The Legendary Mechanic - ตอนที่ 908 เพื่อนเก่า
ค่าประสบการณ์ที่ได้รับเหมือนกับภารกิจตอนสู้กับฮีเบอร์การบรรลุวัตถุประสงค์ทั้งหมดทำให้เขามีค่าประสบการณ์กว่าสองหมื่นล้าน และนี่ก็เป็นมาตรฐานเมื่อต้องเผชิญหน้ากับผู้อยู่เหนือ
ด้วยการเพิ่มของสินทรัพย์ทางการเมืองค่าประสบการณ์จริงที่หานเซี่ยวได้รับจึงเพิ่มเกือบสองเท่า และเงินเก็บเขาก็เพิ่มขึ้นไม่น้อย
นอกจากนั้นเขายังได้รับแต้มตำนานและบัตรอัญเชิญตัวละคร
แต้มตำนานทุ่งดาว(วงแหวนดาวกระจาย): [ต่อสู้กับจักรพรรดินีมังกร]-การต่อสู้ของท่านกับจักรพรรดินีมังกรจะถูกเพิ่มลงบันทึกต่อสู้ท่านและชื่อเสียงท่านจะถูกส่งต่อไป
บัตรอัญเชิญตัวละคร-‘จักรพรรดินีมังกร’เอเมส: [สนามพลัง-กายมังกร] ร่างท่านจะปกคลุมด้วยสนามพลัง และท่านจะได้รับความทนทานของม่านพลังเพิ่มเทียบเท่ากับพลังชีวิตสามแสนและพลังป้องกัน+3000 ม่านพลังจะฟื้นฟูด้วยความเร็ว30000ต่อวินาที จะมีคูลดาวน์สิบวินาทีก่อนจะก่อตัวใหม่ ในเวลาเดียวกัน การโจมตีระยะประชิดแต่ละครั้งจะทำให้เกิดความเสียหายเพิ่มเติม20000-26000หน่วย และเมื่อมีการวัดพละกำลัง มันจะเพิ่ม1500หน่วย
ระยะเวลา: 30นาที
การใช้: 0/3
“เป็นผลที่ค่อนข้างดีมันควรมีประโยชน์ในการต่อสู้ระยะประชิด”หานเซี่ยวพยักหน้าและปิดหน้าต่างสถานะ
หลังเก็บกวาดสนามรบเกาะมังกรก็กลับไปฐานหลักมันและหานเซี่ยวก็ตามไปด้วย
สนามรบที่ใช้สำหรับการประลองอยู่ไม่ไกลจากดาวเคราะห์อความารีนและไม่ต้องใช้เวลาเดินทางกลับนานนักไม่ช้าเกาะมังกรก็มาถึงดาวเคราะห์อความารีนและประจำการอยู่ในอวกาศ
ยานอวกาศลอยขึ้นและลงจากดาวสีฟ้าตอนนี้ ดาวอความารีนได้เข้าร่วมกับสังคมดวงดาวแล้วและโอกาสพัฒนาที่เกิดจากกลุ่มการเงินก็ยังช่วยให้อารยธรรมพวกเขาก้าวหน้าอย่างรวดเร็ว ตอนนี้มันมีลักษณะเหมือนเมืองกาแล็กซี่
หลังกลับมาบ้านเกิดเขาหานเซี่ยวก็ค่อยๆมองการเปลี่ยนแปลงในดาวอความารีน และหลังคิด เขาก็เชิญเอเมสมาด้วย
แม้เอเมสจะไม่สนใจความพ่ายแพ้นักบนผิวเผินหานเซี่ยวก็ต้องลบความสัมพันธ์ด้านลบของพวกเขาในฐานะพันธมิตร หานเซี่ยวใช้โอกาสนี้คุยเล่นกับเธอ กระชับความสัมพันธ์และลดความขัดแย้งให้เหลือน้อยสุด
เอเมสมองดาวเคราะห์อความารีนอยู่ทุกวันแต่เธอก็แทบไม่ได้ลงไปเยือนพื้นผิวเลย ด้วยการเชิญเขา เอเมสย่อมไม่คัดค้าน
เมืองหลวงตะวันตกใหม่ตั้งอยู่ที่อดีตหนึ่งในหกประเทศมังกรดารา
