The Legendary Mechanic - ตอนที่ 904 คำเชิญของเอเมส
สายตาเขาจับจ้องดาบนิ้วเขาลูบไล้เบาๆไปทั่วคมดาบ และก็รู้สึกได้ถึงความคมของดาบอย่างชัดเจน
ในห้องล็อตแฮร์นั่งข้างๆโต๊ะ ลูบดาบสีดำเขาที่ติดตัวเขาไปตลอดชีวิตในฐานะนักฆ่า แสงจากโคมไฟโต๊ะไม่ได้ถูกสะท้อนโดยดาบดำเขาเพราะอาวุธเขาสร้างจากวัสดุพิเศษที่ดูดซับแสงทั้งหมด
อารมณ์ของล็อตแฮร์แตกต่างจากการแสดงออกที่สงบเขาโดยสิ้นเชิง
เขาอยู่ในกองทัพแบล็คสตาร์มาหลายวันแล้วและเขาก็เหมือนคนที่มองไม่เห็นเขาไม่สามารถเข้ากับบรรยากาศที่อึกทึกของกองทัพได้
ล็อตแฮร์เลือกเข้ากองทัพแบล็คสตาร์เพราะเทพเอสถูกจับได้ตอนแรก เขาอยากดูว่าแบล็คสตาร์เป็นคนแบบไหน และสองเขากำลังเสียสูญ
เทพเอสขโมยพรสวรรค์แต่กำเนิดของเขาไปและเป็นฝันร้ายต่อเขาล็อตแฮร์ไม่ชอบนอนหลับเพราะเขามักตกใจตื่นโดยฝันร้าย การลอบสังหารเทพเอสเป็นเป้าหมายเดียวของเขา
ตอนนี้ที่เทพเอสแพ้ให้กับคนอื่นล็อตแฮร์จึงไม่มีโอกาสล้างแค้นอีก ล็อตแอร์ไม่มีงานอดิเรกใด และเพื่อนเขาก็ล่วงลับไปหมดแล้ว หมาป่าเดียวดายแบบเขาไม่ชอบมีปฏิสัมพันธ์กับคนอื่น เขาไม่มีความทะเยอทะยานและไม่รู้ว่าจะทำอะไรต่อ เขาควรล่าคนของผู้ร่วงหล่นต่อหรือควรเก็บดาบและล่องลอยไปรอบๆ?บางทีเขาอาจพบดาวเคราะห์ที่จะใช้ชีวิต
ล็อตแฮร์รู้สึกว่าชีวิตไร้ความหมายดังนั้น เขาจึงตัดสินใจมากองทัพแบล็คสตาร์และรับใช้แบล็คสตาร์สักพักเพื่อใช้หนี้ เมื่อเขารู้สึกว่าเขาตอบแทนจนหมด เขาจะเลือกออกไป
ขณะที่กำลังเหม่อลอยเสียงออดก็ดัง ล็อตแฮร์ได้สติ เขาจับอาวุธโดยไม่รู้ตัวก่อนตระหนักว่าเขาอยู่ในสถานที่ปลอดภัย
จากนั้นเขาก็เก็บดาบลงฝักและยืนขึ้นเพื่อเปิดประตูมันคือแบล็คสตาร์ที่มาเยี่ยมเขา
พวกเขามองกันสักพักก่อนล็อตแฮร์จะกล่าว”คุณต้องการอะไร?”
“เรายังไม่ได้คุยกันก่อนหน้านี้ตอนนี้ฉันว่างแล้ว ใจคอนายคิดจะยืนคุยกับฉันหน้าประตูงั้นหรอ?”
ล็อตแฮร์เงียบไปก่อนหลบทางให้แบล็คสตาร์เข้า
หานเซี่ยวเดินไปในห้องและมองรอบๆก่อนนั่งบนโซฟาจากนั้นก็บอกให้ล็อตแฮร์นั่งลง
หลังล็อตแฮร์นั่งหานเซี่ยวก็มองเขาและกล่าว”ฉันให้ความสนใจกับนาย และจากประวัติที่นายให้ฉัน นายคือนักฆ่าที่ทรงพลังมาก ฉันหวังกับนายไว้สูงและดังนั้นจึงไม่รีบมอบหมายงานให้นาย”
“ตกลง”
หานเซี่ยวกล่าว”นายไม่ชอบพูดใช่ไหม?”
