The Legendary Mechanic - ตอนที่ 857 -858
ตอนที่ 857 อาวุธอัครฑูตและความรู้ขั้นสูงสุด
“เอาละเราจะส่งความรู้สองอันให้คุณโดยเร็วที่สุด”จากนั้นอีกฝ่ายก็วางสาย
หานเซี่ยวออกเครือข่ายควอนตัมและเล่นกับปืนพกสีดำในมือเขาขณะรอการมาของความรู้
ปืนพกในมือเขาดูเหมือนปืนย้อนยุคแต่มันใช้เตาพลังงานขนาดเล็กภายใน ส่วนใหญ่จะขายให้ผู้เล่นเป็นอาวุธระยะไกลแต่ไม่มากกว่าปืนของเล่นต่อหานเซี่ยว มันไร้ประโยชน์และสร้างขึ้นเพื่อระลึกยุคเก่า
เมื่อพลังเขาเพิ่มขึ้นความทรงจำของหานเซี่ยวย้อนไปตอนเขาอ่อนแอ ฉากมากมายของเขาตอนสู้บนดาวอความารีนฉายผ่านหัว เขาเป็นคนที่ทรงพลังมากในจักรวาลและเดินทางมาไกลมาก ตอนนี้เขามีความสามารถพอจะทำลายดาว และจำนวนคนที่สามารถฆ่าเขาได้ก็น้อยลง
“มันก็ผ่านมายี่สิบกว่าปีแล้ว..”หานเซี่ยวมีสีหน้าซับซ้อน
ไซโอนิคไพรม์ยืนข้างหานเซี่ยวและถาม”ท่านพ่อท่านคิดอะไรอยู่?”
“ฉันแค่คิดถึงอดีต”จากนั้นหานเซี่ยวก็หันไปมองไซโอนิคไพรม์
“ฉันเริ่มรู้สึกว่านายอยากรู้อยากเห็นมากขึ้นนะ”
ไซโอนิคไพรม์พยักหน้า”แม้ผมจะสามารถได้รับความรู้จากเครือข่ายอารมณ์ของสิ่งมีชีวิตก็ไร้ขอบเขต และผมสามารถเข้าใจบางสิ่งได้หลังประสบมันเองเท่านั้น ดังนั้น ผมจึงชอบสื่อสาร”
“นี่เป็นเรื่องดีฉันต้องให้นายช่วยฉันสร้างอารยธรรมสิ่งมีชีวิตจักรกลขึ้นในอนาคต นายคือสิ่งมีชีวิตจักรกลตนแรกที่ฉันสร้างและหากไม่มีอะไรผิดพลาด นายจะเป็นผู้นำในอนาคต ในฐานะผู้นำอารยธรรม นายต้องเรียนรู้ที่จะเข้าใจคนอื่นและเข้าใจความคิดของสิ่งมีชีวิตจักรกลอื่น”
จากนั้นหานเซี่ยวก็หยุดสักพัก”การชอบสื่อสารเป็นเรื่องดีแต่ควรเปลี่ยนนิสัยตอนพูดบนเครือข่าย…”
หานเซี่ยวใช้ทักษะเทคโนโลยีเสมือนเขาเพื่อบันทึกข้อมูลเครือข่ายของสิ่งมีชีวิตจักรกลเขาตระหนักว่าสิ่งมีชีวิตจักรกลมากมายรวมถึงไซโอนิคไพรม์ชอบใช้บัญชีเสริมเพื่อคุยกับพลเมืองของอารยธรรมต่างๆ
มันไม่สำคัญว่ามันแค่การสนทนาปกติหรือไม่แต่สิ่งมีชีวิตจักรกลส่วนใหญ่จะมีบัญชีเป็นแสนเพื่อคุยกับคนอื่นพร้อมกันด้วยเนื้อหาการสนทนาที่รุนแรงมาก อันที่พบเห็นได้บ่อยสุดคือพูดจาสกปรกโดยล้อเลียนเพศตรงข้าม
ในสายตาเขาสิ่งมีชวิตจักรกลส่วนใหญ่เหมือนเด็กมีปัญหา พวกมันเหมือนฟองน้ำที่ดูดซับความชั่วร้ายและความเมตตาของสิ่งมีชีวิตมากมาย สร้างบุคลิกที่แตกต่างมากมาย
เมื่อสำรวจไซโอนิคไพรม์หานเซี่ยวก็คิดก่อนพูด”มายืนตรงหน้าฉัน”
ไซโอนิคไพรม์ทำอย่างเชื่อฟัง
หานเซี่ยวนั่งบนโซฟาและมีพลังจักรกลสีทองฟ้าปรากฏบนฝ่ามือเขา
“นายคือลูกคนแรกของฉันและหลังการสังเกตมานาน ฉันก็พอในใจศักยภาพนาย นายเต็มใจจะกลายเป็นอาวุธอัครฑูตของฉันและได้รับพลังที่มากขึ้นไหม?”
“ผมเต็มใจรับทุกอย่างท่านพ่อ”ไซโอนิคไพรม์คุกเข่าตรงหน้าเขา
“งั้นก็รับพลังนี้ไปนอกจากนี้ อย่าเรียกฉันว่าพ่อ..”
ริมฝีปากของหานเซี่ยวยกขึ้น
“เรียกฉันว่านายท่าน”
วินาทีต่อมาพลังจักรกลพิเศษในฝ่ามือเขา ซึ่งปกคลุมด้วย’พลังปกครอง’ก็เข้าร่างไซโอนิคไพรม์ นี่คือทักษะของจ้าวแห่งช่างกล[การสร้างชีวิต]
ฮุ่ม!