เมืองแบล็คสตาร์ของเบนเน็ตเป็นที่ตั้งฐานย่อยของกองทัพแบล็คสตาร์และยังเป็นแกนกลางทางการเมืองของสหพันธ์ดาวเคราะห์อความารีนมันยังขยายตัวในถิ่นทุรกันดารคาร์ส ดึงดูดคนนับไม่ถ้วนและเริ่มอิ่มตัวแล้ว ต่อมา เพราะกลุ่มการเงินตัดสินใจทุ่มกับเมืองอื่นที่ไม่ได้รับการควบคุมอย่างรัดกุม เมืองเศรษฐกินและการเงินอื่นๆอีกมากจึงถูกสร้างขึ้นรอบเมืองนี้และเมืองหลวงตะวันตกใหม่ก็พัฒนาขึ้นอย่างรวดเร็ว กลายเป็นเมืองชั้นหนึ่งของดาวอความารีน
มันเพิ่งเที่ยงวันและแสงแดดจ้าก็ทำให้เมืองมีชีวิตชีวาถนนพลุกพล่านไปด้วยผู้คนและเสียงโห่ร้อง ไม่เพียงจะมีชาวพื้นเมือง แต่ยังมีพลเมืองกาแล็กซี่อีกมากมาย ด้วยยานพาหนะต่อต้านแรงดน้มถ่วง ยานพาหนะขนส่งสาธารณะซึ่งขนผู้คนอย่างเป็นระเบียบข้ามเส้นทางเดินรถอากาศ นี่คือภาพแห่งความสงบ
หานเซี่ยวและเอเมสซ่อนตัวตนและกลิ่นอายไม่ปล่อยให้ใครพบพวกเขา
ทั้งสองเดินข้างกันไปบนถนนสังเกตสถานการณ์ขณะคุยกัน
เด็กสองคนที่วิ่งไล่กันวิ่งผ่านหานเซี่ยวไปรอยยิ้มไร้ความกังวลฉาบบนใบหน้าพวกเขา
หานเซี่ยวยังคงจ้องมอง
“ด้วยมหันตภัยกลายพันธุ์ที่หายไปเกือบสิบปีคนบนดาวอความารีนจึงเดินออกจากเงามืด โอบกอดชีวิตใหม่ของพวกเขาและสร้างคนรุ่นใหม่ ความรู้สึกแบบนี้ช่างดีจริงๆ”
“นี่คือผลจากความพยายามของนายนายรู้สึกถึงความสำเร็จไหม?”เอเมสยิ้ม
“แค่นิดหน่อย”
หานเซี่ยวไม่ได้ถ่อมตัวตอนแรก เขาช่วยดาวแม่เขาไว้เพราะผลประโยชน์ของผู้เล่น แต่เมื่อเห็นผลลัพธ์ตอนนี้ เขาก็สุขใจ ไม่มีใครไม่ชอบสถานที่สวยๆ
“ในช่วงมหันตภัยกลายพันธุ์นายเคยชวนฉันมาดาวแม่นายและตอนนั้น ฉันรู้สึกว่ามันเต็มไปด้วยความสิ้นหวัง ผู้คนสับสนถึงอนาคตและไม่รู้ว่าจะอยู่รอดได้หรือไม่ แต่ทว่า ตอนนี้มันกลับเป็นอีกเรื่องหนึ่ง”เอเมสส่ายหัว”มันคือนายที่มอบชีวิตใหม่ให้กับดาวดวงนี้”
“งั้นมันก็ประมาณว่าฉันอาจเป็นจุดเปลี่ยนของประวัติศาสตร์ฮ่าๆ”หานเซี่ยวหัวเราะ เมื่อคุยกับคนสนิท เขาย่อมไม่ถ่อมตน
ขณะเดินและคุยพวกเขาก็มาถึงพื้นที่ส่วนกลางโดยไม่รู้ตัว อาคารสูงตระหง่านกระจุกอยู่รอบๆเหมือนนกพิราบกำลังรออาหาร สถานที่นี้เคยเป็นที่ตั้งเก่าของหอคอยเขามังกรในมังกรดารา ซึ่งมันได้รับการออกแบบใหม่ สร้างโดยกลุ่มการเงิน
เมื่อเห็นอาคารทั้งหมดฝีเท้าของหานเซี่ยวก็หยุดลง ความทรงจำเริ่มผุด แต่ก็อดรู้สึกห่างเหินจากดาวนี้ไม่ได้
ตอนนี้เองเอเมสดูเหมือนจะเห็นอะไรบางอย่างและดึงแขนเสื้อหานเซี่ยวขณะถาม”เฮ้ นั่นร้านอะไร?”
