The Legendary Mechanic - ตอนที่ 888 ผู้ปกครองจักรวรรดิในอนาคต
ตอนที่ 888 ผู้ปกครองจักรวรรดิในอนาคต
ทีมของจักรวรรดิได้รับการตัดสินแล้วกลุ่มผู้อยู่เหนือทั้งเจ็ดทรงพลังมาก และจำนวนก็เกินความคาดหมายของหานเซี่ยวและจักรวรรดิ จักรวรรดิตกลงในรายชื่อสมาชิกทีมและรวมกันเพื่อเตรียมขึ้นกองยาน
ก่อนจัดการกับเทพเอสพวกเขาต้องจัดการปลดผนึกให้ศาสนจักรก่อน
กองยานคุ้มกันของศาสนจักรยังอยู่ระหว่างทางและหานเซี่ยวก็กำลังรอคำสั่งบนดาว เขาสามารถใช้เวลาร่วมกับเนโร่เพื่อสำรวจดาววงแหวนคริมสันได้
ดาววงแหวนคริมสันมีขนาดใหญ่มากแถมยังมีเมืองลอยฟ้ามีสถานที่ท่องเที่ยวมากมาย นอกจากนี้ ดาววงแหวนคริมสันยังเป็นต้นกำเนิดของอารยธรรมจักรวรรดิคริมสัน และสถานที่ทางประวัติศาสตร์มากมายก็ถูกเก็บรักษาไว้
ภายใต้การนำเที่ยวหานเซี่ยวและคนอื่นใช้เวลานี้สำรวจสถานที่ท่องเที่ยวต่างๆ
หานเซี่ยวเคยอยู่ในฝ่ายจักรวรรดิมาก่อนในชีวิตก่อนหน้าเขาและก็สำรวจดาวแม่จักรวรรดิมาก่อนเพราะเขาคุ้นเคยกับสถานการณ์บนดาว เขาจึงไม่อยากรู้อะไรมากและแค่เดินตามเนโร่
ดาววงแหวนคริมสันมีภารกิจมากมายแต่สำหรับหานเซี่ยวมูลค่าของภารกิจเหล่านี้ไม่สูง นอกจานกี้ สถานะเขายังแตกต่างและทุกการกระทำเขาจะเป็นที่จับตา เช่นนั้น มันเป็นไปไม่ได้ที่เขาจะกลายเป็นเด็กชายที่ไปทำธุระให้คนอื่น
สำคัญสุดคือมีภารกิจคุ้นๆและตัวละครมากมายที่ยังไม่ปรากฏตอนนี้
วันนี้กลุ่มพวกเขามาถึงพิพิธภัณฑ์วังนักบุญของจักรวรรดิ
พิพิธภัณฑ์นี้ใหญ่สุดในจักรวรรดิแล้วและมีวัตถุจากทุกช่วงเวลาประวัติศาสตร์ของจักรวรรดิ
พิพิธภัณฑ์วังนักบุญเป็นสวนขนาดใหญ่ที่มีวังต่างๆนับสิบวังล้วนมีหลากรูปแบบที่แสดงถึงทุกช่วงเวลาของจักรวรรดิ
ข้อดีของการมีคนนำเที่ยวคือพวกเขาไม่ต้องต่อแถวหรือซื้อตั๋วเข้าหานเซี่ยวนำเฟย์ดิน เรย์โนลและเนโร่ลัดแถวยาวและเข้าพิพิธภัณฑ์ผ่านทางเข้าพิเศษ
สิทธิพิเศษของพวกเขาดึงความสนใจผู้คนและทุกคนก็เริ่มซุบซิบ
“นั่นดูเหมือนจะเป็นแบล็คสตาร์จากวงแหวนดาวกระจายฉันเคยเห็นเขาในข่าว”Aileen-novel
“ไม่คิดเลยว่าเราจะได้พบกับคนใหญ่คนโตแบบเขาโชคดีมาก”
“เร็วเข้าถ่ายรูปไว้!”
