The Legendary Mechanic - ตอนที่ 775-776
ตอนที่ 775 เริ่มการต่อสู้!
ทุกคนในยานอวกาศทุกลำหยุดคุยและสายตาก็จับจ้องประตูเคลื่อนย้ายกลางสนามรบ
ประตูเคลื่อนย้ายเหมือนรูหนอนขยายใหญ่ไม่หยุดยานอวกาศขนาดใหญ่สุดคือป้อมปราการดาวเทียมของกองทัพแบล็คสตาร์ แต่ขนาดของประตูเคลื่อนย้ายนับว่าเกินกว่าป้อมปราการดาวเทียมติดอาวุธซะอีก เรดาห์ของยานทุกลำเริ่มส่งเสียงเมื่อตรวจพบกระแสพลังงานขนาดใหญ่
วินาทีถัดมาปราสาทอันงดงามที่ปกคลุมด้วยม่านเวทย์หลากสีก็ลอยออกจากประตู สลักซับซ้อนบนม่านทรงกลมดูเหมือนเครื่องประดับงดงาม และก็กระพริบแสงราวกับกำลังหายใจ
สมบัติของวิหารชุดแดงวังคาถาลับ!
“ออสตินมาแล้ว!”
“เขานำฐานทั้งฐานมาด้วยจะโอ้อวดเกินไปแล้ว!”
“เขามาที่นี่ในฐานะผู้ชมหรือเพื่อช่วยใครสักคน?”
แม้ผู้อยู่เหนือคนแรกที่มาถึงจะไม่ได้ร่วมต่อสู้ผู้ชมก็ยังตื่นเต้น เนื่องจากออสตินเผยตัว นี่หมายความว่าผู้อยู่เหนือทั้งห้าของวงแหวนดาวกระจายจะมากันครบ!
“เขามาที่นี่เพื่อร่วมสนุก?”ราล์ฟตกใจและกลัวว่าออสตินจะทำให้แผนการเขาพังพินาศ
ผู้บัญชาการของแดนหลั่งเลือดจอร์ดยังรู้สึกประหม่าเหมือนกัน
“ฉันสงสัยว่าออสตินเป็นมิตรหรือศัตรู..”จอร์ดกลืนน้ำลายไซเคอร์คือคนที่ติดต่อกับออสติลเป็นการส่วนตัว และดันั้น จอร์ดจึงไม่ชัดเจนถึงเจตนาของออสติน
วังคาถาลับโผล่ออกมาอย่างรวดเร็วและประตูก็หดเล็กลงก่อนหายไปในชั่วพริบตาฐานหลักของออสตินคือเจดีย์มหาเวทย์ เป็นสมบัติจักรวาล และเขาก็สลักวงเวย์เคลื่อนย้ายจำนวนมากไว้บนเจดีย์เพื่อให้มันเดินทางไกลได้
จอมเวทย์จำนวนมากที่อาศัยในวังคาถาลับเดินออกมาและรวมกันบนหนึ่งในระเบียงขณะถือขนมคบเคี้ยวไว้ในมือรอชมการแสดง จากนั้นออสตินก็ปรากฏบนยอดวังด้วยหน่วยจอมเวทย์ต้องห้ามและควบคุมวังคาถาลับให้หาจุดเหมาะๆ
“จิ๊ทำไมฉันมาถึงคนแรก?เด็กๆสมัยนี้นี่ไม่ตรงเวลาเอาเสียเลย”ออสตินบ่น
เขาปฏิเสธคำขอของทั้งสองฝ่ายเพื่อจับมือและมาเพื่อดูเพื่อให้แน่ใจว่าจะชมดูได้สะดวกตา เขาจึงย้ายบ้านทั้งหลังมา
เพียงเมื่อผู้ชมกำลังคุยถึงเจตนาของออสตินความปั่นป่วนก็เกิดขึ้นอีกครั้ง
กองยานขนาดมหึมาเข้าใกล้สนามรบและผู้ชมทั้งหมดที่เห็นสัญลักษณ์บนกองยานก็อดแหวกทางด้วยความตกใจไม่ได้
สัญลักษณ์ภายนอกตัวยานเป็นสิ่งที่ทุกคนสามารถจดจำได้มันคือสัญลักษณ์ของอารยธรรมจักรวาล ศาสนจักรอาร์เคน!
ศาสนจักรอาร์เคนปรากฏตัวเช่นกัน!
นี่คือส่วนน้อยของกองยานที่ศาสนจักรอาร์เคนประจำการในวงแหวนดาวกระจายยานรบดังกล่าวเป็นรุ่นพิเศษของศาสนจักร ซึ่งมีรูปร่างคล้ายแผ่นดิสก์บางโดยมีตัวยานเป็นสีดำและม่วงเข้ม รูว่างขนาดใหญ่สามรูสามารถเห็นได้บนตัวยานด้วยบอลพลังงานสีแดงเข้มที่ลอยอยู่ใจกลางรู มันทำหน้าที่เป็นทั้งเตาพลังงานและอาวุธทำลายล้าง
ยานหลักคือโมเดลผีเสื้อที่มีลูกบอลอยู่ตรงกลางและมีปีกผีเสื้อนับร้อยเชื่อมต่อกันสองฝั่งปีกเหล่านี้อยู่ในรูปแบบปิดและดูเหมือนปีกคู่เดียว แม้ยานจะทำจากเหล็ก มันก็ทำจากโลหะผสมพิเศษและมีเนื้อสัมผัสนุ่มเนียน เมื่อยานหลักเข้าสู่สนามรบ ปีกผีเสื้อทั้งหมดก็เปิดกางและเลื่อนไปตามผิวของบอลที่อยู่ตรงกลางเพื่อสร้างรูปทรงคล้ายดวงอาทิตย์
กองยานศาสนจักรอาร์เคนเข้าสู่สนามรบโดยไม่มีอุปสรรคและยานอวกาศก็บินออกจากภายในกองยาน เมื่อประตูยานเปิด ไซเคอร์ก็บินออกมา เขาคือผู้อยู่เหนือคนที่สองที่มาถึง
ร่างเขาลอยอยู่ตรงหน้ากองยานศาสนจักรและสายตาก็จับจ้องกองยานผลึกม่วงและเซ็คชั่นซีโร่ที่อยู่ไกลออกมา แม้จะเป็นมดตัวเล็กๆเมื่อเทียบกับกองยานขนาดใหญ่ แต่ความสนใจของทุกคนก็รวมที่เขา
ทุกคนสูดหายใจลึก
“ไซเคอร์มาถึงแล้ว!”