เขาหันไปมองและเห็นร้านค้าฝั่งตรงข้ามถนนที่มีป้ายว่า’โถงนิทรรศการมรดกแบล็คสตาร์’!
“ฉัน…กลายเป็นที่ระลึกทางวัฒนธรรมไปแล้วมันยังไม่ถึงสองทศวรรษเลย..”
หานเซี่ยวรู้สึกอยากอาเจียนอย่างไรก็ตาม ความอยากรู้อยากเห็นได้เอาชนะและเขาก็เดินไปกับเอเมส
ประตูกระจกอัตโนมัติเปิดเมื่อพวกเขาเดินเข้าใกล้และก็เดินเข้าไปในโถงนิทรรศการพวกเขาเห็นตู้กระจกหลากหลายที่มีวัตถุต่างๆภายใน
แต่ทว่าทั้งโถงดูเย็นและว่างเปล่า ไม่มีคนสักคน มีเคาน์เตอร์ตรงประตู พร้อมป้ายระบุราคาตั๋วเขียนไว้ ผู้หญิงคนหนึ่งนั่งอยู่หลังเคาน์เตอร์ ดูเหมือนจะเป็นพนักงาน ร่างส่วนบนเธอแนบนอนกับโต๊ะ เธอไม่ได้ยินด้วยซ้ำว่ามีคนสองคนเข้ามา
ด้วยสายตาของผู้อยู่เหนือหานเซี่ยวเหลือบมองด้านในร้านและเห็นสิ่งที่อยู่ในตู้โชว์ทันที และปากเขาก็กระตุก
“นี่มันเรื่องบ้าอะไรกัน?”
โถงนิทรรศการเต็มไปด้วยของทุกประเภทเช่น‘เก้าอี้ที่แบล็คสตาร์เคยนั่ง’ ‘รองเท้าแตะที่แบล็คสตาร์เคยสวม’ และ’ขนมปังที่แบล็คสตาร์เคยกัด’ ยังมีแม้กระทั่ง’โถส้วมที่แบล็คสตาร์เคยนั่ง’
หานเซี่ยวสาบานว่าเขาไม่เคยเห็นส้วมในตู้โชว์!
เอเมสกระพริบตาปริบๆชี้หนี่งในตู้กระจกและถามอย่างอยากรู้”เมื่อก่อนนายชอบใส่ผ้าอ้อมงั้นหรอ?”
“เธอนั่นแหละที่ชอบ!”
“ใครบ้างที่ไม่ใส่ตอนยังเป็นทารก?”เอเมสโบกมือ
เสียงพวกเขาได้ปลุกพนักงานตรงโต๊ะและเธอก็ยกหัวขึ้น ขยี้ตาก่อนแสดงตัวตรงหน้าพวกเขาขณะหาว
“นี่เป็นสถานประกอบการขนาดเล็กเราไม่รับสกุลเงินอีนาส ตั๋วหนึ่งใบมีราคา400เหรียญอความารีน ฉันสามารถอธิบายประวัติเบื้องหลังสิ่งประดิษฐ์แต่ละชิ้นได้หากสนใจ..เอ๊ะ?!”
หลังจากนั้นผู้หญิงคนนั้นก็เบิกตากว้างอ้าปากค้างด้วยความตกใจ
หานเซี่ยวอยากถามว่า’ของ’เหล่านี้มาจากไหนแต่หลังมองหน้าตาเธอให้ดี เขาก็พลันรู้สึกว่าเธอดูคุ้นๆ”รอเดี๋ยว..”
ก่อนเขาจะพูดจบเธอก็ตื่นเต้นและอ้าแขนกว้างราวกับว่าเธออยากกอดเขา
แต่เธอก็หยุดชะงักราวกับคิดอะไรได้และทั้งร่างก็หยุดนิ่งไป
ทันใดนั้นเธอก็วางมือลงและสีหน้าเธอก็เผยความอึดอัด ไม่รู้ว่าจะวางมือไว้ตรงไหน เธอถามอย่างไม่แน่ใจ”หาน…ไม่สิ ท่านแบล็คสตาร์ ยังจำฉันได้ไหม?”
