The Legendary Mechanic - ตอนที่ 799-800
ตอนที่ 799 ผู้ปกครองแห่งจักรวรรดิ และจักรพรรดิมืด
ศูนย์ต้อนรับภายในของวังมีวิลล่าอิสระหลายหลัง
หานเซี่ยวและคนอื่นติดตามพนักงานต้อนรับไปหนึ่งในนั้นนี่เป็นที่พักชั่วคราวสำหรับพวกเขา
หลังได้ที่หานเซี่ยวก็ขังตัวเองในห้องเขาและไตร่ตรองเกี่ยวกับวันต่อไป
“ฉันจะเจอกับผู้นำจักรวรรดิและผู้อยู่เหนือเหล่านั้นพรุ่งนี้ฉันสงสัยว่าผู้นำจักรวรรดิจะคุยอะไรกับฉัน…อืม นอกจากการต้อนรับตามธรรมเนียม ผู้นำจักรวรรดิอาจร้องขอใช้ลูกบาศก์วิวัฒนาการกลุ่มใหญ่ รวมถึงเชิญฉันเข้าร่วมงาน…”
“สำหรับพวกผู้อยู่เหนือพวกเขาจะพาฉันเข้าแวดวงในฐานะพันธมิตร ในเมื่อเราอยู่ข้างเดียวกัน เราจะต้องช่วยเหลือกัน..”
เขารู้รายชื่อสมาชิกผู้อยู่เหนือของจักรวรรดิดีและรู้นิสัยและความชอบพวกเขา แต่ตอนนี้ เขาไม่รู้ว่าใครคือเจ็ดคนที่มา
“ผู้อยู่เหนือมากมายของอารยธรรมจักรวาลเป็นผู้อาวุโสที่อยู่มานานพวกเขามีพรสวรรค์ ความสามารถ พลังงานมากมาย และแข็งแกร่งมาก..”
เขารู้สึกว่าการพบกับผู้อยู่เหนือพรุ่งนี้ต้องไม่ใช่การพบปะเรียบง่าย
ผู้อยู่เหนือล้วนทรงพลังมากพลังคือรากฐานพวกเขา เมื่อเด็กใหม่เข้าร่วมแวดวง บางคนอาจอยากทดสอบเขา หากเขาอ่อนแอ ต่อให้เขายังได้รับการยอมรับให้เข้าร่วม เขาก็จะถูกลดความสำคัญ
มีเสาหลักที่แข็งแกร่งสุดสามคนในบรรดาพันธมิตรจักรวรรดิหานเซี่ยวสงสัยว่าจะมีกี่คนที่มาเข้าร่วม
“แม้ฉันจะไม่อ่อนแอแต่ฉันเพิ่งก้าวข้ามประตูผู้อยู่เหนือ และค่าสถานะก็ยังไม่สูงพอ การบ่มเพาะเตาหลอมดาวฮีเบอร์อยู่ครึ่งทางแล้ว ซึ่งมอบพลังงานให้เกือบหมื่น…สำหรับในแง่ของเครื่องจักร มันยังสมบูรณ์กว่า..”