“ศาสนจักรอาร์เคนส่งกองยานมากับเขาจริงๆนี่คือทัศนคติของอารยธรรมจักรวาล?”
มันไม่ใช่ความลับที่ศาสนจักรอยู่หลังเผ่าเนตรม่วงแต่อารยธรรมจักรวาลไม่แสดงท่าทางเป็นทางการต่อเรื่องนี้เลย สำหรับพวกเขาที่ปรากฏตัวตอนนี้ มันหมายความว่าพวกเขากำลังแทรกแซงในการต่อสู้ นี่คือสิ่งที่ทั้งหมดไม่คาดคิด
ไม่ว่าจะเป็นผู้ชมหรือผู้ดูถ่ายทอดสดทุกคนล้วนตกใจ
พวกเขาเดิมคิดว่าการต่อสู้นี้แค่ความขัดแย้งระหว่างผู้อยู่เหนือแต่ทว่า การปรากฏของอารยธรรมจักรวาลหมายความว่าสถานการณ์กลายเป็นซับซ้อนยิ่งขึ้น
“ชักไม่ดีแล้วศาสนจักรอาร์เคนมาที่นี่เพื่อช่วยไซเคอร์!”ราล์ฟรู้สึกกดดันมาก
กองยานที่ส่งมาโดยศาสนจักรทรงพลังมากและเทียบได้กับกองยานของทั้งผลึกม่วงและเซ็คชั่นซีโร่นอกจากนี้ ผลึกม่วงและเซ็คชั่นซีโร่จะกล้าสู้กับอารยธรรมจักรวาลได้ยังไง?
อีกด้านจอร์ดกลายเป็นระวัง
เพราะเผ่าเนตรม่วงอยู่ห่างไกลจากสนามรบและไม่อาจส่งกองยานมาได้ทุกคนจึงคิดว่าไซเคอร์มาลำพัง แต่ทว่า การปรากฏของศาสนจักรก็หมายความว่าไวเคอร์คือคนที่มีผู้สนับสนุนทรงพลังสุดแล้ว ตำแหน่งพิเศษของอารยธรรมจักรวาลทำให้ทุกองค์กรสั่นกลัว
แต่ทว่าก่อนที่ทุกคนจะสามารถเปลี่ยนสายตา อีกกองยานก็มาถึง
เมื่อเห็นกองยานนั้นทุกคนก็ตะลึงงัน!
จักรวรรดิคริมสัน!
อีกหนึ่งอารยธรรมจักรวาล?!
ทักษะเทคโนโลยีของจักรวรรดิคริมสันเห็นได้ชัดว่าแตกต่างจากศาสนจักรยานอวกาศของศาสนจักรเป็นรูปทรงเวทย์ลึกลับ ส่วนยานของจักรวรรดิเป็นรูปแบบอุตสาหกรรมหนัก ยานอวกาศมีเหล็กแข็งสวยงามและให้กลิ่นอายเผด็จการ
จักรวรรดิคริมสันบีบเข้าสนามรบและหยุดข้างเคล็นท์หันหน้าเข้าหากองยานผลึกม่วงด้วย ดูเหมือนมาเพื่อสนับสนุนฮีเบอร์
สิบวันก่อนโซเอลยอมรับคำขอของเคล็นท์เพื่อส่งกองยานมาสนับสนุนฮีเบอร์ เมื่อเห็นพวกเขามา จอร์ดก็ผ่อนคลายและมองกองทพัแบล็คสตาร์ด้วยความเหยียดหยัน
เห็นพี่ใหญ่เราไหม?แกมีอะไรบ้าง?”
เรามีสองทางฝั่งเรา!
บนยานหลักเกรดเพชรดาวใบหน้าของราล์ฟขาวซีด และรู้สึกหมดแรงยืน
เขาไม่เคยคิดว่าเรื่องราวจะกลายเป็นเช่นนี้สถานการณ์ไม่ใช่แค่เลวร้าย แต่ยังสิ้นหวัง!
หากทั้งสองฝ่ายขัดแย้งกันทีหลังพวกเขาอาจไม่สามารถรับมือกับสองอารยธรรมจักรวาลได้พร้อมกัน
ตอนนี้ผู้ชมทั้งหมดพลันได้สติ
“ทั้งจักรวรรดิคริมสันและศาสนจักรอาร์เคนมาถึงแล้ว!”
“สองอารยธรรมจักรวาลกำลังยืนหยัดต่อต้านแบล็คสตาร์?!”
