The Legendary Mechanic - ตอนที่ 803-804
ตอนที่ 803 ไม่ใช่เรื่องบังเอิญ
ยานอวกาศจักรวรรดิทั่วไปแล่นออกดาววงแหวนคริมสันและภายในนัน้ หานเซี่ยวกำลังยืนมองดาวแม่จักรวรรดิที่หดเล็กลง
หลังรับภารกิจกระบวนการก็จัดขึ้นวันนั้นโดยไม่ล่าช้า ดังนั้น ทั้งสาม รวมถึงพวกฮีล่าจึงขึ้นยานจักรวรรดิและออกเดินทางไปยังฐานทหารที่อยู่แนวชายแดนเพื่อเข้าร่วมในการกวาดล้างกองกำลังแดนผู้ร่วงหล่น
“ครั้งนี้ฉันรีบมาและรีบไป”ดวงตาหานเซี่ยวค่อยๆเลื่อนออกจากดาวแม่ที่หดเล็ก
เขาอยู่บนดาวแม่ไม่กี่วันไม่แม้แต่จะใช้เวลาบนท้องถนน เขาไม่อยู่รอนาน ออกมาทันทีที่เขาธุระเสร็จ รวดเร็วและเด็ดขาด
การเดินทางนี้ช่วยให้เขาได้พบกับผู้ปกครองจักรวรรดิรวมถึงเหล่าเสาหลักของจักรวรรดิขยายเครือข่ายเขากับจักรวรรดิ ภาพลักษณ์เขาภายในจักรวรรดิชัดเจนขึ้น เขายังกลายเป็นหนึง่ในกระดูกสันหลังของจักรวรรดิในอนาคต
“กองกำลังจักรวรรดิจัดทัพเสร็จแล้วและแค่กำลังรอให้ผู้อยู่เหนือไปนำทัพผ่านประตูดาว เราจะรวมตัวกันพวกเขาในสี่ถึงห้าวัน”
เบโยนี่เดินมาข้างๆขณะพูดเขาก็พ่นเมล็ดไฟออกมา
ระบบดาววงแหวนคริมสันคือใจกลางของจักรวรรดิและตอนนี้พวกเขากำลังย้ายไปขอบทุ่งดาวการใช้เวลาเดินทางแค่สี่ถึงห้าวันไม่ใช่เพราะระยสั้นแต่เพราะการขนส่งของกาแล็กซี่กลางดีกว่าวงแหวนดาวกระจายมาก นี่เพราะสามอารยธรรมจักรวาลได้วางประตูดาวมากมายภายในกาแล็กซี่กลาง หากให้นับเวลาเดินทางในวงแหวนดาวกระจาย มันคงใช้เวลานานกว่าเดือน
“ก่อนหน้านี้นายเข้าร่วมงานที่เกี่ยวข้องใดๆไหม?”หานเซี่ยวพลันถาม
“โอ้ฉันมีส่วนร่วมในการล้อมและปราบผู้ร่วงหล่นแค่สองครั้ง นี่คือครั้งที่สาม ผู้อยู่เหนือที่อยู่ในกาแล็กซี่กลางทั้งหมดล้วนเคยเข้าร่วมงานเช่นนี้”เบโยนี่กล่าว
นี่คือการกินนอน สู้จริงๆ และกลุ่มพันธมิตรนั่นที่อ้างว่าไม่อยากตอแยเทพเอสก็แค่เพราะพวกเขาไม่อยากจับกลุ่มกับฉัน…ปากหานเซี่ยวกระตุก
“งั้นเทพเอสก็เคยสู้กับผู้อยู่เหนือทุกคนในสามอารยธรรมหมดแล้วสิ?”
“จะพูดแบบนั้นก็ได้แต่ ส่วนใหญ่เราจะเจอแค่ร่างแยกเทพเอส มีเพียงปฏิบัติการใหญ่ถึงเจอร่างจริง แต่มีเพียงคนระดับคล็อตติถึงรับงานเช่นนั้นได้เพราะร่างจริงเทพเอสแข็งแกร่งเกินไป ฉันได้ยินว่ามีผู้อยู่เหนือกว่าสองคนที่ตกอยู่ในเงื้อมมือเขา เรามีผู้อยู่เหนือมากก็จริง แต่ผลลัพธ์นี้ก็ยังย่ำแย่”
เบโยนี่ส่ายหัว
เพราะความพยายามผูกมิตรของเขาความสัมพันธ์ของหานเซี่ยวที่มีต่อเขาจึงสนิทกว่าคนอื่น
เมื่อได้ยินคำพูดเขาหานเซี่ยวก็พยักหน้า
ความสามารถของเทพเอสเป็นที่รู้จักกันดีแต่สำหรับสามอารยธรรม หากพวกเขากัดฟัน พวกเขาสามารถกำจัดภัยคุกคามนี้ได้ ไม่จำเป็นที่ต้องทนกับเทพเอสมานานขนาดนี้ จะต้องมีบางสิ่งที่ยังเป็นปริศนา
“ครั้งนี้มีสามผู้อยู่เหนือลงมือ ดังนั้นต่อให้เราโชคร้ายและเจอกับร่างจริง เราก็ยังถอยได้”เบโยนี่กล่าว
โชคร้าย?เห้ยมีโอกาส80%ที่เราจะเจอร่างจริงในครั้งนี้
หานเซี่ยวยิ้มให้กับตัวเองเทพเอสเปิดเผยร่องรอยตอนเขาเข้าดาวแม่จักรวรรดิ นี่ต้องไม่ใช่เรื่องบังเอิญ
เมื่อคิดเกี่ยวกับเนื้อหาตอนเทพเอสติดต่อเขามันเป็นไปได้ว่าเพราะเหตุผลนี้ แต่ทว่า เขายังเลือกเข้าร่วมปฏิบัติการกวาดล้างอยู่ดี
เขาเปิดหน้าต่างสถานะภารกิจปฏิบัติการกวาดล้างแสดงอยู่บนนั้น ด้วยรางวัลมหาศาล
ปฏิบัติการรบจักรวรรดิ: ผู้ร่วงหล่น(ทำซ้ำได้)