นอกจากการจัดการกับเรื่องของกองทัพหานเซี่ยวใช้เวลาส่วนใหญ่สร้างเครื่องจักรและเก็บไว้มาก
ผ่านความรู้ล้ำยุคทั้งหมดที่เขาได้รับหานเซี่ยวผสานพิมพ์เขียวใหม่มากมาย นอกจากการเพิ่มหน่วยใหม่เข้ากองทัพจักรกล เขายังสร้างเครื่องจักรระดับสูงอื่นๆอีกมากที่สามารถใช้เพื่อวัตถุประสงค์หลายอย่าง
ดวงตาหานเซี่ยวสว่างวาบ
“ในเมื่อฉันรู้ข้อมูลเกี่ยวกับผู้อยู่เหนือเหล่านี้…บางทีฉันอาจใช้ประโยชน์จากมันได้”
…
หลังนอนหลับทั้งคืนเช้าวันถัดมา ฑูตจักรวรรดิก็มาถึงประตูบ้านหานเซี่ยว
ฮีล่าเปิดประตูฑูตยืนอยู่ด้วยสีหน้าเคารพ
“สวัสดีครับท่านผู้นำได้เชิญท่านแบล็คสตาร์ไปพบแล้วครับ”
“ไปกัน”หานเซี่ยวเดินออกมาและพยักหน้า
ฮีล่าและคนอื่นอยากติดตามแต่หานเซี่ยวก็โบกมือให้พวกเขาอยู่กับที่ เมื่อเห็นแบบนี้ ฑูตที่กำลังจะหยุดก็ต้องกลืนคำพูดลงไป
การบินไม่อนุญาตเหนือวังดังนั้นทั้งสองจึงต้องขึ้นยานพาหนะทางบกและขับไปใจกลางเมืงอ
ใจกลางเมืองคือพื้นที่สำนักงานสำหรับคนที่มีตำแหน่งสูงสุดในจักรวรรดิมันคือวังที่ยิ่งใหญ่
ยิ่งเข้าใกล้ความปลอดภัยก็ยิ่งแน่นหนา พื้นที่ปกคลุมไปด้วยอุปกรณ์ตรวจจับทุกประเภทและทีมลาดตระเวนชั้นยอดของจักรวรรดิ หานเซี่ยวสัมผัสได้ถึงการคงอยู่ของภัยพิบัติกว่าสิบ และนั่นก็แค่จากทิศทางเดียว การป้องกันของเมืองหลวงจักรวรรดิทรงพลังมาก
ไม่เพียงอารยธรรมจักรวาลจะควบคุมกาแล็กซี่กลางพวกเขายังควบคุมทุ่งดาวอื่นๆในระดับหนึ่ง พวกเขามีทรัพยากรมากมาย รวมถึงโรงเรียนสอนระดับสูงที่จะกระตุ้นศักยภาพผู้คน อัตราการเกิดของภัยพิบัติเหนือกว่าใครในกาแล็กซี่
ยานพาหานะหยุดนอกวังและหานเซี่ยวก็ตามฑูตเข้าไปพวกเขาผ่านจุดตรวจทีละจุดก่อนขึ้นลิฟต์ไปชั้นบน ทั้งชั้นนี้คือห้องทำงานของผู้นำจักรวรรดิ
หลังผ่านผู้คุ้มกันและส่วนเลขาฑูตก็เปิดประตูและทำท่าให้เขาเข้าไป
หานเซี่ยวพยักหน้าและเดินเข้าไป
นี่คือห้องทำงานกว้างห้องเป็นรูปสี่เหลี่ยมผืนผ้า กำแพงเป็นสีแดงเข้มและมีหน้าต่างสูงบนทุกกำแพง
พื้นปูด้วยพรมแดงและที่ขอบเป็นต้นไม้มันดูเหมือนจะได้รับการดูแลอย่างดีและให้กลิ่นชวนเคลิ้ม ชั้นหนังสืออัดแน่นวางติดกำแพงอีกด้าน และอีกด้านก็เป็นโต๊ะกาแฟวงกลมหินขาวและโซฟาแดงที่ใช้รับรองแขก ไม่มีเฟอร์นิเจอร์อื่นกลางห้อง โคมระย้าใหญ่ห้อยลงจากเพดาน นอกจากนี้ยังมีโต๊ะทำงานและมีคนนั่งด้านหลังมัน อีกคนยืนอยู่ข้างโต๊ะ
แค่มองหานเซี่ยวก็บอกได้ว่าผู้นำคือคนที่กำลังนั่ง
ผมยาวสีขาวเธอม้วนขึ้นกลิ่นอายสง่าและดวงตาจริงจังสามารถทำให้ผู้คนเมินเฉยรูปลักษณ์เธอได้
เออแรนเรลชิน รีเบ็ต ผู้ปกครองแห่งจักรวรรดิคริมสัน!
ใช่ผู้นำคนปัจจุบันของจักรวรรดิเป็นผู้หญิง!