นักท่องเที่ยวตื่นเต้นกันมากและนำกล้องออกมาถ่ายภาพผู้อยู่เหนือคือบุคคลทรงอำนาจและก็แตกต่างจากประชากรธรรมดาเหล่านี้ ตอนนี้ที่พวกเขาพบหานเซี่ยว มันเหมือนกับการได้พบคนดังบนท้องถนน
นักท่องเที่ยวเหล่านี้มาจากหลายเผ่าพันธุ์และอารยธรรมวงแหวนผนึกไซโอนิคได้คุ้มครองดาวแม่แต่ไม่ได้ปิดตายดาวแม่ อย่างน้อย พวกเขาก็จะไม่ทำเช่นนั้นในยุคนี้ มันแค่ว่าผู้มาเยือนทุกคนต้องผ่านการตรวจสอบอย่างเข้มงวดและใช้เวลาได้จำกัดบนดาว
ทุกปีดาววงแหวนคริมสันจะต้อนรับนักท่องเที่ยวจำนวนมากเพื่อสนับสนุนอุตสาหกรรมการท่องเที่ยวในท้องถิ่น จักรวรรดิไม่สนใจเงินเล็กๆน้อยๆนี้ แต่เป็นการเพิ่มอิทธิพลของวัฒนธรรมผ่านการท่องเที่ยว
หานเซี่ยวและคนอื่นเดินไปในพิพิธภัณฑ์แลเข้าวังหลักภายใต้การนำของคนนำเที่ยว
เทียบกับความพลุกพล่านด้านนอกวังเงียบมาและมีบรรยากาศอึมครึม
วงหลักอธิบายแนวทางการพัฒนาของจักรวรรดิและทุกคนก็ฟังคำอธิบายขณะมองดูวัตถุต่างๆที่จัดแสดง
เนโร่เต็มไปด้วยความอยากรู้ต่อประวัติของจักรวรรดิและมองดูคำแนะนำวัตถุทุกชิ้นเฟย์ดินตามหลังเนโร่และสนใจกับของที่จัดแสดงมาก ความสนใจของเรย์โนลจะจดจ่อกับเครื่องจักรโบราณต่างๆ แม้เครื่องจักรเหล่านี้จะถือว่าล้าหลังเมื่อเทียบกับปัจจุบัน เรย์โนลก็สนใจพวกมันกว่าของชิ้นอื่น
หานเซี่ยวเดินเร็วสุดและมาถึงตรงหน้าแผ่นหินดำขนาดใหญ่สิบแผ่นความสูงของแผ่นหินสิบแผ่นสูงเกือบแตะเพดานวัง และประวัติของจักรวรรดิก็ถูกเขียนลงบนนี้ตั้งแต่ต้น การพัฒนาของจักรวรรดิไม่ได้ราบรื่นเสมอไป
จักรวรรดิคริมสันเคยอ่อนแอและผ่านการดิ้นรนเช่นสงครามกลางเมืองและการปฏิวัติ
ความก้าวหน้าของยีนก่อให้เกิดความเสี่ยงต่อการกลายพันธุ์ความก้าวหน้าของเครื่องจักรและปัญญาประดิษฐ์เสี่ยงต่อการทรยศของเครื่องจักรอัจฉริยะ การใช้เครื่องจักรนำมาซึ่งการเปลี่ยนแปลงของสภาพแวดล้อม…เมื่อทักษะเทคโนโลยีพวกเขาก้าหน้า อารยธรรมก็พบทางแยกมากมายบนถนน
มีอันตรายอื่นๆมากมายเช่นรูหนอนการระบาด สงครามสำรวจและอื่นๆ ผ่านความยากลำบากมากมาย ในที่สุดพวกเขาก็กลายเป็นอารยธรรมเลือดเหล็ก
