The Legendary Mechanic - ตอนที่ 894 ตัวแปรสำคัญ
ทุกคนถูกปฏิบัติอย่างเท่าเทียมภายใต้การกักมิติเวลาช่างกลไม่สามารถเปิดใช้ช่องทางมิติที่สองได้ และแยกมิติกับการเคลื่อนย้ายชั่วพริบตาของเทพเอสก็ไม่ได้ผล
ด้วยจักรวาลที่ถูกสำรวจไม่หยุดสามอารยธรรมจักรวาลได้บันทึกความสามารถเอสเปอร์ทุกประเภทไว้และพัฒนาวิธีโต้ตอบกับยับยั้ง เว้นแต่ความสามารถเอสเปอร์ความเสี่ยงสูงบางอย่างถึงไร้ทางแก้
“นี่คือกับดักนี่เองพวกแกเต็มใจจ่ายกันจริงๆ”
เทพเอสแปลกใจแต่ก็รีบสงบสติ
นี่ไม่ใช่ครั้งแรกที่เขาพบเจออันตรายเช่นนี้เขาไม่ตื่นตระหนก แม้ศัตรูจะมีมากกว่าที่เขาคิดไว้ มันไม่ได้มีแค่จักรวรรดิและศาสนจักร แม้กระทั่งสหพันธ์แห่งแสงก็ยังเอี่ยวด้วย
11ผู้อยู่เหนือกำลังล้อมเขาไว้ซึ่งเหนือความคาดหมาย
หากมันไม่ใช่ความจริงที่อารยธรรมจักรวาลส่งกำลังคนมามากพอในครั้งนี้มันคงยากที่จะทำให้เขาติดกับ แค่การสู้กับเขาซึ่งๆหน้าและไม่ทำให้เขาคิดว่ามันเป็นกับดักก็ต้องใช้อย่างน้อยสี่ถึงห้าคน และยังต้องมีจอมเวทย์สามคนถึงสามารถลอบสร้างกับดักได้ นั่นหมายความว่าผุ้อยู่เหนืออย่างน้อย7-8คนต้องร่วมลงมือ
เมื่อตระหนักว่าเขาติดกับเทพเอสก็ไม่คุยต่อและตอบสนองทันที
เขาไม่นิ่งเฉยและรอความตายแม้การเคลื่อนย้ายจะถูกปิดกั้นในพื้นที่นี้ เขาก็ยังบินได้ ตราบเท่าที่เขาบินไปในทิศตรงข้ามกับพวกหานเซี่ยว วินาทีที่เขารอดพ้นระยะของกักมิติ เขาก็จะใช้ความสามารถได้อีกครั้ง
เขาไม่ใช่คนหัวรั้นเมื่อเจอกับ11ผู้อยู่เหนือ เขาไม่คิดสู้
ทั้งหกที่เข้าร่วมยังมาไม่ถึงและพวกเขาก็ยังไม่ได้ล้อมเขาไว้อย่างสมบูรณ์ เพราะกักมิติ พวกเขาจึงไม่อาจใช้ไฮเปอร์ไดรฟ์เพื่อมาถึงได้ทันที ดังนั้นจึงมีแค่ห้าคนที่สามารถยับยั้งเทพเอสได้ในขณะนี้
หานเซี่ยวไม่พูดให้มากความเขาเทพลังงานทั้งหมดลงในชุดจักรกล
ไฟสีฟ้ายิงจากตัวขับด้านหลังศอกและเท้าเขา ทั่วร่างเขาพุ่งไล่ตามเทพเอสไป ทิ้งประกายไฟสีฟ้าไว้ในจักรวาลเหมือนดาวหาง
กักมิติไม่มีการยกเว้นใดๆดังนั้นความสามารถมิติและไฮเปอร์ไดรฟ์เขาจึงไม่อาจใช้ได้
ร่างแยกมากมายของเทพเอสเข้ามารั้งหานเซี่ยวไว้หยุดเขาจากการไล่ตามร่างจริง
แม้เขาจะติดกับเทพเอสก็ไม่ตื่นตระหนกนัก
