The Legendary Mechanic - ตอนที่ 925 การอำลาของฮีล่า
คล้ายกับแมนิสันความสามารถส่วนใหญ่ของโซโรคินเป็นเครื่องหมายคำถาม และมีแค่บางส่วนที่เปิดเผย
โซโรคินคือเอสเปอร์พลังจิตซึ่งบ่งชี้ว่าความสามารถส่วนใหญ่เขาจะเอนไปทางวิญญาณและจิตใจ เขามีการบุกรุกความคิด อ่านความคิด และความสามารถควบคุมจิตใจ และหานเซี่ยวยังเห็นพรสวรรค์กับทักษะพิเศษบางอย่าง
[วิญญาณอมตะ]: พลังงานจิตทรงพลังท่านจะอวยพรวิญญาณท่านให้เป็นนิรันดร์ ต่อให้ท่านเสียกายเนื้อ ท่านก็ยังอยู่รอดได้ด้วยวิญญาณ
เมื่อพลังชีวิตลดลงถึงศูนย์วิญญาณท่านจะรอดชีวิตจากร่างกายที่ถูกทำลาย ในกรณีนี้ ท่านจะเปลี่ยนเป็นสิ่งมีชีวิตวิญญาณที่มีร่างพลัได้งงานและจะได้รับแถบพลังชีวิตใหม่
ท่านจะยังได้รับภูมิต้านทานต่อการโจมตีทางกายภาพทั้งหมดมีความต้านทานสูงมากต่อสถานะด้านลบ และสามารถข้ามผ่านอุปสรรคส่วนใหญ่ได้
ท่านยังสามารถบุกและยึดร่างของสิ่งมีชีวิตอื่นได้ง
มีเพียงการโจมตีทางจิตหรือพลังงานถึงจะสร้างความเสียหายให้ท่านได้
[การสร้างกายเนื้อใหม่]: เปลือกนอกคือภาชนะรวมถึงตัวปกป้องวิญญาณ
หากร่างท่านถูกทำลายท่านสามารถใช้พลังงานวิญญาณเพื่อสร้างมันขึ้นใหม่ได้ พลังชีวิตของร่างที่สร้างขึ้นใหม่จะเป็น30%ของร่างเดิม
[การดูดซับพลังงานหลากมิติ]: ท่านสามารถดูดซับพลังงานหลากมิติที่ไร้เจ้าของได้รอบๆเพื่อเติมพลังงาน
[รากฐานพลังงานจิตวิญญาณ]: พรสวรรค์พิเศษ วิญญาณท่านคล้ายกับเซลล์ในตัวและสามารถกักเก็บหรือปลดปล่อยพลังงานได้ตามต้องการ
[ชีวิตนิรันดร์]: ความต้านทานวิญญาณท่านจะเพิ่มขึ้นเล็กน้อย
[คนหากิน-โซโรคิน]: พรสวรรค์พิเศษ +75%ความสามารถเอสเปอร์พลังจิตทั้งหมด +20%สติปัญญาและลี้ลับ +4ต่อความสามารถพลังจิตที่เกี่ยวข้องทั้งหมด(ผลนี้สามารถทำลายผ่านขีดจำกัดสูงสุดได้)
…
เป็นความสามารถที่โกงมาก…สีหน้าหานเซี่ยวดำมืด
[วิญญาณอมตะ]และ[การสร้างกายเนื้อ]สามารถถือได่ว่าเป็นทักษะเทพสำหรับพวกที่ใช้พลังจิต โดยทั่วไป ผู้ใช้พลังจิตจะประสบกับการเสื่อมสลายของดวงวิญญาณที่ไร้กายเนื้อ แต่สำหรับโซโรคิน กายเนื้อเขาแค่ภาชนะเท่านั้น
แค่ตามสองความสามารถนี้รวมถึงพรสวรรค์[ชีวิตนิรันดร์] หานเซี่ยวก็พอสรุปบางอย่างได้
หรือว่า…โซโรคินผู้นี้จะใช้ชีวิตในฐานะตัวตนอื่นมาก่อน?
ไม่แปลกใจที่จะแทบไม่มีข้อมูลเกี่ยวกับเขาเลย!
หากเป็นแบบนั้นงั้นอายุของเขาน่าจะเกินจินตนาการฉันไปมาก!
หานเซี่ยวลอบระวังตัวและแอบมอง
หากไม่ใช่ข้อมูลต่อสู้นี่เขาคงไม่รู้ว่าโซโรคินจะมีความลับที่ยิ่งใหญ่เช่นนี้
ผู้ชายคนนี้แกร่งมากแต่เขากลับวางตัวเองในตำแหน่งอ่อนแอและทำตามความประสงค์คนอื่นอย่างว่านอนสอนง่าย หลายคนจึงดูถูกเขา แม้เขาจะใช้ชีวิตมายาวนาน เขาก็แตกต่างจากแมนิสัน…อย่างสุดขั้ว!
