The Legendary Mechanic - ตอนที่ 807-808
ตอนที่ 807 บัตรอัญเชิญตัวละครเทพเอส : ผนึกเอสเปอร์
แม้พวกเขาจะระวังตัวอยู่เทพเอสก็ไม่ปรากฏอีกแล้ว
“เราไล่เขาได้?”เสียงของเบโยนี่ดังขึ้นเต็มไปด้วยความสงสัยและไม่เชื่อ
เอเมสมองสนามรบกองยานส่ายหัวและกล่าว”เขาไม่ต้องการกองยานเขาอีกแล้ว?”
“พวกเขาล้วนเป็นอาชญากรไม่ใช่คนดี”หานเซี่ยวกล่าว”ทั่วทั้งจักรวาล อาชญากรหน้าใหม่ถือกำเนิดทุกวินาที คนนับไม่ถ้วนอยากขอความคุ้มครองจากเขา เทพเอสมีกำลังคนไม่รู้หมด เขาจะสนใจชีวิตลูกน้องไปทำไม?หากเขาสนใจ เขาคงไม่ใช้ลูกน้องเป็นเหยื่อ”
โดยปราศจากเทพเอสกองยานผู้ร่วงหล่นนี้ก็แตกกระเจิงและหลบหนีไปทุกทิศทาง กองทัพจักรวรรดิไล่ตาม ทั้งสามไม่ทำอะไรเกี่ยวกับยานที่หลบหนีและกลับไปยานย่อยลำหนึ่ง การไล่ล่ากองยานศัตรูคืองานของกองทัพ
เมื่อยานหลักถูกทำลายโดยเทพเอสมูรากี้จึงต้องขึ้นยานย่อนเพื่อออกคำสั่ง ทันทีที่ทั้งสามเข้ามาในยาน พวกเขาก็เห็นทหารหลายคนกำลังยืนรออยู่ข้างประตูตลอด
“ทะ-ท่านผู้บัญชาการเชิญท่านทั้งสามไปห้องบัญชาการครับ”ทหารประหม่า ทหารทั้งหมดบนยานเห็นการต่อสู้ระหว่างทั้งสามและเทพเอส พวกเขาชัดเจนดีว่าทั้งสามแข็งแกร่งแค่ไหน
“งั้นเขาก็ยินดีให้เราไปห้องบัญชาการแล้ว?”หานเซี่ยวหัวเราะและเดินนำไป
เมื่อทั้งสามเข้าห้องบัญชาการมูรากี้ที่จ้องแผนที่อยู่และพูดออกคำสั่งไม่หยุดก็หันมา ใบหน้าเขาเต็มไปด้วยความเคารพและรีบมาหาทั้งสาม
“ท่านแบล็คสตาร์ท่านช่วยชีวิตผมไว้!ผมขออภัยอย่างยิ่งกับสิ่งที่เกิดขึ้นก่อนหน้านี้!”ทัศนคติของมูรากี้เปลี่ยนไปโดยสิ้นเชิง
ไม่ว่าเขาจะหยิ่งแค่ไหนเขาก็ไม่อาจทำแบบนั้นกับแบล็คสตาร์ ผู้ช่วยชีวิตเขาไว้ได้
หานเซี่ยวหรี่ตาและพูดอย่างไม่แยแส”คุณคือผู้บัญชาการคุณสามารถหยิ่ง สามารถทำตัวสูงส่งและสามารถสร้างปัญหาได้ทุกชนิด…แต่คุณไม่อาจลืมหน้าที่คุณได้ การต่อสู้ยังไม่จบ แต่คุณก็ออกตำแหน่งบัญชาการและมาขอโทษเรา?ไม่ว่าคุณจะมีทัศนคติยังไง มันจะไม่เปลี่ยนความแตกต่างในตำแหน่งระหว่างคุณและเรา คุณคิดว่าเราสนใจคำขอโทษคุณ?”
ห้องบัญชาการเงียบผู้คนรอบข้างไม่กล้าส่งเสียง
มูรากี้ตัวสั่นเขาตั้งใจมาขอโทษจริงๆ แต่ไม่คิดว่าจะได้รับคำตอบเช่นนี้ มันน่าอับอายมาก เขาอดไม่ได้ที่จะรู้สึกผิด แต่ด้วยสีหน้าอึดอัด เขาไม่กล้าพูดอีกและกลับไปสั่งการรบต่อ
หลังหานเซี่ยวออกไปผู้คนในห้องถึงกล้าหายใจ
ความรำคาญในหัวใจเบโยนี่หายไปทันทีเขาตบไหล่หานเซี่ยวและหัวเราะ”เจ้าหน้าที่ทหารอย่างเขาไม่รู้วิธีเคารพคนแข็งแกร่งกว่า นั่นจะสอนบทเรียนให้เขา”
หานเซี่ยวเหลือบมองเขาและส่ายหัวมันไม่ใช่ทัศนคติของมูรากี้ที่เขาไม่พอใจ หากนี่แค่เกิดกับเขา เขาคงหัวเราะสบายใจ แต่ นี่ไม่ใช่แค่การดูหมิ่นเขา เอเมสไม่ใช่พันธมิตรจักรวรรดิ เธอมาช่วยเขาเพราะเธอใจดี แต่เธอยังถูกปฏิบัติแบบนี้ ดังนั้นหานเซี่ยวจึงไม่พอใจ
ดังนั้นแม้มูรากี้จะขอโทษอย่างจริงใจ เขาก็ยังไม่ยอมรับมันและใช้โอกาสเพื่อสอนบทเรียนเขา เอเมสไม่ใช่พันธมิตรจักรวรรดิ ดังนั้นเธอจึงไม่มีสิทธิ์พูด มีเพียงเขาถึงช่วยระบายความโกรธเธอได้ ถึงแม้เอเมสจะไม่เคยขอให้เขาทำแบบนั้นก็ตาม
เอเมสมองหานเซี่ยวด้วยใบหน้าสนใจ”โอ้นี่คือครั้งแรกเลยที่ฉันเห็นนายอวดเบ่งตัวตนของผู้อยู่เหนือ ในที่สุดความอวดดีนายก็ไล่ทันเขาแล้ว?”