จักรวรรดิคริมสันชื่นชมแค่ความแข็งแกร่งเพศไม่ใช่ปัจจัย
การสืบทอดตำแหน่งผู้นำไม่เกี่ยวกับสายเลือดในช่วงการปกครองของผู้นำคนก่อน การฝึกสำหรับว่าที่ผู้นำคนต่อไปก็เริ่มขึ้นแล้ว โดยจะมีคนมากกว่าหนึ่ง พวกเขาล้วนเป็นหัวกะทิที่เบื้องบนและฝ่ายต่างๆคัดเลือกผ่านการเจรจา
ฑูตปิดประตูจากด้านนอก
“แบล็คสตาร์ฉันคือผู้ปกครองแห่งจักรวรรดิคริมสัน เออแรนเรล เชิญนั่ง”เออแรนแรลยืนขึ้น เดินเข้าหาเขาและยื่นมือออกมา
ชายด้านหลังเธอติดตามมาดวงตาแหลมคมเขาจับจ้องหานเซี่ยวไม่วางตา
“สวัสดี”หานเซี่ยวจับมือทั้งสองนั่งตรงข้ามกันบนโซฟารับแขก ส่วนชายด้านหลังเธอก็ยังยืนด้านหลังเธอ
“นี่คือคล็อตติหัวหน้าองครักษ์ของฉันเอง”เธอแนะนำคนด้านหลัง
คล็อตติเงยหน้าขึ้นเล็กน้อยเป็นการทักทาย
หานเซี่ยวดูสงบแต่จริงๆแล้วมีความคิดมากมายในหัว
ในชีวิตก่อนหน้าเขาเหล่าผู้นำอารยธรรมจักรวาลมักเปลี่ยนตลอด เออแรนเรลคือผู้ปกครองจักรวรรดิในช่วงเวลาเดียว ในช่วงการปกครองของเธอ สำหรับผู้เล่น ความสำเร็จที่โด่งดังสุดของเธอคือการต่อสู้และการพัฒนาของโลกริบหรี่
ผู้เล่นในชีวิตก่อนหน้าเขาไม่รู้จักผู้ปกครองคนนี้มากนักนั่นเพราะ ในช่วงการปกครองของเธอ เวทีหลักของผู้เล่นคือโลกริบหรี่และทุ่งดาวตัวเอง พวกเขายังไม่ได้ติดต่อกับอารยธรรมจักรวาล สำหรับพวกเขา ผู้นำอารยะรรมจักรวาลเป็นแค่ฉากหลังของเกม
แต่ตอนนี้เออแรนเรลอยู่ตรงหน้าเขา ผู้หญิงคนนี้คือหนึ่งในสามผู้ทรงอำนาจสุดของทั้งจักรวาล อาจกล่าวได้ว่าเป็นผู้ปกครองจักรวาล
คล็อตติผู้ยืนด้านหลังเธอคือองครักษ์เธอ ผู้อยู่เหนือที่ได้รับการเลี้ยงดูโดยจักรวรรดิ เขาเป็นเอสเปอร์ และความสามารถเขาคือการควบคุมพลังงานมืดและสสารมืด ฉายาเขาคือ’จักรพรรดิแห่งความมืด’ ‘จ้าวแห่งสสารมืด’ และ’ผู้บิดเบือนจักรวาล’
คนๆนี้คือหนึ่งในสามผู้แข็งแกร่งสุดในจักรวรรดิ!
“อย่างแรกในนามของจักรวรรดิคริมสัน เราขอต้อนรับคุณในฐานะพันธมิตร”เออแรนเรลตัดบทและจ้องตาหานเซี่ยว
“นับเป็นเกียรติของผม”หานเซี่ยวตอบ
“สำหรับการสำรวจโลกริบหรี่ระยะแรกจักรวรรดิต้องการพลังของคุณและฮีเบอร์”เออแรนเรลกล่าว”ตามข้อตกลงเรา นอกจากทรัพยากรที่จักรวรรดิจะมอบให้คุณเป็นการสนับสนุน หลังทุกอย่างจบ คุณจะได้รับพื้นที่ในโลกริบหรี่..”
