The Legendary Mechanic - ตอนที่ 835-836
ตอนที่ 835 สี่เดือน
นับตั้งแต่ผู้เล่นยึดอาณาเขตที่เหลือของกองทัพจักรวาลและตั้งประตูดาวหานเซี่ยวก็นำกองกำลังเขาไปใจกลางของแผนที่ดาว ดาวชื่อดังภายในภูมิภาคกลางของกลุ่มดาวยิ่งใหญ่กว่ามาก และคุณภาพก็สูงกว่า
หนึ่งในดาวเหล่านี้เรียกว่าดาวทองประกายซึ่งรุ่งเรืองมากในชีวิตก่อนหน้าของหานเซี่ยว มันคือหนึ่งในดาวชั้นหนึ่งที่จักรวรรดิมีในกลุ่มดาวการูและก็เป็นดาวสัญลักษณ์ของโลกริบหรี่ ยังมีดาวป่าใหญ่ ซึ่งเป็นสถานีขนส่งภายในกลุ่มดาวการู ในช่วงเวลารุ่งเรืองของมัน มันมีทางเข้าประตูดาวกว่าห้าร้อยแห่งและอยู่ใจกลางของกลุ่มดาว
นอกจากนี้หานเซี่ยวยังยึดดาวทรัพยากรมากมายที่มีชื่อเสียง
ในชีวิตก่อนหน้าเขาดาวชื่อดังเหล่านี้มีสถานีสำคัญในกลุ่มดาวการู และจักรวรรดิก็อาจยึดดาวเหล่านี้กลับหลังเปิดโลกริบหรี่ แต่ในช่วงการสำรวจ ดาวเหล่านี้ยังเป็นอาณาเขตของกองทัพแบล็คสตาร์ และกองทัพแบล็คสตาร์ก็มีสิทธิ์เพลิดเพลินกับผลผลิตของดาว
การสำรวจเริ่มมาได้สี่เดือนแล้วและความคืบหน้าของหน่วยสำรวจต่างๆก็คล้ายกันแดนหลั่งเลือดสำรวจอย่างมั่นคงและเกือบจะสำรวจระบบดาวเจราตันเสร็จแล้ว แม้พวกเขาจะไม่มีผลงานโดดเด่น แต่ผลลัพธ์ก็เป็นตามคาดของจักรวรรดิและมันก็ไม่เกิดพายุลูกใหญ่ เทียบกันแล้ว แม้การสำรวจของหานเซี่ยวจะเป็นการกระจายกองกำลัง ซึ่งส่งผลให้การสำรวจนานกว่า หานเซี่ยวก็สามารถทำให้จักรวรรดิแปลกใจได้มากเพราะเขาสามารถค้นหาดาวชื่อดังจำนวนมากได้
เพราะเหตุนี้จักรวรรดิจึงเพิ่มการสนับสนุนให้เขา
หานเซี่ยวได้ยินข่าวลือว่าทีมสำรวจเคล็นท์ได้เลียนแบบวิธีเขาและส่งกองกำลังไปดาวของภูมิภาคอื่นแต่ทว่า มันน่าเสียดายที่พวกเขาไม่คุ้นเคยกับสถานการณ์บนดาวอื่นและไม่มีผลลัพธ์ที่ดีนัก
กว่าสี่เดือนก่อนผลประโยชน์ของโลกริบหรี่เริ่มแสดง รางวัลที่กองทัพแบล็คสตาร์ได้รับจากโลกริบหรี่เกือบเท่ากับกองกำลังอื่นมามัดรวมกัน
ดาวถูกสำรวจมากขึ้นเรื่อยๆรางวัลพวกเขาก็เช่นกัน
ดาวไร้คนอาศัยนับไม่ถ้วนกำลังรอให้สำรวจหากไม่ ทำไมพวกเขาถึงบอกว่าโลกริบหรี่คือโอกาสครั้งใหญ่?
ผลกำไรของกองทัพเพิ่มขึ้นอย่างรวดเร็วและหลังทีมสำรวจส่งผลกำไรเหล่านี้กลับไปค่ายหลักในวงแหวนดาวกระจายซิลเวียก็เริ่มขยายกองทัพเพิ่มภายใต้คำสั่งของหานเซี่ยว พวกเขาดึงดูดสมาชิกใหม่ได้เพิ่ม
ทางฝั่งผู้เล่นเมื่อดาวทรัพยากรเพิ่มจำนวนขึ้น กิลด์ก็รีบส่งกำลังคนออกไปและเลือกดาวเพื่อขุด ดาวทรัพยากรชั้นดีย่อมถูกยึดโดยสี่กิลด์ใหญ่และกิลด์ชั้นหนึ่ง กิลด์ออสเตรเลียและรัสเซียถูกรังแกอย่างหนักและไม่อยากแข่งกับ
กิลด์จีนบนดาวเดียวกันอีกดังนั้น พวกเขาจึงเลือกดาวทรัพยากรชั้นต่ำและแข่งกับกิลด์จีนชั้นสองแทน
กว่าสี่เดือนก่อนระดับเฉลี่ยของผู้เล่นเพิ่มขึ้นมากและจันทราเมเปิ้ล ผู้ได้รับโบนัสจากภารกิจลับก็เป็นผู้เล่นระดับสูงสุด เธอมีระดับ113แล้วและห่างจากระดับสูงสุดของเวอร์ชั่นแค่7ระดับ
ด้วยจันทราเมเปิ้ลเป็นตัวอย่างผู้เล่นทั้งหมดจึงค้นหาภารกิจลับอย่างบ้าคลั่ง และก็ยังมีคนที่สามารถหาได้ แต่ทว่า มันน่าเสียดายที่ไม่มีรางวัลสำหรับเศษทักษะนักสำรวจผู้กล้าหาญ
หานเซี่ยวไม่นิ่งเฉยตลอดสี่เดือนบทลงโทษค่าประสบการณ์สำหรับลูกบาศก์วิวัฒนาการจะหมดลงในแปดเดือน เขาจึงไม่รีบเลื่อนระดับ
นอกจากการจับตาดูความคืบหน้าการสำรวจและเลื่อนผ่านฟอรั่มเขาใช้เวลาส่วนใหญ่ในโรงงาน ขยายกองทัพจักรกลเขา
ปัจจุบันกองทัพจักรกลเขามีทหารสูงเกินสิบล้านแล้ว และค่าสถานะก็ทรงพลังมาก ภายใต้พลังจักรกลเขา กองทัพนี้มีพลังพอจะกวาดล้างอารยธรรมระบบดาวที่อ่อนแอ
ท่ามกลางห้าสายอาชีพการทำลายล้างของช่างกลที่มีต่ออารยธรรมนั้นสูงสด อีกสี่สายเหมาะกับสู้เป้าหมายเดี่ยว และมีเพียงช่างกลผู้อยู่เหนือถึงมีความสามารถจะสู้ในสงครามกาแล็กซี่ขนาดใหญ่
หานเซี่ยวกำลังยืนตรงหน้าแผนที่ดาวรอข่าวพิเศษ
วันนี้คือวันพิเศษที่หน่วยเฉพาะกิจของเฮดาวี่จะสร้างประตูดาวเสร็จเขากำลังรอให้เฮดาวี่ติดต่อมา
แต่ก่อนข่าวจากเฮดาวี่จะมาถึงทาราคอฟก็ติดต่อเขาก่อน
ปี้บปี้บ!