หานเซี่ยวมองเธอและเลิกคิ้ว”อย่าบอกฉันว่าเธอไม่ชอบมัน”
“ฉลาด”หานเซี่ยวหัวเราะพลางส่ายหัวเธอจิ้มแก้มหานเซี่ยวด้วยนิ้วเรียว
หานเซี่ยวหันไปมองด้วยใบหน้าหน่ายใจจับมือเอเมสและกดมันลง”แค่คำพูดก็พอแล้ว”
พวกเขาคุยเล่นกับขณะเดินกลับห้องพักหานเซี่ยวเข้าห้องลำพังและปิดประตูขังตัวเอง ตอนนี้ ในที่สุดเขาก็มีเวลาพัก
หานเซี่ยวได้รับอะไรมามากจากการทดสอบนี้
เป้าหมายบนกระดาษคือการร่วมภารกิจกำจัดและได้รับแต้มรวมถึงชี้จุดยืนเขา
หนึ่งในเป้าหมายลับคือเพื่อประเมินพลังของเทพเอส
ช่างกลหานชัดเจนถึงความสามารถเขาดีและรู้ว่าเขาไม่อาจต่อกรกับเทพเอสได้ซึ่งทำให้เขาซ่อนลูกบาศก์วิวัฒนาการไว้ล่วงหน้า แต่ทว่า อย่างน้อยเขาก็เป็นผู้อยู่เหนือ ดังนั้นเขาจึงไม่กลัวและรู้ว่าเขาสามารถรับมือกับเทพเอสได้บ้าง
เขาอยากทดสอบพลังของเทพเอสเองและรับรู้ความแตกต่างระหว่างพวกเขาแบบนี้ เขาจะได้คิดหาวิธีรับมือกับเทพเอสใน
อนาคตได้
การทดสอบให้ผลลัพธ์เขาเทพเอสนั้นไร้เทียมทาน เหมือนหลุมไร้ก้นบึ้ง
“ระดับพรสวรรค์ และความรู้ขั้นสูงสุดต้องได้รับ และกองทัพจักรกลก็ต้องขยายเพิ่ม”หานเซี่ยววางแผนล่วงหน้า
กองทัพช่างกลผู้อยู่เหนือสามารถเดินทางไกลได้โดยที่เขาไม่ต้องอยู่ด้วยนอกจากความสามารถตัวเขา เขายังต้องเพิ่มขนาดและพลังของกองทัพจักรกลเขา หลังเขาได้รับความรู้ขั้นสูงสุดเพื่อเปิดใช้งาน[ที่ปรึกษาราชา] เขาจะสามารถเสริมพลังกองทัพเขาได้อีก
เป้าหมายสำคัญสุดครั้งนี้คือจับตามองเทพเอส
เทพเอสมีความสามารถหลากหลายแต่เขาไม่ใช่จอมเวทย์ ถึงแม้โอกาสจะเล็กน้อย เขาก็ต้องลอง ด้วยความคิดนี้ หานเซี่ยวลอบโยนตราสังเกตใส่เทพเอสในช่วงต่อสู้ น่าเศร้า เทพเอสพบมันและทำลายมันทันที
หานเซี่ยวไม่เสียใจกับเรื่องนี้นักมันคือเกมเดิมพันอยู่แล้ว มันคงน่าแปลกใจหากได้ผล แต่เขาก็เตรียมใจไว้แล้วที่จะล้มเหลว
ติ้ง
เวลานี้การแจ้งเตือนภารกิจเสร็จผุดบนหน้าต่างสถานะ
“ในที่สุดการต่อสู้ก็จบลงแล้ว?”
เขาเปิดหน้าต่างสถานะและดูการแจ้งเตือน
[สงครามจักรวรรดิ: ผู้ร่วงหล่น(ทำซ้ำได้)]สำเร็จ!
เป้าหมายที่ท่านทำสำเร็จคือ: [ลูกสมุนชั้นยอด] [นักรบผู้กล้า] [พวกกินซาก]..[เผชิญหน้ากับเทพเอส1] [เผชิญหน้ากับเทพเอส2] [เผชิญหน้ากับเทพเอส3] [เผชิญหน้ากับเทพเอส4]
คะแนนภารกิจ: เหลือเชื่อ
ท่านได้รับคะแนนภารกิจเหลือเชื่อ: โบนัสค่าประสบการณ์9พันล้าน รางวัลสุ่ม2
“เยอะมาก”หานเซี่ยวยินดีภารกิจทั้งหมดที่เกี่ยวกับผู้อยู่เหนือมักให้รางวัลสูง มันเหมือนกับตอนเขาสู้กับฮีเบอร์
รางวัลค่าประสบการณ์ของภารกิจนี้มากถึงสามหมื่นล้าน!มันมากมายแม้แต่ในระดับเขามันมาจากรางวัลที่เกี่ยวกับเทพเอสซะส่วนใหญ่ ซึ่งเขาสามารถทำสำเร็จได้ง่ายแต่กลับยากมากสำหรับผู้เล่น
หลังตรวจดูหานเซี่ยวก็ยิ้ม เขาได้โชคครั้งใหญ่ แต้มสะสมสำหรับจักรวรรดิมากถึงแปดพันและมากพอจะแลกความรู้ขั้นสูงสุด
หานเซี่ยวเก็บรางวัลสุ่มไว้ก่อนมองบัตรอัญเชิญตัวละครเทพเอสจาก[เผชิญหน้ากับเทพเอส4]
บัตรอัญเชิญตัวละครเทพเอส:[ความสามารถเอสเปอร์ ผนึกเอสเปอร์] ผ่านการสัมผัสทางกาย ยับยั้งยีนเอสเปอร์ของเป้าหมายและห้ามเป้าหมายจากการใช้ความสามารถเอสเปอร์ ได้ผลเฉพาะกับเอสเปอร์ อัตราความสำเร็จและระยะเวลาขึ้นอยู่กับความแตกต่างงระหว่างผู้ใช้กับเป้าหมายในแง่ของระดับ ระดับพลังงาน และโชค
ระยะเวลาต่ำสุดหากมีผล: 0.25วินาที
การใช้: 0/2
“ผนึกเอสเปอร์?”หานเซี่ยวจำได้ว่านี่คือความสามารถเอสเปอร์ที่เทพเอสใช้กับเบโยนี่
เทพเอสมีความสามารถมากมายและบัตรอัญเชิญตัวละครสามารถสุ่มได้แค่หนึ่งโชคดี ความสามารถนี้เป็นประโยชน์มาก ต้องขอบคุณที่เขาแตะตัวเฟย์ดินก่อนสู้
หานเซี่ยวไตร่ตรองความสามารถของบัตรอัญเชิญตัวละครนี้ดันโต้ตอบเทพเอสพอดี แต่ทว่า ความแตกต่างในค่าสถานะระหว่างเขาและเทพเอสยังสูงเกินไป มันไม่มีทางได้ผล
บางทีเมื่อระดับเขาไล่ทันเทพเอสบัตรนี้อาจมีผล
หานเซี่ยวเก็บมันไว้เป็นไพ่ตาย
“ตอนนี้ฉันลากเส้นชัดเจนแล้วเป้าหมายการเดินทางนี้บรรลุ…ฉันควรแลกเปลี่ยนความรู้ขั้นสูงสุดทีหลังและนัดกับกองทัพ รวมถึงทำการติดต่อกับผู้เล่นเส้นทางดาว”
หนึ่งในสองเป้าหมายเขาลุล่วงแล้วและหานเซี่ยวก็วางแผนไว้แล้วว่าจะทำอะไรต่อ
“อีกเรื่อง..”
