The Legendary Mechanic - ตอนที่ 769 -770
ตอนที่ 769 ความโกลาหล!
เฮดาวี่ถูกนำไปห้องโดยฮีล่าและมัดกับเก้าอี้ฮีล่ายืนกอดอกข้างๆ จ้องเขาอย่างเย็นชา
“รอนี่แบล็คสตาร์กำลังมา.
เฮดาวี่ไม่ขัดขืนหลังนั่งเงียบสักพัก เขาก็ดูเหมือนจะรู้สึกว่าบรรยากาศน่าอึดอัด เขามองฮีล่าและถาม”ความสามารถเอสเปอร์เธอคืออะไร?ฉันท่องมาทั่ววงแหวนดาวกระจาย แต่ยังไม่เคยได้ยินชื่อเธอ คนอย่างเธอไม่สามารถปิดข่าวได้ เธอมาจากอารยธรรมไหน?”
ฮีล่าไม่คิดตอบ
เมื่อเห็นว่าเธอไม่สนใจเฮดาวี่ก็ทำได้แค่ไอแห้ง”ดูเหมือนเธอจะไม่ชอบคุย”
ครั้งนี้ประตูเปิดและหานเซี่ยวก็เดินยิ้มเข้ามา”เธอมาจากบ้านเกิดฉัน เรามาจากดาวอความารีน เพราะเธอเรียนกับเอเมสมาตลอด เธอจึงเพิ่งปรากฏมาเพื่อช่วยฉัน”
“ลูกศิษย์ของจักรพรรดินีมังกร?”เฮดาวี่ตะลึงและมองฮีล่าด้วยสายตาที่เต็มไปด้วยความชื่นชมและอิจฉา
ดาวอความารีนอารยธรรมพื้นผิว สามารถให้กำเนิดคนอย่างฮีล่าและแบล็คสตาร์ได้
ปึก!
หานเซี่ยวขยับมือปล่อยเฮดาวี่และพลันคิด”เอาละ ออกไปได้แล้ว”
เฮดาวี่ตกใจและปากก็เปิดกว้าง”นายกำลังจะปล่อยฉันไป?”
“ใช่แล้ว”หานเซี่ยวยิ้ม”ไม่ว่ายังไงเราก็สู้กันมาหลายรอบ และฉันก็เคารพความสามารถนาย ครั้งนี้ ฉันจะปล่อยนายไป การเดิมพันถือเป็นโมฆะ”
“ไม่ไม่ ไม่..”เฮดาวี่พูดติดอ่าง”ฉันเป็นคนรักษาคำพูด เนื่องจากฉันแพ้ ฉันต้องยอมรับสัญญาและทำงานกับนาย”
“เอาละพวกพิเศษที่แข็งแกร่งอย่างนายย่อมไม่อยากเป็นลูกน้องใคร”หานเซี่ยวตอบกึ่งติดตลก”ฉันอาจมาถึงระดับผู้อยู่เหนือ แต่ระดับภัยพิบัติขั้นสูงุสดอย่างนาย ฉันก็ยังเคารพและจะไม่บังคับ”
เฮดาวี่เผยสีหน้ากังวลจนแดงเดิมทีเขาคิดว่าแผนเขาจะสำเร็จและสามารถเข้าร่วมภายใต้ร่มธงแบล็คสตาร์ได้ เขาไม่คิดว่าแบล็คสตาร์จะปฏิเสธเขา ด้วยเหตุผลที่ทำให้เขาตอบไม่ได้
“ฉัน..นาย..”เฮดาวี่พูดไม่ออกไม่อาจเปล่งเสียงได้เลย
เขาควรบอกว่าเขาอยากรับใช้แบล็คสตาร์?เฮดาวี่รู้สึกว่านี่น่าอายและไม่อาจทำได้ลงแต่ทว่า หากเขาแค่เดินหนีไป นั่นก็จะทำให้จุดประสงค์เขาล้มเหลว เขาตกอยู่ในภาวะกลืนไม่เข้าคายไม่ออก
เมื่อเห็นสถานการณ์นี้หานเซี่ยวก็ยิ้ม”ฉันจะไม่ยุ่งกับนายอีก หากนายอยากเข้าร่วมกับกองทัพแบล็คสตาร์ ฉันจะอ้าแขนต้อนรับ หากนายพยายามหลอกฉัน เราสามารถหยุดคุยกันได้”
ใบหน้าของเฮดาวี่แดงก่ำ”นายรู้อยู่แล้ว?”
เมื่อรู้ว่าความคิดเขาถูกมองออกเขาก็อายจนอยากหาที่มุด
สำหรับฮีล่าผู้ยืนอยู่มุมห้องด้วยสีหน้าเฉยเมยกลับยกมุมปากขึ้นโดยไม่รู้ตัว
หานเซี่ยวเลิกคิ้ว”ในกรณีนี้ฉันจะเชิญนายอย่างเป็นทางการ เฮดาวี่ กองกำลังฉันต้องการนาย นายเต็มใจมาอยู่ภายใต้ฉันไหม?”
เฮดาวี่พบว่ามันยากที่จะเปิดปากปากเขาดูเหมือนจะปิดสนิท และก็ต้องทุ่มพลังทั้งหมดเพื่อเปิดขากรรไกร
“ฉัน..ฉันยินดี…”
หลังพูดคำเหล่านั้นเฮดาวี่ก็รู้สึกราวกับทั้งร่างอ่อนยวบ ความรู้สึกราวกับเขาเพิ่งสู้ศึกเสร็จ
“ดี”หานเซี่ยวพยักหน้าด้วยรอยยิ้ม”ในนามของกองทัพฉันขอต้อนรับนาย”
เมื่อเห็นว่าหานเซี่ยวไม่คิดล้อเขาเล่นอีกเฮดาวี่ก็ถอนหายใจโล่งอก”นายอยากให้ฉันรับหน้าที่อะไร?”