คำแนะนำภารกิจ: ผู้ร่วงหล่น สวรรค์ของเหล่าคนผิดกฏหมายในจักรวาล มีชื่อเสียงโด่งดัง ถูกล้อมด้วยสามอารยธรรมจักรวาล วันนี้ จักรวรรดิคริมสันพบที่อยู่ของหนึ่งในกลุ่มผู้ร่วงหล่น และท่านตัดสินใจเข้าร่วม
คำเตือน: นี่คือภารกิจชุดกองกำลัง ท่านสามารถทำตามข้อกำหนดด้านล่างนี้ในระหว่างภารกิจได้
ทหารชั้นยอด: ฆ่าศัตรูกว่าสองพัน รางวัล : ค่าประสบการณ์3.8ล้าน +20แต้มสะสมจักรวรรดิคริมสัน
นายพลดุดัน: ฆ่าพวกพิเศษระดับCเป็นต้นไมปอย่างน้อย200 รางวัล ค่าประสบการณ์8.1ล้าน +30แต้มสะสม
ผู้เก็บกวาด: ฆ่าศัตรูกว่าหมื่น รางวัล : ค่าประสบการณ์13.35ล้าน +50แต้มสะสม
…
ผู้นำ: ฆ่าผู้บัญชาการกองยาน รางวัล ค่าประสบการณ์120ล้าน +220แต้มสะสมจักรวรรดิ
เผชิญหน้ากับเทพเอส(1): ลดพลังชีวิตทั้งหมดของเทพเอส0.5%แบบสะสม(ไม่ว่าจะเป็นร่างจริงหรือแยก) รางวัล ค่าประสบการณ์200ล้าน +350แต้มสะสม (ไม่จำเป็นต้องลดทีเดียว ค่อยๆลดจนครบ0.5%ของพลังชีวิตทั้งหมดก็ได้)
เผชิญหน้ากับเทพเอส(2): ลดพลังชีวิตทั้งหมดของเทพเอส5%แบบสะสม(ไม่ว่าจะเป็นร่างจริงหรือแยก) รางวัล ค่าประสบการณ์1500ล้าน +550แต้มสะสม
เผชิญหน้ากับเทพเอส(3): ลดพลังชีวิตทั้งหมดของเทพเอส15%แบบสะสม(ไม่ว่าจะเป็นร่างจริงหรือแยก) รางวัล ค่าประสบการณ์6500ล้าน +900แต้มสะสม
เผชิญหน้ากับเทพเอส(4): ประสบความสำเร็จในการร่วมมือกับกองทัพจักรวรรดิเพื่อกำจัดร่างแยกเทพเอส ทุกๆ1%ของการมีส่วนร่วมในการต่อสู้จะเป็นรางวัล : ค่าประสบการณ์250ล้าน +80แต้มสะสมจักรวรรดิ และบัตรอัญเชิญตัวละครเทพเอส
นี่ไม่ใช่โอกาสครั้งเดียวตราบเท่าที่มีปฏิบัติการกวาดล้างอีกครั้ง ภารกิจนี้จะปรากฏอีก
จักรวรรดิคริมสันคือหนึ่งในองค์กรชั้นนำของกาแล็กซี่ดังนั้นรางวัลจึงเป็นมาตรฐานของเวอร์ชั่นกลางถึงหลัง
ครั้งนี้กองยานผู้ร่วงหล่นถูกพบใกล้กับชายแดนของจักรวรรดิ ดังนั้นมันจึงหน้าที่ของจักรวรรดิที่ต้องกวาดล้าง
หานเซี่ยวรับภารกิจนี้เพราะเขาเห็นรางวัล
นี่เป็นรางวัลชุดสำหรับการเผชิญหน้ากับเทพเอสรางวัล90%มาจากข้อกำหนดภารกิจเหล่านี้ นี่หมายความว่ามันยากมาก และผู้เล่นส่วนใหญ่ก็ทำได้แค่ข้อกำหนดพื้นฐานเพื่อฆ่ากองทัพศัตรู เนื่องจากมันแทบเป็นไปไม่ได้ที่จะสร้างความเสียหายให้เทพเอส ต่อให้ข้อกำหนดภารกิจจะเป็นการสะสมความเสียหาย มันก็ยังยากเกินไป
แต่ทว่ามันต่างไปสำหรับเขา เมื่อเขาเป็นแค่ภัยพิบัติ เขายังหนีรอดเทพเอสได้ แต่ตอนนี้ แม้ร่างจริงของเทพเอสจะมา เขาอาจไม่สามารถเอาชนะได้ แต่เขาก็ยังหลบหนีได้
ผู้เล่นต้องได้รับแต้มสะสมรวม12000แต้มจากอารยธรรมจักรวาลเพื่อแลกเปลี่ยนความรู้ขั้นสูงสุดอย่างไรก็ตาม ตัวตนเขาแตกต่างจากพวกเขา และเขามีส่วนลด50% เขาต้องใช้แค่หกพันแต้มสำหรับหนึ่งความรู้ขั้นสูงสุด
ยิ่งกองกำลังแข็งแกร่งมันก็ยิ่งยากจะได้รับความโปรดปราน เพื่อได้รับความรู้ขั้นสูงสุดในอดีต ผู้เล่นแทบอุทิศชีวิตกับการทำงาน ปฏิบัติการกวาดล้างประเภทนี้ได้รับความนิยมสุด เนื่องจากหานเซี่ยวไม่อยากอยู่ในกาแล็กซี่กลางนานเกินไป เขาจึงเตรียมใช้ประโยชน์ของภารกิจนี้อย่างเต็มที่เพื่อเพิ่มความโปรดปราน
ในรายการภารกิจทั้งหมดที่จักรวรรดิมอบให้มีเพียงภารกิจนี้ที่ตรงกับข้อกำหนดเขาและมันยังสะดวกสุด
นี่ยังเป็นโอกาสสำหรับเขาที่จะแยกตัวเองจากเทพเอสและส่งสัญญาณให้เขา
หานเซี่ยวพลันนึกถึงบางสิ่งและถาม”ใช่แล้วการใช้ชีวิตในแม่น้ำดวงดาวแรกเริ่มเป็นยังไงบ้าง?ความสัมพันธ์นายกับจักรวรรดิช่างกลเป็นยังไง?”
