The Legendary Mechanic - ตอนที่ 861-862
ตอนที่ 861 ความเปลี่ยนแปลงและสาย
อารยธรรมจักรวาลที่อยากใช้ความคิดเห็นสาธารณะเป็นอาวุธมีสิทธิ์พอจะยืมสื่อเพื่อกระจายเสียงพวกเขาอิทธิพลของอารยธรรมจักรวาลปกคลุมทุ่งดาวต่างๆและอิทธิพลพวกเขาก็ไม่อาจนำไปเทียบกับอารยธรรมกลุ่มดาวได้
จากนั้นผู้ปกครองเออแรนเรลก็อธิบายรายละเอียดของกระบวนการทั้งหมดก่อนปล่อยเอกสารอย่างเป็นทางการที่บันทึกเหตุการณ์ทั้งหมดโดยละเอียดต่อสาธารณะ
เอกสารเน้นว่าศาสนจักรตามืดบอดอยากครอบครองลูกบาศก์วิวัฒนาการจนไม่สนใจความจริงที่โลกริบหรี่อยู่ภายใต้การควบคุมของจักรวรรดิ พวกเขายังร่วมมือกับแดนผู้ร่วงหล่นและซุ่มโจมตีกองทัพจักรวรรดิ ซึ่งทำให้จักรวรรดิเสียหายมาก จักรวรรดิได้วิจารณ์การกระทำดังกล่าว พวกเขาประกาศว่าพวกเขาจะหยุดกิจกรรมทั้งหมดกับศาสนจักรและเข้าสู่สภาวะสงคราม
การประกาศของจักรวรรดิเคร่งขรึมและเข้มงวดมากทำให้ประชากรรู้สึกว่าจักรวรรดิเสียหายหนักจริงๆ แต่หลังดูเอกสารและเข้าใจกระบวนการที่ชัดเจนของเรื่อง พวกเขาก็รู้ว่าจักรวรรดิไม่เสียหายอะไร แถมยังขับไล่ศัตรูได้ พวกเขาถึงขั้นจับผู้อยู่เหนือของอีกฝ่ายได้สองคน
ผลงานของแบล็คสตาร์ถูกเน้นย้ำในเอกสารและผลการต่อสู้เขาก็ได้รับการกระจายข่าวจักรวรรดิอยากช่วยหานเซี่ยวเพิ่มชื่อเสียงและโจมตีศาสนจักร ศาสนจักรคือพื้นหลังความสำเร็จของแบล็คสตาร์และแบล็คสตาร์ก็ได้รับชื่อเสียงโดยการเหยียบย่ำศาสนจักร ยิ่งเหตุการณ์นี้กระจายออกไป ศาสนจักรก็ยิ่งเสียหน้า
ข่าวแบล็คสตาร์จับดีแลนสร้างความปั่นป่วนไปทั่วหลังกระจายออกไปหานเซี่ยวคือผู้อยู่เหนือคนใหม่ที่สร้างพายุในตอนนั้น และประชากรส่วนใหญ่ก็รู้จักเขา
ใครจะไปคิดว่าภายในไม่ถึงปีแบล็คสตาร์จะสามารถจับผู้เชี่ยวชาญระดับเดียวกับเขาได้?
การฆ่าหรือจับผู้อยู่เหนือเป็นๆมีความหมายสำคัญต่อจักรวาลระดับผู้อยู่เหนือเป็นจุดสูงสุดแล้ว และหากคนที่สามารถจัดการกับคนเช่นนี้ได้ ชื่อเสียงพวกเขาย่อมถูกผลักดันไปอีกระดับ
หานเซี่ยวเคยสู้กับไซเคอร์และฮีเบอร์และผลการต่อสู้ก็แค่เสมอ แม้มันจะถือเป็นเหตุการณ์ผู้อยู่เหนือ มันก็ไม่น่าตกใจ
แต่ครั้งนี้เขาเอาชนะพลรบระดับสูงเองด้วยระดับเขา และมันอาจกล่าวว่าสถานะของหานเซี่ยวในจักรวาลมั่นคงหลังศึกนี้
เอกสารยังชี้ว่าฮีเบอร์จับผู้อยู่เหนือได้แต่ต่อหน้าผลงานของแบล็คสตาร์ มันดูธรรมดามาก เหนือสิ่งอื่นใด ประชากรสามารถเข้าใจความแตกต่างได้ คนที่สามารถจับศัตรูขณะเสียเปรียบ กับคนที่สู้กับศัตรูตัวต่อตัวตอนศัตรูถูกล้อม มันไม่อาจนำมาเทียบกันได้เลย
นอกจากเหตุการณ์ที่น่าตกใจหลายคนกังวลถึงอิทธิพลของเรื่องนี้ หากจักรวรรดิคริมสันและศาสนจักรเปิดสงครามกัน สถานการณ์ในกาแล็กซี่คงตึงเครียดอีกครั้ง
สิบปีที่ผ่านมาจักรวรรดิคริมสันและสหพันธ์แห่งแสงขัดแย้งกัน ตอนนี้สหพันธ์แห่งแสงอยู่นิ่งเฉย มันเป็นศาสนจักรเองที่ก้าวขึ้นบนเวที
