสียงคล้ายกับภูเขาถล่ม
ลำแสงสีฟ้ายิงขึ้นฟ้าออกนอกชั้นบรรยากาศ
โดยไม่มีฝุ่นหรือเมฆเห็ดพลังงานไซโอนิคทั้งหมดหายลับไปราวกับไม่เคยมีอยู่
พื้นที่รอบๆถูกแปรเป็นหลุมลึกดินดูเหมือนจะหายไปในอากาศธาตุ การระเบิดนี้เกือบระเบิดทั้งเปลือกดาว และพลังที่หลงเหลือก็เจาะผ่านเปลือกดาว ทำให้มันกลายเป็นหลุมลึกไร้ก้นบึ้ง
ครื่นนน!
พื้นที่หลายพันกิโลเมตรได้รับผลกระทบแผ่นดินไหวเกิดขึ้นพร้อมกันหลายครั้ง ภูเขาไฟทั้งหมดในบริเวณปะทุ และรอยแยกบนพื้นก็แตกทำให้เกิดรอยแยกลึก เปลือกโลกถูกทำลายโดยการเคลื่อนไหวของเปลือกโลกและหินหนืดก็โหมกระหน่ำจากรอยแยก ยกตัวขึ้นเหมือนมังกรเพลิง
เมื่อเห็นการเปลี่ยนแปลงหานเซี่ยวก็รู้สึกยินดี
พลังโจมตีฉันเพิ่มขึ้นกี่เท่า?
สถานะและความสัมพันธ์เครื่องจักรเขาทะยานและโบนัสที่มอบโดย[การนับถือสูงสุด]ยังช่วยให้พลังของหานเซี่ยวก้าวสู่ขอบเขตผู้อยู่เหนือ
กองทัพจักรกลฉันยังไม่ได้รับการพัฒนาวินาทีที่ฉันกลับและสร้างชุดเครื่องจักรที่แข็งแร่งกว่านี้ รวมถึงจำนวนปืนใหญ่ทำลายดาว นั่นจะเป็นุจดสูงสุดของพลังรบฉัน
หานเซี่ยวตัดสินใจก่อนหันไปมองหาร่องรอยไซเคอร์
ขณะที่ภาพหายนะที่เขาทำไปจะน่าตกใจหานเซี่ยวก็ไม่หละหลวม เขาไม่คิดว่าการโจมตีดังกล่าวจะคุกคามผู้อยู่เหนือได้ เหนือสิ่งอื่นใด ผลพวงที่รุนแรงหมายความว่าการควคบุมพลังเขายังไม่แม่นยำ
แม้จะด้วยการระเบิดครั้งใหญ่ความเสียหายที่เกิดก็แค่250000 นี่แสดงบนหน้าต่างสถานะเขาและการโจมตีส่วนใหญ่ก็ถูกหยุดโดยม่านพลังจิต
ในศูนย์กลางการระเบิดมีม่านพลังแตกๆอยู่ นั่นคือม่านพลังจิตของไซเคอร์ แม้กระทั่งม่านพลังจิตเขาก็ยังร้อนโดยการระเบิด เปลี่ยนเป็นสีแดงลาวาและปล่อยไอน้ำต่อเนื่อง
กองทัพจักรกลเขารวมตัวอีกครั้งและเมื่อเห็นไซเคอร์ก็เหลือบมองซาร์ดีม ผู้ยืนตัวสั่นข้างๆและส่ายหัว
หลังเงียบสักพักเขาก็ลบม่านพลังจิตเปิดประตู และบินออกไปเผชิญหน้ากับหานเซี่ยว
“พลังไม่เบา”
ไซเคอร์ลดหัวเขาเพื่อจ้องหลุมไร้ก้นบึ้งก่อนหันกลับไปมองหานเซี่ยวเขาไม่เผยอารมณ์ใดบนใบหน้า”มาคุยกัน”
หลังปะทะไซเคอร์ก็เข้าใจว่าอีกฝ่ายอยู่ระดับเดียวกับเขา ดังนั้น เขาจำต้องเปลี่ยนทัศนคติและยอมรับว่าหานเซี่ยวมีคุณสมบัติ
แม้จะไม่เคยติดต่อกับแบล็คสตาร์มาก่อนเขาก็ไม่มีทางเลือกนอกจากต้องจดจำคนๆนี้ไว้
ท่าทางนี้บ่งชี้ว่าเขาพร้อมเจรจาแล้ว
ในความเป็นจริงไซเคอร์ยังหงุดหงิด เดิมทีเขาคิดว่าอีกฝ่ายแค่ภัยพิบัติที่มั่นใจเกินตัว แต่มันกลับกลายเป็นผู้อยู่เหนือตัวจริง สถานการณ์ที่เลวร้ายสุดเกิดขึ้นจริงและนี่ทำให้สถานการณ์ยิ่งซับซ้อน