หานเซี่ยวก้มมองและรับสาย
”ผู้บัญชาการสูงสุดมีเรื่องอะไร?”
”ผมต้องแจ้งคุณเรื่องหนึ่งเราพบร่องรอยของพวกลอบเร้น”
”ลอบเร้น?พวกเขาควรมาจากองค์กรที่ไม่สนคำเตือนจักรวรรดิสินะ?”
นี่คือเรื่องที่ผู้เล่นพบจากคำอธิบายพื้นหลังในชีวิตก่อนหน้าเขาเรื่องนี้เกิดในช่วงการอัปเดทเวอร์ชั่น และผู้เล่นก็ไม่ได้เข้าร่วมในเหตุการณ์ เมื่อผู้เล่นเข้าร่วม โลกริบหรี่ก็ได้เปิดต่อโลกภายนอกแล้วและองค์กรอื่นก็ได้รับอนุญาตให้เข้าโลกริบหรี่
ในบันทึกของจักรวรรดิพวกเขาสู้กับพวกลอบเร้นอยู่นาน ทุ่งดาวใหญ่เกินไป และก็มีภูมิภาคมากมายให้สำรวจ เช่นนั้น จักรวรรดิจึงไม่อาจถอนรากพวกลอบเร้นได้หมด ต่อให้พวกเขาสามารถกำจัดกลุ่มหนึ่งได้ ก็จะมีอีกกลุ่ม
ทาราคอฟพยักหน้า”มันควรเป็นกองกำลังจากอารยธรรมกลุ่มดาวชั้นนำคุณควรจับตาดูพวกเขาและรายงานผมหากพบ เราต้องหาประตูดาวลับพวกมัน และเราจะร้องขอความช่วยเหลือจากกองทัพคุณหากจำเป็น”
”ตกลง”
ภารกิจใหม่ผุดขึ้นบนหน้าต่างสถานะหานเซี่ยว
ท่านกระตุ้น[เบาะแสของพวกลอบเร้น](ทำซ้ำได้)!
คำแนะนำภารกิจ: ทุ่งดาวใหม่คือขุมสมบัติ และทุกองค์กรก็อยากได้มัน ไม่มีใครเต็มใจเห็นจักรวรรดิคริมสันกลืนมันคนเดียว และต่อให้โลกริบหนี่คือเขตแดนของจักรวรรดิ มันก็เป็นไปไม่ได้ที่จะหยุดคนโลภ ในฐานะพันธมิตรจักรวรรดิ การแทรกซุมของพวกลอบเร้นคือโอกาสของท่านด้วย จักรวรรดิต้องการความช่วยเหลือจากท่าน
ข้อกำหนดภารกิจ: ส่งมอบข้อมูลทั้งหมดดที่เกี่ยวกับพวกลอบเร้น ฆ่ากลุ่มพวกลอบเร้น และทำลายประตูดาวลับ
รางวัล: ค่าประสบการณ์2-50ล้าน และแต้มสะสมจักรวรรดิคริมสัน50-700
หมายเหตุ: นี่คือภารกิจชุดของโลกริบหรี่
นี่คือภารกิจทำซ้ำได้และเขาก็ได้รับรางวัลทุกครั้งที่จัดการกับพวกลอบเร้น รางวัลก็เฉยๆ แต่หานเซี่ยวสนใจแต้มสะสม
แต่ทว่าพวกลอบเร้นกระทำอย่างเร้นลับและก็ยากต่อการพบ หานเซี่ยวทำได้แค่พึ่งโชค นอกจากนี้ พวกลอบเร้นไม่ใช่ชนพื้นเมือง และหากพวกมันลอบตั้งประตูดาวลับ มันก็จะทำลายได้ด้วยการต่อสู้เท่านั้น
หานเซี่ยวตั้งใจแค่จะหาเบาะแสและไม่คิดสู้กับอารยธรรมกลุ่มดาวชั้นนำเหล่านั้นแต่ทว่า จักรวรรดิไม่กลัวการตอแยพวกเขา
”ศาสนจักรควรรวมอยู่ในหมู่พวกลอบเร้นด้วย..”