นับตั้งแต่โลกริบหรี่ถูกค้นพบกาแล็กซี่ก็ไม่เสถียร
ไม่ว่าที่ไหนพวกเขาจะสามารถเห็นได้ว่าสามอารยธรรมจักรวาลกำลังขัดแย้งกันรอบทุ่งดาวใหม่นี้
…
หลังจักรวรรดิทำการประกาศอารยธรรมกลุ่มดาวชั้นยอดและอารยธรรมกลุ่มดาวทั่วไปก็เริ่มรวบรวมข้อมูล
แบล็คสตาร์กลายเป็นุจดสนใจขององค์กรเหล่านี้และหลายองค์กรก็ระวังเขา
พันธมิตรผู้อยู่เหนือของสามอารยธรรมจักรวาลมักเปาเป้าหมายการวิจัยขององค์กรต่างๆเสมอแต่ทว่า หานเซี่ยวแตกต่างจากผู้อยู่เหนือคนอื่นที่เข้าร่วมมานับสิบปี เขาเข้าร่วมจักรวรรดิไม่ถึงปีและข้อมูลก็จำกัด แต่ทว่า หลายองค์กรไม่มีทางเลือกนอกจากปรับระดับภัยคุกคามเขาให้เท่ากับสามเสาหลักของจักรวรรดิ
จากนั้นศาสนจักรก็เผยวิธีการต่างๆที่หานเซี่ยวแสดงในการต่อสู้ผ่านสำนักข่าวกรองลับและองค์กรทั้งหมดก็รู้ว่าแบล็คสตาร์มีสมบัติจักรวาลสองชิ้นในมือแล้ว ไม่จำเป็นต้องพูดถึงลูกบาศก์วิวัฒนาการเนื่องจากมันคือเหตุผลในการต่อสู้
อย่างไรก็ตามสมบัติจักรวาลอีกอันที่สามารถป้องกันคฑาหมื่นเทพกับผนึกผู้อยู่เหนือได้ต่างหากที่สำคัญ
ย่อมมีพวกโลภศาสนจักรตั้งใจเผยข้อมูลดังกล่าวเพื่อให้หลายองค์กรจับตาดูสมบัติจักรวาลในมือหานเซี่ยว พวกเขาทำสำเร็จจริงๆ แต่องค์กรอื่นไม่กล้าทำอย่างประมาทเพราะแม้กระทั่งศาสนจักรก็ยังล้มเหลว
ผลงานของแบล็คสตาร์ได้ยับยั้งองค์กรมากมาย
…
ไม่กี่วันต่อมาจักรวรรดิเริ่มโต้กลับ และประตูดาวของศาสนจักรในวงแหวนดาวกระจายก็ถูกซุ่มโจมตี เกิดการต่อสู้ และอาจกล่าวได้ว่าปฏิกิริยาพลังงานของการต่อสุ้สามารถรู้สึกได้จากเขตดาวไกลออกไป
หลังการซุ่มโจมตีของแซ็กแมนล้มเหลวศาสนจักรอาร์เคนก็เดาว่าจักรวรรดิคริมสันคงพยายามทำลายประตูดาวพวกเขาในวงแหวนดาวกระจาย ดังนั้น พวกเขาจึงเริ่มระดมกำลังเสริมและระดมผู้อยู่เหนือคนอื่น
แต่ทว่าเพื่อลอบส่งผู้อยู่เหนือทั้งหกไป ศาสนจักรได้ให้ผู้อยู่เหนือคนอื่นพวกเขาดึงความสนใจของสาธารณะในตำแหน่งต่างๆ เช่นนั้น มันจึงต้องใช้เวลาเพื่อระดมคนและจักรวรรดิก็สามารถคว้าโอกาสนี้ได้
เอเมสคือผู้อยู่เหนือคนเดียวในวงแหวนดาวกระจายและเธอก็มีส่วนร่วมในการโจมตีก่อนกำลังเสริมของศาสนจักรจะมาถึง สนามพลังเธอคืออาวุธแหลมในสงครามกาแล็กซี่และสามารถก่อกวนกับเจาะขบวนรบได้ง่ายๆ นอกจากนี้ เธอยังสามารถใช้สนามพลังเธอเพื่อทำลายประตูดาวและตัดเส้นทางหนีศัตรูได้
จากนั้นจักรวรรดิก็เริ่มจับตาดูประตูดาวสาธารณะทั้งหมดและส่งคนพวกเขาไปจับตาดูการเคลื่อนไหวของศาสนจักร
แต่ทว่าในฐานะอารยธรรมจักรวาล ศาสนจักรย่อมมีทางรับมือ
…
บาร์เหรียญเก่าตั้งในลานขยะที่7ของสถานีขนส่งกาแล็กซี่ในวงแหวนดาวกระจายแม้มันจะดูเหมือนบาร์สาธารณะ มันกลับเป็นจุดรวมตัวของพ่อค้าตลาดมืด ฉายา’ค้างคาวรัตติกาล’
ไม่มีกฏอะไรเด็ดขาดในจักรวาลและก็มักมีเงาเมื่อมีแสงตลาดมืดคือเงาที่ใหญ่สุดในสังคม