หานเซี่ยวคิดก่อนชี้ฮีล่า”นายสามารถเข้าร่วมหน่วยองครักษ์แบล็คสตาร์ได้ซึ่งอยู่ภายใต้ฮีล่า”
ด้วยชื่อเสียงของเฮดาวี่ชื่อเสียงหน่วยนี้ย่อมเพิ่มขึ้น
“องครักษ์แบล็คสตาร์?”เฮดาวี่ลูบคาง”ได้แต่ฉันมีคำขอ ฉันหวังว่านายจะบอกเล่าประสบการณ์บางอย่างในการเลื่อนเป็นผู้อยู่เหนือแก่ฉัน..”
หานเซี่ยวพยักหน้าก่อนส่ายหัว”ผู้อยู่เหนือทุกคนมีวิธีการต่างกันและทุกคนก็มีเส้นทางของตน ฉันไม่สามารถถ่ายทอดประสบการณ์กับนายได้ แต่สิ่งที่ฉันสามารถทำได้คือประลองกับนาย ช่วยให้นายรู้สึกถึงความแตกต่างระหว่างระดับนายกับผู้อยู่เหนือเพื่อมอบแรงบันดาลใจให้นายมากขึ้น”
“นี่…”เฮดาวี่ส่ายหัวอย่างช่วยไม่ได้”นั่นก็ได้”
แม้จะแตกต่างจากที่เขาหวังไปบ้างแต่การได้ประลองกับผู้อยู่เหนือก็ยังเป็นสิ่งที่เขาต้องการ เขาชอบบีบศักยภาพผ่านการต่อสู้เป็นทุนเดิมอยู่แล้ว
คนทั่วไปไม่อาจมอบแรงกดดันให้เขาได้แต่การเผชิญหน้ากับแบล็คสตาร์ทำให้เขานึกถึงความกลัวตอนเขายังเด็ก ความกลัวนี้จะเป็นตัวเร่งให้เติบโต
หานเซี่ยวโบกมือให้ฮีล่าพาเฮดาวี่ไปพบเพื่อนร่วมงานใหม่
ตอนนี้เขามีห้าองครักษ์ซึ่งเฟย์ดิน เฮดาวี่ และฮีล่าแข็งแกร่งุสด ล้วนเป็นภัยพิบัติขั้นสูง อีกสองคือแมเรี่ยนและนักสู้ชื่อเดลูโน่ ทั้งคู่มีความสามารถเฉลี่ย ไม่ถือว่าโดดเด่นในหมู่ภัยพิบัติ แต่มันก็มากพอจะเป็นมินิบอส “
หลังจัดการกับเฮดาวี่หานเซี่ยวก็เรียกซิลเวียมาคุยเรื่องการขยายกองทัพ
เนื่องจากเขาประกาศยอมรับเขาจึงต้องเริ่มเคลื่อนไหว เพิ่มอิทธิพลและสร้างพันธมิตรเพิ่มในทุ่งดาว แผนเขาคือทำให้กองทัพแบล็คสตาร์ไปถึงระดับกองกำลังผู้อยู่เหนืออย่างแท้จริง
แต่ก่อนหน้านั้นยังมีอีกเรื่องที่เขาต้องจัดการ
“ซิลเวียเตรียมกองยานให้ฉัน ฉันกำลังจะออกไป”
“อาจารย์จะไปไหน?”
หานเซี่ยวหยุดน้ำเสียงเขาแปลกๆ
“เกาะมังกร”
…
สื่อนับไม่ถ้วนเปิดบทความเกี่ยวกับหานเซี่ยวที่ยอมรับว่าตัวเองก้าวสู่ระดับผู้อยู่เหนือแล้วช่องข่าว95%ของวงแหวนดาวกระจายถูกยึดด้วยข่าวนี้
แหล่งข่าวอย่างเป็นทางการส่วนใหญ่ยอมรับเรื่องนี้ทำให้มันแน่ชัด เกือบทุกสื่อในวงแหวนดาวกระจายเล่นแต่เรื่องนี้ ด้วยช่องสื่อมากมาย นี่จึงยิ่งใหญ่กว่าข่าวลือปากต่อปากก่อนหน้านี้ ตราบเท่าที่พลเมืองมีอินเทอร์เน็ต ก็ไม่มีใครไม่รู้จักแบล็คสตาร์!
ในทำนองเดียวกันข่าวนี้ยังกระจายไปทุ่งดาวอื่น และองค์กรพวกเขาก็ยังเบี่ยงความสนใจมายังวงแหวนดาวกระจาย!
ฟอรั่มผู้เล่นเกือบระเบิดแม้ชื่อของหานเซี่ยวจะมักครอบงำฟอรั่มบ่อยครั้ง มันก็เพราะการสนทนาของผู้เล่น วันนั้น แม้กระทั่งผู้เล่นจากทุ่งดาวอื่นก็ยังสามารถเห็นช่องข่าวกำลังพูดถึงชื่อแบล็คสตาร์!
พวกคนทุ่งดาวอื่นตกใจที่เวอร์ชั่นสาม ผู้เล่นยังไม่มีการข้ามระหว่างทุ่งดาว ในสายตาพวกเขา แต่ละทุ่งดาวยังเป็นเซิร์ฟแยก ตอนนี้ ตัวละครNPCจากวงแหวนดาวกระจายกลับทำลายกำแพงเพราะชื่อเสียงเขา!