เขาค่อนข้างกังวลเรื่องรูหนอนที่เทพเอสพูดถึงและอยากรู้ว่าเทพเอสวางแผนอะไร
“เมื่อฉันกลับไปวงแหวนดาวกระจายฉันต้องหาเวลาไปเยี่ยมอารยธรรมของแฮร์โรฟาลและดูว่าจะได้ข้อมูลรูหนอนไหม ฉันต้องหาว่าทำไมเทพเอสถึงอยากได้มัน..”
ดวงตาหานเซี่ยวเป็นประกาย
เขารู้ว่าเรื่องนี้ต้องไม่เรียบง่าย…
…
ในอีกห้องเบโยนี่เปิดอุปกรณ์สื่อสารและโทรหาคล็อตติ
สายถูกรับอย่างรวดเร็ว
“คล็อตติการต่อสู้ที่นี่จบลงแล้ว”
“มันเป็นยังไง?”คล็อตติถาม
“เราพบร่างหลักของเทพเอส..”เบโยนี่อธิบายทุกสิ่ง
คล็อตติพยักหน้า”นี่หมายความว่าเทพเอสติดต่อกับแบล็คสตาร์มาก่อนจริงๆแต่แบล็คสตาร์ไม่เห็นด้วย อืม…มีความเป็นไปได้ที่พวกเขาอาจเล่นละครตบตา ฉันจะรายงานเรื่องนี้ต่อท่านเอง”
“มันไม่ดูปลอมเลย”เบโยนี่พูดแทนหานเซี่ยว”ฉันรู้สึกว่าแบล็คสตาร์รู้ว่าจักรวรรดิสงสัยเขาและนี่ก็เพื่อแสดงจุดยืนเขา เหนือสิ่งอื่นใด เขาคือพันธมิตรใหม่เรา ต่อให้มีข้อสงสัย มันก็จะไม่ได้รับการเผยแพร่ มันเป็นไปไม่ได้ที่จะซักถามคนอย่างเขา ดังนั้นเขาจึงต้องทำแบบนี้”
คล็อตติไม่แสดงความคิดเห็นเขามีหน้าที่แค่รายงาน การตัดสินขึ้นอยู่กับเออแรนเรล
“แบล็คสตาร์ถามถึงจักวรรดิช่างกลด้วย”เบโยนี่กล่าว
“นั่นเป็นเรื่องปกติ”คล็อตติส่ายหัว
หลังพูดไม่กี่คำเบโยนี่ก็วางสายและพ่นไฟออกจากปาก
ไม่ใช่แค่เขาจะสนิทกับฝ่ายทหารรุ่นใหม่แต่เขายังเป็นคนสนิทของผู้ปกครอง ในช่วงการเดินทางนี้กับหานเซี่ยว เขาไม่ได้แค่กำลังสร้างความสัมพันธ์กับหานเซี่ยว แต่เขายังถูกเออแรนเรลสั่งให้จับตาดูการกระทำของแบล็คสตาร์
…
ในแถบจักรวาลรกร้างของกาแล็กซี่กลางไกลจากสนามรบกองยานผู้ร่วงหล่นอีกกองยานกำลังซ่อนตัว
วังวนมิติปรากฏเหนือกองยานและเทพเอสก็เดินออกมา
ยานหลักเปิดประตูและต้อนรับเทพเอส
เมื่อเขากลับขึ้นยานหลักทุกคนก็ยืนขึ้นและทักทายเขา
“ท่านเทพเอส!”
“นายท่าน!”
เทพเอสไม่สนใจพวกเขาและเดินไปที่บัลลังก์เขานั่งลงและจ้องมองคนด้านล่าง”ความคืบหน้าการวิจัยเป็นยังไงบ้าง?”
“พวกเขายังจับคู่ข้อมูลกับพิกัดครับเราไม่รู้ว่ามันต้องใช้เวลานานแค่ไหน ชุดข้อมูลที่ได้มาแปลกเกินไป มันดูเหมือนจะไม่อยู่ในจักรวาลที่ได้รับการสำรวจ ต่อให้เรามีข้อมูล โดยปราศจากการจับพิกัดบนแผนที่ดาว ภาระก็ใหญ่เกินไป”
“ผลลัพธ์คือสิ่งเดียวที่ฉันอยากได้ยืนยันตำแหน่งให้เร็วที่สุด”เทพเอสกล่าวเสียงเย็น จากนั้นก็หันไปมองผู้ช่วยข้างเขา”ช่วยฉันติดต่อกับคนของศาสนจักรอาร์เคน”
“โอ้?ว่ายังไงนะครับ?”
