The Legendary Mechanic - ตอนที่ 869-870
ตอนที่ 869 สหพันธ์แห่งแสง คิดว่าฉันไม่มีตัวตนหรือไง?
ยานอวกาศออกอาณาเขตเผ่าเนตรม่วงและพบกับกองยานจักรวรรดิก่อนหายไปในอวกาศ
ฑูตจักรวรรดิหันมามองทั้งสองข้างเขาด้วยรอยยิ้ม
”ไซเคอร์ให้ความร่วมมือดีมากและภารกิจนี้ก็สำเร็จ”
ฮีเบอร์โบกมือด้วยใบหน้าไร้อารมณ์บอกว่านี่เป็นแค่เรื่องเล็กๆ
เขายังสามารถเพิ่มชื่อเสียงเขาได้ด้วยการปะทะกับผู้อยู่เหนือคนอื่นนอกจากนี้ เนื่องจากเผ่าเนตรม่วงยอมขอโทษและจ่ายค่าชดเชย เรื่องนี้จึงต้องถูกบันทึกไว้ในประวัติศาสตร์และชื่อเขาจะถูกรวมไปด้วย นี่เป็นรางวัลที่ดีมาก
”ไซเคอร์เสียหายหนักเขาจะต้องอยู่นิ่งเป็นเวลานาน”หานเซี่ยวยิ้ม
ด้วยภัยคุกคามซ่อนเร้นที่หายไปเขาจึงอารมณ์ดี
”ถูกต้องไซเคอร์จะต้องจัดการกับผลกระทบของเหตุการณ์นี้และอารยธรรมกลุ่มดาวคู่แข่ง เขาจะต้องอยู่นิ่งไปอีกหลายสิบปี”ฑูตจักรวรรดิกล่าวเสริม”ผมต้องรายงานความสำเร็จผมต่อท่านโซเอล ท่านทั้งสอง เราควรอำลากันตรงนี้”
ฮีเบอร์และหานเซี่ยวพยักหน้าหลังบันทึกหมายเลขของฑูตคนนี้ไว้ ทั้งคู่ก็ขึ้นยานและออกไป
”ฉันจะไปละ”ฮีเบอร์ส่งข้อความหาหานเซี่ยวก่อนออกไปพร้อมกองทัพแดนหลั่งเลือดเขาเขาเตรียมกลับไปโลกริบหรี่และรับภารกิจสำรวจ
พวกเขายังไม่ลงรอยกันอยู่มันยากสำหรับพวกเขาที่จะมีความสัมพันธ์ดีกัน แต่หลังประสบกับเหตุการณ์นี้ร่วมกัน ความสัมพันธ์ระหว่างพันธมิตรของจักรวรรดิก็เพิ่มขึ้น
หานเซี่ยวเก็บอุปกรณ์สื่อสารเขาไปและสั่งฟิลลิป”กลับไปศูนย์ใหญ่กองทัพแบล็คสตาร์”
”รับทราบ…”
จากนั้นยานรบกองทัพแบล็คสตาร์ก็เร่งความเร็วและหายไป
มันถึงเวลาจัดการกับลูกบาศก์วิวัฒนาการที่เขารับปากอารยธรรมต่างๆในวงแหวนดาวกระจายไว้จักรวรรดิยังส่งคนชุดใหม่มา หานเซี่ยววางแผนจัดการเรื่องเหล่านี้ก่อนไปสำรวจโลกริบหรี่ต่อ
อิทธิพลของเหตุการณ์นี้ใหญ่โตมากและเขาก็มีบันทึกการจับผู้อยู่เหนือ ชื่อเสียงเขาเพิ่มขึ้นไปอีกระดับและหลังจากนี้ มันไม่ควรจะมีใครมาสร้างปัญหาให้เขา นี่ควรดำเนินไปจนกระทั่งจบเวอร์ชั่นสาม
ภัยคุกคามซ่อนเร้นเดียวที่เขากังวลคือเทพเอส