เขาอาจตกอยู่ในอันตรายก่อนวิวัฒนาการแต่เรื่องราวตอนนี้แตกต่างออกไป ร่างแยกจำนวนมากเขามากพอจะยับยั้งผู้ไล่ล่าและมอบเวลาให้เขาหลบหนี
“อย่าปล่อยเขาไป!”นักล่าดวงอาทิตย์ระเบิดร่างแยกออกไปก่อนเรียกปืนไรเฟิลซุ่มยิงขนาดใหญ่ออกมาเล็งใส่เทพเอสและยิง
ลำแสงพลังงานสีทองระเบิดตามเทพเอสไปความเร็วของลำแสงสูงกว่าความเร็วการบินเขามาก และระยะห่างก็ลดอย่างรวดเร็ว
เทพเอสขมวดคิ้วทำได้แค่กางม่านพลังก่อนลำแสงจะโดน
เดิมเขาอยากใช้แรงผลักเพื่อถอยไปไกลเพิ่มแต่พลังยิงของนักล่าดวงอาทิตย์ไม่คิดใช้ลูกไม้ธรรมดา วินาทีที่ลำแสงโดนตัวเทพเอส มันก็พองตัวอย่างบ้าคลั่ง เปลี่ยนเป็นบอลพลังงานที่มีแรงดูดทรงพลัง ลากเทพเอสไปหามัน ความเร็วของเทพเอสลดลงมาก และเขาก็ไม่มีทางเลอกนอกจากดิ้นรนเพื่อให้หลุดพ้น
การโจมตีระยะไกลคือจุดแข็งของผู้ใช้ปืนใหญ่และท่ามกลางพวกเขาทักษะของนักล่าดวงอาทิตย์ได้ผลดีสุดกับศัตรูที่คิดหลบหนี นอกจากนี้ ผู้ใช้ปืนใหญ่ยังไม่ได้มีแค่อาวุธเดียว พวกเขาใช้อาวุธปืนได้หลากหลาย ไม่ใช่แค่การทำความเสียหาย แต่ยังเป็นการควบคุม เช่นลำแสงที่ใช้จัดการกับเทพเอส
เทพเอสไม่อาจวาร์ปหลบดังนั้นจึงต้องต้านรับ การถูกยับยั้งโดยนักล่าดวงอาทิตย์ และชุดจักรกลของหานเซี่ยวที่เร่งความเร็วตามมา ระยะห่างพวกเขาจึงลดลง
โชคดีมิลิซาสและจอมเวทย์ไม่ไดประมาทเทพเอส และดังนั้น พวกเขาจึงสร้างพื้นที่กักมิติไว้กว้างขวาง
หลังของเทพเอสค่อยๆใหญ่ขึ้นในสายตาหานเซี่ยวเขาประเมินระยะทางก่อนนำบอลบีบอัดออกมา มันเปลี่ยนเป็นกระดานโลหะผสมหกเหลี่ยม ความยาวหลายสิบเมตรที่มีความโค้งเล็กน้อย มันถูกขับเคลื่อนด้วยแกนพลังงานไซโอนิค
นี่คืออุปกรณ์แรงโน้มถ่วงดูดซับทิศทางเดียวที่หานเซี่ยวใช้เวลาหลายเดือนสร้างมันสามารถปรับทิศทางและพลังแรงโน้มถ่วง และก็ใช้เพื่อดึงดูดเป็นหลัก
ตามการทดสอบเขาด้วยพลังเต็มที่ แรงโน้มถ่วงที่สร้างสามารถไปถึงระดับแรงโน้มถ่วงของดาวเคราะห์ แรงโน้มถ่วงนี้มากพอจะลอกเปลือกดาวและบรรลุพลังในการฉีกผิวดาว
แม้กระทั่งผู้อยู่เหนือนี่คือวิธีการควบคุมที่รุนแรง สูงกว่าลำแสงดึงดูดของยานอวกาศมาก
หานเซี่ยวเปิดใช้อุปกรณ์เขาและแรงดึงดูดรุนแรงปกคลุมทั้งบริเวณตรงหน้าเขา เทพเอสรู้สึกถึงแรงดึงมหาศาล ราวกับดาวทั้งดวงอยากกลืนเขา