มักมีความต้องการอยู่เสมอเมื่อมีคนและมักมีพวกลักลอบขนสินค้าเมื่อมีความต้องการทุกภูมิภาคในจักรวาลต้องมีตลาดมืด บางธุรกิจที่รัฐบาลเลือกมองข้ามและบางแห่งก็เป็นภูมิภาคสีเทาที่ไม่ถูกควบคุมโดยอารยธรรมใด
ในตลาดมืดของวงแหวนดาวกระจายค้างคาวรัตติกาลไม่ใช่คนใหญ่โต ตรงกันข้าม เขาเป็นคนที่ไม่มีใครรู้จักผู้เก็บเศษเหล็กเป็ลหลัก เขาใช้มันเป็นฉากบังหน้าเพื่อลักลอบขนจักรกลทางทหาร
เขาไม่จำเป็นต้องทำอะไรหลบๆซ่อนๆชาวท้องถิ่นเกือบทุกคนรู้ว่าบาร์เหรียญเก่าคือจุดรวมตัวตลาดมืดเขา แต่เพราะขนาดมันเล็กและสินค้าที่ขายก็ค่อนข้างปลอดภัย จึงไม่มีองค์กรใดสนใจเขา ในสถานีขนส่งกาแล็กซี่นี้ มีพ่อค้าเช่นเขานับร้อย
วันนี้กัปตันขนส่งสินค้ามาถึงบาร์เขาและกัปตันคนนี้ก็ทำงานกับค้างคาวรัตติกาลมานาน เขาขายเศษซากให้ค้างคาวเพื่อแลกกับสินค้าลักลอบที่ซ่อนภายในเศษซาก ค้างคาวรัตติกาลเชิญเขามาห้องใต้ดินใต้บาร์เขาในวันนี้
มีเพียงค้างคาวรัตติกาลและกัปตันขนส่งสินค้าเท่านั้นที่อยู่ในห้องใต้ดิน
จากนั้นกัปตันขนส่งสินค้าก็จุดบุหรี่และพ่นควันนำกระดาษออกมาและส่งมันให้ค้างคาว
“นี่คือรายชื่อเศษซาก”
“ขอบคุณ”
ค้างคาวรัตติกาลเป็นคนผอมมีรอยยิ้มบนหน้าทุกคนจะรู้ว่าเขาเป็นพ่อค้ามืออาชีพเมื่อเห็นหน้าเขา
“สินค้ามาถึงแล้วฉันจะไปละ”กัปตันยืนขึ้น
“ไม่คิดจะไปร่วมสนุกหน่อยหรอ?ฉันได้ยินว่าแม่ม่ายแดงบนถนนสีเทามีเอลฟ์เลือดผสมมาใหม่…”
“เอลฟ์เลือดผสม…ลืมมันไปเลยนายได้ยินหรือยัง?จักรวรรดิคริมสันและศาสนจักรอาร์เคนเริ่มสู้กันในวงแหวนดาวกระจาย สถานการณ์โลกภายนอกไม่มั่นคง ฉันจะกลับบ้านไปหลังการเดินทางนี้และรอให้พวกเขาสู้กันเสร็จก่อนออกมาทำธุรกิจ”
กัปตันดูเหมือนจะถูกล่อลวงเล็กน้อยแต่ก็ตัดสินใจออกห้องไป
ค้างคาวเดินตามหลังเขาไปและเรียกลูกน้องเขาให้ขนย้ายของขึ้นยาน
ด้วยทุกคนที่กำลังยุ่งจึงไม่มีใครสังเกตเห็นการเปลี่ยนแปลง ไม่มีใครสังเกตเห็นว่าค้างคาวรัตติกาลนั้นจู่ๆก็สูงขึ้น ด้วยรูปร่างที่เปลี่ยนไปเล็กน้อย หนึ่งในคนงานของกัปตันขนส่งเองก็ยังประสบกับการเปลี่ยนแปลงเช่นนั้น
หลังผ่านไปครึ่งวันสินค้าก็ถูกขนย้ายและยานขนส่งก็ออกดาวไป
ยานขนส่งตั้งโหมดขับอัตโนมัติและกัปตันก็ได้รับข่าวเรื่องแมลงกินเหล็กที่ถูกพบในโกดัง
นี่เป็นแมลงทั่วไปที่จะทำลายโครงสร้างภายในของยานมันจะถูกเก็บกวาดทันทีที่พบเจอ
กัปตันตรงไปโกดังและคนงานกว่าสามสิบก็มีเครื่องพ่นไฟในมือเพื่อเผาแมลง
“กัปตันเราจัดการเรียบร้อยแล้วและกำลังตรวจสอบความเสียหาย สินค้าบางชิ้นมีร่องรอยถูกกัด”คนงานรายงาน
เมื่อได้ยินกัปตันก็กังวล สินค้าทั้งหมดในโกดังคือคำสั่งซื้อของลูกค้าและเขาก็ต้องชดใช้หากมันเสียหาย
เขาเป็นแค่คนธรรมดาในจักรวาลและไม่อาจซื้อของเช่นนั้นด้
“พาฉันไปดู!”
พวกเขาเข้าไปส่วนลึกของคลังสินค้า
จู่ๆคนงานก็พลันนำปืนพกเก็บเสียงออกมาและเล็งหัวกัปตัน
“แก..”กัปตันตกใจ
จากนั้นคนงานก็ยิงอย่างเด็ดขาด
ปุปุ ปุ!