พวกเขาเติบโตจากอารยธรรมอ่อนแอเป็นผู้ปกครองในจักรวาลพวกเขาผ่านความทุกข์ยากมามากและแผ่นหินทั้งสิบก็บันทึกราคาที่พวกเขาต้องจ่ายกว่าจะมาถึงจุดนี้
ต่อหน้าประวัติของอารยธรรมทุกคนดูเล็กมาก
เมื่อหานเซี่ยวกำลังมองแผ่นหินเสียงเก่าแก่ก็ดังขึ้นข้างๆเขา
“ฉันมักทึ่งทุกครั้งที่เห็นแผ่นหินเหล่านี้”
หานเซี่ยวหันไปและเห็นชายชราสวมเครื่องแบบพิพิธภัณฑ์เขามีสายตาที่เต็มไปด้วยความเมตตา หลังเขาตรงราวกับเป็นทหาร
“ถูกต้องทุกอารยธรรมที่สามารถมาถึงจุดนี้ได้สมควรได้รับความเคารพ”หานเซี่ยวตอบ
ชายชราพยักหน้าหันมามองหานเซี่ยวด้วยรอยยิ้ม”ฉันคือรองผู้จัดการของพิพิธภัณฑ์วังนักบุญ คาร์ล เฟลอร์ วิแชนดิ์ สวัสดี ท่านแบล็คสตาร์”
“สวัสดี”หานเซี่ยวพยักหน้าแต่หัวใจเขากลับเริ่มเต้นแรง
คาร์ลเฟลอร์ วิแชนดิ์?ชื่อนี้ฟังคุ้นๆ…
โดยปกติชื่อที่เขาคุ้นจะเป็นตัวละครชื่อดังจากชีวิตก่อนหน้าเขา หานเซี่ยวค้นผ่านฐานข้อมูลเขาทันทีขณะคุยกับรองผู้จัดการ
คาร์ลเป็นชายชราสุขภาพแข็งแรงดูเหมือนจะไม่กังวลถึงสถานะของหานเซี่ยวเลยและคุยกับหานเซี่ยวอย่างเท่าเทียม
“ฉันมักสนใจประวัติของจักรวรรดิมาตลอดและได้ดูแลพิพิธภัณฑ์มาหลายปีแล้วฉันชอบที่จะดูแลของในสถานที่แห่งนี้”คาร์ลลูบแผ่นหินตรงหน้าและคร่ำครวญ
หานเซี่ยวเหลือบมองป้าย’ห้ามแตะต้อง’ด้านข้างและตัดสินใจไม่สนใจรองผู้จัดการที่ฝ่าฝืนกฏ
“รองผู้จัดการคาร์ลคุณเคยเป็นทหารหรือเปล่า?”
“ถูกต้องฉันรับใช้ในกองพลลาดตระเวนที่7ของจักรวรรดิตอนยังหนุ่มและเข้าร่วมการรบ23ครั้ง จากนั้นก็กลายเป็นผู้บัญชาการระยะไกลก่อนมาเป็นงานผู้ดูแล ฉันรับใช้กองทัพมากว่าครึ่งชีวิตและเกษียณ จากนั้น ฉันก็กลายเป็นรองผู้จัดการของพิพิธภัณฑ์”
แทนที่จะบอกว่าเขากำลังอธิบายต้นกำเนิดเขาให้หานเซี่ยวฟังมันเหมือนเขากำลังพูดกับตัวเองและรำพึงถึงอดีต
เมื่อได้ยินดวงตาหานเซี่ยวก็สว่าง และในที่สุดก็จำได้ว่าคนข้างๆเขาเป็นใคร!
พูดให้ถูกทหารเกษียณข้างเขาไม่ใช่NPCชื่อดัง แต่ลูกหลานเขาคือคนดังก้องทั่วจักรวาล
สกุลของคาร์ลคือ’เฟลอร์วิแชนดิ์’ และหนึ่งในผู้ปกครองของจักรวรรดิในอนาคตก็มีสกุลนี้!
มันเป็นไปได้สูงว่าผู้ปกครองในอนาคตของจักรวรรดิจะเป็นลูกหลานของตาแก่ตรงหน้าเขา!
อาจกล่าวได้ว่าเขาพบปลาตัวโตเข้าแล้ว!