หานเซี่ยวขมวดคิ้วเล็กน้อยมีริ้วรอยเล็กๆรอบดวงตาเธอ และดูเหมือนจะแก่เล็กน้อย แต่ก็ยังคงมีเสน่ห์แบบสาวใหญ่และอาจจะเคยสวยมากตอนยังสาว เธอยังหุ่นดี..แต่ภายใต้สายตาของผู้อยู่เหนือ ความงามแบบนี้ไม่ได้มีเสน่ห์ดึงดูดใจเลย
ด้วยการวิวัฒนาการมันจึงเป็นการระเหิดของระดับชีวิต ที่ระดับผู้อยู่เหนือ คนสามารถเห็นทุกรายละเอียด และสิ่งมีชีวิตส่วนใหญ่ก็ปกคลุมไปด้วยสิ่งสกปรกในดวงตาของผู้อยู่เหนือ เฉพาะผู้อยู่เหนือคนอื่นถึงไร้สิ่งสกปรก
หานเซี่ยวค้นหาใบหน้าในความทรงจำจากนั้นก็กล่าวด้วยน้ำเสียงแปลกใจ”เธอ…หลี่ย่าหลิน?”
ผู้หญิงตรงหน้าเขาคือเพื่อนเขาตอนเขาทำงานให้กับมังกรดารา
เมื่อเห็นว่าหานเซี่ยวจำเธอได้หลี่ย่าหลินก็ดีใจและพยักหน้าเหมือนไก่จิกข้าว
“ใช่ใช่แล้ว นายยังจำฉันได้จริงๆ!”
“ตอนนี้การลืมยังยากกว่าการจำซะอีก”หานเซี่ยวอธิบาย”เธอยังไม่ตายฉันคิดว่าเธอตายในมหันตภัยกลายพันธุ์ซะอีก ในเมื่อเธอยังไม่ตาย ทำไมเธอไม่ไปกองทัพแบล็คสตาร์เพื่อหาฉัน?”.ไอรีนโนเวล
“ฉันรอดตายได้เพราะโชคและต่อมา เมื่อหกประเทศถูกยุบโดยนาย ฉันก็เสียงานและได้รับเงินชดเชย ฉันไม่อยากสู้อีกต่อไป ดังนั้นฉันจึงไม่ไปหานาย ฉันซื้อบ้านที่นี่และเปิดโถงนิทรรศการนี้”
เธอพลันจำของไร้สาระทั้งหมดรอบพวกเธอได้และยิ้ม”โอ้…ใช่ฉันได้ของเหล่านี้จากตลาดนัดและพวกเขาก็บอกว่านี่เป็นของที่นายเคยใช้มาก่อน ฉันไม่มีทางเลือก ชีวิตมันยาก….”
“..ใจเย็นๆฉันไม่คิดทำอะไรเธอหรอก”
เมื่อเห็นเพื่อนเก่าอารมณ์ของหานเซี่ยวก็ดีมาก
“เพื่อนเก่า?”เอเมสพูดขึ้น
“ใช่เพื่อนเก่าจาก20กว่าปีก่อน”หานเซี่ยวพยักหน้า
เพราะหลี่ย่าหลินสนใจแค่หานเซี่ยวเธอจึงไม่สังเกตเห็นเอเมส ตอนนี้เธอสังเกตเห็นและโค้งคำนับ”โปรดยกโทษให้ฉันด้วยที่ไม่สังเกตเห็นท่าน ท่านจักรพรรดินีมังกร”
เอเมสยิ้มขณะพยักหน้า
“เห้ยเราเป็นเพื่อนเก่ากันแล้ว ไม่ต้องสุภาพนัก”หานเซี่ยวโบกมือ
“ได้ด้วยหรอ?”หลี่ย่าหลินอาย”นายคือคนดังแล้ว”
ด้วยเวลากว่า20ปีเพื่อนเธอตอนนี้ไปถึงระดับที่เธอไม่เคยคิดฝัน หลี่ย่าหลินต้องทนต่อแรงกระตุ้นที่อยากกอดเขาหลังคิดถึงสถานะ
หานเซี่ยวยังสังเกตเห็นและอดถอนหายใจไม่ได้จากนั้นก็ยิ้ม
“มาคิดๆดูแล้วฉันดูเหมือนจะเป็นหนี้เธอนะ”
หลี่ย่าหลินโบกมือพัลวัน”นั่นมันนานมาแล้วไม่ต้องสนใจหรอก..”