กระสุนสามนัดยิงเจาะกะโหลกของกัปตัน
กัปตันล้มลงมีเลือดไหลออกมาจากหัวเขา
คนงานปาดหน้าเขาและนำของที่เหมือนหน้ากากออกเผยให้เห็นหน้าของค้างคาวรัตติกาล
ค้างคาวมีสีหน้าเย็นชาไม่มีร่องรอยของพ่อค้าผู้เจ้าเล่ห์
เขานำบัตรผ่านและอุปกรณ์สื่อสารจากตัวกัปตันออกมาและอุ้มร่างกัปตันกลับไปยังส่วนที่พวกเขากำลังเผาแมลง
เมื่อค้างคาวรัตติกาลเดินออกจากความมืดสถานการณ์ก็เปลี่ยนไปแล้ว เหลือคนงานเพียงห้าคน และพวกเขาก็ล้วนมีปืนพกเก็บเสียงในมือ มีศพกว่ายี่สิบบนพื้น
พวกเขามองค้างคาวและทักทายเขา”กัปตัน”
พวกเขาล้วนเป็นสายลับที่ได้รับการฝึกโดยศาสนจักรค้างคาวปลอมตัวเองเป็นพ่อค้าตลาดมืดมาหลายปีเพื่อให้สามารถทำธุรกิจลักลอบได้ ส่วนหนึ่งของทีมเขาปลอมเป็นคนงานและทำงานให้กัปตันขนส่งสินค้านี้
หลังลักลอบมาหลายปีพวกเขาก็ลอบรวมอะไหล่พอจะสร้างประตูดาวใหม่ คนงานเหล่านี้ลอบบรรทุกอุปกรณ์ประตูดาวขึ้นบนยานเหล่านี้เมื่อกำลังขนถ่ายสินค้าก่อนหน้า
หลังซ่อนตัวมานานพวกเขาก็มักรอให้องค์กรเรียกตัว ศาสนจักรเรียกตัวสายเหล่านี้ในเวลาเช่นนี้และภารกิจพวกเขาก็คือการหายานที่ไม่สำคัญและไปพบกับผู้อยู่เหนือเพื่อช่วยพวกเขาหลบหนีด้วยอุปกรณ์ประตูดาว
ทีมของค้างคาวรัตติกาลไม่ใช่พวกเดียวฉากคล้ายกันกำลังเกิดขึ้นรอบวงแหวนดาวกระจาย
ตัวละครที่ไม่สำคัญเหล่านี้เริ่มลงมือ
ผู้อยู่เหนือคือจุดสูงสุดแต่ไม่มีใครสามารถเรียกพวกเขาว่าเป็นตัวเอกของจักรวาลได้ จักรวาลกว้างใหญ่เกินไปและทุกตัวละครก็มีบทบาทของตน แม้กระทั่งคนที่ไม่สำคัญก็สามารถมีอิทธิพลต่อภาพรวมได้
ตอนที่ 862 ประวัติศาสตร์
ผู้อยู่เหนือของจักรวรรดิกลับวงแหวนดาวกระจายจากโลกริบหรี่ผ่านประตูดาวที่ตั้งในกลุ่มดาวรุ่งอรุณหลังบินอยู่สักพัก หานเซี่ยวก็กลับกลุ่มดาวโคลตันพร้อมมิลิซาสและคนอื่น
ในช่วงที่พวกเขาเดินทางจักรวรรดิและศาสนจักรได้ปะทะกันในกาแล็กซี่กลางและสถานการณ์ก็ตึงเครียดมาก
ทางฝั่งวงแหวนดาวกระจายกองกำลังของจักรวรรดิที่อยู่ชายแดนของโลกริบหรี่ได้ตรวจสอบพิกัดทางออกของประตูดาวที่ให้โดยหานเซี่ยวแต่มันก็ว่างเปล่าแล้ว
เมื่อพวกเขาได้ยินข่าวนี้ระหว่างทางทุกคนก็รู้ว่างานติดตามเป็นของเจ้าหน้าที่ข่าวกรอง และพวกเขาก็ทำอะไรไม่ได้มากนัก
ในยานอวกาศหานเซี่ยว ร่างจำแลงของมิลิซาส เบโยนี่และแม็กซิมิเลอร์ได้รวมตัวกัน มองศูนย์ใหญ่กองทัพแบล็คสตาร์ด้านนอกหน้าต่าง
ยานรบขนาดยักษ์กำลังลงจอดบนป้อมปราการเกรดดาวเคราะห์และสิ่งก่อสร้างเหล็กก็เห็นได้ทั่ว
เจ้าหน้าที่บนศูนย์ใหญ่ได้รับข่าวการมาของพวกเขาและมารอต้อนรับ
ประตูเปิดหานเซี่ยวและคนอื่นเดินลงจากยานและได้รับการต้อนรับด้วยทะเลผู้คน นักรบของกองทัพเข้าแถวอย่างเป็นระเบียบและแสดงความยินดี
“ผู้บัญชาการกองทัพ!”
เมื่อเห็นหานเซี่ยวก็ตกตะลึงและสับสน
ทำไมต้องจัดพิธียิ่งใหญ่แบบนี้?เขาไม่ได้สั่งนี่
ตรงหน้าทหารซิลเวียผลักลากีไปข้างหน้า
ในฐานะรองผู้บัญชาการลากีไม่มีทางเลือกนอกจากก้าวมาข้างหน้า จากนั้นก็กระแอมลำคอและกล่าวด้วยน้ำเสียงน่าเบื่อน้อยลง”แค่ก แค่ก ยินดีต้อนรับผู้บัญชาการกองทัพสำหรับการกลับมา”
ใบหน้าหานเซี่ยวบิดเบี้ยวและถาม”พวกนายทำอะไรกัน?เราไม่ได้พบกันแค่ไม่กี่เดือนเองทำไมถึงต้องยุ่งยากจัดพิธีด้วย?”