“ใช่”ล็อตแฮร์ตอบ
หานเซี่ยวหัวเราะเบาๆ”มันรู้สึกไม่ดีเลยที่หลงทางในชีวิตใช่ไหม?”
เมื่อได้ยินล็อตแฮร์ก็ตัวสั่น
“เชื่อฉันฉันเข้าใจนาย นายแตกต่างจากชาซิค เขาอยากตอบแทนฉันจริงๆ แต่ฉันบอกได้ว่านายแตกต่าง เป้าหมายนายคือเทพเอสและตอนนี้นายก็เสียศัตรู นายจึงไม่รู้ว่าควรทำอะไรต่อ ดังนั้น นายจึงตัดสินใจมาทำงานให้ฉันสักพักสินะ?”
ล็อตแฮร์ไม่ได้เขียนประสบการณ์เขาในอดีตบนประวัติแต่เพราะข้อมูลจากชีวิตก่อนหน้าเขา หานเซี่ยวจึงชัดเจนดีถึงนิสัยของอีกฝ่าย ดังนั้นเขาจึงอนุมานได้ว่าเขากำลังคิดอะไร
“ใช่แล้ว”ล็อตแฮร์ถอนหายใจยาวและพยักหน้า
“ฉันเห็นความแน่วแน่ของนายและดังนั้นจึงเดาได้ว่าความเกลียดชังของนายที่มีต่อเทพเอสนั้นหยั่งรากลึกนายอาจพบกับเทพเอสมาก่อนและเห็นว่าเขาน่ากลัวแค่ไหน นอกจากนี้ เขายังเป็นฝันร้ายของนาย”
ล็อตแฮร์มองแบล็คสตาร์อย่างตกใจนี่คือความลับที่ซ่อนลึกในหัวใจเขาและเขาก็ไม่ได้เขียนลงในประวัติ เขาแทบไม่ได้เปิดเผยต่อใคร และก็ไม่เข้าใจว่าแบล็คสตาร์สามารถบอกได้ยังไง
พวกเขาแทบไม่ได้คุยกันเลยเป็นไปได้ไหมว่าทักษะการสังเกตของแบล็คสตาร์น่ากลัวมาก?แบล็คสตาร์สามารถเดาความคิดเขาได้หลังพบกันแค่ไม่กี่ครั้ง?
“…คุณพูดถูกผมเคยพบกับเทพเอสและผมคือเอสเปอร์ที่โดยชิงความสามารถไป”ล็อตแฮร์ระงับความตกใจในใจและพูดอย่างสงบ
“งั้นนายก็โชคดีมากที่ยังมีชีวิต”
เขารู้ว่าความเกลียดชังที่ล็อตแฮร์มีต่อเทพเอสนั้นฝังลึกลงกระดูกเหนือสิ่งอื่นใด ความสามารถเอสเปอร์โดยกำเนิดที่ติดตัวเขามาถูกขโมยไป และต่อให้ล็อตแฮร์สามารถพลิกชะตากรรมเขากลับมามีชีวิตและยังทรงพลังถึงเพียงนี้ได้ เขาก็ยังเกลียดชังเทพเอส
“นายต้องทนทุกข์มามากเพื่อให้ได้มาซึ่งพลังที่นายมีอยู่ในตอนนี้”
เมื่อได้ยินความว้าวุ่นก็เห็นได้ในตาของล็อตแฮร์ราวกับเขากำลังนึกถึงความทรงจำที่ไม่น่าพึงพอใจ แต่ทว่า เขาก็ได้สติคืนอย่างรวดเร็วและลดหัวลง
เขาใช้เวลาหลายปีลำพังโดยไม่มีเพื่อนตอนนี้ เขาตระหนักว่าหานเซี่ยวเข้าใจเขา และหลังได้ยินคำพูดแสนจริงใจ ล็อตแฮร์ก็รู้สึกหวั่นไหว