หานเซี่ยวพยักหน้า”ผมรู้”
“คุณเป็นพันธมิตรจักรวรรดิตราบเท่าที่คุณทำความดีความชอบ จักรวรรดิจะไม่หวงทรัพยากรแน่”เออแรนเรลกล่าวด้วยน้ำเสียงจริงจัง”ยิ่งคุณเต็มใจรับงานมาก เราก็จะยิ่งให้ทรัพยากรแก่คุณ บางครั้ง จักรวรรดิอาจส่งประกาศให้ผู้อยู่เหนือรวมถึงคุณไปทำภารกิจ แน่นอน หากพบว่ามันยากลำบาก คุณสามารถขอกำลังหนุนจากผู้อยู่เหนือของจักรวรรดิได้ จำไว้ คุณเป็นหนึ่งในเสาหลักของเรา ในเวลาเดียวกัน จักรวรรดิก็หนุนหลังคุณเช่นกัน”
หานเซี่ยวหรี่ตาและพอใจหน้าที่และอำนาจเกี่ยวข้องกัน การเป็นพันธมิตรของจักรวรรดิ ทำให้เขากลายเป็นขุมอำนาจของจักรวรรดิ และจักรวรรดิก็เช่นกัน พันธมิตรผู้อยู่เหนือต่างๆไม่ใช่แค่ทรัพยากรของจักรวรรดิ แต่เขามีสิทธิ์ยืมพวกเขาด้วย
“สำหรับลูกบาศก์วิวัฒนาการในมือคุณคุณไม่ต้องกังวล เรายินดีหากคุณจะมอบมันให้เราอย่างเต็มใจ แต่ต่อให้คุณไม่เต็มใจ จักรวรรดิก็จะไม่ชิงมันจากคุณ แต่ทว่า ฉันมีคำขอ จักรวรรดิจะไม่คัดค้านคุณจากการใช้ลูกบาศก์เพื่อเจรจากับองค์กรอื่น แต่การจัดสรรการวิวัฒนาการสำหรับจักรวรรดิต้องไม่ถูกจำกัด เราจะส่งคนไปกองทัพแบล็คสตาร์เรื่อยๆเพื่อวิวัฒนาการ”
“แน่นอน”หานเซี่ยวพยักหน้าเขาจำกัดการจัดสรรสำหรับองค์กรอื่น แต่ย่อมไม่ตั้งข้อกำหนดกับพันธมิตรเขา
นอกจากนี้ประชากรของจักรวรรดิก็สูงมาก ไม่มีทางที่พวกเขาจะอุกอาจขอให้วิวัฒนาการทั้งเผ่าพันธ์ พวกเขาจะไม่ทำแบบนั้นต่อให้ถือครองเองก็ตาม
“ในเมื่อคุณมายังดาวแม่เราคุณก็สามารถอยู่ต่อได้และวิวัฒนาการคนของเราสักหน่อย”เออแรนเรลกล่าว
ตามคาดนี่คือหนึ่งในเหตุผลหลัก
เทียบกับการคัดเลือกหัวกะทิและการส่งพวกเขาไปวงแหวนดาวกระจายเพื่อวิวัฒนาการการเรียกเขามานั้นสะดวกกว่า
นอกจากนี้กองทหารของดาวแม่ไม่อาจเคลื่อนย้ายได้ง่ายๆ ดังนั้นการเรียกเขามาเพื่อใช้ลูกบาศก์จึงดีสุด แบบนี้ ฝ่ายต่างๆยังไม่ต้องเจรจากันเพื่อจัดสรร
ตอนที่ 800 กดดัน
หลังทั้งสองคุยเรื่องธุรกิจกันสักพักเออแรนเรลก็เปลี่ยนเรื่อง”อีกเรื่อง จักรวรรดิเต็มใจช่วยกองทัพแบล็คสตาร์สร้างสาขาในกาแล็กซี่กลางเพื่อช่วยสื่อสารระหว่างเรา ฉันรู้ว่าคุณเองก็คิดไว้แล้วถึงได้นำฐานพกพามาด้วย “
“นั่นจะดีมาก”หานเซี่ยวพยักหน้า
.”สำหรับรายละเอียดฉันจะให้คนไปแจ้งให้คุณทราบ”เออแรนเรลกล่าว”หากคุณมีคำขอใด คุณสามารถถามฉันได้เลย”
หานเซี่ยวลูบคาง”ผมหวังได้รับความรู้ขั้นสูงสุดของสายช่างกลโดยเร็วที่สุดผมสงสัยว่าจะมีโอกาสไหม”
โดยไม่เปลี่ยนสีหน้าเธอกล่าว”รางวัลทรัพยากรของจักรวรรดิจะมอบให้พันธมิตรที่ทำผลงาน หากคุณอยากได้รับมัน ฉันเสนอคุณช่วยจักรวรรดิทำบางสิ่ง ฉันจะให้คนจดรายการเรื่องที่จักรวรรดิต้องการให้ช่วยและแจ้งให้คุณทราบ”
จากนั้นเออแรนเรลก็ยืนขึ้นยื่นมือและทำท่าสิ้นสุดการพบปะ หานเซี่ยวไม่พูดต่อ เขายืนขึ้นด้วยและจับมือก่อนอำลาและออกไป
ฑูตรออยู่นอกประตูเขานำเขาออกวังนี้
หลังหานเซี่ยวออกไปเออแรนเรลก็พิงเก้าอี้และกล่าวขณะหลับตา”คราวเวลล์ เมื่อพวกคุณพบกับเขา จำไว้ว่าอย่าทำให้สถานการณ์หลุดจากการควบคุม”
คล็อตติส่งเสียงตอบรับและออกไป
..