“ซิลเวียบอกว่าทั้งจักรวาลรู้ว่านายเอาชนะผู้อยู่เหนือได้และเราก็ต้องใช้โอกาสนี้เพื่อส่งเสริมความสามัคคีภายในกองทัพ”เฮอลัสกล่าว
มีอีกเหตุผลที่เขาไม่พูดถึงซิลเวียรู้ว่าหานเซี่ยวเชิญพันธมิตรของจักรวรรดิมาเป็นแขกและจึงสร้างฉากเช่นนี้เพื่อเพิ่มภาพลักษณ์หานเซี่ยว
แน่นอนลากีรู้สึกว่ามันเปล่าประโยชน์แต่ก็อาจโน้มน้าวซิลเวียได้
หานเซี่ยวไม่ชอบงานเช่นนี้และไม่รู้สึกว่ามันจำเป็นเลยแต่ทว่า เขาก็ไม่จู้จี้อะไรกับเรื่องเล็กๆ เนื่องจากเขามอบอำนาจให้ลูกน้องเขา เขาย่อมปล่อยให้พวกเขาทำตามใจชอบ จากนั้นก็สั่ง”จัดห้องให้ทั้งสามคนนี้ด้วย”
“เรียบร้อยแล้วค่ะ”ซิลเวียกล่าว
ลากีถอนหายใจ”ฉันได้ยินว่าออสตินเข้าร่วมการต่อสู้ด้วยและเหตุการณ์นี้ก็ทำให้จอมเวทย์ต้องห้ามเสียหายหนักมันจริงไหม?”
“จริง”หานเซี่ยวพยักหน้า
“เห้อคนคุ้นหน้าหายไปอีกแล้ว โชคดี ฉันย้ายข้าง..”ลากีส่ายหัว”แต่ทว่า มันเปล่าประโยชน์ที่จะพูดถึงเรื่องนี้ ในอีกไม่กี่ปี ร่างกายพวกเราก็จะเน่าเปื่อยและเราจะกลาย…”
“เอาละฉันรู้ว่าเราทุกคนต้องกลายเป็นฝุ่น เงียบไปได้แล้ว”หานเซี่ยวแทรก
หลังหยุดลากีจากการทำให้ตัวเองอับอายหานเซี่ยวก็หันไปมองพวกมิลิซาส
“ฉันมีเรื่องต้องจัดการไปพักกันก่อนเลย บอกคนของฉันได้หากต้องการอะไร ฉันจะไปหาพวกนายทีหลัง”
“ได้”
กลุ่มของมิลิซาสไม่มีปัญหาในเมื่อพวกเขาอยู่ในเขตแดนคนอื่น พวกเขาย่อมต้องฟังเจ้าภาพ
เขาเฝ้าดูทั้งสามเข้าศูนย์ไปเดินไปทางห้องทำงานเขาเพื่อพบกับเจ้าหน้าที่คนอื่นและถามพวกเขาถึงสถานการณ์ปัจจุบัน
กองทัพกำลังขยายและร่วมกับชื่อเสียงเขาไม่มีใครในวงแหวนดาวกระจายกล้าตอแยพวกเขา
นอกจากนี้พวกโจรสลัดและพวกกินซากก็เริ่มเลี่ยงเขตแดนของกองทัพแบล็คสตาร์ ซึ่งเพิ่มความปลอดภัยของหลายภูมิภาค
มันถึงเวลาต้องรายงานเรื่องโลจิสและเรย์โนลก็รายงานอย่างสงบ หลังฟังรายงาน หานเซี่ยวก็ไม่ถามเรื่องกองทัพแต่ถามถึงเนโร่
“เขามีพรสวรรค์มากและความเร็วการเรียนรู้ก็สูงมากเขาอ่านหนังสือทฤษฏีทั้งหมดที่ฉันให้จนหมด”
เขาอาจถูกนายบังคับให้อ่านก็ได้
ปากหานเซี่ยวบิดอย่างช่วยไม่ได้และถาม”เขาอยู่ไหน?”
“ด้านนอกนี้เอง”จากนั้นเรย์โนลก็นำเนโร่เข้ามา
หลังไม่เจอนานเนโร่โตขึ้น ตอนนี้เขามีถุงใต้ตาหนารอบตาเขาและดูง่วงมาก
เนโร่ไม่มีพลังงานเหมือนเดิมและเขาก็ทักทายหานเซี่ยวอย่างอ่อนแรง
“สวัสดีครับพ่อบุญธรรม”
“นาย…”
เมื่อเห็นสภาพน่าสงสารหานเซี่ยวก็รู้สึกเห็นใจ
เรย์โนลแกมันปีศาจ!แกทรมานเด็กทำไม?
ดูเหมือนเขาต้องซ่อนเนโร่จากผู้เล่นหากไม่ ผู้เล่นเหล่านนั้นอาจจบด้วยการกระตุ้นภารกิจประเภท’ลอบสังหารเรย์โนล’
เขาส่ายหัวให้เนโร่มายืนตรงหน้าเขา จากนั้นก็จิ้มเนโร่เพื่อกระตุ้นข้อมูลและดูค่าสถานะ
รอเดี๋ยวนี่…
เมื่อมองหน้าต่างสถานะหานเซี่ยวก็แปลกใจ
ในส่วนพรสวรรค์ของเนโร่พรสวรรค์ใหม่ที่ไม่เคยเห็นมาก่อนปรากฏ มันคือ[สัมผัสจักรกลเกรดกลาง]!