พิกัดอวกาศของอารยธรรมต้นไม้โลกเหมือนระเบิดเวลาอารยธรรมที่พบพิกัดจะรู้วิธีทดสอบน้ำและป้องกันตัวเอง แต่ทว่า มันเป็นไปไม่ได้ที่คนอย่างเทพเอสจะทำอะไรแบบนั้น
มันน่าเสียดายที่เทพเอสสามารถได้รับพลังงานวิวัฒนาการและแกร่งขึ้นโดยปราศจากการหาพรรคพวก เขาไม่มีทางจัดการกับเทพเอสได้
สำหรับจักรวรรดิคริมสันศาสนจักรอาร์เคนคือคู่แข่งที่แท้จริงของพวกเขา พวกเขาจะจัดการกับเทพเอสหลังมาถึงข้อตกลงร่วมกันเท่านั้น
มันไม่ง่ายที่จะจัดการกับเทพเอสหากพวกเขาส่งผู้เชี่ยวชาญน้อยเกิน พวกเขาจะไม่สามารถเอาชนะได้ หากพวกเขาส่งมามากเกิน อีกฝ่ายก็แค่หนี จักรวรรดิพยายามจัดการกับเทพเอสหลายครั้งแต่ก็ไม่อาจฆ่าเขาได้ ครั้งนี้ พวกเขาอาจแค่ตั้งใจกำจัดพวกของเทพเอส
นอกจากนี้ข้อมูลของจักรวรรดิแสดงว่าเทพเอสได้ออกทุ่งดาวไปผ่านรูหนอน และที่อยู่เขาก็ไม่รู้
หานเซี่ยวตัดสินใจรอให้การลงโทษค่าประสบการณ์หมดก่อนเพิ่มระดับเขาเขาจะมีโอกาสสำเร็จสูงหากเขาสามารถเพิ่มพลังเขาได้
”อีกแค่ครึ่งปี…”
หานเซี่ยวตั้งตารอ
..
ไม่กี่วันต่อมาไซเคอร์ปรากฏต่อสาธารณะภายในเผ่าเขาและจัดงานแถลง
ด้วยข่าวลือปัจจุบันพลเมืองของเผ่าเนตรม่วงกระวนกระวายมาก และก็อยู่หน้าทีวีเพื่อชมข่าว
เวลาดูเหมือนจะผ่านไปช้ามาก
ในที่สุดก็ถึงเวลาถ่ายทอดสดและทุกคนก็รู้สึกตื่นเต้น
ร่างของไซเคอร์ปรากฏบนจอและเขาก็กล่าวด้วยน้ำเสียงเคร่งขรึม”พลเมืองของเผ่าเนตรม่วง ผมไซเคอร์ ผมควรให้คำอธิบายอย่างเป็นทางการเกี่ยวกับพายุลูกนี้…”
”ไม่กี่เดือนที่ผ่านมาข่าวเกี่ยวกับผมกระจายไปทั่วจักรวาล ”
”อย่างแรกผมต้องขอโทษต่อทุกคนจากใจจริง มันเพราะความผิดพลาดของผมที่ทำให้ผมฉุดลากเผ่าพันธ์ลง ผมรู้สึกผิดและอับอายต่อเรื่องนี้มาก แต่ความผิดพลาดก็คือความผิดพลาด”
”ไม่กี่วันก่อนจักรวรรดิคริมสันได้มาเยือนและถามหาคำอธิบาย ผมไม่หลบหนีเหมือนข่าวลือบนเครือข่ายแต่รีบกลับมาเจรจากับฑูตจักรวรรดิทันที”
”ในนามของเผ่าเนตรม่วงและตัวผมเองผมจะขอโทษต่อจักรวรรดิสำหรับเหตุการณ์นี้และทำตามข้อตกลง…”
จากนั้นไซเคอร์ก็อ่านเงื่อนไขชดเชยก่อนพูดต่อ