อีซอปทำนายว่าศาสนจักรจะทำให้เขาตกอยู่ในอันตรายในโลกริบหนี่ และหานเซี่ยวก็กังวล
หากศาสนจักรอาร์เคนอยากจัดการกับฉันพวกเขาต้องส่งกองกำลังขนาดใหญ่มา เพราะพวกเขาจะต้องสร้างกองกำลังพวกเขา พวกเขาย่อมไม่ลงมือเร็วๆนี้ แต่ทว่า การระวังตัวไว้ก็ย่อมดีกว่า
ไซเคอร์สามารถจับตำแหน่งเขาได้และศาสนจักรย่อมต้องลากไซเคอร์มาร่วม การสังเกตที่อยู่ของไซเคอร์คือทางเดียวที่จะรู้ตัวเมื่อศาสนจักรโจมตี
มันน่าเสียดายที่ตราสังเกตใช้กับไซเคอร์ไม่ได้ผลหากไม่ เรื่องราวคงง่ายกว่านี้มาก แม้ไซเคอร์จะไม่อาจลบมันได้ด้วยตัวเอง เขาก็สามารถรู้สึกได้ว่าถูกสอดแนม ไซเคอร์พบแล้วว่าเขาคือคนๆนั้นและมันก็เป็นไปไม่ได้สำหรับไซเคอร์ที่จะนิ่งเฉยต่อเรื่องนี้หลังผ่านไปครึ่งปี ไซเคอร์ต้องให้คนจากศาสนจักรมาช่วยลบตราสังเกตไป เหนือสิ่งอื่นใด ออสตินไม่ใช่จอมเวทย์ผู้อยู่เหนือแค่คนเดียว
หานเซี่ยวบอกความกังวลเขาต่อทาราคอฟและทาราคอฟก็ตอบด้วยรอยยิ้มราวกับคาดไว้แล้ว
”จักรวรรดิยังพิจารณาความเป็นไปได้ที่ศาสนจักรจะพยายามชิงลูกบาศก์วิวัฒนาการตอนคุณอยู่ในโลกริบหรี่ดังนั้น จักรวรรดิจึงจับตาดูการเคลื่อนไหวของผู้อยู่เหนือฝ่ายศาสนจักรไว้ นอกจากนี้ ท่านผู้ปกครองยังส่งกองทัพชุดสองมายังโลกริบหรี่ ซึ่งรวมถึงพันธมิตรจักรวรรดิมากมาย เรายังส่งผู้อยู่เหนือที่ขึ้นตรงต่อจักรวรรดิมาติดตามคุณและคุ้มครองคุณชั่วคราว”
พันธมิตรชุดสอง…ดูเหมือนคู่แข่งจะมากันแล้ว
จักรวรรดิส่งกำลังมาเพื่อคุ้มครองเขาแต่หานเซี่ยวรู้ว่าจักรวรรดิบอกใบ้ให้เขาอย่าพกลูกบาศก์วิ่งไปทั่ว
หลังได้รับสมบัติจักรวาลฉันควรกลับดาวประภาคารไปสักพัก…
เนื่องจากเขารู้ว่าศัตรูอยากจัดการเขาหานเซี่ยวจึงตัดสินใจเลือกข้างที่ปลอดภัยกว่า
ดังนั้นมันจึงดีสำหรับเขาที่จะอยู่ข้างๆจักรวรรดิ นอกจากนี้ เขายังอยู่ในโลกริบหรี่และสามารถดูความคืบหน้าการสำรวจต่อไปได้
”ฝากขอบคุณท่านเออแรนเรลแทนผมด้วย.
”ฮ่าๆท่านผู้ปกครองได้ตรวจสอบความคืบหน้าเรา และท่านก็พอใจผลงานท่านมาก”ทาราคอฟกล่าวด้วยรอยยิ้ม
หลังคุยกันสักพักหานเซี่ยวก็วางสาย
ตอนนี้ในที่สุดเฮดาวี่ก็ส่งข่าว
หลังรอมาสี่เดือนในที่สุดประตูดาวก็เสร็จ!
”ดีมาก!”
หานเซี่ยวยินดีด้วยทางผ่านนี้ เขาก็จะได้รับสมบัติจักรวาลสักที
เฮดาวี่แสดงความไม่พอใจในข้อความเขาไม่ได้สู้กับหานเซี่ยวมาสี่เดือนและหงุดหงิดมาก เขาอยากกลับมาข้างหานเซี่ยวเพื่อจะได้ถูกหานเซี่ยวทุบตี ด้วยอารมณ์ที่ดี หานเซี่ยวจึงรับปากว่าจะทุบตีเฮดาวี่สามครั้งต่อวัน
หานเซี่ยวสั่งกองยานให้เปลี่ยนทิศทางและตรงไปประตูดาว
ข่าวนี้กระจายไปหาเซนิโก้อย่างรวดเร็วแต่ทว่า เขาชินกับการที่แบล็คสตาร์ย้ายไปมาโดยไม่มีแบบแผนแล้วและไม่สงสัยอะไร
ตอนที่ 836 กาลอวกาศแอมเบอร์
นักวิชาการบางคนเชื่อว่ามีสามปัจจัยในการสร้างสังคมกาแล็กซี่จากความว่างเปล่าหนึ่ง การสื่อสารในรูปแบบสงครามกาแล็กซี่ที่ส่วนหนึ่งของอารยธรรมรอดและได้รับความรู้ สอง หนึ่งหรือผู้ปกครองทรงพลังที่มีพลังพอจะบังคับใช้กฏกับอารยธรรมอื่น สร้างกฏเกณฑ์ขึ้น สาม การลดระยะทางที่ทำได้ด้วยเทคโนโลยีไฮเปอร์ไดรฟ์ ประตูดาว และควอนตัม