การเดาของฉันถูก!เนโร่มีประกายแห่งโชคขั้นสูงและมีสิทธิ์ได้รับพรสวรรค์การปั้นเขายังเรียนพรสวรรค์อย่างสัมผัสจักรกลได้!
แม้มันจะเป็นแค่ขั้นกลางเขาก็มีโอกาสเรียนสัมผัสจักรกลสมบูรณ์ของเรย์โนล!
ในที่สุดก็มีจุดใหม่ที่จะเข้าถึงเรย์โนลและหานเซี่ยวก็ตื่นเต้น
เมื่อคิดหานเซี่ยวก็ลูบหัวเนโร่และกล่าวด้วยความกังวล”หน้าตานายดูไม่ดีเลย เหนื่อยงั้นหรอ?”
เนโร่เหลือบมองเรย์โนลและร่างก็สั่น”มะ…ไม่เหนื่อยเลยครับ…”
“ไม่ต้องกลัวแค่บอกความจริงตอนฉันอยู่”
เมื่อมองสายตาเห็นใจของหานเซี่ยวเนโร่ก็รู้สึกมีความกล้า จากนั้นก็เริ่มบ่นถึงเรย์โนล
“พ่อบุญธรรมเขาไม่มองผมเป็นมนุษย์เลย จำนวนการบ้านที่เขาให้ไม่เหมาะกับมนุษย์!ผมมีเวลานอนไม่ถึงสามชั่วโมงต่อวันและมันก็รบกวนการพัฒนาของผม ผม..ผมยังเป็นเด็ก!”
จากนั้นหานเซี่ยวก็มองเรย์โนล”จริงหรอ?”
“ในเมื่อนายมอบเรย์โนลให้ฉันฉันก็จะไม่ทำให้นายผิดหวัง”เรย์โนลกล่าวด้วยท่าทางเข้มงวด”ฉันจะเลี้ยงเขาให้เป็นสุดยอดช่างกล!”
“เห้อฉันรู้ว่านายเจตนาดี แต่นายต้องให้ความสนใจกับวิธีการด้วย”หานเซี่ยวส่ายหัว
เมื่อได้ยินความหวังก็เห็นได้ในตาของเนโร่
พ่อบุญธรรมกำลังพูดแทนฉัน!
นี่หมายความว่าชีวิตนรกของฉันจะจบลงแค่นี้?!
ร่างเขาสั่นด้วยความตื่นเต้นและเขาก็เหมือนคนที่กลังจะตายจากความกระหายในทะเลทรายที่เห็นโอเอซิส
ตอนนี้เองเนโร่พลันรู้สึกราวกับเห็นรัศมีแสงบนหัวหานเซี่ยว
หานเซี่ยวนำขวดที่เต็มไปด้วยเลือดมังกรออกมานี่คือเลือดของมิลิซาสที่เขาเก็บจากสนามรบ จากนั้นก็บอกกับเรย์โนล”เอาเลือดมังกรนี้ไปให้หญ้ามรกตและให้เธอวิจัยยาเสริมความแข็งแรงของร่างกาย”
วินาทีต่อมาหานเซี่ยวก็หันไปมองเนโร่ด้วยรอยยิ้ม
“เรย์โนลไม่คิดให้ดีนายจะเรียนอย่างเหมาะสมได้ยังไงหากปราศจากร่างกายที่แข็งแรง?การพัฒนายาจากเลือดมังกรจะสามารถเติมพลังงานที่เสียไปและพัฒนาการของนายจะไม่ได้รับผลต่อให้นอนดึกแค่ไหนก็ตาม ไม่ต้องห่วงและทำตามเรย์โนล นายต้องเรียนอย่างเหมาะสม”
รอยยิ้มของเนโร่แข็งค้างและดวงตาเขาก็เบิกกว้าง
ในสายตาเขาแสงศักดิ์สิทธิ์บนตัวหานเซี่ยวดูเหมือนจะกลายเป็นปีศาจ และรอยยิ้มพ่อบุญธรรมเขาก็เหมือนรอยยิ้มปีศาจ
น้ำตาคลอในตาเขาและแทบจะหลั่งออกมา
เนโร่ร่ำร้องสุดปอด
พ่อบุญธรรมเองก็เป็นปีศาจ!
ฮือๆๆ…พ่อแม่ ผมไม่อยากอยู่ในอวกาศอีกแล้ว ผมอยากกลับบ้าน!