เตาพลังงานไซโอนิคของไซโอนิคไพรม์เริ่มปล่อยพลังพลังจักรกลสีทองฟ้าขยายออกจากภายในร่างจักรกลราวกับสายฟ้านั้นมีชีวิต
สนามแม่เหล็กที่เต็มไปด้วยกลิ่นอายแปลกๆปกคลุมร่างไซโอนิคไพรม์และโครงสร้างจักรกลกับอะไหล่ภายในตัวมันก็เริ่มเปลี่ยน โลหะผสมรอบๆเริ่มสั่นราวกับพวกมันกำลังถูกดูดเข้าร่างของไซโอนิคไพรม์
จากนั้นหานเซี่ยวก็เหยียดแขนและส่งอนุภาคนาโนจำนวนมากไปยังไซโอนิคไพรม์อนุภาคนาโนเหล่านี้หมุนรอบไซโอนิคไพรม์เหมือนวงแหวนดาว การปรับเปลี่ยนเกิดขึ้นเร็วมากและอนุภาคนาโนก็เปลี่ยนเป็นทะเลโลหะที่เข้าสู่ร่างไซโอนิคไพรม์เพื่อเป็นวัสดุสำหรับการอัปเกรด
จากนั้นหานเซี่ยวก็นั่งลงบนโซฟาและเล่นกับปืนพกขณะชื่นชมฉากตรงหน้าผลพิเศษของ[การสร้างชีวิต]น่าชมกว่า[พรสวรรค์จักรพรรดิ]
มีจำนวนจำกัดสำหรับอาวุธอัครฑูตเขา
หลังจากนั้นการเปลี่ยนแปลงก็จบ และรูปลักษณ์ก็เปลี่ยนไปมาก
ไซโอนิคไพรม์สูงกว่าเดิมประมาณสี่เมตร มันมีส่วนประกอบใหม่มากมายและเกราะก็ซับซ้อนแต่ก็มีลวดลายงดงาม
มีโลหะคล้ายมงกุฏบนหัวไซโอนิคไพรม์ยังถือหอกจักรกลยาวคล้ายคฑาในมือ
“รู้สึกยังไงบ้าง?”หานเซี่ยวถามด้วยรอยยิ้ม
“ต้องขอบคุณนายท่านผมสามารถรู้สึกได้ถึงพลังใหม่”ไซโอนิคไพรม์กล่าวและจับหอกในมือ จากนั้นพลังงานไซโอนิคก็ไหลออกจากเตาพลังงาน
หานเซี่ยวหรี่ตาและพลันยกปืนพกเขาขึ้นยิงใส่ไซโอนิคไพรม์
บูมบูม บูม!
ลำแสงพลังงานมืดยิงใส่ไซโอนิคไพรม์แต่ก็ถูกขวางด้วยชั้นพลังงาน ในเวลาเดียวกัน ข้อมูลการต่อสู้ก็ผุดขึ้น
จากนั้นหานเซี่ยวก็มองดูค่าสถานะของไซโอนิคไพรม์ซึ่งแสดงบนหน้าต่างสถานะและพยักหน้าด้วยความพอใจ
ไซโอนิคไพรม์มีระดับ215แล้วและค่าสถานะต่างๆก็เพิ่มขึ้น ตอนนี้เขาถือเป็นบอส และพลังก็มากเกินสิ่งมีชีวิตจักรกลทั้งหมด
โดยปราศจากพลังจักรกลของหานเซี่ยวไซโอนิคไพรม์ยังมีพลังของภัยพิบัติและด้วยการเสริมพลังจากพลังจักรกลเขา ไซโอนิคไพรม์จะสามารถปะทะกับผู้อยู่เหนือได้และจะไม่เป็นแค่กระสอบทราย พลังเขาคล้ายกับร่างแยกเทพเอส
หอกในมือไซโอนิคไพรม์คืออาวุธอัครฑูตพิเศษจาก[การสร้างชีวิต]และเรียกว่า’หอกไซโอนิคไพรม์’มันสามารถแยกออกจากเขาได้ และลอยในอากาศและยังหดหรือขยายขนาดได้ มันมีรูปแบบมากมายและสามารถเปลี่ยนเป็นรูปแบบพลังงานไซโอนิคได้ มันสามารถใช้ได้ทั้งการต่อสู้ระยะประชิดและไกล และทั้งนักสู้จักรกลและผู้ใช้ปืนใหญ่ก็สามารถใช้มันได้ ระดับของอาวุธเหนือกว่า200 และมันก็ถือเป็นเกรดส้มเงิน พลังของอาวุธจะเพิ่มเมื่อถูกใช้โดยไซโอนิคไพรม์
นอกจากนี้ไซโอนิคไพรม์ยังได้รับ’บุคลิกอัครฑูต’และ’อำนาจอัครฑูต’ บุคลิกอัครฑูตเขาคือ’มั่นคง’และ’ผู้นำ’ ซึ่งสามารถเสริมพลังสิ่งมีชีวิตจักรกลรอบตัวเขาได้ในช่วงต่อสู้ อำนาจอัครฑูตเขาคือ’การควบคุมไซโอนิค’และ’เสริมการต่อสู้’ ซึ่งช่วยให้เขาควบคุมพลังงานไซโอนิคได้ดีขึ้นและมีพลังต่อสู้มากขึ้น
รอยยิ้มพอใจสามารถเห็นได้บนหน้าหานเซี่ยว
พลังของอาวุธอัครฑูตน่าประทับใจมากแต่มันน่าเสียดายที่การสร้างชีวิตมีคูลดาวน์นานนับเดือน มันหมายความว่าเขาจะสามารถสร้างอาวุธอัครฑูตได้ครบ12ในเวลาหนึ่งปี แน่นอน เพราะพรสวรรค์เขาเช่น[จักรพรรดิจักรกล]และ[สัมผัสจักรกล] เขาจึงสามารถสร้างได้มากกว่า12
“ทำความคุ้นเคยกับพลังใหม่ซะอัครฑูตของฉัน”หานเซี่ยวกล่าว
“ผมจะไม่ทำให้นายท่านผิดหวัง”ไซโอนิคไพรม์กล่าว
ปี้บปี้บ
อุปกรณ์สื่อสารของหานเซี่ยวดังจักรวรรดิคริมสันส่งความรู้ทั้งสองมาแล้ว
หานเซี่ยวใช้แต้มสะสมหมื่นสองพันเพื่อเลือกมัน
สายอาวุธ: [วิทยาศาสตร์วัสดุไร้สิ้นสุด]
สายควบคุม: [ผู้สร้างเสมือน]
หนึ่งในนั้นเป็นของสายช่างกลเสมือนเขาและเขาก็ต้องใช้แค่8แต้มศักยภาพ อันอื่นคือความรู้สำคัญต่อช่างกลและช่างกลจากสายใดก็สามารถเรียนได้
ทรัพยากรและพลังงานมักเป็นคอขวดที่ใหญ่สุดของทักษะเทคโนโลยีช่างกลและสายอาวุธก็มีความรู้เกี่ยวกับวัสดุนี่ช่วยให้ช่างกลผสานวัสดุที่ทรงพลังขึ้นและเพิ่มค่าสถานะพื้นฐานของช่างกล นี่คือความรู้แกนของสายช่างกล
การเรียนสองความรู้นี้ต้องใช้32แต้มศักยภาพและหานเซี่ยวก็มีอยู่33แต้ม
หานเซี่ยวยิ้มและเรียนพวกมันทันที
กำลังเรียน..
สำเร็จ!ท่านได้เรียนรู้[วิทยาศาสตร์วัสดุไร้สิ้นสุด]!
กำลังเรียน…
สำเร็จ!ท่านได้เรียนรู้[ผู้สร้างเสมือน]
ท่านได้รับพรสวรรค์[ผู้บุกเบิกวัสดุ]!