เบโยนี่เป็นเผ่าปีศาจกองฟืนก่อนเป็นผู้อยู่เหนือปัจจุบัน เขาคงรูปลักษณ์เดิมขณะเป็นส่วนหนึ่งของเผ่าปีศาจกองฟืน เขานำเผ่าเขาภายในแม่น้ำดวงดาวแรกเริ่ม และในขณะยังใช้ชีวิตดุจโจร พวกเขาก็ถือว่าเป็นยักษ์ใหญ่ในแม่น้ำดวงดาว
จักรวรรดิช่างกลเองก็อยู่ในแม่น้ำดวงดาวแรกเริ่มดังนั้นเบโยนี่ต้องรู้จักเขา
“แมนิสัน?ทำไมถึงถาม?”เบโยนี่สับสน
“เหนือสิ่งอื่นใดเขาเป็นผู้อยู่เหนือสายช่างกล ดังนั้นฉันจึงชื่นชมเขามานานแล้ว”หานเซี่ยวให้ข้อแก้ตัว
เบโยนี่ไม่สงสัย”เราไม่ค่อยได้ติดต่อกันแต่อิทธิพลเขาหยั่งรากในแม่น้ำดวงดาวแรกเริ่ม มากกว่าฉัน หากอยากเจอเขา ฉันสามารถช่วยได้ แต่เขาอยู่ฝ่ายสหพันธ์แห่งแสง ดังนั้นการไปพบเขาเป็นการส่วนตัวอาจไม่ดีนัก”
“นายคิดมากไปอารยธรรมจักรวาลไม่เคยห้ามให้เราพบปะกันเป็นการส่วนตัว”
“โอ้แต่ฉันไม่ชอบคบหากับคนจากองค์กรอื่น”เบโยนี่ส่ายหัว
หานเซี่ยวยิ้มกลับแม้จะไม่พร้อมตอแยจักรวรรดิช่างกล ปัญหาของอโรเชียก็ทำให้เขาสนใจ
สำหรับการไปเยือนเขาไม่ได้โกหก เขาสนใจในจักรวรรดิช่างกลของแมนิสันจริงๆ แต่ทว่า นี่ยังไม่ถึงเวลา การสำรวจโลกริบหรี่กำลังใกล้เข้ามา และเขาก็ไม่มีเวลาวิ่งไปแม่น้ำดวงดาวแรกเริ่ม
แต่ทว่าเมื่อกล่าวถึงจักรวรรดิช่างกล หานเซี่ยวอดนึกถึงศัตรูตัวฉกาจเขาไม่ได้
พันเงา
ชายคนนี้ดูเหมือนจะไม่ลงมือมาหลายปีแล้วหานเซี่ยวคิดว่าเขาคงยอมแพ้ แต่ภารกิจเหยื่อยังอยู่บนหน้าต่างสถานะไม่หายไป
ฉันควรไปเยือนก้นบึ้งดวงดาวสักครั้ง
เขาไม่ลืมว่าชายคนนี้ก่อปัญหาให้เขามากแค่ไหนตอนนี้ปีกเขากำลังงอก มันถึงเวลาชำระหนี้เก่า
…
ท่ามกลางรอยแยกรอบขอบกาแล็กซี่กลางกองยานขนาดใหญ่กำลังแล่นช้าๆ นี่คือกองยานย่อยของผู้ร่วงหล่น
ในยานหลักคือวังพื้นปปกคลุมด้วยพลังงานที่เชื่อมต่อกับบัลลังก์ตรงกลาง ร่างแยกเทพเอสนั่งบนบัลลังก์และแกนพลังงานของยานก็ไหลผ่าน ส่งพลังงานให้มัน
ตอนนี้จิตสำนึกหลักของเทพเอสพลันร่อนลงร่างแยกนี้
“ไม่แน่ใจว่าจักรวรรดิจะส่งผู้อยู่เหนือคนไหนมา”เทพเอสครุ่นคิด”ข้อมูลฉันระบุว่าแบล็คสตาร์เพิ่งปรากฏตัวในจักรวรรดิคริมสันเขาจะมาหาฉันไหม?”