”ผมยังขอโทษต่อเหยื่อแบล็คสตาร์และเต็มใจมอบค่าชดเชยให้เพราะเหตุการณ์นี้”
”มีความจริงที่ไม่อาจเลี่ยงได้ลูกบาศก์วิวัฒนาการนั้นคือของๆอารยธรรมอื่นและไม่ใช่ของที่เป็นของเผ่าเนตรม่วงเรา เพราะเหตุผลที่ไม่คาดคิดบางอย่าง เราเสียลูกบาศก์วิวัฒนาการไป และคนที่ควรถูกตำหนิก็คือเทพเอส ไม่ใช่แบล็คสตาร์ เราเพลิดเพลินกับผลประโยชน์ของลูกบาศก์มานาน ผมจะทิ้งสิทธิ์ถือครองลูกบาศก์วิวัฒนาการและส่งมันให้แบล็คสตาร์เป็นค่าชดเชย”
”พลเมืองผมเผ่าเนตรม่วงเราประสบอะไรมามาก เราตกในหุบเหว แต่ก็มักมีโอกาสใหม่มารอรับเราหลังหายนะทุกครั้ง ผมหวังว่าทุกคนจะร่วมมือกันต่อและรักษาความเป็นปึกแผ่นของเราไว้”
”หวังว่าทุกคนจะสามารถเข้าใจการเลือกของเราและไม่ลืมความอัปยศของเราในวันนี้”
”สุดท้ายผมหวังให้ทุกคนมีชีวิตที่ดี”
เมื่อพูดจบจอก็ดับไป
ความปั่นป่วนระเบิดจากทุกซอกมุมของเผ่าเนตรม่วง
หลายคนตกใจกับการแถลง!
อารยธรรมประกาศยอมแพ้และยังจ่ายค่าชดเชยพวกเขาอดรู้สึกอัปยศไม่ได้
นอกจากนี้หายนะนี้เกิดเพราะความผิดพลาดของไซเคอร์แะทั่วทั้งเผ่าก็ถูกเขาลากลง
จากที่พวกเขาเห็นนี่คล้ายกับการให้ลูกบาศก์วิวัฒนาการเพราะพวกเขาไม่อาจชิงมันคืนได้!
น่าอับอายมาก!
งานแถลงนี้เหมือนการโยนระเบิดและทุกซอกมุมของเผ่าเนตรม่วงก็เต็มไปด้วยเสียงก่นด่าไซเคอร์ชื่อเสียงที่เขาสั่งสมมาหลายปีหายไปจนสิ้น
ผู้ช่วยคนสนิทของไซเคอร์ยืนตรงหน้าเขาด้วยใบหน้าน่าเกลียด
”ท่านไซเคอร์เราไม่ควรควบคุมความคิดเห็นเชิงลบบนเครือข่ายงั้นหรือครับ?”
ไซเคอร์ส่ายหัว”ไม่จำเป็นพลเมืองต้องหาที่ระบายความโกรธในใจ เมื่อพวกเขาระบายหมด พวกเขาจะจำความดีที่ฉันทำได้ และเราสามารถชักนำความคิดเห็นด้านบวกกลับมา”
”นี่ไม่ดีต่อชื่อเสียงท่าน”บางคนกล่าวด้วยความกังวล
”จะต้องมีผลสะท้อนกลับเมื่อมันถึงจุดสูงสุด”ไซเคอร์ถอนหายใจ”ไม่ว่าจะเทิดทูนหรือเกลียดชังมันจะต้องเลื่อนไปอีกทางเมื่อถึงจุดสูงสุด เมื่อความคิดเห็นไปถึงจุดสูงสุด จะมีคนมากขึ้นพูดแทนฉัน นั่นจะดีกว่าการพยายามควบคุมสถานการณ์ตอนนี้”
”นี่ดีแล้วจริงหรือครับ?”