หานเซี่ยวขึ้นยานพาหนะคนขับไม่ตรงไปในทิศทางที่พวกเขามาแต่ไปทางอื่น
“ท่านแบล็คสตาร์เหล่าเสาหลักกำลังรอท่านอยู่ ผมจะพาท่านไปพบพวกเขา”ฑูตอธิบาย
หานเซี่ยวไม่ตอบและยังคิดถึงการพบกับเออแรนเรลก่อนหน้านี้
การพบปะช่างสั้นเออแรนเรลมีเรื่องมากมายต้องจัดการทุกวัน ดังนั้นเธอจึงไม่มีเวลามาคุยเล่นกับเขา ทุกอย่างที่พวกเขาคุยจึงมีแต่ธุรกิจ เรื่องข้อกำหนด หลังการสำรวจทุ่งดาวจบ ในฐานะทีมสำรวจ เขาจะได้รับพื้นที่ที่เขาสามารถพัฒนาได้อย่างอิสระ มันเหมือนเป็นที่ดินที่รัฐบาลมอบให้
เขาจะปกครองพื้นที่นั้นและเป็นเจ้าของสิทธิ์ทุกประเภทตราบเท่าที่เขาจ่ายภาษีให้จักรวรรดิ
นี่คือหนึ่งในเงื่อนไขสำคัญสุดในข้อตกลงพวกเขามันจะทำให้กองทัพแบล็คสตาร์แข็งแกร่งขึ้น นี่ยังเป็นสิ่งสำคัญมากต่อหานเซี่ยว สำหรับตำแหน่งและขนาดพื้นที่ มันขึ้นอยู่กับผลงานเขาในการพัฒนาทุ่งดาวใหม่
การใช้ลูกบาศก์วิวัฒนาการและการสร้างสาขาใหม่ของกองทัพคือสิทธิ์และหน้าที่เขาในฐานะพันธมิตรจักรวรรดิหากเขาอยากได้รับความรู้ขั้นสูงสุด เขาต้องทำภารกิจ ด้วยเออแรนเรลที่เอ่ยปากเอง เขาจึงไม่มีทางทำอะไรได้ คนของจักรวรรดิจะจดรายชื่อและมอบมันให้เขา ซึ่งสะดวกขึ้น
เออแรนเรล….ผู้ปกครองจักรวรรดิ..ไม่แสดงอารมร์เธอให้อ่านเลย…
ผ่านการสนทนาก่อนหน้านี้ภาพลักษณ์ที่เออแรนเรลมอบให้เขาเต็มไปด้วยศักดิ์ศรีของผู้นำ เทียบกับคนที่มีเลือดเนื้อ ผู้ปกครองผู้นี้เป็นเหมือนสัญลักษณ์ ทำให้คนไม่สนใจลักษณะส่วนตัวเธอ หานเซี่ยวยอมแพ้ที่จะเก็บเกี่ยวความโปรดปรานจากเธอ
ผู้ปกครองเป็นตัวแทนจักรวรรดิเออแรนเรลตัดความปราถนาส่วนตัวทั้งหมด ดังนั้นเธอจึงไม่มีจุดอ่อน สามารถรักษาเหตุและผลได้ตลอดเวลา และไม่เคยปล่อยให้อารมณ์ครอบงำ ความรู้สึกส่วนตัวเธอจะไม่ส่งผลต่อการตัดสินใจ
สำหรับคนอย่างนี้การเก็บค่าความโปรดปรานย่อมมีต้นทุนสูง ให้ผลตอบแทนต่ำ ดังนั้นหานเซี่ยวจึงไม่อยากเสียความพยายามเขา
เทียบกันแล้วมันจะง่ายกว่าเมื่อเทียบกับผู้อยู่เหนือคนอื่น
ไม่ช้ายานพาหนะก็หยุดตรงหน้าวิลล่า นี่ไม่ใช่วิลล่าในศูนย์ต้อนรับ แต่เป็นเขตอาศัยของสมาชิกภายใน