เขารู้เรื่องการเดินทางของแบล็คสตาร์กว่าครึ่งเดือนก่อนแล้วหากแบล็คสตาร์อยากทำการค้าขายกับเขา เขาก็ต้องหาโอกาสติดต่อ ดังนั้นเทพเอสจึงจงใจเปิดเผยร่องรอยเขาเพื่อให้จักรวรรดิสร้างโอกาสให้เขา
เขาไม่อาจออกกาแล็กซี่กลางได้ง่ายๆดังนั้น หากเขาอยากให้ร่างจริงเขาใช้ลูกบาศก์วิวัฒนาการได้ เขาทำได้แค่เชิญแบล็คสตาร์มา เพื่อป้องกันการข่มขู่หรืออะไร แบล็คสตาร์ต้องไม่มาหาเขาเอง ดังนั้นเขาต้องใช้ข้ออ้าง
“เขาควรเข้าใจเจตนาฉัน..”
หลังคิดสักพักเทพเอสก็ส่ายหัว
เขาไม่สงสัยการรับรู้ของแบล็คสตาร์เลยแต่เนื่องจากแบล็คสตาร์ไม่ติดต่อเขา มันเป็นไปได้ว่าเขาตัดสินใจไม่ตกลงกับเขา
ในสถานการณ์นี้เทพเอสรู้สึกว่าหานเซี่ยวอาจไม่มาหาเขา
…
“แบล็คสตาร์ได้ออกเดินทางแล้วเบโยนี่จะจับตาดูเขา”
ในวังทารุนามิลล์ของผู้ปกครองจักรวรรดิคล็อตติสวมสีหน้าที่อ่านไม่ได้ขณะมองเออแรนเรลอ่านรายงานข่าวกรอง
เออแรนเรลวางเอกสารในมือลงขยี้ตา”เขาเลือกสู้กับเทพเอส ซึ่งเกินความคาดหมายเรา นอกจากนี้ เวลายังบังเอิญเกินไป เขานำลูกบาศก์วิวัฒนาการมากับตัวและเทพเอสก็สนใจสิ่งนั้นเช่นกัน เราต้องระวัง”
เดิมทีมันไม่ควรเป็นความกังวลของผู้ปกครองอย่างเธอสำหรับภารกิจที่หานเซี่ยวเลือก แต่เธอรู้สึกสงสัย ดังนั้นจึงอดสนใจไม่ได้
สำหรับจักรวรรดิเรื่องที่เทพเอสพยายามขโมยลูกบาศก์วิวัฒนาการไม่ใช่ความลับ แต่มันยังมีอีกเรื่อง แม้แบล็คสตาร์จะเป็นพันธมิตรใหม่ ด้วยจักรวรรดิที่คอยดูแลเรื่องของเขาทุกเรื่อง มันยังเป็นรูปแบบของการเฝ้าระวัง
เบโยนี่ยอมรับคำเชิญหานเซี่ยวส่วนหนึ่งเพราะมีความสัมพันธ์ดีกับเขาและส่วนหนึ่งเป็นเพราะคำขอของคล็อตตินอกจากการให้ความคุ้มครอง เขายังต้องจับตาดูหานเซี่ยวด้วย
คนมักต้องระวังตัวต่อคนอื่นเสมอและจักรวรรดิก็ไม่เต็มใจเห็นพันธมิตรพวกเขาไปติดต่อกับเทพเอส
“ข้อมูลของแบล็คสตาร์แสดงว่าเขาเก่งด้านการร่วมมือทำงานกับองค์กรต่างๆมากมาย เพื่อสร้างรากฐานเขาจนมาถึงทุกวันนี้ เขาต้องไม่ใช่คนที่พอใจอะไรง่ายๆ..”เออแรนเรลเปิดตากว้าง สายตาเธอเย็นชาและไม่แยแส”หวังว่าเขาจะไม่อวดดีเกินไปและพยายามทำสิ่งเดียวกันโดยคิดว่าเขาสามารถหลอกจักรวรรดิได้”
ตอนที่ 804 ร่างหลัก
สองสามวันต่อมาในแถวจักรวาลรกร้าง ยานอวกาศขนาดเล็กของหานเซี่ยวก็เข้าใกล้กองยานจักรวรรดิขนาดใหญ่ กองยานนี้เป็นของกองทัพพิทักษ์ชายแดนจักรวรรดิที่36 นี่คือทีมที่รับผิดชอบการกำจัดแดนผู้ร่วงหล่น พวกเขากำลังรอผู้อยู่เหนือของจักรวรรดิ
หลังตรวจสอบตัวตนยานอวกาศขนาดเล็กก็สู่กองยานและเชื่อมต่อกับยานหลักเกรดทหารที่ดูเหมือนโลงศพ
หวือ!
เส้นทางเปิดและหานเซี่ยวกับคนอื่นก็เข้ายานหลักเจ้าหน้าที่มาต้อนรับพวกเขา
“ท่านแบล็คสตาร์ท่านแผดเผาและท่านจักรพรรดินีมังกร ผมรองผู้บัญชาการของผู้บัญชาการมูรากี้มาที่นี่เพื่อต้อนรับท่าน”เขากล่าวด้วยความเคารพ
แม้เอเมสจะไม่ใช่พันธมิตรจักรวรดริเธอก็คือผู้อยู่เหนือที่ติดตามหานเซี่ยวมา ดังนั้นจักรวรรดิย่อมไว้หน้าเธอ
หานเซี่ยวพยักหน้ากลุ่มนี้ติดตามรองผู้บัญชาการไป หลังเดินสักพัก พวกเขาก็ตระหนักว่าพวกเขาเดินเข้าไปในพื้นที่พัก ไม่ใช่ห้องบัญชาการ
“ผู้บัญชาการจะไม่มาพบเรา?”เบโยนี่สงสัย
รองผู้บัญชาการยิ้มขอโทษ”ผู้บัญชาการจะให้พวกท่านพักกันก่อนเขาจะจัดการเรื่องกลยุทธ์ ดังนั้นพวกท่านไม่ต้องกังวล”
หานเซี่ยวเลิกคิ้ว”เขาไม่อยากหารือเรื่องนั้นกับเรา?”