“สายไปแล้วฉันโอนให้เธอแล้ว”หานเซี่ยวกล่าวแทรก
ติ้ง
จากภายในห้องเสียงอุปกรณ์สื่อสารดังขึ้น
“เฮ้ฉันไม่ได้บอกเลขบัญชีฉันให้นายเลย นายรู้ได้ยังไง.”หลี่ย่าหลินแปลกใจ และหยิบอุปกรณ์สื่อสารขึ้นมา หลังจากมองดู เธอก็แข็งทื่อ
“นะ-นี่..”
“หนึ่งล้านอีนาสพอจะชดเชยดอกเบี้ยที่สะสมมานานกว่า20ปี”
หานเซี่ยวยิ้มและรู้สึกว่าเขากำลังแผ่ออร่าของคนรวย
“มันมากเกินไป!”
“นี่ไม่ใช่เงินก้อนใหญ่สำหรับฉันเธอสามารถพักผ่อนได้สบายๆและไม่ต้องกังวลถึงชีวิตในอนาคตอีก..”หานเซี่ยวมองรอบๆและกระแอม”งั้น หาเวลาปิดร้านนี้ซะนะ”
เอเมสอดหัวเราะไม่ได้
“นายดูเหมือนโจรสลัดกาแล็กซี่พวกนั้นที่เคยจ่ายค่าคุ้มครองให้ฉันในอดีต”
“จะไม่มีใครว่าเธอเป็นใบ้หรอกนะหากเธอไม่พูด”หานเซี่ยวสวนกลับ
เมื่อเห็นหลี่ย่าหลินยังยืนนิ่งด้วยใบหน้าตกตะลึงหานเซี่ยวก็มองรอบๆและหยิบกระดาษกับปากกาด้านหลังเคาน์เตอร์ เขียนหมายเลขติดต่อเขาและส่งมันให้เธอ
“ครั้งหน้าหากเธอมีปัญหาโทรหาฉันได้ตลอด หรือจะมาหาฉันก็ได้”
หลี่ย่าหลินค่อยๆได้สติคืนและพับกระดาษก่อนตอบด้วยน้ำเสียงจริงจัง”ขอบคุณ”
“ไม่จำเป็นเงินเป็นเรื่องเล็กน้อย”
“ไม่ใช่เรื่องนั้น”หลี่ย่าหลินสูดหายใจลึกก่อนโค้งคำนับ”ฉันขอบคุณสำหรับทุกสิ่งที่นายทำเพื่อดาวอความารีนฉันไม่มีโอกาสได้บอกนายก่อนหน้านี้…แต่นายจะเป็นวีรบุรุษในหัวใจฉันตลอดไป”
เอเมสยิ้มและพูดติดตลก”แล้วฉันละ?”
“อ้าท่านก็เป็นวีรสตรีในหัวใจฉันด้วย”หลี่ย่าหลินรีบโค้งให้เธอด้วย
ตอนนี้เองแขกคนอื่นบางคนเดินเข้ามาและเห็น พวกเขารู้สึกแปลกใจก่อนจะอุทานออกมา
“ท่านแบล็คสตาร์?!”
“มันเป็นเขาจริงๆ!”
ทุกคนรีบวิ่งมาด้วยความตื่นเต้น
ในบรรดาชาวอความารีนบางทีอาจมีแค่คนเดียวที่ไม่รู้จักหน้าตาหานเซี่ยว บางส่วนจำได้จากรูปปั้นของเขาที่ตั้งในเมืองแบล็คสตาร์ ส่วนหนึ่งมาจากตำราเรียน
“ผะ.ผมขอถ่ายรูปกับท่านได้ไหมครับ?!”หนึ่งในนั้นหยิบอุปกรณ์สื่อสารออกมาอย่างตื่นเต้น
ขณะที่พวกเขาถ่ายรูปกับหานเซี่ยวคนจำนวนมากก็สังเกตเห็น ซึ่งเริ่มต่อแถวกัน โถงนิทรรศการเล็กๆกลายเป็นแออัด
หานเซี่ยวไม่ปฏิเสธใครและถ่ายรูปร่วมกับพลเมืองของดาวอความารีนแสงแฟลชกระพริบไม่หยุดและรูปภาพกลุ่มก็ถูกโพสต์บนเครือข่ายของดาวอความารีน
การปรากฏตัวของ’ผู้มีพระคุณ’กระจายไปอย่างรวดเร็วและดึงดูดคนนับไม่ถ้วนให้กรูกันมาที่นี่
ข้างๆเอเมสมองหานเซี่ยว มองดูวิธีที่เขาต้อนรับทุกคน และความชื่นชมก็ปรากฏชัดในตาเธอ