จากนั้นหานเซี่ยวก็หันไปมองเนโร่และเฟย์ดิน
พวกเขาน่ากลัวจริงๆ….
แน่นอนตามเวลา ว่าที่ผู้ปกครองในอนาคตคงยังไม่เกิด แต่ทว่า ยังมีค่าให้ผูกมิตรกับเขา
จากนั้นหานเซี่ยวก็ยิ้ม”ผมเข้าร่วมจักรวรรดิไม่นานและก็อยากรู้เกี่ยวกับประวัติของจักรวรรดิผมสงสัยว่าคุณจะเล่าให้ผมฟังได้ไหม?”
“มันนับเป็นเกียรติของฉันที่ได้แนะนำประวัติของจักรวรรดิให้พันธมิตรผู้อยู่เหนือฟัง”คาร์ลหัวเราะ
ในฐานะทหารเกษียณเขาเต็มใจมากที่จะเล่าประวัติของบ้านเกิดตัวเองให้คนอื่นฟัง
เป็นเวลาทั้งวันคาร์ลรับงานพาพวกหานเซี่ยวเดินชมวังอื่น
เนื่องจากหานเซี่ยวตั้งใจผูกมิตรกับอีกฝ่ายทั้งคู่จึงคุยกันทั้งวันและนัดเจอกันวันพรุ่งนี้ด้วย
สองวันต่อมาหานเซี่ยวตามคาร์ลไปสำรวจพิพิธภัณฑ์วังนักบุญและในที่สุดก็ชมทุกวังจนหมด
จากนั้นหานเซี่ยวก็ชวนคาร์ลไปหาอะไรกินแต่คาร์ลไม่ตอบรับ เขากลับเชิญหานเซี่ยวไปเป็นแขกที่บ้านเขาและบอกว่าเขาจะลงมือทำอาหารเอง
ที่วันนัดหานเซี่ยวและคนอื่นตรงไปบ้านของคาร์ล
ในฐานะเจ้าหน้าที่ระดับสูงที่เกษียณคาร์ลได้รับการดูแลเป็นพิเศษจากรัฐบาลและมีบ้านพักหลังเล็กบนดาวแม่จักรวรรดิ มันไม่ไกลจากวังทารุนามิลล์ และก็เข้าถึงได้ง่ายมาก
หานเซี่ยวและคนอื่นมาถึงหน้าบ้านและเนโร่ก็เคาะประตู
ทุกคนรอสักพักและชายวัยกลางคนก็เปิดประตู
“สวัสดีครับท่านแบล็คสตาร์”ชายวัยกลางคนกล่าวด้วยใบหน้าตื่นเต้นและเคารพ
ชายวัยกลางคนผู้นี้คือลูกชายคนโตของคาร์ลและทำงานให้จักรวรรดิคริมสันด้วยเครือข่ายของพ่อเขา เขาจึงไต่ไปเป็นเจ้าหน้าที่ระดับกลางได้แต่ก็ยังไม่นับเป็นอะไรต่อหน้าหานเซี่ยว
เมื่อรู้ว่าพ่อเขาเป็นเพื่อนกับผู้อยู่เหนือเขาก็ตื่นเต้นมากและทำการเตรียมการมากมาย
เมื่อเดินไปในโถงหัวของคาร์ลก็ยื่นออกจากครัวและกล่าว”ท่านแบล็คสตาร์ นั่งก่อนสิ อาหารจะเสร็จในไม่ช้า”
“ไม่ต้องรีบเรามีเวลาเหลือเฟือ”หานเซี่ยวโบกมือ
จากนั้นพวกเขาก็นั่งบนโซฟาในห้องนั่งเล่นคาร์ลมีลูกอีกสองคน คนกลางเป็นลูกสาว และคนเล็กเป็นลูกชายลูกสาวนั้นเป็นเจ้าของบริษัทตัวแทนท่องเที่ยวกาแล็กซี่ และคนเล็กคือนักแกะสลัก ทั้งคู่เคารพหานเซี่ยวมากและดูประหม่า