มันนานมาแล้วที่ไม่มีใครมาสนใจฉัน
หากมันเป็นคนธรรมดาที่พูดล็อตแฮร์คงไม่ยึดติดนัก ในฐานะภัยพิบัติ เขาไม่มีทางถูกโน้มน้าวง่ายๆ แต่ทว่า แบล็คสตาร์คือผู้อยู่เหนือ และเขาก็ไม่ต่างอะไรกับเด็กน้อยต่อหน้าแบล็คสตาร์ แบล็คสตาร์คือคนที่เหนือกว่าเขา และล็อตแฮร์ก็ถูกสั่นคลอนได้ง่ายๆโดยคำพูดนี้
ในความเป็นจริงมีอีกเหตุผล เพื่อให้ล็อตแฮร์เปิดใจต่อเขา เขากระตุ้นบัตรอัญเชิญตัวละครเฉินซิ่งขณะพูดด้วย
[รอยยิ้มเกี้ยวพาราสี]: +688เสน่ห์
มันดูเหมือนจะมีประโยชน์
ล็อตแฮร์ถอนหายใจยาวและตอบด้วยเสียงแหบแห้ง”มันจบลงแล้ว”
หานเซี่ยวส่ายหัว”นายไม่ต้องเก็บทั้งหมดไว้ในใจบางทีนายคงอยู่โดดเดี่ยวมานานไป แต่นายต้องเข้าว่าอนาคต นายจะไม่โดดเดี่ยวอีก ฉันคือหัวหน้านายและหวังว่าจะเข้าใจประสบการณ์ที่ผ่านมาของนาย”
ล็อตแฮร์เงียบไปสักพักเดิมเขาปฏิเสธความคิดในหัวใจ แต่เมื่อจำได้ว่าแบล็คสตาร์คือผู้มีพระคุณเขา เขาค่อยๆเริ่มอธิบายอดีตเขา
เพราะเขาไม่ได้พูดมากมานานเขาจึงรู้สึกแปลกในตอนแรก แต่ทว่า เขาก็ถูกอารมณ์เข้าท่วมท้นอย่างรวดเร็ว
เขาไม่มีใครให้เทใจในอดีตดังนั้นล็อตแฮร์จึงเก็บทุกอย่างไว้ในขวดตลอด เมื่อได้ปล่อยออก เขาจึงรู้สึกดีขึ้นมาก
หานเซี่ยวฟังเงียบๆในความเป็นจริง เขารู้อยู่แล้ว เขาแค่รอให้ล็อตแฮร์ระบายออกมาให้หมด ในเวลาเดียวกัน เขาก็สามารถเพิ่มความโปรดปรานที่ล็อตแฮร์มีต่อเขาได้ เนื่องจากล็อตแฮร์เพิ่งเข้าร่วมกองทัพ ความภักดีย่อมไม่ตกจากฟ้าโดยไม่มีความสัมพันธ์ใดระหว่างพวกเขา
“ฉันจะรับฟังนายเสมอหากนายอยากพูดอะไร”หานเซี่ยวพยักหน้า
“ขอบคุณ”ล็อตแฮร์ถอนหายใจยาวและรู้สึกว่าทั้งร่างเขาคลายตัวในขณะเดียวกัน ความกลัวในหัวใจที่มีต่อเทพเอสก็ลดลงมาก
เขาได้รับความโปรดปรานอย่างล้นหลามคนอย่างแบล็คสตาร์กลับเต็มใจมานั่งคุยกับเขา
“วันนี้พอแค่นี้ก่อน”หานเซี่ยวยืนขึ้นด้วยรอยยิ้ม”หวังว่าฉันจะสามารถเชื่อใจนายได้”
