The Legendary Mechanic - ตอนที่ 829 -830
ตอนที่ 829 กองทัพแบล็คสตาร์ ไม่เลวเลย
ในระบบดาวเจราตันของกลุ่มดาวรีนอลท์ทีมสำรวจของแดนหลั่งเลือดและอาณาจักรเคล็นท์กำลังทำตามแผนทีละขั้น ค่อยๆวาดพื้นที่สีเทาบนแผนที่ดาว เครือข่ายประตูดาวภายในของเขตดาวแรกค่อยๆถูกสร้าง การสำรวจดาวเสร็จไปทีละดาว ข้อมูลเพิ่มลงฐานข้อมูล ทุ่นอวกาศมากมายถูกทิ้งไว้ทุกที่ที่พวกเขาผ่าน
การสำรวจของแดนหลั่งเลือดราบรื่นและสงบมีดาวทรัพยากรมากมายในระบบดาวเจราตัน แต่ก็ยังไม่พบกับอารยธรรมชนพื้นเมืองใด
ฮีเบอร์ว่างมากตลอดสิบวันกองยานขนาดใหญ่กำลังปฏิบัติการตามแผนและไม่ต้องการคำสั่งเขา ดังนั้นเขาพบดาวฤกษ์เพื่อฝึกพลังงานเขา
ที่ดาวฤกษ์สีแดงร้อนในเขตดาวนี้ฮีเบอร์เดินไปบนผิวดาว พลังงานของดาวรอบๆก่อตัวเป็นวังวน หมุนรอบเขา ภายใต้การสะสมพลังงาน เซลล์เขากลืนรังสีทรงพลังรอบเขาและเปลี่ยนเป็นพลังงานเขา
”ฮู่..”ฮีเบอร์พ่นลมหายใจ
เขากระทืบพื้นพละกำลังมหาศาลเปลี่ยนเป็นระลอกพลังกระจายออกไปและวังวนพลังงานที่หมุนรอบเขาก็แตกกระจาย ปกคลุมด้วยเพลิงพลังงานหนา ฮีเบอร์ทำลานจากแรงโน้มถ่วงสูงและพุ่งเหมือนลำแสงขึ้นอวกาศ ไม่ช้า เขาก็ออกดาวและกลับไปหากองยาน
ฮีเบอร์เดินไปในยานและสวมชุดคลุมเขาจากนั้นก็นำอุปกรณ์สื่อสารออกมา มันคือข้อความจากเคล็นท์
”ท่านฮีเบอร์เราเพิ่งได้รับข่าวที่ผู้บัญชาการสูงสุดออกคำสั่งให้กองทัพแบล็คสตาร์กำจัดองค์กรพื้นเมือง”
”โจมตีองค์กรพื้นเมือง?”เสียงเท้าของฮีเบอร์หยุด”กฏการสำรวจของจักรวรรดิห้ามใช้ความรุนแรง”
”คนของเราบนดาวประภาคารได้ยินว่าแบล็คสตาร์พบสถานการณ์พิเศษองค์กรพื้นเมืองคือพวกโจรสลัดใจกลางกลุ่มดาว คนของกองทัพแบล็คสตาร์พบพวกเขาโดยบังเอิญ จักรวรรดิอยากได้ข้อมูลดาวเคราะห์ที่องค์กรนี้มี ดังนั้นผู้บัญชาการสูงสุดจึงยอมให้กองทัพแบล็คสตาร์ลงมือ”
ฮีเบอร์ขมวดคิ้ว
ขณะที่พวกเขากำลังคืบหน้าเรื่อยๆกองทัพแบล็คสตาร์ก็ได้เข้าป่าไปแล้ว?!
หากกองทัพแบล็คสตาร์ได้รับข้อมูลที่องค์กรนี้สะสมไว้มันต้องเป็นผลงานชิ้นโต
เดิมเขาคิดว่าระบบดาวที่พวกเขาสำรวจอยู่ร่ำรวยและผลการสำรวจต้องเหนือกว่ากองทัพแบล็คสตาร์ แต่น่าเศร้า แบล็คสตาร์เป็นคนโชคดี
ฮีเบอร์ส่ายหัว
เขาไม่อยากเห็นกองทัพแบล็คสตาร์ได้ผลงานแต่เขาก็ทำอะไรไม่ได้
ครั้งนี้คนจากเคล็นท์กล่าว”ท่านฮีเบอร์ ผู้บัญชาการเรามีความคิดบ้าๆ…”
”โจมตีแบล็คสตาร์อีกครั้ง?”