“แบล็คสตาร์มีแค่ผลึกม่วงหนุนหลังและสถานการณ์ก็ดูน่าสงสารมาก…”
“ผู้อยู่เหนือคนใหม่ต้องเจอกับสถานการณ์เช่นนี้?ฉันคิดว่าโชคเขาคงไม่เหลือเลย”
ในสายตาผู้ชมสองอารยธรรมจักรวาลกำลังต่อต้านแบล็คสตาร์ พันธมิตรของฮีเบอร์และไซเคอร์ทรงพลังเกินไป และแบล็คสตาร์ก็เป็นฝ่ายแพ้แน่
เมื่อนึกถึงสถานการณ์ของแบล็คสตาร์เหงื่อเย็นก็ไหลลงจากหลังผู้ชม ในเวลาเดียวกัน การเดิมพันทางฝั่งของฮีเบอร์ก็เพิ่มขึ้นอย่างบ้าคลั่ง นักพนันหลายคนวางแผนหยุดรับการเดิมพันหลังการมาของแบล็คสตาร์และฮีเบอร์ แต่ก็จำต้องหยุดกระทันหัน
ผู้เล่นทุกคนในค่ายแบล็คสตาร์อดกังวลไม่ได้นี่เป็นครั้งแรกที่พวกเขาได้เห็นตัวละครสูงสุดของจักรวาล แต่ทั้งหมดกลับเป็นศัตรุของพวกเขาหมด
“ดูเหมือนผู้บัญชาการกองทัพเรากำลังลำบาก..”จันทราเมเปิ้ลกำหมัดแน่น
ดาบคลั่งเองก็อดกำหมัดด้วยไม่ได้
แม้กองทัพแบล็คสตาร์จะเป็นค่ายหลักในหัวใจของผู้เล่นการล้างสมองของสามเวอร์ชั่นก็ทำให้ทุกคนเชื่อว่าอารยธรรมจักรวาลที่ดำรงอยู่มานานคือผู้ปกครองที่แท้จริงของจักรวาล เดิมที มีผู้เล่นมากมายที่มองโลกในแง่ดีเกี่ยวกับการต่อสู้ แต่สถานการณ์นี้ก็ทำให้ผู้เล่นจำต้องฝืนยิ้มออกมา
หลายคนอดสั่นไม่ได้เวอร์ชั่นถัดไปจะหมุนรอบอารยธรรมจักรวาลแน่ แต่แบล็คสตาร์ได้กลายเป็นศัตรูของอารยธรรมจักรวาล นี่ไม่ใช่สัญญาณที่ดีเลย…
ในทางตรงกันข้ามดอกไม้คืนฤดูร้อนกลับมีความสุขมาก
เหตุผลเบื้องหลังที่เขาเอนเอียงไปทางแดนหลั่งเลือดเพราะแดนหลั่งเลือดให้เส้นทางเข้าร่วมกับอารยธรรมจักรวาลอีกด้านหนึ่ง กองทัพแบล็คสตาร์แค่มีอารยธรรมผลึกม่วง การปรากฏของจักรวรรดิคริมสันก็เหมือนกับการฉีดความมั่นใจ และดอกไม้คืนฤดูร้อนก็เริ่มฟื้นความมั่นใจได้
“เห็นกันไหม?นี่คือสิ่งที่ฉันพร่ำบอก”ดอกไม้คืนฤดูร้อนหน้าบาน”ฉันเน้นย้ำจุดนี้ตั้งแต่ต้นเราไม่อาจตื่นตากับผลประโยชน์ระยะสั้นที่วางอยู่ตรงหน้าเราเหมือนผู้เล่นของกองทัพแบล็คสตาร์ได้ เราควรมองไปในอนาคตและเลือกสิ่งที่ถูกต้องแทน”
ในเวลาเดียวกันเจ้าหน้าที่หลายคนในกองทัพแบล็คสตาร์ก็มีสีหน้าขมขื่น
ลากีถอนหายใจ”ดูเหมือนวันนี้ฉันจะตายที่นี่..”
คนอื่นมักหยอกล้อลากีเรื่องการมองโลกในแง่ร้ายแต่ไม่มีใครตอบกลับในวันนี้
แม้กระทั่งพวกเขาก็อดมองโลกในแง่ร้ายไม่ได้
พวกเขาไม่ลืมว่าผู้บัญชาการกองทัพพวกเขาต้องเผชิญหน้ากับการท้าทายจากสองผู้อยู่เหนือ!
ต่อให้เขาสามารถยับยั้งฮีเบอร์ได้ก็ยังมีไซเคอร์ที่อยากบังคับให้แบล็คสตาร์มอบลูกบาศก์วิวัฒนาการให้ ไม่ว่ายังไง พวกเขารู้สึกว่ามันดีกว่าที่หานเซี่ยวจะยอมแพ้และมอบลูกบาศก์คืน มีสองอารยธรรมจักรวาลหมายตาบนลูกบาศก์วิวัฒนาการและพลังของพวกเขาก็ไม่อาจต่อกรกับอารยธรรมจักรวาลได้
พวกเขาไม่อาจเข้าใจได้อย่างแท้จริงว่าพวกเขาจะเก็บลูกบาศก์ไว้ได้ยังไง
หนึ่งในเจ้าหน้าที่ระดับภัยพิบัติอดพูดไม่ได้”อืมหากเขาเลือกยอม…”
“หุบปาก!”ซิลเวียจ้องเขาอย่างเกลียดชัง”หน้าที่เราคือเชื่อฟังคำสั่งผู้
บัญชาการนายต้องการพูดอะไร?!”
ทุกคนอดมองหน้ากันไม่ได้
“หวังว่าแบล็คสตาร์จะไม่เสียเหตุผลของเขา..”
ตอนนี้ยานอวกาศของแดนหลั่งเลือดบินมาจากระยะไกลและมายังใจกลางสนามรบ ฮีเบอร์มาถึงแล้ว
เขาติดตั้งชุดเกราะหนักและลอยอยู่กลางสนามรบเหมือนภูเขาลูกเล็กเรดาห์ของยานทุกลำเริ่มส่งเสียงหลังตรวจพบพลังงานน่ากลัว
จากนั้นฮีเบอร์ก็หันไปจ้องไซเคอร์เตือนให้ไซเคอร์อย่ามายุ่ง
ไซเคอร์ถอยห่างออกไปด้วยใบหน้าไร้อารมณ์
“ฮีเบอร์มาถึงแล้วเหลือแค่แบล็คสตาร์และจักรพรรดินีมังกร”
“เอ๊ะพวกเขามาแล้ว”
ผู้ชมทั้งหมดหันไปมองเห็นกองยานแบล็คสตาร์กำลังมาถึงพร้อมเกาะมังกร เพราะเกาะมังกรไม่อาจเดินทางได้เร็วนัก หานเซี่ยวและเอเมสจึงมาถึงช้าสุด
ยานอวกาศรอบๆแหวกทางให้เกาะมังกรขนาดใหญ่เข้าสนามรบ
“ทุกคนมาถึงแล้ว!”