“อืม”แม้ล็อตแฮร์จะยังไม่พูดอะไรมากน้ำเสียงเขาก็แตกต่างจากเดิมและไม่เย็นชาอีก
“ฉันจะให้ภารกิจนายในไม่ช้าและหวังว่านายจะไม่กระสับกระส่ายเมื่อถึงเวลานั้น ฉันจะไปละ”
หานเซี่ยวหมุนตัวและเดินออกไป
ล็อตแฮร์เอนพิงประตูและมองหานเซี่ยวเดินออกไป
มันดูเหมือนการตัดสินใจเขาจะไม่ผิด
…
ไม่กี่วันต่อมาแผนกโลจิสติกส์ได้สร้าง[ตรากองทัพแบล็คสตาร์ : วิวัฒนาการ]ชุดใหญ่ หลังหานเซี่ยวเติมพลังงาน พวกมันก็พร้อมสำหรับการขาย
ผู้เล่นบางคนที่ไม่มีอะไรดีขึ้นกลับไปยังศูนย์ใหญ่เพื่อรับของสำหรับผู้เล่นที่จัดการกับอารยธรรมกูลาลอยู่ พวกเขาทำได้แค่รอให้ตราถูกส่งมาหา
อย่างรวดเร็วผู้เล่นกลุ่มแรกได้สัมผัสกับผลของเครื่องมือและโพสต์ใหม่มากมายก็สร้างขึ้นบนฟอรั่ม
ผู้เล่นที่เข้าร่วมในสงครามกลางเมืองใช้ตราในการต่อสู้จริงและบันทึกฉากการต่อสู้ไว้หานเซี่ยวเปิดหนึ่งในโพสต์และดูวิดิโอ
วิดิโอแสดงฉากของผู้เล่นที่กำลังกวาดล้างเมืองมีหอปืนใหญ่ในจัตุรัสพร้อมกับกองกำลังภาคพื้นฝ่ายจักรพรรดิโบราณ อาวุธยิงอันทรงพลังของศัตรูทำลายผู้เล่นที่โจมตีทั้งหมดและบังคับให้ผู้เล่นต้องหลบซ่อน
ผู้เล่นที่เข้าร่วมสงครามได้ติดต่อกันและสิบคนก็สวมตรากองทัพแบล็คสตาร์ยืนขึ้นและชูตราขึ้นฟ้า
“อุลตร้าแมนแปลงร่าง!”หนึ่งในผู้เล่นนักสู้คำรามและร่างพวกเขาก็เริ่มขยาย
“โฮก!’
ผู้เล่นที่แปลงร่างทั้งสิบพุ่งใส่เพื่อสกัดกระสุน
พวกเขาใช้พลังชีวิตมหาศาลพวกเขาเพื่อต้านรับพลังยิงของศัตรูและความกลัวก็ปรากฏบนหน้าเมื่อเห็นสัตว์ประหลาดเข้าใกล้พวกเขา
สิ่งมีชีวิตแปลงร่างสองตัวฆ่าตามรายทางแต่ตัวอื่นสามารถพุ่งใส่แนวศัตรูได้และฉีกผ่านการป้องกัน
หมัดกระโปก(โปสเตอร์): หลังประสบกับการวิวัฒนาการเอง ร่างฉันก็กลายเป็นรถถัง และมันก็มีประโยชน์มากในการบุกทะลวง
จันทราเมเปิ้ล: แม้มันจะน่าเกลียด มันก็มีประโยชน์จริงๆ…
เงาจันทรา: อัตราส่วนคุณภาพต่อราคาสูงมาก แต่ทว่า มันยังแพงมาก การเติมมันต้องใช้อีกห้าพันอีนาส นี่คือการขู่กรรโชก!