”ถูกต้องเราวางแผน…”
”พอแล้ว”ฮีเบอร์กล่าวแทรกแซงก่อนพูดจบ”ฉันได้ทำข้อตกลงสงบศึกกับกองทัพแบล็คสตาร์แล้วฉันไม่อยากยุ่งกับพวกเขา และพวกนายก็ไม่ควร นี่เปล่าประโยชน์”
จากนั้นเขาก็วางสาย
อาณาจักรเคล็นท์ยังไม่ยอมแพ้พวกเขาไม่อยากเห็นศัตรูพวกเขาประสบความสำเร็จ ฮีเบอร์เองก็ไม่อยากถูกฉุดโดยเคล็นท์
ผู้บัญชาการที่เคล็นท์ส่งมาครั้งนี้เคยเป็นพวกหัวรุนแรงที่สนับสนุนสงครามลับดังนั้นเขาจึงเกลียดหานเซี่ยวมาก สิ่งที่เขาอยากทำคือแย่งผลงานกองทัพแบล็คสตาร์และก่อกวนแบล็คสตาร์ ซึ่งไม่มีโอกาสสำเร็จในสายตาฮีเบอร์ แต่ยังทำให้กองทัพแบล็คสตาร์และจักรวรรดิไม่พอใจซะเปล่า นอกจากนี้ มันยังไม่ส่งผลอะไรต่อกองทัพแบล็คสตาร์ด้วย มันไม่คุ้มเสี่ยง
ในโลกริบหรี่ฮีเบอร์ไม่เต็มใจสู้กับแบล็คสตาร์ ด้วยเค้กก้อนโต แค่สำรวจพื้นที่ตนเองก็ดีถมไปแล้ว หากเขาและกองทัพแบล็คสตาร์ขัดแย้งกัน มันก็จะทำให้พันธมิตรจักรวรรดิฝ่ายอื่นที่มาทีหลังได้รับผลประโยชน์ไปแทน
…
ในชีวิตก่อนหน้าของหานเซี่ยวเมื่อผู้เล่นเข้าโลกริบหรี่ในเวอร์ชั่น4.0 การสำรวจก็เสร็จไปหลายกลุ่มดาวแล้ว กองกำลังภายนอกเข้ามาและสู้กัน ดังนั้นผู้เล่นจึงมีโอกาสให้สู้มากมาย สถานการณ์แตกต่างกับตอนนี้
ตอนนี้แค่เวอร์ชั่น3.0เพราะหานเซี่ยว ผู้เล่นจึงสามารถเข้าร่วมโลกริบหรี่ได้ล่วงหน้าหนึ่งเวอร์ชั่น ซึ่งยังหมายความว่าสภาพแวดล้อมนั้นต่างออกไป ช่วงต้นของการสำรวจ มีเพียงจักรวรรดิและพันธมิตรมัน ผู้อยู่ข้างเดียวกัน ดังนั้น ผู้เล่นจึงขาดเนื้อเรื่องต่อสู้และโอกาสสู้
ดังนั้นเมื่อ[กองทัพจักรวาล]ปรากฏ ผู้เล่นทุกคนที่กำลังสำรวจโลกริบหรี่กับกองทัพแบล็คสตาร์ต่างเข้าร่วมปฏิบัติการนี้ ภารกิจนี้ไม่มีการจำกัดคนเข้าร่วม ดังนั้นผู้เล่นส่วนใหญ่จึงรับภารกิจ
หานเซี่ยวพอใจด้วยความที่ผู้เล่นปัจจุบันแยกกันสำรวจ เขาจึงจัดยานนับพันไปรับตัวผู้เล่นเหล่านี้
ด้วยความที่มันต้องใช้เวลาเพื่อไปถึงพื้นที่กลางของกลุ่มดาวการูหานเซี่ยวจึงไม่คิดให้ผู้เล่นรอในยาน นั่นจะเสียแรงงานเปล่าๆ เขาวางแผนปล่อยพวกเขาไปสำรวจดาวระหว่างทาง
แบบนี้แผนสำรวจของกองทัพแบล็คสตาร์จึงเบี่ยงไป ทีมใหญ่ค่อยๆสำรวจระบบดาวชายแดน หน่วยพิเศษแรกนำโดยเฮดาวี่กำลังสร้างเส้นทางจากทางใต้ของกลุ่มดาวไปใจกลาง
ด้วยความที่คนของกองทัพแยกเป็นสามกลุ่มหานเซี่ยวจึงบอกซิลเวียที่ยังอยู่ในวงแหวนดาวกระจายให้รีบส่งกองยานที่สองมา
หลังเติบโตมาสองเวอร์ชั่นผู้เล่นตอนนี้ก็มีพลังระดับB ผู้เล่นกองทัพนับล้านถือว่าทรงพลังมาก หานเซี่ยวไม่กังวลเลย
เมื่อเวอร์ชั่นอัปเดทผู้เล่นก็ยิ่งแข็งแกร่ง พวกเขาค่อยๆเป็นที่สังเกตโดยจักรวาล