ความตื่นเต้นของผู้ชมถึงจุดสูงสุด
เอเมสลอยไปในอากาศและหานเซี่ยวก็บินออกจากยานมองฮีเบอร์และไซเคอร์
หานเซี่ยวเติมเต็มช่องว่างของช่างกลและห้าผู้อยู่เหนือของวงแหวนดาวกระจายก็อยู่กันคนละสายผู้ชมอดรู้สึกราวกับพิธีกำลังเริ่มไม่ได้และก็จะได้เป็นพยานในพิธีนี้
หานเซี่ยวหันไปมองเอเมสและทั้งคู่ก็พยักหน้าให้กัน จากนั้นเขาก็เหลือบมองฝูงชน และอดเผยสีหน้าบิดเบี้ยวไม่ได้
“พวกเขาไม่กลัวว่าฉันอาจเผลอฆ่าผู้ชมหน่อยหรอ?”
จากนั้นเขาก็มองวังคาถาลับและส่ายหัวอย่างช่วยไม่ได้ท้ายที่สุดก็หยุดที่ฮีเบอร์
หลังสำรวจฮีเบอร์สักพักหานเซี่ยวก็เชื่อมต่อกับอุปกรณ์ของฮีเบอร์และเสียงเขาก็ดังในเกราะของฮีเบอร์
“ฉันมาแล้วฮีเบอร์น้อย”
“..แกเรียกฉันว่าอะไรนะ?!”ฮีเบอร์ตกตะลึง
“ฉันจะเรียกแกว่ายังไงก็ได้”หานเซี่ยวหัวเราะ
ฮีเบอร์ไม่คิดตอบกลับและกล่าว”แบล็คสตาร์ฉันหวังกับแกไว้สูงตั้งนานแล้ว นี่พิสูจน์ให้เห็นว่าการมองของฉันไม่ผิด มันน่าเสียดายที่แกปฏิเสธคำเชิญฉันและตัดสินใจผิด ฉันให้โอกาสแกไปแล้ว แต่แกไม่รู้คุณค่ามัน”
หานเซี่ยวขดปาก”อย่าพูดเรื่องไร้ประโยชน์แบบนั้นเลยแกอยากใช้ฉันเพื่อสร้างชื่อเสียงแกไม่ใช่หรอ?”
“ถูกต้อง”ฮีเบอร์ไม่ปิดบัง”แกยังมีชีวิตอยู่ได้ทุกวันนี้เพราะแกไม่มีค่าให้ฉันถอนรากและแกก็ไม่ทำให้ฉันผิดหวัง ฉันปล่อยให้แกมีชีวิตจนกระทั่งวันนี้พเอให้ฉันสามารถใช้เลือดเนื้อแกมาย้อมบัลลังก์ฉัน”
ด้วยระดับผู้อยู่เหนือมันจะได้รับชื่อเสียงจากการฆ่าผู้อยู่เหนือคนอื่นเท่านั้น และนี่ก็มักเป็นเป้าหมายของฮีเบอร์ ในสายตาเขา ตราบเท่าที่เขาเพิ่มชื่อเสียงได้ ก็จะมีคนมากความสามารถภายใต้เขามากขึ้น
แต่ทว่าอีกสามผู้อยู่เหนือไม่ได้จัดการง่ายๆ และเขาก็ไม่มีเหตุผลให้ลงมือ แม้กระทั่งเอเมส ผู้ที่ความสามารถถูกเขาข่มเต็มๆก็ยังมีความสามารถเอาตัวรอดสุดซึ้ง ดังนั้น เขาจึงตัดสินใจเลือกหานเซี่ยว
หานเซี่ยวเป็นเป้าหมายที่เขาเลือก
เมื่อได้ยินหานเซี่ยวก็อดส่ายหัวไม่ได้
ในเมื่อแกชอบเลี้ยงหมูมากก็อย่าถูกหมูทับตายละ
ตอนนี้หน้าต่างสถานะของหานเซี่ยวสว่างขึ้น
ท่านได้กระตุ้นภารกิจเกรดS[เผด็จการฮีเบอร์]!
คำแนะนำภารกิจ: ผู้อยู่เหนืออยู่บนจุดสูงสุดของกาแล็กซี่ และฮีเบอร์ก็คือหนึ่งในนั้น ท่านแน่ใจหรือว่าต้องการสู้กับเขา?