ในสายตานักวิชาการสามเทคโนโลยีเหล่านี้คือสิ่งประดิษฐ์ที่ยิ่งใหญ่สุดในยุคจักรวาล พวกมันช่วยให้อารยธรรมสื่อสารกันได้แม้จะอยู่ห่างกันหลายปีแสง มันสร้างโครงสร้างสังคมที่มั่นคงขึ้น
หลังบุกเบิกในโลกริบหรี่มาสี่เดือนหานเซี่ยวและกองทัพแบล็คสตาร์ก็เห็นด้วยกับมันมากขึ้น
หน่วยเฉพาะกิจนำโดยเฮดาวี่ใช้เวลาทั้งหมดสีเดือนเพื่อไปถึงตะวันออกของกลุ่มดาวการูจากใต้ขณะที่กองยานหลักของหานเซี่ยวข้ามระยะทางไกลผ่านประตูดาวในเวลาไม่ถึงสองวัน
ที่ระบบดาวชายแดนตะวันอกกองยานสองกองยานพบกันในอวกาศ ยานของหน่วยเฉพาะกิจกลับไปที่ยานหลัก
หานเซี่ยวรอสักพักในห้องบัญชาการและไม่ช้า เฮดาวี่กับลูกน้องก็เดินมา
“ผู้บัญชาการกองทัพ!”เฮดาวี่อ้าแขนกว้างและพุ่งเข้ามาด้วยใบหน้าตื่นเต้น
ปากหานเซี่ยวกระตุกเขาลังเลแต่ก็ตัดสินใจไม่ถอยและให้เฮดาวี่กอด
“มันสี่เดือนเต็ม!”เฮดาวี่กล่าวด้วยน้ำเสียงเบิกบาน
“ต้องตื่นเต้นอะไรขนาดนั้น?”เฮดาวี่กอดเขาแน่นจนหานเซี่ยวต้งอตบไหล่และลากเขาออกไปด้วยมือเดียว
สิ่งที่เขาไม่รู้คือสี่เดือนเหล่านี้ยากลำบากมากสำหรับเฮดาวี่ความสามารถเอสเปอร์กายแกร่งเขาจะพัฒนาได้จากการกระตุ้นภายนอกเท่านั้น ในฐานะเมล็ดพันธ์ผู้อยู่เหนือ เขากลายเป็นลูกน้องหานเซี่ยวเพื่อโอกาสประลองกับผู้อยู่เหนือ หลังเขามาอยู่ใต้หานเซี่ยว เขาก็รู้สึกว่าควมสามารถเอสเปอร์เขาเติบโตขึ้นอีกครั้งหลังนิ่งเฉยมานาน นี่ทำให้เขามีความสุขมาก
แต่ทว่าสัญญาณการแกร่งขึ้นหายไปอีกครั้งในสี่เดือนนี้ นอกจากนี้ ไม่มีภัยพิบัติสักคนในหน่วยเฉพาะกิจ ดังนั้นเขาจึงไม่อาจหาคู่ซ้อมได้ สำหรับพวกบ้าต่อสู้อย่างเขา นี่แทบทนไม่ได้
เมื่อเขาเห็นหานเซี่ยวอีกครั้งในสายตาเฮดาวี่ มันราวกับมีแสงส่องลงมาจากฟ้า เขาตระหนักว่าเขาคิดถึงหมัดของหานเซี่ยวแค่ไหน…
เฮดาวี่อารมณ์ดีเป็นพิเศษเขามองฮีล่า ที่อยู่ข้างๆ ยิ้มและอ้าแขน พยายามจะกอดเธอด้วย
“ลองแตะฉันดูสิ”พลังงานความตายปรากฏในตาฮีล่า
สีหน้าเฮดาวี่เปลี่ยนไปและค่อยๆลดแขนในใจก็คิดว่า ไม่มีทางที่ฉัน เมล็ดพันธ์ผู้อยู่เหนือจะยอมอ่อนให้เธอหากไม่ใช่เพราะผู้บัญชาการกองทัพ
“ไม่เอาน่าเฮดาวี่คือเมล็ดพันธ์ผู้อยู่เหนือนะ อย่าใช้คำพูดรุนแรงนัก”แต่หานเซี่ยวคือคนที่รู้สึกว่าทัศนคติของฮีล่าที่มีต่อสมาชิกองครักษ์แบล็คสตาร์นั้นต้องปรับปรุง เขาตบไหล่เธอและกดกระดูกไหล่เธอ
อืมค่อนข้างดี
สีหน้าฮีล่าเกร็งขึ้นเธอมองฝ่ามือหานเซี่ยวและพลังงานสีแดงในตาเธอก็หายไป
“ได้”เธอพูดอย่างไม่เต็มใจ
เฮดาวี่ทักทายเฟย์ดินและคนอื่นจากนั้นก็มองหานเซี่ยวและถาม”ตามคำสั่งนาย หน่วยเฉพาะกิจได้ตั้งประตูดาวเดินทางไกล เราจะทำอะไรต่อ?”
หานเซี่ยวไม่ตอบตรงๆแต่ดีดนิ้วและเรียกแผนที่ดาวสามมิติออกมาตรงหน้าทุกคนเขาค้นผ่านแผนที่ดาวและในที่สุดก็ยืนยันดาวที่มีสมบัติจักรวาลไร้เจ้าของในแถบจักรวาลรกร้างนอกกลุ่มดาวการู
ในชีวิตก่อนหน้าเขาดาวนี้เรียกว่าดาวแอมเบอร์ ตอนนี้ มันยังเป็นดาวที่มีเลขรหัสและไร้ชื่อ
“เรากำลังจะไปดาวนี้?”ออโรร่าถามอย่างอยากรู้”มันมีอะไรพิเศษงั้นหรอลุงหาน?”