หลังส่งผู้เล่นไปหานเซี่ยวก็เหลือลำพัง เขาสำรวจดาวทรัพยากรทีละดวงตามแผนขณะขยายกองทัพจักรกลเขา
เวลาหนึ่งเดือนผ่านไปอย่างสงบสุข
วันนี้ในที่สุดหานเซี่ยวก็ได้รับรายงานของฟิลลิปว่าผู้เล่นพบกับกองทัพจักรวาลแล้ว
…
ทีมที่พบกับกองทัพจักรวาลคือทีมผู้เล่นที่กำลังวางทุ่นอวกาศมันแค่ยานลาดตระเวนเล็กๆที่มีผู้เล่นประมาณสามร้อย ส่วนศัตรูมียานรบสามลำ
การต่อสู้ปะทุขึ้นทันทีวินาทีที่ยานรบลาดตระเวนเหล่านี้พบผู้เล่น พวกเขาก็โจมตีโดยไม่พูดอะไร วางแผนจับศัตรูและสอบปากคำเกี่ยวกับกองทัพแบล็คสตาร์
กระสุนยิงใส่ม่านพลังของยานขนาดเล็กทำให้เกิดการระเบิดต่อเนื่อง
”คำเตือน!ยานอวกาศกำลังถูกโจมตีพลังงานม่านพลังคงเหลือ97.1%…99.7%..ชาร์จสำเร็จ กำลังประเมินระดับภัยคุกคาม..สำเร็จ พลังยิงของศัตรูไม่อาจเจาะม่านพลังได้..”
ผู้เล่นในยานมองหน้ากัน
ยานรบของกองทัพแบล็คสตาร์คือเทคโนโลยีระดับระบบดาวอย่างแท้จริงและบางลำยังมีมาตรฐานของกลุ่มดาว เช่นแกนพลังงาน อาวุธ และม่านพลัง เทียบกันแล้ว ยานรบของกองทัพจักรวาลล้าหลังมาก
การต่อสู้ระยะประชิดคือสิ่งที่ผู้เล่นต้องการเมื่อยานศัตรูสามลำเข้าใกล้และกำลังจะเชื่อมต่อกับห้องโดยสารพวกเขา ยานพุ่งชนกว่าสิบก็ยิงจากด้านข้างยานสำรวจขนาดเล็กนี้ กัดเข้ากับยานรบศัตรูสามลำ
ผู้เล่นภายในยานพุ่งชนกรูกันออกมาและเริ่มการสังหารหมู่ผู้เล่นเหล่านี้มีระดับเหนือกว่าร้อย ส่วนคนบนยานศัตรูแค่คนธรรมดา
ไม่นานผู้เล่นก็กวาดศัตรูภายในยานและยึดยานสามลำเสร็จ
อีกด้านอติโม่ได้รับข่าวนี้ด้วย
แต่ทว่าเขาไม่ได้รับข้อมูลวิดิโอที่กลุ่มลาดตระเวนส่งมา พลังของกองทัพแบล็คสตาร์ยังลึกลับในสายตาเขา
”ก่อนขาดการติดต่อกลุ่มลาดตระเวนแค่ส่งมาว่าพวกเขาพบศัตรู และการเชื่อมต่อก็ตัดไป”
”เหมือนกับกีกีก้า…”อติโม่หรี่ตา”เทคโนโลยีควอนตัมของศัตรูอาจเหนือกว่าเรา”
ก่อนการต่อสู้จะแตกหักฟิลลิปได้เจาะปัญญาประดิษฐ์อีกฝ่ายและปิดการสื่อสาร เหมือนกับตอนกีกีก้าเจอ
ไซโอนิคไพรม์ดังนั้น อติโม่จึงไม่รู้ว่ากองทัพแบล็คสตาร์มีกำลังคนและยานมากแค่ไหน
อีกด้านฟิลลิปรู้ว่ากองทัพอติโม่อยู่ไหนและกำลังสั่งให้ทีมบุกตรงไปทิศทางนั้น
สงครามไม่ได้สำคัญสิ่งสำคัญคือข้อมูล เทคโนโลยีเสมือนของกองทัพเหนือกว่ามากและกองทัพจักรวาลก็เหมือนถูกปิดตา
นับตั้งแต่เขาเริ่มปกครองจักรวาลอติโม่ไม่เคยเจอศัตรูที่ทำให้เขารู้สึกกดดันมาก่อน แต่ทว่า กองทัพแบล็คสตาร์นี้กลับสั่นคลอนความมั่นใจเขา
นี่อาจเป็นศัตรูที่แข็งแกร่งสุดที่เขาเคยพบพาน
”กองทัพแบล็คสตาร์ไม่เลวเลย”อติโม่กล่าว”แกนับเป็นศัตรูที่แข็งแกร่งสุดของฉันเลยก็ว่าได้ แต่ เมื่อเจอกับกองยานฉัน จุดจบแกจะไม่แตกต่างจากคนอื่น!”