คนๆนี้เลียปากลิ้นเขาเป็นสีม่วงและเต็มไปด้วยหนาม เหมือนแส้ หน้ากากสีแดงสดฝังในกระดูกหน้าเขาราวกับมันเป็นหน้าเขาจริงๆ หน้ากากบดบังครึ่งหน้าส่วนบน ไม่เผยตาเขาด้วยซ้ำ มีเพียงปากและคางที่เห็นได้ เขาเป็นสิ่งมีชีวิตกระดูกสันหลังตั้ง แต่ไม่ใช่มนุษย์ สูงประมาณ1.7เมตร หลังเขางอเหมือนคนแก่ ผิวเขาหนา เป็นสีม่วงเข้มและหยาบเหมือนกระดาษทราย เขามีแขนสองคู่ ดูผอมแห้งและร่างกายก็เหมือนต้นไม้ตาย
ฟาคิเซ็นฉายาปีศาจม่วง หนึ่งในเมล็ดพันธ์ผู้อยู่เหนือในกาแล็กซี่กลางหลายปีก่อน เขาเคยเป็นอาชญากรที่ถูกไล่ล่าโดยอารยธรรมจักรวาล จากนั้นก็เข้าร่วมแดนผู้ร่วงหล่นและกลายเป็นคนสำคัญภายใต้เทพเอสมานับร้อยปี
“บอกคนของศาสนจักรพวกเขาอยากได้ข้อมูลของอารยธรรมวิวัฒนาการสินะ?ฉันจะให้มันกับพวกเขา.
“เงื่อนไขละครับ?”ฟาซิเค็นเงยหัว
“ร่วมมือกันและชิงลูกบาศก์วิวัฒนาการบอกพวกเขา หากสำเร็จ ลูกบาศก์จะเป็นของพวกเขา ฉันจะขอใช้ไม่กี่ครั้ง”เทพเอส
กล่าว
เพื่อไม่ให้ทำผิดพลาดเหมือนเดิมเขาตัดสินใจยืนความสามารถของไซเคอร์เพื่อระบุตำแหน่งลูกบาศก์วิวัฒนาการ ด้วยความที่เขาเคยฆ่าสมาชิกเผ่าเนตรม่วงไปมาก ไซเคอร์ย่อมไม่ร่วมมือกับเขา ดังนั้นเทพเอสจึงคิดเจรจากับศาสนจักรโดยตรง ตราบเท่าที่ศาสนจักรตัดสินใจ เขาย่อมยืมพลังของไซเคอร์ได้ทางอ้อม
ศาสนจักรหลงใหลในลูกบาศก์มากนับตั้งแต่เทพเอสขโมยลูกบาศก์จากไซเคอร์และทำให้สาธารณะรู้ว่าเขาครอบครองข้อมูลเกี่ยวกับอารยธรรมวิวัฒนาการ ศาสนจักรอาร์เคนก็ยื่นข้อเสนอให้เขาลับๆหลายครั้ง
ตามคาดการชื่นชมเหล่าเทพเจ้าของศาสนจักรคือหนึ่งในเหตุผลหลักที่ทำไมพวกเขาถึงอยากได้ลูกบาศก์ เทพเอสไม่รู้รายละเอียดนัก
แม้เทพเอาจะรู้ว่าเขาเป็นศัตรูของสามอารยธรรมแต่ในเมื่อเขามีเป้าหมายเดียวกับศาสนจักรอาร์เคน มันจึงไม่ใช่เป็นไปไม่ได้สำหรับพวกเขาที่จะร่วมมือกันในที่ลับ นอกจากนี้ เป้าหมายของการเจรจาคือศาสนจักรอาร์เคนแสนลึกลับ ซึ่งมีจุดยืนที่คลุมเครือสุดในบรรดาสามอารยธรรมจักรวาล เทียบกับสหพันธ์แห่งแสงและจักรวรรดิคริมสัน ศาสนจักรอาร์เคนอยากฆ่าเขาน้อยสุด
“เรากำลังทำข้อตกลงกับศาสนจักรอาร์เคน?นั่นเสี่ยงมากหากมีโอกาส พวกเขาอาจกำจัดท่าน”ฟาซิเค็นกล่าวด้วยน้ำเสียงเยาะเย้ย
“ฮี่ๆ”เทพเอสยิ้ม”ฉันจะปล่อยเรื่องนี้ให้นายจัดการฉันต้องนอนพัก”
ปึก!
ลิ้นของ
ฟาซิเค็นตวัดฟาดอากาศและสร้างเสียงที่มีความหมายหเมือนมนุษย์ดีดนิ้วแสดงว่าเขาเข้าใจ
เทพเอสลดหัวเขาใบหน้าเขาเปลี่ยนกลับเป็นวังวนหมอกดำและหลับใหลไป
ฟาซิเค็นชินแล้วความสามารถเอสเปอร์ต่างๆของเทพเอสล้วนดำรงอยู่ในร่างเขาในรูปแบบของห่วงโซ่พันธุกรรม ซึ่งมีภาระหนักมากบนตัวเขา การสลับใช้ความสามารถอย่างต่อเนื่องจะทำให้เซลล์เขามีอายุมากขึ้น เมื่อเทพเอสดูดซับความสามารถเอสเปอร์จากคนอื่น เขามักใช้อายุขัยเขาแลกกับพลัง
เซลล์ของเทพเอสเริ่มเสื่อมแล้วและอายุขัยเขาก็เข้าสู่ช่วงท้าย แต่ทว่า เขายังมีความสามารถเอสเปอร์ที่ระงับความชราและให้เขากลับสู่วัยหนุ่มชั่วคราว ซึ่งจะกระตุ้นผ่านการนอน นี่คือเหตุผลที่เขามักหลับ โดยปกติ หลังการต่อสู้ เทพเอสจะมักหลับ
“แบล็คสตาร์..”