หานเซี่ยวพยักหน้าและให้เหตุผลสุ่มๆ”ไม่นานมานี้เมื่อกลุ่มสมาชิกกองทัพกำลังสำรวจดาวร้าง พวกเขาพบข้อมูลที่ทิ้งไว้โดยมนุษย์ต่างดาว มันดูเหมือนจะเป็นบันทึกการเดินทางของนักสำรวจ และมันก็มีข้อมูลเกี่ยวกับดาวนี้ ซึ่งระบุว่ามันมีอารยธรรมบนนั้น เราจึงควรไปดูหน่อย”
เหตุผลนี้ฟังดูสมเหตุเนื่องจากหานเซี่ยวคือคนพูด แม้คนอื่นจะสับสน พวกเขาก็ไม่สงสัย เหนือสิ่งอื่นใด ด้วยเหตุการณ์กองทัพจักรวาล การดำรงอยู่ของชาวพื้นเมืองในโลกริบหรี่จึงไม่ทำให้พวกเขาตกใจอีก
หานเซี่ยวไม่ได้โกหกซะหมดดาวแอมเบอร์มีซากของอารยธรรมพื้นเมืองที่สูญพันธุ์จริงๆ และสมบัติจักรวาลก็อยู่ในซากนั้น
[กาลอวกาศแอมเบอร์]คือชื่อของสมบัติจักรวาลนี้ มันไม่ถูกสร้างขึ้นโดยอารยธรรมพื้นเมืองนี้แต่เป็นวัตถุนอกโลกที่ตกลงบนดาวเคราะห์โดยบังเอิญ อารยธรรมนี้เคยมองว่าเป็นสมบัติศักดิ์สิทธิ์ของพวกเขา
ในชีวิตก่อนหน้าเขาขณะที่พันธมิตรของจักรวรรดิค่อยๆพัฒนา กาลอวกาศแอมเบอร์ได้อยู่ในมือของหนึ่งในพันธมิตรจักรวรรดิที่เข้าร่วมการสำรวจ คนๆนั้นคือเรเวนลูด หนึ่งในผู้อยู่เหนือที่หานเซี่ยวเจอบนดาวแม่จักรวรรดิ สมาชิกของแอนเชี่ยนวันที่มีความสัมพันธ์ไม่ดีกับอีซอป
หลังจากนั้นเรเวนลูดก็แพ้ผู้อยู่เหนือคนอื่นในเวอร์ชั่นหายนะของพวกพิเศษ และกาลอวกาศแอมเบอร์ก็ถูกชิงไป หลังจากหลายเหตุการณ์ เจ้าของมันก็เปลี่ยนหลายมือ หนึ่งในนั้นยังเป็นคนจากอารยธรรมต้นไม้โลก ท้ายที่สุด มันก็อยู่ในมือสหพันธ์แห่งแสง
ต้นกำเนิดของมันลึกลับมากผู้เล่นในชีวิตก่อนหน้าเขาเพิ่งพบต้นกำเนิดมันในช่วงท้ายผ่านช่องทางข้อมูลพิเศษ มันไม่ใช่ความลับที่น่าตกใจแต่มันเกี่ยวกับเหล่าบรรพชนและก็มีเรื่องราว
สำหรับผลของมันมีเพียงคำเดียวที่สามารถอธิบายได้-‘พิเศษ’
มันไม่ใช่การเพิ่มพลังแต่ผลมัน..ยังนับว่าสุดยอดสำหรับผู้อยู่เหนือ!
เนื่องจากสิ่งนี้ไม่มีเจ้าของนอกจากเขา ไม่มีใครรู้ถึงการดำรงอยู่ของมัน เขาสามารถได้รับมันง่ายๆ
..
ไม่กี่วันต่อมากองยานก็มาถึงดาวแอมเบอร์และเข้าชั้นบรรยากาศมัน
ดาวฤกษ์อยู่ค่อนข้างใกล้กับดาวนี้และดวงอาทิตย์ก็ส่องแสงลงจากฟ้า ผิวดาวเป็นทะเลทรายซะส่วนใหญ่ มีพายุทรายสีเทาตลอด ไม่มีร่องรอยอารยธรรมให้เห็น
หานเซี่ยวกำลังจะส่งยานตรวจจับออกไปแต่ออโรร่ากลับหลับตาและส่ายหัว
“ไม่มีสัญญาณชีพบนดาวนี้”
“ช่วงตรวจจับน้องสามารถคลุมได้ทั้งดาวแล้ว?”ฮีล่าตกใจ
เมื่อเห็นทุกคนกำลังมองออโรร่าก็ยิ้มเขินอายแต่กล่าวด้วยน้ำเสียงภูมิใจ”ฉันเองก็โตแล้ว”
“ไม่เลวไม่เลว”หานเซี่ยวยิ้มพอใจ
ทุกครั้งที่ออโรร่าแกร่งขึ้นเขามักมีความสุข
เหนือสิ่งอื่นใดนี่หมายความว่าพลังรักษาของออโรร่าจะแกร่งขึ้น
ผลของบัตรอัญเชิญตัวละครออโรร่าคือฟื้นฟูจนเต็มแต่นั่นมาจากหน้าต่างสถานะและพลังรักษาของออโรร่าก็จำกัดค่าใช้จ่ายความสามารถเธอคือพลังชีวิตตัวเธอ ด้วยปริมาณพลังงานในเซลล์เขาในฐานะผู้อยู่เหนือ ออโรร่าอาจถูกสูบจนแห้งจากการรักษาเขาแค่ครั้งเดียวหรือสองครั้ง
“เนื่องจากไม่มีสัญญาณชีวิตอารยธรรมที่นายกล่าวถึงอาจสูญสิ้นไปแล้ว ทิ้งไว้แค่ซากปรักหักพัง”เฟย์ดินกล่าว
หานเซี่ยวพยักหน้าเขามองทะเลทรายสีเหลืองและส่งยานตรวจจับไปรวบรวมข้อมูลสภาพแวดล้อมของดาว
ในบันทึกจักรวรรดิซากอารยธรรมที่กาลอวกาศแอมเบอร์อยู่ถูกฝังไว้ใต้ทราย สำหรับรายละเอียดการค้นพบ มันไม่มีข้อมูลบันทึก ดังนั้น เขาจึงไม่รู้ตำแหน่ง แต่ทว่า ด้วยอุปกรณ์ตรวจจับที่มี การหาซากอารยธรรมแค่งานง่ายๆ
ตามคาดเขาได้รับข้อความจากยานตรวจจับ ซากเมืองมากมายถูกพบใต้ทะเลทราย
แต่ทว่ามันไม่พบแหล่งพลังงานพิเศษ
ไม่มีสัญญาณพลังงานพิเศษ?อืมกาลอวกาศแอมเบอร์ควรอยู่บนดาวนี้ บางทีอาจเพราะมันไม่ได้ถูกกระตุ้นมานาน
หานเซี่ยวมองซากบนแผนที่ดาวและส่ายหัว
ดูเหมือนฉันต้องค้นหาทั้งหมด..จิ๊ทำไมจักรวรรดิไม่บันทึกรายละเอียดการค้นพบไว้นะ?ตอนนี้ฉันต้องใช้เวลาค้นหามัน
หานเซี่ยวบอกกองยานให้รอนอกชั้นบรรยากาศ
เมื่อก้มมองพื้นใต้เท้าเขาหานเซี่ยวก็โบกมือ พลังจักรกลจำนวนมากพุ่งออกมา ประตูแสงขนาดใหญ่เปิดด้านหลังเขา และภายในก็คือทหารจักรกลนับไม่ถ้วน นี่คือฐานกองทัพมิติที่สอง
เกร๊ง!