คล็อตติยืนตรงหน้าประตูด้วยใบหน้าไร้อารมณ์เขาพยักหน้าและกล่าว”แบล็คสตาร์ ตามฉันมา ทุกคนกำลังรอนาย”
หานเซี่ยวเดินออกรถและมองคล็อตติด้วยใบหน้าแปลกๆ
ทั้งสองเพิ่งพบกันไม่นานเขาเดินทางมาด้วยยานพาหนะ ส่วนชายคนนี้กลับวิ่งมาดักรอเขาล่วงหน้า แม้ความเร็วของผู้อยู่เหนือจะเร็วกว่ายานพาหนะทางบกมาก แต่การคิดภาพในหัวก็ยังให้ความรู้สึกขำขัน
พวกเขาเปิดประตูและเข้าไป
ทันทีที่เข้าบ้านดวงตาของผู้อยู่เหนือทั้งหกก็มองมาและจ้องหานเซี่ยวอย่างอยากรู้
คล็อตติหาที่นั่งและนั่งลงทิ้งหานเซี่ยวให้ยืนลำพัง
หานเซี่ยวมองรอบๆเขาคุ้นเคยกับทั้งหก พวกเขาเป็นพันธมิตรผู้อยู่เหนือของจักรวรรดิ ยังมีแม้กระทั่งสมาชิกแอนเชี่ยนวัน
แต่ทว่าท่ามกลางสามคนที่แข็งแกร่งสุดของจักรวรรดิ มีเพียงคล็อตติที่มา
ทั้งเจ็ดมีสายตาต่างกันบางคนเต็มไปด้วยความคาดหวัง บางคนเย็นชา และบางคนอยากรู้ ผู้อยู่เหนือเหล่านี้มีฝ่ายต่างๆหนุนหลัง ดังนั้นจุดยืนจึงไม่เหมือนกัน
“งั้นนายก็คือแบล็คสตาร์จากวงแหวนดาวกระจายสินะ?”หนึ่งในนั้นสำรวจหานเซี่ยว เมื่อดวงตาเขาหยุดที่ลูกบาศก์วิวัฒนาการ มันก็มีร่องรอยความเป็นปฏิปักษ์ชั่วขณะหนึ่ง
“แล้วคิดว่าฉันเป็นใครละ?”หานเซี่ยวเลิกคิ้วและไม่ตอบกลับด้วยดีนักทุกคนที่นี่คือผู้อยู่เหนือ เขาไม่คิดถ่อมตน
“ในบรรดา4…โอ้5ผู้อยู่เหนือในวงแหวนดาวกระจาย ทั้งนายและฮีเบอร์เข้าร่วมกับจักรวรรดิ แล้วใครแข็งแกร่งกว่า?”คนหนึ่งถามอย่างอยากรู้
“หากอยากรู้มากก็มาลองเองสิ”หานเซี่ยวยักไหล่ เขาไม่อยากเป็นฝ่ายถูกถามขณะยืน ดังนั้นเขาจึงหาที่นั่ง
ผู้อยู่เหนือเหล่านี้ไม่รู้ว่าแม้นี่จะเป็นการพบปะครั้งแรกของพวกเขาหานเซี่ยวก็รู้จักพวกเขาดีและชัดเจนถึงสถานการณ์ในห้อง
ท่ามกลางเจ็ดคนคล็อตติเหนือสุดและดูสงบและเย็นชา เขาเป็นตัวแทนของฝ่ายคนสนิทผู้นำ ดังนั้นจึงทำแค่ดูและไม่แทรกแซง ผู้อยู่เหนืออีกคนที่ใกล้ชิดกับฝ่ายทหารรุ่นใหม่ดูสนใจในตัวเขาและดูเหมือนมีเจตนาอย่างพูดจาประจบเขา ส่วนอีกห้านั้นอยากทดสอบเขา