“ผู้บัญชาการกำลังยุ่งอยู่กับการคุยกับเหล่าเจ้าหน้าที่พวกท่านจะได้รับแจ้งเมื่อกลยุทธ์เสร็จสิ้น ศัตรูอาจหลบหนีได้ทุกเมื่อ เราไม่อาจนิ่งเฉยได้นานนัก เราจะออกเดินทางและกวาดล้างศัตรูโดยเร็วที่สุด โปรดรอ ตอนนั้นเราจะต้องการพลังของพวกท่าน”
หานเซี่ยวและเบโยนี่สบตากันและส่ายหัวเห็นได้ชัดว่าผู้บัญชาการมูรากี้คนนี้ไม่เต็มใจให้พวกเขาเข้าไปยุ่งกับการวางแผนกลยุทธ์หรือแม้แต่จะพูดคุยกับพวกเขา
“งั้นก็ตามนั้น”นี่เป็นครั้งแรกที่หานเซี่ยวจะร่วมรบกับกองทัพจักรวรรดิเมื่อเห็นเบโยนี่ไม่พูดอะไร เขาจึงไม่คัดค้าน
เมื่อเห็นสามผู้อยู่เหนือไม่คัดค้านรองผู้บัญชาการก็โล่งใจ จากนั้นก็บอกลูกน้องเขาให้ดูแลพวกหานเซี่ยวก่อนอำลา ตรงกลับไปห้องบัญชาการ
ห้องบัญชาการเงียบมากผู้บัญชาการมูรากี้ยืนอยู่ตรงหน้าแผนที่ดาวใหญ่และสังเกตมัน เจ้าหน้าที่รอบๆเขาต่างเงียบ
รองผู้บัญชาการเดินมาและรายงาน.”ท่านผู้บัญชาการผู้อยู่เหนือทั้งสองมาแล้วครับ”
โดยไม่หันไปมูรากี้กล่าว”พวกเขามีข้อขัดข้องไหม?”
“ไม่ครับ”
“อืมดี ฉันไม่ชอบคนขัดคำสั่ง”มูรากี้พยักหน้า”ประกาศต่อทั้งกองยานว่าเราจะออกเดินทางทันที”
เขารับผิดชอบปฏิบัติการนี้กองกำลังเขารอผู้อยู่เหนือของจักรวรรดิมานานมาก ซึ่งมูรากี้ไม่พอใจ แต่ทว่า ตำแหน่งผู้อยู่เหนือนั้นสูงมากและก็ไม่ใช่ทหารของจักรวรรดิ ดังนั้นเขาจึงพูดอะไรไม่ได้
เขาไม่ชอบผู้อยู่เหนือเหล่านี้ที่ไม่เป็นของจักรวรรดิในฐานะผู้บัญชาการกองยาน เขามองจากมุมมองกลยุทธ์ ในสายตาเขา แม้ผู้อยู่เหนือเหล่านี้จะมีตำแหน่งสูง พวกเขาก็แค่เครื่องมือทำลายล้างที่ทรงพลังบนสนามรบ
มูรากี้ไม่อยากให้ผู้อยู่เหนือเหล่านี้มีแย่งอำนาจสั่งการเขาจักรวรรดิมอบเครื่องมือเหล่านี้ให้เขา ดังนั้นพวกเขาจึงมีไว้เพื่อให้เขาใช้งาน เขาไม่คิดเสียเวลาไปหารือเรื่องกลยุทธ์กับผู้อยู่เหนือเหล่านี้
ไม่ว่าตำแหน่งจะสูงแค่ไหนกองยานหนึ่งก็สามารถมีผู้บัญชาการได้แค่คนเดียว ผู้อยู่เหนือแค่ผู้ติดตาม
เขาบอกรองผู้บัญชาการเขาให้ไปเจอผู้อยู่เหนือเพราะเขาขี้เกียจเกินกว่าจะไปต้อนรับเขายังไม่อยากเห็นผู้อยู่เหนือเหล่านี้ก้าวเท้าเข้าห้องบัญชาการ
ภายใต้คำสั่งของมูรากี้กองยานเริ่มขยับ พวกเขาเปลี่ยนเป็นลำแสง ข้ามแถบจักรวาลรกร้างและตรงไปในทิศทางของศัตรู
…
ภายในห้องหานเซี่ยว เอเมสและเบโยนี่กำลังคุยกัน
“ผู้บัญชาการกองยานนี้ดูเหมือนจะไม่ชอบเรานะ”เอเมสส่ายหัว
เบโยนี่ไม่ยอมรับหรือปฏิเสธ”ทหารของจักรวรรดิมีระเบียบวินัยสูงมากแต่ผู้อยู่เหนือมักไม่ฟังคำสั่ง คำพูดของผู้บัญชาการมักไม่ได้รับการยึดถือจริงจัง ดังนั้นจึงมีเจ้าหน้าที่ที่ไม่ชอบปล่อยให้ผู้อยู่เหนืออย่างเราไม่ยุ่งเรื่องกลยุทธ์”
หลังหยุดเบโยนี่ก็กล่าวอย่างไม่มีความสุข”ถึงอย่างนั้น มูรากี้ผู้นี้ก็อวดดีเกินไป เขาไม่อยากมาต้อนรับเราและยังบอกให้เรารอคำสั่งเขาเฉยๆ เขาคิดว่าเราเป็นทหารของเขาหรือยังไง?”