โซโรคินไม่รู้ว่าพลังที่แท้จริงเขาได้รับการเปิดเผยแล้วและเขาก็ไม่รู้ว่าหานเซี่ยวค้นพบอะไรบ้าง เขาแค่ไม่พอใจเล็กน้อยกับการโจมตีอย่างฉับพลันและไม่พูดอะไรอีก
ทั้งคู่เดินไปตามทางเดินเงียบๆอยู่หลายนาทีก่อนดวงตาของโซโรคินจะสว่างวาบเขาได้รับข่าวจากโลเวลล์แล้ว และรอยยิ้มก็ปรากฏบนหน้าขณะที่เขาเปิดปากพูดอีกครั้ง
“ท่านแบล็คสตาร์ผมขอถามว่าท่านมีเจตนาจะขายโทเท็มวิวัฒนาการอย่างอิสระไหม?”
หานเซี่ยวได้สติกลับคืน
“ผมไม่รู้มันขึ้นอยู่กับจักรวรรดิ”
“เห้อหากโทเท็มวิวัฒนาการสามารถขายให้กับทุกอารยธรรมได้ งั้นมูลค่าตลาดของกองทัพแบล็คสตาร์คงมั่นคงขึ้นมากหลังได้รับการจดทะเบียนเพราะผลกำไรที่ผูกขาด มันน่าเสียดายที่เราไม่อาจร่วมมือกันในเรื่องนี้ได้…”
สีหน้าโซโรคินดูเศร้าเสียใจ
หานเซี่ยวยิ้มและไม่ตอบกลับแต่เขามองออกว่าโซโรคินดูเหมือนจะมีความหมายซ่อนเร้นไว้ในคำพูดเหล่านี้
หลังพาเดินรอบศูนย์ใหญ่เขาทั้งคู่ก็แยกย้าย หานเซี่ยวส่งโซโรคินกลับห้อง ยืนอยู่จุดนั้นอยู่หลายวินีทก่อนจะเดินกลับไปห้องทำงานเขา
ระหว่างทางเขาติดต่อซิลเวียและสั่ง”ตรวจสอบการเคลื่อนไหวทั้งหมดที่เกี่ยวข้องกับกลุ่มการเงินไร้ขีดจำกัดหลังพวกเขาเข้าวงแหวนดาวกระจาย”
“รับทราบค่ะ”
…
ไม่กี่วันต่อมางานเลี้ยงแบล็คสตาร์ก็เริ่มขึ้นอย่างเป็นทางการ ทุกคนพากันมายังโถงจัดงานเลี้ยง สถานที่เต็มไปด้วยเสียงพูดคุยเฮฮา
หานเซี่ยวทำการกล่าวเปิดง่ายๆสรุปผลความร่วมมือพวกเขาปีก่อน ก่อนจะประกาศเปิดงานเลี้ยงท่ามกลางเสียงปรบมือ
ทูตของอารยธรรมมากมายต่างเข้าร่วมและพวกเขาก็ล้วนเป็นหุ้นส่วนทางการค้ากับกองทัพแบล็คสตาร์
หลายปีก่อนหานเซี่ยวเริ่มดำเนินการตามแผน’รวมกลุ่มก้อนผลกำไรทุ่งดาว’ และหลังพัฒนามันหลายปี ต้นแบบก็สมบูรณ์ขึ้นเรื่อยๆ หุ้นส่วนเหล่านี้แบ่งปันช่องทางธุรกิจกับกองทัพจนถึงจุดที่มันมีขนาดอุตสาหกรรมเช่นนี้ แผนนี้คือหนึ่งในเสาหลักการพัฒนากองทัพ ดังนั้นหานเซี่ยวจึงให้ความสำคัญกับมัน
หานเซี่ยวถูกล้อมไปด้วยฝูงชนพูดคุยอย่างกระตือรือร้น ซิลเวียยืนข้างๆ ช่วยเขารับมือกับฝูงชน มีหลายคนแสดงเจตนาอยากจับมือกับเขา
ในอีกมุมหนึ่งของงานมีกลุ่มคนล้อมรอบโซโรคินเช่นกัน กลุ่มการเงินไร้ขีดจำกัดคือกลุ่มที่ร่ำรวยสุด ดังนั้นจึงมีหลายคนอยากคว้าโอกาสติดต่อเขา
โซโรคินถือแก้วไวน์ยิ้มขณะคุยกับคนอื่น เขากวาดตามองรอบๆและเหล่าแขก ซ่อนความคิดไว้ เผยแค่สายตาสนใจ
ในเวลาเดียวกันจิตสำนึกเขาก็ไปโผล่ที่แดนหลั่งเลือดและครอบงำผู้ติดตามข้างโลเวลล์