ตั้งแต่เวอร์ชั่นก่อนหานเซี่ยวได้สร้างตำแหน่งตัวละครหลักของเขาในวงแหวนดาวกระจายอย่างต่อเนื่อง ผู้เล่นจากทุ่งดาวอื่นยังรู้จักชื่อเขา ความคิดเห็นระลอกนี้สร้างความสนใจภายในฐานผู้เล่น ไม่ใช่แค่ชื่อแบล็คสตาร์จะคลุมทุกจอในช่องข่าววงแหวนดาวกระจาย ชื่อเขายังอยู่บนช่องข่าวของทุ่งดาวอื่น!
ช่องข่าวเป็นทางการมีกฏและองค์กรใหญ่ต่างๆของวงแหวนดาวกระจายก็ตอบสนองอย่างเหมาะสม
…
อารยธรรมผลึกม่วงมีความสุขมากสุด
พวกเขาเห็นศักยภาพของหานเซี่ยวเมื่อเจ็ดปีก่อนและตัดสินใจเดิมพันกับเขาสุดท้าย แบล็คสตาร์ก็ก้าวสู่อาณาจักรผู้อยู่เหนือและอารยธรรมผลึกม่วงก็มีผู้อยู่เหนือเหมือนเคล็นท์แล้ว ในบรรดาเจ็ดอารยธรรมกลุ่มดาวของวงแหวนดาวกระจาย มีแค่สองที่มีพันธมิตรผู้อยู่เหนือ
การเดิมพันพวกเขาคุ้มค่า!
นอกจากนี้แบล็คสตาร์ยังใช้เวลาแค่ประมาณ20ปีเพื่อมาถึงระดับนี้ ด้วยอายุขัยรวมที่ยังไม่ถึง50 พ่วงด้วยช่วงชีวิตของผู้อยู่เหนือ เขาถือว่าเป็นทารกและนี่ก็บ่งชี้ถึงศักยภาพเขา
วินาทีที่หานเซี่ยวยอมรับผลึกม่วงก็ทุ่มทุนจำนวนมากกับกองทัพแบล็คสตาร์รวมถึงการกำหนดนโยบานด้านทรัพยากร พวกเขามุ่งมั่นที่จะสร้างสัมพันธ์กับหานเซี่ยว
ในเวลาเดียวกันอารยธรรมผลึกม่วงยังประกาศทั่วทุ่งดาวผ่านช่องทางพวกเขา
“ในนามของอารยธรรมเราขอแสดงความยินดีกับแบล็คสตาร์ที่กลายเป็นผู้อยู่เหนือ!”
พฤติกรรมเช่นนี้แสดงทัศนคติของพวกเขาต่อทุ่งดาวและสื่อว่าความสัมพันธ์พวกเขามั่นคงมากฝ่ายนอกที่อยากแบ่งเค้กควรเก็บพลังงานไป
โกโดร่าไม่เต็มใจถูกทิ้งหลังและเซอร์เบียที่ห้าก็ออกมาอธิบายบทบาทของหานเซี่ยวในการพิทักษ์โกโดร่ารวมถึงเน้นย้ำว่าเขาเป็นผู้รับตราเทพกัลทองคำ ท้ายที่สุด เขาเป็นตัวแทนชาวโกโดร่าทั้งหมดในการแสดงความยินดีกับหานเซี่ยวก่อนเผยว่าเขาวางแผนจะเพิ่มเทศกาลเฉลิมฉลองชื่อวันแบล็คสตาร์เพื่อขอบคุณหานเซี่ยวที่ทำเพื่อพวกเขา
หากมันเป็นอารยธรรมอื่นนี่คล้ายกับการเลีย แต่ทว่า โกโดร่านั้นแตกต่าง ความสัมพันธ์พวกเขากับหานเซี่ยวลึกซึ้ง ไม่ว่าจะเป็นการกำจัดดาราทมิฬหรือกำจัดการเลือกปฏิบัติ เทศกาลขอบคุณหานเซี่ยวจึงไม่มีอะไรพิเศษ
ผลึกม่วงและโกโดร่ารีบคว้าจุดยืนและกระโดดขึ้นไปบนเวที อารยธรรมนับร้อยเริ่มแสดงความยินดีกับหานเซี่ยว นี่ราวกับพวกเขาพยายามสร้างกระแส อารยธรรมเหล่านี้เป็นกึ่งพันธมิตรกับกองทัพแบล็คสตาร์และพวกเขาก็ยอมให้กองทัพตั้งฐานบนดาวพวกเขา ตอนนี้ พวกเขาตะเกียกตะกายออกมาพูด ราวกับกลัวว่าคนอื่นจะไม่รู้ว่าพวกเขาเป็นพันธมิตรกับแบล็คสตาร์
พฤติกรรมของอารยธรรมเหล่านี้เป็นที่เข้าใจได้ผลึกม่วงคือนายของกลุ่มดาวนี้ อารยธรรมอื่นกระโดดตามเพื่อรับความสัมพันธ์ดีกับผู้อยู่เหนือ
กลุ่มดาวโคลตันยืนอยู่หลังแบล็คสตาร์ตะโกนและสรรเสริญเขา ทั่วกลุ่มดาวกำลังฉลองให้กับชายคนหนึ่ง!
ชื่อเสียงของแบล็คสตาร์ในกลุ่มดาวน่าตกใจมาก!
แม้กระทั่งผู้อยู่เหนือคนอื่นก็ยังไม่ได้รับการเฉลิมฉลองเช่นนี้!
ตอนนี้ทั่วกลุ่มดาวจำชื่อแบล็คสตาร์ได้ เหมือนกับอีกสี่ เขากลายเป็นสัญลักษณ์ของวงแหวนดาวกระจายในใจทุกคน ผู้อยู่เหนือคนที่ห้า!