หากมันเป็นคนนอกที่กล้าทำตัวอวดดีต่อหน้าผู้อยู่เหนือเขาคงถูกฆ่าไปแล้ว แต่ทว่า ชายคนนี้คือทหารของจักรวรรดิและพวกเขาก็ไม่อาจทำอะไรได้ ซึ่งเบโยนี่ไม่พอใจมาก
แต่ทว่าหานเซี่ยวไม่สนใจอะไรมากและโบกมือ”เขาคือผู้บัญชาการ มันเป็นที่เข้าใจได้ที่เขาอยากกุมอำนาจไว้ กองทัพหนึ่งไม่อาจมีผู้บัญชาการได้สองคน แม้ตำแหน่งเราจะสูง มันก็ไม่ผิดที่เขาจะปฏิบัติกับเราเหมือนคนอื่น หากเราแค่ยอมทำตามคำแนะนำ เขาก็ไม่อาจทำอะไรได้ ดังนั้น เขาจึงแบ่งงานให้เราชัดตั้งแต่ต้นเพื่อให้เราไม่ยุ่งกับการสั่งการของเขา”
เบโยนี่มอง”นายไม่คิดว่าตัวนายเป็นผู้อยู่เหนือเลยงั้นสินะ”
หานเซี่ยวยักไหล่
ผู้อยู่เหนืออาวุโสบางคนมักทำตัวสูงส่งไม่ยอมให้มีคนไร้ความเคารพ ทัศนคติเขาแตกต่าง เขาไม่ใช่พวกคนแบบนั้น
เหนือสิ่งอื่นใดมูรากี้คือผู้บัญชาการมืออาชีพ ดังนั้นเขาจึงไม่เต็มใจถูกบอกให้ทำอะไรโดยมือสมัครเล่น อย่างไรก็ตาม หานเซี่ยวยังรู้สึกว่ามูรากี้นั้นหยิ่งจริงๆ
ไม่ว่ายังไงมันคงไม่เป็นการขอมากเกินไปสำหรับการเคารพกลุ่มคนที่แข็งแกร่งสุดในจักรวาล เขาคิดว่าเขาเป็นจอมพลแห่งจักรวรรดิหรือยังไง?
เขาส่ายหัวไม่อยากสนใจมันอีก พวกเขาอาจเจอกับร่างหลักของเทพเอส ดังนั้นเขาต้องครุ่นคิด
เทพเอสจงใจดึงดูดกองทัพจักรวรรดิเขาตั้งใจทดสอบฉันแน่
เทพเอสเคยเสนอว่าจะทำสิ่งหนึ่งให้เขาเพื่อแลกกับการใช้ลูกบาศก์วิวัฒนาการหานเซี่ยวยอมรับว่าเขาถูกล่อลวง แต่หลังพิจารณา เขาก็ตระหนักว่านี่ไม่ใช่หลุมที่เขาสามารถกระโดดเข้าไปได้
เทพเอสไม่ใช่คนใจดีข้อตกลงนั้นเป็นกับดัก สิ่งใดที่เกี่ยวกับเทพเอสมักเป็นเรื่องละเอียดอ่อน หากเขาทำข้อตกลงด้วย เขาคงเผยช่องโหว่ให้คนอื่นเหยียบ เนื่องจากเทพเอสสามารถอาศัยอยู่ระหว่างสามอารยธรรมจักรวาลได้ หานเซี่ยวไม่เชื่อว่าเทพเอสจะไม่มีส่วนเกี่ยวข้องกับสามอารยธรรมจักรวาล หากเขาเห็นด้วยกับคำขอของเทพเอส เทพเอสอาจเปิดเผยเรื่องนี้ต่อจักรวรรดิ
หลังเทพเอสใช้ลูกบาศก์วิวัฒนาการเขาสามารถฝ่าฝืนข้อตกลงได้ทุกเมื่อที่เขาต้องการ สุดท้าย เขาไม่ใช่พวกซื่อสัตย์ ความไม่แน่นอนสูงเกินไป ต่อให้เทพเอสทำตามสัญญา เขาก็มีหลายวิธีที่จะบังคับหานเซี่ยวให้ไปอยู่ข้างเขา เทพเอสไม่กลัวการทำเรื่องเลวร้าย มันง่ายสำหรับเขาที่จะฉุดหานเซี่ยวลง
หานเซี่ยวมีความกังวลอีกอย่างเทพเอสได้ขโมยลูกบาสก์จากไซเคอร์ เปิดเผยความจริงที่เขามีข้อมูลเกี่ยวกับอารยธรรมวิวัฒนาการ และตอนนี้หานเซี่ยวสามารถใช้ลูกบาศก์ได้ด้วย ดังนั้นมันจึงง่ายมากสำหรับคนที่จะสันนิษฐานว่าพวกเขาอาจข้องเกี่ยวกัน ผู้คนเริ่มสงสัยเขามานานแล้ว จักรวรรดิคริมสันไม่ตั้งคำถาม มันอาจเพราะพวกเขากำลังลอบจับตาดูเขาอยู่ อย่างไรก็ตาม หากเทพเอสอยากลากเขาลงและทำบางสิ่ง มันจะส่งผลกระทบต่อเขา
เขาไม่อาจชะลอเรื่องนี้ไปได้ตลอดเทพเอสไม่เต็มใจรอแน่ ดังนั้นเขาต้องลงมือเมื่อหมดความอดทน หากตอนนั้นเขาไม่อยู่ในกาแล็กซี่กลาง มันก็ยากสำหรับเขาที่จะพิสูจน์ความบริสุทธิ์ของเขา
การเป็นพันธมิตรจักรวรรดิให้ผลประโยชน์ระยะยาวกับเขาทำไมต้องเสี่ยง?ขัตดสินใจแล้ว เขาจะไม่กระโดดลงหลุม ในเมื่อเทพเอสไม่คิดปล่อยเขาไป เขาก็จะประกาศสงครามกับเทพเอส!