”ไม่มีอะไรแย่”ไซเคอร์ถอนหายใจยาว”ความดีความชอบก่อนหน้าฉันไม่อาจนำมากลบความผิดได้ยิ่งรัศมีกว้างใหญ่ เงาก็ยิ่งใหญ่ตาม ความผิดพลาดฉันย่อมเป็นจุดสนใจ ฉันไม่อยากให้ทุกคนสรรเสริญการกระทำที่ดีของฉัน ความอัปยศนี้จะเป็นแรงจูงใจให้พลเมืองเรา”
“เราแค่กลัวว่าท่านจะผิดหวังในตัวเรา”หนึ่งในผู้ช่วยเขากล่าว
ไซเคอร์คือผู้นำของเผ่าเนตรม่วงแต่หลังกลายเป็นผู้อยู่เหนือ ไซเคอร์ก็ไม่ถือเป็นส่วหนึ่งของเผ่าอีก นี่คือเงาในใจของหลายคน
“ไม่ต้องห่วงฉันจะไม่มีวันลืมบ้านเกิดฉั”
ไซเคอร์ส่ายหัวในฐานะผู้อยู่เหนือ อุดมคติเขาไม่มีทางสั่นคลอนง่ายๆ
“โลกนี้ซับซ้อนและฉันจะไม่ตัดสินโลกด้วยการมองมุมเล็กๆโลกของกลุ่มเล็กๆไม่อาจเป็นตัวแทนของทั้งเผ่า สุดท้าย ทุกคนจะตระหนักว่าไม่ว่าพวกเขาจะก่นด่ายังไง ฉันก็ยังเป็นผู้นำพวกเขาและนี่ก็คือสิ่งที่พวกเขาไม่สามารถเปลี่ยนแปลงได้”
“สำหรับพายุในตอนนี้…”
เมื่อไซเคอร์พูดด้วยรอยยิ้มความเหนื่อยล้าก็เห็นได้ในตาเขา
“ไฟจะมอดดับและพายุจะหยุดลงในสักวัน เราแค่ต้องทำงานของเราและรอให้มันหยุดเอง”
…
“เผ่าเนตรม่วงยอมจำนนแล้ว”
บนดาวแม่ของศาสนจักรงานแถลงของไซเคอร์แสดงในห้องประชุม จากนั้นเหล่าบิชอปก็ตกอยู่ในความเงียบ
หลังจากนั้นไม่นานหนึ่งในบิชอปก็กล่าวด้วยน้ำเสียงแหบแห้ง”แบบนี้ ทัศนคติของจักรวรรดิควรดีขึ้นใช่ไหม?”
ไซเคอร์ได้ตัดการเชื่อมต่อกับลูกบาศกืและเสียความสามารถระบุตำแหน่งมันแล้วศาสนจักรยังตัดสินใจยอมแพ้ในตัวลูกบาศก์
“แล้วการตกลงกับจักรวรรดิเป็นยังไงบ้าง?”
“จักรวรรดิแค่ยอมให้เราไถ่ตัวเมอเซอร์กับดีแลนราคาพวกเขาสูงมาก”
“อืมจ่ายไปก่อน นี่จะทำให้พันธมิตรที่เฝ้าดูอยู่พอใจ สำหรับเทย์เลอร์และแซ็กแมน จักรวรรดิจะไม่ปล่อยให้เราไถ่ตัวพวกเขาเร็วๆนี้ แต่พันธมิตรเราจะเข้าใจ”
“นินเจียอยู่ไหน?”
“เขาหลบหนีไปแล้วผ่านประตูดาวลับที่ตั้งโดยสายเราเขาจะกลับมาในไม่ช้า”
“โชคดีคฑาหมื่นเทพอยู่กับเขา”
จากนั้นเหล่าบิชอปก็ถอนหายใจโล่งอก
ในบรรดาหกผู้อยู่เหนือที่พวกเขาส่งไปสี่คนถูกจับ หนึ่งไม่มีทางหนี และมีเพียงหนึ่งเดียวที่สามารถกลับกาแล็กซี่กลางได้ ต้องขอบคุณ คนที่กลับมาได้คือคนที่ถือคฑาหมื่นเทพ
คฑาหมื่นเทพสำคัญกว่าผู้อยู่เหนือในสายตาของพวกระดับสูงผู้อยู่เหนือคนใหม่จะถือกำเนิดตามเวลา แต่สมบัติจักรวาลทุกชิ้นนั้นพิเศษมาก
การไม่เสียคฑาหมื่นเทพนับเป็นการปลอบใจพวกเขาแล้ว
…
เพราะจักรวรรดิคริมสันกำลังค้นหาทั่ววงแหวนดาวกระจายสายจึงทำได้แค่สร้างประตูดาวลับในแถบจักรวาลรกร้างใกล้วงแหวนดาวกระจาย
ยานอวกาศกำลังรุดหน้าไปทางประตูดาวพร้อมนินเจียข้างใน
ประตูดาวปรากฏภายในสายตาเขาและนินเจียก็ถอนหายใจ
หลังเข้าประตูดาวนี้เขาจะสามารถข้ามหลายทุ่งดาวและกลับกาแล็กซี่กลางได้ หลังหนีมานาน เขาก็เหนื่อยแทบขาดใจ
ฮึ่ม!