ไซเคอร์ไม่กลัวหานเซี่ยวแต่ในฐานะผู้นำอารยธรรม เขาจำต้องเจรจา
อย่างที่บอกเมื่อใดก็ตามที่มีคนมากพรสวรรค์ปรากฏ พวกเขาจะทิ้งร่องรอยไว้บนโลก ทุกๆผู้อยู่เหนือหมายถึงการเปลี่ยนแปลงของทุ่งดาว แม้วงแหวนดาวกระจายจะไม่มีผู้อยู่เหนือใหม่มาเป็นเวลานาน มันก็ไม่ได้หมายความว่าทุ่งดาวอื่นจะเป็นเหมือนกัน
ด้วยอายุขัยยาวนานของไซเคอร์ร่วมกับการติดต่อเขาในศาสนจักร เขาสามารถติดตามข่าวนอกจากวงแหวนดาวกระจายได้ เขาอ่านเยอะ ดังนั้นจึงไม่เสียความสงบ แต่เมื่อเห็นการเกิดใหม่ของผู้อยู่เหนืออีกคน มันก็หลีกเลี่ยงไม่ได้ที่เขาต้องแปลกใจ เขาแค่เลือกไม่แสดงเพื่อไม่ให้กระทบการเจรจา
เมื่อเห็นสถานการณ์นี้หานเซี่ยวก็สั่งให้กองทัพจักรกลหยุดก่อนบินไปตรงหน้าไซเคอร์
ทั้งสองยืนตรงข้ามกันสำรวจอีกฝ่าย
“ระบุเงื่อนไขมานายอยากทำอะไรกับลูกบาศก์วิวัฒนาการของฉัน?”
ไซเคอร์เริ่มพูดก่อนเขาไม่อยากพูดเป็นปริศนาและเข้าหัวข้อหลัก
หานเซี่ยวยกคิ้วขึ้น
บุคลิกของชายคนนี้ตรงไปตรงมาจริงอาจไม่เหมาะจะคุย…
แต่นั่นก็สมเหตุสมผลการแลกเปลี่ยนพวกเขาก็แค่การปะทะง่ายๆ เพื่อพิสูจน์พลัง มันห่างไกลจากสิ่งที่ผู้อยู่เหนือสามารถทำได้
ไซเคอร์เต็มใจสื่อสารเพราะหานเซี่ยวพิสูจน์พลังเขาและเพราะมันเป็นไปไม่ได้ที่จะกำจัดเขาในการโจมตีเดียว
ความคิดหานเซี่ยวเต็มไปด้วยคำพูดไร้ยางอายแต่เขาคิดและพูดอย่างจริงจังขณะกำลูกบาศก์วิวัฒนาการบนคอ”จริงๆแล้ว มีวิธีที่เราจะร่วมมือกันอยู่”
“พูด”ไซเคอร์ยังไร้อารมณ์
หานเซี่ยวพยักหน้าก่อนอธิบายความต้องการสำหรับรหัสผ่านเพื่อถอดรหัสลูกบาศก์วิวัฒนาการในรูปแบบพกพาจากนั้นก็กล่าว”ฉันรู้วิธีปลดผนึกลูกบาศก์นี้ ดังนั้นฉันสามารถให้มันอยู่ในสภาพพกพานี้และพกมันติดตัวได้ ดังนั้นมันจะไม่ถูกขโมย สำหรับนาย ในเมื่อนายไม่รู้รหัสผ่าน นายก็ทำได้แค่ปล่อยมันคืนรูปลักษณ์เดิม และวันหนึ่ง มันอาจถูกขโมยไปโดยเทพเอสอีก”
“ดังนั้นฉันขอเสนอให้ฉันถือมันไว้ ปล่อยให้ฉันเบี่ยงความสนใจ นายสามารถยืมลูกบาศก์ได้ตามใจต้องการ และเราก็จะเป็นพันธมิตรต่อกัน ดังนั้นนายไม่ต้องกังวลเกี่ยวกับมันเลยและยังใช้พลังของมันได้”
ไซเคอร์ฟังอย่างอดทนก่อนกล่าว”อืมงั้นฉันก็ขอเสนอบ้าง เอาเป็นว่านายให้รหัสผ่านและลูกบาศก์แก่ฉันเป็นไง?เผ่าเนตรม่วงจะเป็นมิตรกับนาย และนายสามารถใช้ลูกบาศก์ได้ตามใจชอบ แถม ฉันจะช่วยนายกำจัดฮีเบอร์?”