อติโม่มั่นใจมากเขานำยานรบทั้งหมดของเขามา รวมกันแล้วมากถึงแสนลำ!
นี่คือกองยานที่เขาสะสมมาตลอดหลายปีและนี่คือสิ่งที่ทำให้เขาเป็นผู้ปกครอง’จักรวาล’
จากมุมมองเขากองยานเช่นนี้สามารถกวาดล้างได้ทั้งจักรวาล
ตอนที่ 830 โอบล้อม
หลังพบกับยานลาดตระเวนกองกำลังกวาดล้างก็จัดทัพและปรับทิศทางไปหากองยานอติโม่ ในเวลาเดียวกัน กองยานของอติโม่ก็ค่อยๆเคลื่อนมาทางยานลาดตระเวนและทั้งสองฝ่ายก็กำลังเข้าใกล้กัน
หลังใช้เวลาสองวันในที่สุดทัพของทั้งสองก็มาเจอกัน
”ในที่สุดเราก็พบศัตรูเรา”ผู้เล่นในกองทัพมองกองยานขนาดใหญ่ด้านนอกหน้าต่างและตื่นเต้น
ผู้เล่นแยกกันจับกลุ่มและกิลด์ต่างๆก็ไม่เว้น ทีมมืออาชีพสร้างทีมของตนและสมาชิกหลักของกิลด์ก็สร้างชั้นคุ้มกันรอบผู้เล่นมืออาชีพ นี่ไม่ใช่เพื่อปกป้องพวกเขา แต่เพื่อช่วยทีมพวกเขาแย่งบอส
[กวาดล้างกองทัพจักรวาล]คือภารกิจกองกำลังและมีข้อกำหนดภารกิจมากมาย ข้อกำหนดที่มอบรางวัลสูงสุดรวมถึงการฆ่ากองทัพศัตรูและหัวหน้า แต่ทว่า มีจำนวนจำกัดที่ฆ่าได้
นั่นโดยเฉพาะกับจักรพรรดิอติโม่ ที่มีเพียงหนึ่ง มันไม่ใช่ภารกิจผู้เล่นเดี่ยวแต่จะมอบรางวัลให้แค่ปาร์ตี้เดียว ทุกสโมสรอยากช่วยให้ผู้เล่นมืออาชีพตนได้รับรางวัลสูงสุดนี้
ผู้เล่นของราชวงศ์วิหารเทพเจ้า นภาใครและมะเขือยาวทอดกับปลาอยู่ในทีมพวกเขา และสามเสาหลักของนภาใคร่ก็กำลังหารือเรื่องกลยุทธ์กัน
ฤดูหนาวลูบคาง”ตามระดับของรางวัลผู้นำศัตรูอติโม่ควรมีความสามารถของภัยพิบัติ เราทำได้แค่ใช้จำนวนบดขยี้เขา”
”หากเป็นแบบนี้ทีมที่เคลื่อนไหวก่อนก็จะอันตรายสุด หากเราอยากแย่งการฆ่า มันจะดีกว่าสำหรับเราที่จะสร้างความเสียหายเงียบๆและปล่อยให้คนอื่นพัวพันกับบอส มีเพียงทีมที่สร้างความเสียหายสูงสุดถึงได้รับรางวัล หากเราจบด้วยการถูกบอสฆ่า มันคงใช้เวลานานเพื่อวิ่งกลับไปหลังคืนชีพ”
ห่าวเทียนพยักหน้า”ถูกต้อง”
บนยานอวกาศอีกลำดาบคลั่งจับกลุ่มกับทีมเขาและยังพาจันทราเมเปิ้ลมาด้วยเพราะพวกเขาสนิทกัน
ดาบคลั่งมองออกนอกหน้าต่างที่ยานรบเรียงกันอย่างเรียบร้อยมันเห็นได้ชัดตรงจุดที่กิลด์รวมกัน และยังมีความแตกต่างระหว่างพวกเขาและผู้เล่นทั่วไป เมื่อเห็นแบบนั้น ดาบคลั่งก็ส่ายหัว”ด้วยกิลด์มากมายที่พยายามแย่งบอส ฉันคิดว่าเราคงไม่มีหวังมาก”
”ตราบเท่าที่เราไม่ตาย”รองหัวหน้าหุบเขาแม่น้ำดาบปีศาจกล่าว”ราอาจไม่แพ้ในแง่ของความเสียหาย แต่บอสย่อมไม่ยืนเฉยๆให้เราฆ่า ฝ่ายที่ทำความเสียหายสูงสุดจะต้องเจอกับภัยคุกคามสุดและดึงดูดความโกรธจากบอสสุด เราอาจมีโอกาสรอดจนจบหากเป็นแบนนั้น”
ผู้เล่นทั้งหมดมีประสบการณ์และรู้ว่ามันยากมากที่จะจัดการบอสสำหรับผู้เล่นทั่วไป สถานการณ์ของการต่อสู้นั้นเปลี่ยนไปทุกวินาที และมันก็หายากสำหรับคนๆเดียวที่จะสู้บอสได้ และคนที่ทำความเสียหายให้บอสมากสุดก็จะตกเป็นเป้าของบอส และฉากการต่อสู้ก็สมจริงมาก