ดวงดาว: คิดดูสิ นายจะแข็งแกร่งได้ไงหากไม่ใช้เงิน?…ไอรีนโนเวล
ผู้เล่นส่วนใหญ่ใช้ตราในดันเจี้ยนการแปลงร่างเหมาะสมมากกับการเป็นสายชนและมันก็เหมาะกับการจัดการบอส
ตราพลันกลายเป็นเครื่องมือยอดนิยมที่ใช้ในการลงดันเจี้ยนและทุกทีมจะมีอย่างน้อยหนึ่งคนที่ใช้ตรา
ผู้เล่นบางคนมองเห็นโอกาสทางธุรกิจที่ซ่อนอยู่ภายในและรวมเงินเพื่อซื้อตราจากนั้นก็เก็บค่าธรรมเนียมเพื่อเข้าทีมและให้บริการแก่ผู้เล่นที่ไม่สามารถซื้อได้
อย่างรวดเร็วมีหลายทางในการใช้ตราถูกพูดคุยบนฟอรั่มและหลังดูมันสักพัก หานเซี่ยวก็ปิด ตอนนี้มีเรื่องอีกให้เขาทำแล้ว
จักรวรรดิคริมสันได้ตัดสินใจลงนามในข้อตกลงกับเขาแล้วและเขาจะมอบโทเท็มวิวัฒนาการให้กับพวกเขาในระยะยาวเขาจะต้องจัดหาโทเท็มวิวัฒนาการร้อยล้านชิ้นภายในห้าปี
เพราะความสัมพันธ์ระหว่างทั้งสองหานเซี่ยวจึงไม่สามารถทำเงินจากจักรวรรดิได้ เป้าหมายการทำเงินเขาคืออารยธรรมอื่น ส่วนสำคัญของข้อตกลงพวกเขาคือสิทธิ์ให้หานเซี่ยวขายมันกับอารยธรรมอื่นโดยผลกำไรจะเป็นของกองทัพแบล็คสตาร์เท่านั้น
จักรวรรดิไม่รอให้มรดกของเทพเอสถูกเปิดเผยช้าๆแต่กลับริเริ่มประกาศทั้งจักรวาลให้รับรู้ถึงโทเท็มวิวัฒนาการ ความปั่นป่วนจึงบังเกิดขึ้น และอารยธรรมนับไม่ถ้วนก็ถูกปลุกปั่น!
อารยธรรมในวงแหวนดาวกระจายที่มีความสัมพันธ์ร่วมมือกับหานเซี่ยวต่างตกใจอย่างที่พวกเขาเห็น มูลค่าของการใช้ลูกบาศก์วิวัฒนาการไม่อาจเทียบได้กับโทเท็มวิวัฒนาการ!
อารยธรรมนับไม่ถ้วนไม่สามารถนั่งเฉยได้อีกและหมายเลขติดต่อของกองทัพก็ยุ่งทั้งวัน หลายคนพยายามติดต่อหานเซี่ยว หวังซื้อโทเท็มวิวัฒนาการ
หานเซี่ยวให้ฟิลลิปแจ้งอารยธรรมทั้งหมดเรื่องข้อตกลงเขากับจักรวรรดิตราบเท่าที่พวกเขาได้รับการอนุมัติจากจากจักรวรรดิพวกเขาก็สามารถซื้อโทเท็มวิวัฒนาการได้ เช่นนั้น เขาสามารถผลักปัญหาทั้งหมดให้จักรวรรดิได
สำหรับอารยธรรมพันธมิตรที่ได้เข้าร่วมแล้วหานเซี่ยวแลกเปลี่ยนกับพวกเขาตรงๆและได้รับคำสั่งซื้อจำนวนมาก ยอดขายของมันแตกหลักล้านและธุรกิจเขาก็กระจายไปทุกทุ่งดาว
เขาไม่กำหนดราคาของโทเท็มวิวัฒนาการไว้ถูกเหมือนกับสัญลักษณ์โอวิตานเช่นนั้น กองทัพแบล็คสตาร์จึงทำผลกำไรได้มาก