ฟาซิเค็นเลียปากเขารู้ว่าเทพเอสไปเจรจากับแบล็คสตาร์ เห็นได้ชัดว่ามันไม่ดีและเทพเอสก็กลับมามือเปล่า ซึ่งทำให้เขาตกตะลึง
…
หลังสนามรบถูกเก็บกวาดกองทัพมูรากี้ก็กลับไปฐานกองทัพชายแดนพร้อมกับหานเซี่ยว
มีฐานกองทัพชายแดนนับล้านทั่วแนวชายแดนกว้างใหญ่ของจักรวรรดิตำแหน่งสูงสุดในฐานคือพันเอก
เมื่อศึกนี้จบหานเซี่ยวและคนอื่นก็กล่าวอำลาพันเอกของฐานและออกไป
หานเซี่ยวและเบโยนีบอกว่าจะพบกันอีกครั้งตอนพวกเขามีเวลาก่อนแยกทางกันเบโยนี่ออกไปลำพัง ส่วนหานเซี่ยวพาเอเมสและคนอื่นตรงไปทางตำแหน่งที่กองทัพแบล็คสตาร์กำลังสร้างสาขาใหม่
ขณะตรงไปที่นั่นพวกเขายังอ้อมและหานเซี่ยวก็เก็บลูกบาศ์กับกองทัพจักรกลเขามา
เนื่องจากฐานพกพาของกองทัพยังมาไม่ถึงพวกเขาจึงไม่ต้องรีบ ดังนั้นหานเซี่ยวจึงชะลอเวลาเดินทาง นี่คือครั้งแรกที่ฮีล่าและคนอื่นมากาแล็กซี่กลาง พวกเขาหยุดที่นี่และที่นั่นระหว่างทาง บางครั้งก็จะไปเยือนดาวอาณานิคมของจักรวรรดิเพื่อเที่ยว
ด้วยตัวตนของหานเซี่ยวการเดินทางพวกเขาราบรื่น
หานเซี่ยวให้ความสนใจกับเส้นทางดาวบนฟอรั่มผู้เล่นตลอดและดูปฏิกิริยาของผู้เล่นนับตั้งแต่ครึ่งเดือนก่อนตอนเขาบอกว่าจะมาเส้นทางดาว ผู้เล่นที่นั่นก็ตื่นเต้นและคาดหวัง พวกเขาอดใจรอให้กองทัพแบล็คสตาร์ข้ามทุ่งดาวมาพบพวกเขาไม่ได้
การขนส่งในกาแล็กซี่กลางมีประสิทธิภาพมากเมื่อหานเซี่ยวยังอยู่ระหว่างทาง ทีมหลักของกองทัพก็มาถึงจุดหมายและมาถึงต่อหน้าผู้เล่น
หานเซี่ยวยังไม่มาเป็นการส่วนตัวแต่ก็ชัดเจนถึงผลกระทบของกองทัพเขาที่ข้ามเซิร์ฟบนฟอรั่ม
ความหลงใหลของผู้เล่นระเบิด!
ตอนที่ 808 เก็บเกี่ยว
ในกาแล็กซี่ทุ่งดาวเปรียบเสมือนเซิร์ฟเวอร์ที่มีเนื้อเรื่องและเหตุการณ์ต่างกัน ผู้เล่นมีประสบการณ์ต่างกัน ทำงานให้กับอารยธรรมต่างกัน เจอกับตัวละครต่างกันและเห็นทิวทัศน์ต่างกัน
แม้เหตุการณ์ในทุ่งดาวต่างๆจะไม่เหมือนแต่ทิศทางโดยรวมนั้นเหมือนกัน
ในเวอร์ชั่น1.0ผู้เล่นเกิดบนดาวเคราะห์เริ่มต้นและประสบกับเหตุการณ์ที่นั่น ในเวอร์ชั่น2.0 ผู้เล่นประสบความปั่นป่วนบนดาวเริ่มต้นพวกเขา จากนั้น ภายใต้การแนะนำของฝ่ายต่างๆ ผู้เล่นได้ก้าวเข้าสู่จักรวาลอย่างเป็นทางการและเริ่มการผจญภัยของพวกเขาภายในระบบดาว ตอนนี้ ในเวอร์ชั่น3.0 เวทีของผู้เล่นเริ่มขยายไปกลุ่มดาวที่พวกเขาอยู่ ในเวลาเดียวกัน พวกเขาก็เริ่มเข้าใจและกลายเป็นมีส่วนร่วมในเรื่องต่างๆ
สโมสรมืออาชีพของประเทศต่างๆเลือกทุ่งดาวต่างๆเป็นฐานพวกเขาเพื่อให้ได้รับทรัพยากรง่ายๆและผู้เล่นท้องถิ่นพวกเขาก็เต็มใจมากที่จะเริ่มตัวละครพวกเขาที่นั่น เส้นทางดาวประกอบด้วยผู้เล่นรัสเซียและออสเตรเลียเป็นส่วนใหญ่ รวมถึงสโมสรบางแห่งจากประเทศเล็กๆ แน่นอน ผู้เล่นสามารถเริ่มในทุ่งดาวใดก็ได้ตามใจชอบ ดังนั้นผู้เล่นจากประเทศอื่นจึงมีอยู่ในเส้นทางดาวด้วย
ผู้เล่นมีประสบการณ์กับกบฏโซเดรี่ยนบนดาวเริ่มต้นพวกเขาดาวนี้เป็นดินแดนชนบทของอารยธรรมระบบดาว แต่มันเป็นพื้นที่ปกครองตนเองเนื่องจากประวัติศาสตร์มัน ผู้ปกครองดาวมีส่วนเกี่ยวในเรื่องละเอียดอ่อนและถูกลงโทษด้วยอารยธรรมระบบดาว ผู้ปกครองโซเดรี่ยนไม่เต็มใจยอมแพ้และกบฏ