[ผู้บุกเบิกวัสดุ]: โอกาสสำเร็จในการผสานวัสดุใหม่เพิ่มขึ้น และความสามารถที่ได้รับจากวัสดุพิเศษก็จะเพิ่ม ตัวอย่างเช่น ความสามารถฟื้นฟูตัวเองของเครื่องจักร
ท่านได้รับพรสวรรค์[จ้าวแห่งเสมือน]!
[จ้าวแห่งเสมือน]: ทักษะเทคโนโลยีเสมือนต่างๆจะเพิ่มขึ้นมหาศาล โบนัสรวมคือ2.5 เมื่อท่านเข้าเครือข่ายควอนตัม จิตสำนึกท่านจะสามารถกระโดดผ่านตัวเชื่อมเครือข่ายควอนตัมต่างๆและเพิ่มขอบเขตท่าน ท่านสามารถปล่อยสิ่งมีชวิตเสมือนได้ ท่านมีความเชี่ยวชาญในทักษะเทคโนโลยีเสมือนต่างๆ และเครือข่ายควอนตัมก็คือป้อมปราการได้
ท่านได้รับ[การกลั่นวัสดุขั้นสูงสุด]!
ท่านได้รับ[การผสานวัสดุไร้สิ้นสุด]!
[การผสานวัสดุไร้สิ้นสุด]: ท่านสามารถผสานความพิเศษของวัสดุและพยายามสร้างสูตรวัสดุใหม่ ยิ่งเกรดของวัสดุและความซับซ้อนของศัตรูสูง โอกาสสำเร็จยิ่งต่ำ อัตราความสำเร็จพื้นฐานตัดสินจากสติปัญญาและความสัมพันธ์กับเครื่องจักร เมื่อท่านสร้างสูตรใหม่ พลังของวัสดุใหม่จะเพิ่ม
ท่านได้รับ[การวิวัฒนาการชีวิตเสมือน]!
[การวิวัฒนาการชีวิตเสมือน]: ท่านสามารถแปลงปัญญาประดิษฐ์เป็นสิ่งมีชีวิตเสมือน สิ่งมีชีวิตเสมือนจะมีการแทรกซึมและการป้องกันที่ทรงพลังมาก
ท่านได้รับ[วิญญาณเสมือน]!: วิญญาณท่านสามารถแปลงเป็นสิ่งมีชีวิตเสมือนและใช้ชีวิตภายในเครือข่ายควอนตัมได้ ระดับรวม สติปัญญาและทักษะเทคโนโลยีเสมือนจะกำหนดพลังหลังแปลงเป็นสิ่งมีชีวิตเสมือน ผลนี้สามารถยกเลิกได้
เมื่อท่านใช้พลังจักรกลเพื่อเชื่อมต่อกับเป้าหมายท่านสามารถจำลองวิญญาณของเป้าหมายท่านและดึงมันเข้าเครือข่ายควอนตัม อัตราสำเร็จกำหนดโดยระดับรวม สติปัญญา ลี้ลับและโชค หากสำเร็จ เป้าหมายจะไม่สามารถควบคุมร่างได้ชั่วคราว และการโจมตีเป้าหมายในเครือข่ายควอนตัมจะทำให้เกิดความเสียหายทางจิต
คูลดาวน์: 15นาที
หานเซี่ยวมองดูการแจ้งเตือนและพยักหน้าพอใจ
“ผลของพรสวรรค์เหล่านี้ทรงพลังมากวิทยาศาสตร์วัสดุไร้สิ้นสุดช่วยให้ฉันพัฒนาคุณภาพของเครื่องจักรและสร้างวัสดุใหม่ได้ ความรู้เสมือนช่วยให้ฉันมีกลยุทธ์การต่อสู้แบบใหม่.”
ด้วยสองความรู้ในมือเขาหานเซี่ยวพอใจมาก เขาไม่ใช่แต้มสะสมอีกหกพันที่เหลือเพื่อแลกความรู้ใหม่ แต่เก็บไว้สำหรับผลของสินทรัพย์ทางการเมือง
เพียงเมื่อเขากำลังจะไปห้องต่อสู้เพื่อทดสอบพลังใหม่ของไซโอนิคไพรม์อุปกรณ์สื่อสารเขาก็ดัง ทาราคอฟโทรหาเขา เผยข้อมูลบางอย่างที่ทำให้เขางุนงง
หานเซี่ยวตอบด้วยสีหน้าแปลกๆ
“นายบอกว่าเทพเอสอยากร่วมมือกับจักรวรรดิชั่วคราวและส่งกำลังคนมาช่วยเราหยุดศาสนจักร?”
“ถูกต้องกองกำลังเราที่ไล่ล่าผู้ร่วงหล่นจับยานรบเปล่าที่มีร่างแยกเทพเอสได้ เขาไม่สู้กลับและยอมให้ถูกจับ บอกว่าเขาอยากคุยกับเรา”
ทาราคอฟแปลกใจ
หานเซี่ยวขมวดคิ้วและรู้สึกว่าเรื่องนี้น่าสงสัยเทพเอสไม่จำเป็นต้องทำแบบนี้ เทพเอสคล่องตัวมากและไม่ใช่คนที่สนใจลูกน้องเขา ดังนั้น เขาสามารถหลบหนีได้ต่อให้ไม่มีความช่วยเหลือของจักรวรรดิ นอกจากนี้ เป้าหมายหลักของจักรวรรดิก็ไม่ใช่เขา ทำไมเทพเอสถึงต้องทำเรื่องเช่นนี้?หรือเขาคิดว่าเขาสามารถทำให้จักรวรรดิพอใจได้ด้วยการทำเช่นนี้?
หลังคิดสักพักหานเซี่ยวก็ถาม”ผู้บัญชาการสูงสุด นายคิดทำยังไง?”