งานเลี้ยงของฮีเบอร์และแบล็คสตาร์จัดขึ้นพร้อมกันแต่มันดูเย็นชากว่างานเลี้ยงแบล็คสตาร์มาก มีเพียงไม่กี่คนที่กระซิบกัน ส่วนใหญ่เอาแต่จัดการกับเครื่องดื่มและอาหาร
ฮีเบอร์ยืนหน้าตายตรงนั้นอารมณ์เขาไม่ได้ดีไปกว่าบรรยากาศของงานเลี้ยง
ขณะที่โลเวลล์เดินไปรอบๆงานเลี้ยงด้วยแก้วไวน์ในมือเธอก็พลันสังเกตเห็นว่าผู้ติดตามเธอส่งสายตาให้เธอ เธอเข้าใจว่ามันคือโซโรคินและรีบเดินไปมุมหนึ่งเงียบๆ
“เกิดอะไรขึ้นงั้นหรอคะ?”โลเวลล์กระซิบ
“เธอจะอยู่ที่แดนหลั่งเลือดรับผิดชอบงานของกลุ่มการเงินที่นี่ ทรัพยากรของกลุ่มการเงินที่นี่จะถูกจัดการโดยเธอ”โซโรคินกล่าว
“รับทราบค่ะ”
ความสุขฉายผ่านตาของโลเวลล์เพราะการแข่งขันที่รุนแรงในหมู่ลูกๆของโซโรคิน การได้รับงานสำคัญเช่นนี้จึงหมายความว่าพ่อของเธอชื่นชมความสามารถเธอ.ไอรีนโนเวล.
โลเวลล์ถามด้วยน้ำเสียงแผ่วเบา”แผนปฏิบัติการเป็นอย่างไรคะ?มีปัญหาอะไรที่ต้องสนใจเป็นพิเศษหรือไม่?”
“ฉันจะส่งรายละเอียดให้ทีหลังเพื่อยับยั้งธุรกิจของกองทัพแบล็คสตาร์ เป้าหมายแรกควรเป็นการจัดการกับหุ้นส่วนทางธุรกิจเขาก่อน”โซโรคินหัวเราะเสียงเย็น”ฉันสามารถเห็นได้ว่าแบล็คสตาร์จงใจสร้างตาข่ายผลประโยชน์มหาศาลให้กับองค์กรเขา ดังนั้นสิ่งแรกที่ฉันต้องทำคือตัดตาข่ายที่เขาสร้างขึ้น ฉันคงไม่จำเป็นต้องสอนเธอสินะ?”
“เข้าใจแล้วค่ะ”โลเวลล์พยักหน้า
“เมื่อทรัพยากรของกลุ่มการเงินมาถึงเธอสามารถดำเนินการได้เมื่อเห็นว่าสมควร”
…
งานเลี้ยงครั้งนี้จบลงอย่างประสบความสำเร็จวันต่อมา โซโรคินก็กล่าวอำลาและจากไป
ที่ท่าจอดศูนย์ใหญ่หานเซี่ยวส่งกองยานกลุ่มการเงินไร้ขีดจำกัดออกไปในจักรวาล จากนั้นคิ้วเขาก็ขมวดแน่นและเผยสีหน้าหนักใจ
เขาจากไปทั้งอย่างนั้น…ฉันไม่สามารถบอกได้ว่าเขาคิดจะทำอะไร
แม้เขาจะสามารถเห็นผ่านพลังที่แท้จริงของโซโรคินได้เขาก็ยังไม่รู้ถึงแผนการของโซโรคิน
หานเซี่ยวคิดว่าโซโรคินอาจวางแผนการบางอย่างเบื้องหลังหากกองทัพแบล็คสตาร์พบเจอปัญหาผิดปกติ มันอาจเป็นฝีมือของโซโรคิน
และตามการคาดการณ์เขามันเป็นไปได้ว่าจะเกี่ยวข้องกับลูกบาศก์วิวัฒนาการ
“ชักลำบากแล้วสิ”
เขารู้ตั้งแต่ต้นว่าเรื่องของโทเท็มวิวัฒนาการไม่มีทางไร้อุปสรรคโดยปราศจากการทำให้ทุกคนพอใจ มันยังมีเสียงบ่น
จักรวรรดิรับแรงกดดันส่วนใหญ่ไว้บนบ่าแต่มันดูเหมือนแรงกดดันบนกองทัพแบล็คสตาร์กำลังจะมาถึงเช่นกัน
หากเป็นแบบนั้นงั้นมันก็ดีกว่าสำหรับฉันที่จะอยู่ในจักรวรรดิสักพักและทิ้งอาวุธอัครทูตกับกายสถิตไว้ในศูนย์ใหญ่
หานเซี่ยวตัดสินใจเขายังกังวลถึงอุปกรณ์เปิดฟ้าหลากมิติของสหพันธ์แห่งแสงอยู่
ตึกตึก ตึก!