เทพเอสขมวดคิ้วและด้วยความคิด เขาแยกร่างใม่ ซึ่งโยนตัวมันไปทางแรงดูด พุ่งเข้าหาหานเซี่ยวเพื่อขัดขวางเขา
ร่างแยกนี้มีเป้าหมายเดียวคือการทำลายอุปกรณ์สร้างแรงโน้มถ่วงดังนั้นมันจึงบินไปตามแรงดึง
หานเซี่ยวเปิดใช้ม่านพลังไซโอนิคขวางการรุกของร่างแยก แต่ทว่า ร่างแยกยังมีพลังของผู้อยู่เหนือ มันจึงไม่ได้จัดการง่ายๆ ความเร็วของหานเซี่ยวยังได้รัผล เทพเอสยิงลำแสงพลังงานสีแดงและดำใส่หานเซี่ยวในเวลาที่เหมาะสม ใช้แรงผลักเพื่อเคลื่อนตัวออกไปไกล
“เทพเอสสามารถผลิตร่างแยกได้เรื่อยๆวินาทีที่ฉันเข้าใกล้เกิน ฉันจะถูกขวางโดยร่างแยก หากฉันไม่อาจรั้งเขาไว้ได้ ฉันคงทำได้แค่ดูเขาหนี”หานเซี่ยวพึมพำ และตัดสินใจ พลังจักรกลรอบตัวเขาสั่นไหวและควบคุมแน่นกันเป็นกระแสไฟฟ้าขนาดใหญ่ที่มัดร่างแยกเทพเอสไว้
วินาทีต่อมาจิตสำนึกของหานเซี่ยวก็ขยายเข้าไปในเครือข่ายควอนตัม
การโจมตีวิญญาณฉันก็ทำได้!
ท่านใช้วิญญาณเสมือนกับเทพเอส!
กำลังพิจารณาค่าสถานะ.
การพิจารณาระดับตัวละครล้มเหลวอัตราความสำเร็จ-30%
การพิจารณาค่าสถานะโชคล้มเหลวอัตราความสำเร็จ-20%
การพิจารณาค่าสถานะลี้ลับล้มเหลวอัตราความสำเร็จ-20%
การพิจารณาค่าสถานะสติปัญญาสำเร็จอัตราความสำเร็จ+40%
การตัดสินหนึ่งในสี่มีผลทักษะสำเร็จ!
ตามระดับเทคโนโลยีเสมือนท่านอัตราความสำเร็จพื้นฐานคือ424% หลังคำนวณตัวแปร อัตราความสำเร็จทางทฤษฏีก็คือ : 384%
กำลังคำนวณความต้านทานสถานะผิดปกติของเป้าหมาย…คำนวณสำเร็จอัตราความสำเร็จขั้นสุดท้ายคือ 76%
การคำนวณขั้นสุดท้ายสำเร็จ…ทักษะมีผล
ตรงหน้าร่างของเทพเอสพลันหยุด วิญญาณเขาถูกจำลองโดยหานเซี่ยว โยนไปในเครือข่ายควอนตัมและเสียการควบคุมร่างกาย แรงดึงดูดดึงเขาถอยไปอีกครั้ง
จุดอ่อนของเทพเอสคือวิญญาณเพราะร่างแยกและร่างจริงเขามีวิญญาณเดียวกัน ทักษะที่หานเซี่ยวใช้กับร่างแยกจึงส่งผลกับร่างจริงเขาด้วย
เพราะความแตกต่างอย่างมากในค่าสถานะระยะเวลาของวิญญาณเสมือนจึงสั้นและยังมีคูลดาวน์ถึง15นาที แต่นี่มากพอให้หานเซี่ยวย่นระยะทางที่เหลือ
เครือข่ายควอนตัมคือบ้านของหานเซี่ยวและจิตสำนึกเขาก็แปลงเป็นยักษ์แสงที่บดบังท้องฟ้า เขาคว้าเทพเอสและทุ่มเขา การโจมตีทั้งหมดแปลงเป็นความเสียหายวิญญาณต่อเทพเอส