ดังนั้นมันจึงง่ายมากสำหรับสายควบคุมตอนสู้กับบอสและพวกเขาก็ต้องตอบสนองอย่างรวดเร็วเมื่อใดก็ตามที่เกิดขึ้น
จันทราเมเปิ้ลนั่งข้างๆด้วยรอยยิ้มบนหน้าเธอและเธอก็รู้สึกพอใจในหัวใจ
อาจกล่าวได้ว่าสงครามขนาดใหญ่นี้เริ่มเพราะเธอเธอคือคนที่กระตุ้นเนื้อเรื่องและทำให้เกิดภารกิจกวาดล้าง ดังนั้น เธอจึงรู้สึกประสบความสำเร็จมากและรู้สึกพอใจในหัวใจเธอ
เพราะเธอคือคนที่กระตุ้นภารกิจนี้เธอจึงมีภารกิจเพิ่มเติมเมื่อเทียบกับผู้เล่นคนอื่น เธอสามารถได้รับโบนัสหลังกองทัพจักรวาลถูกกวาดล้าง ซึ่งรวมถึงค่าประสบการณ์จำนวนมาก แต้มสำรวจ แต้มสะสมจักรวรรดิคริมสัน300และแต้มสะสมกองทัพแบล็คสตาร์1000
นี่อาจเป็นรางวัลสำหรับการส่งมอบเครื่องมือภารกิจให้จักรวรรดิ
รางวัลจากภารกิจนี้มากมหาศาลและหลังคำนวณจันทราเมเปิ้ลก็รู้สึกว่ามันเป็นไปได้สำหรับเธอที่จะกลายเป็นผู้เล่นระดับสูงสุดหลังภารกิจนี้
ท่ามกลางกลุ่มรัสเซียและออสเตรเลียวอดก้าและเฮนรี่ยังคิดฉกชิงบอส
แม้ผู้เล่นมืออาชีพของสโมสรตนจะไม่ติดตามพวกเขามาแต่หากพวกเขาสามารถป้องกันผู้เล่นมืออาชีพจีนจากการได้รางวัลบอส มันก็คล้ายกับการช่วยผู้เล่นมืออาชีพตน แม้ผู้เล่นรัสเซียและออสเตรเลียจะเสียหายหนักบนดาวแพนกููรัส ความรับผิดชอบพวกเขาก็ยังอยู่ และก็ไม่เต็มใจปล่อยผู้เล่นจีนเพลิดเพลินกับผลประโยชน์ต่อหน้าต่อตา
ในเวลาเดียวกันอติโม่ยังสังเกตกองยานแบล็คสตาร์
”ศัตรูมียานรบแค่หมื่นลำและเราก็มีความได้เปรียบด้านจำนวน”รองผู้บัญชาการกล่าว
อติโม่พยักหน้าเขามียานรบแสนลำ มากกว่าศัตรูสิบเท่า
แต่ทว่าอติโม่ยังตกใจที่กองทัพแบล็คสตาร์สามารถมียานรบหมื่นลำได้ ในความทรงจำเขา ยานรบทุกลำต้องใช้ทรัพยากรและเวลาสร้างเป็นจำนวนมาก เผ่าทรงพลังสุดที่เขาเคยเจอมียานรบแค่ไม่กี่ร้อยลำ
เดิมเขาคิดว่าเทคโนโลยีควอนตัมของกองทัพแบล็คสตาร์คือสิ่งเดียวที่เหนือกว่าแต่ไม่คิดว่ากองยานอีกฝ่ายจะไม่ได้อ่อนแอเช่นกัน
”ไม่แปลกใจที่พวกมันปิดข่าวพวกมันไม่อยากให้ฉันรู้จำนวนพวกมัน”อติโม่รู้สึกถึงความกลัวในใจ
เพื่อรวมยานรบหมื่นลำอีกฝ่ายต้องส่งกำลังทั้งหมดมาแน่ โชคดี เขานำกองยานทั้งหมดมา หากเขาส่งมาแค่ไม่กี่ส่วน เขาคงลำบาก
มันถูกต้องแล้วที่เขาเลือกลงมือเอง
ดวงตาอติโม่เป็นประกายและค่อยๆกล่าว”ฉันอยากคุยกับหัวหน้าของอีกฝ่าย”
ในสายตาเขานี่คือสงครามเต็มรูปแบบระหว่างสองฝ่าย ผู้บัญชาการของกองทัพแบล็คสตาร์คือคนที่ลึกลับมากและไม่เคยแสดงตัว อติโม่อยากรู้ว่าผู้นำกองทัพแบล็คสตาร์เป็นคนแบบไหน เขามียานรบถึงหมื่นลำภายใต้บัญชา และอติโม่ก็รู้สึกว่าคนเช่นนี้มีสิทธิ์คุยกับเขา
หลังจากนั้นรองผู้บัญชาการก็กล่าว”อีกฝ่ายปฏิเสธคำขอเรา..พวกเขา..บอกว่า.”