แต่ทว่าในช่วงหัวเลี้ยวหัวต่อนี้ เหตุการณ์ไม่คาดคิดก็เริ่มปรากฏ ทำให้ความคิดเห็นสาธารณะพุ่งสู่ระดับที่ไม่เคยมีมาก่อน
เผด็จการฮีเบอร์และเนตรม่วงไซเคอร์ได้ประกาศสงครามกับแบล็คสตาร์!
เหตุผลของฮีเบอร์เพราะสงครามลับเนื่องจากผลึกม่วงมีผู้อยู่เหนือแล้ว เขาจึงต้องลงมือเอง
แต่ทว่าเหตุผลของไซเคอร์กลับทำให้เกิดความโกลาหลครั้งใหญ่
เขายอมรับอย่างเปิดเผยถึงการดำรงอยู่ของลูกบาศก์วิวัฒนาการประกาศว่าแบล็คสตาร์ชิงลูกบาศก์วิวัฒนาการไปจากเขา และขอให้แบล็คสตาร์ส่งมันคืน!
ลูกบาศก์วิวัฒนาการอยู่ในมือแบล็คสตาร์?สองผู้อยู่เหนือกำลังท้าทายผู้อยู่เหนือหน้าใหม่?!
ข่าวสองชิ้นนี้ทำให้เกิดความปั่นป่วน
ทั่วทุ่งดาวตกอยู่ในความโกลาหลครั้งใหญ่!
ผู้อยู่เหนือ..กำลังจะต่อสู้กันอย่างเปิดเผย?!
นี่มันผ่านมานานแค่ไหนแล้ว!
…
ขณะที่องค์กรใหญ่กำลังตกใจกับข่าวหานเซี่ยวก็ขึ้นยานเขาและมาถึงเกาะมังกร
ตอนที่ 770 แยกตัว
กองยานขนาดใหญ่ปรากฏไม่ไกลจากเกาะมังกรโดยมียานของหานเซี่ยวอยู่หน้าสุด
ออโรร่านั่งที่นั่งคนขับส่วนหานเซี่ยวยืนด้านหลังเธอ
เกาะมังกรตอนนี้มีสามเกาะและทีมภาคสนามที่สองก็รับหน้าที่พิทักษ์เกาะมังกรเมื่อมองดูหานเซี่ยวก็อดนึกย้อนไม่ได้
“ฉันไม่ได้กลับมานานเลยและมันก็เปลี่ยนไปมาก เวลาหลายปีผ่านไปไวเหมือนโกหก ฉันยังจำตอนแรกที่มาเกาะมังกรได้..”
ตืดด!
หน้าของวิลน่าปรากฏบนอุปกรณ์สื่อสารและเธอก็กล่าว”ท่านแบล็คสตาร์ท่านจักรพรรดินีมังกรกำลังรอท่านอยู่”
ดูเหมือนเธอจะรู้ว่าฉันมาหาเธอ..หานเซี่ยวพยักหน้า
ทีมภาคสนามที่สองเปิดทางและยอมให้กองยานแบล็คสตาร์เข้าเกาะมังกรไป
“องครักษ์แบล็คสตาร์ตามฉันมาคนอื่นอยู่นี่และรอคำสั่งฉัน”หานเซี่ยวสั่งและนำพวกฮีล่าเข้าไป
บนท่าเจนนี่และคนอื่นมารอเขาแล้ว
“ท่านแบล็คสตาร์”
เจ้าหน้าที่ต่างๆทักทายเขา
แม้จะเคยเป็นเพื่อนร่วมงานกับหานเซี่ยวตอนนี้หานเซี่ยวก็มีสถานะแตกต่างกับพวกเขามาก เขาคือตัวตนที่ยืนอยู่ระดับเดียวกับจักรพรรดินีมังกร
แม้กระทั่งเจนนี่ที่มีความสัมพันธ์แย่ๆกับหานเซี่ยวยังต้องลดหัวด้วยสีหน้าเคารพ
อีซอปก้าวออกมาและกล่าวด้วยสีหน้าซับซ้อน”ฉันรู้ว่าเธอต้องกลับมาสุดท้ายวันนี้ก็มาถึงจริงๆ”
หานเซี่ยวกวาดมองใบหน้าของเพื่อนร่วมงานเขาก่อนมองอีซอปส่ายหัว”ไม่ใช่ว่าคุณเริ่มเตรียมการไว้แล้วงั้นหรือ?”
“ฉันแค่ไม่คิดว่ามันจะกะทันหันแบบนี้..”อีซอปถอนหายใจก่อนนำทาง”ตามฉันมาเอเมสกำลังรอเธออยู่”
หานเซี่ยวตามอีซอปไปและเข้าวังและเห็นเอเมสนั่งบนบัลลังก์ลอยด้วยสีหน้าสงบนิ่ง
“นายมาแล้วแบล็คสตาร์ ฉันกำลังรอนายอยู่เลย”เอเมสกล่าวราวกับเธอคาดเดาการมาของเขาไว้แล้ว
หานเซี่ยวยืนห่างจากเธอไม่กี่เมตรและกลุ่มของอีซอปก็เดินไปอยู่ด้านหลังเอเมสตอนนี้ ดูเหมือนจะมีกำแพงที่มองไม่เห็นแยกระหว่างสองกลุ่ม
ไม่มีใครพูดขึ้นทันทีพวกเขามองหน้ากันเงียบๆ เจ้าหน้าที่แบล็คสตาร์และเกาะมังกรอดกลืนน้ำลายไม่ได้
เจ้าหน้าที่ทั้งสองฝั่งตระหนักถึงเจตนาของหานเซี่ยวและอดรู้สึกกังวลไม่ได้เมื่อเห็นบรรยากาศตึงเครียดพวกเขากลัวว่าสองผู้อยู่เหนือจะเริ่มสู้กันเพราะความไม่ลงรอย
สมาชิกใหม่ขององครักษ์แบล็คสตาร์เฮดาวี่คือข้อยกเว้น เขากำลังสำรวจเอเมสขึ้นลง ดูราวกับอยากทดสอบพลังเธอ
หลังเงียบกว่านาทีเอเมสก็หันไปมองออโรร่าและฮีล่า ผู้อยู่ข้างๆหานเซี่ยวและถาม”พวกเธอสองคนเป็นยังไงบ้าง?”