เขากวาดตามองรอบห้องเห็นรูปของผู้หญิงที่แขวนบนผนัง เธอควรเป็นภรรยาผู้ล่วงลับของคาร์ล
คาร์ลมีลูกสามคนและหานเซี่ยวก็ไม่รู้ว่าผู้ปกครองในอนาคตจะมาจากคนไหนมันไม่ใช่ว่าเขาจำไม่ได้แต่เขาไม่ได้ศึกษาเรื่องนี้แบบเจาะลึก แต่ทว่า ตามการงานของทั้งสาม มันควรเป็นทายาทของลูกคนโต
ลูกคนโตของคาร์ลตั้งใจตีสนิทกับเขาด้วยน้ำเสียงประจบสำหรับลูกอีกสองคนของคาร์ล พวกเขาไม่กล้าพูดอะไรมาก
หานเซี่ยวพูดคุยกับลูกคนโตของคาร์ลสักพักก่อนคาร์ลจะเดินออกครัวพร้อมจานอาหารและเรียกทุกคนมากิน
จานอาหารเป็นอาหารปกติทั่วไปจากจักรวรรดิและอร่อยมากเนโร่กินจนอิ่มหนำ และลูกคนโตของคาร์ลก็แย่งงานของเฟย์ดินด้วยการตักอาหารให้เนโร่
หลังมื้ออาหารลูกสาวและลูกชายคนเล็กของคาร์ลก็ทำความสะอาด และคนอื่นก็กลับไปห้องนั่งเล่น เห็นได้ชัดว่าวันนี้คาร์ลมีความสุขมาก และเขาก็ยิ้มไม่หุบ
“ท่านแบล็คสตาร์ยังไว้หน้ามากเจ้าลูกทั้งสามคนนี้มักบ่นว่างานยุ่งมากทุกวันและไม่มีเวลามาหาฉันเลย แต่เมื่อนายมา พวกเขาก็รีบวิ่งมาอย่างเชื่อฟัง โดยเฉพาะเจ้าลูกคนนี้”
คาร์ลหัวเราะ
“แค่กแค่ก”ลูกคนโตของคาร์ลกระแอมอย่างอึดอัด
จากนั้นหานเซี่ยวก็หัวเราะและถามลูกคนโตของคาร์ล”ตำแหน่งของนายในจักรวรรดิคริมสันคืออะไร?”
ลูกคนโตของคาร์ลตาสว่างและรีบอธิบาย
“โอ้ไม่เลวเลยที่สามารถนั่งบนตำแหน่งเช่นนี้ได้”หานเซี่ยวลูบคาง”นายสามารถมาหาฉันได้ตลอดหากต้องการความช่วยเหลืออะไรในอนาคต ส่งหมายเลขนายมาให้ฉัน”
“ครับ!ขอบคุณมากครับท่านแบล็คสตาร์!”ลูกคนโตของคาร์ลยินดีมาก
เขาตื่นเต้นมากที่จะได้รับการคุ้มครองของหานเซี่ยวสถานะของแบล็คสตาร์นั้นสูงมาก ร่วมกับความจริงที่ผู้ปกครองให้ความสนใจกับแบล็คสตาร์ การคุ้มครองของแบล็คสตาร์ควรส่งผลต่อการงานเขา
นอกจากนี้ด้วยอายุของแบล็คสตาร์ เขาสามารถคุ้มครองจักรวรรดิได้เป็นเวลานานและต้องมีสถานะสูงขึ้นในอนาคต
คาร์ลไม่ชอบนิสัยลูกคนโตเขาและรู้สึกราวกับลูกคนโตเขาผูกมิตรกับแบล็คสตาร์เพียงเพื่อผลประโยชน์แต่ทว่า เขาไม่หยุดโอกาสลูกเขาและทำได้เพียงแสร้งเป็นไม่เห็น ไม่ได้ยิน
“ใช่แล้วฉันเอาของขวัญมาให้นายด้วย”หานเซี่ยวยิ้ม