ทหารจักรกลนับไม่ถ้วนกรูออกมาด้วยไซโอนิคไพรม์และสิ่งมีชีวิตจักรกลนับพันตรงหน้า พวกมันกำลังมองหานเซี่ยว
หลังปล่อยจักรกลนับล้านหานเซี่ยวก็ปิดฐานกองทัพมิติที่สองไป ทหารจักรกลยืนกันอย่างเป็นระเบียบตรงหน้าเขา ปกคลุมท้องฟ้า
“พวกแกไปค้นหาผ่านซากปรักหักพัง รายงานการพบอะไรที่พิเศษให้ฉันรู้ และมองหาสิ่งนี้ด้วย”หานเซี่ยววาดหน้าตาของกาลอวกาศแอมเบอร์ในเครือข่ายควอนตัมและสั่งผ่านฟิลลิป
ฮู่!
วินาทีต่อมาทหารจักรกลตรงหน้าเขาก็แยกและขุดทรายเพื่อสำรวจ
ด้วยการช่วยเหลือของเครื่องจักรเขาจึงไม่อยากเสียเวลาไปค้นหาเอง
“นายท่านเราพบบางสิ่งที่พิเศษ”
ไม่นานไซโอนิคไพรม์ก็ส่งข่าวดีมาพร้อมกับภาพ
หานเซี่ยวมองในภาพคือห้องใหญ่เหมือนโถง กำแพงและเสาเต็มไปด้วยภาพ ตรงกลางห้องคือแผ่นดิสก์สีดำขนาใดหญ่ที่มีลวดลายคล้ายวงจร มันอาจเป็นของกึ่งเทคโนโลยีและเวทมนตร์
บนพื้นรอบแผ่นมีผลึกทรงกลมโปร่งใสมากมาย แต่ละอันสูงประมาณ.5เมตรพร้อมด้วยสิ่งมีชีวิตในนั้น ร่างพวกมันไม่มีสัญญาณเน่าเปื่อยแต่สีหน้าและการเคลื่อนไหวกลับหยุดนิ่ง พวกมันไม่มีสัญญาณชีพ เหมือนถูกทำให้แข็งโดยแอมเบอร์
ปรากฏกาณณ์นี้คือผลของกาลอวกาศแอมเบอร์…
หานเซี่ยวแปลกใจเขามาเยือนดาวแอมเบอร์ในชีวิตก่อนหน้าเขา แต่ก็มีแค่ซากปรักหักพังในตอนนั้นและสิ่งมีชีวิตอำพันเหล่านี้ก็ไม่มีอยู่ สิ่งมีชีวิตเหล่านี้ต้องเป็นเผ่าพันธ์ที่เคยอาศัยที่นี่
บางทีเมื่อเรเวนลูดพบกาลอวกาศแอมเบอร์เขาคงนำตัวอย่างเหล่านี้ออกไป
แต่ทว่านี่คือข่าวดี มันหมายความว่าเขาอยู่ใกล้กับแอมเบอร์
หานเซี่ยวเรียกกองยานให้ลงยานอวกาศใช้ลำแสงดึงดูดและสูบทรายส่วนนี้จนแห้ง เผยให้เห็นซากที่ไซโอนิคไพรม์อยู่
กลุ่มพวกเขารีบลงไปตามสัญญาณของไซโอนิคเข้าไปใจกลางซากปรักหักพัง
แม้ซากปรักหักพังจะดูเก่าแก่แต่รูปลักษณ์เดิมของอารยธรรมก็ยังเห็นได้
รูปแบบยังแสดงความงามอารยธรรมนี้ดูเหมือนจะมีงานศิลปะที่ไม่เลว
“พวกเขาต้องเป็นอารยธรรมที่งดงามมาก”เฟย์ดินกล่าว
“อาจจะ”
หานเซี่ยวไม่ปฏิเสธไม่ช้าพวกเขาก็มาถึงใจกลาง นี่คือป้อมปราการขนาดมหึมาราวกับมันเป็นวิหารที่ทำจากวัสดุแข็ง
ทีมของไซโอนิคอยู่ในนี้หานเซี่ยวและคนอื่นเข้าโถงในภาพมา ด้วยการมองคร่าวๆ พวกเขารู้ว่ามีก้อนอำพันอย่างน้อยสองหมื่น
“พวกมันคืออะไร?มันดูเหมือนอำพัน”เฮดาวี่จับชิ้นอำพันข้างเขาอย่างอยากรู้ผิวสัมผัสมันแปลก เขาไม่สามารถรู้สึกถึงอุณหภูมิได้ แต่มือเขาก็ไม่อาจกดลึกลงไปได้
หานเซี่ยวมาหยุดตรงหน้าอำพันชิ้นหนึ่งและมองสิ่งมีชีวิตภายใน สิ่งมีชีวิตเหล่านี้ควรเป็นสัตว์เลี้ยงลูกด้วยนม พวกมันมีขนดกและค่อนข้างคล้ายสลอธ มันสูงประมาณหนึ่งเมตร ดวงตาพวกมันเบิกกว้างและมีสีหน้ากังวลไม่สบายใจตลอดเวลา
หานเซี่ยวหันกลับมามองฮีล่าจากนั้นก็กล่าว”ลองโจมตีมัน”
หวือ!