“ทะ..เทพเอสต้องการข้อมูลเกี่ยวกับพิกัดของศาสนจักรและมันก็ไม่สำคัญว่าเราจะมอบมันให้เขาไหม กองยานศาสนจักรจะออกจากเขตปลอดภัยเราในไม่ช้า และเราจะเสียร่องรอยพวกมัน ข่าวนี้ไม่ใช่ความลับ และก็ไม่สำคัญว่าเราจะบอกใคร”
“ต่อให้เทพเอสไม่จริงใจเราก็ไม่เสียหายอะไร แต่หากเขาอยากปล่อยให้พวกแซ็กแมนเป็นแพะ เราก็จะได้รับผลกำไร สำหรับเขาที่ร่วมมือกับศาสนจักรเพื่อซุ่มโจมตีเรา เราสามารถปล่อยมันให้เป็นเรื่องของอนาคตได้”
“งั้นก็ทำตามแผนนาย”
แม้หานเซี่ยวจะรู้สึกว่าการตัดสินใจของเทพเอสแปลกมากทาราคอฟก็คือผู้บัญชาการ ในเมื่อหานเซี่ยวไม่อาจพบปัญหา เขาก็จะไม่แทรกแซงการตัดสินใจของทาราคอฟ
ตอนนี้ทาราคอฟกล่าว”มีอีกเรื่อง ร่างแยกเทพเอสอยากพบนาย”
“พบฉัน?เอาละในเมื่อกองยานจักรวรรดิที่ไล่ล่าเทพเอสไม่มีผู้อยู่เหนือ ฉันก็จะแบ่งกองทัพจักรกลส่วนหนึ่งของฉันไปพบเขาและจับตาดูร่างแยกเขาไว้”
หานเซี่ยวมั่นใจว่าเทพเอสอาจอยาก’ขอบคุณ’เขาสำหรับพลังงานวิวัฒนาการ
หลังหยุดสักพักเขาก็กล่าวต่อ
“สำหรับกองยานศาสจักร..ต่อให้พวกมันออกเขตปลอดภัยเราฉันก็มีวิธีระบุตำแหน่ง..”
ในฐานะช่างกลเสมือนเขาจะพลาดไม่ทิ้งอะไรไว้บนกองยานศาสนจักรในช่วงต่อสู้ได้ยังไง?แม้ไฟร์วอลล์ของกองยานศาสนจักรจะแข็งแกร่ง เขาก็ยังมีความสามารถที่จะทิ้งสิ่งเล็กสิ่งน้อยไว้
ดวงตาหานเซี่ยวเป็นประกาย
การเลือกเรียน[ผู้สร้างเสมือน]ในช่วงเวลานี้ก็เพื่อไล่ล่า!
ตอนที่ 858 การกระทำของเอเมส
หลังไล่ล่าสักพักแผนที่ดาวก็แสดงว่ากองยานศาสนจักรได้ออกเขตปลอดภัยและเริ่มแยกตัว ทาราคอฟขาดการติดต่อกับกองยานศาสนจักรชั่วคราว เพราะการสนทนาก่อนหน้าเขากับหานเซี่ยว เขาจึงเชิญหานเซี่ยวมายานหลักเพื่อให้หานเซี่ยวสามารถจับตำแหน่งศัตรูได้ผ่านเทคโนโลยีเสมือนเขา
หานเซี่ยวเดินผ่านทางเดินของยานหลักตรงไปห้องบัญชาการพร้อมด้วยพวกฮีล่า
ผู้บัญชาการของจักรวรรดิทั้งหมดที่เขาพบระหว่างทางทำความเคารพให้เขาความสำเร็จของหานเซี่ยวในการต่อสู้ทำให้เขาได้รับความเคารพมากมาย อาจกล่าวได้ว่าชีวิตพวกเขาได้รับการช่วยเหลือโดยแบล็คสตาร์และพวกเขาก็รู้สึกขอบคุณเขามาก
หานเซี่ยวตอบด้วยรอยยิ้มและหันไปเห็นฮีล่ากำลังขมวดคิ้วจากนั้นก็ก้มมองคอเธอ และเห็นผ้าพันแผล ซึ่งยาวจนถึงกระดูกไหปลาร้า จากนั้นก็ถามอย่างเป็นห่วง”บาดแผลเธอไม่เป็นไรนะ?”
ฮีล่าส่ายหัว”แผลเล็กๆเช่นนี้จะฟื้นตัวเองไม่ต้องมาห่วงหรอก”
หลังต่อสู้เธอไม่ยอมให้ออโรร่าเสียพลังชีวิตมารักษาพวกเธอ
“ยังเจ็บอยู่ไหม?”
“นิดหน่อยยาแก้ปวดไม่มีผล”ฮีล่าขมวดคิ้ว แม้เธอจะมีนิสัยดื้อรั้น แต่ก็ไม่ต้องมาแสดงอะไรต่อเรื่องเล็กๆ
“งั้นฉันก็ขอแสดงความยินดีด้วยที่เธอเป็นสิ่งมีชีวิต”หานเซี่ยวหัวเราะ
กลุ่มพวกเขามาถึงห้องบัญชาการที่ทาราคอฟรออยู่เมื่อเห็นการมาของหานเซี่ยว เขาก็ออกมาต้อนรับทันที จากนั้นก็ชี้ตำแหน่งบนแผนที่ดาวแล้วพูดว่า”นี่เป็นตำแหน่งสุดท้ายที่ศาสนจักรเห็น เราเสียร่องรอยพวกเขาไป แบล็คสตาร์ เราควรพึ่งนาย”
หานเซี่ยวพยักหน้าและหลับตาเพื่อเข้าเครือข่ายควอนตัม
ในความมืดโหนดเริ่มสว่างขึ้นในเครือข่ายควอนตัมทั้งอันใกล้และไกล กระแสข้อมูลไร้สิ้นสุดถูกส่งโดยโหนด และคลื่นลวงตาของข้อมูลก็ลอยมาหาเขา
แผนที่ดาวปรากฏในเครือข่ายควอนตัมและหานเซี่ยวก็สามารถซูมเข้าออกได้ง่าย ในเครือข่ายควอนตัม ระยะทางนั้นไม่มีผลเพราะเขาสามารถกระโดดข้ามโหนดได้ง่ายๆ
มุมมองเครือข่ายควอนตัมดูเหมือนจะมีรายละเอียดกว่าเดิม
หานเซี่ยวดื่มดำกับความรู้สึกใหม่นี้ก่อนเริ่มงานจากนั้นก็ค่อยๆเชื่อมต่อกับโหนดเพื่อสัมผัสร่องรอยที่ศาสนจักรทิ้งไว้ในเครือข่ายควอนตัม
สมองเขาประมวลผลข้อมูลจำนวนมากและหานเซี่ยวก็ลืมตา
ปึก!
จุดสีแดงหลายร้อยสว่างขึ้นบนแผนที่ดาวตรงหน้าพวกเขาเหล่านี้คือยานรบศาสนจักรที่ปกปิดตัวเอง
ตำแหน่งทั้งหมดถูกทำเครื่องหมายและไม่มีอะไรสามารถปิดบังจากเขาได้!
ทาราคอฟยินดี”ดีมาก!”