ข้อกำหนดภารกิจ: อยู่ให้ได้นานที่สุดภายใต้การโจมตีของฮีเบอร์(ไม่จำกัดวิธีต่อสู้ ท่านสามารถออกจากโหมดต่อสู้ได้ไม่เกิน30นาที ไม่มีข้อจำกัดจำนวนครั้งที่ออกโหมดต่อสู้)
รางวัล: ท่านจะสามารถได้รับรางวัลที่เกี่ยวข้องโดยการปฏิบัติตามเงื่อนไข(จะนับเวลาแค่1%หากออกโหมดต่อสู้)
อยู่ให้ได้10วินาที: ค่าประสบการณ์ร้อยล้าน
อยู่ให้ได้30วินาที: ค่าประสบการณ์230ล้าน
อยู่ให้ได้1นาที: ค่าประสบการณ์450ล้าน
อยู่ให้ได้2นาที: ค่าประสบการณ์700ล้าน
อยู่ให้ได้3นาที: ค่าประสบการณ์9แสน +1แต้มตำนาน
…
อยู่ให้ได้7.5นาที: [บัตรอัญเชิญตัวละครฮีเบอร์] ค่าประสบการณ์3พันล้าน
…
อยู่ให้ได้20นาที: โอกาสสุ่มหนึ่งในความสามารถหรือพรสวรรค์ของฮีเบอร์ ค่าประสบการณ์8500ล้าน +1แต้มตำนาน
“กลับมีภารกิจเช่นนี้ด้วย”ดวงตาหานเซี่ยวเป็นประกาย
ผู้อยู่เหนือคือเจ้านายตัวจริงและเป็นภูเขาที่ไม่มีใครเทียบได้ต่อให้ผู้เล่นมีระดับเท่าเขา พวกเขาก็ไม่อาจเอาชนะผู้อยู่เหนือได้ด้วยพรสวรรค์การปั้น ความแตกต่างเดียวคือจำนวนเวลาที่ใช้ ในชีวิตก่อนหน้า มีผู้เล่นบางคนที่ท้าทายผู้อยู่เหนือและส่วนหนึ่งก็กระตุ้นภารกิจพิเศษแบบนี้ได้ มันให้รางวัลพวกเขาตามระยะเวลาที่อยู่รอดได้
ในชีวิตก่อนหน้าเขามันเป็นเรื่องยากมากสำหรับผู้เล่นส่วนใหญ่ที่จะอยู่ได้ถึงนาที วิธีเดียวคือพวกเขาทำได้คือออกโหมดต่อสู้และหลบหนีด้วยความสามารถพวกเขา เพราะเวลาจะถูกนำไปนับแค่1% นี่หมายความว่าอย่างมากก้จะถูกนำไปนับเป็นภารกิจแค่18วินาที หากผู้เล่นอยากได้รับรางวัลคงอยู่20นาที พวกเขาต้องออกจากโหมดต่อสู้อย่างน้อย60ครั้ง นอกจากนี้ พวกเขาต้องทำให้มั่นใจว่าผู้อยู่เหนือจะไม่ล้มเลิกการไล่ล่าพวกเขาในเวลา30นาที นี่หมายความว่าพวกเขาต้องหลบหนีจากผู้อยู่เหนือเป็นเวลากว่า30ชั่วโมง มันคือภารกิจที่แทบเป็นไปไม่ได้
หานเซี่ยวเคยท้าทายผู้อยู่เหนือมาก่อนและบันทึกที่ดีสุดก็แค่ไม่กี่นาที
แต่ทว่ามันไม่อาจนำมานับกับเขาตอนนี้ได้
ด้วยความทนทานเขา20นาทีแค่การอุ่นเครื่อง!
หานเซี่ยวพ่นลมหายใจยาวและพลังจักรกลสีทองฟ้าก็ระเบิดออกมา
ด้านหลังเขากองทัพจักรกลขนาดมหึมาปรากฏ ก่อตัวเป็นคลื่นสีดำไม่รู้จบ!
จักรพรรดิช่างกล!กองทัพมิติที่สอง!
เมื่อเห็นแบบนั้นฮีเบอร์ก็บิดคอ และร่างเขาก็ระเบิดเป็นบอลไฟ
วินานทีถัดมากองทัพจักรกลก็ต้องต้อนรับมนุษย์ดาวหาง
ตอนที่ 776 ศึกแห่งผู้อยู่เหนือ
ในช่วงสิบวันที่ผ่านมากองทัพจักรกลของหานเซี่ยวก็ได้รับสมาชิกเป็นล้าน กองทัพมหึมายืนต่อหน้าฮีเบอร์ ยิงใส่เขาด้วยอาวุธทุกประเภท
ลำแสงทำลายล้างของอนุภาคไซโอคนิคก่อตัวเป็นแสงฝน
เพลิงนักสู้รอบร่างฮีเบอร์ขยายเป็นบอลแสงสีทองกว้างกว่าพันเมตรก่อตัวเป็นม่านพลังงานป้องกันเขา ร่างขนาดภูเขาย่อมๆทะยานไปข้างหน้า แบกไฟเป็นหางไว้ข้างหลัง และพุ่งไปหาคลื่นเครื่องจักรเหมือนอุกกาบาต
พายุการโจมตีบดขยี้ใส่ม่านพลังของฮีเบอร์ทิ้งกลุ่มระเบิดไว้บนเส้นทางด้านหลังเขา
เมื่อเผชิญหน้ากับการระดมยิงฮีเบอร์ก็พุ่งแหวกขบวนกองทัพจักรกล เจาะการป้องกันของทหารจักรกลทีละชั้น ตรงไปหาหานเซี่ยว
เขาตัดสินใจใช้กำลังเขาจัดการกับจุดอ่อนศัตรูเอาชนะหานเซี่ยวอย่างรวดเร็วในการต่อสู้ระยะประชิด!
“อึดมากตามคาดของนักสู้ระดับผู้อยู่เหนือ..”
หานเซี่ยวมองข้อมูลต่อสู้และเลิกคิ้ว
ระดับสถานะ และพลังชีวิตของฮีเบอร์ล้วนเป็นเครื่องหมายคำถาม หน้าต่างสถานะแสดงว่าความสามารถการปั้นมากมายของฮีเบอร์ถูกกระตุ้น มี[ความต้านทานความเสียหายต่ำ] [ความต้านทานความเสียหายจริง] [ลดความเสียหาย] และความสามารถลดความเสียหายอื่นๆ ความสามารถเหล่านี้และม่านพลังของผู้อยู่เหนือลดพลังโจมตีของหานเซี่ยวอย่างมาก!
ฮีเบอร์ต้านทานความเสียหายจริงรวมถึงความเสียหายใดที่ไม่เกินระดับหนึ่งและมีเพียงส่วนหนึ่งที่เกินถึงถูกคำนวณ หากขีดจำกัดความต้านทานความเสียหายคือ100และความเสียหายดิบคือ110 ฮีเบอร์ก็จะรับแค่10 จากนั้นส่วนที่เหลืออีก10ก็จะถูกลดโดยม่านพลังเขา และที่เหลือก็จะถูกลดอีกครั้งโดยพรสวรรค์ต้านทาน…
ความเสียหายจะนับหลังการหักลดหลายชั้น!