ในช่วงกลางถึงปลายของเวอร์ชั่น2.0กบฏถูกจัดการและอารยธรรมระบบดาวก็กลับเป็นแบบเดิม ผู้ปกครองนำกองยานเขาและหลบหนีไป ผู้เล่นเข้าจักรวาลเนื่องจากปัจจัยภายนอก พวกเขาไม่มีคนชี้แนะเช่นผู้เล่นวงแหวนดาวกระจาย ผู้เล่นของเส้นทางดาวจึงแยกกันหลายทาง บางคนถูกรับสมัครโดยอารยธรรมระบบดาว บางคนหลบหนีไปกับโซเดรี่ยน และบางคนเดินทางรอบจักรวาล กระจัดกระจายไปในฝ่ายต่างๆและอารยธรรมในระบบดาว ไม่เหมือนคนในวงแหวนดาวกระจาย
ในเวอร์ชั่น3.0เนื่องจากเส้นทางดาวคือฐานจักรวรรดิคริมสัน เกือบทุกอารยธรรมที่นั่นปกครองด้วยจักรวรรดิ และไม่มีใครกล้าสร้างปัญหา ดังนั้น มันสงบสุขมาก ไม่เหมือนทุ่งดาวอื่น ไม่กี่เดือนหลังเริ่มเวอร์ชั่น เมื่อเนื้อเรื่องหลักสงครามลับในวงแหวนดาวกระจายจบ ผู้เล่นในเส้นทางดาวกระตุ้นเนื้อเรื่องหลัก
เนื่องจากมีหลายกองกำลังและไม่มีปัญหามากผู้เล่นจึงหาความสนุกกันเอง PVPกลายเป็นบรรทัดฐานและสงครามกิลด์ก็มีบ่อยมาก ด้วยความที่ทั้งรัสเซียและออสเตรเลียเห็นสถานที่นี้เป็นฐานพวกเขา ผู้เล่นปกติบนทั้งสองฝั่งจึงอยู่กองกำลังตรงข้ามกัน มันอึกทึกมาก
เพื่อให้การสื่อสารสะดวกขึ้นผู้เล่นมักมีพื้นที่สาธารณะ พื้นที่ปลอดภัยที่ใหญ่สุดคือดาวการค้าชื่อกิลแมน มันเป็นสถานีขนส่งประตูดาวที่เจริญมาก ผู้เล่นหลายคนตั้งร้านและมองหาทีมที่นั่น
ตำแหน่งที่กองทัพแบล็คสตาร์เลือกคือดาวนั้น
เหมือนวันปกติวันนี้ ผู้เล่นหลายคนปดาวกิลแมนโดยเที่ยวบินกาแล็กซี่และเข้าคิวที่ท่าอวกาศของดาว คิวยานทอดยาวเหมือนแม่น้ำ
รองประธานของกิลด์อำนาจและเกียรติยศ’วอดก้า’อยู่ในยานพร้อมกับสมาชิกกิลด์มากมายกิลด์นี้คือกิลด์ของสโมสรดังรัสเซีย เป้าหมายคือให้ทรัพยากรแก่ทีมมืออาชีพของสโมสร’เกียรติยศ’
วอดก้ากำลังทำภารกิจกับคนอื่นในอารยธรรมอื่นและรวมอุปกรณ์มาได้การมาดาวกิลแมนก็เพื่อพักและเก็บอุปกรณ์กลุ่มนี้เข้าคลังกิลด์
เจ้าหน้าที่กิลด์เดินมาในห้องและรายงาน”กัปตันกองยานส่งข้อวามบอกว่าพบปัญหาเกี่ยวกับการตรวจสอบตัวตนของกองยานตรงหน้าเราและมันจะต้องใช้เวลาประมาณสิบนาทีจนกว่าจะถึงตาเรา”
“ดีมาก”วอดก้าพยักหน้า
เช่นเดียวกับคนอื่นวอดก้ากำลังดูฟอรั่มขณะรอ โพสต์ที่เกี่ยวกับกองทัพแบล็คสตาร์ผุดขึ้นไม่หยุด เขาส่ายหัวแล้วพูดว่า”หัวข้อกองทัพแบล็คสตาร์เป็นกระแสมาครึ่งเดือนแล้ว ฉันสงสัยว่าพวกเขาจะมาเปิดสาขาใหม่ที่เส้นทางดาวจริงไหม”
คนอื่นร่วมบทสนทนา
“เราไม่อาจติดต่อกับจักรวรรดิคริมสันได้ในตอนนี้ใครจะรู้ว่ากองทัพแบล็คสตาร์มาหรือยัง?”
“ต่อให้พวกเขามาจริงเราก็อาจไม่เจอพวกเขา ใครจะรู้ว่าพวกเขาจะปรากฏตัวที่ไหน?”
ปัจจุบันผู้เล่นที่เส้นทางดาวยังไม่เข้าร่วมกับจักรวรรดิ และหานเซี่ยวก็ยังไม่ได้พาผู้เล่นคนใดไปกับเขา ไม่มีผู้เล่นได้เห็นกองทัพ ผู้เล่นในเส้นทางดาวไม่รู้ว่ากองทัพแบล็คสตาร์ไปอยู่ไหน
ขณะคุยหนึ่งในนั้นก็เหลือบมองนอกหน้าต่าง สีหน้าพวกเขาแข็งค้าง มองไปนอกหน้าต่างอย่างตกใจ
“นั่นมันอะไร?!”ไอรีนโนเวล
คนอื่นมองตามและตกใจด้วย
กองยานกำลังพักษ์ฐานดาวเทียมขนาดใหญ่ออกจากประตูดาวและค่อยๆเข้าใกล้ดาวกิลแมนไม่ใช่แค่วอดก้า และผู้ลเน่ แม้แต่ประชากรกาแล็กซี่ก็ยังเห็นสิ่งนี้
ยานอวกาศเหล่านี้มีสัญลักษณ์ของกองทัพแบล็คสตาร์ซึ่งผู้เล่นเส้นทางดาวจำได้
“กองทัพแบล็คสตาร์?!”
“พวกเขามาที่นี่?!”