โทเท็มวิวัฒนาการกลายเป็นผลิตภัณฑ์หลักของกองทัพแบล็คสตาร์และผลกำไรสูงจากผลิตภัณฑ์ก็ดึงดูดความอิจฉาของหลายองค์กร แต่ทว่า กองทัพแบล็คสตาร์และจักรวรรดิก็ทำให้หลายองค์กรลืมความคิดนั้นไป
ยิ่งธุรกิจใหญ่ยิ่งต้องมีพลังเพื่อปกป้อง กองทัพแบล็คสตาร์มีพลังพอจะเพลิดเพลินกับมัน
กองทัพแบล็คสตาร์นับว่าเด็ดขาดในวงแหวนดาวกระจายแล้วด้วยหลายอารยธรรมที่มีความสัมพันธ์แบบร่วมมือกับพวกเขา องค์กรผู้อยู่เหนืออยู่ในอันดับต้นๆของห่วงโซ่อาหารอยู่แล้ว
นอกจากนี้หลังศึกบนดาวประภาคาร ทุกคนก็รู้ว่ามันยากมากที่จะจัดการกับกองทัพแบล็คสตาร์ แม้กระทั่งศาสนจักรและเทพเอสก็ยังล้มเหลว และมีไม่มากที่มั่นใจว่าพวกเขาสามารถจัดการกับแบล็คสตาร์ได้
นอกจากนี้องค์กรของแบล็คสตาร์ไม่ได้อยู่คนเดียวในวงแหวนดาวกระจาย วงแหวนดาวกระจายมีอีกสี่ผู้อยู่เหนือ และทั้งสามก็ร่วมมือกับเขา เครือข่ายเขาจึงน่ากลัวมาก
ยิ่งไปกว่านั้นวงแหวนดาวกระจายยังตั้งอยู่ข้างโลกริบหรี่และจักรวรรดิก็มียานรบนับล้านประจำการในโลกริบหรี่ พร้อมหนุนวงแหวนดาวกระจายได้ทุกเมื่อ แม้กระทั่งเจ้าของวงแหวนดาวกระจายก็ยังต้องเลือกหลับตาข้างหนึ่ง มีองค์กรไม่มากที่กล้าทำตามใจชอบในวงแหวนดาวกระจาย
ด้วยข้อพิจารณามากมายไม่มีองค์กรใดกล้าเคลื่อนไหวอย่างบุ่มบ่ามและตกลงเงื่อนไขการค้าที่ตั้งโดยจักรวรรดิ
หานเซี่ยวไม่ลืมคนของเขาแน่ทุกค่ายฝึกและทุกฝ่ายกองทัพจะมีโทเท็มวิวัฒนาการและเบนเน็ตก็ยังได้รับด้วย เขาไม่ลืมเรื่องเผ่าแบล็คสปิริตด้วย และหานเซี่ยวก็ส่งอาวุธอัครฑูตไปส่งมอบโทเท็มวิวัฒนาการ ในเวลาเดียวกัน เขายังส่งทหารจักรกลส่วนหนึ่งไปคุ้มกันดาวที่เผ่าแบล็คสปิริตอยู่
เมื่อเห็นศัตรูพวกเขาได้รับโชคมหาศาลเช่นนี้เผ่าเนตรม่วงก็โกรธจัด เดิม สมาชิกของเผ่าไม่ตำหนิไซเคอร์มากนัก แต่หลังเห็นผลกำไรมหาศาลที่กองทัพแบล็คสตาร์ทำได้ หลายคนก็ปวดใจและตำหนิไซเคอร์ที่พลาดโอกาสพัฒนาอารยธรรม
คลื่นการก่นด่าในอารยธรรมทำให้ไซเคอร์หงุดหงิดมาก
ฮีเบอร์เองก็รู้สึกขมขื่นมากเขาสามารถรู้สึกได้ว่าสถานะเขาในวงแหวนดาวกระจายเริ่มไม่มั่นคง แต่ทว่า เขาไม่มีความคิดใดและทำได้แค่ดูหานเซี่ยวลากหลายองค์กรมาอยู่ข้างๆ
เพียงเมื่อความสนใจทุกคนจดจ่อกับโทเท็มวิวัฒนาการหานเซี่ยวก็ได้รับคำเชิญพิเศษสำหรับการต่อสู้
มันมาจากเอเมส