ออโรร่าไม่กล้าสบตาเอเมสและลดหัวลง
“เราสบายดี”ฮีล่าตอบ
เอเมสแสดงความห่วงใยต่อทั้งสองแต่ไม่สนใจหานเซี่ยวเลยหานเซี่ยวเองก็ไม่ว่าอะไรและมองเงียบๆ
อาจารย์และลูกศิษย์คุยกันสักพักก่อนเอเมสจะเปลี่ยนเรื่อง”พวกเธอสองคนจะยืนข้างเขางั้นหรือ?”
สีหน้าของฮีล่าและออโรร่าเปลี่ยนไปและรู้สึกเหมือนถูกบีบหัวใจ
ก่อนจะรอให้ทั้งสองตอบหานเซี่ยวก็โบกมือให้กับองครักษ์แบล็คสตาร์เขาและกล่าว”ฮีล่า พาคนอื่นออกไปก่อน ขอฉันคุยกับเอเมสตามลำพัง”
อีล่าถอนหายใจโล่งอกเธอไม่กลัวการเผชิญหน้ากับศัตรูที่ทรงพลัง แต่เธอไม่อยากคั่นกลางระหว่างอาจารย์เธอและหานเซี่ยว
เอเมสยอมให้องรักษ์แบล็คสตาร์ออกไปและเมื่อเห็น อีซอปก็จำต้องพาคนฝั่งเขาออกไปด้วย
อีซอปรู้สึกว่ามันปกติมากสำหรับแบล็คสตาร์ที่จะแสวงหาอิสระหากเขาเป็นเอเมส เขาจะไม่หยุดแบล็คสตาร์แต่กลับสนับสนุนแทน แต่ทว่า เอเมสไม่เหมือนเขา นอกจากนี้ แบล็คสตาร์คือลูกน้องที่เธอให้ความสำคัญสุด และอีซอปก็กังวลว่าเอเมสจะทำลายความสัมพันธ์นี้
มีเพียงหานเซี่ยวและเอเมสที่หลงเหลือในโถงหลักเอเมสควบคุมบัลลังก์เธอให้ลอยลงพื้น และก็เดินไปเผชิญหน้ากับหานเซี่ยวด้วยสายตาซับซ้อน
“ตอนฉันเห็นนายครั้งแรกฉันไม่คิดเลยว่านายจะมายืนอยู่จุดๆเดียวกับฉันได้”
เมื่อได้ยินฉากตอนเขาเจอกับเอเมสก็ผุดในหัว
เอเมสสูงส่งมากในตอนนั้นสามารถควบคุมชะตาชีวิตเขาได้ง่ายดุจการคิด แต่สิบปีให้หลัง เขากับยืนเผชิญหน้ากับเธอได้อย่างเท่าเทียม
“ทุกอย่างล้วนเป็นไปได้ในโลกนี้”หานเซี่ยวตอบ
เอเมสยิ้ม”ฉันรู้นานมาแล้ว ฉันก็ไม่เคยคิดว่าจะได้กลายเป็นผู้อยู่เหนือเหมือนกัน”
หานเซี่ยวลูบคางและไม่พูดอะไร
หลังหยุดสักพักเอเมสก็ถาม”นายมาทำไม?”
“มีสามเรื่อง”
“สามเรื่อง?”เอเมสเลิกคิ้ว”แล้วเรื่องแรกคืออะไร?”
หานเซี่ยวนำลูกบาศก์วิวัฒนาการออกมา”สมบัตินี้อยู่ในมือฉันฉันเตรียมให้เธอและคนของเกาะมังกรทุกคนได้ใช้มัน”
เอเมสแปลกใจแต่ไม่ตอบกลับทันทีเธอถาม”เรื่องสองละ?”
“ฉันขอออกเกาะมังกรและให้กองทัพแบล็คสตาร์ได้แยกออกจากเกาะมังกร”หานเซี่ยวกล่าวโดยไม่กระอักกระอ่วน
“ฮึ่มนี่อาจเป็นแรงจูงใจหลักของนายสินะ?”
เอเมสพ่นลมหายใจยาวแต่ไม่โกรธเธอเตรียมใจไว้นานแล้ว แต่ก็ยังรู้สึกไม่พอใจตอนหานเซี่ยวกล่าวแบบนี้”ฉันมีเรื่องจะถามนาย”
“อะไรละ?”
“นายคิดที่จะทิ้งฉันตั้งแต่วันแรกที่นายเข้าร่วมกับเกาะมังกรแล้วสินะ?”