ฐานดาวเทียมของกองทัพค่อยๆหยุดนอกดาวกิลแมนและสื่อสารกับกองทัพพิทักษ์ดาว
เมื่อเห็นวอดก้าก็ตกตะลึง”ว้าว!หรือว่ากองทัพแบล็คสตาร์จะสร้างสาขาบนดาวกิลแมน?!”
เมื่อตระหนักถึงความเป็นไปได้สมาชิกกิลด์ก็ยินดีมาก
ไม่นานข่าวการมาของกองทัพก็กระจายไปทั่วดาวกิลแมน
ไม่ช้าการเจรจาระหว่างกองทัพและเจ้าของดาวกิลแมนก็เสร็จสิ้น เนื่องจากตัวตนของผู้บัญชาการกองทัพและสิทธิ์ที่ได้รับมอบโดยจักรวรรดิคริมสัน ดาวกิลแมนจึงไม่มีสิทธิ์ป้อกังกองทัพจากการสร้างสาขาที่นี่ พวกเขาไม่มีทางเลือกนอกจากส่งคนมาช่วยกองทัพสร้างฐานพวกเขา
ขณะที่ผู้เล่นกำลังรออย่างคาดหวังในที่สุดกองทัพก็ประกาศทั้งดาวว่าพวกเขากำลังจะสร้างสาขา!
ข่าวกลายเป็นพายุในฟอรั่มผู้เล่นทั้งหมดในเส้นทางดาวยินดีและตื่นเต้น
หลังผ่านไปกว่าครึ่งเดือนกองทัพแบล็คสตาร์ก็ปรากฏ ผู้เล่นคาดเดาได้มากเกี่ยวกับวิธีที่พวกเขาจะติดต่อกับกองทัพ แต่ไม่มีใครคิดว่ากองทัพแบล็คสตาร์จะปรากฏโดยตรงในพื้นที่สาธารณะของพวกเขา!
การตอบสนองของผู้เล่นแสดงชัดเจนหัวข้อกองทัพปรากฏบนดาวกิลแมนกลายเป็นหัวข้อร้อนแรงสุด!
ความคาดหวังจากครึ่งเดือนก่อนปะทุ!
นี่คือกองกำลังระดับทุ่งดาวแรกที่ผู้เล่นได้ติดต่อด้วยแม้กระทั่งผู้เล่นจากทุ่ง
ดาวอื่นบนฟอรั่มก็ยังถูกดึงดูด
โดยเฉพาะวงแหวนดาวกระจาย
…
ที่ศูนย์ใหญ่กองทัพแบล็คสตาร์ผู้เล่นนับไม่ถ้วนหยุดเท้าพร้อมกันและเปิดฟอรั่ม
“กองทัพได้ข้ามทุ่งดาวแล้ว!”
“ฟอรั่มที่นั่นระเบิดไปแล้ว!”
“ฮ่าๆให้ชาวต่างชาติเหล่านั้นได้ประสบกับสิ่งที่เหมือนกับเราซะบ้าง!”
“แม้เราจะอยู่คนละทุ่งดาวแต่เราทุกคนอาจอยู่กองกำลังเดียวกันในอนาคต”
ผู้เล่นในวงแหวนดาวกระจายตื่นเต้นและเยี่ยมชมหน้าเส้นทางดาวบนฟอรั่มพวกเขาโพสต์ด้วยชื่อ’ยินดีต้อนรับสู่กองทัพ’
“ขอแสดงความยินดีจากศูนย์ใหญ่กองทัพแบล็คสตาร์”
“ขอแสดงความยินดีจากวงแหวนดาวกระจาย”
“ยินดีต้อนรับสู่กองทัพแบล็คสตาร์”
“จำไว้สโลแกนของเราคือ’กัปตันคือที่สุด!”
ผ่านเวอร์ชั่นกองทัพแบล็คสตาร์หยั่งรากลึกในหัวใจของผู้เล่น เมื่อเห็นกองกำลังพวกเขาพัฒนาด้วยความสูงเช่นนี้ ผู้เล่นวงแหวนดาวกระจายหลายคนจึงรู้สึกภูมิใจ
ผู้เล่นหลายคนที่พบกับแบล็คสตาร์มานานเช่นดาบคลั่งขนมปังสุนัขและจันทราเมเปิ้ลรู้สึกภาคภูมิสุด ความทรงจำในอดีตผุดขึ้น
เรามาไกลมาก…
ความรู้สึกพวกเขาซับซ้อน
สำหรับผู้เล่นการกระทำของกองทัพแบล็คสตาร์เหมือนการเปิดยุคใหม่ บางทีนี่อาจเป็นจุดเริ่มต้นของผู้เล่นที่จะได้เดินทางข้ามทุ่งดาว บางที วันหนึ่ง ผู้เล่นกาแล็กซี่ทั้งหมดอาจรวมตัวกันในทุ่งดาวเดียวกัน และนี่อาจเป็นจุดเริ่มต้น
…
อิทธิพลของการสร้างสาขาบนดาวกิลแมนสามารถเห็นได้ทันทีผู้เล่นเกือบทุกคนที่กำลังทำภารกิจรีบรุดหน้ากลับไปจากระบบดาวต่างๆ
จากเวอร์ชั่น2.0ตอนผู้เล่นเข้าจักรวาลไม่เคยมีเหตุการณ์ที่ผู้เล่นทั้งหมดมารวมกันในสถานที่เดียวมาก่อน ครั้งนี้ เนื่องจากความนิยมของกองทัพและผลกระทบของการข้ามทุ่งดาว เกือบทุกคนจึงมารวมกัน!
สาขากองทัพทำการประกาศบอกว่าเนื่องจากสาขาเพิ่งสร้าง พวกเขาจึงต้องการรับสมัครกำลังคนจำนวนมาก รายละเอียดสามารถพบได้บนหน้าหลักของกองทัพ
ขณะนี้ผู้เล่นในเส้นทางดาวยังไม่มีความรู้สึกผูกพันธ์กับกองทัพสิ่งที่ดึงดูดพวกเขาคือผลประโยชน์และชื่อเสียง ด้วยตัวอย่างของวงแหวนดาวกระจาย ผู้เล่นเก่าทั้งหมดจึงรู้ว่าผลประโยชน์ของกองทัพดีแค่ไหน
วอดก้าอ่านข้อมูลการรับสมัครเส็รจและถอนหายใจ”ผลประโยชน์ดีเกินไป..”