“ฮ่าๆๆก็ไม่ได้มากอะไร”หานเซี่ยวถอยออกจากมุมมองเครือข่ายควอนตัมและหัวเราะ
หากมันเป็นก่อนเขาจะเรียนผู้สร้างเสมือนร่องรอยการแทรกซึมเขาอาจถูกปัญญาประดิษฐ์ศาสนจักรพบเข้า
แต่หลังเรียนรู้เขาก็ได้รับการพัฒนาและสามารถสร้างประตูหลังเพื่อเข้าระบบของศาสนจักรได้ง่ายๆ นี่ทำให้เขาเลือกเรียนผู้สร้างเสมือน
ทาราคอฟลูบคาง”ตอนนี้เรามีพิกัดพวกมันแล้วการเคลื่อนไหวของศัตรูจะโปร่งใสต่อเรา เราไม่ต้องกังวลว่าจะหาไม่เจอ อืม ศัตรูแยกกำลัง และส่วนหนึ่งก็อาจเป็นเครื่องสังเวย หากเป็นแบบนี้ มันเป็นไปได้มากที่พวกเหยื่อเหล่านี้จะมีข้อมูลปลอมเกี่ยวกับตำแหน่งของประตูดาวและอยากล่อเรา ตำแหน่งจริงของประตูดาวควรอยู่ในกองยานที่มีพวกผู้อยู่เหนือ แบล็คสตาร์ นายสามารถจับตำแหน่งผู้บัญชาการศัตรูและผู้อยู่เหนือได้ไหม?ฉันสงสัยว่าพวกมันไม่อยู่บนยานหลัก”
“สามารถแต่ต้องแทรกซึมอุปกรณ์เฝ้าระวังของศัตรู ความเสี่ยงการถูกรับรู้จะเพิ่มและเราอาจเสียตำแหน่งพวกมัน แน่ใจนะว่าอยากเสี่ยง?”หานเซี่ยวตอบ
หลังคิดทาราคอฟก็ส่ายหัว”เราควรรักษาสภาพปัจจุบันไว้ก่อน ตราบเท่าที่เรามีพิกัดพวกมัน เราก็สามารถลองจับทั้งกองยานได้รวดเดียว ให้ข้อมูลส่วนหนึ่งกับเทพเอสก่อน”
หานเซี่ยวพยักหน้าและไม่พูดอะไรอีกจากนั้นจิตสำนึกเขาก็เข้ากองทัพจักรกลเขา กองทัพจักรกลที่เขาส่งออกไปเกือบจะติดต่อกับร่างแยกเทพเอสแล้ว
…
กองยานขนาดเล็กกำลังเข้าใกล้จุดรวมตัวพร้อมกับยานรบว่างเปล่าพวกเขารอมานาน และลำแสงก็พลันปรากฏจากความมืดและหยุดตรงหน้าพวกเขา
กองยานทั้งสองติดต่อกันและยืนยันตัวตนกันจากนั้นกองทัพแบล็คสตาร์ก็เข้าใกล้ยานรบว่างเปล่า
ทหารจักรวรรดิจำนวนมากกำลังเล็งอาวุธพวกเขาที่ทางออกของยานรอให้ฑูตผู้อยู่เหนือออกมา
สำหรับทหารทั่วไปที่คอยจับตาดูร่างแยกเทพเอสต่อให้เทพเอสไม่สู้กลับ พวกเขาก็ยังกดดัน มันราวกับพวกเขากำลังเผชิญหน้ากับอสูรร้ายที่สามารถฆ่าพวกเขาได้ตลอดเวลา ต้องขอบคุณ ผู้ช่วยพวกเขามาถึงแล้ว
หวือ!
ประตูยานเปิดและไซโอนิคไพรม์ก็เดินมาพร้อมหอกด้านหลังเขาคือกลุ่มสิ่งมีชีวิตจักรกลและกลุ่มทหารจักรกล
จากนั้นไซโอนิคไพรม์ก็ก้มมองทหารจักรวรรดิ”ฉันคืออัครฑูตตนแรกของท่านจ้าวแบล็คสตาร์ไซโอนิคไพรม์ ฉันมาที่นี่เพื่อรับภารกิจจากพวกนายและจับตาดูร่างแยกเทพเอส”
“เราควรส่งมอบมันให้คุณ”กลุ่มทหารถอนหายใจโล่งอกและรีบส่งมอบภารกิจให้ก่อนทิ้งยานรบว่างเปล่าไป
จากนั้นไซโอนิคไพรม์ก็นำทัพเขาไปยานรบว่างเปล่าร่างแยกเทพเอสอยู่ที่นั่น
ด้านหลังเขาประกายแสงสีเงินมองไซโอนิคไพรม์และกล่าว”ท่านจ้าวลำเอียงเกินไป ทำไมเขาถึงได้เป็นอาวุธอัครฑูตตนแรก?”
“หยุดบ่นไซโอนิคไพรม์คือลูกคนแรก นี่มันช่วยไม่ได้”ผู้พิทักษ์ชีวิตชื่อ’ราชาทองคำ’กล่าว เขาเป็นสิ่งมีชีวิตจักรกลชุดแรกและมีนิสัยเย็นชา
ด้านหน้าพวกเขาคือทหารจักรกลประเภทกึ่งอสูรที่เรียกว่า’นักล่าฟ้าคลั่ง’เขาหันมาและกล่าว”ท่านจ้าวมีการพิจารณาของตน และเราก็ต้องมอบความภักดีให้ ในเมื่อท่านจ้าวทรงประทานพลังให้ไซโอนิคไพรม์เช่นนั้น มันก็หมายความว่าอาวุธอัครฑูตมีได้จำกัด บางทีอาจมีแค่เราส่วนหนึ่งที่สามารถเปลี่ยนเป็นอาวุธอัครฑูตได้”
ไซโอนิคไพรม์ฟังการสนทนาด้านหลังโดยไม่พูดอะไรสักคำและมาถึงภายในยานอวกาศเปล่า
แกนพลังงานในยานอวกาศเปล่าถูกลบไปแล้วและยานอวกาศก็ขาดพลังงานร่างแยกเทพเอสกำลังเอนกายบนโซฟาและเผชิญหน้ากับกองยานจักรกลของไซโอนิคไพรม์
“แบล็คสตาร์แกมาแล้ว”ร่างแยกเทพเอสยิ้ม
“ฉันไซโอนิคไพรม์ท่านจ้าวไม่อยากมาพบแก แกสามารถบอกสิ่งที่อยากพูดกับท่านผ่านฉันได้”
ร่างแยกเทพเอสสำรวจไซโอนิคไพรม์และกล่าวด้วยน้ำเสียงล้อเลียน”อาวุธอัครฑูต?แบล็คสตาร์ไม่มีความสามารถเช่นนี้ครั้งก่อนที่เราสู้กันดูเหมือนเขาจะได้รับรางวัลมหาศาลจากการต่อสู้ เอาละ ฉันไม่สนใจที่จะคุยกับแก ไปเรียกแบล็คสตาร์มาคุยกับฉัน”
จากนั้นไซโอนิคไพรม์ก็ยกหอกขึ้นและแสร้งทำเป็นไม่ได้ยิน
เมื่อเห็นเทพเอสก็ยกแขนขึ้นและแขนเขาก็เหยียดออกไปเหมือนยาง ส่งหมัดที่เร็วเกินกว่าจะมองทันด้วยตาเปล่า!