เมื่อเห็นว่าหานเซี่ยวไม่ยอมถอยเลยพวกเขาก็สบตากันและมีความแปลกใจ
ในอดีตเด็กใหม่ที่มาล้วนมีเจตนาอย่างสร้างมิตรกับพวกเขา เด็กใหม่เหล่านี้คิดว่าทุกคนจะคุยกันอย่างสงบและสุภาพ ส่วนสมาชิกเก่ากว่าจะใช้การพบปะนี้เพื่อเป็นฝ่ายสัมภาษณ์และถามคำถาม พวกเขาจะถามคำถามยั่วยุและดูว่าอีกฝ่ายจะระงับความโกรธยังไง ส่วนใหญ่ที่มาล้วนเคยเจอกับเรื่องนี้และทิ้งประวัติศาสตร์ดำมืดไว้ ดังนั้น นี่จึงกลายเป็นประเพณีรับน้องใหม่ไปโดยปริยาย
หากมีคนทนไม่ได้พวกเขาจะพูดกันด้วยหมัดเพื่อตัดสินตำแหน่งพวกเขาในอนาคต
หากมันเป็นผู้อยู่เหนือชื่อดังที่กลายเป็นพันธมิตรพวกเขาถึงไว้หน้าผู้มาใหม่
แน่นอนแบล็คสตาร์ผู้ที่เพิ่งก้าวข้ามไม่ใช่คนแบบนัน้
แต่ทว่านี่แค่จุดเริ่มต้น พวกเขายังไม่ได้เริ่มการยั่วยุที่แท้จริง แต่แบล็คสตาร์ก็โต้ตอบพวกเขาแล้ว เป็นที่ชัดเจนว่าเด็กใหม่นี้ไม่เล่นตามเกมพวกเขา
อาจเป็นเพราะฮีเบอร์ได้เล่าประสบการณ์ให้เขาฟัง?
ในสายตาพวกเขามันดูเหมือนหานเซี่ยวจะรู้เกี่ยวกับประเพณี และฮีเบอร์ผู้ทิ้งประวัติศาสตร์ดำมืดไว้ก็มาจากวงแหวนดาวกระจายเช่นกัน ดังนั้น มันเป็นไปได้อย่างยิ่งที่แบล็คสตาร์จะรู้เรื่องนี้จากเขาและไม่อยากเดินตามเกม
“ไม่เป็นตามแผน..”
พวกเขาลอบสบตากันและวางแผน
“ฮี่ๆ”คนที่พูดก่อนกล่าวเสียงเย็น”แบล็คสตาร์ฉันคิดว่านายคงไม่รู้ตำแหน่งตัวเอง”
“โอ้?คุณนักผ่าดาวคุณหมายความว่ายังไง?”หานเซี่ยวหรี่ตา
เวอรูนักสู้ผู้อยู่เหนือแห่งฝ่ายทหารสงคราม ฉายาเขาคือนักผ่าดาว และ’ผู้แยกดาว’ เขามาจากแม่น้ำดวงดาวแรกเริ่ม ตอนนี้เป็นพันธมิตรของจักรวรรดิและคอยฝึกนักสู้นับหมื่นในกาแล็กซี่กลาง
“นี่คือใจกลางจักรวาลคิดว่านี่คือวงแหวนดาวกระจายที่มีแค่ห้าผู้อยู่เหนือหรือไง?กล้าดียังไงถึงพูดกับเราด้วยท่าทางแบบนั้น…”
บูม!
ก่อนเขาจะพูดจบเวอรูก็ระเบิดพลังงานออกมา ซึ่งฟันวิลล่าเป็นสองส่วน กลิ่นอายหนาและสายตาเย็นเฉียบเขาจับจ้องหานเซี่ยว ราวกับเขาโกรธและกล่าวทีละคำ”เด็กใหม่ที่เพิ่งก้าวเข้าสู่อาณาจักรผู้อยู่เหนือ ใครให้สิทธิ์แกมาอวดดีต่อหน้าเรา?!”