”ว่าอะไร?”ดวงตาอติโม่หรี่แคบ
”พวกเขาบอกว่าท่านไม่มีสิทธิ์คุยกับผู้บัญชาการกองทัพพวกเขา”
อติโม่ระเบิดเสียงหัวเราะและไม่โกรธเลย
ฉันไม่มีสิทธิ์?แล้วใครจะมีสิทธิ์มากไปกว่าฉัน?!
ช่างมันในเมื่อพวกมันจะตายอยู่แล้ว ก็ไม่จำเป็นต้องคุย
อติโม่ส่ายหัวและหมดความสนใจที่จะติดต่อกับอีกฝ่าย”โจมตี กวาดล้างพวกมันให้หมด!”
ด้วยคำสั่งที่มอบให้ยานรบแสนลำเริ่มเปิดฉากยิง
อติโม่คิดว่าเขาได้เห็นฉากที่ศัตรูกลายเป็นพลุไฟแต่ฉากจริงกลับทำให้เขาตกใจ
เมื่อเปลวไฟของปืนใหญ่ระเบิดออกไปไม่มียานรบศัตรูสักลำที่ถูกทำลาย แม้ศัตรูจะมีจำนวนด้อยกว่า พวกเขาก็อยากล้อมกองยานเขาแทน!
วินาทีถัดมายานรบศัตรูหมื่นลำก็เร่งความเร็ว
วินาทีต่อมายานรบศัตรูหมื่นลำเร่งความเร็วและเพราะความเร็ซพวกเขาเหนือกว่ายานอีกฝ่าย กองทัพอติโม่จึงตอบสนองไม่ทัน ยานรบศัตรูหมื่นลำทำลายผ่านขบวนรบและพัวพันการต่อสู้ระยะประชิด นี่คือวิธีต่อสู้ที่ผู้เล่นชมชอบสุด และพวกเขาก็ไม่เต็มใจใช้ยานรบพวกเขาเพื่อกวาดศัตรูเพราะพวกเขาไม่อาจได้รับค่าประสบการณ์
ผู้เล่นขึ้นยานรบศัตรูและทำการสังหารหมู่
ไฟของศัตรูไม่อาจทำลายผ่านม่านพลังกองทัพได้และผู้เล่นก็พุ่งเข้าวงล้อมของศัตรูด้วยความตื่นเต้น
ดาบของฉันจะร่ายรำภายในศัตรู1
ผู้เล่นพากันเข่นฆ่าอย่างอิสระ
ยานรบหมื่นลำพุ่งเข้าใจกลางกองยานศัตรูและไม่มีใครหยุดพวกเขาได้
ในยานหลักอติโม่ยืนขึ้นและถอดหน้ากากเขา สีหน้าเขาเปลี่ยนไป
อาวุธพวกเขาไม่อาจทำอะไรอีกฝ่ายได้เลย+
รายงานถูกส่งมาไม่หยุดและเขาก็เสียยานรบไปสองหมื่นลำในชั่วพริบตาแต่ทว่า ยานรบศัตรูสักลำกลับยังไม่ถูกทำลายเลย!
”เป็นไปได้ยังไง!เทคโนโลยีจะแตกต่างกันถึงเพียงนี้ได้ยังไง?!แถมพวกมันทั้งหมดยังเป็นพวกพิเศษ?!”
อติโม่ไม่อาจรักษาความมั่นใจได้อีกศัตรูคืออารยธรรมที่ก้าวหน้ายิ่งกว่าเขาและสามารถกวาดล้างพวกเขาได้ง่ายๆ!