เกร๊ง!
หมัดเขาเต็มไปด้วยพลังงานเอสเปอร์และกระแทกกับหอกของไซโอนิคไพรม์สร้างเป็นคลื่นกระทบเล็กๆ
โดยไม่พูดอะไรไซโอนิคไพรม์ถ่ายพลังงานเขาลงหอกและหอกก็เข้าสู่โหมดปลดปล่อย
คลื่นพลังงานไซโอนิคยิงออกจากหอก!
ซวบ!
ร่างแยกเทพเอสมีความเร็วน่าทึ่งเขาหลบกาณโจมตีง่ายๆ แต่ทว่า โซฟาที่เขากำลังนั่งกลับถูกแยกและผนังยานก็ยังถูกแหวกเป็นสอง
กองทัพจักรกลและร่างแยกเทพเอสลอยในอวกาศและเผชิญหน้ากันยานรบจักรวรรดิข้างๆพลันเล็งปืนใหญ่ใส่ร่างแยกเทพเอส
ไซโอนิคไพรม์ยืนตรงหน้าสุดและพลังจักรกลก็ปกคลุมตัวเขาร่างของไซโอนิคไพรม์เปล่งแสง กองทัพจักรกลอื่นไม่ได้รับการเสริมพลังจากพลังจักรกลและถอยภายใต้คำสั่งไซโอนิคไพรม์
ร่างแยกเทพเอสมองคลื่นพลังจักรกลและรู้ว่าหานเซี่ยวกำลังให้ความสนใจกับสถานการณ์เขารู้ถึงเจตนาของหานเซี่ยว
หานเซี่ยวอยากให้เขาสู้กับอาวุธอัครฑูตเพื่อทดสอบพลังของอาวุธ
“ฮึ่มเพราะแกช่วยให้ฉันวิวัฒนาการ ฉันจึงยอมเล่นกับอาวุธแกสักพักหรอก”
วินาทีต่อมาร่างแยกเทพเอสก็ลงมือ และแขนเขาก็เหยียดออกไปทางไซโอนิคไพรม์เหมือนปืนใหญ่ เขาโจมตีอย่างดุดัน ทิ้งชุดภาพติดตาไว้ด้านหลัง
ร่างแยกนี้ไม่มีความสามารถเอสเปอร์ที่ทรงพลังใดๆและมีความสามารถเสริมและปรับร่างกายน้อยมากแต่ทว่า ร่างแยกนี้ก็ยังมีพลังของผู้อยู่เหนือและความสามารถยับยั้งภัยพิบัติทั้งหมด
จากนั้นไซโอนิคไพรม์ก็สะบัดหอกเพื่อสู้กับเทพเอสและทั้งสองร่างก็เคลื่อนผ่านอวกาศ
ร่างแยกเทพเอสและไซโอนิคไพรม์ถึงกับสูสีกัน!
หอกของไซโอนิคไพรม์เต็มไปด้วยพลังงานไซโอนิคสีฟ้าและเทพเอสก็เหมือนก้อนดินเหนียว สามารถเปลี่ยนร่างเขาเพื่อหลบการโจมตีต่างๆ ในเวลาเดียวกัน การโจมตีของเทพเอสยังถูกหลบด้วยร่างที่แยกส่วนของไซโอนิคไพรม์
กองทัพจักรกลดูข้างๆอดแปลกใจไม่ได้
เดิมพวกเขาไม่มีอะไรมากไปกว่ากระสอบทรายต่อหน้าผู้อยู่เหนือแต่ไซโอนิคไพรม์มีพลังจะสู้กับผู้อยู่เหนือซึ่งๆหน้า
“นี่คือพลังของอาวุธอัครฑูต?”
ประกายแสงสีเงินและจักรกลทั้งหมดมุ่งมั่นอยากได้พลัง
ทั้งสองฝ่ายปะทะกันและก็ถอยห่างพร้อมกัน
ครั้งนี้พลังจักรกลบนตัวไซโอนิคไพรม์สลาย บ่งชี้ว่าจบการประมือแล้ว
จากนั้นร่างแยกเทพเอสก็หยุดสู้หลังสังเกตเห็นเพราะเขามาที่นี่เพื่อคุย
ทั้งหมดกลับไปยานกองทัพแบล็คสตาร์ข้างๆเทพเอสนั่งลง และภาพฉายระยะไกลของหานเซี่ยวก็ปรากฏตรงหน้าเขา
เมื่อเห็นร่างแยกเทพเอสก็ยิ้ม”แบล็คสตาร์ มันต้องขอบคุณแกที่ทำให้ฉันวิวัฒนาการได้’
จากนั้นหานเซี่ยวก็แค่นเสียง”แกอยากเจอฉันเพื่อพูดเรื่องแบบนี้?”
“แน่นอนว่าไม่”ร่างแยกเทพเอสโบกมือและหัวเราะ”ฉันอยากถามแกว่าแกสามารถได้ข้อสรุปหลังวิจัยชุดรูหนอนหรือยัง”
ชายคนนี้เลือกเปิดเผยข้อมูลเพื่อให้สามารถหยิบยืมเครือข่ายฉันเพื่อช่วยเขาวิจัย..ดวงตาหานเซี่ยวหรี่แคบ
แต่ทว่าเทพเอสยังคิดว่าเขาคือคนเดียวที่รู้เกี่ยวกับอารยธรรมต้นไม้โลกและรู้สึกว่าเขามีข้อมูลเหนือกว่า
จนถึงตอนนี้เทพเอสยังคิดว่าหานเซี่ยวแค่วิจัยข้อมูลรูหนอนเพื่อระวัง แต่ไม่รู้ว่าหานเซี่ยวเองก็รับรู้ถึงอารยธรรมต้นไม้โลกด้วย
หานเซี่ยวย่อมไม่ทำลายความคิดนี้ของเทพเอส
“มาเข้าเรื่องกันนี่คือพิกัดที่จักรวรรดิอยากให้ฉันส่งให้แก”จากนั้นหานเซี่ยวก็ให้ฟิลลิปแสดงข้อมูลส่วนหนึ่ง”หากแกอยากช่วยจักรวรรดิหยุดศาสนจักรจริงๆ จักรวรรดิอาจพิจารณาว่าพวกเขาควรจัดการกับแกยังไง”
ร่างแยกเทพเอสไม่คิดตอบและเริ่มดูข้อมูล
เมื่อเห็นหานเซี่ยวก็กล่าว”แต่ทว่า ฉันไม่อาจเข้าใจได้ว่าทำไมแกถึงเลือกมาร่วมมือกับจักรวรรดิ การยั่วโมโหศาสนจักรไม่เป็นผลดีต่อแก”
“แกไม่ต้องมากังวลเรื่องนี้”เทพเอสไม่คิดจะยกหัวมามองด้วยซ้ำ
หานเซี่ยวลูบคางและตกอยู่ในห้วงความคิด
เขามักรู้สึกว่านี่ไม่ใช่เจตนาของเทพเอสแต่เป็นคนอื่น
แม้เทพเอสจะสามารถประจบจักรวรรดิได้โดยการทำเช่นนี้หานเซี่ยวก็รู้สึกว่าเจตนาเขาคือการใช้โอกาสนี้เพื่อเพิ่มความสูญเสียของศาสนจักร มันราวกับเป้าหมายเขาคือแซ็กแมนและผู้อยู่เหนือคนอื่น
“หากทำสำเร็จจริงใครจะได้รับผลประโยชน์สุด?จักรวรรดิคริมสัน?สหพันธ์แห่งแสง?หรืออาจจะพวกอารยธรรมกลุ่มดาวชั้นยอดเหล่านั้น?”