ตอนนั้นเองยานอวกาศสั่นสะเทือนและเครื่องยนต์ของยานเขาก็ดับ
“เกิดอะไรขึ้น?”
นินเจียตกใจและพยายามควบคุมยานแต่ทว่า คำสั่งทั้งหมดกลับเปล่าประโยชน์และยานก็ไม่ตอบสนองเลย
ตัวยานพลันสั่นอย่างรุนแรง
ครื่น!
แรงกดดันบดขยี้ลงมาจากทุกทิศทางและยานอวกาศก็ลดเป็นเศษเหล็ก
ปัง!
จากนั้นม่านพลังทรงกลมก็ปรากฏจากภายในซากยานนินเจียปกคลุมเขาด้วยม่านเวทย์และจับคฑาหมื่นเทพไว้ขณะสังเกตสภาพแวดล้อมอย่างระมัดระวัง
หรือจักรวรรดิจะพบประตูดาวและซุ่มโจมตี?!
ตอนนี้เองเสียงดังขึ้นในหัวเข
“มันไม่ใช่เรื่องง่ายเลยในการหาตัวแก’คาถาเทวะ’นินเจีย ส่งคฑาหมื่นเทพมาซะ แล้วฉันจะปล่อยแกไป”
เมื่อเสียงดังขึ้นจักรวาลรอบตัวเขาก็สว่างวาบ และเงาหลายร่างก็ปรากฏตรงหน้าเขา เต็มไปทั่วภูมิภาค
ดวงตาไร้อารมณ์หลายคู่จับจ้องนินเจีย
ที่ด้านหน้าสุดมันเป็นเงาร่างสูงที่ทั้งร่างปล่อยประกายไฟฟ้า แสดงให้เห็นว่านี่คือกายสถิตจักรกล
สีหน้าของนินเจียเปลี่ยนไปอย่างมากเมื่อเห็นคนตรงหน้าเขา
“แมนิสัน?!”
ตอนที่ 870 การแทรกแซงของแมนิสัน
เลือดไหลลงในลำธารไหลบนผิวโลหะเหมือนงูสีแดง และบรรจบกันเป็นสระเลือด
นินเจียหมอบคลานบนพื้นมีรอยฟกช้ำและรอยเลือดทั่วตัว ด้านล่างเขามีถ้วยดูดจักรกลทรงสามเหลี่ยม มันส่องสว่าง้ดวยแสงสีฟ้าจางๆ มันคือสนามแนวโน้มถ่วงสูงที่จับเขาไว้กับพื้น
มือเท้าและลำตัวเขาถูกมัดด้วยวงแหวนโลหะผสม นี่คือโซ่จักรกลพิเศษ ด้วยสนามรบกวนรุนแรงและผ่านการใช้เทคโนโลยีการบีบอัด มันสามารถกระจายพลังงานที่ปล่อยโดยเป้าหมายได้
ในเวลาเดียวกันมีท่อสี่อันยื่นจากพื้นทั้งสองด้าน สอดไปในกระดูกสันหลังเขาและฉีดหนอนนาโนที่รบกวนการทำงานของระบบนิวเมติก ทำให้ระบบประสาทเขาปั่นป่วน ส่งผลกระทบต่อการควบคุม
นินเจียทำได้แค่ยกคอขึ้นวิสัยทัศน์เขาเลือนรางแต่ก็จับจ้องไปยังจักรกลด้านหน้า
ทั้งสองฝ่ายอยู่บนผิวป้อมปราการเหล็กฐานเคลื่อนที่ที่นำมาโดยแมนิสัน และยังมีร่องรอยการต่อสู้และชิ้นส่วนจักรกลกระจายอยู่ทั่ว
เพราะอวกาศถูกกักโดยอุปกรณ์ของแมนิสันพร้อมกับตัวรบกวนเวทย์เพื่อป้องกันการเคลื่อนย้ายทางไกล นินเจียจึงทำได้แค่สู้
แต่ทว่าด้วยอุปกรณ์และเครื่องจักรมากมายที่เขามีนอกจากกายสถิต ยังมีอาวุธอัครฑูตอีกสี่ ซึ่งทำให้นินเจียไม่ใช่คู่ต่อสู้เขา
“ฉันกำลังรอให้แกใช้คฑาแต่แกกลับไม่ ตอนนี้ฉันเห็นได้แล้วว่าทำไม..”