ระยะเวลาของวิญญาณเสมือนจบอย่างรวดเร็วและความชัดเจนก็เป็นประกายในตาเทพเอสอีกครั้งแต่ความเสียหายวิญญาณก็ทำให้สีหน้าเขาเปลี่ยนไปเล็กน้อย.Aileen-novel
เมื่อมองรอบๆเทพเอสก็พบว่าร่างจริงเขาตอนนี้อยู่ตรงหน้าหานเซี่ยว โดยปราศจากคำพูดเพิ่มเติม หานเซี่ยวกระโจนเข้าหาเขา
เมือ่เห็นเทพเอสก็รู้ว่าไม่อาจหลบหนีได้อีก เหตุผลที่เขาหลบหนีไม่ใช่เพราะเขาไม่อาจสู้ได้แต่เพราะการอยู่ในกับดักจะทำให้เขาเสียเปรียบ
ขณะสู้เทพเอสก็ปล่อยร่างแยกไม่หยุดเพื่อเพิ่มความเสียหาย แต่ทว่า หานเซี่ยวคล้ายกับปูนปลาสเตอร์เหนียว พลังชีวิตเขาและความต้านทานที่สูงร่วมกับบอลอำพัน เทพเอสจึงหงุดหงิดมากขึ้นเรื่อยๆ เขาถูกรั้งไว้โดยหานเซี่ยว
“แกมันน่ารำคาญมาก!”เทพเอสคำราม
“ขอบคุณที่ชม”หานเซี่ยวยิ้มมือเขาพลันยิงคลื่นไซโอนิค ทำลายร่างแยก
ในเวลาเดียวกันทั้งหกที่เข้าร่วมใหม่ก็เริ่มล้อมพวกเขา และฝั่งของนักล่าดวงอาทิตย์ก็ยังกำจัดร่างแยกไปมากมาย
เพราะร่างแยกใหม่ทั้งหมดที่สร้างโดยเทพเอสถูกจับโดยหานเซี่ยวจึงไม่มีกำลังเสริมใหม่ทางด้านนั้น ดังนั้นพวกเขาจึงสามารถไล่ทันได้
ไม่นานผู้อยู่เหนือทั้งหมดก็มาถึง แต่ละคนประจำตำแหน่งและล้อมเทพเอสไว้ กองทัพจักรกลของหานเซี่ยวและแมนิสันยืนอยู่ที่ทางหนีแต่ละทาง
เมื่อเห็นแบบนี้หานเซี่ยวยังหยุดโจมตี ถอยไปในกองทัพจักรกลเขา
เทพเอสถูกล้อมไว้โดยสมบูรณ์และจากตำแหน่งเขา เขาสามารถเห็นทหารจักรกลจำนวนมหาศาลได้ คลื่นพลังงานของผู้อยู่เหนือทั้ง11เผาอวัยวะรับกลิ่นเขา ร่างแยกเขาถูกเรียกกลับ ล้อมเขาไว้เพื่อป้องกัน
ในระยะไกลกองยานของสหพันธ์แห่งแสงปรากฏ โดยปราศจากความช่วยเหลือของเทพเอส กองยานผู้ร่วงหล่นถูกกำจัดอย่างรวดเร็ว ยานรบระเบิดทีละลำ แสงจากการระเบิดส่องสว่างไปทั่ว
เขาเหลือบมองกองยานเขาหันไปมองแมนิสัน พูดผ่านเครือข่ายจิต”แมนิสัน ไม่คิดเลยว่าแกจะมาด้วย”
ท่ามกลางทั้ง11เทพเอสเคารพแค่สี่คน แมนิสัน มิลิซาส นักล่าดวงอาทิตย์และหานเซี่ยว ทั้งหมดต่างเคยสู้กับเขา แมนิสันคือคนที่เขาเคารพมากสุด
“มันเป็นเรื่องของธุรกิจนอกจากนี้ ฉันเตือนแกก่อนแล้วว่าอย่าก้าวเข้ามาในแม่น้ำดวงดาวแรกเริ่ม”น้ำเสียงของแมนิสันสงบ
เทพเอสพยักหน้าก่อนสำรวจคนที่เหลือ
แม้จะถูกล้อมเขาก็ไม่แสดงความตื่นตระหนก”ต่อให้พวกแกจะมีมากกว่า มันก็ไม่ง่ายหรอกที่จะจัดการกับฉัน”