หานเซี่ยวถอนหายใจ
…
หลังกองยานศาสนจักรอาร์เคนแยกเพื่อหลบหนีโร้ก แซ็กแมนและคนอื่นก็เปลี่ยนยานพวกเขาและทิ้งยานหลัก จากนั้นก็ปลอมเป็นกองยานเล็กๆและกำลังเคลื่อนไปยังตำแหน่งจริงของประตูดาวลับ
โร้กรู้สึกว่าวิธีเช่นนี้สามารถทำให้กองกำลังจักรวรรดิสับสนได้แต่เหตุการณ์ต่อไปก็ทำให้เขาตกใจ
กองยานที่กำลังหลบหนีของพวกเขาส่วนหนึ่งถูกซุ่มโจมตีแต่ทว่า คนที่ซุ่มโจมตีพวกเขาไม่ใช่แค่กองยานจักรวรรดิแต่ยังเป็นกองยานผู้ร่วงหล่น!
“เทพเอสบ้าไปแล้ว?ทำไมเขาถึงโจมตีเรา?!”
โร้กหอยหายใจหนัก
“เทพเอสนั่นไปทำข้อตกลงกับจักรวรรดิจริงๆเขาอยากใช้เราเพื่อช่วยระงับความโกรธของจักรวรรดิ!”
แซ็กแมนโกรธจัดการที่เทพเอสกลับคำพูดยังพออนุโลม แต่เขาถึงกลับโจมตีพวกเขา แม้เขาจะไม่คาดหวังในตัวเทพเอสอยู่แล้ว เขาก็อดโกรธกับการกระทำของเทพเอสไม่ได้
จากนั้นไซเคอร์ก็มองแผนที่ดาวและกล่าว”สถานการณ์แปลกพวกมันซุ่มโจมตีหน่วยเราได้อย่างแม่นยำ นั่นเพราะหน่วยนั้นโชคร้ายหรือจักรวรรดิจับตำแหน่งเราได้?”
สีหน้าทุกคนเปลี่ยนไป
ไซเคอร์กัดฟัน”แบล็คสตาร์คือช่างกลเสมือนเขาอาจเป็นคนทำเรื่องนี้”
เมอเซอร์กัดฟันและคิดกับตัวเองว่าช่างกลบ้าอะไรกัน?
เมื่อได้ยินโร้กก็ให้ปัญญาประดิษฐ์ทำการสแกนยาน แต่ก็ไม่พบร่องรอยการแทรกซึม
“การแทรกซึมของแบล็คสตาร์ไม่อาจตรวจพบ..”แซ็กแมนปวดหัวเขามีความรู้มากและรู้ว่าช่างกลเสมือนสามารถเจาะผ่านไฟร์วอลล์ของอารยธรรมจักรวาลได้
แม้จะไม่มีใครมั่นใจว่าหานเซี่ยวสามารถจับตำแหน่งพวกเขาพวกเขาก็ตัดสินใจเตรียมรับมือกรณีเลวร้ายสุด
“วงล้อมของจักรวรรดิยังไม่ก่อตัวหมดนี่คือโอกาสหลบหนีเดียวของเรา”โร้กกล่าว”แจ้งกองกำลังเราให้แยกตัวอีกครั้ง ฉันอยากเห็นการแยกตัวนับล้านหน่วย นอกจากนี้ ตัดเครือข่ายควอนตัมของกองยานครึ่งหนึ่งด้วย!”
เขาอยากคว้าโอกาสก่อนวงล้อมจะก่อตัวเพื่อใช้ยานนับล้านเพื่อทำให้จักรวรรดิสับสนการสร้างทีมนับล้านจะหมายความว่าแต่ละทีมจะมียานไม่กี่ลำ และมันเป็นไปไม่ได้สำหรับพวกเขาที่จะสู้กลับ นี่คล้ายกับการเสียสละคนมากขึ้น
การตัดเครือข่ายควอนตัมของกองยานครึ่งหนึ่งหมายความว่าทีมเหล่านี้จะถูกปิดหูปิดตามันเป็นไปไม่ได้สำหรับพวกเขาที่จะติดต่อกับกองยานอื่น ดังนั้นจึงทำได้แค่หนีตามแผนที่ดาว ข้อได้เปรียบของการทำเช่นนี้คือพวกเขาจะสามารถป้องกันตำแหน่งจากการถูกพบได้ โร้กเตรียมตัดเครือข่ายควอนตัมเขาด้วยและมันคล้ายกับการยกเลิกการสั่งการ
เพราะวิธีการของหานเซี่ยวโร้กจึงไม่มีทางเลือก มันคล้ายกับการทิ้งทุกคนเพื่อแลกกับความอยู่รอดของพวกเขา
นินเจียมองเขาอย่างเย็นชา”ท่านท่านจะต้องเจอกับสภาหากทำเช่นนั้น”
“ฮ่าๆๆๆ..”โร้กหัวเราะ”หลังความล้มเหลวของภารกิจนี้ฉันจะไปมีอนาคตอะไร?”
“หากไม่ใช่ว่าแบล็คสตาร์โต้กลับพวกแกได้ฉันจะล้มเหลวงั้นหรอ?”
“ฉันเกลียดพวกแกไหม?แน่นอน!”