คลื่นพลังงานไหลออกมาจากตาของฮีล่าโดยไม่ลังเล
วินาทีต่อมาสิ่งแปลกๆก็เกิดขึ้น แม้อำพันจะถูกระเบิดปลิว มันก็ไม่เสียหายเลย พลังงานที่ฮีล่าปล่อยกระจายบนผิวเรียบของอำพัน
“หือ?”ฮีล่าขมวดคิ้วคราวนี้พลังงานที่เธอปล่อยออกมาเข้มข้นยิ่งกว่าเดิม
เมื่อเห็นหานเซี่ยวก็รีบหยุดเธอ”พอแล้ว ไม่ต้องลองอีก ไม่งั้นเธอคงทำลายทั้งห้องนี้”
ฮีล่าไม่มีทางเลือกนอกจากหยุด”สิ่งนี้ต้านทานต่อการโจมตีฉันได้แม้กระทั่งการโจมตีทางวิญญาณของฉันก็ไม่อาจเจาะมันได้”
“ไม่ใช่แค่นั้น”
หานเซี่ยวกดบนอำพันและพลังจักกลก็ไหลออกจากฝ่ามือแต่ทว่า ไฟฟ้ากลับแค่แลบบนผิวอำพัน ตัวอำพันไม่ได้รับความเสียหายเลย
“พูดให้ถูกสิ่งนี้ควรต้านทานต่อพลังงานทุกประเภท มันไม่อาจทำลายได้”
หานเซี่ยวยกชิ้นอำพันขึ้นและชั่งน้ำหนักมันมันไม่หนัก เขาวางมันลง ส่ายหัว”ผู้อยู่เหนือหรือแม้กระทั่งอาวุธทำลายดาวที่รุนแรงสุดของอารยธรรมจักรวาลก็ไม่อาจทำให้อำพันนี้เสียหายได้”
ทุกคนตกใจ
“จะมีวัสดุที่ทรงพลังเช่นนี้ในโลกได้ยังไง?”
“แม้กระทั่งผู้อยู่เหนือก็ทำลายมันไม่ได้?เป็นไปไม่ได้!”
“หรือว่า..”ฮีล่าพลันเข้าใจ”อวกาศอัศจรรย์?”
หานเซี่ยวลูบคางและแสร้งขบคิด”อืมเป็นไปได้ มันรู้สึกเหมือนลูกบาศก์วิวัฒนาการ”
เขาไม่ชัดเจนว่าอำพันชนิดนี้ก่อตัวได้ยังไงแต่อวกาศอัศจรรย์มักอธิบายได้ยาก ตามข้อมูลในชีวิตก่อนหน้าเขา อำพันนี้ดูเหมือนจะทำให้เวลาและพื้นที่เล็กๆแข็งตัว
วัตถุภายในอำพันจะถูกแยกจากความเป็นจริงราวกับมันอยู่ในอีกมิติที่ไม่มีเวลา
ตามตรรกะดังกล่าวร่างของสิ่งมีชีวิตที่ปกคลุมด้วยอำพันจึงไม่เปลี่ยน พวกมันควรมีอายุขัยไร้ขีดจำกัด เหมือนการนอนในแคปซูล ความคิดพวกมันควรถูกแช่แข็งเช่นกัน…
แต่ทว่าตามNPCที่ต่อสู้กับมันในชีวิตก่อนหน้าเขา เมื่อพวกเขาติดในกาลอวกาศแอมเบอร์ พวกเขาจะไม่อาจควบคุมร่างพวกเขาได้เลยและพลังงานพวกเขาก็ไม่อาจเล็ดรอดออกมาได้ด้วย แต่ความคิดพวกเขายังทำงาน พวกเขาสามารถเห็นและได้ยินสิ่งที่เกิดขึ้นนอกอำพัน พวกเขายังสามารถรู้ได้ว่าเวลาภายนอกผ่านไปนานแค่หน มันเหมือนความคิดพวกเขาติดในร่าง นี่คือสิ่งที่ขัดแย้งกับตรรกะและหนึ่งนเหตุผลสำคัญที่สิ่งนี้คือหนึ่งในอวกาศอัศจรรย์
มีเพียงความคิดของคนที่ติดอยู่นานเกินไปถึงเข้าสู่สภาวะชะงักงันคนที่แข็งแกร่งจะทนได้นานกว่า
ดังนั้นสิ่งนี้จึงสามารถสร้างเซลล์ที่ดักจับสิ่งมีชีวิตใดก็ได้และไม่ต้องกังวลว่านักโทษจะหนี มันเป็นการทรมานที่น่ากลัวมาก
แม้ว่าเป้าหมายจะเป็นผู้อยู่เหนือก็ตาม!