สายตาของเอเมสจับจ้องหานเซี่ยวนับตั้งแต่เธอเห็นศูนย์ใหญ่กองทัพแบล็คสตาร์หลายปีก่อน เธอก็รู้ว่าเธอไม่เหมาะจะเป็นผู้นำของหานเซี่ยว เธอแค่อยากได้ยินจากปากเขา
“ใช่”หานเซี่ยวตอบตามตรงตั้งแต่ต้น เขามองเกาะมังกรเป็นบันไดให้เขาเหยียบ ต่อให้คำพูดเขาจะทำให้เอเมสโกรธ เขาก็ไม่คิดโกหก
เอเมสส่ายหัวและความเศร้าก็สามารถเห็นได้ในตาเธอ”ฉันไม่ใช่ผู้นำที่คู่ควรจะให้คนอย่างนายมาติดตาม”
เธอไม่เคยรู้สึกเช่นนี้ตอนพัฒนากองทัพแบล็คสตาร์แต่เมื่อศักดิ์ศรีของกองทัพบดบังเกาะมังกร เธอก็เข้าใจว่าคนอย่างหานเซี่ยวไม่ใช่คนที่เธอจะเก็บไว้ได้
เอเมสไม่ลังเลและไม่คิดพยายามเก็บหานเซี่ยวไว้เธอไม่ได้อ่อนแอและกล่าวด้วยน้ำเสียงแน่วแน่”ได้ ฉันเข้าใจแล้ว ตั้งแต่วันนี้ไป เกาะมังกรก็คือเกาะมังกร และกองทัพแบล็คสตาร์ก็คือกองทัพแบล็คสตาร์ นายจะไม่ได้เป็นลูกน้องฉันอีก”
การแจ้งเตือนผุดขึ้นบนหน้าต่างสถานะเขาเพื่อระบุว่าเขาออกจากกองกำลังเกาะมังกร
หานเซี่ยวสูดหายใจลึก
จากนี้ไปกองทัพแบล็คสตาร์จะไม่อยู่ใต้เกาะมังกรอีก และกลายเป็นองค์กรอิสระ
“แล้วเรื่องสามละ?”เอเมสถามอย่างไร้อารมณ์
“ฉันหวังว่ากองทัพแบล็คสตาร์จะสามารถจับมือกับเกาะมังกรได้”หานเซี่ยวกล่าว”หวังว่าเธอจะสู้เคียงข้างฉันต่อสู้กับฮีเบอร์และไซเคอร์.
เมื่อได้ยินแบบนั้นสีหน้าเอเมสก็แปลกไป เธอได้ยินถึงศึกระหว่างผู้อยู่เหนือมาและสับสนกับการกระทำของหานเซี่ยว
“ในเมื่อนายอยากขอให้ฉันช่วยทำไมถึงเลือกเป็นอิสระ?นายก็รู้ว่าฉันต้องช่วยนายแน่หากนายเลือกยังอยู่ในเกาะมังกร”
หานเซี่ยวยิ้มและกล่า”ฉันรู้นั่นทำให้ฉันมอบโอกาสเลือกให้กับเธอ”
เอเมสตกตะลึงและเข้าใจความหมายของหานเซี่ยว
จากที่เธอเห็นตราบเท่าที่หานเซี่ยวเลือกอยู่ในเกาะมังกร เขาก็สามารถผูกมัดเกาะมังกรไว้กับตัวได้และมั่นใจว่าเธอต้องช่วยเขาจัดการกับศัตรูแน่ แต่ทว่า หานเซี่ยวไม่เลือกใช้ตัวตนเขาในฐานะคนของเกาะมังกรแต่กลับร้องขอความช่วยเหลือหลังออกเกาะมังกร
นี่หมายความว่าหานเซี่ยวไม่อยากใช้ประโยชน์จากเธอหากไม่ เขาสามารถเลือกหยิบยืมพลังของเกาะมังกรเพื่อจัดการกับฮีเบอร์และไวเคอร์ได้ก่อนขอแยกตัว มันคล้ายกับการใช้ประโยชน์เธอก่อนทิ้งเธอ
ในความเป็นจริงเอเมสยังพิจารณาความเป็นไปได้เช่นนั้นก่อนการพบปะนี้ แม้กระทั่งตัวเธอก็ไม่รู้ว่าเธอจะปฏิเสธหานเซี่ยวไหมหากเขาเลือกเดินทางเช่นนั้น
“ไม่กลัวว่าฉันจะปฏิเสธนายงั้นหรอ?”เอเมสระงับความแปลกใจและพูด”ชีวิตนายจะตกอยู่ในอันตรายหากต้องสู้กับทั้งสองลำพัง”
หานเซี่ยวยิ้ม”ฉันเชื่อว่าเธอจะไม่ปฏิเสธฉัน”
สีหน้าเอเมสดำมืดและกล่าวเสียงเย็น”นายไม่ใช่ลูกน้องฉันอีก และฉันจะไม่ยอมรับการเป็นพันธมิตรกับนาย นายคิดจริงๆว่าฉันสนใจนายมาก หรือคิดว่าไพ่ในมือนายจะทำให้ฉันไม่ปฏิเสธ?นายอยากใช้ลูกบาศก์มาต่อรอง?”
“สัญญาฉันไม่ได้ขึ้นอยู่กับว่าเธอจะจับมือกับฉันไหม”หานเซี่ยวส่ายหัว”นั่นเป็นสิ่งที่ฉันคิดให้ก่อนออกเกาะมังกรฉันมอบประโยชน์ให้กับเธอในฐานะคนของเกาะมังกรและไม่คิดใช้มันเพื่อเป็นชิปเจรจาต่อรอง มันถือเป็นค่าตอบแทนที่เกาะมังกรคอยดูแลฉัน”
เอเมสมีสายตาแปลกๆและสำรวจหานเซี่ยว”นายไม่ใช่คนแบบนี้ในความคิดฉัน”
จากที่เธอเห็นลำดับคำขอของหานเซี่ยวผิดไปหมด เขาเลือกออกเกาะมังกรก่อนขอความช่วยเหลือและไม่อยากใช้ลูกบาศก์วิวัฒนาการมาเป็นชิปต่อรอง
นี่คล้ายกับการยอมเสียข้อได้เปรียบและทิ้งการตัดสินใจในมือเธอ
“ทำไม?”เอเมสถามการกระทำของหานเซี่ยวทำให้เธอประทับใจในตัวเขา
หานเซี่ยวยิ้ม”ฉันแค่รู้สึกว่าไม่ต้องมีแผนการอะไรระหว่างเรา.