เขาท่องทั่วจักรวาลแถบนี้มานานและไม่เจอใครที่สามารถคุกคามเขาได้เลยเขาได้ลืมความรู้สึกกลัวไปนานแล้ว แต่ทว่า ฉากยานรบเขาถูกทำลายทีละลำกลับปลุกความกลัวในหัวใจเขาจนตัวเขาเริ่มสั่น
เขาสามารถเห็นอนาคตของกองยานเขาถูกกวาดล้างได้
อติโม่พลันคิดเรื่องนี้ตอนนั้น กองทัพจักรวาลเป็นแค่อารยธรรมเร่รอนธรรมดา พวกเขาอ่อนแอมาก พวกเขาเอาชนะอุปสรรคทีละแห่งและค่อยๆแข็งแกร่งขึ้น แต่ทว่า เขามีความรู้สึกระวังที่ช่วยให้เขารอดชีวิตในจักรวาลได้เป็นเวลานาน
หากเขาไม่บุ่มบ่ามและวางแผนอย่างเหมาะสมก่อนเริ่มสงคราม…
หากเขาไม่อวดดีและส่งทีมสอดแนมไปหาข้อมูลก่อน…
หากเขาไม่ใจร้อนและตอแยกองทัพแบล็คสตาร์…
บางทีผลลัพธ์คงต่างออกไป
แต่ทว่าเขาไม่รู้ว่านี่คือความคิดแง่บวก ต่อหน้าพลังสัมบูรณ์ มันเป็นไปไม่ได้ที่เขาจะเป็นฝ่ายริเริ่ม ชะตากรรมเขาถูกปิดผนึกไปนานแล้ว
ปัจจุบันมันเปล่าประโยชน์สำหรับอติโม่ที่จะเสียใจ ผู้เล่นชอบการฆ่าและทำลายกองยานอติโม่
พลังที่ล้นเหลือของศัตรูทำลายขวัญกำลังใจฝั่งอติโม่และไม่มีใครอยากถูกฆ่า พวกเขาเริ่มหลบหนีและกองยานขนาดใหญ่ก็กระจัดกระจาย
”ถอย!ถอยเร็ว!”อติโม่ได้สติคืนและรีบสั่ง
อย่างรวดเร็วยานหลักและยานคุ้มกันหมุนตัวและเข้าร่วมกองทัพที่หลบหนี
กองทัพจักรวาลมาอย่างภาคภูมิแต่หนีกลับอย่างเสียศักดิ์ศรี มันผ่านไปแค่20นาทีตั้งแต่พวกเขามาถึง
กิลด์ใหญ่ละทิ้งยานที่หลบหนีและไล่ยานหลักศัตรูพวกเขาอยากชิงหัวบอส และผู้เล่นทั่วไปก็ไล่ยานที่หลบหนี
ฟิลลิปได้จับตำแหน่งเป้าหมายทั้งหมดผ่านเครือข่ายควอนตัมและต่อให้ศัตรูหนีไปผู้เล่นก็ยังไล่ล่าได้ในอนาคต
ก่อนเริ่มการต่อสู้ฟิลลิปแทรกซึมฐานข้อมูลของยานหลักและทำการคัดลอกข้อมูลทั้งหมดภายในฐานข้อมูลของกองทัพจักรวาล นี่รวมถึงข้อมูลเกี่ยวกับดาวทุกดวงที่พวกเขาปล้น ข้อมูลที่จักรวรรดิอยากได้อยู๋ในมือพวกเขาแล้ว และสิ่งเดียวที่เหลือก็คือถอนรากศัตรู ฟิลลิปสามารถให้การช่วยเหลือจากด้านข้างและที่เหลือก็จะทิ้งไว้ให้ผู้เล่น
อย่างรวดเร็วผู้เล่นไล่ทันยานหลักของอติโม่ และเขาก็มียานคุ้มกันหลายร้อยรอบเขา
ฟิลลิปควบคุมยานหลักของอติโม่จากระยะไกลและบังคับมันให้ลงจอดดาวรกร้างใกล้ๆผู้เล่นไล่ตามไปและล้อมเขาไว้
…
ในใจกลางเทือกเขายานหลักขนาดมหึมากระแทกกับพื้น มีควันดำลอยออกจากมัน
นี่คือยานของอติโม่และฟิลลิปก็ดับเครื่องของยานไปแล้ว
กึกกึก!