แมนิสันลูบอำพันที่ผนึกคฑาหมื่นเทพรู้สึกถึงฉนวนพลังงานและส่งเสียงชื่นชม
“แมนิสันแกไม่กลัวว่าจะทำให้ศาสนจักรโกรธหรือไง?!”นินเจียกัดฟัน
“อย่าเข้าใจผิดฉันไม่ได้สนใจคฑาหมื่นเทพ ฉันแค่ทำตามคำสั่งของสหพันธ์แห่งแสง”
แมนิสันสบตากับนินเจียก่อนโบกมือ
อาวุธอัครฑูคสีเงินเดินมาร่างมันเนียนดุจกระจก ไร้รอยต่อของจักรกล
อาวุธอัครฑูตนั่งยองเปลี่ยนนิ้วเป็นหนามและสอดไปในตัวนินเจีย หลังจากนั้น ทั้งร่างมันก็เปลี่ยนเป็นของเหลวและไหลไปในตัวนินเจียผ่านแผล
ต่อมาแมนิสันก็คลายโซ่ตรวน แต่ทว่า อาวุธอัครฑูตภายในตัวนินเจียได้ยับยั้งความสามารถการควบคุมร่างกายเขาและเขาก็ทำได้แค่จ้องแมนิสัน
“แกจะทำอะไรกับฉัน?!”
“สหพันธ์แห่งแสงยอมให้ฉันฆ่าแกและทำลายหลักฐาน แต่ทว่า ร่างแกยังเป็นประโยชน์ต่อฉัน”
แมนิสันขว้างบอลบีบอัดซึ่งเปลี่ยนเป็นห้องขังขังนินเจียไว้ข้างใน
หลังยืนยันว่าเขาหนีไม่ได้แน่แมนิสันก็หันไปจ้องคฑาหมื่นเทพด้วยความสนใจ
“โอ้วัสดุใหม่ และดูเหมือนแบล็คสตาร์จะเชี่ยวชาญวิธีผลิต…ฉันจะหาโอกาสติดต่อกับเขา”
…
“ขาดการติดต่อ?อธิบายมามันหมายความว่ายังไง?!”
เบื้องบนของศาสนจักรได้รับข่าวที่ว่านินเจียผู้ควรจะผ่านประตูดาวมานานแล้วกลับขาดการติดต่อ!