สีหน้าเอเมสแข็งค้างและลมหายใจก็หยุดไปชั่วขณะ
จากนั้นเธอก็มองหานเซี่ยวอย่างลึกซึ้งและถอยไปสองก้าว”ฉันไม่รู้ว่าคำพูดนายออกจากใจจริงหรือเปล่าแต่อย่างน้อยฉันก็มองเห็นความจริงใจได้บ้าง”
ปากหานเซี่ยวขดเล็กน้อย”ดูเหมือนเราจะตกลงกันได้แล้วนะ”
“ฉันยอมรับการเป็นพันธมิตรกับนาย”ดวงตาเอเมสทอประกาย”นอกจากนี้ฉันก็อยากสู้กับฮีเบอร์มานานแล้ว แม้นายจะเป็นผู้อยู่เหนือ นายก็ต้องไม่ถ่วงฉันละ”
“ฮ่าๆๆเธอยังเป็นเอเมสที่ฉันรู้จัก!”หานเซี่ยวยื่นมือออกไป”พันธมิตร ช่วยดูแลฉันในอนาคตด้วยละ”
เอเมสมองมือหานเซี่ยวศกและแค่นเสียง
“ฮึมนายเคยเรียกฉันว่าท่านจักรพรรดินีมังกร แต่ตอนนี้กลับเรียนฉันเป็นพันธมิตร”
หลังพูดแบบนั้นเธอก็ยื่นมือออกไปจับ
ทั้งคู่จับมือกัน
พันธมิตรถูกสร้างขึ้นณ วินาทีนี้
หลังจับมือพวกเขาก็ปล่อยมือ และหานเซี่ยวก็มีสีหน้าแปลกๆ
เมื่อพวกเขาจับมือกันเอเมสได้บีบมือแรง แต่การป้องกันหานเซี่ยวก็สูงมากและเขาก็ไม่ได้รู้สึกเจ็บนัก
หานเซี่ยวส่ายหัวและมองประตูวัง”ยังแอบฟังอีก?ออกมากันได้แล้ว”
ฮีล่าอีซอปและคนอื่นเดินออกมาจากหลังประตูด้วยสีหน้าเขินอาย
พวกเขากังวลว่าเอเมสและหานเซี่ยวจะตกลงกันไม่ได้และคอยแอบฟังไม่ไกลในความเป็นจริง การกระทำทั้งหมดของพวกเขาไม่อาจรอดพ้นสัมผัสของผู้อยู่เหนือได้เลย แค่ว่าทั้งสองนั้นไม่สนใจ
เมื่อเห็นทั้งสองตกลงกันได้บรรยากาศก็ผ่อนคลาย
แม้กองทัพแบล็คสตาร์จะออกจากเกาะมังกรทั้งสองฝ่ายก็จับมือกันและก็ยังเป็นพันธมิตร กำแพงระหว่างสองฝ่ายหายไป โดยเฉพาะคนของสองฝ่ายที่มีความสัมพันธ์ดีกันตั้งแต่แรก
อีซอปโล่งใจมากที่เอเมสไม่หลุดการควบคุมและผลลัพธ์ก็ดีกว่าที่เขาคิด สำหรับองค์กรผู้อยู่เหนือสองแห่งที่จับมือกัน พวกเขาย่อมเป็นใหญ่ในวงแหวนดาวกระจาย
การทำนายของฉันไม่ผิดเอเมสจะดีขึ้นหากมีแบล็คสตาร์ข้างๆ อีซอปคิดกับตัวเอง ย้อนกลับไป เขารู้สึกว่าแบล็คสตาร์จะกลายเป็นมือขวาของจักรพรรดินีมังกรเพื่อสนับสนุนเธอให้ก้าวอีกระดับ แม้การเดาเขาจะไม่ผิด เขาก็มีรายละเอียดผิดไปบ้าง แบล็คสตาร์ไม่ใช่มือขวา แต่เป็นคนที่เทียบเคียง
“เอาละในเมื่อเต็มใจร่วมมือกับฉันแล้ว เราก็จะตัดสินว่าเราควรจัดการกับฮีเบอร์และไซเคอร์ยังไง”
“นายเตรียมจะทำอะไร?”เอเมสถามด้วยความตื่นเต้น
“มันก็ผ่านมาสักพักแล้วที่พวกเขาท้าทายฉันแต่ฉันยังไม่ตอบกลับ มันถึงเวลาที่ฉันต้องตอบกลับบ้าง ในเมื่ออยากสร้างปัญหา เราก็ควรทำให้น้ำขุ่น ฉันจะตอบกลับพร้อมเธอและสั่นคลอนวงแหวนดาวกระจายให้มากยิ่งขึ้น”
เขาสามารถใช้โอกาสนี้เพื่อประกาศการแยกตัวของกองทัพแบล็คสตาร์และการจับมือกับเกาะมังกรได้
หานเซี่ยวมั่นใจว่าสิ่งนี้ต้องเพิ่มอิทธิพลเขาไปอีกระดับ!