เมื่อเรย์โนลได้ยินตาเขาก็สว่างและพยักหน้าชื่นชม
สมกับเป็นผู้บัญชาการกองทัพที่เคารพ
จากนั้นหานเซี่ยวก็ให้ซิลเวียปลอบเนโร่มันน่าเสียดายที่โรเซลลินไปกลายเป็นนักปฏิวัติแล้ว ไม่งั้น เธอคงสามารถแก้ไขความเสียหายทางจิตนี้ได้ง่ายๆ
จากนั้นเขาก็ใช้บัตรอัญเชิญตัวละครเปล่ากับเรย์โนลเพื่อเติมจำนวนครั้งที่เขาสามารถใช้สัมผัสจักรกลสมบูรณ์บัตรอัยเชิญเปล่านั้นแตกต่างจากรางวัลก่อนหน้า และเขามีโอกาสใช้มันแค่ครั้งเดียว
ใครจะไปรู้ว่ามันต้องใช้เวลานานแค่ไหนสำหรับเนโร่เพื่อเรียนสัมผัสจักรกลสมบูรณ์หานเซี่ยวมักระวังตัวตลอดตั้งแต่ศึกบนดาวประภาคารและกังวลว่าศาสนจักรอาจจนตรอก เช่นนั้น เขาจึงเก็บไพ่ตายไว้
…
หลังจัดการเรื่องภายในหานเซี่ยวก็ไปหาพวกมิลิซาสและพาพวกเขาเดินเที่ยวศูนย์ใหญ่ เขายังติดต่อทาราคาอฟเพื่อหารือเรื่องภารกิจไล่ล่าจักรวรรดิ
กองกำลังของจักรวรรดิในแถบจักรวาลรกร้างใกล้วงแหวนดาวกระจายมีขนาดเล็กกว่าในโลกริบหรี่ร่วมกับความจริงที่ศัตรูใช้ประตูดาวลับ จักรวรรดิจึงไม่อาจตั้งแนวป้องกันได้ทัน กลุ่มของแซ็กแมนจึงหลบหนีเข้ามาในวงแหวนดาวกระจายได้
“ตามความผันผวนที่เหลืออยู่เราเชื่อว่าพวกแซ็กแมนตัดสินใจแยกทางกัน นี่จะเพิ่มความยากในการค้นหา”ภาพฉายของทาราคอฟลอยอยู่ข้างพวกเขาและเดินไปพร้อมกัน
“มันจะคล้ายกับหยกน้ำที่เข้าสู่มหาสมุทรเมื่อพวกเขาเข้าวงแหวนดาวกระจายการหาตัวพวกเขาจะยากขึ้นมาก”เบโยนี่กล่าว
“ถูกต้องท่านผู้ปกครองก็คิดเช่นนั้น”ทาราคอฟพยักหน้า”ตามข้อมูลที่เชื่อถือได้ ศาสนจักรได้เรียกสายลับพวกเขาหลายคนในวงแหวนดาวกระจายให้ช่วยเหลือผู้อยู่เหนือเหล่านี้ ทุกอารยธรรมจักรวาลล้วนมีสายทั่วทุ่งดาวที่ปลอมเป็นคนงานจากสายงานต่างๆ และมันก็ยากมากที่จะมองออก มันเป็นแหล่งข้อมูลสำคัญ และมันจะง่ายกว่ามากสำหรับแซ็กแมนและคนอื่นที่จะหลบหนีด้วยความช่วยเหลือของพวกเขา’
“สายลับ..หากเราสามารถได้รายชื่อของสายเราก็จะแกะรอยได้ง่ายๆ”หานเซี่ยวลูบคาง
“นั่นเป็นไปไม่ได้”ทาราคอฟส่ายหัว”รายชื่อเช่นนั้นจะถูกเก็บไว้ในฐานข้อมูลหลักของอารยธรรมจักรวาลและได้รับการปกป้องโดยช่างกลเสมือนระดับผู้อยู่เหนือไฟร์วอลล์จะแข็งแกร่งมากและการแทรกซึมก็เป็นไปไม่ได้”
“สายลับเหล่านี้จะติดต่อกับพวกระดับสูงไหม?”
“สายของอารยธรรมจักรวาลจะรายงานต่อหน่วยข่าวกรองโดยตรงและมีเพียงคำสั่งเข้ารหัสเดียวที่พวกเขาจะทำตามพวกเขาไม่มีเบื้องบนให้ติดต่อ”
“เข้าใจแล้วงั้นก็ลืมไปเถอะ”หานเซี่ยวส่ายหัว
จากนั้นทาราคอฟก็กล่าว”แม้จะยากแต่เราก็ไม่อาจล้มเลิกกลางทางได้ เราอาจได้รับรางวัลที่ไม่คาดฝันและถอนรากสายของพวกศาสนจักรได้ เราสามารถลองกวาดล้างหมากทั้งหมดที่ซ่อนอยู่ในวงแหวนดาวกระจายได้!หากพวกเขาอยากนำสายลับคนใหม่เข้ามา มันจะต้องใช้เวลาหลายสิบปี”
“อืมนี่ก็ดี แทนที่จะพยายามไล่ล่าผู้อยู่เหนือสี่คนอย่างเดียว เราอาจถอนรากสายของศาสนจักรได้ด้วย”แม็กซิมิเลอร์กล่าว
การจับสองผู้อยู่เหนือนับว่าน่าพอใจมากแล้ว
พวกเขากังวลว่าศาสนจักรอาจจนตรอกหลังเสียผู้อยู่เหนือเพิ่มและจบลงด้วยการพยายามลอบสังหารผู้อยู่เหนือฝั่งพวกเขา