บางสิ่งอาจน่าดึงดูดและดูอร่อยแต่จริงๆแล้วมันมียาพิษ!
…
“ท่านเทพเอสเราตรวจพบกองยานของจักรวรรดิปรากฏด้านหลังเรา ตามความเร็วเรา พวกมันจะไล่ทันเราในไม่ช้า เราควรเร่งความเร็วหรือหันไปสู้ครับ?”
ภายในยานหลังของกองยานผู้ร่วงหล่นร่างแยกเทพเอสฟังรายงานจากลูกน้องเขาและโบกมือ
“หันกลับไปสู้”
เหตุผลที่เขาส่งให้กองยานมาวนรอบชายแดนจักรวรรดิก็เพื่อดึงดูดกองทัพจักรวรรดิแน่นอน เขาไม่คิดหนี
ผู้ร่วงหล่นมียานอวกาศนับสิบล้านลำและยังมีฐานลับมากมายในแถบจักรวาลรกร้างคอยสร้างยานอวกาศใหม่การใช้กองยานหนึ่งเป็นเหยื่อล่อไม่สำคัญต่อเทพเอสเลย
หากแบล็คสตาร์ไม่มาเทพเอสก็คิดจับเอสเปอร์บางคนในช่วงการต่อสู้เพื่อให้เขาไม่กลับไปมือเปล่า
กองยานผู้ร่วงหล่นหันไปยังทิศทางของกองยานจักรวรรดิเตรียมพร้อมรบ ไม่นาน กองทัพพิทักษ์ชายแดนที่36ก็ปรากฏบนเรดาห์
แม้ผู้ร่วงหล่นจะเป็นพวกนอกกฏหมายพวกเขาก็ไม่ได้ไร้อำนาจ พวกเขายิงใส่กองทัพจักรวรรดิทันที ในเวลาเดียวกัน ก็เร่งตัวขับถึงขีดสุดและพุ่งใส่กองทัพจักรวรรดิ
สามอารยธรรมและเทพเอสเป็นศัตรูเก่าแก่กันไม่จำเป็นต้องพูดให้มากตอนพบกัน การต่อสู้ปะทุขึ้นทันที
สองกองยานพุ่งเข้าหากันอย่างรวดเร็วและเจาะขบวนรบอีกฝ่าย
ยานอวกาศระเบิดในอวกาศทีละลำเปลี่ยนเป็นพลุไฟสีสันสดใส สวยงามและโหดร้าย
มีดาวเคราะห์ร้างข้างสนามรบเศษซากยานเปลี่ยนเป็นอุกกาบาตและบดขยี้กับพื้นผิว สร้างเป็นหลุมอุกกาบาตทั่ว
ยานหลักเกรดทหารของกองทัพที่36ยิงอาวุธทั้งหมดใส่ลำแสงทำลายล้างสีแดงเข้มยิงไม่หยุดและทำลายยานผู้ร่วงหล่นทีละลำ
มูรากี้มองแผนที่สนามรบสามมิติสังเกตทั้งสนามรบ เขาจ้องยานหลักศัตรูและกล่าวเสียงเย็น”โจมตียานหลักก่อน ให้สามผู้อยู่เหนือลงมือพร้อมกันและบังคับให้เทพเอสออกมา!”
คำสั่งส่งผ่านช่องทางสื่อสารเบโยนี่ขมวดคิ้วและกล่าว”ให้เราสามคนลงมือพร้อมกัน?เปิดเผยความสามารถทั้งหมดของเราทันที?”
มูรากี้ได้ยินการตอบกลับในช่องสื่อสารและกล่าวด้วยน้ำเสียงเด็ดขาด”คำสั่งของผมไม่ใช่สิ่งที่คุณจะถามได้ดำเนินการเดี๋ยวนี้!”
หัวรั้นจริงๆ..หานเซี่ยวถอนหายใจ
เกือบทุกอย่างเกี่ยวกับจักรวรรดิคริมสันล้วนดียกเว้นสิ่งนี้อารยธรรมพวกเขาทรงพลังเกินไป ดังนั้นมันจึงทำให้สมาชิกรัฐบาลบางคนมีความรู้สึกเหนือกว่าทุกสิ่งมีชีวิต
ความไม่พอใจส่องผ่านตาของเบโยนี่นี่ไม่ใช่เวลาเมหาะสมที่จะมาเถียง ดังนั้นเขาจึงทน เงียบและกระโดดออกยานเข้าสนามรบทันที ตรงไปทางยานหลักศัตรูที่เทพเอสอยู่
เอเมสไม่พอใจเล็กน้อยเธอส่ายหัวและกำลังจะก้าวเข้าสนามรบ ครั้งนี้ หานเซี่ยวพลันหยุดเธอและถอนหายใจ
“ขอโทษด้วยฉันไม่รู้ว่าผู้บัญชาการจะมีนิสัยขยะขนาดนี้และทำให้เธอต้องมาอดทน”
เอเมสหยุดเท้าหันมามองเขา มีความไม่พอใจในตาเธอหายไป และหยอกล้อ”เห็นฉันเป็นเด็กหรือไง?มันดูเหมืนอว่าฉันอยากให้นายมาปลอบหรือ?”