“แต่พวกแกยังถือเป็นพลรบระดับสูงของศาสนจักร”
“ทหารและกองทัพเหล่านี้สามารถจ้างใหม่ได้แต่พวกแกแตกต่าง มันเป็นไปไม่ได้ที่จะหาผู้อยู่เหนือคนใหม่ และพวกแกยังมี
คฑาหมื่นเทพในมือ..”
“ความสำคัญของเราคือคุ้มกันการหลบหนีของพวกแกชีวิตพวกแกสำคัญกว่าใคร!”
“เมื่อฉันอยู่ในโรงเรียนอาจารย์ฉันบอกว่าฉันไม่ควรเป็นผู้บัญชาการหากฉันไม่อาจไร้เมตตา ความสมบูรณ์แบบในทุกด้านเป็นแค่ฝัน เราต้องเสียสละเพื่อทำให้เป้าหมายเราบรรลุ ทุกอย่างที่ไม่สำคัญสามารถละทิ้งได้..”
“ฉันเคยคิดเรื่องนี้!ใครจะไปสนใจสภา?ภารกิจเดียวของฉันคือปกป้องพลังของศาสนจักร!”
โร้กหอบหายใจหนักหลังพูดคำเหล่านั้น
แซ็กแมนและคนอื่นหรี่ตา
ในฐานะผู้อยู่เหนือพวกเขาย่อมไม่สนใจคำพูดคนอื่น และเจตนาของโร้กก็ไม่อาจรอดพ้นสายตาพวกเขาได้
ทั้งห้ามองกันก่อนมองโร้ก
“งั้นก็ทำตามแผนคุณ”แซ็กแมนกล่าว
..
เหนือดาวอความารีนเกาะมังกรมีสิ่งอำนวยความสะดวกเพิ่มขึ้นมาก มียานอวกาศกำลังบินเข้าและออกมากมาย มันรุ่งเรืองมาก
เพื่อตั้งค่ายหลักพวกเขาเกาะมังกรไม่ยอมให้พวกโจรสลัดเข้าเกาะอีกและไล่องค์กรมืดทั้งหมดบนเกาะ แน่นอน มีบางส่วนที่ไม่กล้าเข้าใกล้ฐานของกองทัพแบล็คสตาร์และคิดหลบหนี
องค์กรที่เข้าเกาะมังกรคือกลุม่การเงินเป็นหลักและภายใต้อิทธิพลของเกาะมังกรดาวอความารีนจึงได้รับการสนับสนุนมากมาย
ในวังเกาะมังกรเอเมสกำลังนั่งบนบัลลังก์
เอเมสก้มมองตัวแทนที่มาเยี่ยมและใบหน้าเธอก็นิ่งเฉยไม่มีใครสามารถบอกได้ว่าเธอกำลังคิดอะไร แต่ทว่า ในความเป็นจริง เธอแค่ฝันกลางวัน
เห้อเรื่องเหล่านี้จะถูกจัดการโดยเจนนี่อยู่แล้ว
ความคิดของเอเมสล่องลอยไปที่อื่นแล้ว
ฉันสงสัยว่าฮีล่าและออโรร่ากำลังทำอะไรอยู่จิ๊ แบล็คสตาร์น่ารำคาญมาก นายเอาศิษย์สองคนของฉันไปและยังไม่คิดส่งข่าวกลับมา
ปี้บปี้บ
วินาทีนั้นอุปกรณ์สื่อสารเธอซึ่งลอยอยู่ข้างๆก็ดัง เอเมสคว้ามันด้วยสนามพลังและแปลกใจที่เห็นคนโทรมา ด้วยความอยากรู้เอเมสรับสายและออสตินก็ปรากฏ”ออสติน?นายไปหาวัสดุอยู่ไม่ใช่หรอ?ทำไมถึงโทรหาฉัน?”
ออสตินยิ้ม”เอเมสฉันมีข่าวที่อาจเป็นประโยชน์ต่อเธอ”
เอเมสเลิกคิ้ว”น่าสนใจนายเริ่มขายข้อมูลตอนไหน?นั่นเป็นงานอดิเรกของแบล็คสตาร์ไม่ใช่หรอ?”
ออสตินยิ้มอย่างลึกซึ้งและบอกเอเมสถึงการต่อสู้บนดาวประภาคาร
เอเมสนั่งอย่างเกียจคร้านในตอนต้นแต่ก็เริ่มค่อยๆนั่งตัวตรงด้วยสนามพลังที่ไม่มั่นคงรอบๆ ทำให้เกิดแรงกดดันอย่างมากต่อตัวแทนกลุ่มการเงินด้านล่าง
“…นั่นคือทั้งหมด”ออสตินกล่าวเสริม”ฉันมาบอกเธอเรื่องนี้เพราะเธอเป็นพันธมิตรของแบล็คสตาร์ตามคาด เธอไม่รู้เรื่องนี้เลยและแบล็คสตาร์ก็ปิดมันจากเธอ ฮ่าๆๆ ฉันคิดว่าเขาคงไม่อยากลากเธอมาเข้าพายุด้วย”
“หยุดจู้จี้ฉันรู้เจตนาของนาย ฮึ่ม ยังไงก็เถอะ ขอบคุณสำหรับข้อมูล”
เอเมสวางสายและหลับตา
อีซอปผู้อยู่ข้างๆได้ยินและส่ายหัว”คำทำนายเป็นจริง โชคดี ฉันเตือนแบล็คสตาร์ไปแล้ว หากไม่ เขาอาจไม่สามารถหลบหนีได้ แบล็คสตาร์ซ่อนเรื่องนี้จากเธอเพราะเขาไม่อยากลากเธอไปยุ่งเรื่องของอารยธรรมจักรวาล แต่ทว่า ออสตินตั้งใจบอกเธอเพราะเขาอยากนำโคลนไปเปื้อนน้ำ เห้อ เขามันเป็นพวกเหลือขอที่อยากให้โลกวุ่นวาย”
เมื่อได้ยินเอเมสก็ลืมตา”ฉันเป็นพันธมิตรเขา ไม่ใช่ลูกน้อง เขามีสิทธิ์อะไรมาห้ามฉัน?”
อีซอปส่ายหัว”เธอคิดทำอะไร?”
“ติดต่อฑูตโซเอลจักรวรรดิคริมสันอาจกำลังระดมทัพในวงแหวนดาวกระจายเพื่อโจมตีกองกำลังของศาสนจักรและประตูดาว..”
เอเมสยืนขึ้น
“แบล็คสตาร์ไซเคอร์ ฮีเบอร์และออสติน ทุกคนอยู่ในโลกริบหรี่…”
“ดังนั้นฉันคือผู้อยู่เหนือคนเดียวในวงแหวนดาวกระจาย!”
“ฉันสามารถไปได้ทุกที่ที่ต้องการ!”