เขามีแผนหนีสองแผนหนึ่งคือหลบหนีจากพื้นที่ที่ถูกปิดตาย เนื่องจากมันล้มเหลวแล้ว เขาจึงต้องเลือกวิธีสอง ซึ่งคือใช้ความสามารถเอสเปอร์มิติเขาเพื่อเจาะการกักมิติเวลา หาช่องโหว่เพื่อวาร์ปออกไป
เพื่อให้แผนนี้ได้ผลเขาต้องถ่วงเวลาให้นานพอ
ความเชื่อมั่นส่วนใหญ่ของเขามาจากร่างแยกต่อให้เขาถูกล้อม เขาก็ยังใช้พวกมันเพื่อสู้กับทุกคนได้ ร่วมกับความสามารถฟื้นฟูและดูดซับพลังงาน เขาสามารถอยู่รอดได้นาน ดังนั้นเขาจึงไม่กังวล
แต่ทุกคนต่างรู้เรื่องนี้และรู้ว่าทุกวินาทีมีค่าดังนั้น พวกเขาจึงสบตากันและพยักหน้า
“เริ่มแผนการได้”
“เราทุกคนต้องพึ่งพานายแล้วแบล็คสตาร์”
วินาทีถัดมาทุกคนก็โจมตีพร้อมกัน!
เมื่อต้องเผชิญกับอีกสิบผู้อยู่เหนือร่างแยกก็ตายอย่างรวดเร็ว แต่เทพเอสก็สร้างเพิ่มโดยใช้การดูดซับพลังงานเขา จนระงับผู้อยู่เหนือทั้งหมดได้!
แม้กระทั่งผู้อยู่เหนือที่งล้อมเขาก็อดตกใจกับพลังนี้ไม่ได้
การวิวัฒนาการของเทพเอสช่างน่ากลัวจริงๆ!
หากมันไม่ใช่ว่าแบล็คสตาร์เสนอให้พวกเขาร่วมมือกันจัดการกับเขาใครจะยังคุกคามเขาได้อีกในอนาคต?
หานเซี่ยวเคลื่อนผ่านสนามรบแหวกผ่านการปิดล้อมของร่างแยกเทพเพื่อเข้าใกล้เทพเอส
เพราะเทพเอสเคยสู้กับหานเซี่ยวมาก่อนมันจึงไม่สงสัยเขาและพุ่งไปท้าทายเขาทันที
แต่ทว่าเมื่อทั้งสองเข้าใกล้กัน เทพเอสก็รู้สึกถึงคลื่นพลังงานแปลกๆที่ไหลจากตัวหานเซี่ยวและเข้าไปในตัวเขา
วินาทีต่อมามันราวกับยากล่อมประสาทถูกฉีดเข้าตัวเขา และความสามารถทั้งหมดเขาก็เงียบไป
“นี่คือ..ผนึกเอสเปอร์?!”
สีหน้าเทพเอสเปลี่ยนไปและก็เปลี่ยนเป็นความสงสัย เขาไม่เข้าใจว่าทำไมหานเซี่ยวถึงมีความสามารถเขา
“มันได้ผล!”เมื่อเห็นการแจ้งเตือนบนหน้าต่างสถานะหานเซี่ยวก็ถอนหายใจโล่งอก
ในช่วงการประชุมก่อนหน้าหานเซี่ยวหารือกลยุทธ์นี้กับคนอื่น และวินาทีที่พวกเขาล้อมเทพเอส เขาจะใช้บัตรผนึกเอสเปอร์
หานเซี่ยวมักซ่อนไพ่ตายนี้ไว้รอหาโอกาส
วินาทีที่ผนึกเอสเปอร์ได้ผลร่างแยกทั้งหมดก็หยุดนิ่งและโดยปราศจากความสามารถที่จะรักษามันไว้ ร่างแยกระเบิดและสลายเป็นหมอกดำ
เพราะความต่างชั้นระยะเวลาของผนึกเอสเปอร์จึงน้อยมาก แต่ช่วงเวลานี้ก็มากพอจะสลายร่างแยกเขา!