ดวงตาหานเซี่ยวกระตุก”และหากฉันไม่เห็นด้วยละ..”
“งั้นฉันจะช่วยฮีเบอร์กำจัดนาย”ไซเคอร์กล่าวแทรกโดยไม่ลังเล”ตอนนี้ให้คำตอบฉัน นายจะมอบมันมาไหม?”
ตอนที่ 762 ขอโทษที แต่ฉันไม่ยอม
“นั่นคือการขู่?”นี่ช่างตรงไปตรงมา
“ไม่ฉันแค่ช่วยให้นายเข้าใจสถานการณ์”น้ำเสียงของไซเคอร์ยังไม่แยแส
ด้วยการเป็นผู้อยู่เหนือทั้งคู่กฎของอารยธรรมต่างๆจึงไม่มีประโยชน์ต่อหน้าพวกเขา ผู้อยู่เหนือคือตัวตนอันทรงเกียรติและได้ก้าวออกจากกฏของสังคม ดังนั้น คำพูดต่างๆจึงเปล่าประโยชน์และไซเคอร์ก็เลือกโจมตีจุดอ่อนอีกฝ่าย นี่เป็นประโยชน์กว่าการแลกเปลี่ยนคำพูดไร้สาระ
สำหรับสถานการณ์ปัจจุบันของแบล็คสตาร์ไซเคอร์ไม่กังวลเลย แต่เขารู้ว่าฮีเบอร์จับตามองเขา ดังนั้น เมื่อเขาเข้าร่วม สมดุลจะพัง
สิ่งที่เขาเดิมพันคือแบล็คสตาร์ในฐานะผู้อยู่เหนือคนใหม่คงเลือกประนีประนอม เขายังต้องสะสมพลังและอิทธิพลเขา แบ่งผลประโยชน์ในทุ่งดาว ดังนั้น การเผชิญหน้ากับผู้อยู่เหนือเก่าสองคนจึงย่อมไม่ใช่ทางเลือกที่ดี
ยีนของเผ่าเนตรม่วงได้มาถึงคอขวดแล้วคุณสมบัติของลูกบาศก์วิวัฒนาการไม่มีประโยชน์ต่อพวกเขา และสิ่งที่ไซเคอร์ต้องการคือใช้คุณค่าของมัน เพื่อแลกกับการสนับสนุนจากศาสนจักร
ตลอดหลายสิบปีศาสนจักรได้ยื่นขอเสนอแลกกับลูกบาศก์ และข้อเสนอครั้งล่าสุดก็คือพวกเขาจะสนับสนุนเผ่าเนตรม่วงให้กลายเป็นตัวแทนของศาสนจักรในวงแหวนดาวกระจาย ช่วยให้กลายเป็นอารยธรรมกลุ่มดาวที่แท้จริง
แต่ทว่าหมากต่อรองเขาถูกขโมยไป
เช่นนั้นมันจึงไม่สำคัญว่าลูกบาศก์จะพกพาได้หรือไม่ เงื่อนไขของหานเซี่ยวไม่ได้ดึงดูดเขาเลย เขาไม่ได้ต้องการยืมมัน แต่ต้องการตัวลูกบาศก์วิวัฒนาการ
ไม่ว่ายังไงลูกบาศก์วิวัฒนาการก็ต้องกลับคืนสู่มือเขา ไม่งั้นเขาคงเสียการสนับสนุนของศาสนจักร เหนือสิ่งอื่นใด โดยปราศจากลูกบาศก์ ก็ไม่จำเป็นต้องคุยกันอีก!