สิ่งที่น่ากลัวสุดคือความสามารถฟื้นฟูของฮีเบอร์นั้นดีเกินไป แม้จะไม่ทรงพลังเท่าหานเซี่ยว มันก็ยังให้ความทนทานแก่เขามาก
นี่คือรถถังผู้อยู่เหนืออย่างแท้จริง!
ดวงตาหานเซี่ยวมุ่งเน้นเขารู้นานแล้วว่านี่จะเป็นการต่อสู้ที่ยากลำบาก
เฮดาวี่มีความต้านทานความเสียหายจริงและความเสียหายต่ำแต่ในฐานะเอสเปอร์ การโจมตีเขาจึงไม่สูงมาก เทียบกันแล้ว ฮีเบอร์เก่งทั้งโจมตีและป้องกัน
ดังนั้นหานเซี่ยวจึงไม่คิดสู้กับนักสู้ผู้อยู่เหนือด้วยร่างกายเขา ถึงแม้เขาจะอึด ความแตกต่างในค่าสถานะหลักและรองก็สูงเกินไป การต่อสู้กับฮีเบอร์ในระยะประชิดเท่ากับรนหาที่ตาย
เมื่อเห็นฮีเบอร์กำลังพุ่งตรงมาหาเขาเขาก็รู้ทันทีว่าฮีเบอร์อยากรีบจบศึก
แม้นี่จะเป็นกลยุทธ์ที่ถูกต้องสำหรับนักสู้ที่ใช้เพื่อต่อกรกับช่างกลนี่ยังหมายความว่าฮีเบอร์มั่นใจมากในการโจมตีเขาและเห็นได้ชัดว่าไม่สนใจฉายากายอมตะของเขาเลย
“คิดว่ามันจะง่ายแบบนั้น?”หานเซี่ยวแค่นเสียงเขาโยนคำสาปโชคใส่ฮีเบอร์ ไม่ว่ามันจะได้ผลไหม เขาก็ควรใช้ก่อน
กลยุทธ์ที่ต่างกันต้องใช้กับฝ่ายตรงข้ามที่ต่างกันหานเซี่ยวเปลีย่นกลยุทธ์เขาเป็นการวิ่งรอบๆด้วยความเร็วเขาและล้อมฮีเบอร์ด้วยกองทัพเขา
กองทัพจักรกลทรงพลังมากขึ้นหลังได้รับโบนัสผู้อยู่เหนือด้วยโบนัสที่เขามอบให้ แค่ทหารจักรกลทั่วไปไม่กี่พันก็สามารถสู้กับภัยพิบัติทั่วไปได้แล้ว นอกจากนี้ เขายังมีการสร้างเครื่องจักรขั้นสูง ดังนั้นเขาจึงไม่กลัวการต่อสู้ยืดยาว
สำคัญสุดทหารจักรกลส่วนใหญ่ของเขาสามารถเจาะการป้องกันของฮีเบอร์ได้ แม้ความเสียหายที่ทำจะลดลงมาก แต่ด้วยขนาดของกองทัพ พวกเขาจึงสามารถทำความเสียหายได้ค่อนข้างมาก นี่คือพลังของรูปแบบกองทัพ
หานเซี่ยวรู้ดีว่าไม่มีทางลัดในการต่อสู้กับคนอย่างฮีเบอร์สิ่งเดียวที่เขาสามารถทำได้คือลดพลังชีวิตไปเรื่อยๆ
พลังงานของชุดจักรกลไหลไปในตัวขับหานเซี่ยวเปลี่ยนเป็นลำแสงและแหวกผ่านสนามรบ สนามรบกว้างมีพื้นที่ให้เขามากพอ
เปลวไฟพลังงานปะทุขึ้นทุกการเคลื่อนไหวของฮีเบอร์เหมือนดาวฤกษ์ระเบิด ทหารจักรกลจำนวนมากแตกกระจาย แต่ทว่า พวกมันก็รีบก่อตัวกันใหม่ภายใต้พลังจักรกลของหานเซี่ยว และคอยขัดขวางฮีเบอร์
ในฐานะผู้อยู่เหนือหานเซี่ยวมีอุปกรณ์ทุกประเภทที่มอบความคล่องตัวให้เขา ความเร็วเขาสูงกว่า แม้ฮีเบอร์จะไม่ช้า แต่ก็ยังด้อยกว่าเขา ดังนั้นเขาจึงเข้าประชิดไม่ได้เลย
ไม่มีผู้อยู่เหนือสายช่างกลในวงแหวนดาวกระจายมาหลายปีดังนั้นฮีเบอร์จึงไม่มีประสบการณ์ในการต่อสู้กับช่างกลระดับเดียวกันมากนัก แต่เขารู้ว่าแหล่งพลังของช่างกลมาจากความรู้และเวลา
มันยังไม่ถึงสองเดือนตั้งแต่แบล็คสตาร์กลายเป็นผู้อยู่เหนือดังนั้นเขาจึงมีเวลาเรียนความรู้จำกัดมากและไม่มีโอกาสขยายกองทัพ นี่คือเวลาที่เขาจะจัดการแบล็คสตาร์ได้ง่ายสุด
ดังนั้นสิ่งที่ฮีเบอร์ต้องการคือการครอบงำอยู่ฝ่ายเดียว ไม่ใช่การต่อสู้ยืดเยื้อ
ฉันต้องใช้พลังงานเพิ่ม…ฮีเบอร์สูดหายใจลึกไม่มีอากาศแต่พลังงานมืดมีอยู่ทุกที่ในจักรวาล ทุกๆเซลล์ของเขาดูดซับพลังงานมืดเหมือ นหลุมไร้ก้นบึ้งและแยกเปิดอย่างรวดเร็ว
วินาทีต่อมาร่างขนาดขุนเขาก็ขยาย ทำลายเกราะตัวเองและเปลี่ยนเป็นยักษ์สูงหลายสิบเมตร เขาเข้าสู่ขั้นสองทันที
เขาคือสายพันธ์ผู้อยู่เหนือนอกจากนี้ นักสู้ผุ้อยู่เหนือล้วนมีลักษณะพิเศษ ตัวผนึกยีนพวกเขาถูกลบ
กล่าวอีกนัยหนึ่งพลังร่างกายเขาในทางทฤษฏีนั้นไร้ขีดจำกัด!