“จิ๊”คล็อตติสะบัดมือและบอกให้คนแถวนี้รีบออกไปเวอรูระงับพลังงานเขาและไม่ปล่อยให้มันกระจายออกไป และคล็อตติก็ไม่หยุดการกระทำของเวอรู
นอกจากผู้อยู่เหนือที่สนิทกับฝ่ายคนรุ่นใหม่ผู้ส่ายหัวและไม่พูดคนอื่นต่างแสดงสีหน้าไม่เป็นมิตรและจ้องหานเซี่ยว กดดันเขา
ต่อให้ฮีเบอร์จะบอกกฏล่วงหน้าพวกเขาก็ไม่เชื่อว่าแบล็คสตาร์จะไม่กลัวการตอแยพวกเขาทั้งหมดพร้อมกัน
หากแบล็คสตาร์ยังไม่ยอมถอยพวกเขาก็จะสั่งสอนบทเรียนเขา สำหรับเรื่องที่ว่าจะทำให้แบล็คสตาร์โกรธ..พวกเขาล้วนเป็นองค์กรผู้อยู่เหนือ มันจึงไม่สำคัญ
พวกเขาลอบมองสีหน้าหานเซี่ยวหวังจะพบความหวาดกลัวบนหน้าเขา
กลิ่นอายก้าวร้าวและแหลมคมประดุจมีดระเบิดจากตัวหานเซี่ยวเขาหรี่ตาและหัวเราะ”เอาละ มาทำให้เรื่องราวมันง่ายดีกว่า เราต่างก็เป็นผู้อยู่เหนือ หากเราขัดแย้งกัน เราก็สามารถแก้ไขได้ด้วยการต่อสู้”
จากนั้นก่อนทุกคนจะได้ตอบ หานเซี่ยวก็ชี้เวอรู”นายและฉันจะสู้กัน เป็นยังไง?”
คนอื่นแปลกใจและยิ่งสนใจ
ผู้มาใหม่กำลังเอ่ยปากท้าทายเอง?มั่นใจมากเขาไม่รู้ว่าเราต่างเป็นผู้อาวุโสที่สู้เพื่อจักรวรรดิมานาน?
เดิมพวกเขาอยากเป็นฝ่ายยั่วยุให้แบล็คสตาร์สู้ด้วยแต่อีกฝ่ายกลับเสนอมันซะก่อน
“ได้”สีหน้าเวอรูดูหงุดหงิด
เขาได้แสดงพลังเขาออกมาแล้วแต่แบล็คสตาร์ก็ยังอยากท้าทายเขา คิดว่าเขามีโอกาสชนะ?
เวอรูไม่ยอมให้ตำแหน่งเขาถูกคุกคาม
หานเซี่ยวสงบเขาเดาอยู่แล้วว่ามีเพียงพลังถึงทำให้เขาได้รับความเคารพในหมู่ผู้อยู่เหนือ
เพื่อตีสนิทกับเหล่าผู้อยู่เหนือเขาต้องแสดงพลังออกมา
ครั้งนี้คล็อตติพูด
“ไปสู้กับนอกวงแหวนผนึกไซโอนิคอย่าสู้กันใกล้ดาวแม่”
…
“ท่านครับการพบปะของแบล็คสตาร์กับเหล่าเสาหลักไม่เป็นที่น่าพอใจนัก เขาท้าทายท่านนักผ่าดาวเอง คล็อตติและเสาหลักคนอื่นเองก็จะไปชมเช่นกัน”
เมือ่ได้ยินรายงานเออแรนเรลก็กล่าว”คล็อตติจะดูแลเรื่องนี้ ไม่ต้องกังวล”
“เข้าใจแล้วครับ”
“อืม…ไปแจ้งเพื่อนๆของแบล็คสตาร์ด้วย”
จากนั้นเออแรนเรลก็วางสายและส่ายหัว
เธอไม่ชอบประเพณีรังแกน้องใหม่ระหว่างพันธมิตรผู้อยู่เหนือแต่ก็ยังไม่อยากบังคับผู้อยู่เหนือเหล่านี้เว้นแต่จะจำเป็นจริงๆ
…
“ว่าไงนะ?เขากำลังสู้กับพันธมิตรเหล่านั้น?”
หลังได้ยินสิ่งที่ฑูตบอกฮีล่าและคนอื่นก็มีสีหน้าเปลี่ยนไป
ครั้งนี้อีซอปพูดขึ้น”ไม่ต้องห่วง มันแค่การทดสอบพลังระหว่างผู้อยู่เหนือ มันเป็นเรื่องปกติ ฉันเคยเห็นมาก่อน”
น่าเศร้ามีคนไม่มากที่ฟังคำพูดเขา
“ไปดูกัน”เอเมสไม่พูดมากและก้าวออกไป