หานเซี่ยวคิดและสามารถเข้าใจเหตุผลของไซเคอร์ได้รวมถึงเส้นแบ่งอีกฝ่ายไม่อาจประนีประนอม ซึ่งทำให้เขาปวดหัวไซเคอร์ปฏิเสธที่จะร่วมมือและแค่อยากได้ลูกบาศก์คืน เขาไม่อาจเติมเต็มความต้องการของไซเคอร์ได้เลย
การข่มขู่ด้วยเผ่าพันธุ์ก็เปล่าประโยชน์ทุกอารยธรรมล้วนได้รับการปกป้องโดยสนธิสัญญาอารยธรรมแต่ไม่ใช่กับกลุ่มทหารรับจ้าง นี่คือความแตกต่าง อีกฝ่ายโจมตีเขาได้ แต่ตัวเขาไม่อาจโจมตีอารยธรรมอีกฝ่ายได้ นี่คือความน่าเศร้าของทหารรับจ้าง
ไซเคอร์ใส่ใจเผ่าเขามากและนี่ก็คือจุดอ่อนเดียวของเขา แต่หากเขายอมทุกครั้งที่มีคนข่มขู่เผ่าเขา เผ่าเนตรม่วงคงไม่มายืนในจุดนี้ ไซเคอร์ได้รับการข่มขู่มาตลอดชีวิต ทำให้เขามีท่าทางแข็งกร้าว เว้นแต่หานเซี่ยวจะตัดสินใจละทิ้งกองทัพแบล็คสตาร์และเปลี่ยนเป็นอาชญากร เหมือนเทพเอส เขาคงไม่ใช้เผ่าเนตรม่วงไปคุกคามไซเคอร์
แต่ทว่าเขารู้ประเด็นนี้และไม่เต็มใจใช้กองทัพแบล็คสตาร์มาข่มขู่ฉันเหมือนกัน นี่หมายความว่าเขายังมีศีลธรรมหลงเหลือและไม่เต็มใจผลักฉันจนมุม
หัวใจหานเซี่ยวเต้นกระหน่ำ
จุดสนใจของอีกฝ่ายคือลูกบาศก์เท่านั้นและทั้งสองฝ่ายก็มีจุดอ่อน เพื่อหลีกเลี่ยงการสูญเสียทั้งสองฝ่าย พวกเขาไม่กล่าวถึงกองกำลังตนเอง
แต่ทว่าหานเซี่ยวไม่เต็มใจส่งมอบลูกบาศก์ง่ายๆ เพื่ออารยธรรมส่วนใหญ่ ลูกบาศก์วิวัฒนาการคือโอกาสพัฒนาที่ไม่คาดคิด และไม่มีอารยธรรมใดสามารถปฏิเสธโอกาสนี้ หากเขาควบคุมลูกบาศก์วิวัฒนาการได้ มันจะสร้างผลกำไรให้เขามากมาย และอิทธิพลของกองทัพแบล็คสตาร์ก็จะมากกว่าเดิมนับพันเท่า
หลังก้าวถอยด้วยตัวตนเขาในฐานะผู้อยู่เหนือ หากเขานำลูกบาศก์วิวัฒนาการไปร่วมกับจักรวรรดิคริมสัน เขาคงสามารถได้รับการสนับสนุนของอารยธรรมจักรวาล เผ่าเนตรม่วงเห็นชัดว่าเพลินเพลินกับผลประโยชน์จากศาสนจักรอาร์เคน และยังามารถเข้าร่วมกองกำลังเพื่อสำรวจโลกริบหรี่ได้
ในเวลาเดียวกันลูกบาศก์วิวัฒนาการยังสามารถดึงดูดความสนใจจากภัยพิบัตินับไม่ถ้วนและแม้กระทั่งผู้อยู่เหนือ
เขาไม่ใช่คนเหมือนไซเคอร์ที่มีแต่เผ่าพันธุ์ในหัวเก็บของดีทั้งหมดไว้เพื่อเผ่าเขา
ลูกบาศก์วิวัฒนาการมีเพียงอันเดียวดังนั้นผลประโยชน์จึงสูง เขาไม่มีโอกาสมาก่อน แต่โอกาสตอนนี้อยู่ในมือเขาแล้ว และเขาก็มีพลังจะเก็บมันไว้ หากเขายอมแพ้ง่ายๆ มันคงทำให้เขาหงุดหงิดตัวเองด้วย
เมื่อมันถึงเวลาสู้หานเซี่ยวไม่เคยถอย
การพกลูกบาศก์วิวัฒนาการไว้กับตัวจะทำให้เขาได้รับผลประโยชน์ดีสุดแถมมีความเสี่ยงเท่าเดิม อย่างไรก็ตาม ด้วยร่างเขาและยาของออโรร่า ต่อให้ฮีเบอร์และไซเคอร์ร่วมมือกัน พวกเขาก็ไม่อาจฆ่าเขาได้ กองกำลังเขาสามารถพัฒนาได้อีกโดยไร้ภัยคุกคามจากพลังของลูกบาศก์ แต่ทว่า หากเขาส่งมันคืนให้ไซเคอร์ แม้จะไร้อันตราย เขาก็ต้องละทิ้งผลประโยชน์จำนวนมาก
นี่คือการเลือกต้นไม้ต้นเดียวหรือทั้งป่า!