ฮีเบอร์กางฝ่ามือเล็งหานเซี่ยวและส่ายหัว
“แกมีพรสวรรค์หากแกมีเวลาพอ แกอาจเป็นคนอย่างแมนิสันได้ในอนาคต น่าเสียดาย.”
วินาทีถัดมาวิสัยทัศน์ของทุกคนก็เต็มไปด้วยแสงสีขาว
แสงสว่างพ่นจากฝ่ามือของฮีเบอร์คลื่นพลังนี้เร็วมากและมันไม่ใช่แค่ถูกยิง แต่สามารถควบคุมจากระยะไกลได้โดยฮีเบอร์
หานเซี่ยวหลบอยู่หลายสิบครั้งแต่ก็ยังถูกลำแสงกระแทกร่างเขาถูกชะโลมไปด้วยเปลวไฟนักสู้สีแดงทอง
แต่ทว่าคลื่นพลังนี้ไม่ระเบิดอย่างที่คิด แต่กลับกลายเป็นพลังงานแข็งเหมือนหนวดยาว คว้าจับหานเซี่ยวไว้
กำลังตัดสินระดับพลังงาน…การตัดสินล้มเหลว
ระดับพลังงานท่านต่ำกว่าศัตรู
ท่านเข้าสู่สถานะ[ผนึกพลังงาน]ท่านไม่สามารถใช้พลังงานได้อีก
หานเซี่ยวตกใจไฟนักสู้รอบเขากลายเป็นตัวยับยั้งพลัง ทำให้พลังจักรกลในตัวเขาเงียบและติดในเซลล์ การเชื่อมต่อเขากับกองทัพจักรกลถูกตัด
เขาพยายามทำลายไฟนักสู้แต่ก็เผชิญกับการต่อต้านที่น่ากลัวการเคลื่อนไหวร่างกายเขาช้ามาก มันเกือบราวกับว่าเขาติดอยู่ในลำแสง
“นี่คือ..”
รูม่านตาหานเซี่ยวหดลง
“มานี่!”ฮีเบอร์รีบกระตุกมือเขาลำแสงสีแดงและทองหดและดึงหานเซี่ยวไปทางเขาด้วยความเร็วสูง
พลังงานเป็นส่วนขยายของร่างกายสำหรับนักสู้ในแง่พลังของพลังงาน นักสู้นับว่าเชี่ยวชาญสุดในห้าสาย
สำหรับนักสู้ความสามารถที่เรียกก็แค่เทคนิคต่างกัน มีนักสู้นับล้านล้านรุปแบบในจักรวาลและความสามารถนับไม่ถ้วน
ความสามารถนี้คือการบีบอัดของพลังงานนักสู้สร้างเป็นสนามพลังพิเศษที่เมื่อกระทบเป้าหมาย มันจะระงับพลังงานของเป้าหมายด้วยพลังงานเขา
นี่จะหลีกเลี่ยงได้หากระดับพลังงานของเป้าหมายสูงกว่าหรือเท่ากับฮีเบอร์ฮีเบอร์คือผู้อาวุโสสุดในหมู่ผู้อยู่เหนือ เขารู้จักเทคนิคฝึกฝนพลังงานมากมาย และระดับพลังงานเขาก็ไม่อาจหยั่งรู้ได้
กองทัพจักรกลระดมยิงใส่ฮีเบอร์ภายใต้การควบคุมของปัญญาประดิษฐ์แต่ทว่า โดยปราศจากพลังจักรกลของหานเซี่ยว พวกมันไม่อาจเจาะการป้องกันของฮีเบอร์ได้เลย
สมองของหานเซี่ยวทำงานอย่างรวดเร็ว
ฉันต้องคิดถึงวิธีการง่ายๆเพื่อหลุดออกจากมันฮีเบอร์จะต้องใช้สิ่งนี้อีกครั้งแน่ คูลดาวน์ของไฮเปอร์ไดรฟ์นานไป มันจะได้ผลแค่ครั้งแรก ไม่ใช่สอง…
ทันใดนั้นเขาก็ฉุกคิด เขาเปิดใช้งานพรสวรรค์ที่ไม่ได้ใช้มานาน[พลังโกลาหล-ปลดปล่อย]!
เขาเปลี่ยนเป็นกลุ่มหมอกเทาและกลายเป็นร่างโกลาหลจากนั้นก็ใช้ไฮเปอร์ไดรฟ์มิติ สลัดออกจากลำแสงสีแดงทองก่อนกลับเป็นร่างมนุษย์
พรสวรรค์เผ่ามิติ…ฮีเบอร์เคยอ่านข้อมูลของหานเซี่ยวมาก่อนและไม่แปลกใจ
ข้อมูลแสดงว่าท่องมิติของแบล็คสตาร์ไม่อาจใช้ได้ภายในเวลาหลายนาทีเมื่อเขาใช้มัน มันก็เท่ากับเขาเสียไพ่ตายไปหนึ่งใบ
แต่ทว่าสิ่งที่ข้อมูลไม่รู้คือหากหานเซี่ยวใช้ไฮเปอร์ไดรฟ์มิติในร่างโกลาหล คูลดาวน์จะลดลงเหลือแค่สิบกว่าวินาที!
นี่คือพรสวรรค์ของผู้สังเกตโกลาหลตอนนั้น เขาไม่มีชื่อเสียงเท่าตอนนี้ และแทบไม่ได้แสดงความสามารถนี้ต่อใคร!