ปัญหาเดียวคือกระบวนการเปิดใช้งานมันค่อนข้างนานมันยังยากมากที่จะขังผู้อยู่เหนือไว้
หากสิ่งนี้ตกอยู่ในมือศัตรูมันจะคุกคามฉันได้มาก ฉันจะมีเรื่องให้กังวลน้อยลงหากมันอยู่ในมือฉัน
ความคิดทุกประเภทแล่นผ่านหัวเขาหันไปและมองแผ่นดิสก์ดำกว้างประมาณสิบเมตรกลางห้อง เขาสังเกตลวดลายบนนั้นสักพักและยืนยันว่านี่คือลวดลายส่งพลังงานบางอย่าง
“ดูเหมอืนว่าสิ่งนี้ต้องการพลังงานเพื่อเปิดใช้งาน”
หานเซี่ยวโบกมือไซโอนิคไพรท์กลายเป็นผู้คุ้มกันลอยและยิงลำแสงใส่ ถ่ายโอนพลังงาน
ฮุ่ม!
มันสั่นราวกับอุปกรณ์บางอย่างทำงาน ลวดลายสว่างและฝุ่นก็ตกลงมา
วินาทีต่อมาแผ่นก็สว่างและแสดงคุณสมบัติจริง..มันคือหน้าจอ
วิดิโอเริ่มเล่นบนจอสิ่งมีชีวิตของอารยธรรมนี้ปรากฏและเริ่มพูด
ตอนนี้เครื่องแปลภาษาพวกเขายังไม่บันทึกภาษานี้ ดังนั้นพวกเขาจึงไม่รู้ว่ามันพูดอะไร แต่ทว่า มันยังมีภาพฉาย ภาพของอารยธรรมนี้ก่อนมันสูญพันธุ์ปรากฏบนจอ ราวกับมันกำลังแสดงประวัติทั้งหมดตั้งแต่ต้น ยุคดึกดำบรรพ์ ค่อยเรียนการใช้เครื่องมือ ประดิษฐ์เครื่องบินและรถลอยและก็พยายามสร้างยานอวกาศ เมืองงดงามมากและคนก็ใช้ชีวิตอย่างสงบ
อย่างไรก็ตามเพราะความผิดปกติของดาวฤกษ์ สภาพแวดล้อมของดาวจึงเปลี่ยนไปมาก ภัยพิบัติที่มากพอจะกวาดล้างทุกสิ่งมีชีวิตบนดาวจึงบังเกิด เพื่อป้องกันอารยธรรมพวกเขา พวกเขาใช้สมบัติศักดิ์สิทธิ์พวกเขาเพื่อผนึกคนและเก็บรักษาข้อมูลของอารยธรรมไว้ในฐานข้อมูล มีฐานข้อมูลในทุกซากปรักหักพังเพื่อให้แน่ใจว่าใครก็ตามที่พบจะได้รับข้อมูลนี้
สมบัติศักดิ์สิทธิ์ที่ว่าก็คือกาลอวกาศแอมเบอร์ในความทรงจำหาเนซี่ยวเมื่อตระหนักว่าเขามาถูกที่ หานเซี่ยวก็โล่งใจและดูต่อ
มันต้องใช้พลังงานจำนวนมากเพื่อใช้แอมเบอร์อารยธรรมนี้ใช้แหล่งพลังงานเกือบหมดเพื่อชาร์จมันจนสามารถใช้ได้หลายครั้ง มีอำพันอยู่ทุกซากเมือง ไม่ใช่แค่ที่นี่ ขณะที่พวกเขากำลังดูบันทึก ทีมที่สำรวจซากเมืองอื่นก็พบอำพันมากขึ้น
ตอนท้ายของบันทึกที่อยู่ของกาลอวกาศแอมเบอร์ก็ถูกกล่าวถึง มันดูเหมือนจะอยู่เมืองใหญ่ แต่นั่นมันก่อนอารยธรรมจะสูญพันธุ์ ดังนั้นพวกเขาจึงไม่รู้ว่าซากเมืองไหนกันแน่
ฉันจะให้ฟิลลิปคัดลอกฐานข้อมูลพวกเขาก่อนหากภาษาถูกถอดรหัส ฉันจะสามารถเข้าใจบันทึกนี้ได้และพบซากที่กาลอวกาศแอมเบอร์อยู่
หานเซี่ยวกำลังจะสั่งแต่การแจ้งเตือนก็ผุด
ท่านกระตุ้นภารกิจลับ[ร่องรอยการดำรงอยู่]!
คำแนะนำภารกิจ: เนื่องจากความผิดปกติของดาวฤกษ์ ภัยพิบัติจึงกลืนกินอารยธรรมแยเซอร์ ก่อนหายนะ ชาวแยเซอร์เลือกสองเส้นทางพร้อมกัน พวกเขาอยากรักษาส่วนหนึ่งของเผ่าไว้ด้วยสมบัติเพื่อให้รอดชีวิตได้และสร้างอารยธรรมใหม่ในอนาคต ดังนั้น พวกเขาจึงกำลังรอให้ใครบางคนใช้สมบัติเพื่อปล่อยพวกเขาออกมา แต่ทว่า หากไม่มีใครมา พวกเขาก็เต็มใจเป็นตัวอย่างและเก็บรักษาข้อมูลทั้งหมดของอารยธรรมพวกเขาไว้ ทิ้งร่องรอยการดำรงอยู่ในจักรวาลกว้าง ท่านคือคนที่พวกเขารอมานานหลายปี น่าเศร้า เวลาที่จะตัดสินชะตากรรมสุดท้ายมาถึงแล้ว
ข้อกำหนดภารกิจ: ใช้สมบัติศักดิ์สิทธิ์ของอารยธรรมแยเซอร์ ปลดปล่อยชาวแยเซอร์จากผลของสมบัติศักดิ์สิทธิ์พวกเขา
รางวัล: ค่าประสบการณ์1500ล้าน 1แต้มตำนาน 1รางวัลสุ่ม 780แต้มสำรวจ และ1เศษความสามารถ[นักสำรวจผู้กล้าหาญ]