“ฉันคิดว่านายจะขอให้ฉันเก็บเรื่องนี้เป็นความลับซะอีก”เอเมสตอบ
“เราไม่อาจปิดบังได้และก็ไม่จำเป็น ในเมื่อพวกเขาท้าทายเราอย่างเปิดเผย เราก็จำต้องตอบกลับแบบเปิดเผย”หานเซี่ยวกล่าว”ในเมื่อพวกเขาอยากให้มันกระจาย เราก็ควรทำแบบนั้น!”
เอเมสดูสนใจ.”มันฟังดูน่าสนุกดีนะ”
เมื่อเฮดาวี่และคนอื่นได้ยินพวกเขาก็ตื่นเต้นจนขนลุก วงแหวนดาวกระจายมีห้าผู้อยุ่เหนือ และทั้งสี่ก็เกี่ยวในการต่อสู้นี้หมด มีเพียงเมกัสที่ไม่ยุ่งและอาจมาดูเพื่อความสนุก หากเป็นแบบนั้น การต่อสู้นี้ก็จะเกี่ยวกับผู้อยู่เหนือทุกคนในวงแหวนดาวกระจาย!
นี่คือเหตุการณ์ในรอบร้อยปีและมันต้องถูกบันทึกลงประวัติศาสตร์แน่
แค่คิดภาพห้าผู้อยู่เหนือปรากฏพร้อมกันก็ทำให้เฮดาวี่เลือดเดือดพล่านแล้ว
ตอนนี้หานเซี่ยวพลันกล่าว”ก่อนหน้านี้ ฉันต้องทำตามสัญญาก่อน”
หลังพูดแบบนั้นเขาก็นำลูกบาศก์วิวัฒนาการออกมา
“ฉันต้องเตรียมอะไรไหม?”เอเมสถาม
“ไม่ต้อง”
“เอาละ”เอเมสพยักหน้า
แม้จะไม่ขวนขวายพลังเธอก็ยังอยากรู้เกี่ยวกับลูกบาศก์วิวัฒนาการ
เมื่อเปิดลูกบาศก์คลื่นอนุภาคสีดำก็ล้อมเอเมส และการวิวัฒนาการยีนก็เริ่ม
หานเซี่ยวมองเจ้าหน้าที่คนอื่นของเกาะมังกรและหลังพยักหน้าให้พวกเขาเขาก็ควบคุมพลังงานสีดำคลื่นใหม่
มีเพียงอีซอปที่โบกมือ
“ตาเฒ่าไม่อยากใช้มันงั้นหรอ?”หานเซี่ยวถามอย่างสงสัย
“ไม่ต้องห่วง.”อีซอปโบกมือ”ฉันเคยใช้มันหลายร้อยปีก่อนแล้วตอนของยังอยู่ในเศษซากหากไม่ใช่ว่ามันใหญ่ไปและฉันขี้เกียจจะหาคนมาย้ายมัน มันคงเป็นของฉันไปแล้ว”
หานเซี่ยวพูดไม่ออก
…
การวิวัฒนาการยีนดำเนินไปสักพักและเจ้าหน้าที่เกาะมังกรทั้งหมดก็ผ่านการวิวัฒนาการพลังพวกเขาเพิ่มขึ้นมากและมีสีหน้ายินดี มีเพียงเอเมสที่ยังล้อมด้วยอนุภาคดำ
หลังผ่านไปหลายชั่วโมงเอเมสก็ออกมาจากรังไหมและประสบกับการเปลี่ยนแปลงครั้งใหญ่
ทั้งหมดไปพักและหานเซี่ยวก็คือคนเดียวที่อยู่ในโถงเขานั่งบนบัลลังก์ของเอเมสและนั่งดูฟอรั่มเล่น เมื่อเห็นเอเมสเดินออกมา เขาก็เดินไปหาเอเมส
“รู้สึกยังไงบ้าง?”
เอเมสไม่ตอบและคิ้วก็ขมวดราวกับพยายามรับรู้บางอย่าง จากนั้นร่างเธอก็หายไป
หานเซี่ยวตกตะลึงสักพักและขยายสัมผัสเขาเพื่อรับรู้ถึงความผันผวนของช่องว่างรอบๆ
ด้วยระดับเขานอกจากสัมผัสทั้งห้า เขาสามาถรตรวจพบสิ่งอื่นเช่นรังสี คลื่นพลังงานและอื่นๆ
หลังขยายสัมผัสหานเซี่ยวก็ต้องตกตะลึง
เขาสามารถเห็นเอเมสกำลังวิ่งวนรอบเขาในมิติ
“เธอเข้ามิติได้?”หานเซี่ยวถามอย่างตกใจและเข้าไปในมิติเช่นกัน
“ดูเหมือนนี่จะเป็นความสามารถใหม่ฉัน”เอเมสกล่าวอย่างตื่นเต้น
เกาะมังกรสร้างขึ้นบนกระดูกของมังกรมิติและเอเมสก็กินไขกระดูกมังกรมาก่อนดังนั้น เธอจึงมีร่องรอยยีนมิติในตัว ซึ่งกระตุ้นโดยลูกบาศก์วิวัฒนาการ
แม้พวกเขาจะไม่ได้มาจากเผ่าผู้อยู่เหนือแต่ก็เป็นยีนมิติ และส่วนหนึ่งก็คล้ายกัน
หลังเล่นสักพักเอเมสก็ออกมิติและเริ่มทดสอบพลังใหม่เธอ
“ผลของลูกบาศก์น่าทึ่งจริงๆพลัง ระยะและการควบคุมสนามพลังฉันเพิ่มและร่างกายดูเหมือนจะดีขึ้น”
นั่นเพราะสถานะเธอเพิ่มขึ้น..
หานเซี่ยวมีประสบการณ์มาก่อนเอเมสไม่มีหน้าต่างสถานะและไม่อาจเห็นการเปลี่ยนแปลงในตัวได้