เขาเชื่อมต่อกับกองทัพจักรกลใหม่และถอนหายใจโล่งอก
เดิมทีเขาอยากสู้กับฮีเบอร์ด้วยพลังเขา แต่ตอนนี้ เขาตระหนักว่าตัวเขากับฮีเบอร์ยังห่างกัน ด้วยความถึกทนเขา ชีวิตเขาคงไม่ตกอยู่ในอันตราย แต่สถานการณ์ย่อมย่ำแย่
เนื่องจากการต่อสู้นี้ถูกจับตาทั่วทั้งจักรวาลหานเซี่ยวจึงไม่อยากแสดงความด้อยกว่า
ฉันอยากเก็บมันไว้แต่ก็ไม่สามารถทำได้…
เขาเลียปากเปิดหน้าต่างสถานะและกระตุ้นของชิ้นนี้
บัตรอัญเชิญตัวละครเรย์โนล!
สัมผัสจักรกลสมบูรณ์!
ดวงตาหานเซี่ยวเบิกกว้างทันทีดวงตาเขาพลันเต็มไปด้วยสายฟ้า
พลังจักรกลที่ไหลเข้าไปในตัวทหารจักรกลกลายเป็นแสบตาแสงสีฟ้าและทองเอ่อล้นจากช่องว่างของเครื่องจักร
ในชั่วพริบตความสัมพันธ์กับเครื่องจักรก็พุ่งทะยาน การเพิ่มขึ้น1.4เท่าทำให้กองทัพเขาแข็งแกร่งขึ้นอย่างมาก!
การเคลื่อนไหวของฮีเบอร์หยุดไปชั่วขณะเขาดูสับสน
มันรู้สึกแตกต่าง
…
“นี่คือพลังของผู้อยู่เหนือน่าทึ่ง.”
ผู้ชมจ้องทั้งสองด้วยความตกใจหลายคนแค่รู้จักผู้อยู่เหนือ แต่ไม่เคยเห็นการต่อสู้ระหว่างผู้อยู่เหนือ
“ท่านฮีเบอร์เก่งกาจมาก”ใบหน้าของจอร์ดเต็มไปด้วยความตื่นเต้น
เจ้าหน้าที่นักสู้ส่วนใหญ่ของแดนหลั่งเลือดเป็นพวกหลงใหลฮีเบอร์เมื่อเห็นฮีเบอร์แสดงพลัง คนของแดนหลั่งเลือดก็เบิกบานใจ
อีกด้านอารยธรรมผลึกม่วงและองค์กรพันธมิตรของหานเซี่ยวกลับประหม่า
เอเมสไม่แทรกแซงการต่อสู้ตราบเท่าที่หานเซี่ยวไม่พูดอะไร เธอก็ไม่ต้องลงมือ
เอเมสจ้องไซเคอร์อย่างใกล้ชิดหานเซี่ยวบอกเธอว่าทันทีที่ไซเคอร์ทำอะไร เธอต้องหยุดเขา
ไซเคอร์เหลือบมองเอเมสจากนั้นก็มองสนามรบอีกครั้ง หรี่ตาแคบ
แบล็คสตาร์แข็งแกร่งกว่าตอนสู้กับฉันแต่ก็ยังไม่ใช่คู่มือฮีเบอร์ ฮีเบอร์เหนือกว่า…
ไซเคอร์ส่ายหัวสถานการณ์เป็นไปตามที่เขาคาด เขาชัดเจนว่าฮีเบอร์แข็งแกร่งแค่ไหน แบล็คสตาร์สามารถสู้กับเขาได้ แต่ไม่ได้หมายความว่าจะอยู่ระดับเดียวกับฮีเบอร์
ไซเคอร์ไม่กลัวฮีเบอร์เพราะการโจมตีทางจิตเป็นจุดอ่อนของฮีเบอร์เหมือนกับที่เขากลัวพละกำลังของฮีเบอร์ ดังนั้น พวกเขาจึงไม่ยุ่งเรื่องของกันและกัน แต่ทว่า แบล็คสตาร์ไม่อาจใช้จุดอ่อนของฮีเบอร์ได้เหมือนเขา และพละกำลังดิบของฮีเบอร์ก็แข็งแกร่งกว่าใคร
หากมันเป็นผู้อยู่เหนือหน้าใหม่ทั่วไปฮีเบอร์อาจฆ่าเขาได้จริงๆ แต่ทว่า ด้วยการที่เคยสู้กับแบล็คสตาร์มาก่อน ไซเคอร์รู้ดีถึงพลังของแบล็คสตาร์ แต่ก็ไม่บอกมันกับฮีเบอร์
แบล็คสตาร์มีร่างกายที่แข็งแกร่งมากแม้ในหมู่ผู้อยู่เหนือไม่ด้อยไปกว่าฮีเบอร์ เขาควรสามารถทนได้นานมาก พวกเขายังไม่ทุ่มสุดตัว เมื่อพวกเขาเหนื่อยล้า ตอนนั้นมันจะถึงเวลาของฉัน..
เมื่อคิดได้แบบนั้นไซเคอร์ก็เหลือบมองกองยานศาสนจักรด้านหลังเขา
เขารู้ว่าในห้องบัญชาการของยานหลักผู้บัญชาการของกองยานกำลังรอสัญญาณเขา
ตอนนี้เงาคล้ายอุกกาบาตพุ่งผ่านขอบวิสัยทัศน์เขาไปในขบวนรบของแดนหลั่งเลือดไม่ไกล กระแทกกับยานอวกาศหลายลำ
ไซเคอร์หันไปมองในไม่ช้าก็ตกใจ
คนที่ถูกซัดคือฮีเบอร์?!
ไซเคอร์ตกตะลึงเล็กน้อยเขารีบหันกลับไปมองหานเซี่ยว และสายตาเขาก็เปลี่ยนไป
มันดูเหมือนว่าฉันยังประเมินแกต่ำไป….