นี่ทำให้เหล่าบิชอปหวาดกลัวพวกเขาคิดว่านินเจียจะรอดพ้นอันตรายได้และสามารถนำคฑาหมื่นเทพกลับมาได้ แต่กลับเกิดอุบัติเหตุขึ้น
เนื่องจากพวกเขาไม่อาจติดต่อนินเจียความเป็นไปได้ที่เลวร้ายสุดคือเขาถูกซุ่มโจมตีและฆ่า
แต่หากเขาถูกโจมตีเขาควรสามารถส่งข่าวกลับได้ หรือศาสนจักรก็ควรพบความผิดปกติ
มีเพียงคำอธิบายเดียว…ฝ่ายที่โจมตีมีช่างกลเสมือนที่สามารถแก้ไขข้อมูลและป้องกันการสื่อสารได้
คนแรกที่ศาสนจักรสงสัยคือแบล็คสตาร์
แต่ทว่าหานเซี่ยวเพิ่งไปเผ่าเนตรม่วงและยังอยู่ระหว่างทางไปศูนย์ใหญ่ เขามีพยานหลักฐาน…แต่พวกเขาก็ไม่ลืมว่าหานเซี่ยวสามารถสั่งกองทัพจากระยะไกลได้
“หากแบล็คสตาร์คือมือสังหารไม่ใช่ว่าเขาถูกสนับสนุนโดยจักรวรรดิ?พวกเขาจับเราสี่คนไปแล้วและยังบังคับให้ไซเคอร์จำยอม นี่ไม่พออีกหรือไง?”
“ความเป็นไปได้ไม่สูงทั้งสองฝ่ายกำลังเจรจา และเราก็ได้ข้อสรุปเบื้องต้นแล้ว จักรวรรดิรู้ว่ามันจะไม่ได้ประโยชน์อะไรหากยังดึงดัน หากพวกเขาชิงคฑาหมื่นเทพเราไป มันจะบังคับให้เราพลิกกระดาน ฉันเกรงว่ามันจะไม่คุ้ม”
“หรือแบล็คสตาร์อยากได้คฑาหมื่นเทพและตัดสินใจลงมือเอง?”
“แต่..หากเราคิดให้ดีนี่จะทำให้แบล็คสตาร์มีปัญหามากกว่า เขาได้รับผลประโยชน์จากเรื่องนี้มากพอแล้วและเขาก็ไม่ต้องขโมยคฑาหมื่นเทพ เขาไม่มีทางใช้มันได้อยู่แล้ว ทางเดียวคือมอบมันให้จักรวรรดิ แต่ทว่า เราได้ตรวจสอบแล้วว่าแบล็คสตาร์ไม่ใช่คนที่ชอบรับความเสี่ยง และเขาก็ยังเพลิดเพลินกับผลประโยชน์ เขาไม่มีทางทำเรื่องแบบนี้ลับหลังจักรวรรดิแน่”
เหล่าบิชอปขมวดคิ้วทุกอย่างชี้ให้เห็นว่านี่ไม่ใช่ฝีมือแบล็คสตาร์
หรือจะมีคนที่อยากตกปลาในน้ำโคลน?
การสามารถโจมตีนินเจียได้ต้องทำตามเงื่อนไขสองอย่างหนึ่งต้องมีเครือข่ายข้อมูลที่แกร่งพอจะสามารถแกะรอยนินเจียได้ และสองคือครอบครองความสามารถช่างกลผู้อยู่เหนือเพื่อลอบฆ่าเขา
เมื่อคิดแบบนี้คำตอบก็ผุดขึ้น
เหล่าบิชอปแทบล้มหงายหลัง
“หรือว่า…สหพันธ์แห่งแสง?!”
วงแหวนดาวกระจายยังเป็นดินแดนของพวกเขาและแม้จะดูเหมือนพวกเขาไม่สนใจมันก็ประมาทไปที่จะไม่สนใจระบบเครือข่ายของสหพันธ์แห่งแสง หลังปกครองมาหลายปี เครือข่ายพวกเขาย่อมครอบคลุมและข้อมูลพวกเขาย่อมเหนือกว่าใคร
แม้จักรวรรดิคริมสันจะไม่อาจแกะรอยนินเจียได้แต่สหพันธ์แห่งแสงทำได้ นี่อธิบายทุกอย่าง
ใบหน้าของเหล่าบิชอปเขียวคล้ำยิ่งพวกเขาคิด พวกเขาก็ยิ่งกระจ่างชัดถึงผู้ลงมือ
ตั้งแต่ต้นเมื่อพวกเขายืมอุปกรณ์เปิดฟ้าหลากมิติ พวกโจรก็ตั้งใจที่จะตกปลาในน้ำโคลนแล้ว
ครั้งนี้ไม่เพียงศาสนจักรจะเสียผู้อยู่เหนือ พวกเขายังเสียความสัมพันธ์กับจักรวรรดิ สำหรับสหพันธ์แห่งแสง นี่เป็นโอกาส
เหล่าบิชอปตระหนักว่าหน่วยของพวกเขาทั้งหมดถูกจับและทำลายและพวกเขาก็แทบกระอักเลือด
สหพันธ์แห่งแสงไอระยำ!