หานเซี่ยวไม่คิดเกี่ยวกับมันอีก”ไม่มีช่องว่างสำหรับการประนีประนอมเลยหรือ?”
“หากอารยธรรมอยากพัฒนามันก็หลีกเลี่ยงไม่ได้ที่ต้องสู้เพื่อทรัพยากร เพื่ออนาคต”ไซเคอร์กล่าว”ตั้งแต่โบราณ ไม่ว่าอารยธรรมจะก้าวหน้าหรือล้าหลังแค่ไหน นายก็ไม่อาจหลบหนีกฎนี้ได้ และไม่อาจสู้กับมันได้ ท้ายที่สุด หากไม่อยากทำตามกฏเหล่านี้ นายจะถูกกำจัด ฉันเชื่อว่านายคงเคยได้ยินคำพูดว่าที่ อารยธรรมที่ไร้ความทะเยอทะยานนั้นไร้อนาคต’”
เขาไม่พูดเรื่องที่ว่าลูกบาศก์วิวัฒนาการเป็นของเขาและเขาควรได้รับมันคืนพวกเขาทั้งสองยืนอยู่บนระดับเดียวกัน เหตุผลนั้นเปล่าประโยชน์ จริงๆแล้ว ลูกบาศก์วิวัฒนาการนั้นไร้เจ้าของ แต่อิทธิพลคือสิ่งเดียวที่ทำให้เขาถือครองมันมาได้นานขนาดนี้
หากมันเป็นสิ่งที่เผ่าเนตรม่วงสร้างขึ้นมาหานเซี่ยวก็อาจต้องส่งมอบมัน แต่ทว่า สมบัตินี้ไม่ได้เป็นของไซเคอร์ และต่อให้อีกฝ่ายอยากใช้มันเพื่อพัฒนาเผ่าตน สมบัตินี้ก็ไม่ได้สร้างขึ้นเพื่อเผ่าเนตรม่วง ทรัพยากรจะได้รับโดยการต่อสู้
ไซเคอร์ยึดลูกบาศก์วิวัฒนาการและแปลงเผ่าเขาทำให้เขากลายเป็นวีรบุรุษของเผ่า แต่เป็นคนเห็นแก่ตัวในสายตนคนอื่น
ในมุมมองหานเซี่ยวเผ่าเนตรม่วงได้เพลิดเพลินกับผลประโยชน์ของลูกบาศก์มานานแล้ว ต่อให้เสีย เผ่าเนตรม่วงก็ยังแข็งแกร่ง ไซเคอร์คว้าผลประโยชน์นี้ไว้คนเดียวและไม่อยากปล่อยมันไปเพราะเขาไม่พอใจกับสถานะเป็นรอง อยากให้อารยธรรมเขาขึ้นสูงขึ้นอีก
“อารยธรรมที่ไร้ความทะเยอทะยานนั้นไร้อนาคตประโยคนี้สมเหตุสมผล นาย ในฐานะผู้นำอารยธรรม ต้องแบกรับภาระของทั้งอารยธรรมไว้บนหลัง มันแค่นั้น..”หานเซี่ยวถอนหายใจ”แต่ฉันไม่ต้องสนใจความทะเยอทะยานนาย”
ไซเคอร์หยุดก่อนน้ำเสียงเขาจะยิ่งลึก”คิดดีแล้ว?”
“ลูกบาศก์มีเพียงอันเดียวเราทั้งคู่ต่างไม่อยากปล่อยมันไปและไม่มีทางที่จะตกลงกันได้ งั้นก็ไม่มีอะไรให้พูดอีก”หานเซี่ยวส่ายหัว เขาไม่เคยเป็นคนดีที่หันหน้าหนีจากเงิน หลังชั่งน้ำหนัก เขาก็ตัดสินใจ
“ดีหวังว่าแกจะไม่เสียใจกับการตัดสินใจนี้!”
ไซเคอร์ลงมือและพลังงานจิตไร้ขอบเขตในรูปแบบคลื่นพลังก็ระเบิดออกมา บิดเบือนอากาศ โจมตีใส่กองทัพจักรกลด้านหลัง เจาะผ่านขบวนรบตรงๆ
บูม!