ทุกคนเตรียมการมานานและช่วงชิงโอกาสตอนเทพเอสเสียความสามารถสามจอมเวทย์ปล่อยคาถายับยั้งที่เตรียมไว้ ผู้ใช้พลังจิตแทรกแซงสภาพจิตเขา นักสู้ใช้พลังเพื่อสะกดเขาไว้และหานเวี่ยวก็ฉีดของเหลวผลึกระดับนาโนเพื่อลดพลังชีวิตเขา
เวลาเพียงเสี้ยววินาทีนี้มากพอจะทำให้เทพเอสตกอยู่ภายใต้พันธนาการมากมายด้วยผู้อยู่เหนือมากมายที่ลงมือพร้อมกัน ไม่มีทางที่เขาจะดิ้นรนเป็นอิสระได้ในเวลาอันสั้น
เมื่อพลังเขาฟื้นคืนเขาพยายามดิ้นรน แต่ทักษะควบคุมเหมือนโซ่ตรวน มัดแขนขาเขาไว้
ภายใต้สถานะด้านลบมากมายพลังงานภายในตัวเขาเฉื่อยชา และเขาก็ไม่อาจใช้ความสามารถได้
เทพเอสจ้องหานเซี่ยวดวงตาเขาแสดงความสับสน
“แกใช้ความสามารถฉันได้ยังไง?”
“แกจะยังมีเวลาคิดอีกมากในอนาคต”หานเซี่ยวไม่ลังเลนำกาลอวกาศแอมเบอร์ออกมาและชี้เทพเอส หลังมีการเชื่อมต่อวิญญาณระดับสอง การผลิตบอลอำพันก็เร็วขึ้น
กาลอวกาศแอมเบอร์คือกุญแจหลักของแผนนี้!
ผู้คนที่นี่อาจสามารถรั้งเทพเอสได้แต่ก็ไม่อาจทำได้ตลอดไป เทพเอสมีความสามารถเอสเปอร์มากเกินไป และไม่มีอะไรรับประกันได้ว่าเขาจะไม่สามารถหนีได้
ทางเดียวที่จะรับประกันได้คือกาลอวกาศแอมเบอร์
พวกเขาได้ตัดสินใจแล้วว่าหานเซี่ยวจะเป็นตัวละครหลักของแผนนี้และหน้าที่ทุกคนก็แค่ยับยั้งเทพเอส
โดยปราศจากผนึกเอสเปอร์และกาลอวกาศแอมเบอร์เทพเอสย่อมหนีได้ พวกเขาคือตัวแปรสำคัญในแผนนี้
เทพเอสไวต่อความผันผวนและรู้สึกว่าอวกาศรอบเริ่มบิดเบี้ยวแววตาเขาดูแปลกใจ
“งั้นนี่คือผลของกาลอวกาศแอมเบอร์นำตนาน ช่างเป็นสมบัติจักรวาลที่น่าอัศจรรย์นัก”เทพเอสหยุดสักพัก บิดกล้ามเนื้อใบหน้าอย่างไม่เต็ใจ”ไม่คิดเลยว่าฉันจะต้องมาจบสิ้นในน้ำมือแก”
หานเซี่ยวตระหนักถึงความเป็นไปได้ที่จะถูกโต้กลับหากพูดมากไปและไม่ตอบจดจ่อกับการสร้างกาลอวกาศแอมเบอร์
เมื่อเห็นว่าสถานการณ์นั้นสิ้นหวังเทพเอสก็หยุดดิ้นรน จ้องหานเซี่ยวอย่างไม่แยแส
“แบล็คสตาร์เราจะได้พบกันอีกครั้ง”
“นั่นจะเกิดขึ้นเมื่อสามอารยธรรมจักรวาลขอให้ฉันปล่อยตัวแก”
ดวงตาหานเซี่ยวเป็นประกายและก็ตัดการส่งพลังงาน
ทั่วร่างเทพเอสถูกผนึกไว้ในกาลอวกาศแอมเบอร์!