เงาร่างมนุษย์มากมายเดินออกจากซากยานและเกราะที่พวกเขาสวมก็ช่วยให้พวกเขาต้านทานแรงปะทะได้ แต่ทว่า แรงปะทะยังฆ่าลูกยานธรรมดาส่วนใหญ่ไป และมีไม่ถึง10%ที่ยังรอด
อติโม่ยังเดินออกจากซากยานกุมหัวเขา แม้จะด้วยพลังเขา เขาก็ยังมึนหัวจากแรงปะทะและทั่วร่างก็ระบมไปหมด
ตอนนั้นเองเสียงลมก็ดังขึ้นและยานรบของกองทัพแบล็คสตาร์ก็ลงจอดรอบเทือกเขา
อติโม่ยกหัวและมีร่างมนุษย์มากมายยืนรอบเทือกเขาเหล่านี้คือผู้เล่นที่พยายามฆ่าเขาและความโลภก็สามารถเห็นได้ในตาพวกเขา
มีผู้เล่นกว่าสามแสนคนรวมถึงกิลด์ใหญ่ต่างๆ
”มันเป็นไปไม่ได้ที่จะหนี..”
อติโม่คือคนที่ภาคภูมิและอดรู้สึกโกรธไม่ได้
”อยากฆ่าฉัน?เข้ามาเลย!”วินาทีต่อมาอติโม่ก็คำรามและแขนจักรกลนับสิบด้านหลังเขาก็เปิด ในเวลาเดียวกัน ลำแสงสีเหลือก็ยิงออกจากแขนเหล่านั้น นี่คืออุปกรณ์ส่วนตัวเขา ซึ่งใช้เพื่อช่วยความสามารถเอสเปอร์เขา
ความสามารถเอสเปอร์เขาคือการยิงลำแสงเลเซอร์จากร่างเขาและการโจมตีก็จะเปลี่ยนไปขึนอยู่กับว่าส่วนไหนของร่างเขาที่เลเซอร์ยิงออกไปตัวอย่างเช่น กรโจมตีจะเป็นการระเบิดพลังงานหากเขาใช้ฝ่ามือและลำแสงจะเป็นแบบแม่นยำหากใช้นิ้ว
เมื่อสู้ในระยะประชิดหมัดเขาสามารถปกคลุมด้วยพลังงาน และเขาสามารถสร้างม่านพลังหากเขาปล่อยพลังงานจากทั้งร่าง นี่คือความสามารถรอบด้าน
อติโม่คือคนที่ทรงพลังสุดในกองทัพจักรวาลและความสามารถเอสเปอร์ระดับภัยพิบัติเขาก็ช่วยให้การโจมตีเขาทรงพลังกว่าอาวุธพลังงานทั่วไป อาจกล่าวได้ว่าเขาคือป้อมปืนมนุษย์
ความอวดดีมาจากความมั่นใจในพลังเขาท่ามกลางชนพื้นเมืองของโลกริบหรี่ มันหายากที่จะเจอภัยพิบัติ และเขาก็ไม่เคยพบคู่ต่อสู้ เขาเคยกวาดล้างทั้งเผ่าพันธ์ของดาวด้วยตัวคนเดียว
แม้เขาจะถูกล้อมอติโม่ก็ไม่สิ้นหวัง เขามีความมั่นใจในพลังเขามากและแม้ศัตรูทั้งหมดจะเป็นพวกพิเศษ เขาก็ไม่ถือว่าอีกฝ่ายคือคู่ต่อสู้เลย
เขาอาจสามารถหาทางรอดได้หากเขาสามารถฆ่าทั้งหมดได้!
เมื่อคิดแบบนั้นอติโม่ก็ปล่อยจิตสังหารและโจมตีอย่างบ้าคลั่ง
ปิ้วปิ้ว ปิ้ว!
ลำแสงบินไปทางผู้เล่นและผู้เล่นก็เริ่มหลบการโจมตีเมื่อลำแสงกระทบพื้น หลุมใหญ่ก็ระเบิดทั่ว หากผู้เล่นระดับร้อยโดน แม้จะไม่ตาย ผู้เล่นก็จะเหลือพลังชีวิตเพียงเล็กน้อย
เขาคือภัยพิบัติ!ผู้เล่นหลายคนจึงกังวล
นี่คือครั้งแรกที่พวกเขากำลังล้อมตัวละครระดับภัยพิบัติโดยไม่มีNPCคอยช่วย
ทุกคนไม่มีความมั่นใจมากพวกเขาเจอกับภัยพิบัติมามากในสงครามลับที่สามารถฆ่าพวกเขาได้ในการโจมตีเดียว ผู้เล่นไม่รู้ว่าระดับพวกเขาพอจะฆ่าภัยพิบัติด้วยกลยุทธ์คลื่นมนุษย์หรือยัง
”การต่อสู้เริ่มขึ้นแล้ว!”
แต่ทว่าผู้เล่นไม่ลังเลและกระโดดออกจากหน้าผาเพื่อเริ่มโจมตี
ในไม่ช้าพวกเขาก็พบว่าพวกเขาสามารถเอาชนะได้หรือไม่
เนื่องจากพวกเขาไม่อาจตายได้อยู่แล้วพวกเขาจึงทุ่มสุดตัว!