“เห้อไม่จำเป็นเลย”คาร์ลโบกมือ
“จะเป็นแบบนั้นได้ไง?ฉันไม่มามือเปล่าหรอก”
จากนั้นหานเซี่ยวก็ดีดนิ้วและบอลบีบอัดทั้งสิบก็ปรากฏออกมา
“ฉันได้ทำองครักษ์จักรกลเหล่านี้ขึ้นเองพวกมันติดตั้งตัวส่งสัญญาณให้ฉัน นายสามารถกดปุ่มนี้ได้เมื่อเจออันตราย และฉันจะรู้ว่าพวกนายตกอยู่ในอันตราย จากนั้นฉันจะสามารถส่งพลังจักรกลฉันผ่านมิติและกระตุ้นพวกมันให้คุ้มครองพวกนายได้ องครักษ์เหล่านี้ควรมีพลังพอจะจัดการกับผู้ใช้พลังระดับภัยพิบัติ”
“นี่จะไม่ล้ำค่าเกินไปงั้นหรอ?”คาร์ลลังเล
หานเซี่ยวหัวเราะ”ฮ่าๆๆฉันเป็นช่างกลนะ”
“งั้นก็ได้ขอบคุณสำหรับของขวัญ”จากนั้นคาร์ลก็รับพวกมันมา
เขาแก่แล้วและต่อให้เขาไม่สนใจความปลอดภัยตัวเองเขาก็พิจารณาถึงลูกๆเขา
องครักษ์จักรกลของผู้อยู่เหนือมีค่ามากอายุขัยของหานเซี่ยวยาวนาน และตราบเท่าที่แบล็คสตาร์ยังมีชีวิต บอลบีบอัดทั้งสิบนี้ก็จะเป็นเหมือนมรดกสืบทอดของตระกูล!
หลังให้ของขวัญทั้งสองฝ่ายก็สนิทกันขึ้น หลังคุยอยู่นาน หานเซี่ยวก็ขอตัวกลับ
เมื่อออกบ้านของคาร์ลหานเซี่ยวก็ยิ้ม
เขาเป็นเพื่อนกับบรรพบุรุษของผู้ปกครองจักรวรรดิในอนาคตหากเขากลายเป็นผู้อาวุโสของผู้ปกครองในอนาคตจริง เรื่องราวก็จะน่าสนใจ
การลงทุนเล็กๆนี้มีโอกาสนำผลตอบแทนมหาศาลมาให้เขาและไม่มีเหตุผลที่เขาจะไม่ลงทุน
เมื่อคิดหานเซี่ยวก็ลูบหัวเนโร่
เนโร่รู้สึกดีที่หานเซี่ยวลูบหัวเขาและเขาก็มองหานเซี่ยว
“เธอคือดาวแห่งโชคดวงน้อยของฉัน”หานเซี่ยวหัวเราะ
เนโร่กระพริบตาปริบๆแม้จะไม่เข้าใจ เขาก็บอกได้ว่าหานเซี่ยวนั้นอารมณ์ดีมาก ดังนั้นจึงใช้โอกาสนี้เพื่อถาม”งั้น ผมขอลดการบ้านได้ไหมครับ?”
“ฝันไปเถอะ”
จากนั้นเนโร่ก็สะบัดมือของหานเซี่ยวออกและวางกระเป๋าไว้บนหัวไม่ให้หานเซี่ยวลูบหัวอีก
…
หานเซี่ยวใช้เวลาหลายวันเช่นนี้พาเนโร่และคนอื่นไปสถานที่ท่องเที่ยวขณะเก็บความโปรดปรานกับตระกูลของคาร์ล หลังจากนั้น ในที่สุดจักรวรรดิก็ส่งข่าวมา
กองทัพศาสนจักรได้มาถึงสถานที่แลกเปลี่ยนแล้วและเขาก็ต้องออกเดินทาง
หานเซี่ยวทิ้งเนโร่และคนอื่นไว้บนดาวแม่จักรวรรดิและตามกองยานจักรวรรดิไปลำพัง