พลุไฟนับพันระเบิดในกองทัพจักรกลและอะไหล่ก็ปลิวว่อน ทหารจักรกลนับแสนเสียหายหนัก และร่างพวกมันก็พัง บางตัวยังกลายเป็นเศษซากตรงๆ
ทหารจักรกลเหล่านี้ถูกสร้างตอนเขาเป็นภัยพิบัติมันจึงบอบบางต่อหน้าผู้อยู่เหนือ…
“กระจายตัว!”หานเซี่ยวสั่งปัญญาประดิษฐ์จากความคิดและแขนจักรกลก็เปลี่ยนทรงเป็นสว่านที่ปกคลุมด้วยพลังงานไซโอนิคพุ่งใส่ไซเคอร์
ไซเคอร์ขยับมืออย่างรวดเร็วและคว้าสว่านไว้
บูซบูซ…
สว่านในมือไซเคอร์หมุนอย่างรวดเร็วและฝ่ามือเขาก็ปกคลุมด้วยม่านพลังจิตตอนสัมผัสกับสว่านประกายไฟเกิดขึ้นจากการเสียดสีไม่หยุด จากนั้นดวงตาของไซเคอร์ก็ทอประกาย
หานเซี่ยวรู้สึกถึงคลื่นความเจ็บปวดที่ระเบิดในหัวโดยไม่รอ ไซเคอร์ปล่อยแสงสีขาวคลุมทั้งร่างเขาและระลอกพลังงานจิตก็กระจาย กระแทกหานเซี่ยวเหมือนค้อน ผลักเขาไปไกลนับพันเมตร
ทันทีทันใดมือของไซเคอร์ก็ตบเข้าด้วยกันอย่างแรง และคลื่นพลังงานก็พวยพุ่งขึ้นฟ้า!
หานเซี่ยวปรับสมดุลร่างกายและเมื่อมองเขาก็พบว่าร่างไซเคอร์กำลังเปลี่ยนแปลง
ร่างของไซเคอร์พองกลายเป็นวงกลมและมุมทั้งสองข้างหน้าผากเขาก็เหมือนหยก หนวดเล็กๆคล้ายเส้นผมรอบหัวผสานกันเป็นหนวดขาวขนาดใหญ่ เหมือนหางบนหัว มันโบกไปมา ดูเหมือนมีแรงดึงสูงมากและมีปีกสามคู่กางออกมา เปลี่ยนเขาเป็นสัตว์ขาปล้อง
ดวงตาทั้งเจ็ดเขาสว่างวาบและเส้นสีม่วงลึกบนผิวเขาก็เปล่งแสง ขับพลังงานจำนวนมากออกมา ภายในข้อต่อของเกราะกระดูกเขา ดาบกระดูกแหลมโผล่ออกมา และเมฆขาวคล้ายพลังจิตก็กระจายออกมารอบตัวไม่หยุด
ไซเคอร์เผยรูปลักษณ์แท้จริงเขา
ดวงตาหานเซี่ยวหรี่แคบไม่ใช่ทุกคนที่เต็มใจร่วมมือกับเขา และเนื่องจากไซเคอร์ปฏิเสธ เขาจึงตัดสินใจเก็บปากและพูดด้วยหมัดแทน
ท้ายที่สุดการใช้หมัดก็ยังเป็นวิธีแก้ปัญหาที่ดีสุด
เมื่อการเจรจาล้มเหลวพวกเขาทำได้แค่โน้มน้าวอีกฝ่ายด้วยวิธีเช่นนี้
ฉันเพิ่งพูดถึงการพลิกโต๊ะและเขาก็ทำจริงๆ ช่างอารมณ์ร้อน…แต่อย่าคิดว่าฉันกลัวนาย!
บูม!
หานเซี่ยวไม่นิ่งเฉยและเปิดใช้งานทักษะเพิ่มพลังทั้งหมดก่อนระเบิดพลังจักรกลออกไป
หวือ!
กองทัพจักรกลเรียงแถวยิงใส่ไซเคอร์ และรังสีไซโอนิคจากปืนใหญ่อนุภาคก็คล้ายคลื่นพลังทำลายล้าง
เทียบกับการปะทะก่อนหน้านี่คือการต่อสู้จริง!
นี่ยังเป็นศึกผู้อยู่เหนือแรกที่หานเซี่ยวมีส่วนร่วม!