เคยมีตัวอย่างอยู่ในช่วงยุคสำรวจพันปีก่อนหน้า มีเหตุการณ์ที่เรียกว่าเหตุการณ์นักบุญเมนาสัน
ครั้งนั้นผู้นำจากสามอารยธรรมจักรวาลไม่ใช่คนปัจจุบันและผู้อยู่เหนือคนสำคัญชื่อนักบุญเมนาสันจากสหพันธ์แห่งแสงก็ถูกซุ่มโจมตีโดยผู้อยู่เหนือสองคนจากจักรวรรดิ เป้าหมายพวกเขาคือการชิงสมบัติจักรวาลในมือนักบุญเมนาสัน แต่ทว่า สหพันธ์แห่งแสงก็ได้เรียกผู้อยู่เหนือมาดักซุ่มโจมตีสองผู้อยู่เหนือเช่นกันและชิงสมบัติจักรวาลกลับ
ผู้อยู่เหนือสองคนที่ตายมีเพื่อนมากมายและก็เกิดเป็นปฏิกิริยาห่วงโซ่
เพราะเหตุนี้สหพันธ์แห่งแสงและจักรวรรดิคริมสันจึงเริ่มผลักความผิดให้กันและกัน
9เดือนต่อมาผู้อยู่เหนือของจักรวรรดิก็ร่วมมือกันและล้างบางองค์กรที่เป็นของสามผู้อยู่เหนือจากสหพันธ์แห่งแสง พวกเขายังกำจัดผู้อยู่เหนือสองคนของสหพันธ์แห่งแสง และมีเพียงคนเดียวที่สามารถหลบหนีได้ ในช่วงเวลานี้ ผู้อยู่เหนือของศาสนจักรดันตายในการต่อสู้ด้วยเพราะดันเป็นแขกในสถานที่ซุ่มโจมตี
เพราะเหตุนี้ศาสนจักรจึงถูกลากมาเอี่ยวด้วย และก็เกิดการลอบสังหารอีกชุด สามอารยธรรมจักรวาลเริ่มลอบสังหารผู้อยู่เหนืออีกฝ่ายและมีคนตายมากขึ้น ในสายตาอารยธรรม ผู้อยู่เหนือคืออาวุธ และพวกเขาก็ไม่มีทางยอมให้ผู้อยู่เหนือคนอื่นมีชีวิตหากของพวกเขาตาย เช่นนั้น ความขัดแย้งระหว่างอารยธรรมจึงยิ่งฝังแน่น
ในช่วงเหตุการณ์นี้สามอารยธรรมเสียผู้อยู่เหนือไปมากและจุดเปลี่ยนของเหตุการณ์ก็คือสิ่งที่อารยธรรมเรียกว่าเหตุการณ์นักบุญเมนีสัน มีผู้บงการเบื้องหลังอยู่จริงๆและมันก็คืออารยธรรมกลุ่มดาวชั้นยอดในตอนนั้น จากนั้นสามอารยธรรมจักรวาลก็อ้างว่าพวกเขาพบหลักฐานแน่นหนาที่จะเชื่อว่าอารยธรรมกลุ่มดาวเหล่านี้กำลังพัดไฟจากด้านหลังฉากและอยากทำให้พวกเขาเสียผู้อยู่เหนือ
จากนั้นสามอารยธรรมจักรวาลก็กวาดล้างผู้อยู่เหนือทั้งหมดของอารยธรรมกลุ่มดาวชั้นยอดและพันธมิตรพวกเขาก่อนเหตุการณ์ทั้งหมดจะจบลง
ตอนนั้นผู้อยู่เหนือประมาณครึ่งหนึ่งของจักรวาลถูกฆ่า ผู้อยู่เหนือที่เป็นกลางบางคนไม่อาจหลีกเลี่ยงและถูกบังคับให้เข้าร่วมกับอารยธรรมจักรวาล
ส่วนผู้บงการเบื้องหลังจะเป็นอารยธรรมกลุ่มดาวจริงไหมมีเพียงสามอารยธรรมจักรวาลถึงรู้ แต่มันถูกเขียนลงประวัติศาสตร์แบบนั้น
แม้ผู้อยู่เหนือพวกเขาจะตายอารยธรรมก็ยังอยู่ ขณะที่สามอารยธรรมจักรวาลประกาศสงบศึกกันในยุคปฏิทินกาแล็กซี่ ส่วนใหญ่ไม่อยากเห็นประวัติศาสตร์ซ้ำรอย หลังเหตุการณ์นั้น จำนวนผู้อยู่เหนือที่ต้องตายก็ลดลงมาก
“ไม่ต้องห่วงต่อให้เราไม่อาจจับพวกแซ็กแมนได้ ก็มีเป้าหมายที่ไม่อาจหลบหนีได้”ทาราคอฟกล่าวด้วยรอยยิ้ม
“ไซเคอร์สินะ?”หานเซี่ยวเองก็ยิ้ม
เผ่าเนตรม่วงอยู่ในวงแหวนดาวกระจายและมันเป็นไปไม่ได้สำหรับไซเคอร์ที่จะหลบหนีต่อให้จักรวรรดิจะปฏิบัติตามสนธิสัญญาและไม่โจมตีเผ่าเนตรม่วง มันก็เป็นไปไม่ได้ที่ไซเคอร์จะไม่กลับมา
หากเขาฆ่าหานเซี่ยวสำเร็จและชิงลูกบาศก์วิวัฒนาการกลับไซเคอร์ก็คงมีการคุ้มครองของศาสนจักรและไม่อยู่ในสภาพน่าสมเพชเช่นนี้
อย่างไรก็ตามสถานการณ์ไม่ได้เป็นแบบนั้น
หานเซี่ยวมีแค่ความคิดเดียวต่อสถานการณ์ปัจจุบันของไซเคอร์
ไร้ซึ่งความหวังย้ายบ้านเถอะ