ครั้งนี้หน้าจอเสมือนบนโต๊ะประชุมปรากฏ แสดงคำสั่งของพระสันตะปาปา
“รักษาความมั่นคงของจักรวรรดิไว้และไถ่ตัวพันธมิตรเรา..เราจะคิดบัญชีกับสหพันธ์แห่งแสงทีหลัง”
เหล่าบิชอปสบตากันด้วยความหดหู่และหมดหนทาง
เมื่อวานพวกเขาคิดว่าอย่างน้อยก็ได้คฑากลับ แต่วันนี้ พวกเขากลับได้รับข่าวร้ายอีกครั้ง ความรู้สึกที่ตกจากสวรรค์ทำให้พวกเขาอึดอัดใจยิ่ง
มันขาดทุนป่นปี้
โดยปราศจากหลักฐานสหพันธ์แห่งแสงย่อมไม่ยอมรับมัน เหนือสิ่งอื่นใด ทั้งสองฝั่งมีพลังเท่ากัน ดังนั้นพวกเขาจึงไม่อาจข่มขู่กันได้
พวกเขาทำได้แค่วางแผนทีละขั้นตอน
…
บนดาวแม่สหพันธ์แห่งแสงประธานบาเดอร์วางอุปกรณ์สื่อสารลง ยิ้มให้เหล่าผู้อาวุโส
“แมนิสันทำสำเร็จคฑาหมื่นเทพเป็นของเราแล้ว”
ทุกคนเผยรอยยิ้มแห่งชัยชนะ
ผู้อาวุโสสูงสุดเล่นกับไม้เท้าเขา”สมกับที่เป็นหนึ่งในแอนเชี่ยนวันที่แข็งแกร่งสุดจักรวรรดิช่างกลยังเชื่อถือได้เหมือนเดิม”
บาเดอร์พยักหน้าด้วยรอยยิ้มแมนิสันเป็นพันธมิตรที่เขาให้คุณค่ามาก ไม่ใช่เพราะพลังที่น่าเกรงขาม แต่เพราะความสามารถเขาที่สามารถปรากฏตัวระยะไกลได้และกวาดหลักฐานทั้งหมด
“ศาสนจักรอาร์เคนจะสงสัยจักรวรรดิคริมสันและอาจสงสัยเราด้วยแต่พวกมันไม่มีหลักฐาน นอกจากนี้ พวกมันจะไม่บอกต่อโลกว่ามีคนขโมยคฑาหมื่นเทพไป”
“ตามข้อมูลเราการใช้คฑาหมื่นเทพนั้นง่ายมาก มันแค่ว่าเราไม่มีทักษะซ่อมมัน แต่ทว่า เราสามารถใช้มันเป็นไพ่ตายได้ มันสามารถทำให้ผู้อยู่เหนือบาดเจ็บสาหัสได้….แค่ก แค่ก แค่อย่าใช้มันต่อหน้าแบล็คสตาร์”
“แม้มันจะทำให้ศาสนจักรโกรธเราก็ได้รับผลประโยชน์ก้อนโตจากการได้รับคฑาหมื่นเทพ นี่ยังเป็นหมากไว้เจรจากับศาสนจักรในอนาคต”
ผู้อาวุโสหลายคนเผยรอยยิ้มเมื่อพูดถึงความสำเร็จ
“แมนิสันบอกว่าคฑาหมื่นเทพถูกผนึกด้วยวัสดุพิเศษเมื่อเขากลับมา ฉันจะให้ทีมวิจัยทำการวิเคราะห์มัน”
น้ำเสียงของบาเดอร์มั่นใจมากเขาไม่คิดว่าผนึกนั้นจะไม่มีทางลบได้