ไม่ว่าจะเป็นเงินเดือนโบนัส บริการ ภารกิจหรือทรัพยากร ผลประโยชน์ของกองทัพแบล็คสตาร์เหนือกว่าทุกกองกำลังที่เส้นทางดาวมี!
ร้านค้ากองกำลังมีความน่าสนใจเป็นพิเศษหานเซี่ยวมีพิมพ์เขียวระดับต่ำจำนวนมากและก็ทำการผลิตจำนวนมากตลอดหลายปี ปัจจุบัน กองทัพขายของจักรกลกว่าหมื่นชิ้นและอุปกรณ์ทุกประเภท ยังมีตัวเลือกปรับแต่ง ซ่อม เสริม และบริการอื่น นอกจากนั้น ยังมีผลึกดันเจี้ยน ยาพันธุกรรม วัสดุ และของอื่นๆอีกมาก รวมถึงผลิตภัณฑ์จากกลุ่มการเงินอื่น ร้านค้ากองกำลังของกองทัพเหมือนสถานีขนส่งสินค้า
“ท่านรองเราจะเข้าร่วมกับกองทัพแบล็คสตาร์ไหมครับ?”
“ไปสิ”วอดก้าตื่นเต้นไม่ต้องพูดถึงผลประโยชน์ที่น่าดึงดูด แค่การที่กองทัพแบล็คสตาร์เป็นพันธมิตรกับจักรวรรดิคริมสันก็ทำให้เขาไม่ลังเลแล้ว
วอดก้าพาสมาชิกกิลด์มุ่งหน้าไปสาขาของกองทัพ
พวกเขาบินไปในท่าลงจอดและตามหุ่นยนต์ต้อนรับไปโถง โถงเต็มไปด้วยผู้คน ผู้เล่นเกือบทุกคนที่อยู่บนดาวกิลแมนรีบรุดหน้ามากันหมด
มีกิลด์ใหญ่อื่นๆอีกมากวอดก้าเห็นคู่ปรับเก่าและคนคุ้นหน้า
พวกเขาล้วนมาเข้าร่วมกองทัพพวกเขายื่นประวัติและเข้าร่วมการทดสอบ ซึ่งส่วนใหญ่เป็นการทดสอบความสามารถต่อสู้พวกเขา นอกจากผู้เล่นใหม่ แทบไม่มีผู้เล่นที่ต่ำกว่าเกรดC ดังนั้นข้อกำหนดการรับสมัครนี้จึงไม่ใช่ปัญหาเลย
วอดก้าบีบตัวเข้าใจกลางโถงและตรงหน้าเขาคือประตูที่นำไปสู่ห้องทดสอบพลัง ผู้เล่นต่อแถวกันและรอให้ถึงคราวของพวกเขา
วอดก้าและคนอื่นรอสักพักก่อนจะถึงคราวของพวกเขาและภารกิจก็ผุดขึ้น
ภารกิจกองกำลัง: บททดสอบกองทัพแบล็คสตาร์
คำแนะนำภารกิจ: การผงาดของกองทัพแบล็คสตาร์เต็มไปด้วยตำนาน ตอนนี้มีนเป็นองค์กรใหญ่ของวงแหวนดาวกระจายและเป็นพันธมิตรของจักรวรรดิคริมสัน กองทัพแบล็คสตาร์ได้ข้ามทุ่งดาวและสร้างสาขาในกาแล็กซี่กลาง ท่านได้รับโอกาสเข้าร่วมกองทัพ แต่ทว่า สมาชิกกองทัพทุกคนล้วนผ่านการคัดเลือกอย่างเข้มงวด เพื่อเข้าร่วมกองกำลังนี้ ท่านต้องพิสูจน์พลังท่าน…
สิ่งเดียวกันนี้เกิดขึ้นกับผู้เล่นหลายคน
…
ในเวลาเดียวกันที่ไหนสักแห่งในเส้นทางดาว บนดาวท่องเที่ยว…
นี่คือดาวที่ไร้ร่องรอยการดัดแปลงทิวทัศน์งดงามมาก น้ำสะอาด ทะเลสีเขียวและท้องฟ้าสีฟ้า ผิวมันเต็มไปด้วยพืชพรรณ และพืชก็เปล่งแสงสลัวเวลากลางคืน มันเหมือนฝัน สิ่งมีชีวิตอ่อนโยนสวยงามอาศัยบนดาว สิ่งมีชีวิตสีเงินเล็กๆกำลังบินระหว่างป่า เหมือนปลาที่ว่ายในอากาศ
“ดาวนี้สวยจริงๆ…”
หานเซี่ยวและคนอื่นกำลังผ่านดาวนี้ดังนั้นจึงหยุดเที่ยว ยานอวกาศกำลังลอยอยู่ ขณะที่ทั้งกลุ่มลงเดินในป่า ไม่ว่าจะมองไปทางไหนมันก็สวยไปหมด
ออโรร่ารักธรรมชาติมันเต็มไปด้วยชีวิต เธอเดินอยู่หน้าสุด เอเมสและฮีล่ากับเหล่าองครักษ์เดินตรงกลาง ส่วนหานเซี่ยวเดินหลังสุด
การใช้ชีวิตกับกลิ่นของโลหะและน้ำมันมานานกลิ่นอากาศสดชื่นจึงทำให้เขารู้สึกสบายใจ
ฮีล่าช้าลงและมาข้างหานเซี่ยวเธอมองเขาและกล่าว”นายดูเหมือนจะอารมณ์ดีนะ”
หานเซี่ยวหัวเราะในที่สุดเขาก็จะเก็บเกี่ยวทุ่งกระเทียมหอมเขาได้ เขาจะอารมณ์ไม่ดีได้ยังไงละ?