จากนั้นเอเมสก็บินเข้าสนามรบและตรงไปยังตำแหน่งของเทพเอสจากอีกทาง
หานเซี่ยวยิ้มและตามไป
ทันทีที่ทั้งสามเข้าสนามรบสถานการณ์ก็เปลี่ยนไป ทุกที่ที่เบโยนี่ผ่าน กลุ่มยานรบศัตรูจะเริ่มแผดเผาและปกคลุมด้วยไฟทุกชนิด แม้กระทั่งโลหะทนความร้อนสูงก็ยังเผาไหม้และเปลี่ยนเป็นของเหลว ยานทั้งลำหลอมละลายและระเบิด
เอเมสคว้ายานรบนับไม่ถ้วนตรงๆด้วยสนามพลังเธอและกวาดไปทางซ้ายขวาสร้างพื้นที่ว่างเปล่านับไม่ถ้วน ยานรบเหล่านี้ที่เข้ามาใกล้จะถูกบดขยี้ด้วยสนามพลังเธอทันที
ทั้งสองถนัดในความสามารถวงกว้างเป็นอาวุธทำลายล้างสูงบนสนามรบ!
หานเซี่ยวไม่ต้องพยายามนักเขามีความสุขที่จะหย่อนยานอยู่ด้านหลังทั้งสอง แค่ใช้กองทัพจักรกลจัดการศัตรูเพื่อทำให้ภารกิจสำเร็จ
ทั้งสามเข้าใกล้ยานหลักของศัตรูภายในยานหลัก ร่างแยกเทพเอสเห็นหานเซี่ยวและแปลกใจ
“งั้นแกก็มาจริงๆ..”
ฮึ่ม!
วินาทีต่อมาเขาก็หายไปและไปปรากฏตรงหน้าทั้งสาม โดยไม่คิดเหลือบมองเอเมสและเบโยนี่ เขาจ้องหานเซี่ยวและส่งข้อความเสียงพลังจิตด้วยน้ำเสียงคาดหวัง
“แบล็คสตาร์แกเข้าใจฉันดีจริงๆ แกตัดสินใจทำข้อตกลงกับฉันสินะ?”
ปัง!
หานเซี่ยวยิงปืนใหญ่ไซโอนิคนับไม่ถ้วนใส่ร่างแยกเทพเอสโดยไม่ลังเลกระแทกมันกับผิวดาวร้าง
ทั้งสามตามไปติดๆและลอยในท้องฟ้าของดาวร้างเอเมสลากร่างแยกเทพเอสที่บดขยี้กับพื้นขึ้นมาด้วยสนามพลังเธอและบีบมันเป็นเงาดำบิดเบี้ยว จากนั้นก็ดึงมันขึ้นมาหาพวกเธอ
เบโยนี่ยกมือและเล็งร่างแยกเทพเอสทันใดนั้น เปลวไฟก็ปะทุจากภายในตัวร่างแยกเทพเอส
หานเซี่ยวเปิดใช้งาน[การปลดปล่อยยีน]และกองทัพจักรกลเขาก็ยิงใส่ร่างแยกเทพเอสต่อเนือง
ฟุ้บ!
ลำแสงสีน้ำเงินเจาะร่างแยกเทพเอสเหมือนพายุสายฟ้าและหายไปในอวกาศ
ปึก!
ร่างแยกเทพเอสระเบิดเป็นหมอกดำและค่อยๆกระจายหายไป
แม้กระทั่งไซเคอร์ก็สามารถกำจัดร่างแยกเทพเอสสองร่างได้ลำพังนับประสาอะไรกับทั้งสามลงมือพร้อมกัน
“ไม่เลว”มูรากี้พยักหน้า
ตอนนี้ร่างแยกเทพเอสถูกกำจัดแล้วเขาแค่ต้องกวาดล้างกองยานศัตรู
เพียงเมื่อเขากำลังคิดเช่นนั้นวังวนพลังงานก็ปรากฏในจุดที่ร่างแยกเทพเอสถูกกำจัด ชายน่าเกลียดสวมเสื้อคลุมธรรมดาก้าวออกมา
ทันทีที่คนๆนี้ปรากฏราวกับเขานำพาแรงกดดันมหาศาลมากับตัว กาลอวกาศรอบตัวเขาดูเหมือนจะหยุดนิ่ง
วินาทีนั้นสีหน้าของมูรากี้ก็เปลี่ยนไป
ร่างที่ผ่อนคลายของเบโยนี่เกร็งขึ้นทันที
เอเมสขมวดคิ้วแน่น
หานเซี่ยวหรี่ตา
นี่ไม่ใช่ร่างแยกอีกต่อไปแต่เป็นร่างจริง!
อาชญากรชื่อดังก้องจักรวาล!
เทพเอสจ้องหานเซี่ยวอย่างเย็นชา
“ฉัน…ผิดหวังกับคำตอบของแกมาก”
“แต่..เมื่อแกคิดปฏิเสธฉันแกก็ไม่ควรมาหาฉัน”