เขาได้ยินเสียงเท้าคนบางคนหานเซี่ยวไม่ต้องหันกลับไปก็รู้ว่ามันคือฮีล่า
“หานเซี่ยวฉันมีเรื่องอยากคุยกับนาย”
“อะไร?”หานเซี่ยวโยนความคิดทิ้งไปหันไปจ้องตาฮีล่า
“ฉันจะออกเดินทางสักพักโปรดดูแลออโรร่าด้วย”
หานเซี่ยวเลิกคิ้ว”เธอจะไปไหน?”
“ฉันจะติดตามอาจารย์ฉันเอเมสไปทุ่งดาวอื่นเพื่อหาประสบการณ์ ฉันอาจไม่สามารถทำหน้าที่หัวหน้าองครักษ์แบล็คสตาร์ได้”ฮีล่าตอบเสียงเบา
หานเซี่ยวแปลกใจ”ติดตามเอเมส?”
“ถูกต้องมันคืออาจารย์ที่เชิญฉันไป”
ทั้งสองจ้องตากันสักพักก่อนหานเซี่ยวจะระเบิดเสียงหัวเราะ
“นี่เป็นโอกาสที่ดีฉันอนุมัติ ปล่อยออโรร่าให้เป็นหน้าที่ฉัน”
“ขอบคุณ”ฮีล่าพยักหน้า
“ไม่ต้องพูดขอบคุณอะไรระหว่างเรา”หานเซี่ยวเดินไปจับไหล่เธอ”ฉันหวังว่าเมื่อเธอกลับมาเธอจะเป็นผู้อยู่เหนือแล้ว”
“นายคงมั่นใจในตัวฉันมากจริงๆ”ฮีล่ายิ้มและลังเลสักพักก่อนชกอกหานเซี่ยว”ดูแลตัวเองด้วยนะ”
“ไม่ต้องห่วงฉันจะให้เฟย์ดินรับหน้าที่หัวหน้าไปก่อน เขาพึ่งพาได้ สำหรับเธอ..เอ๊ะ อย่าเพิ่งไป ฉันยังพูดไม่จบ”
เมื่อมองแผ่นหลังของฮีล่าที่ทิ้งห่างออกไปหานเซี่ยวก็ก้มหน้าและกลืนคำพูดเขาลงไป
มันเป็นโอกาสดีที่ฮีล่าจะได้ออกไปและหาประสบการณ์เพิ่มและนี่ควรช่วยกระตุ้นศักยภาพเธอ
เขาไม่คิดว่าเอเมสจะออกไปฝึกเช่นกันเขาได้ยินว่าเอเมสเอาแต่ฝึกหนักตลอดสองปีหลังแพ้ให้กับเขา แต่มันดูเหมือนว่าเธอจะอยากทำมากกว่านั้น
ด้วยเอเมสข้างๆฮีล่าย่อมปลอดภัย แต่ทว่า เพื่อความปลอดภัยอีกชั้น หานเซี่ยวได้ติดตั้งยานอวกาศพวกเธอด้วยกองทัพจักรกลบางส่วนและกายสถิตจักรกล
เนื่องจากพวกเธอได้เริ่มฝึกหนักแล้วเขาคงไม่อาจนิ่งดูดายได้เช่นกัน…
หานเซี่ยวเข้าเครือข่ายควอนตัมติดต่อฟิลลิป
“การสะสมเทคนิคฝึกฝนพลังงานเป็นอย่างไรบ้าง?”
“นายท่านฮึ่ม…ผมได้คัดกรองตัวเลือกที่มีค่าสำหรับท่านแล้ว โปรดตรวจสอบ…”
รายชื่อปรากฏตรงหน้าเขาทั้งหมดนี้คือเทคนิคฝึกฝนพลังงานที่สามารถหาซื้อได้ในตลาดกาแล็กซี่ต่างๆ พวกมันมาจากอารยธรรมและเผ่าพันธุ์ต่างๆ
เขากวาดตามองอย่างรวดเร็วและตัดสินใจ
“ซื้อให้หมด”